หยวนหลิงจากไปด้วยความดูถูกอย่างรุนแรง เธอเคยเห็นชีวิตที่เน่าเปื่อยของผู้ชายร่ำรวยมากเกินไป และภาพลักษณ์หานซานเฉียนในใจเธอก็คือคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ดังนั้นเธอจึงไม่คิดว่าสิ่งที่หานซานเฉียนพูดนั้นเป็นเพียงคำพูดล้อเล่น ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเขากับคนอื่น ๆ คือบางคนเล่นแบบลับ ๆ ในขณะที่เขาเล่นแบบเปิดเผยแต่ในใจของหยวนหลิงความตรงไปตรงมาแบบนี้ยิ่งไร้ยางอาย และผู้ชายแย่ ๆ แบบนี้ก็ไร้ยางอายยิ่งกว่า หากผู้หญิงคนไหนพบเขา ชาติที่แล้วเธอคงทำกรรมเอาไว้มากแน่ ๆ แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่หยวนหลิงจากไป หานซานเฉียนก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการดูอยู่ทีวีที่บ้านหานซานเฉียนเกิดในตระกูลหานในเหยียนจิง และสถานะของเขาไม่ได้ต่ำต้อยอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับผู้ญิงเหมือนคนร่ำรวยรุ่นที่สองคนอื่น ๆ นับตั้งแต่วันที่หัวใจเป็นของเขา หานซานเฉียนก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศซูหยิงเซี่ยเลยไม่ว่าผู้หญิงจะสวยแค่ไหน ในสายตาของหานซานเฉียนก็เป็นเพียงผู้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปในชีวิตเท่านั้นตกกลางคืน เงาหนึ่งเดินไปเดินมาสิบกว่ารอบอยู่นอกบ้านหานซานเฉียน ราวกับขโมยที่กำลังดูลาดเลาแต่หัวขโมยคนนี้แตกต่างจาก
หลังจากที่หานซานเฉียนวิ่งจ๊อกกิ้งกลับมาบ้านในตอนเช้า เขาก็พบว่าผู้หญิงสองคนเข้ากันได้ดี และสายตาที่หยวนหลิงมองเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่ามีความประหลาดใจที่อธิบายไม่ได้สำหรับหยวนหลิง เธอไม่ชอบผู้ชายเพลย์บอยอย่างหานซานเฉียนเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าหานซานเฉียนเพียงแค่หาผู้หญิงที่มีชื่อเสียงบางคนมาที่บ้านเท่านั้น แต่การปรากฎตัวของฉี๋อีหยุน ทำให้หยวนหลิงตกใจมาก เพราะฉี๋อีหยุนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่หานซานเฉียนกลับสามารถมีความสัมพันธ์กับเธอได้ นี่แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนมีความสามารถที่ไม่เหมือนคนอื่นนี่เป็นวิธีคิดที่แปลกมาก แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นผู้หญิง แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างกัน กลับเป็นตัวกำหนดความคิดเห็นของหยวนหลิงที่มีต่อหานซานเฉียน“เตรียมการประชุมวันนี้แล้วหรือยัง?” หานซานเฉียนถามหยวนหลิง“ทุกคนในบริษัทได้รับแจ้งแล้วค่ะ” หยวนหลิงกล่าวหานซานเฉียนพยักหน้าและพูดต่อ "มีคนอื่นที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทอีกไหม มีรายชื่อหรือเปล่า?"หยวนหลิงคิดไว้แล้ว ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้เธอหยิบกระดาษ A4 ออกมา ด้านในมีบันทึกของบริษัทคู่ต่อสู้หานซาน
คนตามจีบอย่างนั้นเหรอ?คำนี้ทำให้หานซานเฉียนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหวบางทีหานเหยียนอาจจะมีผู้ชายตามจีบก็จริง แต่ในสายตาของหานซานเฉียน ผู้หญิงคนนี้ที่มีหัวใจเหมือนงูพิษที่น่าเกลียดน่ากลัวมาก แค่ให้มองเธอเขายังรู้สึกรังเกียจ"ในเมื่อนายไม่ยอมไปแจ้งเธอ ฉันก็คงต้องลองโทรไปเอง" หลังจากพูดแล้ว หานซานเฉียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า "การเสแสร้งต่อหน้าฉันจะไม่มีประโยชน์อะไร นายรีบออกไปเถอะ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจ"หานซานเฉียนกดโทรออก และพูดกับหานเหยียนว่า "ฉันอยู่ที่ประตูบ้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเธอขวางไม่ให้ฉันเข้าไป การจะเจอคุณหนูหานนี่ช่างยากเย็นจังเลยนะ"เมื่อได้ยินคำพูดของหานซานเฉียน เหงื่อเย็นก็ไหลออกมาจากหน้าผากของหานเหยียนคนที่เธอกลัวมากที่สุดคือหานซานเฉียน ทำไมจู่ ๆ ผู้ชายคนนี้ถึงมาที่อเมริกากะทันหัน โดยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อนเลยแบบนี้ “รอก่อน ฉันจะออกไปรับนายเดี๋ยวนี้” หานเหยียนกล่าวที่หานเหยียนสามารถนั่งในตำแหน่งทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะหานซานเฉียน เธอไม่รู้ว่าหานลี่ตายแล้ว ดังนั้นเธอจึงก
ด้วยความประหลาดใจกับการคุกเข่าของหานเหยียน ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่หานซานเฉียน นอกเหนือจากความประหลาดใจแล้ว ยังมีความไม่เข้าใจอีกมากมาย เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มธรรมดา ๆ คนนี้ถึงสามารถทำให้หานเหยียนทำสิ่งนี้ได้เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองเห็นภาพนี้จากระยะไกล หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัวการที่หานเหยียนออกมาต้อนรับหานซานเฉียนเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติ มันทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกหวาดกลัวเท่านั้น แต่ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงกับอยากจะตาย เพราะเขาไม่อยากจะนึกเลยว่าตัวเองทำให้คนระดับไหนขุ่นเคืองกัน หานเหยียนคุกเข่าลงบนพื้น และก้มหน้าลงด้วยความโกรธเธอรู้ว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลหานที่เห็นฉากนี้จะต้องนินทาเธอลับหลังแน่นอน แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกสำหรับหานเหยียน หานลี่เป็นเหมือนฝันร้าย หากหานซานเฉียนปล่อยตัวหานลี่กลับอเมริกา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีจะสลายหายไปในทันที ซึ่งหานเหยียนไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้หานเหยียนเชื่อว่าช่วงเวลาแห่งความอัปยศอดสูจะไม่คงอยู่ตลอดไป ตราบใดที่เธอมีโอกาส เธอก็สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“หานเหยียน ฉ
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา หานซานเฉียนก็จ้องไปที่ชายชราด้วยสายตาอาฆาต เขาไม่อนุญาตให้ใครมาดูถูกการส่งสอนของหานเทียนหยางทั้งนั้น ไม่ว่าหานเทียนหยางจะเคยเป็นอย่างไร ในสายตาของหานซานเฉียนเขายังคงเป็นฮีโร่เสมอหากไม่มีหานเทียนหยาง ก็คงไม่มีตระกูลหานในเหยียนจิงอย่างทุกวันนี้!และมีเพียงหานเทียนหยางเท่านั้นที่สามารถให้ความรู้สึกใกล้ชิดของญาติกับหานซานเฉียนได้ ดังนั้นหานซานเฉียนจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหานเทียนหยาง "ตาแก่ ลองพูดใหม่อีกครั้งสิ!” หานซานเฉียนกัดฟันชายชราจ้องไปที่ดวงตาอาฆาตของหานซานเฉียน และอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปอย่างหวาดกลัว แม้ว่าในสายตาเขาหานซานเฉียนจะเป็นเพียงขยะ แต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมาในขณะนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกแต่หลังจากมองไปที่บอดี้การ์ดรุ่นล่างรอบ ๆ ของตัวเขาแล้ว ชายชราก็กลับมามีความกล้าอีกครั้งมีคนคุ้มกันมากมาย จะกลัวอะไร ชายหนุ่มคนนี้จะมีความสามารถมากแค่ไหนกัน? แถมยังเป็นเมล็ดพันธุ์ขยะแบบนั้นอีก!“พูดอีกครั้งแล้วยังไง หานเทียนหยางก็เป็นได้แค่ขยะ” ชายชรากล่าวหานซานเฉียนกำหมัดแน่นและตวาดเสียงเย็น "ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่าใครกันแน่ที่เป็นขยะ"บอ
การปรากฏตัวของหานซานเฉียนในตระกูลหานในอเมริกา ได้สร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลหานในอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป เหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูล ทำให้หลายคนมาหานเหยียนเพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้คนเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าขุ่นเคือง เพราะในความคิดของพวกเขา การมีอยู่ของขยะอย่างตระกูลหานในเหยียนจิง ทำได้เพียงหดตัวอยู่ในประเทศจีนเท่านั้น พวกเขาจะมีคุณสมบัติที่จะมาถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อแสดงพลังของพวกเขาได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ยังฆ่าบอดี้การ์ดรุ่นล่างอีกด้วย ความอัปยศอดสูนี้เป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับไม่ได้“หานเหยียน เธอคงไม่ได้จะลืมมันไปแบบนี้หรอกนะ ความอัปยศอดสูของตระกูลหานในอเมริกาของฉัน ต้องชะล้างด้วยเลือดของหานซานเฉียนเท่านั้น”“ใช่ ความอัปยศอดสูนี้จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเขาเท่านั้น”“หากเธอปล่อยให้ศักดิ์ศรีของตระกูลหานในอเมริกาถูกเหยียบย่ำ แล้วเธอจะยังมีคุณสมบัติอะไรในการเป็นผู้นำตระกูลหานในอเมริกาอีก”เมื่อเผชิญกับคำถามของทุกคน หานเหยียนยังคงมีท่าทีที่สงบ “ถ้าใครในพวกคุณมีความสามารถในการฆ่าหานซานเฉียนได้ ฉันก็จะให้อำนาจอันยิ่งใหญ่แก่คนนั้น นอกจากตำแห
“หานเหยียนงั้นเหรอ? คนที่เป็นผู้นำเล่นงานเราในครั้งนี้ก็คือหานเหยียน แล้วคุณจะรับการสนับสนุนจากเธอได้ยังไง?”“ใช่ อย่าคิดว่ามาคุยโม้ต่อหน้าพวกเรา แล้วเราจะเชื่อ”“ไอ้หนุ่ม หยุดหลอกคนอื่นที่นี่ได้แล้ว เพราะมันมีแต่จะทำให้ตัวเองอับอายเท่านั้น”พวกเขาแสดงคำพูดที่ไม่เชื่อในตัวหานซานเฉียนขึ้นมาทีละคน สีหน้าของชายวัยกลางคนเมื่อกี้ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีท่าทีระมัดระวังต่อหานซานเฉียนมากขึ้น เขามุ่งมั่นที่จะอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบริษัทในช่วงเวลาที่วุ่นวายเหล่านี้ แต่การมาถึงของหานซานเฉียนก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อแผนของเขา เขารู้ดีว่าาหานซารเฉียนมีศักยภาพที่จะเปิดเผยการกระทำผิดของเขา และป้องกันไม่ให้เขาถูกควบคุม นอกจากนี้ เขาเชื่อว่าหานเหยียนจะสนับสนุนหานซานเฉียน ซึ่งเป็นอันตรายต่อความพยายามของเขาในการยึดอำนาจชายหนุ่มคนนี้จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอ?“ทำไมเราต้องเชื่อสิ่งที่คุณพูดด้วย?” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มหานซานเฉียนลุกขึ้นและเดินตรงไปหาชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นว่า "ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณชื่อซุนอี้ใช่ไหมผมรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไร แต่คุณรู้ไหมว
“ซุนอี้ สิ่งที่หมอนั่นพูดไม่ใช่ความจริงหรอกใช่ไหม เขาได้รับการสนับสนุนจากหานเหยียนจริง ๆ เหรอ?”“ถ้าหานเหยียนช่วยเขา แผนของเราต้องพังไม่เป็นท่าแน่ ๆ”“อีกไม่นานบริษัทก็จะกลายเป็นของเราแล้ว จะให้หมอนี่มาทำลายแผนการของเราไม่ได้ คุณคิดวิธีจัดการเขาได้หรือยัง?”ในห้องทำงานของซุนอี้ ผู้บริหารของบริษัทหลายคนกำลังพูดคุยกับซุนอี้อย่างกระตือรือร้น พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกับซุนอี้และเตรียมที่จะหุบบริษัท แต่ตอนนี้กลับมีเหตุการณ์พลิกผันอย่างกะทันหันแบบนี้ พวกเขาจึงเป็นกังวลกันขึ้นมา เป็ดที่ต้มจนสุกแล้ว จะบินหนีหายไปแบบนี้ได้อย่างไร?ซุนอี้ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า "ไอ้หมอนี่ชอบคุยโม้ พวกคุณเชื่อสิ่งที่เขาพูดหรือไง?"“แต่ฉันเห็นว่าเขามีท่าทีมั่นใจมากเลยนะ เราจะประมาทไม่ได้”“คุณพูดถูก นี่เป็นช่วงวิกฤต เราจะปล่อยให้หมอนี่สร้างปัญหาไม่ได้เด็ดขาด”“ซุนอี้ ถ้าจำเป็น ฉันคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด” หลังจากที่ชายคนนั้นพูดจบ เขาก็ทำท่าทางเชือดคอ ซึ่งความหมายนั้นชัดเจนมากซุนอี้โบกมือแล้วพูดว่า "พวกคุณกังวลมากเกินไปแล้ว ขยะนี่ไม่สามารถสร้างคลื่นอะไรได้ อีกอย่างคนอย่างหานเหยียนจะให้ความสำคัญกับเขาได้ยั