“ฉันคงไม่ได้มาสายหรอกใช่ไหม” หนานกงป๋อหลิงพูดกับหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้มหลังจากมองไปที่คนสองคนที่อยู่ด้านหลังหนานกงป๋อหลิง มันก็เป็นไปตามที่คาดไว้ หานซานเฉียนพยักหน้าและพูดว่า "ไม่ครับ แต่ของขวัญของคุณนั้นไม่เล็กเลยจริง ๆ"“ลูกสาวของนายสมควรได้รับเกียรตินี้ และในความคิดของฉัน มันยังไม่พอด้วยซ้ำ” หนานกงป๋อหลิงกล่าวคนอื่น ๆ อาจสับสนเล็กน้อยกับบทสนทนานี้ เพราะหนานกงป๋อหลิงมาด้วยมือเปล่า ไม่เห็นจะมีของขวัญใด ๆ เลยแต่ยังมีคนฉลาดบางคนที่เชื่อมโยงได้ถึงเหตุผลที่ป๋อเท่อและซีถ่านฟู๋มาปรากฏตัวที่นี่ ลูกศิษย์ของสองคนนี้ชื่อหานเนี่ยน และพวกเขาก็ปรากฏตัวในงานเลี้ยงหนึ่งร้อยวันของหานเนี่ยน นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนหรือว่าลูกศิษย์ของสองคนนี้ คือลูกสาวของหานซานเฉียนงั้นเหรอ!”"แต่...แต่ลูกสาวของหานซานเฉียนเพิ่งจะมีอายุได้แค่หนึ่งร้อยวันเองนะ จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง! ลูกศิษย์ของอาจารย์สองคนนี้เป็นเพียงเด็กทารกอย่างนั้นเหรอ?"“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ พวกเขามาอยู่ที่นี่กันแล้ว จะเป็นหานเนี่ยนอื่นไหนได้อีกล่ะ?”“ตลกจริง ๆ พวกเราเอาทั้งสองไปเปรียบเทียบกันอยู่ตั้งนาน แต่ความจริงคือทั้งสองคนนี้คือ
ชายวัยกลางคนแต่งตัวโทรม ๆ ที่ดูห่างไกลจาดสังคมคนรวยดูเป็นจุดเด่นขึ้นมา เพราะทุกคนที่นี่ล้วนแต่งตัวดี ผู้ชายสวมชุดสูทสั่งตัดที่ประณีตที่สุด ส่วนผู้หญิงต่างก็สวมเครื่องประดับอันมีค่าอยู่บนตัว แต่เขาคนนั้นกับห่อหุ้มร่างกายด้วยผ้าซอมซ่อราวกับขอทาน“ขอทานคนนี้มาจากไหน กล้าบุกเข้ามาในงานสำคัญเช่นนี้ได้ยังไงกัน”“รปภ.อยู่ไหน มาเอาตัวผู้ชายคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้ กลิ่นเหม็นขนาดนี้ กระทบต่อความอยากอาหารของพวกเราหมดแล้ว”“จางปี้เฟิง การรักษาความปลอดภัยของที่นี่นั้นแย่จริง ๆ ถึงได้ปล่อยให้คนขอทานคนนี้บุกเข้ามาได้น่ะ”ใบหน้าของจางปี้เฟิงซีดเผือด นี่คืออาณาเขตของเขา และปล่อยให้คนแบบนี้บุกเข้ามาในงานเลี้ยงหนึ่งร้อยวันของหานเนี่ยนแบบนี้ เขาจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ หากหานซานเฉียนเอาผิดกับเขาขึ้นมา เขาคงจะรับผิดชอบไม่ไหวแน่ ๆ ขณะที่จางปี้เฟิงกำลังจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หานซานเฉียนก็ปล่อยซูหยิงเซี่ย และพูดกับ จางปี้เฟิงว่า "ไม่ต้อง"จางปี้เฟิงนึกว่าหานซานเฉียนอารมณ์เสีย เขาจึงก้มศีรษะลงและตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนจะพูดขึ้นว่า "คุณหาน ผมขอโทษครับ มันเป็นความผิดของผมเอง หากค
เมื่อได้ยินคำว่าอี้เหล่า ดวงตาของหานเทียนหยางก็แข็งทื่อตำแหน่งของซื่อเหมินอี้เหล่าผู้นี้ ในเทียนฉีนั้นค่อนข้างทรงพลังมาก เขาต้องการรับหานซานเฉียนเป็นลูกศิษย์ หากเขามาที่หยุนเฉิงจริง ชีวิตของหานซานเฉียนก็ไม่น่าเป็นกังวล เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมให้หานซานเฉียนตายด้วยน้ำมือของฟางจ้าน"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น" หานเทียนหยางพูดพลางถอนหายใจ แม้ว่าหานซานเฉียนจะมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่หานเทียนหยางก็รู้ดีว่าอันตรายของเขาก็เริ่มใหญ่มากขึ้น และเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นในอนาคตเช่นกัน ในเวลานี้หานเทียนหยางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจเล็กน้อยต่อหานซานเฉียน เพราะตอนนี้เขาเป็นผู้ชายที่มีครอบครัวให้ต้องดูแล จึงมีภาระที่ต้องแบกอยู่บนบ่า แต่หลังจากเข้าร่วมเทียนฉีแล้ว เขาจะมีเวลามาสนใจดูแลเรื่องนี้แค่ไหนกัน?มีต้นไม้สูงตระหง่านมากมายในคฤหาสน์ปี้เฟิง จางปี้เฟิงซื้อต้นไม้เหล่านี้มาในราคาสูง ตอนนี้บนต้นไม้ใหญ่ อี้เหล่ากำลังนอนอยู่บนกิ่งไม้ ถ้าใครเห็นภาพนี้ คงจะกังวลว่าชายชราจะตกลงมาตายอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มั่นคง แต่ร่างกายของเขามั่นคงราวกับก้อนหิน“เจ้าหนู ถ้านายสามารถต้า
อี้เหล่าที่นอนอยู่บนกิ่งไม้ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน และสีหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมมากในฐานะคู่ต่อสู้ ฟางจ้านรู้สึกได้ว่าหานซานเฉียนแข็งแกร่งขึ้น และอี้เหล่าในฐานะผู้สังเกตการณ์ ก็ยิ่งสัมผัสถึงจุดนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสายตาของอี้เหล่า การเริ่มโจมตีของหานซานเฉียนสองครั้งนี้ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่หานซานเฉียนกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือสิ่งที่เขาไม่คิดไม่ถึง“เด็กคนนี้ทำให้ฉันประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย นายจะทำให้ฉันประหลาดใจได้อีกกี่ครั้งกันนะ” อี้เหล่าจ้องไปที่หานซานเฉียนด้วยดวงตาลุกโชน เห็นได้ชัดว่ามีความร้อนแรงในดวงตาของเขา ราวกับว่าได้เห็นของสะสมที่ล้ำค่า และอยากเอามาอยู่ในครอบครองในฐานะคนธรรมดา ซูหยิงเซี่ยไม่สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของหานซานเฉียนได้ เธอรู้แค่ว่าหานซานเฉียนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเลือดที่ไหลล้นออกมาจากมุมปากของเขาก็เกือบจะทำให้หัวใจของเธอแตกสลาย“คุณปู่เหยียน ปู่ช่วยซานเฉียนได้ไหมคะ?” ซูหยิงเซี่ยพูดกับเหยียนจุนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนเหยียนจุนมีสีหน้าจมดิ่งที่สับสน เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างกายของหานซานเฉียนเป็นอย่างไร แต่เขารู้สึกได้ว่า หานซานเฉียนต้องมีจุดประสง
ในฝูงชน ชายคนหนึ่งสวมหมวกปากเป็ดก้มหัวลงต่ำจนแทบจะมองไม่เห็นใบหน้า บุคคลนี้กำหมัดแน่น เขาคือหลินตง และกำลังกำหมัดแน่น เขาปะปนอยู่ในฝูงชนเพราะต้องการดูว่าคนไร้ประโยชน์อย่างหานซานเฉียนจะตายด้วยน้ำมือของฟางจ้านอย่างไรอย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดหวังว่าความแข็งแกร่งที่หานซานเฉียนแสดงออกมา จะสามารถบังคับให้ฟางจ้านให้ถอยกลับได้ แถมยังทำให้ฟางจ้านได้รับบาดเจ็บอีกด้วยเขาดำรงตำแหน่งความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ในเทียนฉี แต่หลังจากเห็นความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน เขาก็รู้ว่าเมื่อหานซานเฉียนเข้าร่วมเทียนฉีอย่างแท้จริงแล้ว หานซานเฉียนจะลบชื่อของเขาออกไปอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่เขาไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามดังนั้นสิ่งที่หลินตงจะทำได้คือ ต้องฆ่าหานซานเฉียนให้ตายก่อนที่เขาจะเข้าร่วมเทียนฉีในใจของหลินตง หานซานเฉียนเป็นเพียงขยะ แถมเขายังเรียกหานซานเฉียนว่าคนไร้ประโยชน์มาโดยตลอด แต่ในใจของเขาถือว่าหานซานเฉียนเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่ ภายใต้สถานการณ์นี้ เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกหานซานเฉียนแบบนั้น เพียงแต่ว่าหลินตงไม่เต็มใจที่จะยอมรับมันเท่านั้นเอง“นายกำลังทำอะไรอยู่!” หลินตงกัดฟันและมองไปที่ฟางจ
พื้นผิวของทะเลสาบกระเพื่อมเบา ๆ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของอี้เหล่า พวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่าจู่ ๆ ก็มีคนบนเกาะมรกตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน“นั่นใครน่ะ แล้วมาได้ยังไง!”“ทำไมจู่ ๆ ถึงมีคนเพิ่มขึ้นมาล่ะ เกิดอะไรขึ้น!”“เขาหายตัวได้งั้นเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงไปโผล่ที่นั่นได้”ผู้คนต่างรู้สึกประหลาดใจ และแสดงสีหน้าเหลือเชื่อเมื่ออี้เหล่าปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันในเวลานี้ คนที่ตกใจที่สุดคือซูหยิงเซี่ย เพราะเธอยืนอยู่ข้าง ๆ อี้เหล่า และแม้จะอยู่ในระยะใกล้ขนาดนั้น เธอก็ยังไม่รู้ว่าอี้เหล่าไปโผล่ตรงนั้นได้อย่างไรดูเหมือนว่าในพริบตาเดียว อี้เหล่าที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็ไปโผล่บนเกาะมรกตแล้ว“นี่…” ซูหยิงเซี่ยมองไปที่อี้เหล่าบนเกาะมรกตอย่างตกตะลึง โดยที่ไม่รู้ว่าจะใช้คำใดมาอธิบายความรู้สึกของเธอตอนนี้ดาบอรหันต์ของฟางจ้านเล็งไปที่คอของหานซานเฉียนแล้ว หากดาบเล่มนี้แทงลงไปในลำคอ หานซานเฉียนจะต้องจมกองเลือดอย่างแน่นอนในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ได้ยินแค่เสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ดาบในฝ่ามือของเขาถูกสะบัดออกไปด้วยนิ้วของอี้เหล่า“เป็นไปได้ยังไง!” ฟางจ้านโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว สาเหตุที่ดาบอรหันต์ของเข
หลังจากการหยุดชะงักช่วงสั้นๆ งานเลี้ยงร้อยวันก็ดำเนินไปตามปกติ แขกทุกคนที่เข้าร่วมในวันนี้รู้สึกว่าของขวัญที่พวกเขานำมาในงานเลี้ยงนั้นคุ้มค่ามาก ท้ายที่สุด พวกเขาได้เห็นการต่อสู้อันน่าตื่นเต้น แม้ว่าจะไม่สิ้นสุดด้วยชีวิตหรือความตาย แต่การแสดงของหานซานเฉียน ในการต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้เขามีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นในเมืองหยุนเฉิงอย่างแน่นอนหลังจากที่ได้เห็นทักษะของหานซานเฉียนแล้ว คนที่กลัวหานซานเฉียนอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งไม่กล้าร้ายต่อหานซานเฉียน ตำแหน่งที่มั่นคงของเขาในหยุนเฉิงไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้“ซานเฉียนต้องไปโรงพยาบาลไหม?” หลังจากกลับมาที่ทะเลสาบ ซูหยิงเซี่ยก็วิ่งไปหาหานซานเฉียนทันที และถามด้วยความกังวลหานซานเฉียนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นในตัวเขา มีพลังแปลกประหลาดที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา และค่อยๆ ช่วยในการฟื้นตัวของเขา นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับหานเซี่ยว หานซานเฉียนก็ยังเคยไม่รู้สึกแบบนี้ เขารู้ว่าร่างกายของเขาดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างหานซานเฉียนส่ายหัวแล้
คำพูดของซูหยิงเซี่ยทำให้หญิงชราตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมทั้งขมวดคิ้วผู้หญิงคนนี้คือซู่หยิงเซี่ยเนี่ยนะ จะเป็นไปได้ยังไง?วันนี้เป็นงานเลี้ยงหนึ่งร้อยวันของหานเนี่ยน ทุกคนในตระกูลหานอยู่ที่คฤหาสน์ปี้เฟิง ซูหยิงเซี่ยตัวจริงจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรสัญชาตญาณแรกของหญิงชราบอกเธอว่า ผู้หญิงตรงหน้าจงใจใช้ชื่อของซูหยิงเซี่ยมาขู่ให้เธอกลัว“ยัยจิ้งจอก เธอนี่ไม่เจียมตัวเอาซะเลย คนอย่างเธอเนี่ยนะจะเป็นซูหยิงเซี่ย ล้อเล่นอยู่หรือไง” หญิงชราพูดอย่างดูถูกพูดจบเธอก็มองไปที่หานซานเฉียน เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้มาด้วยกัน หญิงชราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูดต่อ "ถ้าเธอคือซูหยิงเซี่ย งั้นเขาก็คือหานซานเฉียนงั้นเหรอ"หานซานเฉียนพยักหน้าและกล่าวว่า "หญิงชรา คุณเดาถูกแล้ว ผมคือหานซานเฉียน"หญิงชรายิ้ม สองคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ พวกเขากล้าแกล้งเป็นหานซานเฉียนกับซูหยิงเซี่ย ที่นี่คือหยุนเฉิงนะ ถ้าหานซานเฉียนตัวจริงรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะมีชีวิตรอดอยู่ไหม?“พวกเธอคุยโวกันไปเถอะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลากับพวกเธอแล้ว เสียเวลาลงทะเบียนของฉันหมด” พูดจบ หญิงชราก็ผลักซูหยิงเซี่ยออกไปอย่างแรงแม้ว่าเธอจะอายุมาก แต่ควา