เมื่อรถของหานเทียนเซิงขับตรงไปยังบ้านของหานซานเฉียน หานเทียนเซิงก็ถามหานเซี่ยวในรถว่า "ฆ่า หานซานเฉียนแล้ว อี้เหล่าจะปล่อยพวกเราไปไหม? หลินตงยืมมือของเราฆ่าหานซานเฉียน ก็แค่อยากปัดความรับผิดชอบเท่านั้น ”หานเซี่ยวพยักหน้า เรื่องง่าย ๆ แบบนี้พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?แต่สำหรับหานเทียนเซิง แม้ว่าจะทำให้อี้เหล่าขุ่นเคือง เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้ เพราะถ้าหานซานเฉียนไม่ตาย เขาก็จะจะตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียน“แผนของหลินตงนั้นแยบยลมาก เขารู้ว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำสิ่งนี้” หานเซี่ยวพูดอย่างช่วยไม่ได้ จากมุมมองหนึ่ง เขาไม่อยากรุกรานคนอย่างอี้เหล่า ผู้ควบคุมซื่อเหมินแห่งเทียนฉี ที่แม้ว่าหานเซี่ยวจะเงยหน้ามองขึ้นไปก็ไม่มีทางมองเห็นได้ เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าการยั่วยุบุคคลแบบนี้จะเกิดผลอะไรตามมาหานเทียนเซิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำสิ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมา ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร หากเขาทำให้อี้เหล่าขุ่นเคือง เขาก็ทำได้เพียงรอจนกว่าอี้เหล่าจะปรากฏตัวแล้วค่อยว่ากัน“ไม่ว่ายังไง หานซานเฉียนจะต้องตาย ศักดิ์ศรีของฉันต้องไม่ถูกทำ
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหานซานเฉียนทำให้ฉี๋อีหยุนหวาดกลัว โดยเฉพาะสายตาของเขา ซึ่งทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าหานซานเฉียนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นี่ไม่ใช่หานซานเฉียนที่เธอคุ้นเคยอีกต่อไป แต่เหมือนปีศาจมากกว่าแต่หานเทียนเซิงไม่รู้สึกกลัวกับการเปลี่ยนแปลงของหานซานเฉียนเลย เขายังคงมองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเยาะเย้ย จนกระทั่งหานเซี่ยวมายืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หานเทียนเซิงจึงสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติไป“เกิดอะไรขึ้น?” หานเทียนเซิงถามหานเซี่ยวเสียงต่ำหานเซี่ยวขมวดคิ้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในขณะนี้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามที่ทรงพลังจากหานซานเฉียน และภัยคุกคามนี้ไม่ควรมีอยู่ เพราะในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาสามารถบดขยี้หานซานเฉียนได้อย่างสมบูรณ์“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ระวังตัวด้วยครับ” หานเซี่ยวเตือนหานเทียนเซิงหานเทียนเซิงบอกว่าตัวเองไม่กลัวความตาย และศักดิ์ศรีสำคัญกว่าชีวิต แต่ในความเป็นจริง ชายชราคนนี้หมดไฟไปนานแล้ว อาจเป็นเพราะเขาใช้ชีวิตอย่างสบายมานานเกินไป เมื่อชีวิตของเขาถูกคุกคามเข้าจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวดังนั้นหลังจากฟังคำพูดของหานเซี่ยวแล้ว หานเทียนเซิ
การที่คนจะกลัวความตายหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูด แต่มันจะสะท้อนให้เห็นจากการกระทำหานเทียนเซิงซึ่งปากบอกว่าตัวเองไม่กลัวตาย ได้แสดงความกลัวออกมาในขณะนี้เขายืนตัวสั่นอยู่ตรงมุม หน้าตาดูซีดเซียว และไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปการตายของหานเซี่ยวทำให้หานเทียนเซิงรู้สึกสิ้นหวัง และหลงเหลือเพียงความกลัว เมื่อต้องเผชิญกับความโกรธของหานซานเฉียนศักดิ์ศรีที่ไหนจะมาสำคัญไปกว่าชีวิตน่าเสียดายที่คำพูดของเขาทำให้หานซานเฉียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“คุณยังมีหน้ามาพูดถึงปู่ผมอีกเหรอ ตอนนั้นคุณบีบบังคับให้เขาคุกเข่าลง และขับไล่ออกจากอเมริกา คุณเคยคิดไหมว่าเขาเป็นน้องชายของคุณ?” หานซานเฉียนพูดด้วยใบหน้าเย็นชา แม้ว่าเขาจะไม่รู่ว่าหานเทียนหยางต้องทนทุกข์ทรมานกับความอัปยศอดสูมากแค่ไหนในตอนนั้น แต่เมื่อดูจากท่าทางของที่หานเทียนเซิงแสดง เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าปู่ของเขาต้องเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจเพียงใด“แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นผู้อาวุโสของนาย นายจะฆ่าฉันได้ยังไง ไม่กลัวถูกฟ้าผ่าเอาหรือไง?” หานเทียนเซิงพูดคำเหล่านี้ออกมา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้หานเทียนหยางเพื่อร้องขอความเมตต
แม้ว่าหยวนหลิงจะไม่ประทับใจหานซานเฉียนมากนัก แต่เธอก็ได้รู้จักกับเขามาระยะหนึ่งแล้ว และหานซานเฉียนก็เป็นเจ้านายของเธอด้วย มาวันนี้เขาเจอกับเรื่องแบบนี้ มันก็อดทำให้เธอรู้สึกสะเทือนอารมณ์ไม่ได้เพราะเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยแต่คิดในอีกแง่หนึ่ง เขาไปยั่วยุหานเทียนเซิงเอง ดังนั้นก็สมควรแล้ว ในพื้นที่เขตจีนทั้งหมด ใครกล้ามีปัญหากับหานเทียนเซิงกันล่ะ?สถานะของหานเทียนเซิงในพื้นที่เขตจีน เปรียบเสมือนกับจักรพรรดิ ในเมื่อเขารนหาที่ตายเอง แล้วจะโทษใครได้?“คุณคิดว่าเขาตายแล้วจริง ๆ เหรอ?” ถังจงถามหยวนหลิงยิ้ม หานเทียนเซิงไปหาเขาถึงบ้าน แถมยังได้ยินมาว่าเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้คนที่สังเกตการณ์อยู่ที่นั่นบอกว่า เขาไม่เพียงแต่ตายเท่านั้น แต่ยังตายอย่างน่าสังเวชอีกด้วย เรื่องนี้จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร“คุณอาจไม่รู้ว่าหานเทียนเซิงคือใคร เขาไม่เคยออมมือกับใครทั้งนั้น” หยวนหลิงกล่าว“ในความคิดของผม คุณไม่รู้จักพี่ซานเฉียนดีมากกว่า” ถังจงพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“หมายความว่าอะไร?” หยวนหลิงขมวดคิ้วและมองถังจงด้วยความสับสน“ถ้าผมบอกว่าคนที่ตายคือหานเทียนเซิง คุณเชื่อไหม?” ถังจงกล่าวเ
ภาพช็อตที่เกิดขึ้นในฉากนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้หลายคนมีสีหน้าตกตะลึง และถึงกับรู้สึกว่าชาวาบไปทั่วหนังศรีษะเป็นไปได้อย่างไร?หานซานเฉียนจะสามารถฆ่าหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวได้อย่างไรความแข็งแกร่งของหานเซี่ยวนั้นสูงกว่าหานซานเฉียนมาก นี่เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเคยเห็นมาอย่างชัดเจนตอนนั้นที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหาน ถ้าหม่าอวี้ไม่ปรากฏตัวหานซานเฉียนก็คงตายไปนานแล้วและเพราะแบบนี้ พวกเขาจึงเชื่อว่าครั้งนี้หานซานเฉียนจะตายอย่างแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าหานซานเฉียนจะเป็นคนที่เดินออกจากวิลล่า โดยลากร่างของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวมากับเขาด้วย!ระยะเวลาสามนาทีเต็ม ไม่มีใครสามารถคืนสติจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ที่หานซานเฉียนนำมาให้ได้เลย“เขา...เขาฆ่าหานเทียนเซิงจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ!”“เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหานเซี่ยวได้อย่างไร”“ตั้ง...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หานซานเฉียนจะเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในพื้นที่เขตจีน ยุคของหานเทียนเซิงได้สิ้นสุดลง และยุคของหานซานเฉียนก็มาถึงแล้ว!”เสียงของผู้พูดสั่นเทาเพราะความตกใจ และแล้วความกลัวในใจพวกเขาก็รุนแรงมากจนไม่สาม
น้ำเสียงของหม่าอวี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง มันเป็นการตัดสินใจยืนกรานของเขาเองที่สั่งให้หม่าเฟยห่าวเอาใจหานซานเฉียน เพราะหากเขาได้เป็นลูกศิษย์ของอี้เหล่า มันก็คุ้มค่าที่จะประจบประแจงหานซานเฉียน แต่หม่าอวี้ไม่คิดว่าเรื่องมันจะดำเนินการมาถึงจุดนี้ตอนนี้หานซานเฉียนตายแล้ว เสียชีวิตแล้ว และตระกูลหม่าก็ถือว่าเป็นศัตรูของหานเทียนเซิงอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถปกป้องตระกูลหม่าจากหานเทียนเซิงได้ในตอนที่เขาอยู่ในอเมริกา แต่เขาเป็นคนของเทียนฉี อย่างไรก็ต้องไปจากเขตจีนไม่ช้าก็เร็ว และด้วยนิสัยของหานเทียนเซิงจะยอมปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไรดังนั้นการออกจากเขตจีนจึงเป็นทางเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของสองพ่อลูกได้แต่หลังจากได้ยินคำพูดของหม่าอวี้ หม่าเฟยห่าวก็หัวเราะ“ยังหัวเราะอะไรอยู่อีก ฉันบอกว่าให้รีบหนีไปไง นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ” หม่าอวี้พูด“ลุงครับ ทำไมต้องหนีไปด้วยล่ะ พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” หม่าเฟยห่าวกล่าว"นายจะอยู่ที่นี่รอความตายหรือไง คนอย่างหานเทียนเซิงไม่มีทางปล่อยพวกนายไปแน่" หม่าอวี้เคร่งขรึม หม่าเฟยห่าวต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงยังเลือกที่จะอยู่ในเขตจีนล่ะ?“ลุงคร
เมื่อไม่สามารถติดต่อหานเทียนเซิงได้ หลินตงก็หมดความอดทนจนต้องกลับเข้าไปในเมืองไม่จำเป็นต้องสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นในวิลล่าของหานซานเฉียน เพราะเรื่องนี้แพร่กระจายในบรรดาตระกูลชนชั้นสูง และทุกคนต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่หลินตงรู้ความจริง เขาก็โกรธมากสำหรับเขา หานซานเฉียนต้องเป็นคนตายไป แต่ตอนนี้เขากลับสามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เลยการเสียชีวิตของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยว ทำให้หลินตงขาดหุ่นเชิดที่สามารถจัดการกับหานซานเฉียนไป ซึ่งนั่นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาการคิดอยากจะฆ่าหานซานเฉียนด้วยตัวเองแวบขึ้นมาในใจของหลินตง แต่ท้ายที่สุดแล้วระหว่าความโกรธกับหลักเหตุผล เขาก็เลือกอย่างหลัง เพราะเขารู้ว่าเขาทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทั้งเทียนฉีรู้ว่าอี้เหล่าต้องการยอมรับหานซานเฉียนเป็นลูกศิษย์ แล้วถ้าเขาฆ่าหานซานเฉียนมันจะทำให้คนหลายคนตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอนยิ่งเป็นคนที่เก่งกาจ เขาก็ยิ่งมีโอกาสถูกอิจฉามากขึ้นเท่านั้นในฐานะลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของเทียนฉี หลินตงจึงมีศัตรูมากมายในเทียนฉี และเขาจะปล่อยให้คนเหล่านี้พบโอกาสที่จะซ้ำเติมเขาไม่ได้เด็ดขาด แต่หากจะให้หลินตงยอมมองหานซานเ
เกาะเล็ก ๆ ตระกูลหนานกงหนานกงป๋อหลิงที่คอยจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตจีนอย่างใกล้ชิด เขารู้สึกตื่นเต้นมากในเวลานี้ มากกว่าตอนที่เขาได้รับทองคำก้อนแรกเสียอีก หานซานเฉียนได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในเขตจีน และหนานกงป๋อหลิงก็รู้ดีว่าสิ่งนี้จะทำให้เขามีสถานะที่สูงขึ้นในเทียนฉียิ่งไปกว่านั้นอี้เหล่าต้องการรับเขาเป็นลูกศิษย์ ความสำเร็จในอนาคตของเขาก็จะยิ่งไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่หนานกงป๋อหลิงรู้สึกอย่างแท้จริง ว่าตระกูลหนานกงกำลังจะได้เป็นสาขาย่อยของเทียนฉีคำว่าสาขาย่อยอาจจะดูขัดใจไปบ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้กับแวดวงไหน หากใช้กับเทียนฉีที่สูงกว่าโลกธรรมดา ๆ มันก็เป็นสาขาย่อยที่คุ้มค่าหนานกงป๋อหลิงรู้อยู่แล้วว่าหนานกงซุนจะต้องตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียน แต่เขาก็ไม่โทษหานซานเฉียนเลย กลับรู้สึกว่าการที่หนานกงซุนตายก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว เพราะเขาไปหาเรื่องหานซานเฉียนเองดังนั้นก็สมควรตายถูกต้องแล้วตอนนี้หนานกงป๋อหลิงกำลังวางแผนให้หานซานเฉียนเป็นผู้นำตระกูลหนานกง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไรก็ตาม และไม่ว่าหานซานเฉียนจะเรีย
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ