คำพูดของหนานกงป๋อหลิงทำให้หนานกงเยี่ยนและหนานกงซุนตระหนักได้ว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากแค่ไหนแต่หนานกงเยี่ยนและหนานกงซุนไม่เคยคิดเลยว่าการแข่งขันเพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำ จู่ ๆ จะมีคนนอกตระกูลโผล่เข้ามาร่วมด้วย และคนนอกตระกูลคนนี้ยังสามารถสร้างความประทับใจให้จวงถางได้ด้วยนี่เป็นการโจมตีที่เกือบถึงแก่ชีวิตสำหรับพวกเขาหลังจากที่หนานกงป๋อหลิงจากไป หนานกงเยี่ยนก็พูดกับหนานกงซุนว่า "นายคงไม่ใช่ว่าไม่กล้าแตะต้องเขาจริง ๆ หรอกใช่ไหม ไม่ว่ายังไงตำแหน่งผู้นำก็ไม่ควรตกไปอยู่ในมือของคนที่มีนามสกุลหานเด็ดขาด"หนานกงซุนเยาะเย้ยและพูดว่า "ถ้านายอยากจัดการเขา งั้นนายก็ลองดูสิ คุณปู่พูดไว้อย่างชัดเจนแล้ว ถ้านายอยากถูกไล่ออกจากตระกูลหนานกงก็อย่าลากฉันไปด้วย"“หนานกงซุน นายจะยอมถอยจริง ๆ เหรอ? นายเคยคิดเกี่ยวกับผลที่ตามมาของการที่ตระกูลหนานกงตกไปอยู่ในเงื้อมมือของหานซานเฉียนบ้างไหม?” หนานกงเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเพียงลำพัง หากจะจัดการหานซานเฉียน เขาต้องร่วมมือกับหนานกงซุนเท่านั้น เมื่อถึงเวลาจำเป็น เขาก็จะสามารถส่งต่อความรับผิดชอบให้หนานกงซุนได้ เขาวางแผนทุกอย่างได้อย่
ฉี๋อีหยุนส่ายหัวอย่างไม่สนใจ การประมูลประเภทนี้ไม่มีความหมายสำหรับเธอ มันเป็นเพียงสถานที่ที่คนเหล่านั้นเอาไว้อวดความร่ำรวยของตัวเองเท่านั้น และสิ่งที่เรียกว่าคนใหญ่คนโตก็ไม่สามารถกระตุ้นความสนใจจากฉี๋อีหยุนได้เลยแม้แต่น้อยได้ความคิดทั้งหมดของเธออยู่ที่หานซานเฉียน อาจกล่าวได้ว่าเธอไม่สนใจที่จะมองผู้ชายคนอื่นเลยนอกจากหานซานเฉียน “อ้อใช่ ลูกอย่าลืมแต่งตัวสวย ๆ ล่ะ เผื่อว่าลูกจะชอบคนใหญ่คนโตคนนั้นขึ้นมา” ฉี๋ตงหลินเตือนฉี๋อีหยุนพูดในใจคำนึงว่า จะเป็นไปได้ยังไง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เธอก็ไม่ทางชอบแน่นอนฉี๋อีหยุนรู้ว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับหานซานเฉียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดโดยพื้นฐาน แต่รู้ทั้งรู้ว่ามันผิด ฉี๋อีหยุนก็ยังคงเต็มใจที่จะทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ แม้ว่าเรื่องนี้ถูกกำหนดมาให้มีจุดจบที่ไม่สวยงามก็ตาม แต่เธอก็ยังอยากจะหาโอกาสลองดูใหม่อีกครั้งในวันประมูล ฉี๋อีหยุนที่รู้สึกเบื่อหน่ายก็ยังคงไปที่นั่นอยู่ดี แต่เธอแต่งตัวเรียบ ๆ สวมหมวกแก๊ปลิ้นเป็ดเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป และกลมกลืนไปกับฝูงชน โดยเฉพาะแว่นตาที่ปกปิดความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของ
เมื่อหานซานเฉียนปรากฏตัวในงานประมูล ภาพลักษณ์ของเขาไม่มีใครให้ความสนใจเลย ผู้คนที่กำลังมองซ้ายมองขวา ก็มองเขาเพียงแค่แวบเดียวและไม่ได้สนใจเขาอีกเพราะการแต่งกายของหานซานเฉียนไม่ได้ดูเหมือนคนมีอำนาจแต่อย่างใด และคนใหญ่คนโตในความคิดของพวกเขาจะต้องเข้ามาในงานอย่างโอ่อ่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้ช่วยตามมาสักคนแบบนี้ เนื่องจากจิตใจของทุกคนไม่ได้อยู่กับการประมูล สินค้าประมูลจำนวนมากจึงขายไม่ออก นี่เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ประมูลไม่ได้คาดคิดเอาไว้ และผู้บริหารระดับสูงบางคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาสำหรับฉี๋อีหยุน เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก ผู้ประมูลปลุกปั่นหัวข้อใหญ่เพื่อให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น แต่ใครจะคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้“แม่คะ ไม่เจ็บคอเหรอคะ ยังมองหาอะไรอยู่อีก บางทีคนใหญ่คนโตคนนั้นอาจไม่อยากมาที่นี่ด้วยซ้ำ” ฉี๋อีหยุนพูดกับโอวหยางเฟยอย่างช่วยไม่ได้“เฮ้อ” โอวหยางเฟยถอนหายใจ จุดประสงค์ของการมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อพบผู้มีอำนาจคนนั้นด้วย ตอนนี้ดูเหมือนว่าความหวังของเธอคงจะพังทลายลงแล้ว“ชายหนุ่มคนนี้ดูไม่เหมือนมาจากเขตของจีนเลย เขาคือคนใหญ่คนโตคนนั้นหรือเปล่า?” ตอนนั้นเอง ฉี๋
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างชัดเจน ฉี๋อีหยุนก็ยืนงงงันราวกับถูกฟ้าผ่าเขา!เขาจริง ๆ ด้วย!ทำไมจู่ ๆ เขาถึงมาปรากฏตัวในอเมริกาล่ะ? ในตอนแรก ฉี๋อีหยุนคิดว่าตัวเองตาฝาด ดังนั้นเธอจึงขยี้ตา และหลังจากยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าคน ๆ นี้คือหานซานเฉียนจริง ๆ ความคิดแรกของฉี๋อีหยุนคือการเข้าไปหาเขาแต่เธอก็ตัวแข็งทื่ออย่างกะทันหันวันนี้เธอสวมหมวกปิดบังผมที่กระเซอะกระเซิงนั้นไว้ แถมยังไม่ได้สระผมด้วยซ้ำ เพราะเธอแค่อยากจะมาสนุกเท่านั้น ใครจะคิดว่าเธอจะได้เจอกับหานซานเฉียนในโอกาสแบบนี้?หากฉี๋อีหยุนมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะแต่งตัวอย่างปราณีตมาเข้าร่วมแน่นอนหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน เธอจำเป็นต้องแสดงด้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเธอต่อหน้าหานซานเฉียน“อีหยุน เป็นอะไรไป ลูกรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า?” โอวหยางเฟยเห็นว่าฉี๋อีหยุนมีท่าทีแปลกไป จึงถามขึ้นอย่างเป็นกังวลฉี๋อีหยุนพยักหน้าแล้วพูดว่า "แม่คะ หนูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"หลังจากพูดจบ ฉี๋อีหยุนก็ก้มหัวแล้ววิ่งหนีไป เธอไม่อยากให้หานซานเฉียนเห็นเธอในสภาพนี้ตรงทางไปห้องน้ำ มีผู้หญิงที่มีรูปร่างคล้าย ๆ เธอแต่งตัวด้วยชุดเซ็กซี่คนนึงกำลังเดินมา
เมื่อโอวหยางเฟยไปถึงห้องน้ำ เธอก็พบว่าฉี๋อีหยุนได้เปลี่ยนเป็นชุด แถมยังกำลังแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกด้วย นั่นทำให้เธอหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ดังคำกล่าวที่ว่า สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนที่รัก ที่ฉี๋อีหยุนทำแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอหลงรักผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นเธอจะรีบมาที่ห้องน้ำ และเสริมความงามของตัวเองทำไมกันล่ะ“ลูกนี่นะ เวลาปกติก็ไม่เตรียมเนื้อเตรียมตัว พอถึงเวลาก็ทำอย่างรีบร้อน เมื่อก่อนไปทำอะไรอยู่กัน” โอวหยางเฟยพูดด้วยสีหน้าล้อเลียนฉี๋อีหยุนกำลังยุ่งอยู่กับการแต่งหน้า ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาคุยกับโอวหยางเฟย การเคลื่อนไหวของมือเธอมันชำนาญและรวดเร็ว เพราะกลัวว่ามันจะนานจนหานซานเฉียนจากไปเสียก่อน“แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่เลวจริง ๆ เมื่อกี้มีผู้หญิงมายั่วยวนเขา แต่เขาไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมามาก” โอวหยางเฟยพูดด้วยความชื่นชม แม้ว่าฉี๋ตงหลินจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นอาจไม่ใช่สเปกเขา แต่ในมุมมองของโอวหยางเฟย เมื่อกี้สายตาของเขาไม่ได้มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเลย เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสเปก แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้ต่างหากฉี๋อีหยุนไม่ได้พูด แต่เธอรู้ว่
จากมุมมองของหานซานเฉียน แม้ว่าหยวนหลิงจะไม่ยอมถอย แต่เธอก็ไม่สามารถอดทนได้นาน เพราะอย่างไรเธอก็เป็นแค่ผู้หญิง เมื่อต้องเผชิญกับการใช้กำลังเช่นนี้ เธอจะอดทนได้นานแค่ไหนกันแต่ความอดทนของหยวนหลิงนั้นอยู่เหนือจินตนาการของหานซานเฉียนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อขนย้ายของเข้ามาในบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า ฝ่ามือของหยวนหลิงก็เต็มไปด้วยเลือด แต่เธอก็ยังคงอดทนต่อไปสิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนประหลาดใจมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ แถมเธอยังไม่คิดที่จะยอมแพ้เลยด้วย เมื่อหานซานเฉียนเห็นหยวนหลิงเช็ดเลือดที่เปียกโชกด้วยผ้ากระดาษ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า "ถ้าทนไม่ไหวก็ยอมแพ้เถอะ จะทรมานตัวเองทำไมกัน"หยวนหลิงก้มศีรษะลง น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอในฐานะพนักงานเสมียน เธอไม่เคยลำบากแบบนี้มาก่อน ความเจ็บปวดจากฝ่ามือของเธอเป็นเหมือนเข็มทิ่มลงมา อีกอย่างตอนนี้เธอเพิ่งจะขนของชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้นเอง ของชิ้นใหญ่ที่เจ็บปวดจริง ๆ ยังคงรอเธออยู่“คุณมีความแค้นอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ?” ขณะที่หยวนหลิงเงยหน้าขึ้น น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอหานซานเฉียนยักไหล่และพูดว่า "ผมรู้จุดประสงค์ที่หนานกงป๋อหลิ
หยวนหลิงจากไปด้วยความดูถูกอย่างรุนแรง เธอเคยเห็นชีวิตที่เน่าเปื่อยของผู้ชายร่ำรวยมากเกินไป และภาพลักษณ์หานซานเฉียนในใจเธอก็คือคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ดังนั้นเธอจึงไม่คิดว่าสิ่งที่หานซานเฉียนพูดนั้นเป็นเพียงคำพูดล้อเล่น ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเขากับคนอื่น ๆ คือบางคนเล่นแบบลับ ๆ ในขณะที่เขาเล่นแบบเปิดเผยแต่ในใจของหยวนหลิงความตรงไปตรงมาแบบนี้ยิ่งไร้ยางอาย และผู้ชายแย่ ๆ แบบนี้ก็ไร้ยางอายยิ่งกว่า หากผู้หญิงคนไหนพบเขา ชาติที่แล้วเธอคงทำกรรมเอาไว้มากแน่ ๆ แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่หยวนหลิงจากไป หานซานเฉียนก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการดูอยู่ทีวีที่บ้านหานซานเฉียนเกิดในตระกูลหานในเหยียนจิง และสถานะของเขาไม่ได้ต่ำต้อยอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับผู้ญิงเหมือนคนร่ำรวยรุ่นที่สองคนอื่น ๆ นับตั้งแต่วันที่หัวใจเป็นของเขา หานซานเฉียนก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศซูหยิงเซี่ยเลยไม่ว่าผู้หญิงจะสวยแค่ไหน ในสายตาของหานซานเฉียนก็เป็นเพียงผู้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปในชีวิตเท่านั้นตกกลางคืน เงาหนึ่งเดินไปเดินมาสิบกว่ารอบอยู่นอกบ้านหานซานเฉียน ราวกับขโมยที่กำลังดูลาดเลาแต่หัวขโมยคนนี้แตกต่างจาก
หลังจากที่หานซานเฉียนวิ่งจ๊อกกิ้งกลับมาบ้านในตอนเช้า เขาก็พบว่าผู้หญิงสองคนเข้ากันได้ดี และสายตาที่หยวนหลิงมองเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่ามีความประหลาดใจที่อธิบายไม่ได้สำหรับหยวนหลิง เธอไม่ชอบผู้ชายเพลย์บอยอย่างหานซานเฉียนเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม เธอคิดว่าหานซานเฉียนเพียงแค่หาผู้หญิงที่มีชื่อเสียงบางคนมาที่บ้านเท่านั้น แต่การปรากฎตัวของฉี๋อีหยุน ทำให้หยวนหลิงตกใจมาก เพราะฉี๋อีหยุนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่หานซานเฉียนกลับสามารถมีความสัมพันธ์กับเธอได้ นี่แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนมีความสามารถที่ไม่เหมือนคนอื่นนี่เป็นวิธีคิดที่แปลกมาก แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นผู้หญิง แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างกัน กลับเป็นตัวกำหนดความคิดเห็นของหยวนหลิงที่มีต่อหานซานเฉียน“เตรียมการประชุมวันนี้แล้วหรือยัง?” หานซานเฉียนถามหยวนหลิง“ทุกคนในบริษัทได้รับแจ้งแล้วค่ะ” หยวนหลิงกล่าวหานซานเฉียนพยักหน้าและพูดต่อ "มีคนอื่นที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทอีกไหม มีรายชื่อหรือเปล่า?"หยวนหลิงคิดไว้แล้ว ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้เธอหยิบกระดาษ A4 ออกมา ด้านในมีบันทึกของบริษัทคู่ต่อสู้หานซาน