เมื่อหานซานเฉียนพูดแบบนั้น หนานกงซุนก็ตื่นทันทีเป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้เขามีทุนที่จะแข่งขันกับหนานกงเยี่ยน แล้วหนานกงเยี่ยนจะยอมอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร? ที่เขายอมถอยหนึ่งก้าวเมื่อคราวก่อน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขากลัวหานซานเฉียน มีเพียงการทำให้หานซานเฉียนตายเท่านั้น เขาถึงจะสามารถกำจัดภัยคุกคามนี้ได้"ฉันจะบอกคุณปู่เดี๋ยวนี้" หนานกงซุนกล่าว"ถึงจะไปบอกท่านก็ไม่มีประโยชน์อะไร" หานซานเฉียนรีบหยุดหนานกงซุน เขาสงสัยจริง ๆ ว่าหลังจาก หนานกงซุนกลับมาที่บ้านของตระกูลหนานกงแล้วไอคิวของเขาลดลงเหรอ ถึงเขาจะไปหาหนานกงป๋อหลิงแล้วจะมีประโยชน์อะไร?ไม่ใช่ว่ากลับมาที่บ้านแล้วไอคิวของหนานกงซุนลดลง แต่เป็นเพราะว่าเขากังวลจนทำให้เขาไม่สามารถมีที่ว่างให้คบคิดมากนัก เพราะนี่คือการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำในอนาคต และในฐานะหนึ่งในผู้ท้าชิง หนานกงซุนไม่สามารถทำเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไปได้ “ทำไมจะไม่มีโยชน์ ถ้าบอกให้คุณปู่รู้ว่าเขาเป็นฆาตกร ท่านจะได้ปล่อยนายไปและลงโทษเขาแทน” หนานกงซุนกล่าว"โอ้" หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆ "นายมีหลักฐานอะไรบ้างล่ะ? ถ้าหนานกงป๋อหลิงบอกให้นายแสดงหลักฐาน นายจะแสดงอะไรให้เขาดู หรือ
คำพูดของหานซานเฉียนทำให้การเคลื่อนไหวของหนานกงข่ายหยุดลงชั่วครู่แต่ไม่นานหนานกงข่ายก็ยังคงแสดงท่าทางซื่อ ๆ และยิ้มให้หานซานเฉียนเหมือนเดิมอย่างไรก็ตาม การกระทำของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้หานซานเฉียนแน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นแทงใจดำของหนานกงข่ายถ้าหนานกงข่ายแสร้งทำเป็นเสียสติจริง เหตุผลจะต้องเกี่ยวข้องกับแม่ของเขาอย่างแน่นอน และบางทีมันอาจจะเหมือนสิ่งที่หานซานเฉียนคิดไว้ก็ได้ว่า หนานกงข่ายเห็นว่าแม่ของเขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา “แสร้งทำเป็นปัญญาอ่อนมาหลายปี นายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เพื่อล้างแค้นให้แม่ของนายอย่างนั้นเหรอ?” หานซานเฉียนพูดต่อหนานกงข่ายยื่นมือที่ถือโคลนอยู่ออกไป ราวกับว่าเขาต้องการถามว่าหานซานเฉียนอยากจะเล่นด้วยกันไหมหานซานเฉียนยื่นมือออกจากกรงเหล็กหยิบโคลนขึ้นมาแล้วพูดว่า "พวกเราก็เป็นคนประเภทเดียวกัน ฉันอยากออกจากที่นี่ และนายก็อยากแก้แค้น บางทีการร่วมมือกันออาจช่วยให้นายบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นก็ได้นะ"จู่ ๆ หนานกงข่ายก็อารมณ์เสีย เขาคว้าดินกลับมาจากหานซานเฉียน และปั้นหุ่นดินเผาด้วยตัวเอง“ความสามารถของนายในตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้แค้นด้วยตัวเอง ฉันเดาว่าว
เรื่องที่หนานกงข่ายแสร้งทำเป็นคนเสียสติถูกเปิดเผยไปทั้งตระกูลหนานกง เมื่อหนานกงป๋อหลิงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้เครื่องตรวจจับค้นหาวัตถุระเบิดที่ฝังอยู่ในพื้นที่ของปราสาทโบราณ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมากระเบิดหนักเกือบร้อยกิโลกรัมทำเอาคนใจสั่นด้วยความหวาดกลัว ถ้ามันระเบิดขึ้นจริง ๆ คงไม่มีใครรอดแน่ไม่มีใครคิดว่าหนานกงข่ายผู้แสร้งทำเป็นคนเสียสติ ถึงขั้นยอมกินดินจะแอบทำเรื่องที่สั่นสะเทือนโลกแบบนี้ได้“ไอ้ปัญญาอ่อนนั่นมันบ้าจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่ามันอยากจะฆ่าพวกเราทุกคน”“โชคดีที่ท่านผู้นำค้นพบเรื่องนี้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาจะต้องเลวร้ายจนไม่อาจจินตนาการได้เลยแน่ ๆ”“ไอ้บ้านี่ ฉันกลัวจนขาอ่อนแรงไปหมดแล้ว”ในขณะที่ทุกคนอยู่ในอารมณ์แห่งความหวาดกลัว และก็ต่างดุด่า สาปแช่งหนานกงข่ายด้วยความโกรธไปพร้อม ๆ กันหนานกงข่ายคุกเข่าในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางสิ้นหวังเป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่เขาแสร้งทำเป็นคนเสียสติเพื่อล้างแค้นให้แม่ของเขา เพื่อที่หลังจากแก้แค้นแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะฝันถึงสายตาขอความช่วยเหลือของแม่เขาอีกต่อไปเขาใกล้จะประสบความสำเร็จแล้ว แค่มีโอกาสเข้าไปใ
ครึ่งเดือนต่อมาช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของตระกูลหนานกงกำลังจะมาถึง วันนี้คนใหญ่คนโตของระดับนั้นกำลังจะมาที่ตระกูลหนานกงในตอนเช้า หนานกงป๋อหลิงเรียกสมาชิกทุกคนในตระกูลหนานกงให้ลุกขึ้น และไปสนามบินด้วยความเคารพอย่างสูงสุดการที่สมาชิกทุกคนในตระกูลหนานกงไปที่นั่น ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าหนานกงป๋อหลิงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพียงใดในประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ ตระกูลหนานกงมีอำนาจมาก ดังนั้นเมื่อคนทั่วไปเห็นความเอิกเกริกนี้ จึงประหลาดใจและถอนหายใจ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาต่างก็ยังสงสัยว่าคนประเภทใดกันที่ได้รับการดูแลต้อนรับแบบนี้จากตระกูลหนานกงแบบนี้เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน ชายชราและชายหนุ่มเดินลงจากเครื่องบินชายชราอายุมากแล้ว แต่ออร่าของเขายังคงเหมือนเสือมังกร เวลาเดินมีลมพัดใต้ฝ่าเท้า และย่างก้าวที่มั่นคงนั้นให้ความรู้สึกเหนือกว่าที่สง่างาม แม้แต่หนานกงป๋อหลิงเมื่อเทียบกับเขาก็ยังดูต่ำกว่าอยู่มากนักและชายหนุ่มคนนั้นที่เชิดหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจคนจากตระกูลหนานกงเท่าไหร่ แต่ท่าทางเย่อหยิ่งของเขาก็ทำให้ผู้หญิงหลายคนในตระกูลหนานกงหลงใหล แม้แต่หนานกงหลิวหลีก็ก็อดไม่ได้ท
“แต่คุณไม่กล้าฆ่าหานซานเฉียน” เฉิงเฟิงพูดเสียงเรียบหนานกงเยี่ยนยืนขึ้นทันที กัดฟันและมองไปที่เฉิงเฟิงแล้วพูดว่า "นี่คือท่าทางของนายที่ใช้พูดกับฉันอย่างนั้นเหรอ?""ตอนนี้เขาอยู่ในคุกใต้ดิน มันง่ายมากที่คุณจะฆ่าเขา" เฉิงเฟิงไม่ได้กลัวหนานกงเยี่ยน เขามีความทะเยอทะยานสูง แต่น่าเสียดายที่เขาขี้ขลาด ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เฉิงเฟิงรู้สึกดูถูกเขาเป็นอย่างมาก"แผนของคุณปู่ไม่ใช่ที่ใครจะสามารถทำลายได้ง่าย ๆ เขาถึงขั้นปักหมุดความหวังสุดท้ายไว้ที่หานซานเฉียน จึงไม่มีใครทำร้ายหานซานเฉียนได้ในตอนนี้ ถ้าฉันฆ่าหานซานเฉียน นายคิดว่าฉันจะมีจุดจบยังไง?" หนานกงเยี่ยนพูดอย่างหมดหนทาง เขาอยากจะฆ่าหานซานเฉียน และอยากจะหั่้นเขาเป็นชิ้น ๆ แต่แล้วไงล่ะ? เขาไม่กล้าทำแบบนั้น เพราะมันจะทำให้หนานกงป๋อหลิงโกรธ และผลของความโกรธนั้นมันเหนือสิ่งที่เขาจะสามารถจินตนาการได้หนานกงเยี่ยนรู้ดีว่าหนานกงป๋อหลิงรอโอกาสนี้มานานแล้ว และในเวลานี้ หนานกงป๋อหลิงไม่อนุญาตให้ใครทำลายมันทั้งนั้นตอนนี้หนานกงป๋อหลิมีความลำเอียงมาที่เขามากก็จริง แต่ความลำเอียงนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเรื่องสำคัญนี้“มีอีกหนึ่งวิธีที่คุณไม่จำเป็นต้องฆ่
เมื่อหนานกงหลิวหลีถูกนำตัวไปที่คุกใต้ดิน เธอก็ถูกขังไว้ในกรงเหล็กที่หานซานเฉียนอยู่ทันทีสิ่งนี้ทำให้หนานกงหลิวหลีประหลาดใจ และทำให้หานซานเฉียนงงงวยมากหรือว่าเธอทำผิดอะไรมาอย่างนั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นหนานกงป๋อหลิงจะขังเธอไว้ทำไม?“เกิดอะไรขึ้น?” หานซานเฉียนถามหนานกงหลิวหลีหนานกงหลิวหลีเองก็คิดไม่ออกเธอไม่เข้าใจว่าทำไมหนานกงป๋อหลิงถึงให้เธอมาเฝ้าหานซานเฉียน ยิ่งไม่ต้องถามถึงว่าทำเธอถึงถูกอยู่ที่นี่กับเขา"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณปู่แค่ขอให้ฉันมาเฝ้าดูนาย แต่ทำไมเขาถึงต้องขังฉันไว้แบบนี้ด้วย!" หนานกงหลิวหลีดูหวาดกลัวมาก เธอกังวลว่าตัวเองจะทำอะไรผิดไปถึงได้ถูกหนานกงป๋อหลิงลงโทษโดยไม่รู้ตัว แต่เธออยู่ในตระกูลหนานกงมาตั้งหลายปี เว้นแต่เรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธอก็ไม่เคยทำผิดอะไรถ้าเธอถูกขังเพราะชีวิตส่วนตัวยุ่งเหยิง เธอก็ควรจะถูกขังไปนานแล้ว ทำไมถึงต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วยล่ะ?หานซานเฉียนขมวดคิ้ว หนานกงป๋อหลิงส่งหนานกงหลิวหลีมาเฝ้าเขามันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยเขาอยู่ในกรงเหล็กและไม่มีโอกาสหนีไปไหนได้ ทำไมหนานกงป๋อหลิงต้องทำอะไรแบบนี้?“ทำอย่างไรดี หรือว่าฉันจ
ใบหน้าของหนานกงเยี่ยนซีดราวกับกระดาษ เขาไม่คิดว่าเฉิงเฟิงจะจบลงแบบนี้หนึ่งหมัด!แค่หมัดเดียว เฉิงเฟิงก็ตายด้วยน้ำมือของกงเทียนฉากนี้ดูเหมือนคุ้นตาเหลือเกินหานซานเฉียนก็จัดการคนที่หนานกงเฟิงพามาด้วยหมัดเดียวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?หรือว่าจะมีเพียงหานซานเฉียนคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างความหวังให้กับตระกูลหนานกงได้?หนานกงเยี่ยนไม่พอใจเป็นอย่างมากพยายามมาตั้งหลายปี เขาไม่สามารถยอมรับการพ่ายแพ้ให้กับหนานกงซุนแบบนี้ได้ และหากสูญเสียสิทธิ์ในการสืบทอดตำแหน่งผู้นำ เขาจะยังสามารถอยู่ในตระกูลหนานกงได้อีกหรือ?"ดูเหมือนว่าในตระกูลหนานกงจะไม่มีใครคู่ควรกับความสนใจของฉันเลยสินะ" จวงถางยืนขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวังหนานกงป๋อหลิงกำหมัดแน่น เขาโค้งตัวลงและพูดกับจวงถางว่า "ท่านอาจารย์จวงได้โปรดให้โอกาสตระกูลหนานกงอีกครั้ง ผมจะไปพาคนมาเดี๋ยวนี้"ในฐานะผู้นำของตระกูลหนานกง การที่หนานกงป๋อหลิงกำหมัดโค้งคำนับนั้นคือความเคารพอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าจวงถางจะไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว แต่ในเมื่อเขาจะเอาทรัพย์สินจำนวนมากจากหนานกงป๋อหลิง ดูเหมือนว่าก็ต้องมอบโอกาสนี้กับเขาด้วย "ได้ ฉันจะให้โอกาสคุณอีก
เมื่อเห็นหนานกงเฟิงดิ้นอย่างต่อเนื่อง แม่ของเธอก็รีบวิ่งเข้าไปทุบตีหานซานเฉียนรัว ๆ เพื่อพยายามช่วยลูกชายของเธอ แต่กำลังของผู้หญิงจะเทียบหานซานเฉียนได้อย่างไร?หานซานเฉียนเตะเธอไปด้านข้างและพูดกับหนานกงเฟิงอย่างไร้ความปรานี "หนานกงข่ายตายใต้ไม้ของนาย ฉันแค่บีบคอนาย มันยังน้อยไปมากสำหรับนาย หากตกนรกไปแล้วอย่าลืมขอโทษหนานกงข่ายด้วยล่ะ"ใบหน้าของหนานกงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากขาดออกซิเจน การเคลื่อนไหวดิ้นรนของเขาอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ และในที่สุดขาของเขาก็ทิ้งตรงเมื่อเห็นฉากนี้ แม่ของหนานกงเฟิงก็รู้สึกหวาดกลัวจนดวงตาของแข็งค้างเมื่อหานซานเฉียนเดินไปหาเธอ เธอคุกเข่าลงต่อหน้าหานซานเฉียนอย่างไม่รู้ตัวและพูดว่า "ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่ควรฆ่าผู้หญิงคนนั้นเลย ฉันไม่ควรฆ่าเธอ!"“คุณทำแบบนั้นทำไม” หานซานเฉียนถามอย่างเย็นชา“เพราะเธอตั้งครรภ์อีกแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะขโมยความโดดเด่นของฉันไป ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำแบบนั้น” แม่ของหนานกงเฟิงกล่าวมีเสียงโครมครามดังขึ้นในหัวของหานซานเฉียน หนึ่งร่างสองชีวิต!เธอฆ่าแม่ของหนานก