จริงด้วย เขาจะเข้าห้องน้ำอย่างไร ในเมื่อมือของเขาใช้งานไม่ได้ แล้วเขาจะถอดกางเกงอย่างไร เจ้านี่คงไม่ต้องกลั้นฉี่จนตายหรอกนะเมื่อเดินไปถึงที่กั้น เขาก็พยายามลองถอดกางเกง ทันใดนั้นหานซานเฉียนรู้สึกตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกันเนี่ย มือนี้ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเมื่อเดินออกจากห้องน้ำอย่างทำอะไรไม่ถูก หานซานเฉียนก็พบกับซูหยิงเซี่ยที่ยืนอยู่หน้าประตู ช่างน่าอับอายจริง ๆ “คุณ...เข้าห้องน้ำแล้วใช่ไหม?” ซูหยิงเซี่ยไม่กล้ามองหานซานเฉียนตรง ๆ ได้แต่มองพื้นและถามออกมา“ก็...หึ ๆ จะเข้าหรือไม่เข้าก็ไม่เป็นไรหรอก ผมยังไงไม่รีบ” หานซานเฉียนพูดด้วยความอับอายซูหยิงเซี่ยก้าวไปข้างหน้า เธอดึงมุมเสื้อของหานซานเฉียนพร้อมกับเดินไปที่ประตูห้องน้ำผู้หญิงแล้วพูดว่า “คุณรอแปปนึง”ซูหยิงเซี่ยเดินเข้าไปดูในห้องน้ำก่อน หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีใคร จึงเดินไปที่ประตูและพูดกับหานซานเฉียนว่า “ไม่มีคนอยู่คุณรีบเข้ามาสิ”“มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้งครับ!” หานซานเฉียนยิ้มเจื่อน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเข้าห้องน้ำผู้หญิงเลยสักครั้ง ซูหยิงเซี่ยวางป้ายทำความสะอาดที่หน้าประตูและพูดว่
ม่อหยางผู้เด็ดเดี่ยวดึงหานซานเฉียนเข้าไปในธนาคารทันที หานซานเฉียนก็มีรู้สึกสนุกสุด ๆ เขาโอนเงินสองร้อยล้านหยวนอย่างไม่สงสัยเมื่อเห็นม่อหยางบีบบัตรเอทีเอ็มในมือแน่น และมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ หานซานเฉียนก็รู้สึกพูดไม่ออกเขาเคยเป็นถึงพี่ใหญ่แห่งเมืองหยุนเฉิง ทำไมดูเหมือนคนที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างไปได้“ม่อหยาง ฉันสงสัยว่าเมื่อก่อนนายมีชื่อเสียงจอมปลอมรึเปล่า ถึงได้มีความสุขกับเงินเล็กน้อยแค่นี้?” หานซานเฉียนเอ่ยม่อหยางส่งเสียงจิ๊ปากออกมา และพูดสบประมาทว่า “เศรษฐีแบบนายจะรู้ถึงความทุกข์ทรมานของชาวบ้านได้ยังไง นายรู้ไหมว่ามีกี่คนที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยเห็นเงินสองร้อยล้านหยวน ถ้านายไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นก็คงไม่เข้าใจหรอก”ม่อหยางพูดอย่างมีเหตุผล จนหานซานเฉียนไม่สามารถโต้แย้งได้“อ้อใช่ ฉันได้ยินมาว่าเย่เฟยส่งคนมาสืบนาย ช่วงนี้นายก็อยู่อย่างเงียบ ๆ หน่อยแล้วกัน เพราะคนอย่างเย่เฟย ถ้าหากโดนเขาตามหาจนเจอแล้วนายไม่ยอมช่วยงานเขา ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะฆ่านายอย่างแน่นอน” ม่อหยางพูดเตือนออกมา“ไม่ต้องห่วงหรอก เขาสืบไม่ถึงตัวฉันแน่” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา“ทำไม
หลังเลิกงานซูหยิงเซี่ยขับรถพาหานซานเฉียนไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูวันนี้หญิงชรานั่งรออยู่ห้องรับแขกเป็นเวลานานแล้ว โดยไม่มีการสร้างภาพโอ้อวดอย่างเช่นเมื่อก่อนหลังจากที่บรรดาญาติ ๆ ตระกูลซูรวมตัวกันครบแล้วหญิงชราก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้บริษัทเราต้องรับมือกับโครงการเฉิงซี ทำให้บัญชีการเงินนั้นว่างเปล่าแล้ว วันนี้ที่ฉันเรียกทุกคนมาที่นี่ก็เพื่อให้พวกเธอช่วยกันวางแผนว่าตระกูลซูจะทำยังไงต่อ”เมื่อพูดเกี่ยวกับเรื่องเงิน ญาติ ๆ ตระกูลซูต่างพากันเงียบกริบ สำหรับพวกเขาที่หาแต่ผลประโยชน์ในบริษัทนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควักเงินในกระเป๋าของตัวเองออกมาให้บริษัท“คุณย่าครับ ถ้าจะรับมือกับโครงการเฉิงซี คงต้องกู้เงินกับธนาคารเท่านั้นครับ” ซูไห่เฉาพูดขึ้นมาหญิงชราส่ายหัวและพูดว่า “ฉันลองไปคุยกับทางธนาคารแล้ว แต่ว่าไม่มีธนาคารไหนยินดีให้เรากู้เงินเลย ฉันสงสัยว่ามีคนคอยขัดขวางเราอยู่”โครงการเฉิงซีคือเนื้อติดมันชิ้นใหญ่ ในเมืองหยุนเฉิงนั้นมีอีกหลายตระกูลที่มีคุณสมบัติดีพอที่จะร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวมากกว่าตระกูลซู จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีใครบางคนจงใจขัดขวาง การแข่งขันทางธุรกิจมีคนคู
เมื่อทุกคนต่างพากันจ้องไปที่ซูหยิงเซี่ย เธอก็รู้สึกโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ ทันใดนั้นเองหานซานเฉียนได้กระซิบที่ข้างหูของเธอซูหยิงเซี่ยมองหานซานเฉียนด้วยความตกใจและส่ายหน้าทันที ตอนนี้ทุกคนต่างโยนความรับผิดชอบมาให้เธอ ถ้าเธอไม่รีบโต้แย้ง ก็เท่ากับเปิดโอกาสพวกเขาไม่ใช่หรือไง?หานซานเฉียนยิ้มพร้อมพยักหน้าและพูดว่า “เชื่อผมสิ”ซูหยิงเซี่ยตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ทุกครั้งที่หานซานเฉียนพูดสามคำนี้ เธอเลือกที่จะเชื่ออย่างไม่ลังเล และมันก็ได้เปลี่ยนเป็นการพึ่งพาเขาไปแล้ว“คุณย่าคะ หนูสามารถคิดวิธีที่จะทำให้ธนาคารยอมให้เรากู้เงินได้ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ ซูไห่เฉาก็ยิ้มเยาะ แม้แต่หญิงชราก็ยังหาที่กู้เงินไม่ได้ แล้วซูหยิงเซี่ยจะทำได้อย่างไร“เธออย่าพูดไม่คิด คุณย่ายังทำไม่ได้ แล้วเธอจะทำได้ยังไงกัน?” ซูไห่เฉากล่าว“ไห่เฉา ในเมื่อเธอต้องการโม้ งั้นก็ปล่อยให้เธอโม้ต่อเถอะ แต่พวกเราต้องตกลงกันก่อนว่าถ้าเธอทำไม่สำเร็จแล้วจะทำยังไง?”“ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันจะขายคฤหาสน์ใจกลางภูเขาโดยไม่บ่นเลยสักคำ แต่ว่าถ้าฉันทำได้ ฉันก็มีเงื่อนไขอยู่หนึ่งอย่าง” ซูหยิงเซี่ยกล่าว“เงื่อนไขอ
ทุกคนต่างพากันหันไปตามเสียงนั้น.และคาดไม่ถึงว่าจะเป็นหานซานเฉียนที่พูดออกมา“หานซานเฉียน ที่นี่มีสิทธิ์ให้แกพูดด้วยเหรอ? แกนี่พูดโอ้อวดเกินจริงไม่ดูสภาพอากาศเลยนะ ไม่กลัวถูกฟ้าผ่าเลยหรือไง?” ซูไห่เฉาพูดเยาะเย้ยไม่ใช่แค่บรรดาญาติของตระกูลซูที่ไม่เชื่อเท่านั้น หญิงชราเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เงินกู้จำนวนหนึ่งพันล้านหยวน ตระกูลซูจะมีสิทธิ์ได้รับเงินนั้นได้อย่างไร“หานซานเฉียน แกหุบปากซะ ที่นี่แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น” หญิงชราพูดอย่างไม่พอใจ เขาช่างอวดดี หยิ่งผยอง และพูดจาโอ้อวดเกินไปจริง ๆซูหยิงเซี่ยเหลือบมองหานซานเฉียนและพูดกับหญิงชราว่า “คุณย่าคะ เขาไม่ได้พูดเล่นค่ะ หนูสามารถกู้เงินได้หนึ่งพันล้านหยวน แต่เงื่อนไขก็คือสิทธิ์ในการควบคุมการเงินค่ะ”เมื่อหญิงชราเห็นว่าซูหยิงเซี่ยพูดจาเด็ดขาดเช่นนี้ ก็ทนไม่ได้ที่จะหายใจถี่ขึ้นมา ถ้าหากเงินกู้หนึ่งพันล้านหยวนมาอยู่ในมือ เธอก็ไม่ต้องกังวลกับสถานภาพทางการเงินของบริษัทอีกต่อไป“ถ้าเธอสามารถกู้เงินนั้นมาได้จริง ฉันก็ตกลง” หญิงชรากล่าวเมื่อได้ยินหญิงชราพูดดังนั้น ทั้งซูไห่เฉาและซูอี้หานต่างก็ไม่กล้าโต้แย้ง เพราะถ้าซูหยิงเซี่ยสามารถทำได้จ
“อะ...อะไรนะ! คุณพูดว่า...เท่าไหร่นะ” ตู้หงที่อยู่ปลายสายนั้นมีสีหน้าตกใจมาก จนรีบผลักหญิงสาวร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดออกไป“พี่ตู้ มากกว่าหมื่นล้านหยวนค่ะ” ผู้จัดการพูดย้ำอีกทีฮึ่ย!ตู้หงหายใจเข้าลึก ถึงแม้ว่าเขาจะรับปากกับบริษัทบางแห่งแล้วว่าจะไม่ให้ตระกูลซูกู้เงิน แถมยังได้รับผลประโยชน์บางอย่างมาแล้วด้วย แต่ว่าลูกค้าที่มีเงินฝากมากกว่าหมื่นล้านหยวนไม่ใช่คนที่เขาจะกล้ามีปัญหาด้วยได้ง่าย ๆหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตู้หงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงถามกลับไปว่า “คนรวยขนาดนั้น ทำไมถึงยอมค้ำประกันเงินกู้ให้ตระกูลซูล่ะ?”“พี่ตู้ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกว่าวันพรุ่งนี้เจอกัน ถ้าหากพี่ไม่ปรากฏตัว ฉันกังวลว่าเขาจะโอนทรัพย์สินไปที่อื่นจริง ๆ ค่ะ” ผู้จัดการพูดอย่างเป็นกังวลเรื่องนี้มีความร้ายแรงเพียงใดตู้หงรู้ดีแก่ใจ แม้ว่าเขาจะต้องคืนเงินใต้โต๊ะทั้งหมดที่ได้รับก่อนหน้านี้ เขาก็คงแค่ต้องแบกรับความเจ็บปวดและหลั่งเลือดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้ลูกน้องอย่างเขารับผิดชอบกับผลที่ตามมา แม้แต่ตำแหน่งของเขาในฐานะผู้อำนวยการธนาคารก็คงรับผิดชอบไม่ไหวอย่างแน่นอน
“ถ้าเธอต้องการ คฤหาสน์หลังนี้จะเขียนเพียงชื่อเธอก็ไม่มีปัญหา” หานซานเฉียนกล่าวเจี่ยงหลานไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะตอบรับเร็วขนาดนี้ คฤหาสน์สุดหรูมูลค่าแปดสิบกว่าล้านหยวนนั้น เขาไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่เปลืองน้ำลายเกลี้ยกล่อมเขา เธอยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ในเมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้ นายก็รีบหาเวลาไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซะ”“เจี่ยงหลาน ถ้าผมถูกคุณไล่ออกจากตระกูลซูจริง ๆ คุณจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลังแน่นอน” หานซานเฉียนกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา“โอ้” เจี่ยงหลานยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “เงินของแกคงใช้จนใกล้จะหมดแล้ว ยังจะอวดดีอยู่อีก”“คฤหาสน์แบบนี้ แม้จะให้ซื้ออีกสักสิบหลัง ผมก็ซื้อได้ในพริบตาเดียว”“ไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ วิธีการพูดโอ้อวดของแกนี่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ แม้ว่าแกจะมีเงินมากกว่านี้ ฉัน เจี่ยงหลานคนนี้ก็ยังรังเกียจแกอยู่วันยังค่ำ” เจี่ยงหลานพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม“จริงเหรอ? ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณจะไม่สนใจเงินของผมจริง ๆ เหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างเยาะเย้ย เจี่ยงหลานกลั่นแกล้งเขาทุกวิถีทาง ตอนนี้ยังคงอยากขับไล่เขาออกจากคฤหาสน์ เรื่องนี้เขารู้ดี และเข
“ถ้าหากผู้อำนวยการตู้ลำบากใจ งั้นฉันก็ไม่ถามแล้วค่ะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าวตู้หงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าหากว่าคุณผู้หญิงซูมีข้อสงสัยใด ๆ คุณสอบถามเพื่อนของคุณเองจะดีกว่าครับ เพราะผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรออกมาได้จริง ๆ ครับ”หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ตู้หงได้ให้สัญญาว่าจะปล่อยเงินกู้ให้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่ซูหยิงเซี่ยจะจากไป“ครั้งนี้คงมีหลายบริษัทที่ไม่พอใจฉันอย่างแน่นอน” ตู้หงสามารถคาดการณ์ได้ว่า ต่อไปเขาจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรจากบริษัทเหล่านั้น แต่มันก็ไม่มีทางเลือก เรื่องนี้เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย“พี่ตู้ พวกเรามีลูกค้ารายใหญ่แบบนี้อยู่ในมือ ในอนาคตถ้าตระกูลซูได้พัฒนาเติบโตขึ้นมานั้นมันคงไม่ธรรมดา พี่จะใส่ใจเจ้าพวกปลาเล็กปลาน้อยพวกนั้นทำไมกันคะ” ผู้จัดการสาวกล่าวตู้หงหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “นั่นก็จริง แต่คน ๆ นี้เขาคือใครกันแน่ เมืองหยุนเฉิงมีคนรวยขนาดนี้ด้วยเหรอ?”“พี่ตู้ เขาชื่อหานซานเฉียนค่ะ คุณลองไปสืบดูหน่อยไหมคะ?” พูดจัดการพูด“หานซานเฉียนงั้นเหรอ?” คิ้วของตู้หงค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน และทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “หานซานเฉียน ลูกเขยไร้ค่าที่มีชื่อเ