ภาพช็อตที่เกิดขึ้นในฉากนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้หลายคนมีสีหน้าตกตะลึง และถึงกับรู้สึกว่าชาวาบไปทั่วหนังศรีษะเป็นไปได้อย่างไร?หานซานเฉียนจะสามารถฆ่าหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวได้อย่างไรความแข็งแกร่งของหานเซี่ยวนั้นสูงกว่าหานซานเฉียนมาก นี่เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเคยเห็นมาอย่างชัดเจนตอนนั้นที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหาน ถ้าหม่าอวี้ไม่ปรากฏตัวหานซานเฉียนก็คงตายไปนานแล้วและเพราะแบบนี้ พวกเขาจึงเชื่อว่าครั้งนี้หานซานเฉียนจะตายอย่างแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าหานซานเฉียนจะเป็นคนที่เดินออกจากวิลล่า โดยลากร่างของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวมากับเขาด้วย!ระยะเวลาสามนาทีเต็ม ไม่มีใครสามารถคืนสติจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ที่หานซานเฉียนนำมาให้ได้เลย“เขา...เขาฆ่าหานเทียนเซิงจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ!”“เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหานเซี่ยวได้อย่างไร”“ตั้ง...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หานซานเฉียนจะเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในพื้นที่เขตจีน ยุคของหานเทียนเซิงได้สิ้นสุดลง และยุคของหานซานเฉียนก็มาถึงแล้ว!”เสียงของผู้พูดสั่นเทาเพราะความตกใจ และแล้วความกลัวในใจพวกเขาก็รุนแรงมากจนไม่สาม
น้ำเสียงของหม่าอวี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง มันเป็นการตัดสินใจยืนกรานของเขาเองที่สั่งให้หม่าเฟยห่าวเอาใจหานซานเฉียน เพราะหากเขาได้เป็นลูกศิษย์ของอี้เหล่า มันก็คุ้มค่าที่จะประจบประแจงหานซานเฉียน แต่หม่าอวี้ไม่คิดว่าเรื่องมันจะดำเนินการมาถึงจุดนี้ตอนนี้หานซานเฉียนตายแล้ว เสียชีวิตแล้ว และตระกูลหม่าก็ถือว่าเป็นศัตรูของหานเทียนเซิงอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถปกป้องตระกูลหม่าจากหานเทียนเซิงได้ในตอนที่เขาอยู่ในอเมริกา แต่เขาเป็นคนของเทียนฉี อย่างไรก็ต้องไปจากเขตจีนไม่ช้าก็เร็ว และด้วยนิสัยของหานเทียนเซิงจะยอมปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไรดังนั้นการออกจากเขตจีนจึงเป็นทางเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของสองพ่อลูกได้แต่หลังจากได้ยินคำพูดของหม่าอวี้ หม่าเฟยห่าวก็หัวเราะ“ยังหัวเราะอะไรอยู่อีก ฉันบอกว่าให้รีบหนีไปไง นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ” หม่าอวี้พูด“ลุงครับ ทำไมต้องหนีไปด้วยล่ะ พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” หม่าเฟยห่าวกล่าว"นายจะอยู่ที่นี่รอความตายหรือไง คนอย่างหานเทียนเซิงไม่มีทางปล่อยพวกนายไปแน่" หม่าอวี้เคร่งขรึม หม่าเฟยห่าวต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงยังเลือกที่จะอยู่ในเขตจีนล่ะ?“ลุงคร
เมื่อไม่สามารถติดต่อหานเทียนเซิงได้ หลินตงก็หมดความอดทนจนต้องกลับเข้าไปในเมืองไม่จำเป็นต้องสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นในวิลล่าของหานซานเฉียน เพราะเรื่องนี้แพร่กระจายในบรรดาตระกูลชนชั้นสูง และทุกคนต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่หลินตงรู้ความจริง เขาก็โกรธมากสำหรับเขา หานซานเฉียนต้องเป็นคนตายไป แต่ตอนนี้เขากลับสามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เลยการเสียชีวิตของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยว ทำให้หลินตงขาดหุ่นเชิดที่สามารถจัดการกับหานซานเฉียนไป ซึ่งนั่นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาการคิดอยากจะฆ่าหานซานเฉียนด้วยตัวเองแวบขึ้นมาในใจของหลินตง แต่ท้ายที่สุดแล้วระหว่าความโกรธกับหลักเหตุผล เขาก็เลือกอย่างหลัง เพราะเขารู้ว่าเขาทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทั้งเทียนฉีรู้ว่าอี้เหล่าต้องการยอมรับหานซานเฉียนเป็นลูกศิษย์ แล้วถ้าเขาฆ่าหานซานเฉียนมันจะทำให้คนหลายคนตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอนยิ่งเป็นคนที่เก่งกาจ เขาก็ยิ่งมีโอกาสถูกอิจฉามากขึ้นเท่านั้นในฐานะลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของเทียนฉี หลินตงจึงมีศัตรูมากมายในเทียนฉี และเขาจะปล่อยให้คนเหล่านี้พบโอกาสที่จะซ้ำเติมเขาไม่ได้เด็ดขาด แต่หากจะให้หลินตงยอมมองหานซานเ
เกาะเล็ก ๆ ตระกูลหนานกงหนานกงป๋อหลิงที่คอยจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตจีนอย่างใกล้ชิด เขารู้สึกตื่นเต้นมากในเวลานี้ มากกว่าตอนที่เขาได้รับทองคำก้อนแรกเสียอีก หานซานเฉียนได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในเขตจีน และหนานกงป๋อหลิงก็รู้ดีว่าสิ่งนี้จะทำให้เขามีสถานะที่สูงขึ้นในเทียนฉียิ่งไปกว่านั้นอี้เหล่าต้องการรับเขาเป็นลูกศิษย์ ความสำเร็จในอนาคตของเขาก็จะยิ่งไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่หนานกงป๋อหลิงรู้สึกอย่างแท้จริง ว่าตระกูลหนานกงกำลังจะได้เป็นสาขาย่อยของเทียนฉีคำว่าสาขาย่อยอาจจะดูขัดใจไปบ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้กับแวดวงไหน หากใช้กับเทียนฉีที่สูงกว่าโลกธรรมดา ๆ มันก็เป็นสาขาย่อยที่คุ้มค่าหนานกงป๋อหลิงรู้อยู่แล้วว่าหนานกงซุนจะต้องตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียน แต่เขาก็ไม่โทษหานซานเฉียนเลย กลับรู้สึกว่าการที่หนานกงซุนตายก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว เพราะเขาไปหาเรื่องหานซานเฉียนเองดังนั้นก็สมควรตายถูกต้องแล้วตอนนี้หนานกงป๋อหลิงกำลังวางแผนให้หานซานเฉียนเป็นผู้นำตระกูลหนานกง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไรก็ตาม และไม่ว่าหานซานเฉียนจะเรีย
หม่าอวี้ถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้จากไปเป็นเวลานาน แต่เขตจีนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครคิดว่าหานซานเฉียนจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากหานเทียนเซิงได้ สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ผู้คนในเขตจีนตกตะลึงเท่านั้น แม้แต่อี้เหล่าก็ดูเหมือนจะตกใจกับเหตุการณ์นี้มากเช่นกันเหตุผลที่หม่าอวี้ไม่ได้กลับมาในทันที เป็นเพราะเขาได้รับโทรศัพท์จากอี้เหล่า อี้เหล่าห้ามไม่ให้เขาเข้าไปแทรกแซงเรื่องใด ๆ ของหานซานเฉียน เว้นเสียแต่หานซานเฉียนจะตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น เขาค่อยออกหน้า “เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าหานซานเฉียนจะทำเรื่องเหลือเชื่อได้อีกครั้ง” หม่าอวี้ถอนหายใจในเวลานี้ หม่าเฟยห่าวรู้สึกว่าเป็นเรื่องฉลาดมากที่หม่าอวี้สั่งให้เขาเป็นลูกน้องของหานซานเฉียน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ และจะไม่มีคุณสมบัติที่จะได้พบหานซานเฉียน แม้ว่าจะรออยู่ที่ประตูวิลล่าเป็นเวลาสิบวัน หรือครึ่งเดือนก็ตาม “ลุงครับ เป็นเพราะการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าของลุง ที่สั่งให้ผมเอาใจพี่ซานเฉียนแต่เนิ่น ๆ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีโอกาสได้อยู่กับพี่ซานเฉียนในตอนนี้” หม่าเฟยห่าวพูดด้วยรอยยิ้มหม่าอวี้ตบไหล่หม่าเฟยห่าวแล้วพูดว่า "ตั้งแต่วันนี
หม่าอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และพยายามตอบคำถามของหานซานเฉียนนด้วยวิธีต่าง ๆ เพราะการพูดอย่างตรงไปตรงมาอาจทำให้หานซานเฉียนปฏิเสธอี้เหล่ามากขึ้น แต่ความลังเลเพียงช่วงสั้น ๆ นี้ทำให้หานซานเฉียนสามารถยืนยันได้ว่าเขาเดาถูก โดยที่หม่าอวี้ไม่จำเป็นต้องตอบเขาเลย“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมรู้คำตอบแล้ว ดูเหมือนว่าอี้เหล่าคนที่จะรับผมเป็นลูกศิษย์ ยังต้องการทดสอบผมสินะ” หานซานเฉียนกล่าวหม่าอวี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วพูดว่า "มันเหนื่อยจริง ๆ ที่ต้องรับมือกับคนฉลาดแบบคุณ คุณสามารถเดาออกทุกอย่างเลย"“ถ้าเรื่องแค่นี้ผมยังเดาอะไรไม่ได้ คุณคิดว่าผมโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆหากเขายังคงต่อสู้กับเรื่องนี้ต่อไป หม่าอวี้กลัวว่าเขาจะไม่สามารถต้านทานได้ หากเขาพูดอะไรผิดไป เขาจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้เลย ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วถามว่า "คุณจะทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้ตระกูลชนชั้นสูงในเขตจีนกำลังแอบวางแผนเอาใจคุณ ขอแค่คุณพูดมาคำเดียว ว่าจะทำให้คุณพอใจ ทั่วทั้งเขตจีนก็จะเป็นของคุณ”“ตระกูลหานไร้ผู้นำ แต่ก็ยังมีคนรุมเร้าอยู่ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะสละสถานะของตัวเอง แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เ
หานซานเฉียนพักอยู่บ้านทั้งเดือน เดิมทีเขาตั้งใจที่จะออกไปเดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ และถือโอกาสออกไปจัดการปัญหาของตระกูลหาน แต่เนื่องจากการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหานเนี่ยน ทำให้หานซานเฉียนไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นหลังจากอุ้มหานเนี่ยนกลับบ้านอย่างระมัดระวัง หานซานเฉียนก็นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางแข็งทื่อ เพราะกลัวว่าวิธีที่เขาอุ้มหานเนี่ยนจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวแต่ดูเหมือนว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จะเพลิดเพลินไปกับการที่ถูกหานซานเฉียนอุ้ม เธอมองตรงไปที่หานซานเฉียนด้วยดวงตากลมโตเหอถิงพูดด้วยรอยยิ้ม "ดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักคุณนะคะ ปกติแล้วเด็กเล็กจะกินแล้วก็นอน ป้าไม่เคยเห็นเธอตื่นตัวแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ"ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ “ถึงเวลาอึแล้ว ส่งเธอมาให้ป้าสิคะ เดี๋ยวป้าจะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เธอ” เหอถิงกล่าว“ผมอยากทำครับ” หานซานเฉียนกล่าว“คุณทำเป็นเหรอคะ?” เหอถิงถามด้วยรอยยิ้ม หานซานเฉียนเป็นคุณพ่อมือใหม่ และสำหรับคุณพ่อมือใหม่นั้น การเปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นงานที่ยากมาก“ลองเรียนรู้ดูก็ได้นี่ครับ” หลังจากที่หานซานเฉียนพูดจบ เขาก็มองไปที
จงหมิงนั่งนิ่ง แม้ว่าผู้นำจะพูดแบบนั้น เขาก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเมื่อเห็นแบบนี้ สมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ ก็เยาะเย้ยจงหมิงอีกครั้ง“จงหมิง นายคงไม่ได้จะหน้าด้านอยากอยู่ต่อหรอกใช่ไหม”“ถึงนายจะไม่พูดอะไร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น”“นายรีบไซหัวออกไปซะ ตระกูลจงไม่ต้องการขยะแบบนาย”ตอนนั้นเอง จู่ ๆ จงหมิงก็ลุกขึ้นยืน และคนเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าพอใจ ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะทนคำดูถูกเหล่านี้ไม่ได้แล้ว ในที่สุดตระกูลจงก็ไม่ต้องเลี้ยงดูคนไร้ความสามารถแบบนี้อีกต่อไปแต่จงหมิงที่ลุกขึ้นยืนไม่ได้ออกไปไหน แต่หันไปพูดกับลุงของเขาแทน "คุณลุง สาเหตุที่พ่อแม่ของผมต้องตายด้วยน้ำมือของหานเทียนเซิง ก็เป็นเพราะคุณผลักพวกเขาออกไปรับผิดชอบแทนตัวเอง ผมจำไม่ผิดใช่ไหม"ลุงของจงหมิงเมินเฉย เมื่อตอนนั้นเขาเป็นคนที่ไล่พ่อแม่ของจงหมิงออกจากบ้านจริง ๆ เพื่อปกป้องตระกูลจง สองคนนี้จำเป็นต้องตาย และเขาก็ไม่ได้คิดถึงความเป็นพี่เป็นน้องเลย “ใช่แล้วยังไง ถ้าพวกเขาไม่ตาย ทั้งตระกูลจงก็จะซวยไปด้วย แกคิดว่าพวกเขาควรตายไหมล่ะ” ลุงของจงหมิงกล่าวอย่างดูถูกจงหมิงยิ้มเบา ๆ ช่างน่ารังเกีย