Home / โรแมนติก / ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์ / Chapter 10. เซ้าซี้น่ารำคาญ

Share

Chapter 10. เซ้าซี้น่ารำคาญ

last update Last Updated: 2024-06-21 21:30:40

“เจ้าจะเรียกข้าอะไรนักหนา”  เขาถลึงตาใส่อย่างหงุดหงิด โดนมารดาดุไปแล้วยังต้องมาเจอผู้หญิงคนนี้ทำตัวเซ้าซี้น่ารำคาญอีก

“นี่อะไร”

  เขาถามพลางสูดเอากลิ่นอาหารเข้าท้องทำให้กะเพาะส่งเสียงครางออกมาเบาๆ

“หมาโผโต้ฝุ  เต้าหู้ผัดซอสเจ้าคะ ส่วนนี้ก็ กงเป่าจีติงเนื้อไก่ ต้นหอมหั่นลูกเต๋า ผัดกับพริกแห้งและถั่วลิสง รสชาติออกเปรี้ยวหวาน แล้วยังมี...”

“ข้ายกถาดอาหารไปแล้วกัน”  เขาพูดเมื่อเห็นนางยกชามอาหารสามสี่อย่างใส่ถาดแล้ว “เกิดเจ้าหกล้มขึ้นมาจะอดกินเสียเปล่าๆ”

หลัวเสี้ยวเวยยิ้มกว้าง หญิงสาวไม่รู้ตัวหรอกว่ารอยยิ้มของตนสะกดสายตาชายหนุ่มได้มากเพียงใด ทำให้เขาหันไปทางอื่นราวกับกลัวตนเองจะต้องมนต์ดำเข้าให้  

“ไปได้แล้วข้าหิว”

“เจ้าค่ะ”

สายตาหญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างที่ตัวเดินออกไปพร้อมถาดอาหาร  นางหันไปมองบ่าวคนอื่นที่ทำเหมือนสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ นางจึงรีบยกสำรับที่เหลือเดินเร็วๆ ตามร่างสูงออกไป  คนรับใช้ชายสูงวัยช่วยยกอาหารที่เหลือตามออกไปพร้อมรอยยิ้มกึ่งขบขัน

ภาพหญิงสาวร่างเล็กในชุดสาวใช้กับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวเข้มช่วยกันจัดโต๊ะอาหารมื้อนั้น  ทำให้ผู้เป็นบิดามารดาอดยิ้มไม่ได้ เคยกังวลว่าลูกชายไม่สนใจผู้หญิงเสียแล้ว เห็นเช่นนี้จึงเบาใจไปเปราะหนึ่ง แต่ที่ยังกังวลคือยังไม่รู้ที่มาที่ไปของเสี้ยวเวย  ที่ผ่านมาบุตรชายทั้งสองขยันขันแข็ง ทำให้สกุลหยางไม่ต้องเผชิญความลำบากทางการเงินนัก  แต่กระนั้นก็ทำให้ลูกชายที่อยู่บ้านก็คล้ายกับไม่อยู่   แต่เดิมบิดาเคยโทษตนเองที่ครอบครัวเป็นเช่นนี้เพราะอาการเจ็บป่วยจนเดินเหินไม่ได้  จึงไม่อาจเรียกร้องให้ลูกชายทั้งสองอยู่ดูแลอยู่ใกล้ชิดเหมือนที่ทั้งสองเคยเป็นเด็กเล็กๆ

วันเวลาที่เคยเงียบเหงาจางหายไป  เพราะมีสาวใช้คนใหม่ หน้าตาน่าเอ็นดู นางทำงานได้ดีเยี่ยม การงานเรื่องในครัวเพียงได้รับคำชี้แนะจากอิงอู่ก็ทำออกมาได้ถูกปากทุกคน  แต่กระนั้นท่าทางนางก็ไม่เหมือนหญิงรับใช้ทั่วไป  อ่านหนังสือออก ช่วงที่ลูกชายเอาแต่ยุ่งกับงาน นางอาสาอ่านหนังสือให้ทั้งสองฟัง  น้ำเสียงก็แสนรื่นหูนัก

หยางต๋าลอบทดสอบเสี้ยวเวยโดยการชวนคุยเรื่องทั่วไป  เสี้ยวเวยตอบโต้ได้อย่างคนมีความคิด มีการศึกษา   แต่ที่น่าฉงนคือผู้หญิงคนนี้มีเสี่ยวหงเป็นคนแนะนำมา  คงต้องคอยดูกันไป ถ้าเป็นคนดีจริงแล้วขัดสนเงินทอง เขากับภรรยาเคยพูดคุยกันเรื่องเสี้ยวเวยแล้วว่า หากนางเป็นคนดีจริงทั้งสองย่อมสนับสนุนให้นางได้อยู่ในฐานะที่ดีกว่านี้   

เพราะชีวิตเคยลำบากมามาก สองสามีภรรยาผู้สืบทอดดูแลป้อมพยัคฆ์ทมิฬรุ่นที่สองจึงสั่งสอนอบรมเลี้ยงดูบุตรชายทั้งสองมิให้ทำตัวเป็นคุณชายให้ผู้อื่นคอยรับใช้  แม้มีบ่าวไพร่และผู้ติดตามแต่ลูกชายทั้งสองมักทำอะไรด้วยตนเองเสมอ  คนที่นี้จึงมิแปลกใจที่เห็นคุณชายใหญ่ถือถาดอาหารเข้ามาให้บิดามารดาด้วยตนเองเช่นนี้

ช่วงขาสั้นและตัวเล็กทำหลัวเสี้ยวเวยต้องเดินเร็วๆจนเกือบจะเป็นวิ่งตามหลังแผ่นหลังกว้างเดินลิ่วๆ มาถึงโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารแล้ว   นางหอบเล็กน้อย ทำงานจนร่างกายชินชา  แต่ให้เดินเร็วๆ ทั้งที่ประคองถาดอาหารมาด้วยเช่นนี้  นางแทบหายใจไม่ทันเลยทีเดียว  แต่เพราะเห็นสายตาคมคู่นั้นชำเลืองมอง นางจึงรีบเข้าไปจัดอาหารบนโต๊ะทันที 

ความสูงที่ต่างกันมาก ทำให้หยางเหลาหู่มองเห็นดวงหน้าเล็กมีเหงื่อผุดที่หน้าผาก  มือใหญ่หยิบจับถ้วยชามอาหารวางบนโต๊ะ แต่ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าหวานนั้นได้ จนกระทั้งอีกฝ่ายรู้ตัวแล้วถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรผิด ทำให้เขาเผลอขมวดคิ้วอย่างงุนงง

อากัปกิริยาของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของหยางต๋าและฮูหยิน รวมทั้งบ่าวสูงอายุที่รอรับใช้อยู่ใกล้ๆ ต่างพากันอมยิ้ม ด้วยวัยของคุณชายใหญ่ถึงเวลาควรมีภรรยาและลูกเล็กๆ ไปนานแล้ว   แม้ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของ ‘เสี้ยวเวย’ อย่างชัดเจน  แต่สายตาเจนโลกของพวกเขาผนวกกับรูปร่างทรวดทรงของ ‘เสี้ยวเวย’ แล้ว นางเหมาะที่จะให้กำเนิดทายาทสกุลหยาง  นางปรากฏตัวในฐานะของ‘สาวใช้’ ก็ตาม

เมื่อจัดโต๊ะอาหารพร้อมแล้ว หญิงสาวถอยออกห่างเพื่อให้เจ้านายได้รับประทานอาหาร นางแอบค้อนคุณชายใหญ่เข้าไป เพราะเขาแท้ๆ ทำให้นางเหนื่อยจนแทบหอบหายใจเช่นนี้

“ทำไมเจ้าไปยืนไกลนักละเสี้ยวเวย”  ฮูหยินหยุนผิงถามแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “มานั่งกินข้าวด้วยกันนี่ซิ” 

“เชิญนายท่านกับฮูหยินกินอาหารเถิดเจ้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ  สายตาดันแอบเห็นสีหน้าคุณชายใหญ่เข้มขึ้น นางจึงหลุบตาลงทำเป็นมองไม่เห็นเสียนี่

“กับข้าวเยอะแยะเต็มโต๊ะแบบนี้ มานั่งกินด้วยกันนี่แหละ มาๆ มานั่งข้างเหลาหู่”   คราวนี้เป็นนายท่านใหญ่เรียกอย่างสนิทสนม

สายตาคมกริบของหยางเหลาหู่ไม่ได้ทำให้หลัวเสี้ยวเวยรู้สึกกลัวได้หรอก เพียงแต่เกรงใจที่ผู้ใหญ่เอ่ยปากชวนถึงสองครั้งแล้วปฏิเสธไปจะดูไม่เหมาะ  ทั้งหยางต๋าและฮูหยินหยุนผิงคะยันคะยอให้นั่งกินอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน  นางจึงทำตามอย่างไม่อาจปฏิเสธได้   

หลางเหลาหู่จับตะเกียบแล้วแกล้งกางข้อศอกมาโดนแขนซ้ายของคนที่นั่งข้างๆ  เป็นจังหวะที่หญิงสาวกำลังคีบอาหารส่งเข้าปากตนเอง  ทำให้นางสะดุ้งเสียจังหวะ ข้าวร่วงก่อนเข้าปาก  นางหันขวับมามองคนตัวโตที่ยักคิ้วให้  หลัวเสี้ยวเวยได้แต่กัดฟันแล้วบอกให้ตัวเองสงบใจไว้  นี่มันพฤติกรรมของเด็กชอบเอาชนะชัดๆ  เขาแค่เป็นผู้ใหญ่ตัวโตที่มีนิสัยแบบเด็กเท่านั้น

“ไก่ตุ๋นยาจีนเป็นอย่างไร  อร่อยไหม?”  ฮูหยินหยุนผิงถามขึ้น

“อร่อยมาก  ลูกรู้สึกว่าไม่ได้กินรสมือแม่แบบนี้นานแล้ว”

“ชามนั้นเสี้ยวเวยทำนะลูกไม่ใช่แม่หรอก แม่แก่แล้วลิ้นไม่ค่อย

รู้รสแล้วล่ะ” 

            ฮูหยินหยุนผิงยิ้มได้ใจ ลูกชายจะเปลี่ยนคำพูดก็ไม่ได้เพราะเห็นกินเอากินขนาดนั้น 

“กั๋วชิ่งยังไม่กลับมาอีกรึ”  หยางเหลาหู่เปรียนเรื่อง ปกติมื้อเย็นกินข้าวกันพร้อมหน้า ไม่มีส่วนเกินเช่นมื้อนี้

“ออกไปดูร้านกับอาลี่ กว่าจะกลับคงมืด”   หยางต๋าเอ่ยตอบเพราะลูกชายมาบอกก่อนจะออกไปข้างนอกแล้ว  

ร้านค้าของหยางกั๋วชิ่งอยู่ในเมือง เมื่อใดที่ถูกจ้างให้คุ้มกันสินค้าจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่ง  หยางกั๋วชิ่งจะสั่งให้เขาซื้อข้าวของกลับมาจำหน่ายในเมือง  เมื่อเดินทางบ่อยและได้ของดีคุณภาพเยี่ยมจากต่างเมืองมา  รวมทั้งจัดหาสินค้าหายากตามที่ลูกค้าต้องการ  ด้วยเหตุนี้ทำให้กิจการร้านค้าของ หยางกั๋วชิ่งขายดิบขายดีไปด้วย  

อาหารมื้อเย็นผ่านไปด้วยรอยยิ้มและเรื่องเล่าที่ผู้ใหญ่ทั้งสองสรรหามาพูดคุยทำให้หลัวเสี้ยวเวยอดหัวเราะไม่ได้  มีแต่หยางเหลาหู่ที่หน้าตึงเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินของครอบครัว  หลังกินอาหารเย็นเสร็จสิ้น  หญิงสาวขอตัวไปจัดการเก็บล้างจานชามในครัว นางยิ้มอย่างสุขใจ ผิดกับครั้งที่อยู่กับครอบครัวลุงจางฉวน  นางทำอะไรไม่ถูกใจคนในบ้านเสมอ ถูกรังแกกลั่นแกล้งสารพัด หลายครั้งคิดน้อยใจที่บิดามารดาทอดทิ้งนางไว้ตามลำพัง

“เจ้านี่หว่านเสน่ห์ใส่ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าได้ยังไงนะ  ปกติ

พวกท่านไม่ค่อยสนิทสนมกับใครแบบนี้” 

เสียงหยางเหลาหู่ดังมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์  นางหันมายิ้มให้แล้วเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน  

“งานในครัวเสร็จแล้ว ข้าน้อยได้พักแล้วหรือไม่เจ้าคะ”

“ก็...”  ปกติเขาก็ไม่ใช่คนเรื่องมาก  แต่...แค่รู้สึกเหมือนถูกแย่งบิดากับมารดาไปอย่างไรไม่รู้ 

“ถ้าไม่มีอะไร  ข้าน้อยขอตัวไปหานายท่านกับฮูหยินเจ้าค่ะ”

“ถ้าเสแสร้งแกล้งประจบก็ไม่ต้องไปหรอก”

“คุณชายใหญ่คิดอย่างไร ล้วนไม่ใช่เรื่องที่ข้าน้อยต้องใส่ใจ  ข้าน้อยทำหน้าที่ของตัวเองและตอบแทนที่ได้รับความเมตตาต่างหาก”

Related chapters

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 11.จงเก็บศัตรูไว้ข้างกาย

    “เจ้าทำได้ดีแล้ว แต่หวังว่ามันจะดีมาจากใจจริง”“คุณชายใหญ่นี่ไม่ไว้ใจข้าแต่กลับยอมให้ทำงานด้วย ประหลาดจริงๆเชียว” หลัวเสี้ยวเวยมองหน้าเขาแล้วเบ้ปากนิดๆ เพราะเขาเป็นเจ้านายที่ชอบหาเรื่องนาง นางจึงหลงลืมรักษามารยาทที่ควรทำ“นี่เรียกกลยุทธ์ไม่รู้รึ เคยได้ยินหรือไม่ จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว”“ถ้าเป็นข้าน้อย...คงเลือกที่หนีให้ห่างมากที่สุด อย่าได้จองเวรกันและกันเลย” นางพูดแล้วเหลือบตามองเขา ไม่รู้ตัวว่าเขาเข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนได้กลิ่นกายบุรุษเพศปนกลิ่นเหนื่อยจางๆ จากเรือนกายกำยำของเขา“เสี้ยวเวย” เขาจ้องหน้านาง “ ข้าให้โอกาสเจ้าแล้วพูดความจริงกับข้า หากข้ารู้จากปากคนอื่นว่าเจ้าโกหกอะไรไว้ รับรองได้เลยว่าเจ้าได้รับการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อจากข้า!” หลัวเสี้ยวเวยแทบลืมหายใจไปกับคำพูดดุดันและสายตาดุจเสือร้ายของเขา ร่างสูงหมุนตัวเดินออกไปแล้ว เหลือเพียงร่างที่ยืนนิ่งตะลึงงันกับการถอนหายใจอย่างเจ็บปวด มาอยู่แค่ครึ่งเดือนแต่นางก็ประทับใจผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน ยิ่งทั้งสองท่านให้ความเมตตาเอ็นดู นางยิ่งอยากพูดความจริง ทว่าไม่อาจคาดเดาได้ว่าเมื่อความจริงปรากฏ นางจะยังได้อยู่ในป้อมพยัค

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 12. ทำหน้าที่

    หญิงสาวมองดูเสื้อผ้าสองสามชุดที่ได้รับมาจากป้าอิงอู่ เพราะนางมาแบบไม่ได้เตรียมตัวจึงไม่มีเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยน นางจำใจต้องโกหกว่าตนเองนั้นยากจน ที่เดินทางมาที่นี่ก็มีเพียงเนื้อตัวเปล่าๆ ไม่มีทรัพย์สมบัติใดติดตัวมา ป้าอิงอู่ส่ายหน้าระอาใจ แต่กระนั้นก็ค้นเสื้อผ้าเก่าๆ ยื่นให้นางใช้ ด้วยรูปร่างที่แตกต่างทำให้นางต้องแก้ไขเสื้อผ้าเหล่านี้ให้ใส่พอดีตัว นางมาอยู่ที่นี่โดยการสวมรอยเป็นสาวใช้ที่เสี่ยวหงส่งมา นางเองมิรู้ว่าสาวใช้ที่ถูกส่งมานั้นมีสัญญาซื้อขายอย่างไร นางไม่กล้าเอ่ยปากถามหยางเหลาหู่ กระนั้นการใช้ชีวิตที่นี่มีที่ซุกหัวนอนและกินอิ่มครบสามมื้อก็เพียงพอแล้ว ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกหนักใจมากนัก ตั้งใจว่าอดใจรออีกสักหน่อย อีกไม่กี่วันน่าถึงวันจ่ายเบี้ยให้บรรดาบ่าวไพร่ เผื่อนางจะได้รับบ้าง งานของนางเริ่มตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างนัก เมื่อครั้งที่เคยเป็นคุณหนูหลัวเสี้ยวเวย นางได้รับการบ่มเพาะนิสับให้ตื่นเช้าดูแลปรนนิบัติบิดามารดา นางชอบเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่เพียงแค่เตรียมอาหารแต่ละมื้อ นางยังลงมือเย็บรองเท้าให้คนทั้งสอง ฝีมือของนางนับว่าไม่ด้อยกว่าผู้ใด แม้ไม่เ

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 13. ท่านพ่อข้าไม่คิดมีอนุหรอกนะ

    นางคร้านจะต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว สายตาเหลือบเห็นสาบเสื้อของเขาไม่เรียบร้อยจึงยื่นมือไปขยับจับให้เข้าที มือเรียวลูบเนื้อผ้าให้เรียบตึง แต่ลืมไปว่ามือของตนนั้นทาบอยู่กับแผงอกของเขา พลันนางรู้สึกถึงร่างที่เกร็งขึ้น มือเล็กรีบชักกลับอย่างเพิ่งนึกได้ เงยหน้าของมองเห็นดวงตาคมจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว นางรีบก้มหน้างุดแล้วหมุนตัวออกไปทันที รีบเดินเสียจนเกือบสะดุดธรณีประตู“ข้าขอตัวไปเตรียมอาหารเช้าให้นายท่านใหญ่กับฮูหยิน”“เผื่อข้าด้วย ข้าจะไปกินพร้อมท่านพ่อกับท่านแม่”“เจ้าค่ะ”หลัวเสี้ยวเวยรีบเดินกลับมาที่ครัว เห็นบ่าวคนอื่นเตรียมยกสำรับอาหารไปให้นายท่านใหญ่กับฮูหยินพอดี จึงจัดแจงเพิ่มของคุณชายใหญ่ไปอีกชุด แล้วรีบเดินไปที่เรือนของผู้ใหญ่ทั้งสอง เห็นใบหน้ามีเมตตาของทั้งสองแล้วนางก็สงบใจลงได้ ทำใจให้สงบลงและดูแลปรนนิบัติท่านทั้งสองด้วยความเต็มใจ เพราะหยางต๋าเดินไม่ค่อยสะดวก นางจึงรีบเข้าไปหวังจะช่วยประคอง แต่กลับถูกร่างของหยางเหลาหู่เข้ามาเบียดจนนางแทบกระเด็นไปด้านข้าง หลัวเสี้ยวเวยขวับมามองอย่างไม่พอใจนัก “คุณชายใหญ่!”“ทำไมต้องทำเป็นตกใจ” หยางเหลาหู่กระตุกยิ้มที่มุมปาก ก้มลงกระซิ

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 14. ลองชิมสิ

    เพียงแค่เขาขยับปลายนิ้วกลับล่วงรู้ว่าต้องหยิบยื่นสิ่งใดให้ ที่สำคัญอาลี่อ่านหนังสือออกเขียนได้ แต่เก็บกดความสามารถของตนเองไว้ ด้วยความสงสัยและต้องการจับผิดนั้นทำให้เขากลายเป็นฝ่ายที่ผู้อื่นมองว่า หาเรื่อง‘กลั่นแกล้ง’อาลี่อยู่เสมอ ทำให้พี่ใหญ่หิ้วอาลี่เป็นเด็กรับใช้ข้างตัว เพื่อมิให้คนอื่นกล้ารังแก หยางกั๋วชิงรู้ว่าหยางเหลาหู่มิได้คิดอะไรกับอาลี่ ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่พี่ใหญ่หิ้วกลับมาระหว่างทาง บางคนไร้บ้าน บางคนถูกปล้นชิง บางคนไม่มีที่ไป แม้แต่หมาแมวก็ยังเคยหิ้วกลับมา ทว่าคนที่ดูแลคนเหล่านั้นและสัตว์ตัวเล็กที่พี่ใหญ่หิ้วมาคือเขา เพียงเพราะอยากจับผิด เพียงเพื่ออยากพิสูจน์สิ่งที่ตนคิด กลายเป็นกักขังอีกฝ่ายด้วยไฟปรารถนา ในท่าทีเย็นชาไร้ความรู้สึก ถูกเขาปลุกเร้าจนเร่าร้อนปลดเปลื้องความต้องการที่อัดแน่น คล้ายเป็นห้วงเวลาที่เป็นตัวของตัวเองที่สุด เมื่อคลื่นพายุอารมณ์พัดผ่านจึงกลับมาเป็นอาลี่ที่นิ่งงัน ความรู้สึกอยากเอาชนะกลายเป็นต้องการปกป้องดูแล เขารู้ว่าอาลี่ไม่คิดร้ายกับเขาหรือผู้อื่น เพียงแค่มีบางสิ่งบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกับบาดแผลที่เขาได้รับเมื่อ

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 15. อาจเป็นสรรค์เมตตาให้ไถ่บาปอีกครั้ง

    ทว่ากลับได้ยินเสียงหวีดร้อง เท้าของเขาหนักอึ้ง ดวงตาพร่าด้วยเลือดสีสดที่ไหลเข้าตา ทั้งปวดแสบปวดร้อนใบหน้าและเนื้อตัว ร่างล้มกลิ้งไปกับโคลนตมด้านข้างถนน เขาอยู่ตรงนั้นขยับตัวไม่ไหว แม้ดวงตาจะปิดแต่หูกลับได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงเพลิงไหม้ด้านหลัง ที่ผ่านมาไม่เคยมีความสูญเสียเช่นนี้ เขาได้แต่ภาวนาให้ตัวเองได้ตายอย่างสงบ เพื่อได้ติดตามทุกคนไปชดใช้กรรมที่ตนเองก่อไว้ทว่าเช้าวันต่อมา เขากลับยังมีชีวิตอยู่ และถูกมือใหญ่ของหยางเหลาหู่หิ้วคอเสื้อเขาขึ้นจากข้างถนน “ยังไม่ตายนี่” ‘ไยเขายังไม่ตายอีก’ คราวนั้นเขาจำได้เพียงหยางเหลาหู่หิ้วคอเสื้อเขาขึ้นแล้วส่งตัวไปหลังรถม้า สติของเขาก็ดับวูบไปอีกครั้ง ต่อมาจึงรู้ว่าหยางเหลาหู่มีธุระต้องติดต่อกับคนสกุลหลัว แต่กลับมาช้าไปเพียงวันเดียว พลันเกิดเรื่องเสียก่อน หยางเหลาหู่ให้หมอมาดูแลรักษาของเขาอยู่สองหรือสามวันก่อนจะพากลับมาที่ป้อมพยัคฆ์ทมิฬแห่งนี้ กว่าบาดแผลไฟไหม้จะหายดี เขารักษาตัวนานอยู่เกือบปี กว่าร่างกายจะขยับตัวลุกเดินเหินได้ปกติก็ข้ามไปอีกปี แผลไฟไหม้ยังทิ้งร่องรอยแผลเป็นให้เขาใต้เสื้อผ้

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 16. โดยไม่รู้ตัว

    หยางเหลาหู่แม้เก่งกาจในเกือบทุกด้าน แต่เรื่องสตรีนั้น ประสบการณ์การทำความเข้าใจจิตใจของผู้หญิงยังอ่อนด้อยนัก เขาใช้เวลาทุ่มเทให้กับป้อมพยัคฆ์ทมิฬจนละเลยเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว และผู้หญิงที่เขายุ่งด้วยก็มีแต่นางคณิกา ซึ่งพวกนางล้วนแต่เอาอกเอาใจเขาทั้งสิ้น ชายหนุ่มนึกถึงภาพนางผวาขึ้นกลางดึก ท่าทางเหมือนคนหายใจไม่ออกคล้ายจมน้ำ ทำให้เขาพลอยกังวลไปด้วย แม้นางไม่ได้เป็นเช่นนั้นทุกคืน แต่...เขาอดเป็นห่วงอย่างไรเหตุผลไม่ได้ มือเรียวกำลังจะดึงประตูปิดลง แต่มือใหญ่กลับยื่นมาขวางไว้ก่อน ดวงตาที่กลั้นน้ำตาเต็มที่จ้องมองเจ้าของมือที่ยื่นมา ใบหน้าคมเข้มกับดวงตาดุดันจ้องมองนางอยู่ นางยังไม่ตื่นจากความทุกข์ระทม เผลอถลึงตาใส่อย่างหงุดหงิด หลงลืมไปว่าตอนนี้นางเป็นสาวใช้ มิใช่คนหนูหลัว โดยไม่รู้ตัว หยางเหลาหู่ยื่นมือไปใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มของหญิงสาว “เหตุใดดวงตาเจ้าจึงมีน้ำตาเช่นนี้” “อ๊ะ!” นางสะดุ้ง ยกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเอง นางร้องไห้เมื่อใดกัน นางผงะถอยหลังแต่ร่างกายซวนเซ เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มาพาร่างนา

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 17. รับมือ

    อ้าปากขึ้นยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงเอะอะด้านนอกทำให้อาลี่รีบขยับตัวลุกจากตักอุ่นโดยเร็ว หยางกั๋วชิ่งทำเสียงไม่พอใจในลำคอแต่ไม่เหนี่ยวรั้งไว้ เขาเพียงหรี่ตามองอย่างจับผิดแต่ไม่เอ่ยอะไร เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้า เขาจึงลุกขึ้นเดินผ่านร่างของอาลี่ไปราวกับไม่เห็นอีกกฝ่ายอยู่ในสายตา แต่รับรู้ว่าอาลี่หมุนตัวเดินตามหลังเขาออกมาจากถึงต้นเสียง “พี่ใหญ่” หยางกั๋วชิ่งส่ายหน้าไปมา เห็นลูกน้องสามสี่คนช่วยกันประคอง หยางเหลาหู่เข้ามา แต่เสียงหัวเราะเคล้าเสียงร้องเพลงไม่เป็นทำนองรวมทั้งกลิ่นสุรารสแรง ทำให้บุรุษผู้รักความสะอาดผงะไปเล็กน้อย เขายกมือขึ้นปัดปลายจมูกตนเอง เหมือนไล่กลิ่นดินโคลนที่ลอยอบอวลในเวลานี้ เห็นภาพเบื้องหน้าแล้วคงไม่ต้องถามอะไรอีก “ไยเจ้ายังไม่นอนอีก” หยางเหลาหู่หรี่ตามองน้องชายพลางส่ายหน้าไปมา ยื่นมือหมายจะลูบศีรษะหยอกล้อ แต่หยางกั๋วชิ่งกลับถอยหลังหลบ ขยับเท้าเพียงเล็กน้อยก็หลบฝ่ามือเปื้อนโคลนได้ทันเรียกเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของชายหนุ่มได้ยิ่งนัก “ขะ...ข้าน้อย จะ...จะดูแลคุณชายใหญ่เองขะ..ขอรับ” อาลี่กลั้นยิ้มแล้วทำท่าจะเข้าไปประคองชายร่า

    Last Updated : 2024-06-22
  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 18.ไร้เดียงสาเกินไป

    “คุณชายใหญ่!” หลัวเสี้ยวเวยเรียกเสียงสั่น เพียงพริบตาเขาผลักร่างนางลงนอนบนที่นอนอย่างรวดเร็ว หญิงสาวยังไม่ทันตั้งสติได้ ร่างใหญ่โตทาบทับลงมา ใบหน้าหล่อเหลาซุกซบที่ซอกคอของนาง ท่อนแขนแข็งแกร่งพาดทับหน้าอก ขาข้างหนึ่งทับร่างนาง เขาทำเหมือนนางเป็นหมอนข้างกอดก่ายอย่างไรก็ได้“คุณชายใหญ่ ท่านจะนอนทั้งอย่างนี้ไม่ได้นะเจ้าค่ะ” หญิงสาวร้องบอกพยายามผลักแขนของเขา ทว่านางไม่อาจขยับแขนของเขาออกได้เลย เพียงนางเอียงหน้ามองคนตัวโตที่นอนทับนางอยู่ กลับเห็นใบหน้าอ่อนล้าที่หลับตาพริ้มไปแล้วและลมหายใจสม่ำเสมอของเขา‘คู่หมั้น’หลัวเสี้ยวเวยรำพึงกับตนเองในใจ หากนางฉกฉวยโอกาสนี้แสดง ตัวว่าตนเองเป็นคุณหนูหลัวเสี้ยวเวย เพื่อให้ได้อยู่ที่นี่โดยมีสถานะที่ดีขึ้นไม่ใช่หญิงรับใช้อย่างที่เป็นอยู่เล่า? จะเป็นอย่างไรนะ?เห็นความอ่อนล้าบนใบหน้าของเขาแล้ว นางเผลอระบายลมหายใจเบาๆ มีประโยชน์อันใดหากเขาไม่ได้ต้องการนางอย่างแท้จริง จะไม่กลายเป็ยเวรกรรมต่อกันรึ หากเขา...มีหญิงอื่นที่รักและปรารถนารับหญิงนั้นเป็นภรรยา นางก็จะกลายเป็นมือที่สามสร้างความลำบากใจต่อผู้อื่นเข้าไปอีกกรุ่นไอจากเรือนกายของเขาทำให้นางไม่ห

    Last Updated : 2024-06-22

Latest chapter

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 36. ตอนพิเศษ : หยางกั๋วชิ่ง-อาลี่

    หยางกั๋วชิงลอบสังเกตมองบ้านสกุลจาง แม้ไม่ใหญ่โตแต่คงความภูมิฐาน สองสามีภรรยาที่ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มประหลาดใจ “คุณชายหยางกั๋วชิ่งแห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬให้เกียรติมาถึงที่นี่ ไม่ทราบว่าธุระอันใดรึ” “ท่านคือจางฉวน ลุงของหลัวเสี้ยวเวยใช่หรือไม่” หยางกั๋วชิ่งเอ่ยถามด้วยท่าทีเรียบเฉยพลางยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ สองสามีภรรยาลอบมองหน้ากัน หลานสาวตัวดีหนีหายไปทิ้งภาระใหญ่ให้ผู้เป็นลุงและป้าสะใภ้ ยังดีที่ยังไม่ได้รับเงินจากเศรษฐีหยง-เต๋อ ไม่เช่นนั้นคงต้องเป็นหนีเป็นสินหาเงินมาคืนค่าตัวหลัวเสี้ยวเวย “มะ...ไม่ทราบว่า...มีเรื่องอันใดรึ” จางฉวนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อบนใบหน้าอวบอูม หลานสาวหนีออกจากบ้านไปได้สามเดือนแล้ว เขาเองไม่รู้ว่านางไปก่อเรื่องใดไว้หรือไม่ “ตอนนี้แม่นางหลัวอยู่ที่ป้อมพยัคฆ์ทมิฬ” หยางกั๋วชิ่งยังคงน้ำเสียงราบเรียบและท่าทีเกียจคร้านของตนเช่นเดิม “เหตุใดนางไปอยู่ที่นั้นได้”ป้าสะใภ้ฝืนยิ้มแต่ไม่อาจข่มความหวาดกลัวในใจได้มิดชิด ป้อมพยัคฆ์ทมิฬไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะล่วงเกินได้ง่ายๆ หลายสิบปีมานี่ผ

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 35. เจ้าไม่ใช่คนโง่

    “ข้าชอบ...ที่เจ้าชอบข้า”ถ้อยคำของเขาเรียกสติของนาง แม้มองผ่านม่านน้ำตาของตนเอง แต่ยังเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากของเขาได้ชัดเจน นางกะพริบตาอย่างประหลาดใจกับคำพูดของเขาและไม่มีท่าทีที่เขาทำร้ายนาง“ข้ารู้ตั้งแต่จำความได้แล้วว่าท่านพ่อหมั้นหมายบุตรสาวของสหายรักไว้ เดิมทีข้ามิได้ใส่ใจเรื่องนี้นัก จนท่านพ่อป่วยและข้าเข้ามาดูแลป้อมพยัคฆ์ทมิฬแทนบิดาเต็มตัว จนทุกอย่างดีขึ้นและเมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อมิต้องการเป็นฝ่ายผิดคำสัญญาจึงให้ข้าเดินทางไปพบเจ้า แต่เพราะป้อมพยัคฆ์ทมิฬเองก็มีอริอยู่มาก หนึ่งในนั้นคนหอนางแอ่น คนกลุ่มนั้นได้ข่าวว่าข้าเดินทางไปรับตัวเจ้าสาวจึงชิงลงมือตัดหน้าก่อนที่ข้าจะไปถึง และได้ขโมยของหมั้นหมายไป ใช้กำไลมาแสดงตัวว่าเป็นคู่หมั้นข้าเพื่อเข้ามาในป้อมพยัคฆ์ทมิฬ...เดิมทีการเดินทางครั้งนั้น ข้าตั้งใจไปเจรจากับบิดาของเจ้า การหมั้นหมายแต่งงานควรเป็นไปด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ข้ายินดีเป็นฝ่ายผิดคำสัญญา ทว่ากลับไม่คิดว่าเมื่อตัวเองไปถึงจะพบโศกฏกรรมนั้น หากข้าเดินทางเร็วกว่านี้ เจ้าคงไม่ถูกทำร้ายจนฝันร้ายเกือบทุกคืน”ปกติเขาไม่ใช่คนพูดมากขนาดนี้ แต่กลัวว่านางจะเข้าใจ

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 34.สาเหตุที่นางละเมอฝันร้าย

    สี่ปีที่ผ่านมาข้าอยู่ในฐานะคนรับใช้มาตลอด จนกระทั้งป้าสะใภ้ต้องการขายข้าเป็นอนุเศรษฐีผู้หนึ่ง ข้าปฏิเสธและแอบหนีออกมา คนกลุ่มนั้นไล่ตามข้า แต่ข้าวิ่งหนีไม่ทัน ประจวบกับเห็นประตูห้องหนึ่งเปิดอยู่จึงแอบเข้าไป จึงได้พบคุณชายหยางเหลาหู่ ท่านต้องการหญิงรับใช้และข้าต้องการหนีไปตายเอาดาบหน้า จึงได้แอบอ้างตัวเป็นหญิงรับใช้ที่เสี่ยวหงส่งมา...” นางพูดยาวเสียจนคิดว่าถ้าไม่พูดครั้งนี้แล้ว นางอาจจะไม่ได้พูดกับเขาอีกเลยก็เป็นได้ “เจ้าไม่รู้เรื่องที่ตัวเองเป็นคู่หมั้นคู่หมายของข้าเลยรึ” เขายื่นหน้าไปถามนาง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนางจึงนอนละเมอฝันร้ายเช่นนั้น “ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับข้า แม้กระทั้งกำไลวงนั้น ข้าก็ไม่เคยเห็นมาก่อน” นางพูดไปตามจริง “ข้าไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน วันนั้นข้าพบท่านเป็นครั้งแรกจริงๆ” “อาจเพราะคุณหนูยังเล็กนัก หลัวฮูหยินเองก็รักและตามใจคุณหนูมาก คงยังไม่ต้องการให้รู้เรื่องนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังคุณหนูแต่อย่างใด” “แล้วเจ้าล่ะ อาลี่...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” อาลี่ทรุดตัวลงคุกเข่าเบื้องหน้าหลัว

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 33.ย่อมเป็นข้า

    “ย่อมเป็นข้า” เขาวางถ้วยโจ๊กแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับมุมปากของนาง แก้มฝาดเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปรินน้ำดื่มให้นาง นางอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลดตัวลงมือทำอาหารให้นางเอง นางจ้องใบหน้าคมเข้มของเขาแล้วเห็นเพียงติ่งหูที่แดงอยู่ทำให้นางไม่กล้าถามย้ำอีก “ข้าแข็งแรงดีขึ้นแล้ว ให้ข้าไปช่วยงานป้าอิงอู่เถิด อีกอย่างไม่มีข้าแล้วใครจะดูแลปรนนิบัตินายท่านกับฮูหยิน” หลัวเสี้ยวเวยเห็นเขาทำท่าคัดค้าน นางจึงรีบพูดขึ้นก่อน “ข้านอนมาตั้งหลายวันแล้ว ขืนยังนอนอยู่อย่างนี้จะยิ่งกลายเป็นคนป่วยไม่ฟื้นตัวเสียที ให้ข้าทำอะไรบ้างเถิดนะ หรือไม่ก็ให้ข้าออกไปเดินเล่นบ้างก็ยังดี” เห็นท่าทางออดอ้อนของนางแล้วก็เผลอใจอ่อน“เอาเถอะ แค่เดินเล่นเท่านั้น งานการใดๆ เจ้าอย่าเพิ่งออกแรงทำ” นางพยักหน้ารับ เขาจึงยอมให้นางลงจากเตียงได้ นางดีใจจนยิ้มกว้าง เขาไม่ได้เห็นนางยิ้มมาหลายวันแล้ว เมื่อเห็นสีหน้าแจ่มใสและรอยยิ้มของนาง ทำให้เขาเผลอยิ้มตามไปด้วย หลัวเสี้ยวเวยค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง กลัวว่าตัวเองล้มพับไปเช่นครั้งก่อนอี

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 32.ผู้ใดแต่งงาน

    หลัวเสี้ยวเวยหลับตาปี๋ตกใจเสียงตะคอกของเขา แม้ได้ยินบ่อยๆ แต่อดตกใจไม่ได้ หยางกั๋วชิ่งอมยิ้มรีบเดินหลบออกไป หยางเหลาหู่ข่มโทสะอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองคนที่ยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้ว ใบหน้าซีดเซียวมีความงุนงงอยู่เต็มใบหน้า เส้นผมยาวสลวยดุจย้อมหมึกของนางลงมาเคลียทรวงอก แม้จะสวมชุดนอนอยู่แต่เขากลับรู้สึกหายใจติดขัด พิษในกายถูกขับไปหมดแล้ว ทว่ารสชาติของนางยังปลุกเลือดในกายของเขา หยางเหลาหู่ไม่คิดว่าตนเองต้องใช้ความพยายามในการข่มใจเพื่อก้าวเท้าเข้ามากดไหล่ให้นางลงนอน “เจ้ามีไข้ไม่ได้สติมาสองวันสองคืน อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องอื่นเลย” “สองวันสองคืน! ข้านอนมานานเกินไปแล้วนะ” นางจับมือของเขาที่กำลังดึงผ้าห่มมาคลุมร่างให้ “เมื่อครู่คุณชายรองเรียกข้าว่าอาซ้อ...” หยางเหลาหู่เห็นแววตาดื้อรั้นของนางแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่“ถูกต้อง” “ถูกต้องอย่างไร ข้าเป็นสาวใช้แล้วจะมาเรียกข้าว่าอาซ้อได้อย่างไร” นางโต้เถียงพลันนึกเรื่องที่นางใช้ตัวเองแก้พิษให้เขา.... นางหลับไปสองวันสองคืนเรื่องนี้คงรู้กันไปทั่วแล้ว “รอเจ้าแข็งแรงดี เราจะเข

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 31. ถอนพิษ

    เขายกมือขึ้นปัดเส้นผมของนางเอกเผื่อได้เห็นดอกบัวคู่งามสั่นไหวเย้ายวนตานัก เมื่อรู้ว่านางขยับสะโพกได้เองเป็นแล้ว เขาเลื่อนมือขึ้นลูบไล้นวดอกคู่งามจนนางครางกระเส่าออกมา“อย่า”นางร้องห้ามอย่างไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดไปหมายถึงเรื่องใด หน้าอกของนางแข็งเป็นตุ่มไต นางหลับตาลงไม่กล้าสบตาเขา แต่กลับถูกเขาบังคับด้วยจุมพิตร้อนแรง และเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดจนนางแทบขาดใจ ดวงตาเขาเหมือนมีเปลวไฟไหวระริกอยู่ในนั้น ร่างของนางเกร็งและกระตุกอีกคราวเขาประคองแผ่นหลังนางลงนอนอีกครั้ง ยกเรียวขาของนางวางพาดบ่า หันหน้าไปจูบปลีน่องของนางแล้วขยับสะโพกของตนอย่างลึกล้ำและรวดเร็ว นางได้แต่บิดกายเร่าๆ บนที่นอนที่ยับยู่ นางเอื้อมมือไปดึงม่านมุ่งเหมือนใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวพันชายผ้ารอบข้อมือเกร็งร่างกายรับการกระแทกรุนแรงซึ่งไม่ได้เจ็บปวดอีกแล้ว แต่เต็มไปด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจ จนนางได้ยินเสียงเขาคำรามอีกระลอกพร้อมกดแก่นกายลึกเข้ามาในตัวนาง น้ำรักร้อนรินรดอีกคราว นางเหนื่อยหอบปล่อยให้เขาแกะข้อมือของนางออกจากผ้าที่นางดึงไว้ เสียงผ้าขาดตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ ยามนี้นางไร้สติจะรับรู้สิ่งใดอีกแล้ว รู้เพียงแค่

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 30. เรียกชื่อข้า

    “เวยเอ๋อร์ เรียกชื่อข้า” เขาช้อนตัวนางขึ้นนั่งสบตากับเขาอย่างแน่วแน่“ข้าไม่ต้องการทำให้เจ้าเจ็บ เรียกชื่อข้า ให้ข้ามีสติรู้ตัวว่าเบื้องของหน้าข้าคือเจ้า”“ยะ..หยาง..เหลา..หู่” นางเรียกชื่อเขาตะกุกตะกัก ไม่แน่ใจว่าร่างกายของนางที่เริ่มร้อนระอุเพราะไอร้อนจากกายของเขา หรือเพราะความเขินอายที่เปลือยเปล่าต่อหน้าบุรุษผู้นี้กันแน่ “เรียกอีก” ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบไล้แผ่นหลังของนาง ปลุกเร้าจนนางอ่อนระทวย เขารู้ว่านางบริสุทธิ์ปานใด เป็นดอกไม้ที่ไม่เคยถูกชายใดแตะต้อง เขายิ่งต้องข่มสัตว์ร้ายในตัวเองไม่ให้ตะกละตะกราม ค่อยๆ แทะเล็มผิวกายเนียนนุ่ม “เหลาหู่...” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา ทุกจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่านจุดเปลวไฟในกายของนาง เขาค่อยๆ ประคองแผ่นหลังของนางลงนอนอีกครั้ง ครอบครองยอดอกของนางด้วยริมฝีปาก นางไม่อาจทนนอนนิ่งได้ ร่างกายขยับตัวกระสับกระส่าย ส่งเสียงครวญไม่หยุด ปากของเขายังขบกัดยอดอกของนางจนเจ็บแปลบและเสียวซ่านไปพร้อมกัน มืออีกข้างบีบเคล้นนวดคลึงราวกับมอบความยุติธรรมให้ทรวงอกทั้งสองข้างได้ลิ้มรสชาติแปลกประหลาดที่นางไม่เคยพานพบเสียงครวญครางของนางปลุกเร้าสัตว์ร้าย

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 29. ข้าบอกว่าห้ามเข้ามา

    อาลี่ร้องห้าม แต่หลัวเสี้ยวเวยกลับหันมาสบตาด้วย แววตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เป็นดวงตาที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธได้ “ดูแลความเรียบร้อยที่นี่ คนที่เหลือรอดอยู่จับขังคุกใต้ดินให้หมด รอข้ากลับมาตัดสินโทษด้วยตนเอง” “ขอรับคุณชายรอง” ผู้อารักขาแต่ละคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเอง หยางกั๋วชิ่งหันไปทางอาลี่ให้เขาช่วยดูแลบิดามารดาให้ ทำราวกับหญิงสาวเปลี่ยนใจ เขาโอบเอวนางแล้วใช้วิชาตัวเบาพานางมาส่งถึงหอฝึกตน ซึ่งปกติจะเข้าได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น “เจ้าแน่ใจแล้วรึ” หลัวเสี้ยวเวยพยักหน้ารับ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นข้าที่ล้วนเต็มใจทำอย่างยิ่ง” “ข้าฝากชีวิตพี่ใหญ่ไว้ในมือของเจ้าแล้ว” เขายกมือประสานแสดงความคารวะอย่างจริงใจ แม้เขาเตรียมการรับมือคนจากของหอนางแอ่นเป็นอย่างดีแต่ไม่คิดว่าจะมีจุดผิดพลาดเช่นนี้ได้ “คุณชายรองไปดูนายท่านและฮูหยินเถิด ข้าจะรีบเข้าไปดูคุณชายใหญ่” หยางกั๋วชิ่งพยักหน้ารับ เขาหยิบป้ายคำสั่งประทับที่ประตูหอฝึกตน ครู่หนึ่งประตูก็เปิดออก ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปโดยไม่หันกลับมามอ

  • ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์   Chapter 28. ลงมือ

    เพียงสิ้นประโยคของอี้เอ๋อร์ เหล่าบุรุษในชุดดำก็ชักกระบี่ออกมา พุ่งตรงมาทางนาง หญิงสาวผวาเฮือกพลิกตัวใช้ร่างกายตนเองปกป้องร่างของฮูหยินที่ยังไม่ได้สติ นางหลับตาแน่นรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะมาถึง เคล้ง!!! เสียงกระบี่หล่นกระทบพื้นและเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเรียกสติให้หลัวเสี้ยวเวยหันไปมอง แขนข้างที่จับกระบี่ขาดกระเด็นหล่นลงพื้น เลือดสีเข้มสาดกระเซ็นพร้อมกลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งในอากาศ หยางเหลาหู่ก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเกียจคร้าน ในมือข้างขวาถือกระบี่เปื้อนเลือด ส่วนอีกข้างกุมลำคอของหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าหลัวเสี้ยวเวย “ฉิวเตี๋ย!” อี้เอ๋อร์ตะโกนเรียกอย่างตกใจ ยามนี้ใบหน้ามีไฟโทสะคุกรุน “ฉิวเตี๋ย? ชื่อของเจ้าสินะ” หยางเหลาหู่เลิกคิ้วแล้วออกแรงบีบลำคอของหญิงสาวแรงขึ้นอีกนิด สีหน้าของหญิงผู้นั้นเจ็บปวดยิ่ง เขาใช้เพียงมือข้างเดียวก็ทำให้นางไม่อาจดิ้นรนต่อต้านได้แล้ว “เป็นแม่นางฉิวเตี๋ยแห่งหอนางแอ่นนี่เอง” หยางกั๋วชิ่งเอ่ยแสร้งทำน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งที่เขาระแคะระคายเรื่องนี้มาตั้งแต่เห็นนางเข้ามาแล้ว เขาเดินเข้ามาพร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status