หานซานเฉียนรู้ว่าหานเทียนเซิงจะมาที่บ้านของเขาเร็ว ๆ นี้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะไปไหน และรออยู่ที่บ้าน เพราะอย่างไรเขาก็ต้องต้องเผชิญมันอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหลบหนี อีกอย่างที่นี่คืออเมริกา เว้นแต่เขาจะออกไปจากประเทศนี้ ไม่อย่างนั้นหานเทียนเซิงก็สามารถหาเขาเจออยู่ดี ไม่ว่าเขาจะซ่อนอยู่ที่ไหนก็ตาม“วางแผนจะตายไปพร้อมกับผมจริง ๆ งั้นเหรอ?” หานซานเฉียนถามฉี๋อีหยุนทุกครั้งที่ฉี๋อีหยุนปรากฏตัวต่อหน้าหานซานเฉียน เธอจะแต่งตัวสวยงาม แต่คราวนี้เธอปรากฏตัวอย่างเร่งรีบและไม่มีเวลาแต่งหน้าด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยังคงมีเสน่ห์โดยไม่ต้องแต่งเติม ขอแค่เธอไม่ได้สวมใส่แว่นตา ความงามของฉี๋อีหยุนนั้นจะไม่ถูกบดบัง การที่ไม่ได้แต่งหน้า ทำให้เธอเดูเหมือนเป็นสาวบริสุทธิ์ที่แตกต่างออกไป"ใช่" ฉี๋อีหยุนพยักหน้าอย่างมั่นคง และมองตรงไปที่หานซานเฉียนอย่างไม่เกรงกลัว“คุณไม่กลัวเหรอ?” หานซานเฉียนถามต่อ“ไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้าฉันได้ตายไปพร้อมกับคุณ ถ้าหากมีวิญญาณและผีป่ามากเกินไปบนถนนสู่นรก ก็อย่าลืมปกป้องฉันด้วยล่ะ” ฉี๋อีหยุนพูดอย่างใจเย็น ความสงบของเธอไม่ได้เสแสร้ง แต่เธอไม่มีความกลัวจริง ๆ ตราบใดที่หานซานเฉียนอ
เมื่อรถของหานเทียนเซิงขับตรงไปยังบ้านของหานซานเฉียน หานเทียนเซิงก็ถามหานเซี่ยวในรถว่า "ฆ่า หานซานเฉียนแล้ว อี้เหล่าจะปล่อยพวกเราไปไหม? หลินตงยืมมือของเราฆ่าหานซานเฉียน ก็แค่อยากปัดความรับผิดชอบเท่านั้น ”หานเซี่ยวพยักหน้า เรื่องง่าย ๆ แบบนี้พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?แต่สำหรับหานเทียนเซิง แม้ว่าจะทำให้อี้เหล่าขุ่นเคือง เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้ เพราะถ้าหานซานเฉียนไม่ตาย เขาก็จะจะตายด้วยน้ำมือของหานซานเฉียน“แผนของหลินตงนั้นแยบยลมาก เขารู้ว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำสิ่งนี้” หานเซี่ยวพูดอย่างช่วยไม่ได้ จากมุมมองหนึ่ง เขาไม่อยากรุกรานคนอย่างอี้เหล่า ผู้ควบคุมซื่อเหมินแห่งเทียนฉี ที่แม้ว่าหานเซี่ยวจะเงยหน้ามองขึ้นไปก็ไม่มีทางมองเห็นได้ เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าการยั่วยุบุคคลแบบนี้จะเกิดผลอะไรตามมาหานเทียนเซิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำสิ่งนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับผลที่ตามมา ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร หากเขาทำให้อี้เหล่าขุ่นเคือง เขาก็ทำได้เพียงรอจนกว่าอี้เหล่าจะปรากฏตัวแล้วค่อยว่ากัน“ไม่ว่ายังไง หานซานเฉียนจะต้องตาย ศักดิ์ศรีของฉันต้องไม่ถูกทำ
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหานซานเฉียนทำให้ฉี๋อีหยุนหวาดกลัว โดยเฉพาะสายตาของเขา ซึ่งทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าหานซานเฉียนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นี่ไม่ใช่หานซานเฉียนที่เธอคุ้นเคยอีกต่อไป แต่เหมือนปีศาจมากกว่าแต่หานเทียนเซิงไม่รู้สึกกลัวกับการเปลี่ยนแปลงของหานซานเฉียนเลย เขายังคงมองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเยาะเย้ย จนกระทั่งหานเซี่ยวมายืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หานเทียนเซิงจึงสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติไป“เกิดอะไรขึ้น?” หานเทียนเซิงถามหานเซี่ยวเสียงต่ำหานเซี่ยวขมวดคิ้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในขณะนี้เขารู้สึกถึงภัยคุกคามที่ทรงพลังจากหานซานเฉียน และภัยคุกคามนี้ไม่ควรมีอยู่ เพราะในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาสามารถบดขยี้หานซานเฉียนได้อย่างสมบูรณ์“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ระวังตัวด้วยครับ” หานเซี่ยวเตือนหานเทียนเซิงหานเทียนเซิงบอกว่าตัวเองไม่กลัวความตาย และศักดิ์ศรีสำคัญกว่าชีวิต แต่ในความเป็นจริง ชายชราคนนี้หมดไฟไปนานแล้ว อาจเป็นเพราะเขาใช้ชีวิตอย่างสบายมานานเกินไป เมื่อชีวิตของเขาถูกคุกคามเข้าจริง ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวดังนั้นหลังจากฟังคำพูดของหานเซี่ยวแล้ว หานเทียนเซิ
การที่คนจะกลัวความตายหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูด แต่มันจะสะท้อนให้เห็นจากการกระทำหานเทียนเซิงซึ่งปากบอกว่าตัวเองไม่กลัวตาย ได้แสดงความกลัวออกมาในขณะนี้เขายืนตัวสั่นอยู่ตรงมุม หน้าตาดูซีดเซียว และไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปการตายของหานเซี่ยวทำให้หานเทียนเซิงรู้สึกสิ้นหวัง และหลงเหลือเพียงความกลัว เมื่อต้องเผชิญกับความโกรธของหานซานเฉียนศักดิ์ศรีที่ไหนจะมาสำคัญไปกว่าชีวิตน่าเสียดายที่คำพูดของเขาทำให้หานซานเฉียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“คุณยังมีหน้ามาพูดถึงปู่ผมอีกเหรอ ตอนนั้นคุณบีบบังคับให้เขาคุกเข่าลง และขับไล่ออกจากอเมริกา คุณเคยคิดไหมว่าเขาเป็นน้องชายของคุณ?” หานซานเฉียนพูดด้วยใบหน้าเย็นชา แม้ว่าเขาจะไม่รู่ว่าหานเทียนหยางต้องทนทุกข์ทรมานกับความอัปยศอดสูมากแค่ไหนในตอนนั้น แต่เมื่อดูจากท่าทางของที่หานเทียนเซิงแสดง เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าปู่ของเขาต้องเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจเพียงใด“แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นผู้อาวุโสของนาย นายจะฆ่าฉันได้ยังไง ไม่กลัวถูกฟ้าผ่าเอาหรือไง?” หานเทียนเซิงพูดคำเหล่านี้ออกมา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้หานเทียนหยางเพื่อร้องขอความเมตต
แม้ว่าหยวนหลิงจะไม่ประทับใจหานซานเฉียนมากนัก แต่เธอก็ได้รู้จักกับเขามาระยะหนึ่งแล้ว และหานซานเฉียนก็เป็นเจ้านายของเธอด้วย มาวันนี้เขาเจอกับเรื่องแบบนี้ มันก็อดทำให้เธอรู้สึกสะเทือนอารมณ์ไม่ได้เพราะเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยแต่คิดในอีกแง่หนึ่ง เขาไปยั่วยุหานเทียนเซิงเอง ดังนั้นก็สมควรแล้ว ในพื้นที่เขตจีนทั้งหมด ใครกล้ามีปัญหากับหานเทียนเซิงกันล่ะ?สถานะของหานเทียนเซิงในพื้นที่เขตจีน เปรียบเสมือนกับจักรพรรดิ ในเมื่อเขารนหาที่ตายเอง แล้วจะโทษใครได้?“คุณคิดว่าเขาตายแล้วจริง ๆ เหรอ?” ถังจงถามหยวนหลิงยิ้ม หานเทียนเซิงไปหาเขาถึงบ้าน แถมยังได้ยินมาว่าเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้คนที่สังเกตการณ์อยู่ที่นั่นบอกว่า เขาไม่เพียงแต่ตายเท่านั้น แต่ยังตายอย่างน่าสังเวชอีกด้วย เรื่องนี้จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร“คุณอาจไม่รู้ว่าหานเทียนเซิงคือใคร เขาไม่เคยออมมือกับใครทั้งนั้น” หยวนหลิงกล่าว“ในความคิดของผม คุณไม่รู้จักพี่ซานเฉียนดีมากกว่า” ถังจงพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“หมายความว่าอะไร?” หยวนหลิงขมวดคิ้วและมองถังจงด้วยความสับสน“ถ้าผมบอกว่าคนที่ตายคือหานเทียนเซิง คุณเชื่อไหม?” ถังจงกล่าวเ
ภาพช็อตที่เกิดขึ้นในฉากนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้หลายคนมีสีหน้าตกตะลึง และถึงกับรู้สึกว่าชาวาบไปทั่วหนังศรีษะเป็นไปได้อย่างไร?หานซานเฉียนจะสามารถฆ่าหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวได้อย่างไรความแข็งแกร่งของหานเซี่ยวนั้นสูงกว่าหานซานเฉียนมาก นี่เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเคยเห็นมาอย่างชัดเจนตอนนั้นที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหาน ถ้าหม่าอวี้ไม่ปรากฏตัวหานซานเฉียนก็คงตายไปนานแล้วและเพราะแบบนี้ พวกเขาจึงเชื่อว่าครั้งนี้หานซานเฉียนจะตายอย่างแน่นอนไม่มีใครคาดคิดว่าหานซานเฉียนจะเป็นคนที่เดินออกจากวิลล่า โดยลากร่างของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวมากับเขาด้วย!ระยะเวลาสามนาทีเต็ม ไม่มีใครสามารถคืนสติจากเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ที่หานซานเฉียนนำมาให้ได้เลย“เขา...เขาฆ่าหานเทียนเซิงจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ!”“เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหานเซี่ยวได้อย่างไร”“ตั้ง...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หานซานเฉียนจะเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในพื้นที่เขตจีน ยุคของหานเทียนเซิงได้สิ้นสุดลง และยุคของหานซานเฉียนก็มาถึงแล้ว!”เสียงของผู้พูดสั่นเทาเพราะความตกใจ และแล้วความกลัวในใจพวกเขาก็รุนแรงมากจนไม่สาม
น้ำเสียงของหม่าอวี้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง มันเป็นการตัดสินใจยืนกรานของเขาเองที่สั่งให้หม่าเฟยห่าวเอาใจหานซานเฉียน เพราะหากเขาได้เป็นลูกศิษย์ของอี้เหล่า มันก็คุ้มค่าที่จะประจบประแจงหานซานเฉียน แต่หม่าอวี้ไม่คิดว่าเรื่องมันจะดำเนินการมาถึงจุดนี้ตอนนี้หานซานเฉียนตายแล้ว เสียชีวิตแล้ว และตระกูลหม่าก็ถือว่าเป็นศัตรูของหานเทียนเซิงอย่างสมบูรณ์ เขาสามารถปกป้องตระกูลหม่าจากหานเทียนเซิงได้ในตอนที่เขาอยู่ในอเมริกา แต่เขาเป็นคนของเทียนฉี อย่างไรก็ต้องไปจากเขตจีนไม่ช้าก็เร็ว และด้วยนิสัยของหานเทียนเซิงจะยอมปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไรดังนั้นการออกจากเขตจีนจึงเป็นทางเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของสองพ่อลูกได้แต่หลังจากได้ยินคำพูดของหม่าอวี้ หม่าเฟยห่าวก็หัวเราะ“ยังหัวเราะอะไรอยู่อีก ฉันบอกว่าให้รีบหนีไปไง นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ” หม่าอวี้พูด“ลุงครับ ทำไมต้องหนีไปด้วยล่ะ พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” หม่าเฟยห่าวกล่าว"นายจะอยู่ที่นี่รอความตายหรือไง คนอย่างหานเทียนเซิงไม่มีทางปล่อยพวกนายไปแน่" หม่าอวี้เคร่งขรึม หม่าเฟยห่าวต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงยังเลือกที่จะอยู่ในเขตจีนล่ะ?“ลุงคร
เมื่อไม่สามารถติดต่อหานเทียนเซิงได้ หลินตงก็หมดความอดทนจนต้องกลับเข้าไปในเมืองไม่จำเป็นต้องสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นในวิลล่าของหานซานเฉียน เพราะเรื่องนี้แพร่กระจายในบรรดาตระกูลชนชั้นสูง และทุกคนต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่หลินตงรู้ความจริง เขาก็โกรธมากสำหรับเขา หานซานเฉียนต้องเป็นคนตายไป แต่ตอนนี้เขากลับสามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เลยการเสียชีวิตของหานเทียนเซิงและหานเซี่ยว ทำให้หลินตงขาดหุ่นเชิดที่สามารถจัดการกับหานซานเฉียนไป ซึ่งนั่นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาการคิดอยากจะฆ่าหานซานเฉียนด้วยตัวเองแวบขึ้นมาในใจของหลินตง แต่ท้ายที่สุดแล้วระหว่าความโกรธกับหลักเหตุผล เขาก็เลือกอย่างหลัง เพราะเขารู้ว่าเขาทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทั้งเทียนฉีรู้ว่าอี้เหล่าต้องการยอมรับหานซานเฉียนเป็นลูกศิษย์ แล้วถ้าเขาฆ่าหานซานเฉียนมันจะทำให้คนหลายคนตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอนยิ่งเป็นคนที่เก่งกาจ เขาก็ยิ่งมีโอกาสถูกอิจฉามากขึ้นเท่านั้นในฐานะลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของเทียนฉี หลินตงจึงมีศัตรูมากมายในเทียนฉี และเขาจะปล่อยให้คนเหล่านี้พบโอกาสที่จะซ้ำเติมเขาไม่ได้เด็ดขาด แต่หากจะให้หลินตงยอมมองหานซานเ