หานซานเฉียนถูกขังอยู่ในห้อง แม้ว่าประตูไม้จะไม่สามารถหยุดเขาได้ แต่หานซานเฉียนก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอกประตู และหลังจากเตะมันเปิดออก หานซานเฉียนไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะเกิดผลอะไรตามมาแม้ว่าความรู้สึกของการถูกคุมขังนี้เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจมาก แต่สำหรับหานซานเฉียน เขาจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งทุกย่างก้าว เพราะถ้าเขาเสียชีวิตที่นี่ หานซานเฉียนจะไม่มีวันได้พบซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยนอีกเลยเมื่อท้องฟ้ามืดลง และตกกลางคืน หานซานเฉียนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกประตูเป็นสาวใช้คนเดิมที่นำอาหารมาให้หานซานเฉียนอาหารอร่อย แต่สาวใช้ยืนจ้องเขาโดยไม่พูดอะไร ซึ่งทำให้หานซานเฉียนรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตามอง“ข้าหมดสติไปนาน เจ้าเป็นคนดูแลข้างั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามสาวใช้“บ่าวเพียงแค่ทำตามคำสั่งของคุณหนู ดังนั้นนายท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณบ่าวเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของสาวใช้ไร้อารมณ์ ทำให้หานซานเฉียนรู้สึกเหมือนเธอเป็นเครื่องจักร“ข้าอยากรู้ว่าข้ากินอะไรตอนหมดสติ?” หานซานเฉียนมองสาวใช้ด้วยความสับสน วันนี้เมื่อเขาตื่นขึ้น
วันรุ่งขึ้น หานซานเฉียนรู้สึกเย็นเล็กน้อยที่แขนของเขา ทันทีที่ลืมตา เขาก็พบว่างูสีขาวตัวน้อยกลับมาที่แขนของเขาอีกครั้งหลังจากที่หานซานเฉียนตื่นขึ้นมาเมื่อวานนี้ เขาก็หามันทุกที่ แต่ไม่มีร่องรอยของมันเลย เขาจึงคิดว่ามันได้กลับมาสู่โลกของตัวเองและจากไปแล้วซะอีก แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะยังไม่ไปไหน คาดว่ามันคงกลัวที่จะถูกพบ จึงซ่อนตัวชั่วคราว“เจ้าตัวเล็ก ไม่คิดเลยว่าแกจะให้ความสำคัญกับมิตรภาพ และยังไม่จากไปไหนแบบนี้” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้มงูสีขาวตัวน้อยพ่นลิ้นใส่หานซานเฉียน และเขาไม่รู้ว่ามันเป็นการแสดงความภักดีหรือข่มขู่เขากันแน่หานซานเฉียนลุกขึ้นแต่งตัว และผลักประตูเปิดออกเขาหายใจเข้าลึก และพูดอย่างไม่รู้ตัวว่า "อากาศที่นี่ดีจริง ๆ หากในอนาคตมีโอกาสก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะพาหยิงเซี่ยและเนี่นเอ๋อร์มาใช้ชีวิตหลังเกษียณที่นี่"หลังจากพูดแบบนั้น หานซานเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสิ่งที่ซูหยิงเซี่ยเคยกล่าวไว้ ว่าให้หาประเทศที่มีภรรยาได้หลายคน โลกใบนี้อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ลานของตระกูลเฉินมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งใหญ่กว่าพื้นที่รวมของลานบ้านของตระกูลหานในเหยียนจิงหลายเท่า แต่นี่ไม่ใช่เร
หานซานเฉียนมีสีหน้าขมขื่น ก่อนออกไปข้างนอกเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เพราะเขาไม่เคยขาดแคลนเงิน และเขาก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องเงินด้วย เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องน่าอายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเขา“เถ้าแก่ โปรดฟังข้าก่อน ไม่ใช่ว่าข้าไม่มีเงิน ข้าแค่ลืมพกมันติดตัวมาเท่านั้น” หานซานเฉียนกล่าวชายวัยกลางคนเคยเจอข้อแก้ตัวมาแล้วทุกประเภท และเขาก็ไม่เชื่อสิ่งที่หานซานเฉียนพูดเลย ดังนั้นจึงสั่งให้คนของเขาทุบตีหานซานเฉียนอย่างรุนแรงทันทีแม้ว่าหานซานเฉียนจะไม่กลัวคนตรงหน้า แต่หากทำอะไรบุ่มบ่าม ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะอยู่อย่างเงียบ ๆ ในอนาคตได้“ข้าเป็นคนของตระกูลเฉิน เถ้าแก่ หากท่านไม่เชื่อ จะกลับบ้านกับข้าก็ได้ ข้ารับประกันว่าจะให้เงินกับท่านแน่นอน แถมยังจะชดเชยให้ท่านเป็นสองเท่าเลยด้วย” หานซานเฉียนกล่าว“คนของตระกูลเฉิน?” เจ้าของร้านมองหานซานเฉียนขึ้นลง เสื้อผ้าของผู้ชายคนนี้ดูไม่เหมือนคนจนจริง ๆ ผ้าไหมคุณภาพสูง ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวธรรมดาสามารถซื้อได้“เจ้าเป็นใครจากตระกูลเฉิน” เจ้าของร้านถามหานซานเฉียนนิ่งงัน หากเขาบอกว่าเป็นสามีของเฉินเหยียนหรัน คนเหล่านี้จะไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะมีข่าวลือว่าเขา
คำพูดของเฉินเหยียนหรันเผยให้เห็นความทะเยอทะยานของเธอโดยตรง จากน้ำเสียงของเธอ หานซานเฉียนรู้สึกได้ถึงความไม่เต็มใจ ดูเหมือนว่าการอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ เช่นเมืองหลงหยุนจะยังไม่ทำให้ เฉินเหยียนหรันพึงพอใจนอกจากนี้ยังหมายความว่าเฉินเหยียนหรันอาจต้องการยึดตำแหน่งเจ้าเมืองจริง ๆ และนี่เป็นเพียงก้าวแรกของเธอเท่านั้นในเรื่องนี้เมื่อเปรียบเทียบกับซูหยิงเซี่ย ทั้งสองคนมีตัวตนที่ต่างกันสุดขั้ว ซูหยิงเซี่ยเป็นคนที่ไม่แข่งขันกับใคร เธอไม่เคยสนใจสถานะและสิทธิ์ในตระกูลซูเลย หากเธอไม่ถูกบังคับจนจนมุม ซูหยิงเซี่ยก็คงไม่แตกหักกับกับตระกูลซูแบบนี้เมื่อกลับมาถึงบ้าน เฉินเหยียนหรันยื่นหนังสือให้หานซานเฉียนที่มีคำว่าภูเขาและแม่น้ำ พิมพ์อยู่บนหน้าปก“นี่คืออะไร?” หานซานเฉียนถามด้วยความสับสน"เนื่องจากเจ้าจำอะไรไม่ได้เลย หนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยให้เจ้าเข้าใจโลกเชวียนหยวนได้ดีขึ้น" หลังจากวางหนังสือลงแล้ว เฉินเหยียนหรันก็จากไป การเผชิญหน้ากับสามีอย่างหานซานเฉียน อาจกล่าวได้ว่าเธอไม่มีอารมณ์เลยใด ๆ เลยหานซานเฉียนกลับมาที่ห้องของตัวเอง และเริ่มอ่านหนังสือ สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องทำตอนนี้คือการทำความเข
ใบหน้าของหานซานเฉียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีสาวใช้คนนี้สร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉินเหยียนหรันดีกว่าใคร แต่ในเวลานี้กลับต้องการให้เขาเข้าไปแก้ไขปัญหาของเฉินเหยียนหรัน“คุณหนูของเจ้าคงไม่รู้ว่าเจ้ามาพบข้าสินะ” หานซานเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาการแสดงออกของสาวใช้เปลี่ยนไป เฉินเหยียนหรันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ นางเป็นคนตัดสินใจเองเมื่อเห็นสีหน้าของสาวใช้ หานซานเฉียนก็รู้ว่าเขาเดาถูกและพูดต่อ "ขอเดาอีกหน่อย ปัญหาของเฉินเหยียนหรันน่าจะมาจากอีกสองตระกูลใช่หรือไม่"“ท่านรู้ได้อย่างไร!” สาวใช้ตกใจมาก นางไม่ได้บอกหานซานเฉียนว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วหานซานเฉียนจะรู้ได้อย่างไร?หานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ เขารู้ได้อย่างไรงั้นเหรอ? เรื่องนี้แทบไม่ต้องใช้สมองในการคิดเลยด้วยซ้ำ มันยากตรงไหนกัน เฉินเหยียนหรันมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ ในเวลานี้เธอมีแนวโน้มที่จะตกหลุมพรางของอีกสองตระกูลใครควรเป็นเจ้าเมือง ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น แม้ว่าหุ่นเชิดนี้จะยังไม่ค่อยเชื่อฟังในตอนนี้ก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ภัยคุกคามใหญ่หลวง เพราะตระกูลเฉินเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริง สองตระกูลใหญ่ต
สองประโยคนี้ทำให้สีหน้าของเฉินเหยียนหรันดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น และนางก็จ้องสาวใช้อย่างเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะนางยุ่งไม่เข้าเรื่อง หานซานเฉียนจะปรากฏตัวได้อย่างไร และนางจะถูกคนเฒ่าสองคนนี้หัวเราะเยาะเช่นนี้ไหม“นี่เป็นเรื่องของพวกข้า ผู้เฒ่าทั้งสองไม่ต้องเป็นกังวลใจกับเรื่องนี้หรอก” เฉินเหยียนหรันกล่าว“เมื่อได้เห็นพลังของปรมาจารย์โคมสี่แล้ว เจ้ายังไม่รีบไสหัวออกไปอีกหรือ?” ผู้นำตระกูลคนหนึ่งพูดกับหานซานเฉียน เขาไม่อยากมองขยะนี้ด้วยซ้ำหานซานเฉียนส่ายหัวและส่งเสียงจิจิ“เจ้าหนู เจ้ากำลังทำอะไร” ปรมาจารย์โคมสี่รู้สึกว่าพฤติกรรมของหานซานเฉียนมุ่งเป้ามาที่เขา และเขาก็โกรธขึ้นมาทันที“น่าเสียดาย มีหินที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กอยู่ในลานบ้านตระกูลเฉิน มีปรมาจารย์เคยทุบมันแตกได้ด้วยมือเปล่า ในความคิดของข้า นั่นต่างหากคือปรมาจารย์ที่แท้จริง ส่วนท่านก็แค่ทุบโต๊ะไม้เท่านั้น ไม่ได้ดูยอดเยี่ยมตรงไหนเลย” หานซานเฉียนกล่าวปรมาจารย์โคมสี่มองไปที่หานซานเฉียนอย่างเยาะเย้ยแล้วพูดว่า "ไม่มีทางที่จะมีคนแบบนั้นในเมืองหลงหยุน หากเจ้ากำลังคิดจะขู่ให้ข้ากลัวล่ะก็ เจ้าก็ประเมินข้าต่ำเกินไปแล้ว"“ขู่ให้ท่านกลั
สาวใช้ขมวดคิ้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจะสังหารปรมาจารย์โคมสี่ได้ แต่การจากไปอย่างลึกลับของปรมาจารย์โคมสี่ ทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “คุณหนูคะ ให้ไปบ่าวไปสืบดูไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น?” สาวใช้ถาม“ลองดูว่าทรัพย์สินของตระกูลเราหายไปหรือไม่?” เฉินเหยียนหรันกล่าว เหตุผลที่ปรมาจารย์โคมสี่เต็มใจช่วยเหลือทั้งสองตระกูลก็เป็นเพราะผลประโยชน์ ดังนั้นในความเห็นของเฉินเหยียนหรัน การที่หานซานเฉียนสามารถทำให้เขายอมจากไปได้จะต้องจ่ายในราคาที่สูง เงินสามารถทำให้โลกหมุนได้ แม้ว่าปรมาจารย์โคมสี่จะทรงพลังมากแค่ไหน แต่ก็สมเหตุสมผลที่จะเห็นแก่เงินหลังจากที่ผู้นำทั้งสองตระกูลออกจากตระกูลเฉิน พวกเขาก็ไม่ได้แยกจากกัน แต่แอบไปพบกันในสถานที่เงียบสงบ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีจัดการกับตระกูลเฉินต่อ “ผู้นำหวัง ไม่คิดว่าเฉินเหยียนหรันจะสามารถหาคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำลายแผนการของพวกเราจนพังหมด เราจะทำอย่างไรต่อไปกันดี?” ผู้นำหวังถามสีหน้าของผู้นำหวังดูเคร่งขรึม การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับพวกเขา พวกเขาคิดว่าปรมาจารย์โคมสี่ก็เพียงพอที่จะปรา
“คุณหนู ตรวจสอบทรัพย์สินแล้วไม่มีอะไรขาดหายไปเจ้าค่ะ”ในห้องของเฉินเหยียนหรัน สาวใช้รายงานการตรวจสอบของนาง ไม่ต้องพูดถึงการสูญหายของสิ่งของมีค่า แม้แต่สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่มีมูลค่าอะไรก็ไม่มีอะไรสูญหาย“ดูเหมือนว่าสามีใหม่ของข้าจะเป็นเศรษฐีที่ซ่อนเร้นสินะ” เฉินเหยียนหรันกล่าวด้วยรอยยิ้ม“แต่ตอนนั้นเขาไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าน้ำชาในโรงน้ำชาเวยโซ่วจวีไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”สาวใช้ถามอย่างสงสัยเฉินเหยียนหรันยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า "เขาจงใจปิดบังทรัพย์สินของเขา เขาต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน เบื้องหลังของเขาอาจมีตระกูลใหญ่อยู่ก็ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงถูกไล่ออกจากตระกูล”เหตุผลที่เฉินเหยียนหรันคาดเดาเช่นนั้น ก็เพราะนางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพิชิตปรมาจารย์โคมสี่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาได้ และนางก็ไม่เชื่อคำพูดของหานซานเฉียนที่บอกว่าเขาสังหารปรมาจารย์โคมสี่เมืองเก่า ๆ อย่างเมืองหลงหยุนจะมีปรมาจารย์ที่เหนือกว่าปรมาจารย์โคมสี่ได้อย่างไร? แถมยังหน้าตาหล่อเหลาแบบนั้นอีก“คุณหนูหมายความว่าเขาเป็นลูกชายที่ถูกตระกูลใหญ่ทอดทิ้งอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?” สาวใช้ถา
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ