Share

บทที่ 2

Author: เจว๋เหริน
last update Last Updated: 2021-07-08 19:00:01
“แกใส่ร้ายฉัน คุณย่าไม่ได้ดื่มชามาสองปีแล้ว ฉันจะประสงค์ร้ายกับท่านได้ยังไง” ซูไห่เฉากล่าวด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก ท่าทีรีบร้อนหาข้อแก้ตัว ยิ่งทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกว่าเขากำลังกินปูนร้อนท้อง

“อ่อ เป็นแบบนี้เองเหรอ” หานซานเฉียนพยักหน้ารับ และพูดด้วยความเข้าใจในทันทีว่า “นายรู้ว่าคุณย่าไม่ได้ดื่มชา จึงใช้โอกาสนี้ย้อมแมวท่าน โดยโกหกว่าชาผู่เอ๋อร์นี้ราคาแปดแสนแปดหมื่นหยวนสินะ”

แววตาของซูไห่เฉาสั่นไหวผิดปกติ เพราะหานซานเฉียนพูดถูกต้องทุกอย่าง แท้จริงแล้วเขาย้อมแมว และอยากให้เป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัวของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คุณย่าไม่ได้ดื่มชาแล้ว ดังนั้นท่านจึงไม่น่าที่จะดูออก

ซูไห่เฉาไม่คิดเลยว่าการที่ตัวเองโอ้อวดต่อหน้าหานซานเฉียนเพื่อให้ญาติ ๆ หัวเราะเยาะเขา แต่กลับถูกหานซานเฉียนเปิดโปงคำโกหกของเขา!

“สิ่งที่นายพูดมันไร้สาระ มันเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา คนอย่างนายรู้จักชาชั้นดีด้วยเหรอ?” ซูไห่เฉาพูดอย่างใจเย็น

เมื่อบรรดาญาติ ๆ ที่สงสัยซูไห่เฉาได้ยินประโยคนี้ ก็คิดว่าเกือบถูกหานซานเฉียนหลอกเข้าให้แล้ว

คนกระจอกอย่างเขาจะรู้จักสินค้าระดับสูงเหล่านี้ได้อย่างไร?

“หานซานเฉียน ถ้านายไม่รู้อะไรก็หุบปากซะ อย่าใส่ร้ายไห่เฉา”

“ใช่ ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย ทำอย่างกับตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ นายรู้เหรอว่าอะไรดีอะไรไม่ดี?”

“นายแยกความแตกต่างได้แค่ระหว่างเกลือกับผงชูรสเท่านั้นแหละ เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นพ่อครัวต้องรู้ยังไงล่ะ”

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เสียงดังก้องเป็นพิเศษ

หานซานเฉียนไม่ได้โต้เถียงออกไป เมื่อตอนที่เขาอยู่ในตระกูลหาน เขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านการชงชา และนักสะสมชาท่านหนึ่ง ดังนั้นเรื่องของชา ไม่มีใครที่มาร่วมงานนี้จะรู้จักชาได้ดีกว่าเขาแน่นอน

แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะต้องอธิบาย มันเหมือนเขาพูดกับภูเขา เพราะถึงอย่างไรคนเหล่านี้ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

“ช่างคึกครื้นอะไรเช่นนี้” ทันใดนั้นน้ำเสียงของหญิงชราก็ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของคุณย่าของตระกูลซู

บรรดาญาติทุกคนลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพ

ตั้งแต่คุณปู่ของตระกูลซูเสียชีวิตไป หญิงชราของตระกูลซูก็เป็นผู้กุมอำนาจ ตำแหน่งของเธอเปรียบเหมือนจักรพรรดินี ทุกเรื่องของตระกูลซู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่จะต้องผ่านการตัดสินใจของเธอ ที่ทุกคนในตระกูลซูมีวันนี้ได้ ก็เพราะพวกเขาทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของหญิงชราของตระกูลซู

บางคนหวังให้หญิงชราของตระกูลซูรีบตายไป เพื่อที่จะได้แบ่งปันอำนาจกัน แต่หญิงชราของตระกูลซูนั้นมีร่างกายที่แข็งแรง และอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคนเหล่านั้นได้ในเร็ว ๆ นี้

“คุณย่าคะ ซูไห่เฉามอบชาผู่เอ๋อร์แก่ท่าน คุณย่าลองดูหน่อยสิคะว่าเป็นของจริงหรือเปล่า” ซูหยิงเซี่ยเหลือบตามองไปที่หานซานเฉียน โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเชื่อในคำพูดของหานซานเฉียน และยังหวังว่าเขาจะสามารถเปิดโปงเรื่องหลอกลวงนี้ได้

เมื่อซูไห่เฉาได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก

คนอื่นอาจดูไม่ออกว่าชานี้จริงหรือไม่ แต่คุณย่าดื่มชามาหลายสิบปีแล้ว ท่านสามารถแยกได้อย่างแน่นอน หากให้ท่านเป็นคนพิสูจน์ ก็เท่าก็ยื่นคอไปใส่เครื่องตัดหัวไม่ใช่เหรอ?

“จริงเหรอ? เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ” หญิงชราของตระกูลซูพูด

ซูไห่เฉาหน้าดูสลดลงราวกับว่าเขาอยู่บนลานประหาร พลางยื่นกระปุกชาให้หญิงชรา

ซูหยิงเซี่ยอยากให้หานซานเฉียนได้เครดิต จึงรีบพูดขึ้นว่า “ซานเฉียนดูชานี้ออกค่ะ”

หญิงชราของตระกูลซูแสดงสีหน้าไม่พอใจ ทันใดนั้นหัวใจของซูไห่เฉาก็เต้นเป็นกลองรัว และสีหน้าพ่อแม่ของเขาก็เริ่มซีดเผือดเช่นกัน ถ้าหากชานี้เป็นของปลอม หญิงชราจะต้องไม่ชอบใจพวกเขาเป็นแน่ และคาดว่าการแบ่งมรดกจะต้องลดลงอย่างแน่นอน

ซูหยิงเซี่ยเหลือบมองหานซานเฉียน และคิดว่าในที่สุดเขาก็ทำอะไรเพื่อครอบครัวบ้าง ถ้าคุณย่าชมเชยเขา ทัศนคติของทุกคนที่มีต่อเขาอาจจะดีขึ้นอีกหน่อย

แต่สิ่งที่หญิงชราของตระกูลซูพูดนั้นเหมือนเทน้ำที่เย็นเฉียบใส่ซูหยิงเซี่ย

“ชานี้เป็นของจริง ทำไมนายถึงใส่ร้ายไห่เฉา?” หญิงชราถามหานซานเฉียน และมองตรงไปที่เขา

หานซานเฉียนรู้สึกมึนงง เห็นได้ชัดว่าชาผู่เอ๋อร์นี้เป็นของปลอม เขารู้ว่าหญิงชราท่านนี้รู้จักชาเป็นอย่างดี ท่านแยกไม่ออกได้อย่างไร

ซูไห่เฉาก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน หรือว่าคุณย่าแก่เกินไปจนสายตาฝ้าฟาง?

“คุณย่าครับ ลองดูให้ละเอียดกว่านี้อีกครั้งนะครับ ชานี้...”

หานซานเฉียนยังคงต้องการอธิบาย แต่หญิงชราพูดขัดเขาทันทีว่า “นายหมายความว่าฉันแก่แล้วสายตาไม่ค่อยดี จนไม่สามารถแยกแยะของปลอมกับของจริงได้เหรอ? ฉันบอกว่ามันคือของจริง มันก็คือของจริง”

“หานซานเฉียน คุณย่าพูดถูก นายยังพูดไร้สาระอยู่อีก”

“แม่ครับ อย่าโกรธไปเลยครับ หานซานเฉียนเป็นคนที่ไม่รู้อะไร เขาก็แค่แกล้งทำเป็นเชี่ยวชาญต่อหน้าทุกคน มันเป็นเรื่องไร้สาระเท่านั้น”

“หานซานเฉียน นายยังไม่รีบขอโทษไห่เฉาอีก”

หานซานเฉียนมองไปยังหญิงชราก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น

ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ แต่ท่านไม่ต้องการทำให้หลานชายของท่านอับอายต่อหน้าทุกคนก็เท่านั้น

มันคงเป็นเพราะเขาคือคนนอก เป็นแค่คนต่ำต้อยในสายตาของท่าน และท่านจะทำให้ไห่เฉาขายหน้าเพราะเขาได้อย่างไร

เพี้ยะ!

เสียงตบดังกึกก้องไปทั่วห้อง

ซูหยิงเซี่ยมองไปที่หานซานเฉียนและกัดฟันพูดว่า “ฉันไม่น่าคาดหวังกับคนแบบนายเลย”

หานซานเฉียนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วใบหน้า เพราะเล็บที่ยาวของซูหยิงเซี่ย ทำให้ใบหน้าของเขามีเลือดออกเป็นทางยาว

หานซานเฉียนกำหมัดแน่น แต่เมื่อมองเห็นดวงตาของซูหยิงเซี่ยที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขาก็คลายมันออก

ที่เธอได้รับความเดือดร้อนมันก็เป็นเพราะเขาเองไม่ใช่เหรอ? แล้วเขามีสิทธิ์อะไรไปโกรธเธอ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาต้องทนกับความอับอายขายขี้หน้า และความอัปยศอดสูมากมาย ซูหยิงเซี่ยเองก็เช่นเดียวกันไม่ใช่เหรอ?

มันเป็นความลำบากสำหรับเขา แต่สำหรับซูหยิงเซี่ยมันคงเป็นเหมือนหายนะจากสวรรค์

“ขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง” หานซานเฉียเอ่ย

ซูหยิงเซี่ยรู้สึกเสียหน้าเพราะหานซานเฉียน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดมากเกินไป สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น และเธอคงไม่ต้องรู้สึกอับอายขนาดนี้

“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคำนั้นกับฉัน ไปขอโทษไห่เฉาซะ” ซูหยิงเซี่ยตอบ

หานซานเฉียนหายใจเข้าลึก และเดินไปหาซูไห่เฉา จากนั้นเขาก้มหัวลงแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษ”

ซูไห่เฉายิ้มและกระซิบข้างหูของหานซานเฉียนว่า “นายคิดว่าคุณย่าดูไม่ออกเหรอ? แต่ฉันเป็นหลานชายของท่าน ไม่เหมือนกับนายที่เป็นเพียงแค่ลูกเขยที่ไร้ค่า แม้ว่ามันจะเป็นของปลอม แต่ท่านก็ช่วยฉันอยู่ดี”

น้ำเสียงภาคภูมิใจของซูไห่เฉานั้นรุนแรงกระทบจิตใจของหานซานเฉียนอย่างมาก หญิงชราก็เปลี่ยนดำเป็นขาว ในเมื่อท่านบอกว่าชาผู่เอ๋อร์นั้นเป็นของจริง หานซานเฉียนจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้สถานะของหานซานเฉียนในตระกูลซูยิ่งตกต่ำลงกว่าเดิม เพราะในสายตาของทุกคน เขาเป็นเหมือนคนต่ำต้อยไร้ค่าจนถึงขีดต่ำสุดอยู่แล้ว

สำหรับซูหยิงเซี่ย เรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่เธอจะยอมรับ แต่สิ่งที่เธอรับไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่หานซานเฉียนทำให้เธอรู้สึกอับอาย

เมื่อซูหยิงเซี่ยใจเย็นลง เธอก็พบปัญหาหนึ่ง ชาจะเป็นของจริงหรือของปลอมนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญคือหญิงชราไม่สนใจที่หานซานเฉียนพูด ซึ่งหมายความว่า ต่อให้หานซานเฉียนจะรู้ว่าชานี้เป็นของปลอม แต่คุณย่าก็จะปกป้องซูไห่เฉาอยู่ดี

เมื่อใกล้ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ซูหยิงเซี่ยเดินไปหาหานซานเฉียนและพูดกับเขาว่า

“ฉันติดหนี้นายหนึ่งครั้ง นายเอาคืนได้ทุกเมื่อที่นายต้องการ”

“คุณจะให้ผมตบคุณกลับอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนเอ่ยพลางยิ้มอย่างขมขื่น

“ฉันไม่ต้องการติดหนี้อะไรนาย นายก็รู้ว่าถึงยังไงเราก็ต้องหย่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเร็วจะช้าเท่านั้น” ซูหยิงเซี่ยกล่าว

หานซานเฉียนมองตามหลังของซูหยิงเซี่ยที่กำลังเดินเข้าไปในห้องอาหาร ทันใดนั้นเขาก็พูดออกไป โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวว่าเขาไปเอาความกล้าหาญมาจากไหนว่า “คุณอยากให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไหม? ในโลกนี้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะเปลี่ยนผมได้”

ซูหยิงเซี่ยหันมายิ้มและหัวเราะเยาะ

“อย่าลืมว่าตัวตนของนายเป็นใครในตระกูลซู นายจะไม่มีวันทำได้ ยิ่งไปกว่านั้น นายเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์”

ในช่วงอาหารกลางวัน ที่นั่งจัดตามลำดับความสำคัญของแต่ละครอบครัว

ตัวตนของหานซานเฉียนในฐานะลูกเขยที่ไม่ถูกยอมรับ เขาจึงถูกจัดให้นั่งโต๊ะที่เล็กที่สุด ซึ่งห่างจากหญิงชราตระกูลซูมากที่สุด และคนที่นั่งโต๊ะเดียวกับหานซานเฉียนล้วนแต่เป็นคนรับใช้ และคนทำความสะอาดของตระกูลซู

ขณะรับประทานอาหาร จู่ ๆ ก็มีคนวิ่งเข้ามาในห้องอาหารด้วยความตื่นตระหนก

“คุณย่า มีคนนำของขวัญมาให้ครับ” บุคคลนั้นพูดกับหญิงชราของตระกูลซู

วันเกิดของหญิงชราของตระกูลซู ไม่มีการเชิญบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมงาน ซึ่งเป็นแบบนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลซูเป็นตระกูลอันดับสองในหยุนเฉิง ไม่น่าจะมีใครต้องมาเอาอกเอาใจพวกเขา

“ใคร?” หญิงชราของตระกูลซูถาม

“เห็นบอกว่ามาจากตระกูลหานครับ ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน เพราะไม่เคยเจอเขามาก่อน” ชายคนนั้นพูด

ตระกูลหาน?

ในนี้มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่มีนามสกุลหาน และมีเพียงซูหยิงเซี่ยที่เหลือบมองไปที่หานซานเฉียน ส่วนคนอื่น ๆ ไม่มีใครคิดว่านามสกุลหานกับหานซานเฉียนจะมีความเกี่ยวข้องกัน
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ONE ALL-in-ONE
สนุกลึกลับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 3

    “เมื่อหงส์เหินถวิลหา หวีทองคำด้ามหนึ่ง"“หงส์เหินถึง ปิ่นทองคำหนึ่งด้าม"“ประคำหยกมงคลสุขให้โชคหนึ่งเส้น"“กำไรทองคล้องคู่มังกรหงส์หนึ่งคู่"“ถ้วยชามตะเกียบคู่ชุดหนึ่ง คะนึงถึงสัมพันธ์คู่รักเอย" ...เมื่อฟังรายการของขวัญ ผู้คนในตระกูลซูต่างมองหน้ากัน มันจะเป็นของขวัญสำหรับหญิงชราของตระกูลซูได้อย่างไร นี่มันของขวัญสำหรับเจ้าสาวชัด ๆ!“ของขวัญเงินสดมูลค่า แปดร้อยแปดสิบแปดล้านหยวน”ทุกคนในตระกูลซูต่างตกตะลึงเมื่อธนบัตรร้อยหยวนสีแดงสดถูกนำมาวางไว้อยู่ตรงหน้าพวกเขา คนในตระกูลซูทั้งห้องอาหารต่างก็พากันเงียบกริบ ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจแผ่วเบา แปดร้อยแปดสิบแปดล้านหยวนสำหรับตระกูลอันดับสองอย่างตระกูลซู ของขวัญเช่นนี้มีมูลค่ามหาศาลนักหญิงชราของตระกูลซูลุกขึ้นยืน โดยใช้ไม้ค้ำพร้อมกับเดินเข้าไปหาผู้ที่มาส่งของขวัญ และถามด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นใครกัน แล้วคุณชอบลูกสาวคนไหนของตระกูลซู”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าสาวโสดในตระกูลซูที่ยังไม่แต่งงาน ต่างพากันตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร แต่ในเมื่อเขาสามารถมอบสินสอดทองหมั้นที่น่าต

    Last Updated : 2021-07-08
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 4

    ณ โรงแรมเพนนินซูล่า ห้องของประธานาธิบดีที่นั่งฝั่งตรงข้ามของหานซานเฉียนคือหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งหน้าอย่างวิจิตรงดงาม สวมชุดที่มีสีทองสลับเงิน และมีท่วงท่าที่สง่างาม“ซานเฉียน ในที่สุดลูกก็มาหาแม่สักที แม่มีความสุขมากเหลือเกิน” ผู้หญิงคนนี้ชื่อฉือจิง เธอเป็นแม่ของหานซานเฉียนเมื่อเผชิญหน้ากับมารดาผู้ให้กำเนิด ที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาสามปี หานซานเฉียนกลับไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไร และเขาแทบจะไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำไป“ใครจะไปคิดว่าลูกชายคนสุดท้องของตระกูลหานที่ถูกทอดทิ้งอย่างผม วันนึงเกิดมีประโยชน์ขึ้นมา? ผมไม่เคยคิดมาก่อน คุณเองก็คงจะคิดเหมือนกัน” หานซานเฉียนยกมุมปากขึ้นเบา ๆ“ซานเฉียน แม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วมันไม่ยุติธรรมกับลูก แต่มันเป็นการตัดสินใจของคุณย่า และแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย” ฉือจิงกล่าวขึ้นอย่างไม่สบายใจหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า “สามปี? ในสายตาของคุณ ความอยุติธรรมเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วเองงั้นเหรอ?”“สิบสามปีที่แล้ว เขาอายุสิบสองขวบ มีเพียงแค่ชื่อเขาอยู่บนเค้กวันเกิดเท่านั้น ทุกคนคงคิดว่าเขามีความสุข แต่ทุกคนคงลืมไปว่าผมอายุน้อยกว่าเขาแค่ห้านาทีเท่านั้น

    Last Updated : 2021-07-08
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 5

    “เถ้าแก่ ขอบุหรี่หน่อยครับ”“นายนี่ตรงเวลาทุกวันเลยนะ”ณ ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามของบริษัทซู เจ้าของร้านมองไปที่หานซานเฉียนพร้อมกับถอนหายใจวันหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้ว ชายหนุ่มผู้นี้จะมาที่นี่อย่างตรงต่อเวลาเสมอ นี่ก็เป็นเวลาสามปีแล้ว ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก ตอนแรกเถ้าแก่ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ค่อย ๆ สังเกตได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ซูหยิงเซี่ยออกมาจากบริษัท ชายหนุ่มคนนี้ก็จะตามออกมาด้วยสําหรับตัวตนของหานซานเชียน เถ้าแก่พอจะเดาได้คร่าว ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกแน่ชัดว่าตระกูลมีปมที่ยากจะอ่านออกได้ ลูกเขยของตระกูลซูคนนี้ได้รับการปฏิบัติราวกับขยะจากคนทั้งหยุนเฉิง บางทีเขาอาจไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็ได้“ผมไม่มีอะไรทำอยู่แล้วครับ” หานซานเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้มเถ้าแก่เป็นชายวัยกลางคน เขาชื่นชมความพากเพียรของหานซานเฉียนมาก เวลาผ่านมาสามปีแล้วที่เขามาที่นี่ในเวลาสี่โมงครึ่งตรงเวลาทุกวัน และคอยปกป้องซูหยิงเซี่ยอยู่อย่างเงียบ ๆ เสมอ“เมื่อไหร่นายถึงจะไปรับเธอหลังเลิกงานล่ะ? เอาแต่มองแบบนี้ทุกวัน มันไม่มีประโยชน์หรอกนะ” ในร้านไม่มีลูกค้า เถ้าแก่จึงได้พูดกับหานซานเฉียนหานซานเฉียนมองไ

    Last Updated : 2021-07-09
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 6

    วันรุ่งขึ้น ซูไห่เฉานั่งอยู่ในสำนักงาน ทันทีที่รับสาย ๆ หนึ่ง เขาก็หัวเราะจนน้ำตาไหลเพื่อนร่วมงานในตระกูลซูอีกสองสามคนมองดูซูไห่เฉาที่กำลังหัวเราะอย่างงุนงง“ไห่เฉาเกิดอะไรขึ้น นายตลกอะไรนักหนา?”“หยุดหัวเราะ แล้วบอกเราเร็ว ๆ สิ” “คงไม่ใช่เพราะซูหยิงเซี่ยหนีไปแล้วใช่ไหม?”ซูไห่เฉาจับท้องของเขาและพูดว่า “ฉันหัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว ซูหยิงเซี่ยนี่โง่จริง ๆ”“เกิดอะไรขึ้น รีบบอกมาเร็วเข้า” ญาติของตระกูลซูหลายคนกระวนกระวายราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟ“ผู้หญิงบ้าคนนี้ให้หานซานเฉียนขับรถยนต์ไฟฟ้าพาเธอไปยังบริษัทลั่วเฉวน่ะสิ เธอเสียสติไปแล้วสินะ” ซูไห่เฉาพูดเมื่อได้ยินประโยคนี้ เสียงหัวเราะมากมายก็ดังขึ้นในสำนักงาน ไม่มีใครหยุดหัวเราะได้เลย ทุกคนต่างหัวเราะกันดังลั่น“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เธอจะไปเจรจาเรื่องความร่วมมือในสภาพแบบนี้ บริษัทลั่วเฉวคงจะยอมเจรจากับเธออยู่หรอกนะ?”“ฉันว่าเธอคงยอมแพ้แล้วล่ะ แต่ก็นะ พวกเรายังขอเจรจาไม่ได้เลย แล้วเธอจะทำได้ยังไง”“ไห่เฉา วิธีนี้ของนายใช้ได้เลยนะ ครั้งนี้ซูหยิงเซี่ยไม่รอดแน่ เธอจะถูกไล่ออกจากตระกูลซู เมื่อถึงเวลาแบ่งทรัพย์สมบัติ เธอก็จะไม่ได้อะไรเลย”

    Last Updated : 2021-07-09
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 7

    เมื่อการเซ็นสัญญาเสร็จสิ้น ซูหยิงเซี่ยเดินออกมาจากบริษัทลั่วเฉวราวกับว่าวิญญาณออกจากเธอไปแล้ว ชายที่สอดแนมในระยะไกลเห็นฉากนี้จึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรรายงานกับซูไห่เฉาทันทีหลังจากที่ซูไห่เฉาได้รับข่าว เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก เขาวางแผนจัดประชุมภายในขึ้นทันที และในระหว่างนั้นเขาจะไล่ซูหยิงเซี่ยออกจากตระกูลซู"เป็นไงบ้าง?" หานซานเฉียนเดินดิ่งเข้าไปหาซูหยิงเซี่ย เมื่อเห็นท่าทางที่สิ้นหวังของเธอ ในใจจึงคิดว่าจงเหลียงให้การต้อนรับบกพร่องหรือ? “เซ็นสัญญาแล้ว” ซูหยิงเซี่ยมองไปที่หานซานเฉียน และกล่าวด้วยน้ำเสียงทึมทื่อหานซานเฉียนยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อได้เซ็นสัญญาแล้ว ทำไมคุณถึงดูสิ้นหวังแบบนี้ล่ะ”ซูหยิงเซี่ยไม่ได้รู้สึกสิ้นหวัง แต่เธอรู้สึกเหมือนเธอฝันไปขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของซูหยิงเซี่ยก็ดังขึ้น และหลังจากเห็นชื่อซูไห่เฉา เธอพูดขึ้นอย่างหมดคำจะพูดว่า“ซูไห่เฉานี่รอไม่ไหวเลยเหรอ”“แต่คราวนี้เขาต้องผิดหวังแน่” หานซานเฉียนกล่าว“ทั้งหมดนี้คือคุณงามความดีของคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ บ้านของเราต้องจบเห่แน่” ซูหยิงเซี่ยมองไปที่หานซานเฉียนอย่างซาบซึ้งใจ“อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้นอกจากคุณนะ”

    Last Updated : 2021-07-09
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 8

    ในที่สุดหญิงชราก็มองมาที่ซูหยิงเซี่ย และขอให้ผู้ช่วยนำแว่นของเธอมาให้เพื่ออ่านสัญญาทั้งหมดญาติ ๆ ต่างพากันยืดคอเพื่อต้องการอ่านเนื้อหาของสัญญา เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าซูหยิงเซี่ยจะสามารถเจรจาขอเป็นหุ้นส่วนได้จริง เพราะพวกเขาทุกคนไม่เคยเห็นแม้แต่เจ้าของบริษัทลั่วเฉว แล้วทำไมซูหยิงเซี่ยถึงทำได้?เธอมีฐานะที่ต่ำต้อยที่สุดในตระกูลซู และไม่เคยเป็นที่น่าพอใจเลย ไม่มีใครปฏิบัติกับซูหยิงเซี่ยเหมือนเป็นญาติพี่น้อง แต่ถ้าครั้งนี้เธอขอเจรจาเป็นหุ้นส่วนได้สำเร็จ แล้วถ้าหญิงชราเห็นคุณค่าของเธอขึ้นมาจะทำอย่างไร?ในบรรดาญาติ ๆ ของพวกเขา ซูไห่เฉาเป็นคนที่ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุด เพราะถ้าหากซูหยิงเซี่ยขอเจรจาเป็นหุ้นส่วนได้สำเร็จ นั่นหมายความว่าในอนาคตเขาจะต้องยกน้ำชาให้แก่ซูหยิงเซี่ย และเขาต้องเรียกเธอว่าพี่เซี่ย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก“ซูหยิงเซี่ย เธออาจจะร่างสัญญาขึ้นมาเองก็ได้ ใครจะไปเชื่อเธอ ฉันคิดว่าเธอคงจะไม่เคยเจอเจ้าของบริษัทลั่วเฉวด้วยซ้ำ” ซูไห่เฉาพูดอย่างประชดประชัน“ใช่ ฉันไม่ได้เจอเจ้าของบริษัทลั่วเฉวจริง ๆ นั่นแหละ” เพราะคุณจงเหลียง ผู้ดูแลโครงการเฉิงซีบอกเธอว่าเจ้าของบริษัทยุ่ง

    Last Updated : 2021-07-09
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 9

    บรรดาญาติ ๆ ของตระกูลซูหลายคนลุกขึ้นยืนพูดแทนซูไห่เฉา เมื่อเห็นคนเหล่านั้นเข้าข้างและปกป้องเขา ซูหยิงเซี่ยก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ พวกเขาช่างไร้ยางอายจริง ๆ ซูไห่เฉาเป็นคนให้สัญญาเองแท้ ๆ แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความผิดของเธอซะงั้นหากเจรจาขอเป็นหุ้นส่วนไม่สำเร็จ หากซูไห่เฉาจะไล่เธอออกจากตระกูลซู แล้วคนเหล่านี้จะลุกขึ้นมาโต้แย้งช่วยเธอไหม?“ในเมื่อกล้าเดิมพันก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ให้ได้” หญิงชราพูดเมื่อบรรดาญาติ ๆ ที่ต่อสู้เพื่อความอยุติธรรมของซูไห่เฉา เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็รู้สึกเหมือนมะเขือที่ถูกทุบ พวกเขาไม่กล้าพูดไร้สาระอะไรอีกซูไห่เฉาแสดงสีหน้าบูดบึ้งราวกับว่าเขากินอุจจาระเข้าไป แม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกไม่พอใจเป็นหมื่นพันเท่า แต่ในเมื่อคุณย่าพูดออกมาแบบนั้นแล้ว เขาจะไม่ยอมได้อย่างไรซูไห่เฉายกถ้วยน้ำชามาให้ซูหยิงเซี่ยดื่ม และตะโกนอย่างไม่เต็มใจว่า “พี่เซี่ย”เมื่อเขาก้มหัวลง ดวงตาของซูไห่เฉาก็ฉายแววน่ากลัว และคิดในใจว่า ครั้งนี้เธอคงรู้สึกภูมิใจในตัวเอง แต่อย่าคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีในอนาคตได้ ฉันเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในบริษัท ถ้าฉันอยากจะฆ่าเธอให้ตาย มันยังมีอีกหลายวิธีที่

    Last Updated : 2021-07-10
  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 10

    “คุณย่าครับ คุณย่าจะให้ซูหยิงเซี่ยรับผิดชอบเรื่องนี้จริงเหรอครับ?” ซูไห่เฉาพูดกับคุณย่าของเขาในห้องนั่งเล่นที่บ้านพักของตระกูลซูหญิงชรายิ้มรับและตอบว่า “สัญญานี้หยิงเซี่ยเป็นคนเจรจามาได้ ฉันมอบหมายให้เธอเป็นคนรับผิดชอบแล้วมันผิดตรงไหน?”“แม่ครับ แม่ลองคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบนะครับ ซูหยิงเซี่ยเป็นผู้หญิง ถ้าเธอสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทเราได้ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักสำหรับซูไห่เฉานะครับ” ซูกั๋วหลินกล่าวหญิงชราของตระกูลซูมองทั้งสองอย่างไม่พอใจและกล่าวว่า “ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดมา อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน”“คุณย่าครับ ถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะเข้ามาเป็นภาระในตระกูลเรา แต่เขาก็เป็นคนละนามสกุลกับเรา ตลอดสามปีที่ผ่านมา เจ้าคนต่ำต้อยนี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ถ้าบริษัทต้องไปอยู่ในความดูแลของซูหยิงเซี่ย คุณย่าไม่กลัวว่าทรัพย์สินของตระกูลซูของเราจะตกไปอยู่ในมือของคนนามสกุลคนอื่นเหรอครับ” ซูไห่เฉากล่าว“หยิงเซี่ยกับเจ้าคนต่ำต้อยนี้ไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์อะไรกัน ถ้าไม่ใช่เพราะภาพลักษณ์ของตระกูลซู ฉันคงจะให้พวกเขาหย่ากันไปนานแล้ว เหตุการณ์ที่พวกแกกังวลไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น” หญิงชรากล่าวซูไห่เฉากัดฟันและพูดต่

    Last Updated : 2021-07-10

Latest chapter

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1455

    เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1454

    “เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1453

    เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1452

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1451

    “เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1450

    ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1449

    ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1448

    หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด

  • ลูกเขยฟ้าประทาน   บทที่ 1447

    “ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ

DMCA.com Protection Status