จากมุมมองของหานซานเฉียน แม้ว่าหยวนหลิงจะไม่ยอมถอย แต่เธอก็ไม่สามารถอดทนได้นาน เพราะอย่างไรเธอก็เป็นแค่ผู้หญิง เมื่อต้องเผชิญกับการใช้กำลังเช่นนี้ เธอจะอดทนได้นานแค่ไหนกันแต่ความอดทนของหยวนหลิงนั้นอยู่เหนือจินตนาการของหานซานเฉียนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อขนย้ายของเข้ามาในบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า ฝ่ามือของหยวนหลิงก็เต็มไปด้วยเลือด แต่เธอก็ยังคงอดทนต่อไปสิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนประหลาดใจมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ แถมเธอยังไม่คิดที่จะยอมแพ้เลยด้วย เมื่อหานซานเฉียนเห็นหยวนหลิงเช็ดเลือดที่เปียกโชกด้วยผ้ากระดาษ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า "ถ้าทนไม่ไหวก็ยอมแพ้เถอะ จะทรมานตัวเองทำไมกัน"หยวนหลิงก้มศีรษะลง น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอในฐานะพนักงานเสมียน เธอไม่เคยลำบากแบบนี้มาก่อน ความเจ็บปวดจากฝ่ามือของเธอเป็นเหมือนเข็มทิ่มลงมา อีกอย่างตอนนี้เธอเพิ่งจะขนของชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้นเอง ของชิ้นใหญ่ที่เจ็บปวดจริง ๆ ยังคงรอเธออยู่“คุณมีความแค้นอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ?” ขณะที่หยวนหลิงเงยหน้าขึ้น น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอหานซานเฉียนยักไหล่และพูดว่า "ผมรู้จุดประสงค์ที่หนานกงป๋อหลิ
หยวนหลิงจากไปด้วยความดูถูกอย่างรุนแรง เธอเคยเห็นชีวิตที่เน่าเปื่อยของผู้ชายร่ำรวยมากเกินไป และภาพลักษณ์หานซานเฉียนในใจเธอก็คือคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ดังนั้นเธอจึงไม่คิดว่าสิ่งที่หานซานเฉียนพูดนั้นเป็นเพียงคำพูดล้อเล่น ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเขากับคนอื่น ๆ คือบางคนเล่นแบบลับ ๆ ในขณะที่เขาเล่นแบบเปิดเผยแต่ในใจของหยวนหลิงความตรงไปตรงมาแบบนี้ยิ่งไร้ยางอาย และผู้ชายแย่ ๆ แบบนี้ก็ไร้ยางอายยิ่งกว่า หากผู้หญิงคนไหนพบเขา ชาติที่แล้วเธอคงทำกรรมเอาไว้มากแน่ ๆ แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่หยวนหลิงจากไป หานซานเฉียนก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการดูอยู่ทีวีที่บ้านหานซานเฉียนเกิดในตระกูลหานในเหยียนจิง และสถานะของเขาไม่ได้ต่ำต้อยอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับผู้ญิงเหมือนคนร่ำรวยรุ่นที่สองคนอื่น ๆ นับตั้งแต่วันที่หัวใจเป็นของเขา หานซานเฉียนก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศซูหยิงเซี่ยเลยไม่ว่าผู้หญิงจะสวยแค่ไหน ในสายตาของหานซานเฉียนก็เป็นเพียงผู้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปในชีวิตเท่านั้นตกกลางคืน เงาหนึ่งเดินไปเดินมาสิบกว่ารอบอยู่นอกบ้านหานซานเฉียน ราวกับขโมยที่กำลังดูลาดเลาแต่หัวขโมยคนนี้แตกต่างจาก
หลังจากที่หานซานเฉียนวิ่งจ๊อกกิ้งกลับมาบ้านในตอนเช้า เขาก็พบว่าผู้หญิงสองคนเข้ากันได้ดี และสายตาที่หยวนหลิงมองเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่ามีความประหลาดใจที่อธิบายไม่ได้สำหรับหยวนหลิง เธอไม่ชอบผู้ชายเพลย์บอยอย่างหานซานเฉียนเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าหานซานเฉียนเพียงแค่หาผู้หญิงที่มีชื่อเสียงบางคนมาที่บ้านเท่านั้น แต่การปรากฎตัวของฉี๋อีหยุน ทำให้หยวนหลิงตกใจมาก เพราะฉี๋อีหยุนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่หานซานเฉียนกลับสามารถมีความสัมพันธ์กับเธอได้ นี่แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนมีความสามารถที่ไม่เหมือนคนอื่นนี่เป็นวิธีคิดที่แปลกมาก แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นผู้หญิง แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างกัน กลับเป็นตัวกำหนดความคิดเห็นของหยวนหลิงที่มีต่อหานซานเฉียน“เตรียมการประชุมวันนี้แล้วหรือยัง?” หานซานเฉียนถามหยวนหลิง“ทุกคนในบริษัทได้รับแจ้งแล้วค่ะ” หยวนหลิงกล่าวหานซานเฉียนพยักหน้าและพูดต่อ "มีคนอื่นที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทอีกไหม มีรายชื่อหรือเปล่า?"หยวนหลิงคิดไว้แล้ว ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้เธอหยิบกระดาษ A4 ออกมา ด้านในมีบันทึกของบริษัทคู่ต่อสู้หานซาน
คนตามจีบอย่างนั้นเหรอ?คำนี้ทำให้หานซานเฉียนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหวบางทีหานเหยียนอาจจะมีผู้ชายตามจีบก็จริง แต่ในสายตาของหานซานเฉียน ผู้หญิงคนนี้ที่มีหัวใจเหมือนงูพิษที่น่าเกลียดน่ากลัวมาก แค่ให้มองเธอเขายังรู้สึกรังเกียจ"ในเมื่อนายไม่ยอมไปแจ้งเธอ ฉันก็คงต้องลองโทรไปเอง" หลังจากพูดแล้ว หานซานเฉียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า "การเสแสร้งต่อหน้าฉันจะไม่มีประโยชน์อะไร นายรีบออกไปเถอะ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจ"หานซานเฉียนกดโทรออก และพูดกับหานเหยียนว่า "ฉันอยู่ที่ประตูบ้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเธอขวางไม่ให้ฉันเข้าไป การจะเจอคุณหนูหานนี่ช่างยากเย็นจังเลยนะ"เมื่อได้ยินคำพูดของหานซานเฉียน เหงื่อเย็นก็ไหลออกมาจากหน้าผากของหานเหยียนคนที่เธอกลัวมากที่สุดคือหานซานเฉียน ทำไมจู่ ๆ ผู้ชายคนนี้ถึงมาที่อเมริกากะทันหัน โดยไม่บอกไม่กล่าวกันก่อนเลยแบบนี้ “รอก่อน ฉันจะออกไปรับนายเดี๋ยวนี้” หานเหยียนกล่าวที่หานเหยียนสามารถนั่งในตำแหน่งทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะหานซานเฉียน เธอไม่รู้ว่าหานลี่ตายแล้ว ดังนั้นเธอจึงก
ด้วยความประหลาดใจกับการคุกเข่าของหานเหยียน ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่หานซานเฉียน นอกเหนือจากความประหลาดใจแล้ว ยังมีความไม่เข้าใจอีกมากมาย เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มธรรมดา ๆ คนนี้ถึงสามารถทำให้หานเหยียนทำสิ่งนี้ได้เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองเห็นภาพนี้จากระยะไกล หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัวการที่หานเหยียนออกมาต้อนรับหานซานเฉียนเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติ มันทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกหวาดกลัวเท่านั้น แต่ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงกับอยากจะตาย เพราะเขาไม่อยากจะนึกเลยว่าตัวเองทำให้คนระดับไหนขุ่นเคืองกัน หานเหยียนคุกเข่าลงบนพื้น และก้มหน้าลงด้วยความโกรธเธอรู้ว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลหานที่เห็นฉากนี้จะต้องนินทาเธอลับหลังแน่นอน แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกสำหรับหานเหยียน หานลี่เป็นเหมือนฝันร้าย หากหานซานเฉียนปล่อยตัวหานลี่กลับอเมริกา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีจะสลายหายไปในทันที ซึ่งหานเหยียนไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้หานเหยียนเชื่อว่าช่วงเวลาแห่งความอัปยศอดสูจะไม่คงอยู่ตลอดไป ตราบใดที่เธอมีโอกาส เธอก็สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้“หานเหยียน ฉ
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา หานซานเฉียนก็จ้องไปที่ชายชราด้วยสายตาอาฆาต เขาไม่อนุญาตให้ใครมาดูถูกการส่งสอนของหานเทียนหยางทั้งนั้น ไม่ว่าหานเทียนหยางจะเคยเป็นอย่างไร ในสายตาของหานซานเฉียนเขายังคงเป็นฮีโร่เสมอหากไม่มีหานเทียนหยาง ก็คงไม่มีตระกูลหานในเหยียนจิงอย่างทุกวันนี้!และมีเพียงหานเทียนหยางเท่านั้นที่สามารถให้ความรู้สึกใกล้ชิดของญาติกับหานซานเฉียนได้ ดังนั้นหานซานเฉียนจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหานเทียนหยาง "ตาแก่ ลองพูดใหม่อีกครั้งสิ!” หานซานเฉียนกัดฟันชายชราจ้องไปที่ดวงตาอาฆาตของหานซานเฉียน และอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปอย่างหวาดกลัว แม้ว่าในสายตาเขาหานซานเฉียนจะเป็นเพียงขยะ แต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมาในขณะนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกแต่หลังจากมองไปที่บอดี้การ์ดรุ่นล่างรอบ ๆ ของตัวเขาแล้ว ชายชราก็กลับมามีความกล้าอีกครั้งมีคนคุ้มกันมากมาย จะกลัวอะไร ชายหนุ่มคนนี้จะมีความสามารถมากแค่ไหนกัน? แถมยังเป็นเมล็ดพันธุ์ขยะแบบนั้นอีก!“พูดอีกครั้งแล้วยังไง หานเทียนหยางก็เป็นได้แค่ขยะ” ชายชรากล่าวหานซานเฉียนกำหมัดแน่นและตวาดเสียงเย็น "ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่าใครกันแน่ที่เป็นขยะ"บอ
การปรากฏตัวของหานซานเฉียนในตระกูลหานในอเมริกา ได้สร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลหานในอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป เหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูล ทำให้หลายคนมาหานเหยียนเพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้คนเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าขุ่นเคือง เพราะในความคิดของพวกเขา การมีอยู่ของขยะอย่างตระกูลหานในเหยียนจิง ทำได้เพียงหดตัวอยู่ในประเทศจีนเท่านั้น พวกเขาจะมีคุณสมบัติที่จะมาถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อแสดงพลังของพวกเขาได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ยังฆ่าบอดี้การ์ดรุ่นล่างอีกด้วย ความอัปยศอดสูนี้เป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับไม่ได้“หานเหยียน เธอคงไม่ได้จะลืมมันไปแบบนี้หรอกนะ ความอัปยศอดสูของตระกูลหานในอเมริกาของฉัน ต้องชะล้างด้วยเลือดของหานซานเฉียนเท่านั้น”“ใช่ ความอัปยศอดสูนี้จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเขาเท่านั้น”“หากเธอปล่อยให้ศักดิ์ศรีของตระกูลหานในอเมริกาถูกเหยียบย่ำ แล้วเธอจะยังมีคุณสมบัติอะไรในการเป็นผู้นำตระกูลหานในอเมริกาอีก”เมื่อเผชิญกับคำถามของทุกคน หานเหยียนยังคงมีท่าทีที่สงบ “ถ้าใครในพวกคุณมีความสามารถในการฆ่าหานซานเฉียนได้ ฉันก็จะให้อำนาจอันยิ่งใหญ่แก่คนนั้น นอกจากตำแห
“หานเหยียนงั้นเหรอ? คนที่เป็นผู้นำเล่นงานเราในครั้งนี้ก็คือหานเหยียน แล้วคุณจะรับการสนับสนุนจากเธอได้ยังไง?”“ใช่ อย่าคิดว่ามาคุยโม้ต่อหน้าพวกเรา แล้วเราจะเชื่อ”“ไอ้หนุ่ม หยุดหลอกคนอื่นที่นี่ได้แล้ว เพราะมันมีแต่จะทำให้ตัวเองอับอายเท่านั้น”พวกเขาแสดงคำพูดที่ไม่เชื่อในตัวหานซานเฉียนขึ้นมาทีละคน สีหน้าของชายวัยกลางคนเมื่อกี้ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีท่าทีระมัดระวังต่อหานซานเฉียนมากขึ้น เขามุ่งมั่นที่จะอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบริษัทในช่วงเวลาที่วุ่นวายเหล่านี้ แต่การมาถึงของหานซานเฉียนก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อแผนของเขา เขารู้ดีว่าาหานซารเฉียนมีศักยภาพที่จะเปิดเผยการกระทำผิดของเขา และป้องกันไม่ให้เขาถูกควบคุม นอกจากนี้ เขาเชื่อว่าหานเหยียนจะสนับสนุนหานซานเฉียน ซึ่งเป็นอันตรายต่อความพยายามของเขาในการยึดอำนาจชายหนุ่มคนนี้จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอ?“ทำไมเราต้องเชื่อสิ่งที่คุณพูดด้วย?” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มหานซานเฉียนลุกขึ้นและเดินตรงไปหาชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นว่า "ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณชื่อซุนอี้ใช่ไหมผมรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไร แต่คุณรู้ไหมว
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ