ในฝูงชน ชายคนหนึ่งสวมหมวกปากเป็ดก้มหัวลงต่ำจนแทบจะมองไม่เห็นใบหน้า บุคคลนี้กำหมัดแน่น เขาคือหลินตง และกำลังกำหมัดแน่น เขาปะปนอยู่ในฝูงชนเพราะต้องการดูว่าคนไร้ประโยชน์อย่างหานซานเฉียนจะตายด้วยน้ำมือของฟางจ้านอย่างไรอย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดหวังว่าความแข็งแกร่งที่หานซานเฉียนแสดงออกมา จะสามารถบังคับให้ฟางจ้านให้ถอยกลับได้ แถมยังทำให้ฟางจ้านได้รับบาดเจ็บอีกด้วยเขาดำรงตำแหน่งความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ในเทียนฉี แต่หลังจากเห็นความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน เขาก็รู้ว่าเมื่อหานซานเฉียนเข้าร่วมเทียนฉีอย่างแท้จริงแล้ว หานซานเฉียนจะลบชื่อของเขาออกไปอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่เขาไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามดังนั้นสิ่งที่หลินตงจะทำได้คือ ต้องฆ่าหานซานเฉียนให้ตายก่อนที่เขาจะเข้าร่วมเทียนฉีในใจของหลินตง หานซานเฉียนเป็นเพียงขยะ แถมเขายังเรียกหานซานเฉียนว่าคนไร้ประโยชน์มาโดยตลอด แต่ในใจของเขาถือว่าหานซานเฉียนเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่ ภายใต้สถานการณ์นี้ เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกหานซานเฉียนแบบนั้น เพียงแต่ว่าหลินตงไม่เต็มใจที่จะยอมรับมันเท่านั้นเอง“นายกำลังทำอะไรอยู่!” หลินตงกัดฟันและมองไปที่ฟางจ
พื้นผิวของทะเลสาบกระเพื่อมเบา ๆ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของอี้เหล่า พวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่าจู่ ๆ ก็มีคนบนเกาะมรกตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน“นั่นใครน่ะ แล้วมาได้ยังไง!”“ทำไมจู่ ๆ ถึงมีคนเพิ่มขึ้นมาล่ะ เกิดอะไรขึ้น!”“เขาหายตัวได้งั้นเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงไปโผล่ที่นั่นได้”ผู้คนต่างรู้สึกประหลาดใจ และแสดงสีหน้าเหลือเชื่อเมื่ออี้เหล่าปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันในเวลานี้ คนที่ตกใจที่สุดคือซูหยิงเซี่ย เพราะเธอยืนอยู่ข้าง ๆ อี้เหล่า และแม้จะอยู่ในระยะใกล้ขนาดนั้น เธอก็ยังไม่รู้ว่าอี้เหล่าไปโผล่ตรงนั้นได้อย่างไรดูเหมือนว่าในพริบตาเดียว อี้เหล่าที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็ไปโผล่บนเกาะมรกตแล้ว“นี่…” ซูหยิงเซี่ยมองไปที่อี้เหล่าบนเกาะมรกตอย่างตกตะลึง โดยที่ไม่รู้ว่าจะใช้คำใดมาอธิบายความรู้สึกของเธอตอนนี้ดาบอรหันต์ของฟางจ้านเล็งไปที่คอของหานซานเฉียนแล้ว หากดาบเล่มนี้แทงลงไปในลำคอ หานซานเฉียนจะต้องจมกองเลือดอย่างแน่นอนในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ได้ยินแค่เสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ดาบในฝ่ามือของเขาถูกสะบัดออกไปด้วยนิ้วของอี้เหล่า“เป็นไปได้ยังไง!” ฟางจ้านโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว สาเหตุที่ดาบอรหันต์ของเข
หลังจากการหยุดชะงักช่วงสั้นๆ งานเลี้ยงร้อยวันก็ดำเนินไปตามปกติ แขกทุกคนที่เข้าร่วมในวันนี้รู้สึกว่าของขวัญที่พวกเขานำมาในงานเลี้ยงนั้นคุ้มค่ามาก ท้ายที่สุด พวกเขาได้เห็นการต่อสู้อันน่าตื่นเต้น แม้ว่าจะไม่สิ้นสุดด้วยชีวิตหรือความตาย แต่การแสดงของหานซานเฉียน ในการต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้เขามีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นในเมืองหยุนเฉิงอย่างแน่นอนหลังจากที่ได้เห็นทักษะของหานซานเฉียนแล้ว คนที่กลัวหานซานเฉียนอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งไม่กล้าร้ายต่อหานซานเฉียน ตำแหน่งที่มั่นคงของเขาในหยุนเฉิงไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้“ซานเฉียนต้องไปโรงพยาบาลไหม?” หลังจากกลับมาที่ทะเลสาบ ซูหยิงเซี่ยก็วิ่งไปหาหานซานเฉียนทันที และถามด้วยความกังวลหานซานเฉียนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นในตัวเขา มีพลังแปลกประหลาดที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา และค่อยๆ ช่วยในการฟื้นตัวของเขา นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับหานเซี่ยว หานซานเฉียนก็ยังเคยไม่รู้สึกแบบนี้ เขารู้ว่าร่างกายของเขาดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างหานซานเฉียนส่ายหัวแล้
คำพูดของซูหยิงเซี่ยทำให้หญิงชราตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมทั้งขมวดคิ้วผู้หญิงคนนี้คือซู่หยิงเซี่ยเนี่ยนะ จะเป็นไปได้ยังไง?วันนี้เป็นงานเลี้ยงหนึ่งร้อยวันของหานเนี่ยน ทุกคนในตระกูลหานอยู่ที่คฤหาสน์ปี้เฟิง ซูหยิงเซี่ยตัวจริงจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรสัญชาตญาณแรกของหญิงชราบอกเธอว่า ผู้หญิงตรงหน้าจงใจใช้ชื่อของซูหยิงเซี่ยมาขู่ให้เธอกลัว“ยัยจิ้งจอก เธอนี่ไม่เจียมตัวเอาซะเลย คนอย่างเธอเนี่ยนะจะเป็นซูหยิงเซี่ย ล้อเล่นอยู่หรือไง” หญิงชราพูดอย่างดูถูกพูดจบเธอก็มองไปที่หานซานเฉียน เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้มาด้วยกัน หญิงชราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูดต่อ "ถ้าเธอคือซูหยิงเซี่ย งั้นเขาก็คือหานซานเฉียนงั้นเหรอ"หานซานเฉียนพยักหน้าและกล่าวว่า "หญิงชรา คุณเดาถูกแล้ว ผมคือหานซานเฉียน"หญิงชรายิ้ม สองคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ พวกเขากล้าแกล้งเป็นหานซานเฉียนกับซูหยิงเซี่ย ที่นี่คือหยุนเฉิงนะ ถ้าหานซานเฉียนตัวจริงรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะมีชีวิตรอดอยู่ไหม?“พวกเธอคุยโวกันไปเถอะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลากับพวกเธอแล้ว เสียเวลาลงทะเบียนของฉันหมด” พูดจบ หญิงชราก็ผลักซูหยิงเซี่ยออกไปอย่างแรงแม้ว่าเธอจะอายุมาก แต่ควา
แม้ว่าเขาจะลังเลใจมากที่จะออกจากงานเลี้ยง และไม่อยากพลาดโอกาสครั้งนี้ แต่หลิวอี้ก็ไม่สามารถละทิ้งแม่ที่บ้านได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่กลับไปก่อนเวลาอย่างไม่เต็มใจเท่านั้นหลิวอี้รู้ว่าเขาพลาดโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต และโอกาสนี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นกับเขาอีกเลยเมื่อเขากลับมาถึงบ้านและเห็นแม่ที่ตื่นตระหนก หลิวอี้ก็รีบนั่งลงข้าง ๆ เธอแล้วปลอบเธอว่า "แม่ครับ ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ตรงนี้เสมอ"หญิงชราส่ายหัว ดวงตาเต็มไปด้วยความกลัว ปกติแล้วเธอเป็นคนไร้เหตุผลมาก เป็นเรื่องปกติที่เธอจะทะเลาะกับคนอื่น ๆ ในชุมชน แม้แต่เพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นเดียวกันก็ยังมีความสัมพันธ์ที่แย่มาก จนไม่เต็มใจที่จะขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับเธอด้วยซ้ำ จากจุดนี้จะเห็นได้ว่าไม่มีใครชื่นชอบหญิงชราคนนี้เลยแต่หญิงชรากลับไม่รู้ตัว เพราะเธอมีหลิวอี้มาคอยช่วยแก้ปัญหาทุกครั้งจนเธอเคยชินกับมันแต่คราวนี้ หญิงชรารู้ดีว่าความไร้เหตุผลของเธอก่อให้เกิดปัญหามากมายเพียงใด หลิวอี้อาจแก้ปัญหาอื่นได้ แต่การที่ทำให้หานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยขุ่นเคืองนั้นมันเกินความสามารถของหลิวอี้มาก“แม่ไปทะเลาะกับเจ้าของคนอื่นในชุมชนอีกแล้วเห
เมื่อมองไปทางด้านหลังของหานซานเฉียนที่จากไป อี้เหล่าก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ในเทียนฉีไม่มีใครกล้าปฏิบัติต่อเขาด้วยท่าทีเช่นนี้ และหากยังไม่ได้รับสัญญาณจากเขา ใครจะกล้าเดินออกไปด้วยท่าทางแบบนี้ต่อหน้าเขากันแต่อี้เหล่ารู้สึกไร้พลัง เมื่อเผชิญหน้ากับหานซานเฉียน เขารู้ว่าการข่มขู่หานซานเฉียนด้วยวิธีการพิเศษนั้นไม่มีประโยชน์ อีกอย่างหานซานเฉียนมีความสำคัญต่อเทียนฉีเป็นอย่างมาก แม้แต่อี้เหล่าก็ยังไม่เต็มใจที่จะใช้อำนาจของตัวเองมาข่มขู่เขาจุดนี้ฟางจ้านเองก็สัมผัสได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจมากกับสถานะของหานซานเฉียน หากเป็นใครในเทียนฉี เขาคงถูกซื่อเหมินลงโทษไปแล้ว“อี้เหล่า ถ้าคุณยอมเขาแบบนี้ มันจะทำให้เขาหยิ่งผยองมากขึ้น และไม่สนใจเทียนฉีเลยหรือเปล่าครับ” ฟางจ้านพูดกับอี้เหล่าอี้เหล่าส่ายหัวแล้วพูดว่า "ถ้านายรู้จักชีวิตของเขา นายก็จะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น ตรงกันข้าม ยิ่งกดเขามากเท่าไรก็จะยิ่งปลุกเร้าความต่อต้านจากเขามากขึ้นเท่านั้น ผู้ชายคนนี้โดนกดตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาจึงอ่อนไหวกับสิ่งนี้มาก”ในวัยเด็กหานซานเฉียนถูกทุกคนในตระกูลปฏิเสธ แม้แต่คนรับใช้ที่บ้านก็ยังดูถูกเ
ถังหลงและครอบครัว ทั้งสามคนยืนอยู่ไกลออกไป เมื่อพวกเขาเห็นหานซานเฉียนก็ตัวแข็งทื่อและทำตัวไม่ถูก ถังเฉิงเย่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของซูกั๋วเย่า ตอนที่ถังเฉิงเย่เพิ่งย้ายไปอยู่บ้านใหม่ เขานัดเพื่อนร่วมรุ่นไปเพื่อโอ้อวดบ้านใหม่ของเขา และใช้โอกาสนี้ดูถูกถากถางถูกหานซานเฉียนในอดีต ถังเฉิงเย่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าซูหยิงเซี่ยจะแต่งงานกับถังหลง ในความคิดของเขา คนไร้ค่าอย่าง หานซานเฉียนจะคู่ควรกับซูหยิงเซี่ยได้อย่างไร มีเพียงลูกชายที่โดดเด่นของเขาเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัตินั้นแต่เนื่องจากตัวตนของหานซานเฉียนค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในหยุนเฉิง และในที่สุดถังเฉิงเย่ได้ก็รู้ช่องว่างระหว่างถังหลงกับหานซานเฉียนว่ามีขนาดใหญ่เพียงใดถังหลงค่อนข้างมีความสามารถก็จริง แต่ก็ยังต่างกับหานซานเฉียนอยู่มาก ปัจจุบันในหยุนเฉิง หานซานเฉียนกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่ง ส่วนถังหลงกลายเป็นคนเร่ร่อนว่างงานเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้หานซานเฉียนขุ่นเคืองสมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวรู้ดีว่า หากถังหลงต้องการพัฒนาอีกครั้งในหยุนเฉิง เขาต้องได้รับการให้อภัยจากหานซานเฉียนก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงใช้โอกาสในวันนี้เพื่อมาขอโทษหานซานเฉียนแต่เม
หลังจากที่หานซานเฉียนส่งซูหยิงเซี่ยและคนอื่น ๆ กลับบ้านแล้ว เขาก็ไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวสำหรับหานซานเฉียน ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจบริษัทเล็ก ๆ นี้แล้ว เพราะแม้แต่ทรัพย์สินของตระกูลหนานกงเขาก็ยังไม่สนใจ และรายได้ต่อปีของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวก็ยังเทียบไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวเดียวของทรัพย์สินของตระกูลหนานกงด้วยซ้ำ แต่นี่คือทรัพย์สินในชื่อของเขา ความสัมพันธ์จึงต่างออกไปจงเหลียงไม่ได้เจอนายน้อยมาเป็นเวลานาน เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก เพราะตอนนี้หานซานเฉียนก็ต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ในอดีต หานซานเฉียนเป็นเพียงลูกชายที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แต่ตอนนี้หานซานเฉียนไม่เพียงแต่ควบคุมหยุนเฉิงเท่านั้น แต่ตระกูลหานในเหยียนจิงก็อยู่ในมือของเขาเช่นกันในตอนนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนคิดว่าหานจุนต่างหากที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำตระกูล ตอนที่จงเหลียงถูกส่งตัวมาหยุนเฉิงเขาก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยกับข้อตกลงนี้ แต่ตอนนี้ หานจุนยังติดอยู่ในคุกชิงเฉิง แต่หานซานเฉียนกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด นี่คือผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน“นายน้อย” เมื่อเห็นหานซานเฉียน จงเหลียงก็เ