“คุณคิดว่าตอนนี้พวกเรายังมีคุณสมบัติที่จะจับหานเทียนหยางอยู่เหรอ นั่นมีแต่จะทำให้หานซานเฉียนโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก” หานเซี่ยวกล่าวไม่ใช่จะจับหานเทียนหยางหรอกเหรอ?หานเทียนเซิงมองไปที่หานเซี่ยวด้วยความสับสน นอกจากการทำแบบนี้ เขาก็ไม่เข้าใจว่าหานเซี่ยวหมายถึงอะไรในเมื่อไม่สามารถจับกุมหานเทียนหยางได้ แล้วจะไปหาเขาทำไมกัน?“นายหมายถึงอะไร” หานเทียนเซิงถามอย่างสงสัยหานเซี่ยวถอนหายใจและพูดว่า "ตอนนี้คุณไม่ได้เหนือกว่าเขาอีกต่อไปแล้ว คุณควรลดสถานะของตัวเองและพิจารณาเรื่องนี้ จุดประสงค์ในการไปหาหานเทียนหยางคือการเจรจา และแก้ไขข้อข้องใจระหว่างพวกคุณ จากนั้นขอให้หานเทียนหยางช่วยพูดกับหานซานเฉียนในการปล่อยพวกเราไป”"นี่เป็นไปไม่ได้!" ความคิดแรกของหานเทียนเซิงคือปฏิเสธ และเขาก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดในสายตาของเขา คำว่าเจรจานั้นเป็นเรื่องตลกตอนนั้นเขาและหานเทียนหยางยุติมิตรภาพ และเขายังบังคับให้หานเทียนหยางคุกเข่าให้แถมยังบังคับให้เขาออกไปจากอเมริกา และนี่คือสิ่งที่ทำให้หานเทียนเซิงเหนือกว่าหานเทียนหยางสำหรับหานเทียนเซิง หานเทียนหยางด้อยกว่าในสายตาของเขาเสมอ แล้วจะให้เขาไปเจรจากับคนที่ด้อยก
ฟางซั่วไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของหม่าเฟยห่าว และก็ไม่ได้สังเกตเห็นคำเรียกอันทรงเกียรติที่หม่าเฟยห่าวใช้เรียกหานซานเฉียนเขารู้ว่าตอนนี้หานซานเฉียนอยู่ในมือของหม่าอวี้ และเนื่องจากหม่าเฟยห่าวเป็นหลานชายของหม่าอวี้ มันก็ไม่เท่ากับหานซานเฉียนอยู่ในมือของหม่าเฟยห่าวไม่ใช่เหรอฟางซั่วมีความคิดและตระหนักถึงจุดประสงค์ของหม่าเฟยห่าวที่จะมาหาเขา เป็นไปได้มากว่าหม่าเฟยห่าวต้องการได้รับประโยชน์บางอย่างจากเขา“พี่ห่าว ถ้าพี่สามารถช่วยผมแก้ปัญหานี้ได้ พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น” ฟางซั่วกล่าวว่า ถ้าเงินหมดก็ยังหาได้ แต่ถ้าเสียชีวิต ต่อให้มีเงินทองมากมายแค่ไหนก็ฟื้นกลับคืนมาไม่ได้ หม่าเฟยห่าวยิ้มอย่างเย็นชา คนโง่เขลาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ได้ยินคำที่เขาใช้เรียกหานซานเฉียนเหรอ? ยังคิดจะให้ผลประโยชน์แก่เขาเพื่อให้เขาช่วยแกแค้นอีก “ฟางซั่ว นายนี่ช่างไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองกำลังจะตาย” หม่าเฟยห่าวพูดอย่างเย็นชาฟางซั่วกระวนกระวายและถามด้วยความสับสน "พี่ห่าว พี่หมายถึงอะไร?"“ฉันหมายความว่าอะไร?” จู่ ๆ หม่าเฟยห่าวก็คว้าผมของฟางซั่วแล้วตวาด" แกยังมีความกล้าที่จะแก้แค้นพี่ซานเฉียนอีกงั้นเหรอ แกคง
เมื่อหม่าเฟยห่าวพาฟางซั่วไปหาหานซานเฉียนเพื่อเอาหน้านั้น หม่าเฟยห่าวก็ตั้วใจทุบตีฟางซั่วจนน่วม หานซานเฉียนดูออกว่าหมอนี่ทำเรื่องที่ไม่จำเป็นเพียงเพื่อเอาอกเอาใจเขาเท่านั้นน่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้ไม่สามารถทำให้หานซานเฉียนรู้สึกประทับใจหม่าเฟยห่าวมากขึ้นได้ เขาไม่เคยคิดว่าฟางซั่วเป็นคู่ต่อสู้ หานซานเฉียนจะมองคนที่ขี้ขลาดจนฉี่ราดกางเกงแบบนี้ในสายตาได้อย่างไร?เสือจะสนใจความเป็นหรือความตายของมดทำไมกัน?“พี่ซานเฉียน พี่อยากจัดการเขายังไง แค่บอกมาผมจะจัดการให้พี่เองครับ” หม่าเฟยห่าวถามหานซานเฉียนด้วยอาการหอบเหนื่อยหานซานเฉียนเหลือบมองฟางซั่วที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ตรงมุม ใบหน้าของเขาหวาดกลัวมากจนสั่นไปทั้งตัว คนแบบนี้ไม่สามารถเรียกว่าเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เลย“นายคิดว่าฉันจำเป็นต้องสนใจขยะแบบนี้เหรอ? แถมยังต้องให้นายล้างแค้นแทนอีก?” หานซานเฉียนพูดเสียงเรียบหม่าเฟยห่าวทำสิ่งนี้เพราะอยากให้หานซานเฉียนพอใจ แต่หานซานเฉียนดูเหมือนว่าไม่มีความสุขเอาซะเลย“พี่ซานเฉียน พี่หมายความว่า…”“ฉันหมายความว่า ขยะอย่างเขาไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน และฉันไม่เคยคิดที่จะคิดบัญชีเขา ยิ่งไปกว่านั
หลังจากที่หม่าเฟยห่าวไปที่บริษัท เขาก็ได้พบปะกับถังจง แต่ถังจงยังไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหม่าเฟยห่าวในขั้นตอนนี้ ดังนั้นหลังตกลงกันเสร็จเรียบร้อย หม่าเฟยห่าวก็จากไปสิ่งนี้ทำให้หม่าเฟยห่าวผิดหวังเล็กน้อย ตอนนี้เขารอแทบไม่ไหวที่จะพิสูจน์ตัวเอง โดยหวังจะกระชับสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานซานเฉียนมากขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้วก็ไม่มีโอกาสแบบนั้นเลยหม่าเฟยห่าวที่ไม่มีอะไรทำ จึงขับรถไปที่คฤหาสน์ของตระกูลหานหม่าอวี้ยังคงนอนอยู่บนฝาโลงศพ ตราบเท่าที่เขายังอยู่ บอดี้การ์ดของตระกูลหานก็ไม่กล้าเข้าใกล้โลงศพเลยแม้แต่ก้าวเดียว"ลุงครับ"หม่าอวี้ได้ยินเสียงของหม่าเฟยห่าวจึงลุกขึ้นนั่ง เขาเห็นว่าหน้าตาของหม่าเฟยห่าวดูหม่นหมอง เลยถามด้วยรอยยิ้มว่า "เป็นอะไรไป ทำไมหน้าตาดูไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงขนาดนั้น หาโอกาสทำให้หานซานเฉียนพอใจไม่ได้หรือไง?"หม่าเฟยห่าวพยักหน้า เขารู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิด คิดหาวิธีอะไรไม่ออกเลย“ใช่ครับ ผมถึงได้มาหาลุงให้ลุงช่วยคิด” หม่าเฟยห่าวกล่าวหม่าอวี้ตบไหล่หม่าเฟยห่าวแล้วพูดว่า "อย่ารีบร้อนไป นายยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ"“ลุงครับ ลุงก็รู้ผมเ
หม่าอวี้เตะก้นหม่าเฟยเห่าวด้วยความโกรธหม่าเฟยห่าวล้มหน้าขมำลงกับพื้นอย่างไม่รู้เรื่องเขามองหม่าอวี้ด้วยความสับสนแล้วถามว่า "ลุง เตะผมทำไมครับ?"หม่าอวี้กัดฟันและมองไปที่หม่าเฟยห่าวก่อนจะพูดว่า "ไสหัวไปซะ รีบไปหาคนมาปกป้องหานซานเฉียน"หม่าเฟยเห่าวรู้สึกงุนงงมากกับความโกรธอย่างกะทันหันของหม่าอวี้ แต่เขารู้สึกได้ว่าหม่าอวี้นั้นโกรธมากเขารีบลุกขึ้นวิ่งหนีไปโดยไม่มีเวลาปัดฝุ่นบนร่างกายด้วยซ้ำ“ช่างงี่เง่าจริง ๆ” หม่าอวี้พูดด้วยความโกรธ เรื่องง่าย ๆ แบบนี้หม่าเฟยเห่าวยังต้องถามเขา ไอหมอนี่ไม่มีสมองเลยหรือไง?ที่หานเทียนเซิงไปหยุนเฉิง เขาก็ต้องไปขอให้หานเทียนหยางกอบกู้ประเทศ โดยหวังด้วยว่าหานเทียนหยางจะหยุดหานซานเฉียนในการจัดการกับตระกูลหานในอเมริกาไม่ใช่หรือไง?เรื่องง่าย ๆ และชัดเจนแบบนี้ หม่าเฟยเห่าวกลับคิดไม่ได้ “พี่ครับ ถ้าลูกชายของพี่อยากมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำให้หานซานเฉียนพอใจได้แค่ไหน หากหวังพึ่งพาความสามารถของผู้ชายคนนี้ ตระกูลหม่าคงได้ถูกทำลายลงในมือของเขาไม่ช้าก็เร็ว” หม่าอวี้ถอนหายใจและพึมพำกับตัวเองเมื่อหานเทียนเซิงและหานเซี่ยวปรากฏตัวในห้องรับรอง
"พ่อคะ"ซูหยิงเซี่ยเดินไปที่เตียงด้วยความสำนึกผิดเธอรู้ว่าช่วงนี้เธอเผลอลืมซูกั๋วเย่าไปเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับหานเนี่ยน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่กตัญญูมาก หากไม่ได้รับคำเตือนจากฉือจิง เธออาจจะยังไม่ขึ้นมาหาซูกั๋วเย่าที่ชั้นบนเลยก็ได้ ในฐานะลูกสาว เธอล้มเหลวในความกตัญญู เธอลืมเรื่องที่พ่อเธอป่วยหนักไปเสียสนิท สิ่งนี้ทำให้ซูหยิงเซี่ยรู้สึกผิดมากหลังจากที่ซูกั๋วเย่าได้ยินเสียงของซูหยิงเซี่ย ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นทันที เขารอช่วงเวลานี้มานานจนเขาตื่นเต้นน้ำตาไหล“พ่อคะ” ซูหยิงเซี่ยประหลาดใจมากเมื่อเห็นซูกั๋วเย่าลืมตาซูกั๋วเย่าไม่ได้อยู่ในอาการโคม่า แล้วทำไมจู่ ๆ เขาถึงตื่นขึ้นมา!“พ่อคะ พ่อฟื้นแล้วเหรอคะ? พ่อเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ หนูจะโทรเรียกหมอเดี๋ยวนี้” ซูหยิงเซี่ยกล่าวอย่างตื่นเต้นซูกั๋วเย่าส่ายหัวแล้วจับมือของซูหยิงเซี่ย ราวกับว่าเขากลัวว่าเธอจะจากไป“พ่อคะ พ่อเป็นอะไรไป อย่าร้องไห้สิคะ” ซูหยิงเซี่ยมองซูกั๋วเย่าทั้งน้ำตา และโทษตัวเองมากยิ่งขึ้น“หยิงเซี่ย ในที่สุดลูกก็มาหาพ่อ” ซูกั๋วเย่าพูดด้วยความตื่นเต้นและสั่นไปทั้งตัว“พ่อรอหนูอยู่เหรอคะ?” ซูหยิงเซี่ยม
เมื่อถูกหานเทียนหยางถามแบบนั้น ซูหยิงเซี่ยก็ยังคงไม่แยแสและยกมือขวาขึ้นอีกครั้งครั้งนี้เจี่ยงหลานไม่ให้โอกาสซูหยิงเซี่ยโจมตีอีก เธอรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉือจิงอย่างรวดเร็ว“แกบ้าไปแล้วเหรอ ถึงได้กล้าทุบตีแม่ของตัวเองแบบนี้” เจี่ยงหลานพูดด้วยความโกรธฉือจิงรู้ว่าซูหยิงเซี่ยเป็นคนแบบไหน เธอจะไม่มีทางทำร้ายเจี่ยงหลานโดยไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเธอไม่อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน คนอื่นก็จะไม่สามารถเข้าใจได้“หยิงเซี่ย เกิดอะไรขึ้น?” ฉือจิงถามเมื่อซูหยิงเซี่ยคิดถึงภาพที่หานเนี่ยนถูกโยนลงบนระเบียง และทนทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็น เธอก็เศร้าใจมากจนน้ำตาไหลออกมามและรู้สึกเหมือนจะขาดใจ เธอนึกภาพไม่ออกว่าหานเนี่ยนต้องทนทุกข์ทรมานจากลมหนาวมากแค่ไหน“การหายตัวไปของหานเนี่ยนเกี่ยวข้องกับเธอ สาเหตุที่หานเนี่ยนป่วยก็เป็นเพราะเธอวางหานเนี่ยนไว้ที่ระเบียงเพื่อแช่แข็งเธอ” ซูหยิงเซี่ยพูดพลางกัดฟันคำพูดเหล่านี้ดังก้องไปทั่วห้องอาหาร และแม้แต่เจียงหยิงหยิงที่ป็นคนนอกก็ยังรู้สึกโกรธเจียงหยิงหยิงเห็นหานเนี่ยนผ่านรูปถ่ายเท่านั้น สำหรับเธอ หานเนี่ยนเป็นเด็กที่น่ารักมาก ทำไมถึงมีคนโหดร้ายกับเธอได้ลงคอ? และคนที่ล
สนามบินเมืองเหยียนจิงเมื่อหานเทียนหยางปรากฏตัว เหยียนจิงถึงกับฮือฮาแตกตื่นกันทันทีเพราะสำหรับคนในเหยียนจิง เทียนหยางคือคนที่ตายไปแล้ว แล้วการที่เขา 'ฟื้นคืนชีพ' จะไม่ทำให้ผู้คนตกใจได้อย่างไรสำหรับหานเทียนเซิง หานเทียนหยางเป็นเพียงขยะในสายตาของเขาเสมอแต่สำหรับเหยียนจิง เทียนหยางเป็นคนระดับปีศาจ ความวุ่นวายที่เขาเคยก่อในเหยียนจิงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถประมาทได้เลย ในเวลานี้ตระกูลขุนนางเหล่านั้นที่เคยต่อต้านตระกูลหาน ได้เรียนรู้การกลับมาของหานเทียนหยางแล้ว ทุกคนต่างกลัวจนตัวสั่น เพราะกลัวว่าหานเทียนหยางจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกเขาแต่การกลับมาในครั้งนี้ของหานเทียนหยาง เขาไม่ได้จะกลับมาคิดบัญชีกับใคร ในวันนี้เขาไม่มีความปรารถนาที่จะคว้าอำนาจ และสถานะก็ไม่ได้มีค่าสำหรับเทียนหยางอีกต่อไปตราบใดที่หานซานเฉียนสามารถเข้าสู่ระดับนั้นได้ สิ่งที่เรียกว่าอำนาจในโลกนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเมฆที่ลอยอยู่เท่านั้น“ไม่รู้ว่ามีสักกี่คนที่สมควรกลัว” เหยียนจุนพูดพร้อมกับถอนหายใจเทียนหยางยิ้มอย่างสงบและพูดว่า "สำหรับฉัน ทุกสิ่งที่นี่ไม่มีความหมายเท่าสวนดอกไม้บนภูเขาหยุนติงเลยสักนิด"เหยียนจุนรู