"เจ้าพร้อมที่จะเจ็บปวด อีกครั้งหรือไร"
"ข้าแค่เพียงไม่เข้าใกล้เขาเสีย ก็ไม่ต้องเจ็บปวด ข้าเองตอนนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเขาคือคู่ชะตา อีกอย่างข้าผูกด้ายให้เขากับมือ เขาย่อมจะรักใคร่ผูกพันกับนางเพราะด้ายโยงใยกันแล้ว"
"ข้าเอาใจช่วย เฮ้อ...หวังว่าเจ้าจะจัดการมันได้ ใช่ไหม"หวงหลานพยักหน้ายิ้มๆ
บ้านหลงถาน….
"ท่านพ่อ เป็นองค์ชายรองที่ช่วยลูกไว้"
"โอ้..ไป๋อี้ชิงของพ่อ ใครกันช่างทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ ส่งคนลอบสังหารเจ้า ไม่คิดเลยพ่อจะทำให้เจ้าพบกับอันตราย"
"องค์ชายใหญ่ส่งคนคุ้มกันเจ้า อีกทั้งตอนนี้รอพบเจ้าที่สวนดอกไม้เพื่อถามไถ่เรื่องของเจ้า"
หลงถานไป๋อี้ชิง ยิ้มบางๆ ย่อกายก่อนที่จะเดินไปยังสวนดอกไม้
"ไป๋อี้ชิง คาราวะองค์ชายใหญ่"เหอผิงฟาหนานตรงเข้ากุมมือมือบางดังเช่นทุกครั้งที่เคยทำ ด้วยความห่วงใย
"ไป๋อี้ชิง เจ้าปลอดภัยดีไหม ข้าสะเพร่าเองไม่ยอมส่งคนคุ้มกันเจ้าจนเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าจนได้"ไป๋อี้ชิงดึงมืออกจากการเกาะกุม
"เจ้าโกรธข้าใช่ไหม สวมควรแล้วข้าผิดเอง ดูแลเจ้าไม่ได้"
"องค์ชายอย่าโทษตัวเอง ไป๋อี้ชิงไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน องค์ชายรองมาทันเวลา ถึงจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไร"
"ต่อไปข้าส่งคนคุ้มกันเจ้าทุกฝีก้าว เพื่อความปลอดภัยของเจ้า"
"องค์ชายใหญ่เกรงใจไปแล้ว ไป๋อี้ชิงต่อแต่นี้ระวังตัวให้มากอีกอย่างท่านพ่อก็คงส่งคนคอยคุ้มกันข้าหากรวมกับคนขององค์ชายใหญ่ยิ่งจะทำให้เอริกเกริกไม่เหมาะสม"
"ข้าอยากจะทำให้เจ้า เพื่อเจ้าข้ายินดี แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"หลงถานไป๋อี้ชิงย่อกายลงงดงาม
"ไป๋อี้ชิงไม่ขอรับจะดีกว่าองค์ชาย โปรดเข้าใจเจตนาของไป๋อี้ชิงด้วย"เหอผิงฟาหนานก้มหน้า เศร้าสร้อย
ที่เก่าเวลาเดิมร่างสูงก้าวยาวๆมาหยุดยืนตรงหน้า
"ไปกับข้า"เหอผิงฟาหยางดึงมือหวงหลานให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
"คุณชายกำลังจะพาข้าไปไหน” หันหน้าหันหลังในเมื่อวันนี้มารดาไม่ได้มาด้วย
"ไปกับข้า แล้วจึงจะรู้”
"ข้าขอเวลาเก็บของก่อน"
“กงฉานเจ้าเก็บของแทนนางแล้วไปพบข้าที่หอโอชารส”
“คุณชาย ระวังตัวด้วย”
“รู้แล้วน่า ไม่ต้องห่วง ชูกระบี่ในมือเหมือนจะบอกว่ามีกระบี่อยู่ในมือไม่ต้องห่วง
หอโอชารส….
อาหารมากมายถูกยกมาเสิร์ฟตรงหน้าหวงหลาน ทั้งคาวหวานละลานตา
เหอผิงฟาหยาง นั่งกอดอกมอง หวงหลานดวงตาใสแป๋ว
“ข้าพาเจ้ามาเลี้ยงขอบคุณ ที่เจ้าสามารถ เปลี่ยนใจนางได้”
“นั่นมันคือบัญชาสวรรค์หาใช่ข้า ข้าเพียงแค่ทำตามบัญชาสวรรค์”
“ช่างบัญชาสวรรค์นั่นเถิดมะ ลงมือ”หยิบตะเกียบยื่นส่งให้หวงหลาน เสี่ยวเอ้อยกอาหาร เข้ามาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย
“มารดาเจ้า ขอค่าตอบแทนเป็นสุราหนึ่งจอก แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ สุราดีทั่วแคว้นข้าก็หามาวางตรงหน้าเจ้าได้”
น้ำเสียงสดใส ปราศจากทุกข์ ดวงหัวใจบัดนี้เบ่งบานสมหวังทั้งกับเรื่องของหลงถานไป๋อี้ชิงและเรื่องตำแหน่งรัชทายาท
“คุณชายท่านเกรงใจไปแล้วเดิมข้าก็รับเพียงครึ่งที่ต้องการให้ เช่นนั้นสุราจอกนี้หนึ่งจอกก็ถือว่ามากพอแล้ว”
ยกสุราขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจอกก่อนจะลุกขึ้นยืน เหอผิงฟาหยางมือไวเท่าความคิดคว้าข้อมือของหวงหลานไว้แน่น บางอย่างแล่นเข้าสู่หัวใจ
“ไม่ไม่ได้สิ เจ้า ทำให้ข้าโชคดีเพียงนี้ แค่เพียงสุราจอกเดียวมันน้อยไปกินดื่มหนำใจยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ”หวงหลานยิ้มบางๆ
“นั่นเป็นสิ่งที่ข้าทำจนชินแล้ว จะได้ลบข้อครหาว่าเรียกเก็บเงินทองมากมาย ที่ข้าทำล้วนเป็นบัญชาสวรรค์หากท่านจะขอบคุณ หรือตอบแทนใครควรเป็นสวรรค์”แกะมือก้าวขาออกไปจากโรงเตี๊ยมทันทีเหอผิงฟาหยางขมวดคิ้วไม่เข้าใจในท่าทีของหวงหลานแต่นางนั่นเล่าย่อมเข้าใจดีว่าไม่ควรนำตัวเข้ามาชิดใกล้กับเขา
ไป๋อี้ชิง ก้าวเดินพร้อมกับเหล่าผู้ติดตามมากมายราวกับฮองเฮา
“หลีกทาง หลีกทางคุณหนูหลงถานจะเดิน”คนคุ้มกันแหวกทางให้ ไป๋อี้ชิงเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม หวงหลาน ก้าวเดินมั่นคงทว่ากลับถูกผลักจากบุรุษที่คอยคุ้มกันไป๋อี้ชิง จนล้มลงกับพื้น
“หลีกไป”ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นราวกับเป็นเพียงเศษหินเศษดินข้างทาง
“พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว”หลงถานไป๋อี้ชิงส่งมือให้กับหวงหลาน หันไปดุผู้ติดตามไม่แม้แต่จะมองหน้าหวงหลานด้วยซ้ำไป เหอผิงฟาหยางก้าวตาม หวงหลานออกมาพอดี ไป๋อี้ชิง แววตาสุกสกาว
“องค์ชาย”เดินเข้าหา เหอผิงฟาหยางไม่สนใจหวงหลานที่ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินจากไป เหอผิงฟาหยางยิ้มกว้างให้กับดวงตาสว่างสดใสของไป๋อี้ชิง
“ไป๋อี้ชิงเจ้ามาได้อย่างไร” ร่างอรชรย่อกายลงช้าๆ งดงามดุจภาพวาดดวงตาสุกสกาวเมื่อพบคนถูกใจ
“ไป๋อี้ชิงไปที่ตำหนักขององค์ชายตั้งใจไปขอบคุณเรื่องวันวาน ทว่าขันทีบอกว่า องค์ชายเสด็จที่หอโอชารส” ฟาหยางยิ้ม ดึงมือไป๋อี้ชิงเขาไปข้างใน
หวงหลานแทรกกายอยู่ในฝูงชน ยิ้มบางๆ พร้อมกับทอดถอนใจด้วยความโล่งอก
วังหลวง“ องค์ชายรอง ฟาหยางไม่น่าเชื่อว่าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ หลงถานไป๋อี้ชิงยอมคบหากับองค์ชายไม่แน่ว่านางจะมีใจกับองค์ชายรองเสียแล้ว”ฮ่องเต้ เงยหน้าขึ้นจากอักษรที่ร่างไว้“เรื่องเช่นนี้หากไม่มุ่งมั่น เช่นไรจึงจะสำเร็จ หลงถานไป๋อี้ชิงเป็น ตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้การตัดสินใจของข้าง่ายดายขึ้นมาทันที”เหอผิงฉีปิงเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“ฝ่าบาท ทรงยอมให้ใต้เท้าหลงถาน มีอำนาจเหนือขุนนางทั้งหลายเพื่อที่จะใช้เขาเป็นด่านหน้าเช่นนั้นหากเขาเอ่ยออกมาเรื่องการประทานงานแต่งฝ่าบาทก็คงไม่อาจปฏิเสธ”“ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว หลงถาน แม้จะมีอำนาจเหนือใครแต่เรื่องความภักดีมีมากกว่าคนอื่นอีกทั้งงานที่มอบหมายล้วนจัดการได้หมดจดแม้จะเห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจจนข้าเองต้องเกรงใจ แต่ถึงเวลาจริงๆ โทษประหาร จากปากข้าก็คง ไม่มีใครกล้ารับแทน ข้าอยากให้เขาตายเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ให้เขาเต็มใจรับใช้นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่ ต้องจัดการ”“ฝ่าบาทเสียงเล่าลือว่าใต้เท้าหลงถานใช้ พลังเวทผูกด้ายความสัมพันธ์ให้ฝ่าบาทวางใจ”“555เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าแค่เพียงพลังเวท ต่ำต้อยจะทำอะไรข้าได้หรือที่ข้าทำทีเป็นเมตตาเขาเกิ
“อย่าเสียเวลาเลย นี่ก็สายมากแล้ว ไม่เช่นนั้นจะร้อนจนไม่อยากลงเรือ”ไป๋อี้ชิงตัดบท คนทั้งหมดก้าวลงเรือทีละคนไป๋อี้ชิงส่งมือให้ฟาหยางให้ช่วยพยุงสบตาหวานซึ้งหวงหลานก้าวขาลงไปในเรือไปนั่งด้านท้ายเรือ มองพื้นน้ำอย่างสบายอารมณ์ฟางหยางนั่งหัวเรือ ไป๋อี้ชิงนั่งอยู่ตรงกลางลำเรือพอดี ฉะนั้นรอยยิ้มที่ฟาหยางส่งมาให้ ไป๋อี้ชิงจึงลอดผ่านมาถึงหวงหลานด้วย ก็แค่เบือนหน้าหนีเสียก็เท่านั้น หวงหลานไม่ได้สนใจว่าคนทั้งสองพูดกันเรื่องใดสิ่งที่หวงหลานสนใจคือของกินและเครื่องประดับที่วางขายอยู่ในเรือพายของ พ่อค้าแม่ค้าตื่นตาตื่นใจกับข้าวของเหล่านั้นมากกว่า“ชิ้นนั้น ข้าต้องการชิ้นนั้น”“โอ้...คุณหนูของชิ้นนี้ แปลกประหลาดงดงามตกลงมาจากฟากฟ้า ราคาจะสูงไปหน่อย แต่ว่ามีชิ้นเดียว”ได้ยินคำว่าชิ้นเดียวไป๋ถานอี้ชิง หันมองหินใสก้อนสีฟ้า ที่ตกผลึกเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หากนำมาห้อยคอคงสวยสง่าไม่เบา ทำเอาฟาหยางมองตามสายตาไป“เท่าไหร่”เหอผิงฟาหยางถาม“คุณชาย ของชิ้นนี้ 100ตำลึง”หวงหลานถอนหายใจ“ท่านลุงข้าไม่มีเงินมากพอ”น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ“ข้าซื้อให้เจ้าได้ หากต้องการมัน”ล้วงเงินจ
“องค์ชาย"กงฉานช่วยดึงมือของฟาหยางขึ้นจากน้ำ หวงหลานสำลักน้ำสองสามที เรือแจวถูกพาเข้าฝั่ง“หวงหลานขยับตัวออกจากอ้อมแขนของ ฟาหยางอย่างรวดเร็ว“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแค่เปียกปอน แบมือออก มองหาหินสีที่คว้ามาได้ ทว่าไม่ได้อยู่ในมือเสียแล้ว“หินสี เล่า”“ช่างมัน เจ้ายอมสละชีวิตเพื่อของแบบนั้นด้วยหรือ”หวงหลานไม่ตอบ ขยับตัวถอยห่างออกจากฟาหยางเพราะไป๋อี้ชิงเยื้องย่างมาถึงพอดี“ข้า เปียกปอนเพียงนี้ขอตัวกลับบ้านจะดีกว่าคุณชายโอกาสหน้าพบกันใหม่วันนี้หวงหลาน ขอลา”ลุกขึ้น ผมเผ้าเนื้อตัวเปียกปอน กงฉานรับเอาเสื้อคลุมมายื่นส่งให้ฟาหยางแต่เขากลับตวัดเสื้อคลุมห่มให้หวงหลาน“ไปเถิดแล้วพบกันใหม่”หวงหลานสาวเท้าจากไป ไป๋อี้ชิงก้าวขาเข้ามาพอดี“องค์ชาย บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ฟาหยางส่ายหน้าไปมา“ทำเอาเจ้าหมดสนุกไปทีเดียวข้าก็คงต้องกลับเสียแล้วน้ำเย็นเหลือเกิน ฮัดเช่ย”ส่งเสียงจามดังๆ“ องค์ชายถนอมพระวรกาย กงฉานท่านพาองค์ชายกลับตำหนักเสียเถิด”ไป๋อี้ชิง แสดงสีหน้าห่วงใยฟาหยางอย่างที่สุด ฟาหยางยิ้มบางๆ ก้าวขานำหน้ากงฉานออกไปทันที“ส่งคนที่ชำนาญการดำน้ำ งมหินสีขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้คนมากแค่ไหน”“องค์ชายของสิ่
วังหลวง“องค์ชาย คุณหนูหลงถานไป๋อี้ชิง ส่งชาแก้ไอเย็นมาให้องค์ชาย”สาวใช้ย่อกายลง ตรงหน้าฟาหยางที่ก้าวขาออกมาหน้าตำหนัก“อืม ฝากเจ้าขอบคุณ คุณหนูเจ้า”“คุณหนูยังบอกอีกว่าวันนี้หากองค์ชายว่างเว้น คุณหนูเชิญองค์ชายชมดอกเหมยดื่มชา ที่บ้านตระกูลหลงถาน”ยิ้มอ่อนโยน“ข้ารับคำเชิญ ยามบ่ายข้าจะถึงที่นั่น”สาวใช้จากไป กงฉานสาวเท้าเข้ามา“องค์ชายรองพบหินสี อันนั้นแล้ว” แบมือส่งหินสีฟ้าใสให้กับ ฟาหยาง“ไปหานางกัน อืม เจ้าถือชาแก้ไอเย็นไปให้นางด้วย” กงฉานเหลือบตามองห่อชาบนโต๊ะหยิบมาถือก้าวเดินตาม ฟาหยางไปทันที“องค์ชาย ชานี่ หาดื่มได้ยากยิ่ง”“แล้วอย่างไรเล่า”“ราคาค่อนข้างสูง”“เจ้าเลยคิดว่าคนอย่างนางต่ำต้อยไม่ควรดื่มชาราคาแพงนี่ อย่างนั้นหรือ”“กงฉานไม่ได้หมายความเช่นนั้นแต่เกรงว่าเพียงแค่นางเห็นห่อชานางก็ จะต้องปฏิเสธเพราะนางไม่รับ สิ่งของที่มีค่างวด องค์ชายก็น่าจะรู้ดี"“เปลี่ยบนห่อมันเสียดีไหมเจ้าว่านางจะยอมรับมันไหม”กงฉานยิ้มในความหลักแหลมของ ฟาหยาง“องค์ชายทุ่มเทเพียงนี้นางจะต้องรับมันไว้อย่างแน่นอน”ปลอบใจทั้งๆ ที่รู้ดีว่าหวงหลานตัดเยื่อใย ฟาหยางทุกอย่าง"เช่นนั้นจัดการเปลี่ยนห่อใหม่เสียอืม เ
สามปีก่อน“หนานเปียนเจ้ากับข้ามีด้ายรักใครผูกเกี่ยวกัน ท่านจะรักข้าตลอดไปใช่ไหม”หวงหลานถาม หนานเปียนที่นั่งตกปลาเคียงข้างกันที่ลำธารใส“555เจ้ากับข้าเราสองคน ตั้งแต่พบกันครั้งแรกข้าก็รู้ว่าแม่นางหวงหลานจะต้องเป็นภรรยาที่ดี”“รอให้ข้าสิบแปดข้าจะขอกับท่านพ่อแต่งกับเจ้าเสีย”หวงหลานยิ้มน่าเอ็นดู“ไม่ได้เร่งรีบเสียหน่อย ข้ามีเจ้าข้างกายเราสองคนเข้าใจกันก็พอแล้ว” หนานเปียนยิ้มแม้จะไม่บังเกิดความรักในตอนนี้ทว่าผูกพันยิ่งนักด้วยด้ายชะตารักที่พันเกี่ยว“แม่นางน้อยข้า อยากให้ท่านช่วย”ใครบางคนยืนจ้องหวงหลานด้วยความไม่แน่ใจในเมื่อหวงหลานเพิ่งจะสิบสามจะช่วยเรื่องใดได้“เกอเก้อท่านมีเรื่องใด บอกกล่าวกับข้า”“แม่นางน้อยข้าหมายปองแม่นางผู้หนึ่ง แต่ นางหาสนใจขช้าไม่ หลายวันหลายคืนข้า ทดท้อจิตใจยิ่ง อีกทั้ง ตอนนี้บิดาข้ากำลังจะให้ข้าแต่งกับหญิงอีกคนทั้งๆที่ข้าหมายปองแม่นางผู้นั้น”“ท่านกลับไปเสียรับปากว่าจะจัดการให้ท่าน”รอยยิ้มปรากฎที่ใบหน้าหวงหลานนั่งหลับตานิ่ง หญิงงามที่บุรุษผู้นั้นหมายปอง กับอีกคนที่กำลังจะต้องแต่ง ล้วนมีด้ายผูกเกี่ยวยุ่งเหยิง“ข้าจะทำอย่างไรดี”วันต่อมา“แม่นางน้อย ท่านจัดการเรื่
เหอผิงฟาหยางยืนรอหวงหลานที่เพิงเก่าที่นางเคยให้เป็นที่ช่วยคน กลับไร้แม้เงาของหวงหลาน“องค์ชาย นี่ก็เลยเวลามากแล้ว แม่นางน้อยหวงหลานคงไม่มาแล้ว”“รออีกสักพักดีไหม บางทีวันนี้นางอาจมาสายๆ ”“แต่นี่ก็ใกล้ยามเที่ยงแล้วหากองค์ชายชักช้า เกรงว่าจะไม่ทันเวลาดื่มชากับแม่นางหลงถานไป๋อี้ชิง”“รอนางอีกสักครู่หากนางไม่มา ค่อยไปที่บ้านตระกูลหลงถาน”กงฉานเดินไปที่ ร้านซาลาเปาข้างๆ“ท่านลุง แม่นางน้อยหวงหลานท่านรู้ไหมว่านางพำนักที่ไหนกัน”“ ใครๆก็รู้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าแม่นางน้อยหวงหลานพำนักที่ไหน ครั้งหนึ่งเคยมีคนคิดสะกดรอยตามแต่ทว่ากลับถูกท่านป้าหลิวเหยียนลงไม้ลงมือเสียปางตาย ตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สองคนแม่ลูกอีกเลย”“แล้วรู้หรือไม่ ทำไมวันนี้แม่นางน้อยหวงหลานจึงไม่มา""นั่นอาจเป็นเพราะนางป่วยไข้ ปกติแม่นางน้อยหวงหลานไม่มาคนเดียวก็มากับมารดาหลิวเหยียน"ฟาหยางขมวดคิ้ว"ท่านลุง นางพำนักอยู่ที่แห่งใด"ลุงขายซาลาเปาส่ายหน้าช้าๆ"องค์ชายไร้วาสนา ไม่ได้ชิดเชื้อมีเพียงวาสนาได้พานพบ""ข้าจะมาอีกทีวันพรุ่งนี้"กงฉานถอนหายใจ กับใบหน้าเศร้าหมองของเหอผิงฟาหยางที่แม้จะก้าวเดินนำหน้าแต่ภายในใจของฟาหยาง
วังหลวงองค์ชายใหญ่เหอผิงฟาหนาน ประสานมือตรงหน้าฮ่องเต้"เสด็จพ่อลูกมีเรื่องขอความเป็นธรรม"เหอผิงฉีปิงเงยหน้าขึ้นจากกองฎีกา"มีเรื่องใดกันถึงร้อนรนเพียงนี้นี่ยามห้าย (21.00-22.59) เจ้าไม่รอถึงพรุ่งนี้""เสด็จพ่อลูกไม่อาจทนได้จนถึงพรุ่งนี้ ในเมื่อเจ้ารองฟาหยางหยามเกียรติของลูกยิ่งนัก""เช่นไรจึงกล่าวหาเจ้ารองว่าหยามเกียรติ""เจ้ารองอาศัยพลังเวท ให้แม่หมอที่ต่างร่ำลือเรื่องผูกด้ายชะตารักเกลียดผูกด้ายให้เขากับหลงถานไป๋อี้ชิงทำให้นางเปลี่ยนใจไปจากลูก""เหอผิงฟาหนาน ..เรื่องรักใคร่เช่นไรจึงจะบงการกันได้ หากนางมีใจให้กับเจ้าจริงเพียงแค่ผูกด้ายชะตาเหลวไหลนั่นคิดว่าจะทำให้นางเปลี่ยนใจจากเจ้าเชียวหรือ""เสด็จพ่อ.. แต่ผู้คนล้วนกล่าวขานว่า นางล้วนสามารถทำให้ผู้คนรักเกลียด”“เหลวไหล อย่าได้นำเรื่องเหลวไหลแบบนี้มาบอกกล่าวข้าอีก”“เสด็จพ่อในพระทัยท่านมีข้าบ้างหรือเปล่า ในพระทัยท่านนอกจากเหอผิงฟาหยางแล้วยังมีลูกคนนี้หรือไม่”เหอผิงฉีปิงสะบัดมือลงบนใบหน้า ฟาหนานอย่างแรง“จำไว้ ลูกของข้าต้องอดทนห้ามอ่อนแอ ห้ามมีน้ำตา การจะเอาชนะทุกอย่างได้ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของจิตใจเท่านั้น”ฟาหนานประสานมือตรงหน้า“
"แม่นางน้อยรีบพาคุณชายท่านนี้ไปหาหมอก่อนทางนี้พวกเราจัดการกันเอง"ลุงขายซาลาเปาพูดรัวเร็วหวงหลานพยุงร่างสูงโงนเงน ป้าร้านขายน้ำตาลก้อนมาช่วยพยุงอีกข้างไปยังร้านหมอ"ขอบคุณท่านป้า"หวงหลานเอ่ยคำขอบคุณ ป้าร่างท้วมยิ้มอย่างเป็นมิตร"ไม่เป็นไรรีบพาคุณชายหาหมอเสียก่อนอาการคงจะหนักน่าดูถึงกลับหมดสติไปเลยทีเดียว"หวงหลานเองก็กังวลไม่น้อย"ท่านหมอ ท่านหมอมีคนเจ็บ"หมอชรารีบออกมาจากห้องเคี่ยวยาทางด้านหลัง ช่วยหวงหลานจับฟาหยางนอนบนแท่นนอน"แม่นางน้อยท่านออกไปก่อนจึงดีข้าจะตรวจดูบาดแผลให้ละเอียด"หวงหลานออกไปยืนด้านนอกอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่วายเป็นกังวลเกือบครึ่งชั่วยาม ท่านหมอจึงออกมาข้างนอกมือไม้เปรอะไปด้วยเลือดหวงหลานสีหน้าเป็นกังวลที่สุด"แม่นางผู้นี้เป็นอะไรกับกับคุณชายผู้นั้น""ข้าแค่เพียงรู้จักเขาแค่ผิวเผิน""อืม ข้าได้ยินเขาเรียกชื่อหวงหลานตลอดเวลา ไม่ทราบว่าเป็นใคร คงห่วงใยแม่นางหวงหลานคนนั้นไม่น้อย""ข้าเอง""อ๋อ เขาช่างเป็นบุรุษจิตใจดียิ่งช่วยแม้กระทั่งคนที่รู้จักเพียงผิวเผินแล้วยังแสดงความห่วงใยเพียงนี้""ท่านหมออาการบาดเจ็บของเขา""น่าห่วงยิ่งแล้ว บาดแผลแม้ไม่ลึกนักทว่าแผลกับสร้างความเจ็บป
“ไม่ปล่อย หากตะบะแตกเจ้าก็จะไม่ได้พบข้า อีกนานทีเดียวเพราะข้าต้องไปบำเพ็ญเพียร ถึงสามปีมนุษย์”หวงหลินรีบปล่อยอ้อมกอด“ไม่เอา หวงหลินยอมแล้วท่านเทพไม่อยู่หวงหลินจะแกล้งใครเล่า”มือใหญ่รวบเอวบางมาหนีบไว้ที่เอว“หากยังเล็กเหมือนเมื่อก่อนข้าจะตีก้นเสียให้เข็ด”หวงหลินดิ้น“ท่านเทพ หวงหลินโตแล้วนะ”หอบเอาร่างบางขึ้นฟาดบนบ่า“โตแล้วก็ตีได้”“ไม่เอา ปล่อยนะปล่อยเลย”ทุบแผ่นหลังกว้าง หมิงเหยียนชือเฉินวางร่างบางลงกับพื้น ร่างเล็กโงนเงน“โอ๊ะๆๆๆ โอ๊ย”หมิงเหยียนชือเฉินคว้าไว้กลัวว่าอีกคนจะล้มแต่กลับกลายได้ยินเสียงหัวเราะใสใสก่อนที่จะถูกดึงให้ล้มลงไปพร้อมกัน“ใครกันสอนนิสัยเจ้าเล่ห์กับเจ้าหวงหลานไม่ได้มีนิสัยเช่นเจ้าหรือว่าจะเป็น…”จ้องตากลมใสที่อมยิ้มอย่างไม่ทุกร้อนทั้งๆ ที่หมิงเหยียนชือเฉินกับรู้สึกว่าใจทำไมสั่นๆ“ข้าคงได้นิสัยของท่านเทพมาอย่างแน่นอน”ยิ้มมุมปาก“เหอะ หากเป็นของข้าจะต้องอ่อนหวานงดงามปานดอกมู่หลาน มิใช่ปลิ้นปล้อนเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นนิสัยของบิดาเจ้า”หวงหลินเลิกคิ้วสูง“ท่านเทพ ใครกันคือบิดาข้า”แววตาจริงจัง หมิงเหยียนชือเฉินถอนหายใจดึงมือบางให้ลุกขึ้น“เจ้าไปถามหวงหลานมารดาจอมปากแข็งใจ
ไป๋อี้ชิงในอาภรณ์บ่งบอกฐานะฮองเฮา กับฟาหยางฮ่องเต้ที่ใบหน้าแต่งแต้มด้วยหนวดบนริมฝีปาก ใบหน้าคมเข้มแต่ทว่าแววตาเศร้าโศก กงฉานยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลนัก“ลูกแม่เจ้ามาแล้ว”ไป๋อี้ชิงโอบกอดร่างสูงน้ำตาปริ่มขอบตา“เสด็จแม่ลูกมาแล้ว และจะไม่จากไปไหนอีกต่อจากนี้”“ไท่จือใช้เวลาเพียงไม่นานสำเร็จวิชาด้านการปกครอง ครั้งนี้ควรตั้งใจเรียนรู้ด้านการปกครองกับฝ่าบาท”กงฉานพูดขึ้นยิ้มๆ“จวิ้นหวังเองก็มากความสามารถ กลับมาครั้งนี้จวิ้นหวังขออยู่ต่อ แต่ข้ารั้งให้เขากลับมาด้วย จะได้อย่างไรให้ข้ากลับมาเพียงลำพัง”“ฟาหยินจวิ้นหวัง มีหน้าที่อารักขาไท่จือ เจ้าเช่นไรกล้าเอ่ยปากให้ไท่จือเดินทางเพียงลำพัง”ไป๋อี้ชิงถามเสียงเข้ม“ทูลฮองเฮา ข้าน้อยเดิมตั้งใจจะศึกษาวิชาดาบต่อจากอาจารย์แต่ไท่จือเร่งเดินทางไปนิดหากรออีกไม่เกินสามเดือน จวิ้นหวังคงไม่เอ่ยปากแบบนั้น”“อืมจวิ้นหวัง ใฝ่ดีตั้งใจศึกษาศาสตร์ต่างๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้ จะโทษก็โทษเจ้าฮองเฮาที่คิดถึงลูกมากไป เพิ่งสำเร็จการปกครองก็เรียกเขากลับ ธรรมดาบุรุษจะต้องมีวิชาดาบหรือเพลงกระบี่ติดตัว”ไป๋อี้ชิงยิ้มลูบหลังไหล่ให้กับฟาหลาง“กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว หว่างระหว่างทางมีเหตุ
หมิงเหยียนซือเฉินปรากฏกายตรงหน้า“ปิดคนอื่นได้ เบี่ยงเบนลิขิตฟ้าได้แต่หลอกนางหนูนี่ไม่ได้ หวงหลินเจ้าเห็นชัดไหมว่าด้ายชะตารักของมารดาเจ้าผูกติดกับใครกัน คน คนนั้นคือ….”“ท่านเทพหยุดคำพูดของท่านเสีย ข้าไม่อยากให้หวงหลิน ได้ยินมัน”หมิงเหยียนซือเฉินยิ้ม ยียวน“ข้าบอกเจ้าแล้วฝืนบัญชาสวรรค์มักจะพบกับความทุกข์ตรมทวีคูณ”“ท่านเทพข้าขอร้อง”“ท่านแม่กับท่านเทพพูดถึงเรื่องใดกัน หวงหลินไม่เข้าใจ”หวงหลานย่อกายลงข้างๆ หวงหลินน้อย“หวงหลินของแม่ เอาไว้เจ้าโตกว่านี้เรื่องบางทีเจ้าอาจเข้าใจ”หวงหลินดึงมือ หวงหลานยังร้านขายผลซานซาเชื่อม“ท่านแม่กินผลซานซาเชื่อมกัน”ยังคงแวะเวียนที่เดิม ในเมื่อหลายปีมานี่ ด้ายสัมพันธ์รักใคร่ถูกตัดให้ขาดสะบั้นลงไป ฟาหยางเองก็หายไปจากชีวิต แม้จะได้ยินเรื่องที่เขาปกครองแคว้นด้วยความร่มเย็นมีรัชทายาทสืบเชื้อสายมังกร มีฮองเฮาที่เคียงข้างทว่าใจหวงหลินก็ไม่เคยสั่นไหวจนกระทั่ง หวงหลินสามารถมองเห็นด้ายแดงอีกครั้ง“มาสิเจ้าตัวน้อยข้าอุ้มเจ้าหรือจะปีนขึ้นมาบนหลังข้า”หวงหลินกระโดดขึ้นไปบนแผ่นหลังใหญ่ของหมิงเหยียนชือเฉินทันทีหวงหลานส่ายหน้าไปมาสิบสองปีผ่านไป“มาสิเจ้าตัวน้อยจะให้ข้
หวงหลานยิ้มเศร้าๆ กัดผลซานซาเชื่อมเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องกินและควรจะกินสามปีผ่านไปทุกอย่างล่วงผ่าน กาลเวลาหมุนไป ฤดูกาลหมุนเวียนทุกอย่างกำลังจะเดินหน้าต่อไปตามครรลองของมัน“ท่านแม่ ทำไม ด้ายสีแดงของท่านแม่ถูกได้โยงใยกับท่านลุงคนนั้นเล่า”มือน้อยในอุ้งมือของหวงหลานกระตุกมือหวงหลานเบาๆ หวงหลาน หยุดก้าวเดินในทันที ไล่สายตาไปยังเส้นสด้ายสีแดงบางเบาแทบจะมองไม่เห็นทว่าหวงหลินกลับมองเห็นมัน คำถามเกิดขึ้นในใจทำไมด้ายโยงใยความรักที่หวงหลานตัดมันเองกับมือถึงได้โยงใยได้เหมือนเดิมอีก หรือเป็นเพราะว่าหวงหลานไม่อาจขัดบัญชาสวรรค์ได้จริงๆพลุส่องสว่าง บนท้องฟ้าหันมองข้างๆตาสบตาเมื่อร่างสูงคุ้นตายืนมองแสงไฟจากพลุเช่นกัน หวงหลานรีบดึงมือลูกสาวตัวน้อยออกจากตรงนั้นไปทันทีอีกคนหันมา มองเห็นเพียงแผ่นหลังคุ้นเคยเช่นกัน“หวงหลาน”เปร่งเสียงออกมาเบาๆ ราวกระซิบ วิ่งตามร่างบางที่จูงมือเล็กจากไป แต่กับถูกชนถูกดันจากผู้คนมากมายที่มาชมพุล ในค่ำคืนขึ้นปีใหม่“ท่านแม่ ท่านแม่ยังไม่ตอบคำถามข้าทำไม ด้ายสีแดงของท่านกับท่านลุงผู้นั้น…”อุ้มร่างกระจ้อยไว้ในอ้อมแขนพูดยิ้มๆ“บางทีด้ายที่ผูกก็แค่ให้ผ่านมาพานพบ หาได้ให้ครอ
ปีหนึ่งผ่านไปเขาไม่เพียงแค่ ไม่พูดจาหยอกล้อกับไป๋อี้ชิง แม้จะไม่ละเลยแต่ไม่เคยใส่ใจแม้จะไม่เย็นชาแต่ไม่เคยเอาใจ อยากได้อะไรไม่เคยขัด แต่ไม่เคยบอกว่าจะให้หากไม่ขอ ไป๋อี้ชิงรู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องใด แม้จะส่งคนตามหาตัวหวงหลานอีกกี่ครั้งก็ไม่มีพบพานนางอีกเลย ไป๋อี้ชิงจึงทำได้เพียง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมันก็เท่านั้นงานเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นแล้ว ผู้คนต่างตั้งตารอคอยการแต่งตั้งฮ่องเต้ ไม่เว้นแม้แต่หวงหลานที่รอคอยวันนี้เช่นกัน สิ่งที่ฟาหยางหวังไว้สำเร็จลงแล้ว นับว่าหวงหลานลงแรงไปไม่เสียเปล่า มาลาสีทองในตำแหน่งฮ่องเต้ถูกสวมลงบนศีรษะของฟาหยางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังกึกก้อง ร่างสูงก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์มังกร ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย“เหอผิงฟาหยางฮ่องเต้ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”ฟาหนานเป็นคนกล่าวคำถวายพระพร ขุนนางน้อยใหญ่ต่างเปล่งเสียงพร้อมกัน ดังแซ่ซ้อง ไป๋อี้ชิง ยืนเด่นเคียงข้างฟาหยาง รอยยิ้มสุขสมปรากฏที่ใบหน้างาม กงฉานก้มหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายรู้ดีว่าฟาหยางไม่มีความสุขเท่าที่ควรเสื้อคลุมมังกรถูกสวมลงบนร่างสูง ท่าทีสง่างามอย่างที่สุดไป๋อี้ชิง เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตท
“พี่ใหญ่ใบหน้านั้นติดอยู่ในใจข้า”“เสียดายที่ข้าไม่เห็นมันหญิงนางนั้นคงติดตราตรึงใจเจ้ายิ่งนักใช่หรือไม่หรือว่าจะเป็นไท่จือเฟย”“พี่ใหญ่นางมีตัวตนแค่เพียงในใจ หาได้มีอยู่จริงไม่”“หากไท่จือจะทำให้นางมีอยู่จริงล้วนไม่ยาก จะสถาปนาขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วมีสิ่งใดที่อยากได้ ล้วนต้องได้”ยิ้มเศร้าๆ“พี่ใหญ่ท่านเตรียมงานคงเหนื่อยหนัก”“ไม่เท่าไหร่ ข้าเต็มยิ่งพลุแสงสีปีนี้ล้วนงดงาม ข้าหวังว่าเจ้าจะชื่นชอบมัน”“ข้าชอบทุกอย่างที่พี่ใหญ่ตั้งใจทำ”“ฟาหยาง ปีหนึ่งผ่านไปเจ้า หมดอาลัยตายอยาก ไม่แม้แต่จะร่วมประชุมขุนนางเข้าไปในท้องพระโรงแค่เพียง ต้องเข้าข้าอยากเตือนฟาหยางเรื่องราวในอดีตเก็บงำไว้เสียเดินหน้าต่อไป ทุกเรื่องล้วนมีทางออก ฟาหลางกำลังน่าชังเขาจะรู้สึกอย่างไรหากเจ้าไม่คิดจะยืนหยัดเพื่อเขา“ข้ายังรักษาคำมั่นกับคนผู้หนึ่งว่าจะดูแลปกป้องไป๋อี้ชิงข้าทำตามสัญญาแล้วไม่เคยผิดต่อนาง พี่ใหญ่ในยามนี้จิตใจข้าห่อเหี่ยว”“เอาอย่างนี้พรุ่งนี้รับตำแหน่งฮ่องเต้เรียบร้อย ข้าดูแลเรื่องโปรยเหรียญเงินแทนเจ้าส่วนเจ้าอยากออกไปข้างนอกหาความสำราญ ข้าก็ไม่ขัด”ฟาหยางคิดถึง สะพานไม้อันนั้นเขายังคงยืนนิ่งที่นั่นเมื่อมีโอก
“ทะทะไท่จือ”หมิงยู๋พยายามจะพูดบางอย่าง“หมิงยู๋เจ้าจะพูดอะไร” ฟาหยางทรุดกายลงพยุงหมิงยู่ให้ลุกขึ้น“หมิงยู๋มาที่นี่เพื่อเตือนแม่นางหวงหลานให้หนีไปเสีย”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ไป๋อี้ชิงไป๋อี้ชิงอย่างนั้นหรือนางต้องการสังหารหวงหลานอย่างนั้นหรือ”หมิงยู๋กระอักเลือดสดๆ ออกมา“ไท่จือ ข้าน้อยมาเพื่อทดแทนบุญคุณแม่นางหวงหลาน ที่ทำให้ข้าน้อยได้เคียงคู่กับฮูหยินของข้าน้อย และบางอย่างไม่อาจพูดออกมา เพราะฮูหยินตกอยู่ในอันตราย”“ข้ารับรองเจ้าพูดข้าจะปกป้องฮูหยินของเจ้าเอง”หมิงยู่ยิ้มเศร้าๆ หายใจรวยริน“ไท่จือ เรื่องพระครรภ์ของไท่จือเฟยคะความจริง..ฉึก”ลูกดอกพุ่งเข้าเสียบที่อกด้านซ้ายของหมิงยู๋ที่ตาเบิกโพลงสิ้นลมหายใจในทันที สวรรค์ไม่อนุญาตให้ได้รับรู้กงฉานทะยานออกไปด้านนอก ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่มือธนูฟาหยางส่ายหน้าถอนใจยาวหลิวเหยียน ก้าวขาเข้ามาในกระท่อมน้อย“พวกท่านมาทำไมที่นี่ หวงหลาน หวงหลานกับหวงหลินเล่า”หันหน้าหันหลังวิ่งเข้าออกห้องนู่นห้องนี้เหมือนที่ฟาหยางเคยทำ“พวกเจ้า ทำให้หวงหลานต้องพบกับความยุ่งยากอีกแล้ว พวกเจ้ามาทำไมที่นี่บอกมานางอยู่ไหน”“ท่านน้า พวกเรามานางก็ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้กงฉานกำล
“ฝ่าบาท นักเวทหญิงคนนั้น นางบัดนี้ให้กำเนิดบุตรี”เหอผิงฉีปิงขมวดคิ้ว“มาบอกเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน”“ฝ่าบาทบุตตรีของนางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่จือ”เหอผิงฉีปิง ลุกขึ้นจากแท่นนั่ง“ส่งนางและลูกไปให้พ้นจากแคว้นนี้ เสียอย่าให้ไท่จือรู้เรื่องนี้”“ฝ่าบาทแต่นั่น เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่จือ”“ข้าสั่งให้นางหายไป หรือว่าเจ้าอยากให้หลงถานสั่งให้สังหารนางเสีย”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”“เดี๋ยว มอบเงินนี่ให้นางแล้วให้นางเร้นกายหายไปเสียในทันที ไม่เช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่าเรารู้มีหรือหลงถานพ่อลูกจะไม่รู้ เมื่อถึงเวลานั้นเกรงว่า จะไม่อาจช่วยนางได้”คนสนิท ประสานมือจากไป เหอผิงฉีปิงถอนหายใจยาวตำหนักบูรพา“บัดซบ”ฝ่ามือบางของ ไป๋อี้ชิงฟาดลงบนใบหน้าของหมิงยู๋“ไท่จือเฟยโปรดประทานอภัยด้วย หมิงยู๋ทำดีที่สุดแล้ว”“ข้าให้เจ้ากลับไ’xที่นั่นฆ่านางกับลูกเสีย”หมิงยู๋ตะลึงจังงัง“ฆ่านางเสียหรือจะปล่อยให้ทุกอย่างรู้ไปถึงหูไท่จือ เมื่อนั้นก็ไม่อาจหลีกหนีความผิดไปได้ ทั้งเจ้าและข้าจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่อาจคาดเดา”“แต่..ไท่จือเฟย”“จะยอมตายเพื่อนางหรือไร ให้เจ้าเลือกเอาหรือว่าจะรักษาชีวิตฮูหยินของเจ้ากับเลือดเนื้อเชื้อไขข
“โอ๋โอ๋โอ๋ ฟาหลางตัวน้อยอย่าร้องโยเย” ฟาหยางเห่กล่อมร่างกระจ้อยในอ้อมแขน ไป๋อี้ชิงนอนมองภาพนั้นดวงหัวใจเปี่ยมสุข“โอะโอะ ดูสิไป๋อี้ชิง เจ้าตัวน้อยยิ้มให้ข้าด้วย”“ไท่จือลูกเพิ่งอายุได้สามวันเช่นไรจึงยิ้มได้”“น่า... ข้าเห็นได้ชัดว่าเขายิ้มให้ข้า”“องค์ชายใหญ่ ฟาหนานเสด็จๆๆๆๆ ”“ไท่จือวันๆ ไม่ไปไหน คลุกอยู่แต่ในตำหนักเห็นได้ชัดว่าเป็นบิดาที่ดีเสียจริง”พูดยิ้มๆ“พี่ใหญ่ท่านมีเรื่องเร่งด่วนใด ความจริงให้ใครแจ้งข้าข้าจะเร่ง ไปพบ”“แค่แวะเวียนมาดูหน้าหลานและอยากมาดื่มชาที่ตำหนักบูรพา เบื่อชารสเดิมๆ ที่ตำหนักเฉียนเปียนเหลือทนแล้ว”ฟาหยางส่งร่างกระจ้อยให้กับฟาหนาน“หืมมม หล่อเหลาเหมือนเจ้าไม่ผิดอีกทั้งยังมีแววตา น่าเอ็นดูเหมือนใครกันนะ เหมือนข้าเคยเห็นสายตานี้”ไป๋อี้ชิงหุบยิ้ม“ เหมือนไท่จือเฟย แววตาของเขาเหมือนไป๋อี้ชิงที่สุด”ฟาหยางรีบพูดขึ้น“น่าจะจริง ไปเถอะข้าอยากดื่มชาเต็มทนแล้ว”ฟาหนานเดินนำฟาหยางออกไปด้านนอกศาลาริมน้ำ“พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านต้องมีเรื่องเร่งด่วน”“ไท่จือ ยาที่ไท่จือส่งมอบให้ข้าโดยแสร้งว่าถูกวางยา แล้วเกิดอาการปวดท้องเหมือนทุกคนข้างกายใต้เท้าหลงถานกับไท่จือเฟยบัดนี้ข้าลอง