หานซานเฉียนและเจียงหยิงหยิงมาถึงทางเข้าถ้ำราชาปีศาจ คนอื่นไม่เข้าใจว่าทำไมหานซานเฉียนจึงอยากกลับไปที่ถ้ำราชาปีศาจ แต่เจียงหยิงหยิงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีที่ถ้ำราชาปีศาจ งูสีขาวตัวน้อยอยากจะออกมาพร้อมกับหานซานเฉียน แต่เขากังวลว่าหากมันออกมาจากถ้ำมันจะเป็นอันตรายต่อเทียนฉี ดังนั้นเขาจึงใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาเพื่อควบคุมงูสีขาวตัวน้อยตอนนี้หานซานเฉียนกำลังจะไปโลกใบที่สอง และเห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนที่จะพางูสีขาวตัวน้อยไปด้วย“พี่ซานเฉียน พี่จะพามันไปด้วยจริง ๆ เหรอคะ? ถึงยังไงมันก็เป็นสัตว์เลือดเย็น ถ้าเกิดว่ามันเป็นอิสระแล้วต่อต้านพี่ขึ้นมาล่ะคะ?” เจียงหยิงหยิงถามหานซานเฉียนอย่างเป็นกังวลไม่ใช่ว่าหานซานเฉียนจะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ แต่เขามีความรู้สึกว่างูขาวตัวน้อยจะไม่ทำร้ายเขา และถ้าเขาพามันไปโลกใบที่สองด้วย แม้ว่างูขาวตัวน้อยจะหักหลังเขา มันก็จะเป็นเพียงภัยคุกคามกับโลกใบที่สองเท่านั้น“ในโลกใบที่สองมีอันตรายที่ไม่อาจคาดเดาได้มากเกินไป หากมันเต็มใจที่จะช่วยฉัน ก็จะสามารถลดอันตรายของเราในโลกใบที่สองได้มาก และมันก็คุ้มค่าที่จะลอง” หานซานเฉียนกล่าวแม้ว่าเจียงหยิงหยิงจะเป็นกังวล แต่เธอก็
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่มีผลไม้สีแดง งูสีขาวตัวน้อยก็มองหานซานเฉียนอย่างระมัดระวัง พลางแลบลิ้นออกมาครั้งก่อนที่หานซานเฉียนกินผลไม้สีแดงราวกับเป็นข้าว มันทำให้งูสีขาวตัวน้อยเป็นทุกข์มาก ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมให้หานซานเฉียนทำตามใจชอบได้อีกแล้ว แต่หานซานเฉียนไม่สนใจ เขากำลังจะไปโลกใบที่สองดังนั้นจึงต้องเตรียมพร้อมอย่างดี หากสามารถนำไปด้วยได้ก็ต้องพกติดตัวไปก่อนเขาใช้ฝ่ามือตบหัวงูสีขาวตัวน้อยแล้วพูดว่า "ไปให้พ้น อยากให้ฉันพาไปด้วยแล้วยังมาหวงของพวกนี้อีก"งูสีขาวตัวน้อยถูกตีอย่างแรงจนหัวสั่น เห็นได้ชัดว่ามันเวียนหัวเล็กน้อย เจียงหยิงหยิงที่อยู่ด้านข้างมองมันก่อนจะหัวเราะออกมาดัง ๆ“พี่ซานเฉียน เจ้าตัวเล็กนี่เข้าใจมนุษย์จริง ๆ มันสนุกสนานมากกว่าหมาแมวซะอีก” เจียงหยิงหยิงกล่าวหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ และพูดกับงูสีขาวตัวน้อยต่อ "ฉันจะพาแกออกไปจากที่นี่ และกลับไปยังที่ที่แกเคยอาศัยอยู่ในตอนแรก ผลไม้เหล่านี้ไม่มีประโยชน์ที่จะทิ้งไว้ที่นี่ ถ้าไม่เอาให้ฉันแล้วจะเอาให้ใคร?”ดวงตาสีแดงของงูขาวตัวน้อยฉายแววด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด และมันก็คาบผลไม้สีแดงด้วยปากส่งให้หานซานเฉียน
เหอชิงเฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่อี้เหล่าด้วยสายตาที่งงงวยแล้วพูดว่า "คุณบ้าไปแล้วเหรอ?"อี้เหล่ายิ้มอย่างจนปัญญา เขาไม่ได้บ้า แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดหานซานเฉียนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่นอกเหนือจินตนาการของเขาอย่างสิ้นเชิง ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เขาประเมินความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนต่ำเกินไป ดังนั้นแผนของเขาจึงพังทลายลง และตอนนี้สถานการณ์ก็ชัดเจนขึ้นแล้ว ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของหานซานเฉียนได้“คุณหยุดเขาได้ไหมล่ะ? ” อี้เหล่าถามเหอชิงเฟิงเหอชิงเฟิงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในซื่อเหมินก่อนหน้านี้ตอนที่หานซานเฉียนพูดว่าไม่มีใครหยุดเขาได้ เหอชิงเฟิงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดหานซานเฉียน“หานซานเฉียน พวกเราหวังดีกับนาย” เหอชิงเฟิงพูดกับหานซานเฉียน“ท่านผู้นำเหอ ผมซาบซึ้งที่ท่านเป็นคนเที่ยงธรรมเมื่อเผชิญกับปัญหาใหญ่ เกี่ยวกับความถูกความผิด แต่ผมหวังว่าท่านผู้นำจะเข้าใจการตัดสินใจของผม” หานซานเฉียนกล่าวเหอชิงเฟิงถอนหายใจและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อโน้มน้าวหานซานเฉียนอีก นี่เป็นเพียงหินส่งกลิ่นเหม็นที่น้ำมัน และเ
หลังจากได้ยินคำพูดของหานซานเฉียนแล้ว ดวงตาของเจียงหยิงหยิงก็ฉายแววเย็นชา สำหรับเธอ ใครก็ตามที่ต้องการทำร้ายซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยน นั่นถือว่าเป็นศัตรูกับเธอ เนื่องจากเหอเซียวเซียวอาจทำแบบนั้น ในความคิดของเธอก็ควรฆ่าทิ้งซะ“พี่ซานเฉียน ทำไมพี่ไม่ฆ่าเธอล่ะคะ” เจียงหยิงหยิงพูดอย่างเย็นชาหานซานเฉียนยิ้มอย่างจนปัญญา เธอคือเหอเซียวเซียวว เขาจะฆ่าลูกสาวของผู้นำซานเตี้ยนได้อย่างไร?หากสามาถจัดการได้อย่างง่ายดาย หานซานเฉียนคงไม่ต้องให้จวงถางและกงเทียนไปที่หยุนเฉิงหรอกแม้ว่าตอนนี้เหอชิงเฟิงได้ลดระดับเหอเซียวเซียวลงไปอยู่ระดับฮวงแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหอชิงเฟิงจะไม่ให้ความสำคัญกับเหอเซียวเซียว เหตุผลที่เขาทำสิ่งนี้เพียงเพื่อแสดงให้คนดูเท่านั้น เพราะสิ่งที่เหอเซียวเซียวพูดตรงทางเข้าถ้ำราชาปีศาจในวันนั้น ได้ปลุกเร้าความไม่พอใจของผู้คน แม้ว่าเขาจะเต็มใจปกปิดข่าว แต่เขาก็ต้องคิดถึงผลกระทบของสถานการณ์นี้ด้วย“ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลของฉัน เหอชิงเฟิงก็คงจะไม่ลดระดับเหอเซียวเซียวลงไประดับฮวงหรอก เพราะยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของเหอชิงเฟิง และเป็นคนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด ฉันจะฆ่าเธอได้ยังไง?" ห
พื้นที่ต้องห้ามอี้เหล่าและผู้ช่วยของเขาดูเหมือนจะมาถึงก่อนเวลา นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีปรมาจารย์ระดับเทียนทั้งหมดในเทียนฉีอีกด้วย น่าเสียดายที่เมื่อเปรียบเทียบกับยุครุ่งเรืองของเทียนฉีแล้ว ปรมาจารย์ระดับเทียนมากกว่าสิบคนเหล่านี้ดูเหมือนจะน่าขำมาก เพราะเทียนฉีเคยมีพลังที่จะต่อกรกับโลกใบที่สอง แต่ตอนนี้ปรมาจารย์ระดับเทียนมากกว่าสิบคนเหล่านี้อาจไม่เพียงพอที่จะอุดรอยรั่วของโลกใบที่สองด้วยซ้ำ“ซานเฉียน ฉันจะไม่โน้มน้าวอะไรนายอีก เพราะฉันรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่หลังจากที่นายไปที่นั่น ฉันก็มีอะไรจะบอกนาย” อี้เหล่าเดินไปหาหานซานเฉียนแล้วพูดขึ้นหานซานเฉียนไม่ได้ตอบ แต่จ้องมองไปที่ทางเข้าโลกอีกใบอย่างไม่วางตา หลังจากที่เขาปรากฏตัว ความผันผวนของพลังงานที่ทางเข้าก็ชัดเจนยิ่งขึ้น และความรู้สึกแผ่วเบาของความคุ้นเคยนี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง ราวกับว่าโลกใบที่สองกำลังร้องเรียกเขาอยู่“สำหรับนาย โลกใบที่สองนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย ดังนั้นหลังจากที่นายไปที่นั่นแล้ว นายต้องทำตัวให้ปกติ ก่อนที่นายจะคุ้นเคยกับที่นั่น อย่าทำอะไรที่เอิกเกริกเกินไป และอย่าดึงดูดความสนใจของมนุษย์ในโลก
“สิ่งที่ข้าต้องการคือขยะ เหตุใดเจ้าถึงตื่นขึ้นมาในเวลานี้” ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันกรอด ดูเหมือนว่าเธอจะรับไม่ได้กับการตื่นขึ้นมาของหานซานเฉียนเมื่อเธอยกมือขึ้นอีกครั้ง หานซานเฉียนก็เอื้อมมือไปบีบข้อมือของเธอไว้ทันทีหานซานเฉียนไม่ใช่คนที่จะยอมถูกทุบตีโดยไม่มีเหตุผล และตอนนี้เขาก็ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย แล้วจะยอมถูกผู้หญิงคนนี้กลั่นแกล้งได้ยังไงแม้ว่าเธอจะสวยมาก แต่หานซานเฉียนก็จะไม่ยอมให้เธอทำตามใจตัวเอง“ข้าอยู่ที่ไหน เหตุใดถึงสวมเสื้อผ้าเหล่านี้ แล้วท่านเป็นใคร” หานซานเฉียนถามผู้หญิงคนนั้นดิ้น แต่เธอก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแข็งแกร่งมาก ซึ่งทำให้ดวงตาของเธอส่องแสงประกาย“ข้าขอสั่งให้เจ้าอยู่แต่ในห้องเท่านั้น ห้ามออกไปไหน ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำทุกทางเพื่อฆ่าเจ้า” ผู้หญิงคนนั้นพูดกับหานซานเฉียนด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง“ได้ ข้าจะไม่ไปไหน แต่ข้าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” หานซานเฉียนกล่าว“ปล่อยข้า แล้วข้าจะให้คนมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจ้าฟัง เจ้าจะได้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรในอนาคต” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวหานซานเฉียนปล่อยมือของเธอ และผู้หญิงคนนั้นก็หันหลังกลับและจากไปอ
หานซานเฉียนถูกขังอยู่ในห้อง แม้ว่าประตูไม้จะไม่สามารถหยุดเขาได้ แต่หานซานเฉียนก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอกประตู และหลังจากเตะมันเปิดออก หานซานเฉียนไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะเกิดผลอะไรตามมาแม้ว่าความรู้สึกของการถูกคุมขังนี้เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจมาก แต่สำหรับหานซานเฉียน เขาจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งทุกย่างก้าว เพราะถ้าเขาเสียชีวิตที่นี่ หานซานเฉียนจะไม่มีวันได้พบซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยนอีกเลยเมื่อท้องฟ้ามืดลง และตกกลางคืน หานซานเฉียนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกประตูเป็นสาวใช้คนเดิมที่นำอาหารมาให้หานซานเฉียนอาหารอร่อย แต่สาวใช้ยืนจ้องเขาโดยไม่พูดอะไร ซึ่งทำให้หานซานเฉียนรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตามอง“ข้าหมดสติไปนาน เจ้าเป็นคนดูแลข้างั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามสาวใช้“บ่าวเพียงแค่ทำตามคำสั่งของคุณหนู ดังนั้นนายท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณบ่าวเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของสาวใช้ไร้อารมณ์ ทำให้หานซานเฉียนรู้สึกเหมือนเธอเป็นเครื่องจักร“ข้าอยากรู้ว่าข้ากินอะไรตอนหมดสติ?” หานซานเฉียนมองสาวใช้ด้วยความสับสน วันนี้เมื่อเขาตื่นขึ้น
วันรุ่งขึ้น หานซานเฉียนรู้สึกเย็นเล็กน้อยที่แขนของเขา ทันทีที่ลืมตา เขาก็พบว่างูสีขาวตัวน้อยกลับมาที่แขนของเขาอีกครั้งหลังจากที่หานซานเฉียนตื่นขึ้นมาเมื่อวานนี้ เขาก็หามันทุกที่ แต่ไม่มีร่องรอยของมันเลย เขาจึงคิดว่ามันได้กลับมาสู่โลกของตัวเองและจากไปแล้วซะอีก แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะยังไม่ไปไหน คาดว่ามันคงกลัวที่จะถูกพบ จึงซ่อนตัวชั่วคราว“เจ้าตัวเล็ก ไม่คิดเลยว่าแกจะให้ความสำคัญกับมิตรภาพ และยังไม่จากไปไหนแบบนี้” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้มงูสีขาวตัวน้อยพ่นลิ้นใส่หานซานเฉียน และเขาไม่รู้ว่ามันเป็นการแสดงความภักดีหรือข่มขู่เขากันแน่หานซานเฉียนลุกขึ้นแต่งตัว และผลักประตูเปิดออกเขาหายใจเข้าลึก และพูดอย่างไม่รู้ตัวว่า "อากาศที่นี่ดีจริง ๆ หากในอนาคตมีโอกาสก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะพาหยิงเซี่ยและเนี่นเอ๋อร์มาใช้ชีวิตหลังเกษียณที่นี่"หลังจากพูดแบบนั้น หานซานเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสิ่งที่ซูหยิงเซี่ยเคยกล่าวไว้ ว่าให้หาประเทศที่มีภรรยาได้หลายคน โลกใบนี้อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ลานของตระกูลเฉินมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งใหญ่กว่าพื้นที่รวมของลานบ้านของตระกูลหานในเหยียนจิงหลายเท่า แต่นี่ไม่ใช่เร