แม้ว่าหยวนหลิงจะปฏิเสธสิ่งที่หานซานเฉียนพูดในใจ แต่เธอมีลางสังหรณ์ว่าความจริงจะตบเธออย่างจังเพราะหากหานซานเฉียนไม่ได้มีสถานะที่สูงส่ง เขาจะได้รับการต้อนรับแบบนี้ในพื้นที่คฤหาสน์ของตระกูลหานได้อย่างไร?เมื่อมาถึงห้องอาหาร สมาชิกทุกคนในตระกูลหานถูกหานเหยียนเคลียร์ออกไปหมดแล้ว เพราะหานเหยีนต้องนอบน้อมต่อหน้าหานซานเฉียน และเธอก็ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นภาพนี้การคุกเข่าครั้งก่อนทำให้หลายคนในตระกูลไม่พอใจหานเหยียน แม้ว่าความไม่พอใจเหล่านี้จะไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรกับกับหานเหยียน แต่สำหรับผู้หญิงที่รักในศักดิ์ศรีคนหนึ่ง เธอไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองหานซานเฉียนนั่งตรงที่นั่งหลัก การกระทำนี้ทำให้หนังศีรษะของหยวนหลิงรู้สึกเสียวซ่าขึ้นอีกครั้งที่นั่งนี้ควรจะเป็นของหานเหยียน แต่หานซานเฉียนกลับเดินไปนั่งแทนแต่หลังจากที่หยวนหลิงลอบมองหานเหยียนอย่างระมัดระวัง เธอก็ตระหนักว่าหานเหยียนดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้“ถ้าอาหารไม่ถูกใจ ฉันสามารถให้พ่อครัวทำใหม่ได้” หานเหยียนพูดกับหานซานเฉียน“เธอกินขยะพวกนี้ที่บ้านอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆหยวนหลิงมองดูโต๊ะที่เต
ประเทศเกาะเล็ก ๆหนานกงป๋อหลิงนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าเมื่อพิจารณาจากข่าวที่หยวนหลิงส่งกลับมา ดูเหมือนว่าหานซานเฉียนจะลุ่มหลงอยู่กับความมหัศจรรย์ของเงิน เป็นไปตามที่เขาคิด จะมีผู้ชายในโลกนี้ที่ไม่ชอบเงินและผู้หญิงได้อย่างไร?ใคร ๆ ก็ต้องสูญเสียการเป็นตัวเองเมื่อเผชิญกับสิ่งล่อตาล่อใจใจของเงิน แม้แต่หานซานเฉียนก็ไม่มีข้อยกเว้น“เงินเป็นสิ่งวิเศษที่จะช่วยให้นายได้ทุกอย่างที่ต้องการ ใช้มันให้มากที่สุดไปเลย เพราะตระกูลหนานกงของฉันมีเงินทองอีกมากมาย” หนานกงป๋อหลิงพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้มในอดีตในสายตาของหนานกงป๋อหลิง มีเพียงหนานกงเยี่ยนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะนำตระกูลหนานกงไปความรุ่งโรจน์มากขึ้น แต่ตอนนี้เนื่องจากการปรากฏตัวของหานซานเฉียน ทำให้หนานกงเยี่ยนไร้ค่าสำหรับหนานกงป๋อหลิงไปแล้วแม้แต่หนานกงซุนที่สามารถควบคุมหานซานเฉียนได้ก็เป็นคนที่จะมีหรือไม่มีก็ได้สำหรับเขา เพราะไม่ว่าเหตุผลของการควบคุมนี้จะมาจากอะไร มันก็เป็นเพียงปัจจัยที่ไม่แน่นอนในมุมมองของหนานกงป๋อหลิงเท่านั้น สิ่งเดียวที่จะทำให้หานซานเฉียนกลายเป็นสมาชิกของตระกูลหนานกง และทำทุกสิ่งเพื่อต
หลังจากได้รับโทรศัพท์จากหนานกงซุน หนานกงเยี่ยนก็รีบมาที่ห้องของเขาทันที คำพูดแรกของหนานกงซุนก็ทำหนานกงเยี่ยนตะลึง“นายกล้าร่วมมือกับฉันฆ่าหนานกงป๋อหลิงไหม?” หนานกงซุนพูดด้วยสีหน้าจมดิ่งหนานกงเยี่ยนตกใจมากจนรีบปิดประตู แล้วเดินไปหาหนานกงซุนด้วยความตื่นตระหนกเขาแค่อยากให้หนานกงซุนร่วมมือกับเขาในการจัดการหานซานเฉียนเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าหนานกงซุนจะพูดคำเหล่านี้ออกมาฆ่าหนานกงป๋อหลิงอย่างนั้นเหรอ!ยังไม่ต้องพูดความยากของเรื่องนี้ ถึงจะทำสำเร็จ แต่มันก็จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อตระกูลหนานกงแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น อำนาจของทั้งสองคนก็ไม่อาจควบคุมทั้งตระกูลได้ “นายบ้าไปแล้วเหรอ อยากจะฆ่าคุณปู่เนี่ยนะ!” หนานกงเยี่ยนลดเสียงลงอัตโนมัติ เพราะกลัวว่ากำแพงจะมีหูหน้าของหนานกงซุนมืดมน เขาถูกบังคับให้มีความคิดนี้ เพราะเขาสัมผัสได้ว่าหานซานเฉียนได้รับความสำคัญมากแค่ไหนจากการกระทำของหนานกงป๋อหลิง นอกจากการฆ่าเขา หนานกงซุนก็ไม่สามารถคิดหาวิธีใดที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันได้แล้ว“คุณปู่มาหาฉันเมื่อกี้ เขาพูดอย่างชัดเจนแล้วว่าเราทั้งคู่ไร้ประโยชน์ และไม่มีคุณสมบัติที่จะเทียบกับหานซานเฉียน นายคิดว
ยกเลิกความร่วมมืออย่างนั้นเหรอ!เมื่อได้ยินเสียงวางสาย ซุนอี้ก็สับสนไปหมดในความคิดของเขา แผนระหว่างเขากับหานเหยียนนั้นแข็งแกร่งราวกับทองคำ และไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ เพราะหานเหยียนต้องการครองโลกธุรกิจในเขตจีนทั้งหมด และบริษัทของตระกูลหนานกงก็เป็นอุปสรรคที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หานเหยียนจึงจำเป็นต้องร่วมมือกับเขาและเพราะเหตุนี้ ซุนอี้ถึงได้มีความมั่นใจและความกล้าที่จะไม่สนใจหานซานเฉียน ซุนอี้ไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ เขายอมรับการทรยศแบบนี้ไม่ได้เมื่อคนอื่นเห็นการเปลี่ยนแปลงในท่าทางของซุนอี้ พวกเขาก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ“ซุนอี้ เกิดอะไรขึ้น?”“หานเหยียนพูดว่าอะไร แล้วแผนการจะเริ่มเมื่อไหร่?”“ไม่ได้เกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นหรอกใช่ไหม”“หรือว่าสิ่งที่ไอ้เด็กนั่นพูดเป็นเรื่องจริง เขาได้รับการสนับสนุนจากหานเหยียนจริง ๆ เหรอ?”ทุกคนมองดูซุนอี้อย่างประหม่า และหวังว่าจะได้คำตอบอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าไม่มีหานเหยียน พวกเขาจะมีคุณสมบัติอะไรในการต่อกรกับหานซานเฉียนได้? และวันนี้พวกเขาไม่ไปบริษัท หากเรื่องนี้ทำให้หานซานเฉียนไม่พอใจ พวกเขาก็อาจตกงานได้เลยมันไม่ง่ายกว่าจะได้ขึ้นมา
ฉี๋อีหยุนไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างซุนอี้ถึงได้มีความกล้าที่จะต่อสู้กับหานซานเฉียน แถมยังคิดว่าตัวเองสามารถจัดการกับหานซานเฉียนได้อีก นี่มันเรื่องตลกชัด ๆ“ซุนอี้ คุณรู้ไหมว่าทำไมหานเหยียนปฏิเสธที่จะร่วมมือกับคุณ” ฉี๋อีหยุนพูดเสียงเรียบ เธอรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ซุนอี้ร่วมมือกับหานเหยียนในการหุบบริษัทของตระกูลหนานกง ด้วยวิธีนี้ ซุนอี้จะกลายเป็นเจ้าของของบริษัท และหานเหยียนก็จะเพิ่มเบี้ยอีกตัวเพื่อควบคุมโลกธุรกิจในจีนด้วยซุนอี้ส่ายหัว เขาเองก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้ เพราะถ้าหานเหยียนต้องการเป็นราชินีแห่งโลกธุรกิจ เธอก็จำเป็นต้องจัดการบริษัทของตระกูลหนานกง ซุนอี้จึงคิดเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ไม่ออกจริง ๆ แต่เมื่อฉี๋อีหยุนพูดมาอย่างนั้น แสดงว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“คุณผู้หญิงฉี๋บอกผมมาเถอะครับ ไม่ว่าผมจะคิดยังไงก็คิดหาเหตุผลลไม่ออก” ซุนอี้ถามอย่างจริงใจฉี๋อีหยุนยิ้มและพูดว่า "นั่นก็เป็นเพราะว่าหานเหยียนไม่กล้าสู้กับหานซานเฉียนยังไงล่ะ"“จะเป็นไปได้ยังไง” ซุนอี้คัดค้านทันที และพูดต่อว่า “หานซานเฉียนเป็นเพียงคนรวยที่เอ้อระเหยลอยชายเท่านั้น เขาไม่มีความสามารถอะไรเลย แล้วจะทำให้หานเหย
พนักงานต้อนรับสาวสองคนในบริษัทยังคงโต้เถียงกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันพนักงานต้อนรับที่ถูกหานซานเฉียนแซว บวบลชเชื่อว่าหานซานเฉียนสามารถแก้ไขวิกฤติของบริษัทได้ แต่เพื่อนร่วมงานอีกคนยังคงเชื่อว่าหานซานเฉียนไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของซุนอี้แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงคนอื่น ๆ จะยอมประนีประนอมก็ตาม ในความเห็นของเธอ ตราบใดที่ซุนอี้ยังอยู่ที่นี่ อย่างไรเด็กรวยไร้ศีลธรรมอย่างหานซานเฉียนก็ต้องถูกไล่ออกในไม่ช้าแน่การแข่งขันระหว่างผู้หญิงบางครั้งก็อธิบายไม่ได้ เพราะความอิจฉาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นได้เพื่อนร่วมงานคนนั้นอิจฉาเธอจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่อยากเคารพหานซานเฉียนมากนัก และถึงกับแอบสาปแช่งหานซานเฉียนอยู่ในใจส่วนเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกหานซานเฉียนแซวก็จมอยู่กับจินตนาการของตัวเอง ว่าจะได้กระชับความสัมพันธ์ของเธอและหานซานเฉียนขึ้นไปอีกขั้นเมื่อซุนอี้ปรากฏตัว เพื่อนร่วมงานก็รีบเดินไปหาซุนอี้แล้วพูดว่า "คุณซุน คนอื่น ๆ มาถึงบริษัทมานานแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทรยศคุณนะคะ"ซุนอี้ถามอย่างแผ่วเบา "คุณหานอยู่ที่ไหน?"พนักงานสาวคนนั้นขมวดคิ้ว เธอนึกว่าซุนอี้มาที่นี่เพื่อจัดการ
หยวนหลิงรู้ว่ามีคนจำนวนมากตามจีบฉี๋อีหยุนในพื้นที่เขตจีน และคนเหล่านั้นก็เหมือนกับตั๊กแตนที่หวังจะได้จับฉี๋อีหยุนกินเป็น ๆ แถมยังเป็นคนหนุ่มที่มากความสามารถและมีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น หากฉี๋อีหยุนสุ่มเลือกสักคน ฝ่ายตรงข้ามจะต้องยอมอุทิศชีวิตให้เธอแน่นอนแต่... ดูจากท่าทีของเธอ เหมือนว่าเธอจะชอบเพลย์บอยอย่างหานซานเฉียน!ทำไมถึงเป็นแบบนี้?ด้วยความเป็นเลิศของฉี๋อีหยุน หานซานเฉียนจะคู่ควรกับเธอได้อย่างไร?“คุณผู้หญิงฉี๋ ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหมคะ?” หยวนหลิงถามด้วยความไม่เชื่อ“คุณได้ยินถูกแล้วล่ะค่ะ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ชอบฉัน” ฉี๋อีหยุนพูดอย่างช่วยไม่ได้ดวงตาของหยวนหลิงเบิกกว้างฉี๋อีหยุนสวยมากขนาดนี้แถมยังชอบเขาด้วย แต่หานซานเฉียนกลับไม่ชอบเธอเนี่ยนะ!“คุณผู้หญิงฉี๋ เขาไม่ชอบคุณ แล้วคืนนั้น... พวกคุณยังทำแบบนั้นกันเหรอคะ?” หยวนหลิงพึมพำ เทพธิดาระดับฉี๋อีหยุนทำไมถึงยอมมอบตัวให้คนอย่างหานซานเฉียนกันล่ะ?"คืนนั้น?" ฉี๋อีหยุนถอนหายใจอย่างหนักและพูดว่า "ถ้าคืนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ก็คงดี แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น"หยวนหลิงรู้สึกเพียงว่าทัศนคติต่อโลกของเธอถูกทำลา
หลังจากที่ผลักฉี๋อีหยุนออก หานซานเฉียนก็ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง ท้องฟ้ามืดแล้ว ในเวลานี้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหานเนี่ยน กังวลว่าเธอนอนไม่หลับหรือไม่ได้กินอาหารดี ๆ และก็เป็นห่วงซูหยิงเซี่ยด้วย กลัวว่าเธอจะเป็นเหมือนเขาที่นอนไม่หลับเพราะเธอคิดถึงหานเนี่ยน“พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณไปรู้จักกับคนอื่น ๆ พวกเขาล้วนเป็นคนร่ำรวยรุ่นที่สองในเขตจีน” ฉี๋อีหยุนมองตาหานซานเฉียน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยอมแพ้แม้จะถูกปฏิเสธ เพราะอย่างไรเธอก็ถูกเขาปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วจนนับไม่ถ้วน หากเธอจะยอมแพ้ง่าย ๆ ก็คงไม่ยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้“ตกลง” หานซานเฉียนตอบนิ่ง ๆหลังจากที่ฉี๋อีหยุนเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองออก เธอก็ออกจากบ้านของหานซานเฉียนหานซานเฉียนไม่ได้ไปส่ง เพราะต้องเว้นระยะห่างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง หานซานเฉียนรู้ว่าตัวเองไม่ควรสร้างความหวังใด ๆ ให้เธอ เพียงเพราะใจอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอเกิดการเข้าใจผิดเมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉี๋อีหยุนก็ขังตัวเองอยู่ในห้องฉี๋ตงหลินและโอวหยางเฟยรู้ว่าวันนี้เธอไปพบหานซานเฉียนมา และดูจากท่าทีของเธอหลังจากกลับมาที่บ้านพวกเขาก็พอจะเดาได้ว่าผลคืออะไรฉี๋ตงหลินอดไม่ได้ที
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ