แม้ว่าซือจิงจะเป็นเพียงผู้หญิง แต่เมื่อเธอได้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมขึ้นมาก็มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบเธอได้ นี่คือความแตกต่างของการอยู่ในตระกูลใหญ่ เธอสามารถมองเห็นด้านที่แตกต่างของโลก และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หัวใจของเธอจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปเมื่อเผชิญหน้ากับคนอย่างเจี่ยงหลานที่ครั้งหนึ่งเคยต้องการฆ่าลูกชายของเธอ ซือจิงจะแสดงความเมตตาได้อย่างไร?เจี่ยงหลานตะโกนด้วยความเจ็บปวด และเลือดยังคงไหลออกมาจากรูจมูก ซึ่งทำให้เจี่ยงหลานทั้งกลัวและลนลานเธอไม่เคยคิดว่าซือจิงจะปรากฏตัวอย่างกะทันหันแบบนี้ และเธอก็ไม่คิดว่าเธอจะต้องเผชิญกับความรุนแรงของซือจิง"หลานสาวของฉันอยู่ที่ไหน?" ซือจิงถามต่อยังคงเป็นคำถามเดิม แต่คำถามที่เรียบง่ายนี้ทำให้เจี่ยงหลานตัวสั่นด้วยความกลัวแต่เจี่ยงหลานรู้ว่าแม้ว่าเธอจะต้องตาย เธอก็ไม่สามารถพูดความจริงได้ ไม่อย่างนั้นนั้นจุดจบของเธอจะแย่ยิ่งกว่านี้ ในเวลานี้เจี่ยงหลานไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแสดงความน่าสงสารต่อหน้าซือจิง โดยหวังว่าเธอจะเมตตาตัวเองเจี่ยงหลานคุกเข่าลงบนพื้น และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมา ในเวลานี้เธอไม่สนใ
ขณะที่หยุนเฉิงกำลังปั่นป่วนอย่างรุนแรง ที่เรือนจำตี้ซินเองก็เช่นกันในนรกแห่งนี้ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และศพที่สามารถพบเห็นได้ทุกหนทุกแห่งเป็นฝันร้ายสำหรับคนทั่วไป เลือดที่ตกสะเก็ดบนร่างกายของหานซานเฉียนนั้นน่าตกใจมาก มันเหมือนกับว่าเขาคือปีศาจผู้รอดชีวิตจากความตายยังไรอย่างนั้น"พี่ซานเฉียน ดูเหมือนว่า... ดูเหมือนว่าเราจะฆ่าคนทั้งหมดในเรือนจำตี้ซินแล้วนะครับ" ตี้สู่พูดกับหานซานเฉียนด้วยความหวาดกลัว พวกเขายังอยู่กันที่หน้าประตูที่ปิดอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีคนคลั่งแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ตี้สู่ตกใจว่าพวกเขาทำอะไรลงไปกันแน่ ผู้คนหลายร้อยคนในเรือนจำตี้ซินถูกฆ่าตายหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ?สำหรับตี้สู่ที่ไม่เก่งในการสังหาร และสนุกกับการหลบหนีจากคุก นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากหานซานเฉียนชำเลืองมองเตาสือเอ้อร์ ในเมื่อไม่มีใครปรากฏตัวแล้ว นั่นก็หมายความว่ามีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ในนี้แต่พวกเขายังไม่พบกลไกที่จะเปิดประตู และปัญหาที่พวกเขาเผชิญ ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้จากการฆ่าคนทั้งหมด“พี่ซานเฉียน ตอนนี้เราควรทำยังไงกันดี?” เตาสือเอ้อร์ถามหานซานเฉียนไม่ตอบคำถามของเ
หนานกงซุนมองหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความหยอกล้อแข็งแกร่งแล้วอย่างไร?ถึงเขาจะบุกออกมาจากเรือนจำตี้ซินได้แล้วอย่างไร?เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ยังไงก็เป็นได้แค่สุนัขที่ต้องกระดิกหางด้วยความซื่อสัตย์เท่านั้น ซึ่งหนานกงซุนเพลิดเพลินกับสิ่งนี้มากเขาชอบที่จะควบคุมคนอย่างหานซานเฉียน ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งรู้สึกท้าทายมากเท่านั้น ผู้ชายหลายคนบอกว่าเขามีหน้าตาเหมือนนผู้หญิง และเมื่อเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหน้าตาตัวเองได้ หัวใจของหนานกงซุนก็รู้สึกบิดเบี้ยวเขาต้องการแสดงให้คนที่บอกว่าเขาเหมือนผู้หญิงพวกนั้นดูว่า แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแกร่งอย่างหานซานเฉียนก็ยังต้องคุกเข่าให้ขา"ฉันจะคุกเข่าเอง!" ในเวลานี้เตาสือเอ้อร์พูดขึ้นอย่างกะทันหัน เขาเดินไปด้านหน้าของหนานกงซุนและคุกเข่าลงอย่างไม่ลังเล“ฉันด้วย” ตี้สู่เดินไปหาหนานกงซุนเกือบจะพร้อมกันกับเตาสือเอ้อร์ทั้งสองคนยอมเสียศักดิ์ศรีมากกว่าเห็นหานซานเฉียนต้องคุกเข่าให้หนานกงซุนสำหรับเตาสือเอ้อร์หรือตี้สู่ หานซานเฉียนคือคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง และคนที่แข็งแกร่งแบบนี้จะทำอะไรที่เสียศักดิ์ศรีไม่ได้หนานกงซุนยิ้มอย่างเ
เมื่อเห็นท่าทีลังเลของหนานกงซุน แสดงว่าเขาต้องมีความกลัวอยู่ในใจ และหานซานเฉียนก็มั่นใจมากขึ้นว่าเขาสามารถใช้สิ่งนี้ต่อรองกับหนานกงซุนได้“เรือนจำตี้ซินถูกทำลายจนหมดสิ้น นายทุ่มเทไปขนาดนี้จะยอมกลับไปมือเปล่าเหรอ?” หานซานเฉียนกล่าวหนานกงซุนตกใจ หานซานเฉียนค้นพบความกลัวของเขา ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่มีทักษะที่ดี แต่ยังเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมอีกด้วย เขาเป็นคนที่น่ากลัวอย่างแท้จริงโชคดีที่เขายังมีไพ่ตายอยู่ในมือ ตราบใดที่ชีวิตของหานเนี่ยนอยู่ในมือของเขา หานซานเฉียนก็ต้องทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น การฆ่าสามคนนี้ ไม่ได้มีความหมายสำหรับหนานกงซุนมากนัก เขาไม่จำเป็นต้องถูกคนในตระกูลตำหนิ เพราะคนไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้“ฉันจะปล่อยพวกมันไปก็ได้ แต่ถ้าแกไม่สามารถทำให้ฉันพอใจ ฉันก็สามารถส่งคนไปฆ่าพวกมันได้ทุกเมื่อ รวมถึงลูกสาวของแกด้วย” หนานกงซุนพูดหานซานเฉียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาเดินไปที่เตาสือเอ้อร์และพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า "หลังจากที่กลับไป ช่วยฉันดูแลหยิงเซี่ยด้วย และบอกเธอว่า ฉันจะช่วยหานเนี่ยนให้ได้ ให้เธอไม่ต้องกังวลมากเกินไป"เตาสือเอ้อร์มองไปที่บาดแผลบนต้นขาของหา
เจี่ยงหลานหลบทางโดยฝังหัวของเธอไว้ที่มุมประตูด้วยตัวสั่นเทา แม้ว่าเธอจะมีความกล้าเป็นร้อยเท่า แต่เธอก็ไม่กล้ากับหานเทียนหยางแม้ว่าเจี่ยงหลานจะเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง และไม่รู้เรื่องของเหยีนจิงมากนัก แต่หลังจากรู้จักตัวตนของ หานซานเฉียน เธอก็จงใจไปศึกษาเกี่ยวกับตระกูลหานในเมืองเหยียนจิงแม้ว่าหานเฉิงจะไม่มีพรสวรรค์มากนัก และเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ความสามารถของหานเทียนหยางผู้ก่อตั้งตระกูลหานด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่ใช่ความสามารถที่จะประเมินต่ำได้เลยที่สำคัญกว่านั้น เจี่ยงหลานกลัวว่าซือจิงจะลงไม้ลงมือกับเธอ เธอถูกซือจิงตบตีจนเป็นเงาในจิตใจแล้ว นอกเหนือจากการด่าซือจิงลับหลัง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซือจิงเธอก็ยังเชื่องเหมือนกระต่ายตัวนึงเท่านั้นเจี่ยงหลานชอบการกลั่นแกล้งผู้อ่อนแอกว่ามากถึงขีดสุด"ที่ผ่านมาคงลำบากไม่น้อยเลยสินะ" หานเทียนหยางกล่าวกับซือจิง“ซานเชียนล่ะคะ ซานเชียนไม่ได้กลับมาพร้อมกับคุณพ่อเหรอคะ?” ซือจิงถามซูหยิงเซี่ยที่เดิมทีนั่งเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่บนโซฟา แต่เมื่อเธอได้ยินคำว่าซานเฉียน เธอก็ลุกขึ้นทันทีและวิ่งไปที่ด้านข้างของซือจิง"แม่คะ ซานเฉียนกลับมาแล้วเหรอคะ? เ
หานเทียนหยางยิ้มขมขื่น เขาเดาไว้แล้วว่าหานซานเฉียนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ในสักวันหนึ่ง เพราะตั้งแต่วินาทีที่หนานกงเชียนชิวแต่งเข้าตระกูลหาน ตระกูลหานในเมืองเหยียนจิงก็เป็นเพียงหมากของของตระกูลหนานกงเท่านั้นทุกคนในโลกคิดว่าหานเทียนหยางเริ่มต้นจากศูนย์ และสร้างปาฏิหาริย์นับไม่ถ้วน แต่ใครจะรู้ว่าหากไม่มีตระกูลหนานกงอยู่เบื้องหลัง เขาจะไม่สามารถทำสิ่งพวกนี้ได้เลยตอนนั้นเขาสู้เพื่อต่อลมหายใจในตอนนั้นเพื่อไม่ให้แพ้ตระกูลหานในอเมริกา เพื่อไม่ให้ตระกูลหานในอเมริกาถูกดูถูก หานเทียนหยางจึงออกเดินทางบนถนนสายนี้ที่ไม่มีวันหวนกลับได้หานซานเฉียนเคยถูกคนทั้งหยุนเฉิงมองว่าเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ แต่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ที่แท้จริงคือหานเทียนหยางต่างหาก เขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะแต่งเข้าตระกูลอื่นด้วยซ้ำ!แต่เขาไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้การเกิดของหานเนี่ยนเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ แต่ก็เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แถมเธอยังถูกโยงเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหานเนี่ยน ฉันจะเผชิญหน้ากับเขาได้ยังไง" หานเทียนหยางรู้สึกผิดหวัง เพราะเขาไม่มีอำ
หนานกงซุนขบฟันตัวเองจนแทบหัก สิ่งที่เขาต้องทำคือควบคุมหานซานเฉียนอย่างเต็มรูปแบบ และใช้หานเนี่ยนเพื่อเป็นข้อต่อรองให้หานซานเฉียนเชื่อฟังเขาแต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนถูกแบล็กเมล์ซะเอง นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หนานกงซุนต้องการ และไม่ใช่สิ่งที่เขายอมรับได้“เชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันสามารถโทรไปสั่งให้คนตัดแขนหานเนี่ยนได้ แขนเล็ก ๆ ของเธอน่าจะหักได้ง่ายนะ” หนานกงซุนขู่หานซานเฉียนสั่นไปทั้งตัว แต่เขารู้ว่าหากเขายอมหนานกงซุน เขาจะมีคุณสมบัติน้อยลงในการเจรจาเงื่อนไขกับหนานกงซุนในอนาคต เขาต้องลองเสี่ยงดูว่าหนานกงซุนคงไม่กล้าทำแบบนั้น"ชีวิตลูกสาวของฉันไม่มีค่าในสายตาของนายหรอก แต่การอนุมัติจากผู้นำหนานกงต่างหากคือสิ่งที่นายต้องการ นายจะลองดูก็ได้ ลองเดิมพันกับอนาคตของนายดู" หานซานเฉียนกล่าวอย่างใจเย็นหนานกงซุนโกรธมาก เขาไม่คิดมาก่อนว่าวิธีนี้จะใช้ข่มขู่หานซานเฉียนไม่ได้แม้ว่าหานเนี่ยนจะตาย หนานกงซุนก็ไม่ได้สนใจ แต่เขาต้องไม่ทำลายตำแหน่งตัวเองในตระกูลหนานกงเพราะสิ่งนี้"หานซานเฉียน นายเป็นพ่อเธอนะ นายจะใจร้ายได้ลงคอเหรอ? เธอยังเป็นทารกที่อายุน้อยกว่าหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ" หลังจากที่หนานกงซุนพูดจบ เขาก
"คุณยาย คุณ... คุณรู้จักหนานกงเชียนชิวเหรอครับ?" หานซานเฉียนหายใจเร็วอย่างอธิบายไม่ได้ หนานกงเชียนชิว ตระกูลหนานกง! ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันอย่างนั้นเหรอ? จะเป็นไปได้อย่างไร!หนานกงเชียนชิวเป็นคนของตระกูลหนานกงอย่างนั้นเหรอ?“เธอนี่มันหลานอกตัญญู เรียกชื่อคุณย่าเฉย ๆ ได้อย่างไรกัน?” หญิงชราจ้องหานซานเฉียนด้วยความโกรธหานซานเฉียนไม่เคยมองว่าหนานกงเชียนชิวเป็นคุณย่าของเขา ความลำเอียงของเธอได้ลบล้างความรู้สึกทั้งหมดของหานซานเฉียนที่มีต่อเธอ แม้แต่ตอนที่เธอกำลังแควนคอตัวเอง หานซานเฉียนก็ไม่ได้รู้สึกสงสารเธอเลยแม้แต่น้อยถ้าไม่ใช่เพราะหนานกงเชียนชิว หานซานเฉียนจะมีวัยเด็กที่เจ็บปวดแบบนั้นได้อย่างไรคุณย่าแบบนี้จะมีความหมายอะไรกับหานซานเฉียน?“เธอไม่เคยถือว่าผมเป็นหลานของเธอเลย และเธอก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นคุณย่าของผมด้วย” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆเมื่อได้ยินประโยคนี้ หญิงชราก็ยิ่งโกรธจัด จนถึงกับเหวี่ยงไม้ค้ำของเธอใส่หานซานเฉียนหานซานเฉียนไม่หลบเลี่ยง แรงของหญิงชราคนนี้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ และไม้ค้ำมันก็เพียงแค่ข่วนร่างกายของเขาเท่านั้น“คุกเข่าลงและขอโทษเธอซะ” หญิงชรากล่าวสีหน้าขอ