เมื่อทุกคนต่างพากันจ้องไปที่ซูหยิงเซี่ย เธอก็รู้สึกโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟ ทันใดนั้นเองหานซานเฉียนได้กระซิบที่ข้างหูของเธอซูหยิงเซี่ยมองหานซานเฉียนด้วยความตกใจและส่ายหน้าทันที ตอนนี้ทุกคนต่างโยนความรับผิดชอบมาให้เธอ ถ้าเธอไม่รีบโต้แย้ง ก็เท่ากับเปิดโอกาสพวกเขาไม่ใช่หรือไง?หานซานเฉียนยิ้มพร้อมพยักหน้าและพูดว่า “เชื่อผมสิ”ซูหยิงเซี่ยตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ทุกครั้งที่หานซานเฉียนพูดสามคำนี้ เธอเลือกที่จะเชื่ออย่างไม่ลังเล และมันก็ได้เปลี่ยนเป็นการพึ่งพาเขาไปแล้ว“คุณย่าคะ หนูสามารถคิดวิธีที่จะทำให้ธนาคารยอมให้เรากู้เงินได้ค่ะ” ซูหยิงเซี่ยลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ ซูไห่เฉาก็ยิ้มเยาะ แม้แต่หญิงชราก็ยังหาที่กู้เงินไม่ได้ แล้วซูหยิงเซี่ยจะทำได้อย่างไร“เธออย่าพูดไม่คิด คุณย่ายังทำไม่ได้ แล้วเธอจะทำได้ยังไงกัน?” ซูไห่เฉากล่าว“ไห่เฉา ในเมื่อเธอต้องการโม้ งั้นก็ปล่อยให้เธอโม้ต่อเถอะ แต่พวกเราต้องตกลงกันก่อนว่าถ้าเธอทำไม่สำเร็จแล้วจะทำยังไง?”“ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันจะขายคฤหาสน์ใจกลางภูเขาโดยไม่บ่นเลยสักคำ แต่ว่าถ้าฉันทำได้ ฉันก็มีเงื่อนไขอยู่หนึ่งอย่าง” ซูหยิงเซี่ยกล่าว“เงื่อนไขอ
ทุกคนต่างพากันหันไปตามเสียงนั้น.และคาดไม่ถึงว่าจะเป็นหานซานเฉียนที่พูดออกมา“หานซานเฉียน ที่นี่มีสิทธิ์ให้แกพูดด้วยเหรอ? แกนี่พูดโอ้อวดเกินจริงไม่ดูสภาพอากาศเลยนะ ไม่กลัวถูกฟ้าผ่าเลยหรือไง?” ซูไห่เฉาพูดเยาะเย้ยไม่ใช่แค่บรรดาญาติของตระกูลซูที่ไม่เชื่อเท่านั้น หญิงชราเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน เงินกู้จำนวนหนึ่งพันล้านหยวน ตระกูลซูจะมีสิทธิ์ได้รับเงินนั้นได้อย่างไร“หานซานเฉียน แกหุบปากซะ ที่นี่แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น” หญิงชราพูดอย่างไม่พอใจ เขาช่างอวดดี หยิ่งผยอง และพูดจาโอ้อวดเกินไปจริง ๆซูหยิงเซี่ยเหลือบมองหานซานเฉียนและพูดกับหญิงชราว่า “คุณย่าคะ เขาไม่ได้พูดเล่นค่ะ หนูสามารถกู้เงินได้หนึ่งพันล้านหยวน แต่เงื่อนไขก็คือสิทธิ์ในการควบคุมการเงินค่ะ”เมื่อหญิงชราเห็นว่าซูหยิงเซี่ยพูดจาเด็ดขาดเช่นนี้ ก็ทนไม่ได้ที่จะหายใจถี่ขึ้นมา ถ้าหากเงินกู้หนึ่งพันล้านหยวนมาอยู่ในมือ เธอก็ไม่ต้องกังวลกับสถานภาพทางการเงินของบริษัทอีกต่อไป“ถ้าเธอสามารถกู้เงินนั้นมาได้จริง ฉันก็ตกลง” หญิงชรากล่าวเมื่อได้ยินหญิงชราพูดดังนั้น ทั้งซูไห่เฉาและซูอี้หานต่างก็ไม่กล้าโต้แย้ง เพราะถ้าซูหยิงเซี่ยสามารถทำได้จ
“อะ...อะไรนะ! คุณพูดว่า...เท่าไหร่นะ” ตู้หงที่อยู่ปลายสายนั้นมีสีหน้าตกใจมาก จนรีบผลักหญิงสาวร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดออกไป“พี่ตู้ มากกว่าหมื่นล้านหยวนค่ะ” ผู้จัดการพูดย้ำอีกทีฮึ่ย!ตู้หงหายใจเข้าลึก ถึงแม้ว่าเขาจะรับปากกับบริษัทบางแห่งแล้วว่าจะไม่ให้ตระกูลซูกู้เงิน แถมยังได้รับผลประโยชน์บางอย่างมาแล้วด้วย แต่ว่าลูกค้าที่มีเงินฝากมากกว่าหมื่นล้านหยวนไม่ใช่คนที่เขาจะกล้ามีปัญหาด้วยได้ง่าย ๆหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตู้หงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงถามกลับไปว่า “คนรวยขนาดนั้น ทำไมถึงยอมค้ำประกันเงินกู้ให้ตระกูลซูล่ะ?”“พี่ตู้ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกว่าวันพรุ่งนี้เจอกัน ถ้าหากพี่ไม่ปรากฏตัว ฉันกังวลว่าเขาจะโอนทรัพย์สินไปที่อื่นจริง ๆ ค่ะ” ผู้จัดการพูดอย่างเป็นกังวลเรื่องนี้มีความร้ายแรงเพียงใดตู้หงรู้ดีแก่ใจ แม้ว่าเขาจะต้องคืนเงินใต้โต๊ะทั้งหมดที่ได้รับก่อนหน้านี้ เขาก็คงแค่ต้องแบกรับความเจ็บปวดและหลั่งเลือดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้ลูกน้องอย่างเขารับผิดชอบกับผลที่ตามมา แม้แต่ตำแหน่งของเขาในฐานะผู้อำนวยการธนาคารก็คงรับผิดชอบไม่ไหวอย่างแน่นอน
“ถ้าเธอต้องการ คฤหาสน์หลังนี้จะเขียนเพียงชื่อเธอก็ไม่มีปัญหา” หานซานเฉียนกล่าวเจี่ยงหลานไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะตอบรับเร็วขนาดนี้ คฤหาสน์สุดหรูมูลค่าแปดสิบกว่าล้านหยวนนั้น เขาไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่เปลืองน้ำลายเกลี้ยกล่อมเขา เธอยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ในเมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้ นายก็รีบหาเวลาไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซะ”“เจี่ยงหลาน ถ้าผมถูกคุณไล่ออกจากตระกูลซูจริง ๆ คุณจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลังแน่นอน” หานซานเฉียนกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมา“โอ้” เจี่ยงหลานยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “เงินของแกคงใช้จนใกล้จะหมดแล้ว ยังจะอวดดีอยู่อีก”“คฤหาสน์แบบนี้ แม้จะให้ซื้ออีกสักสิบหลัง ผมก็ซื้อได้ในพริบตาเดียว”“ไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ วิธีการพูดโอ้อวดของแกนี่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ แม้ว่าแกจะมีเงินมากกว่านี้ ฉัน เจี่ยงหลานคนนี้ก็ยังรังเกียจแกอยู่วันยังค่ำ” เจี่ยงหลานพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม“จริงเหรอ? ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณจะไม่สนใจเงินของผมจริง ๆ เหรอ?” หานซานเฉียนพูดอย่างเยาะเย้ย เจี่ยงหลานกลั่นแกล้งเขาทุกวิถีทาง ตอนนี้ยังคงอยากขับไล่เขาออกจากคฤหาสน์ เรื่องนี้เขารู้ดี และเข
“ถ้าหากผู้อำนวยการตู้ลำบากใจ งั้นฉันก็ไม่ถามแล้วค่ะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าวตู้หงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าหากว่าคุณผู้หญิงซูมีข้อสงสัยใด ๆ คุณสอบถามเพื่อนของคุณเองจะดีกว่าครับ เพราะผมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรออกมาได้จริง ๆ ครับ”หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ตู้หงได้ให้สัญญาว่าจะปล่อยเงินกู้ให้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่ซูหยิงเซี่ยจะจากไป“ครั้งนี้คงมีหลายบริษัทที่ไม่พอใจฉันอย่างแน่นอน” ตู้หงสามารถคาดการณ์ได้ว่า ต่อไปเขาจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรจากบริษัทเหล่านั้น แต่มันก็ไม่มีทางเลือก เรื่องนี้เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย“พี่ตู้ พวกเรามีลูกค้ารายใหญ่แบบนี้อยู่ในมือ ในอนาคตถ้าตระกูลซูได้พัฒนาเติบโตขึ้นมานั้นมันคงไม่ธรรมดา พี่จะใส่ใจเจ้าพวกปลาเล็กปลาน้อยพวกนั้นทำไมกันคะ” ผู้จัดการสาวกล่าวตู้หงหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “นั่นก็จริง แต่คน ๆ นี้เขาคือใครกันแน่ เมืองหยุนเฉิงมีคนรวยขนาดนี้ด้วยเหรอ?”“พี่ตู้ เขาชื่อหานซานเฉียนค่ะ คุณลองไปสืบดูหน่อยไหมคะ?” พูดจัดการพูด“หานซานเฉียนงั้นเหรอ?” คิ้วของตู้หงค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน และทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “หานซานเฉียน ลูกเขยไร้ค่าที่มีชื่อเ
เมื่อซูหยิงเซี่ยกลับมาถึงห้อง ก็พบว่าหานซานเฉียนกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียงอย่างยากลำบาก และท่าทางเขาดูเบื่อเป็นอย่างมาก เดินไปถึงข้างเตียง หานซานเฉียนก็ขยับที่ให้ซูหยิงเซี่ยและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง ราบรื่นไหม?”“แม่ของฉันทำให้คุณลำบากใจอีกแล้วใช่ไหมคะ?” ซูหยิงเซี่ยเอ่ยถาม“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไร คฤหาสน์หลังนี้ควรจะมีชื่อคุณก็ถูกต้องแล้ว” หานซานเฉียนกล่าว“คุณไม่รู้เหรอว่าที่แม่ของฉันทำแบบนี้เธอมีจุดประสงค์อะไร คุณไปตอบตกลงเธอยังไงกัน?” ซูหยิงเซี่ยพูดด้วยความไม่เข้าใจ“ท่านทำเพื่ออะไรทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ แต่ว่าเรื่องนี้คุณเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมไม่เชื่อเธอ แล้วผมต้องไม่เชื่อคุณด้วยหรือไง?” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาซูหยิงเซี่ยรู้สึกประทับใจกับคำพูดนี้มาก การที่เขาตอบตกลงแม่ของเธอนั้น ไม่ใช่เพราะแม่ของเธอ แต่เป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเธอ!ซูหยิงเซี่ยโน้มตัวลงจูบริมฝีปากหานซานเฉียนรวดเร็ว และรีบวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างลนลานหานซานเฉียนยังคงนิ่งอึ้งกับที่ เมื่อเขารู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็ยิ้มเจื่อนออกมา“นี่มัน ควรให้ผมได้เตรียมใจหน
ณ ห้องวีไอพีของธนาคารตู้หงรู้สึกตื่นเต้นจนใจเต้นแรง เพราะจะได้พบกับหานซานเฉียนสำหรับหานซานเฉียนที่เยาว์วัยขนาดนี้ทำให้ตู้หงรู้สึกประหลาดใจมาก คนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็น เพียงแต่ว่าอายุเท่านี้ก็เป็นเจ้าของทรัพย์สินหมื่นล้านหยวน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นจริง ๆ“คุณหาน ไม่คิดว่าคุณจะยังหนุ่มขนาดนี้ เหนือความคาดหมายจริง ๆ นะครับ” ตู้หงกล่าวผู้จัดการสาวส่งสายตาหวานให้อยู่ทางด้านข้าง เธอตั้งใจที่จะใช้เสน่ห์ของเธอให้เป็นประโยชน์ เพื่อยั่วยวนหานซานเฉียน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่หันมามองแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเธอพยายามยกขาขึ้นเผยให้เห็นขาเรียวที่สวยงามอย่างสุดความสามารถ แต่ทั้งหมดนี้เขาก็ยังถูกเพิกเฉย“ผู้อำนวยการตู้ วันนี้ที่ผมมาพบคุณเพราะหวังว่าคุณจะช่วยดูแลซูหยิงเซี่ยในภายหน้า” หานซานเฉียนกล่าวอย่างชัดเจนเขาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าให้ช่วยซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนคนนี้คงไม่ใช่ลูกเขยไร้ค่าของตระกูลซูจริง ๆ หรอกนะ!“คุณหาน ผมมีบางอย่างที่อยากรู้ ไม่ทราบว่าสามารถถามได้ไหมครับ” ตู้หงกล่าวหานซานเฉียนยิ้มเพราะรู้ว่าเขาสงสัยอะไร “ผมก็คือคนนั้นที่คุณคิดนั่นแหละ ส
“นังตอแหล ดูสิว่าแกวิ่งจะไปที่ไหน” หัวหน้าที่เป็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดและสวมผ้าคลุมบาง ๆ สีดำพูดขึ้นมา“นายเป็นผู้ชายของนังตอแหลคนนี้เหรอ พอดีเลย ชดใช้เงินมาซะ”หานซานเฉียนพูดขึ้นว่า “ผมไม่รู้จักเธอครับ”เฉินหลิงเหยาต่อยเข้าไปที่หลังของหานซานเฉียนหนึ่งทีแล้วพูดว่า “ฉันเป็นเพื่อนสนิทของภรรยาคุณนะ คุณจะเมินเฉยกับคนที่กำลังลำบากไม่ได้นะ”หานซานเฉียนยิ้มเจื่อนออกมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วจะให้ช่วยเธอได้อย่างไร?“ในเมื่อคุณกับเธอไม่เกี่ยวข้องกัน ก็รีบไปให้พ้นซะ อย่ามาขัดขวางการทำงานของฉัน” ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดพูดขึ้นเสียงดัง“ถ้าผมไม่ไปล่ะ?” หานซานเฉียนกล่าว“ไม่ไปเหรอ?” ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดส่งเสียงหัวเราะเยาะและพูดออกมาว่า “ถ้าคุณอยากโดนทำร้ายด้วย แน่นอนว่าคุณไม่ต้องไปก็ได้”คนจำนวนมากที่สวมชุดบอดี้การ์ด ที่ยืนอยู่ด้านหลังของผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดได้เดินตรงมาที่หานซานเฉียนด้วยท่าทางโหดเหี้ยม“เจ้าโง่ทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องสาวสวย ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาว่าตัวเองเป็นใคร”“แกไม่เดินออกไปเอง ก็อย่ามาโทษว่าพี่ชายพวกนี้ไม่ปรานีก็แล้วกัน”เฉินหลิงเหยาดึงเสื้อห
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ