ซูหยิงเซี่ยบอกเรื่องที่หญิงชรากับซูไห่เฉาทำลงไปกับหานซานเฉียนว่า “คุณว่าพวกเขาหาแส่เรื่องใส่ตัวไหม ความร่วมมือกำลังราบรื่น แต่พวกเขาก็หาปัญหาเพิ่ม ตอนนี้คุณจงเหลียงก็ไม่รับโทรศัพท์ของฉัน และไม่ยอมมาพบฉันอีกด้วย ความร่วมมือในการทำงานกับบริษัทลั่วเฉวก็คงล่าช้าออกไปอีก”“นี่มัน…ปัญหาใหญ่เลยนะ ตอนนี้เพื่อนของผมไม่ได้อยู่ในประเทศ ผมเองก็ติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นปมแน่นซูหยิงเซี่ยลอบมองหานซานเฉียน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้หน้าหนาขอให้หานซานเฉียนช่วยโดยตรง แต่เธอก็พูดไปตั้งมากมาย อันที่จริงมันก็เหมือนพูดอ้อม ๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่สามารถช่วยเธอได้จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นก็คงจบเห่แล้วอย่างแน่นอน“ซานเฉียน” ซูหยิงเซี่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนหานซานเฉียนใจกระตุก เขาพยายามกลั้นยิ้มที่มุมปากเอาไว้แล้วเอ่ยถามว่า “มีอะไรเหรอ?”ใบหน้าของซูหยิงเซี่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างไม่รู้ตัว เธอกัดริมฝีปากล่าง และไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่ครู่หนี่งหานซานเฉียนก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เขารออย่างเงียบ ๆ“คุณ...ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” ในที่สุดซูหยิงเซี่ยก็เค้นคำพูดนี้ออกมาจากปากของเธอห
“แม่คะ แม่ไปเอาของโกโรโกโสพวกนี้มาจากไหนคะ” ซูหยิงเซี่ยมองไปที่แม่ของเธอแล้วบ่นออกมา หลังจากโดนเธอทำแบบนี้ คฤหาสน์ก็เหมือนกลายเป็นที่เก็บสะสมขยะทันที รสนิยมและสไตล์การแต่งบ้านก่อนหน้านี้ได้หายไปอย่างสมบูรณ์“อะไรคือโกโรโกโส ทั้งหมดนี้แม่ซื้อมาด้วยเงินนะ” เจี่ยงหลานที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เธอคัดเลือกสิ่งของทุกอย่างมาด้วยความตั้งอกตั้งใจ และใช้เวลาต่อรองราคากับเถ้าแก่มาตั้งครึ่งวัน แต่ซูหยิงเซี่ยกลับบอกว่ามันเป็นสิ่งของโกโรโกโส“อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ราคาหลายสิบล้านหยวน แต่แม่กลับซื้อของราคาไม่กี่สิบหยวนมาวางประดับไว้ในคฤหาสน์แบบนี้ มันไม่ตลกเหรอคะ? อีกอย่างมันดูดีตรงไหนกัน มันดูไม่ต่างกับขยะเลยต่างหาก” ซูหยิงเซี่ยรู้สึกโกรธจัด การที่หานซานเฉียนตกแต่งบ้าน เขาต้องใช้กำลังกายและกำลังใจอย่างมากแน่นอน แต่สิ่งที่แม่ของเธอทำได้ทำลายรูปแบบการตกแต่งไปทั้งหมด“รังเกียจของถูกงั้นเหรอ? ได้” เจี่ยงหลานยื่นมือของเธอออกไปตรงหน้าซูหยิงเซี่ยและพูดว่า “ลูกก็ให้เงินแม่มาสิ แม่จะซื้อของดี ๆ ที่มีราคาเหมาะสมกับคฤหาสน์หลังนี้กลับมาให้”“แม่คะ…” ซูหยิงเซี่ยโกรธจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
หลังจากที่เจี่ยงหลานเปิดประตู เธอยังคงประหลาดใจและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งคนเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เธอซื้อมา เจี่ยงหลานก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งทันที “พวกแกกำลังทำอะไร มาเอาของในบ้านของพวกเราไปทำไม?”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแผนกทรัพย์สินมีรูปร่างสูงใหญ่ เจี่ยงหลานจึงทำได้เพียงแค่ตะโกนร้องเอะอะโวยวาย แต่ไม่กล้าเข้าไปขัดขวาง แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่เก่งแต่ปากเท่านั้นหลังจากของที่เจี่ยงหลานซื้อมาถูกขนออกไปจนหมด หานซานเฉียนถึงค่อยเดินออกมาจากห้อง“หานซานเฉียน ทำไมแกยังไม่หยุดพวกเขาอีก พวกเขาเข้ามาปล้นตอนกลางวันแสก ๆ สิ่งของพวกนี้ฉันจ่ายเงินซื้อมานะ” เจี่ยงหลานพูดกับหานซานเฉียนอย่างกระวนกระวาย ราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟ“ผมเรียกพวกเขามาเอง” หานซานเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ“อะไรนะ!” เจี่ยงหลานตกตะลึง ก่อนจะรู้สึกเดือดดาลในทันทีและถามว่า “หานซานเฉียน แกหมายความว่ายังไง แกดูถูกของที่ฉันซื้อกลับมาพวกนี้อย่างงั้นเหรอ”“ใช่ครับ ผมดูถูกมันจริง ๆ นั่นแหละ” หานซานเฉียนพูดเสียงเย็น“แกสั่งให้พวกเขาเอาของ ๆ ฉันกลับมาคืนที่เดิมเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น…” ไสหัวไป
คุณนายคนนั้นพูดพร้อมกับนำกระเป๋าเงินหนัก ๆ ที่อยู่ในมือตีเข้าไปที่หัวของหญิงวัยกลางคนหญิงวัยกลางคนถูกคนอื่นชี้หน้า เธอได้แต่พูดซ้ำ ๆ ว่า “ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้เอาไปจริง ๆ นะเธอใส่ร้ายฉัน”“ใส่ร้ายแกอย่างงั้นเหรอ? ฉันจะใส่ร้ายคนต่ำต้อยอย่างแกไปทำไมกัน ฉันจำเป็นต้องกุเรื่องเพราะเงินแค่นี้เหรอ?” คุณนายคนนั้นพูด พร้อมกับใช้มือตบเข้าที่หน้าหญิงวัยกลางคน แต่ก็ยังไม่สะสาแก่ใจ เธอจึงใช้ส้นสูงเตะหล่อนซ้ำเข้าไปอีกสองที“พวกคุณมองดูฉันให้ดีสิ ๆ ฉันดูเหมือนคนที่ขัดสนกับเงินแค่ไม่กี่หมื่นหยวนเหรอ? ฉันแค่ไม่อยากให้กากเดนมนุษย์แบบนี้ไปทำให้คนอื่นเกิดความเสียหายอีกก็เท่านั้น” คุณนายคนนั้นกล่าวเมื่อมองจากการแต่งกายของเธอ เธอก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนที่ขัดสนเรื่องเงินจริง ๆ ดังนั้นฝูงชนจึงไม่ได้สงสัยในตัวเธอ และยิ่งกล่าวหาหญิงวัยกลางคนอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างช่วยตัวเองพูด คุณนายคนนั้นก็มีสีหน้าพึงพอใจ เธอเหลือบมองหญิงวัยกลางคนพร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า “ยัยหัวขโมย วันนี้ฉันจะทำให้ทุกคนได้เห็นหน้าตาของแก อย่าคิดว่าจะได้งานทำในเมืองหยุนเฉิงนี้อีก”รู้หน้าไม่รู้ใจ คำพูด
หานซานเฉียนพยักหน้ารับผู้คนที่มุงดูไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน ในใจอยากให้เรื่องมันรุกรามไปเลยด้วยซ้ำ อย่างไรวันนี้ก็คงหางานไม่ได้ มีการแสดงสนุก ๆ ให้ดูก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวแล้วหลังจากที่คุณนายโทรศัพท์หาใครบางคน เพียงไม่ถึงสิบนาทีก็มีกลุ่มคนมาที่กรมแรงงานแห่งนี้ กลุ่มคนอันธพาลที่ดูชั่วร้ายสิบกว่าคน ร่างกายท่อนบนสักรูปมังกรและนกฟีนิกซ์ แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี“ออกไป ออกไป อย่ามาขวางทางฉัน”ฝูงชนต่างพากันหลีกทางโดยอัตโนมัติ ชายวัยกลางคนที่หัวใกล้ล้านเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดอย่างที่สุดเมื่อคุณนายเห็นเขาก็เดินขากะเผลกไปยืนอยู่ข้าง ๆ คนนั้นแล้วพูดว่า “ที่รัก ไอ้หมาตัวนี้มันทำร้ายฉัน”“สารเลว กล้าทำร้ายผู้หญิงของหลิวกวง แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?” หลิวกวงดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้“หลิวกวง!”“คน ๆ นี้คือ หลิวกวง”“ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง มิน่าล่ะผู้หญิงคนนั้นถึงได้หยิ่งผยองขนาดนั้น”หลังจากที่หลิวกวงประกาศว่าตัวเองคือใคร ผู้คนในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึง เพราะพวกเขารู้จักคน ๆ นี้เป็นอย่างดีหลิวก
เมื่อม่อหยางเห็นหานซานเฉียนก็หัวเราะออกมาพร้อมกับเอามือแตะไปที่จมูกแล้วพูดว่า “บังเอิญจริง ๆ”“บังเอิญจริง ๆ” หานซานเฉียนพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างประชดประชัน “ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?”“ฉันมาคุยธุระนิดหน่อย ได้ยินลูกน้องบอกว่ามีเรื่องสนุกเกิดขึ้นที่นี่ จึงแวะมาดูหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนาย” ม่อหยางพูดหานซานเฉียนไม่ได้สงสัยว่าม่อหยางจะส่งคนมาติดตามเขา เพราะมันไม่จำเป็น การเจอกันของสองคนจึงเป็นเรื่องบังเอิญโดยสมบูรณ์ทันใดนั้นหลิวกวงที่เจ็บปวดจนเป็นตะคริวในที่สุดก็ได้สติ เมื่อเห็นม่อหยางก็รีบร้องเรียกเขาทันที “พี่หยางครับ ไอคนนอกคอกนี่มันกล้าทำร้ายผม พี่หยางต้องช่วยผมจัดการมันด้วยนะครับ”ม่อหยางมองหลิวกวงอย่างไม่สบอารมณ์ และหันไปพูดกับลูกสมุนของเขาว่า “จัดการซะ”คนจำนวนมากเดินไปหาหลิวกวง พร้อมกับต่อยเข้าไปที่หลิวกวงโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผู้คนที่กำมุงดูอยู่ต่างก็พากันตกตะลึงพูดอะไรไม่ออก ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน แม้แต่หลิวกวงก็ยังเรียกเขาว่าพี่ แถมเขายังทำร้ายหลิวกวงอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าหลิวกวง“พี่หยาง พี่หยาง พี่รีบบอกให้พวกเขาหยุดเถอะ ผมไม่ได้ก่อความวุ่น
อันที่จริงแล้วเธออาศัยจังหวะที่หลิวกวงไม่อยู่บ้าน ออกไปคลับเฮ้าส์ และพาชายหนุ่มล่ำบึกกลับไปที่บ้านด้วย แต่ว่าเธอจ่ายเงินไปแล้ว เขาจะขโมยเเงินของเธอทำไม?อีกอย่างเธอจะอธิบายเรื่องนี้ต่อหน้าหลิวกวงอย่างไร?“นังบ้า แอบนอกใจลับหลังฉันอย่างงั้นเหรอ” หลิวกวงโกรธจัดจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้“ไม่ ๆ ๆ ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้ทำ เธอปรักปรำฉัน ฉันไม่ได้นอกใจคุณนะ” คุณนายพูดออกมาอย่างตื่นตระหนกหลิวกวงฝืนความเจ็บปวดยืนขึ้นมา แล้วจับผมของคุณนายคนนั้นพร้อมกับตบเข้าไปที่หน้าของเธอหลายครั้ง “ฉันหาเงินมาเลี้ยงดูเธอ แต่เธอกลับเอาเงินของฉันไปเลี้ยงดูผู้ชาย นังผู้หญิงสารเลว คิดว่าฉันจะไม่กล้าฆ่าเธอใช่ไหม”คุณนายถูกตบจนเวียนหัวตาลาย ใบหน้าของเธอปูดบวมออกมา และพูดอ้อนวอนขอความเมตตาว่า “ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว”หลิวกวงเป็นผู้ชายที่รักศักดิ์ศรีคนหนึ่ง เขาได้รู้ว่าผู้หญิงของตัวเองคบชู้ต่อหน้าพยานตั้งหลายคน แล้วเขายอมได้ยังไง เขาจึงลงมือกับเธออย่างไร้ความปราณี หลังจากถีบผู้หญิงคนนั้นจนล้มลงกับพื้น เขาก็ยังเตะซ้ำไปอีกหลายทีผู้คนที่มองดูต่างไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ พวกเข
เมื่อพาเหอถิงเข้ามาในบ้าน ขณะที่หานซานเฉียนกำลังจะจัดหาห้องให้คุณป้าเหอถิงอยู่นั้น เจี่ยงหลานก็เดินลงมาจากข้างบนพอดี“หานซานเฉียน แกกำลังทำอะไรน่ะ แล้วคนนี้เป็นใคร?” เจี่ยงหลานถามหานซานเฉียนอย่างสงสัย“ป้าเหอ เธอคือคนที่ผมจ้างงานมาเป็นแม่บ้าน ทำอาหารและทำความสะอาดครับ” หานซานเฉียนกล่าวจ้างแม่บ้าน?เจี่ยงหลานเดินไปหาหานซานเฉียนด้วยความโกรธ และพูดเสียงเย็นว่า “ตอนนี้แกปีกกล้าขาแข็งจริง ๆ แล้วสินะ จ้างแม่บ้านโดยไม่ต้องถามความเห็นชอบจากฉันก่อนงั้นเหรอ ถ้าแกไม่อยากทำอาหารให้พวกเราก็บอกมาตรง ๆ ฉันจะทำเอง”“ได้สิครับ” หานซานเฉียนมองเจี่ยงหลานด้วยสายตาเฉยเมย แล้วหันกลับไปพูดกับป้าเหอถิงว่า “ป้าเหอครับ ในเมื่อมีคนทำอาหารแล้ว ป้าแค่ทำความสะอาดก็พอครับ”เจี่ยงหลานกัดฟังอย่างโกรธเคือง เธอจะทำอาหารได้อย่างไร? นับตั้งแต่หานซานเฉียนเข้ามาอยู่ในตระกูลซู เธอก็อยู่ห่างจากครัว และคุ้นชินกับชีวิตที่มีอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ เธอเพียงแค่พูดออกไปเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าหานซานเฉียนจะจริงจังกับมัน“อยากกินอาหารที่ฉันทำงั้นเหรอ แกไม่มีสิทธิ์” เจี่ยงหลานมองหานซานเฉียนอย่างเย็นชา และพูดต่อว่า “แกจ้างเธอเดือนล
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ