รัชศกเหอผิงฉีปิงที่24มีเรื่องเล่าขานถึง พลังเวทที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ของตระกูลหนึ่งที่สามารถตัดต่อความสัมพันธ์ของมนุษย์ให้เกลียดชังรักใคร่ แบ่งเบาภาระสวรรค์ รักเกลียดง่ายดายเพราะผู้สืบทอดมีพลังที่สวรรค์ประทานมา สามารถมองเห็นด้ายผูกโยงใยสัมพันธ์ คู่รัก พี่น้อง เพื่อนฝูง ญาติสนิท สีของด้ายแห่งชะตาผูกเกี่ยวแตกต่างสีสัน เพียงแค่กะพริบตาสามารถรู้ได้ว่าใครผูกสัมพันธ์กันไว้ หน้าที่ของผู้สืบทอดจึง แบ่งเบาภาระสวรรค์เมื่อคำวอนไหว้ของเหล่ามนุษย์มีมากมายจน ไม่อาจรับมือ"พี่ใหญ่ทำคะแนนตีตื้น หลงถานไป๋อี้ชิงนางมีใจให้พี่ใหญ่ เสด็จพ่อทรง กริ้วเรื่องที่ข้าไม่เอาไหน""องค์ชายท่านหมายมั่นสิ่งใดบอกกับข้าน้อยให้หายข้องใจ"องครักษ์ข้างกายนามกงฉานที่ อ่อนแก่กว่าไม่มากนักเอ่ยปากถาม"หากใครได้หลงถานไปอี้ชิงได้เคียงข้างใครคนผู้นั้นจึงนับว่ามีโอกาสได้นั่งบัลลังก์ตำหนักบูรพา เห็นหรือไม่บิดานางรักใครjดูแลเหมือนหยกล้ำค่าอีกทั้งใต้เท้าไป๋ถานล้วนมีแต่ผู้ที่ ยกย่องเชิดชูไม่ว่าจะทำการใดล้วนสำเร็จลุล่วงด้วยเป็นที่วางใจแม้แต่เสด็จพ่อยังต้องเกรงใจเขา""องค์ชาย เรื่องตำแหน่งองค์รัชทายาท นับวันยิ่งช่วงชิงเข้มข้นหากเป็นเ
เช้าสดใสในอีกวัน กงฉานยืนรอหวงหลานกับหลิวเหยียนที่ก้าวเดินมายังเพิงพักที่เดิมในทุกๆ วัน“แม่หมอ รอท่านนานแล้ว”กงฉานเอ่ยทัก หวงหลานกับหลิวเหยียนทำสีหน้าเรียบเฉย“ต้องการให้ช่วยเรื่องใดกัน”หลิวเหยียนถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว“คุณชายต้องการให้แม่หมอ ผูกด้ายให้คุณชายกับหญิงนางหนึ่ง”หลิวเหยียนหยักหน้าให้กับ หวงหลาน“ในใจคุณชาย คิดอย่างไรกับแม่นางคนนั้น”หวงหลานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ข้า... ชอบนาง แต่นางกลับชอบพี่ใหญ่ของข้า”หวงหลานนั่งลงหลับตาลงช้าๆ“คุณชายหากเป็นลิขิตสวรรค์และข้าผูกด้ายให้กับท่านแล้ว ท่านสัญญาได้ไหมว่าจะดูแลนางอย่างดี”เงียบ“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทอดทิ้งนางหากท่านได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว”“.....ข้าสัญญา”ด้ายสีแดงโยงใย ที่นิ้วก้อยของเหอผิงฟาหยาง หวงหลานไม่ได้ไล่เส้นด้ายที่โยงใยนั้นรู้ดีว่าจบลงที่นิ้วก้อยของตัวเอง“ท่านกลับไปเสีย เรื่องที่ไหว้วาน อีกไม่เกินสองวันจึงเห็นผล แล้วจงจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับข้า”เหอผิงฟาหยาง เลิกคิ้วสูงเมื่อหวงหลานลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตน่ามอง“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเห็นผล”“ปกติ เราจะช่วยเฉพาะคนที่แวะมาที่นี่ถึงสามครั้งสามครา หรือไม่ก็คนผู้นั้นไ
ก่อนถึงวังหลวงเกี้ยวหลังใหญ่เคลื่อนตัวแหวกฝูงชนที่รวมทั้งเหอผิงฟาหยางและกงฉาน ทว่าอยู่ๆ มือสังหารก็รายล้อมเกี้ยวไว้ เกี้ยวหลังใหญ่ของใครกันกงฉานขมวดคิ้ว ดึงตัวเหอผิงฟาหยางไว้ด้านหลัง กลัวว่ามือสังหารจะเปลี่ยนเป้าหมาย มาที่เหอผิงฟาหยาง มือสังหารกลับมุ่งโจมตีคนในเกี้ยว สาวใช้ดึงตัวหลงถานไป๋อี้ชิงออกมาจากเกี้ยว ทว่ามือสังสารกลับถลาเข้าใส่ ใช้กระบี่กางกั้นด้านหน้าตรงหน้าเหอผิงฟาหยางพอดี ดวงตาหวานหยดเงยขึ้นสบตาเหอผิงฟาหยาง กระบี่กำลังจะบาดลึกลงที่ลำคอระหง“องค์ชายช่วยข้าด้วย”เสียงบางเบาราวกระซิบทว่าเศร้าสร้อย น่าสงสาร เหอผิงฟาหยาง รวบร่างเล็กแนบอกส่งฝ่ามือซัดเข้าที่ยอดออกของมือสังหารรวดเร็วเพียงพริบตา กงฉานชักกระบี่ออกห้ำหั่น ปล่อยให้เหอผิงฟาหยางพาหลงถานไป๋อี้ชิงหนีไป“บัดซบ แค่หญิงอ่อนแอเพียงคนเดียวไม่อาจฆ่าให้ตายได้ พวกเจ้าไร้ความสามารถสิ้นดี”“ใต้เท้า ปกติบุตรีใต้เท้าหลงถานไปไหนไร้คนคุ้มกัน มาบัดนี้กลับมีคนผู้หนึ่งมาขวางไว้”“งานที่ดูง่าย บัดนี้กลับยากเย็นแสนเข็ญสังหารนางเสีย ทุกอย่างจึงจะง่ายดายขึ้น ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน”“คนผู้นั้นพานางเร้นกายหนีหาย”“คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่”“ฝีมือและ
"เจ้าพร้อมที่จะเจ็บปวด อีกครั้งหรือไร""ข้าแค่เพียงไม่เข้าใกล้เขาเสีย ก็ไม่ต้องเจ็บปวด ข้าเองตอนนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเขาคือคู่ชะตา อีกอย่างข้าผูกด้ายให้เขากับมือ เขาย่อมจะรักใคร่ผูกพันกับนางเพราะด้ายโยงใยกันแล้ว""ข้าเอาใจช่วย เฮ้อ...หวังว่าเจ้าจะจัดการมันได้ ใช่ไหม"หวงหลานพยักหน้ายิ้มๆบ้านหลงถาน…."ท่านพ่อ เป็นองค์ชายรองที่ช่วยลูกไว้""โอ้..ไป๋อี้ชิงของพ่อ ใครกันช่างทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ ส่งคนลอบสังหารเจ้า ไม่คิดเลยพ่อจะทำให้เจ้าพบกับอันตราย""องค์ชายใหญ่ส่งคนคุ้มกันเจ้า อีกทั้งตอนนี้รอพบเจ้าที่สวนดอกไม้เพื่อถามไถ่เรื่องของเจ้า"หลงถานไป๋อี้ชิง ยิ้มบางๆ ย่อกายก่อนที่จะเดินไปยังสวนดอกไม้"ไป๋อี้ชิง คาราวะองค์ชายใหญ่"เหอผิงฟาหนานตรงเข้ากุมมือมือบางดังเช่นทุกครั้งที่เคยทำ ด้วยความห่วงใย"ไป๋อี้ชิง เจ้าปลอดภัยดีไหม ข้าสะเพร่าเองไม่ยอมส่งคนคุ้มกันเจ้าจนเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าจนได้"ไป๋อี้ชิงดึงมืออกจากการเกาะกุม"เจ้าโกรธข้าใช่ไหม สวมควรแล้วข้าผิดเอง ดูแลเจ้าไม่ได้""องค์ชายอย่าโทษตัวเอง ไป๋อี้ชิงไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน องค์ชายรองมาทันเวลา ถึงจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไร""ต่อไปข้าส่งคนคุ้มกั
วังหลวง“ องค์ชายรอง ฟาหยางไม่น่าเชื่อว่าจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ หลงถานไป๋อี้ชิงยอมคบหากับองค์ชายไม่แน่ว่านางจะมีใจกับองค์ชายรองเสียแล้ว”ฮ่องเต้ เงยหน้าขึ้นจากอักษรที่ร่างไว้“เรื่องเช่นนี้หากไม่มุ่งมั่น เช่นไรจึงจะสำเร็จ หลงถานไป๋อี้ชิงเป็น ตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้การตัดสินใจของข้าง่ายดายขึ้นมาทันที”เหอผิงฉีปิงเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“ฝ่าบาท ทรงยอมให้ใต้เท้าหลงถาน มีอำนาจเหนือขุนนางทั้งหลายเพื่อที่จะใช้เขาเป็นด่านหน้าเช่นนั้นหากเขาเอ่ยออกมาเรื่องการประทานงานแต่งฝ่าบาทก็คงไม่อาจปฏิเสธ”“ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว หลงถาน แม้จะมีอำนาจเหนือใครแต่เรื่องความภักดีมีมากกว่าคนอื่นอีกทั้งงานที่มอบหมายล้วนจัดการได้หมดจดแม้จะเห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจจนข้าเองต้องเกรงใจ แต่ถึงเวลาจริงๆ โทษประหาร จากปากข้าก็คง ไม่มีใครกล้ารับแทน ข้าอยากให้เขาตายเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ให้เขาเต็มใจรับใช้นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่ ต้องจัดการ”“ฝ่าบาทเสียงเล่าลือว่าใต้เท้าหลงถานใช้ พลังเวทผูกด้ายความสัมพันธ์ให้ฝ่าบาทวางใจ”“555เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าแค่เพียงพลังเวท ต่ำต้อยจะทำอะไรข้าได้หรือที่ข้าทำทีเป็นเมตตาเขาเกิ
“อย่าเสียเวลาเลย นี่ก็สายมากแล้ว ไม่เช่นนั้นจะร้อนจนไม่อยากลงเรือ”ไป๋อี้ชิงตัดบท คนทั้งหมดก้าวลงเรือทีละคนไป๋อี้ชิงส่งมือให้ฟาหยางให้ช่วยพยุงสบตาหวานซึ้งหวงหลานก้าวขาลงไปในเรือไปนั่งด้านท้ายเรือ มองพื้นน้ำอย่างสบายอารมณ์ฟางหยางนั่งหัวเรือ ไป๋อี้ชิงนั่งอยู่ตรงกลางลำเรือพอดี ฉะนั้นรอยยิ้มที่ฟาหยางส่งมาให้ ไป๋อี้ชิงจึงลอดผ่านมาถึงหวงหลานด้วย ก็แค่เบือนหน้าหนีเสียก็เท่านั้น หวงหลานไม่ได้สนใจว่าคนทั้งสองพูดกันเรื่องใดสิ่งที่หวงหลานสนใจคือของกินและเครื่องประดับที่วางขายอยู่ในเรือพายของ พ่อค้าแม่ค้าตื่นตาตื่นใจกับข้าวของเหล่านั้นมากกว่า“ชิ้นนั้น ข้าต้องการชิ้นนั้น”“โอ้...คุณหนูของชิ้นนี้ แปลกประหลาดงดงามตกลงมาจากฟากฟ้า ราคาจะสูงไปหน่อย แต่ว่ามีชิ้นเดียว”ได้ยินคำว่าชิ้นเดียวไป๋ถานอี้ชิง หันมองหินใสก้อนสีฟ้า ที่ตกผลึกเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หากนำมาห้อยคอคงสวยสง่าไม่เบา ทำเอาฟาหยางมองตามสายตาไป“เท่าไหร่”เหอผิงฟาหยางถาม“คุณชาย ของชิ้นนี้ 100ตำลึง”หวงหลานถอนหายใจ“ท่านลุงข้าไม่มีเงินมากพอ”น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ“ข้าซื้อให้เจ้าได้ หากต้องการมัน”ล้วงเงินจ
“องค์ชาย"กงฉานช่วยดึงมือของฟาหยางขึ้นจากน้ำ หวงหลานสำลักน้ำสองสามที เรือแจวถูกพาเข้าฝั่ง“หวงหลานขยับตัวออกจากอ้อมแขนของ ฟาหยางอย่างรวดเร็ว“ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแค่เปียกปอน แบมือออก มองหาหินสีที่คว้ามาได้ ทว่าไม่ได้อยู่ในมือเสียแล้ว“หินสี เล่า”“ช่างมัน เจ้ายอมสละชีวิตเพื่อของแบบนั้นด้วยหรือ”หวงหลานไม่ตอบ ขยับตัวถอยห่างออกจากฟาหยางเพราะไป๋อี้ชิงเยื้องย่างมาถึงพอดี“ข้า เปียกปอนเพียงนี้ขอตัวกลับบ้านจะดีกว่าคุณชายโอกาสหน้าพบกันใหม่วันนี้หวงหลาน ขอลา”ลุกขึ้น ผมเผ้าเนื้อตัวเปียกปอน กงฉานรับเอาเสื้อคลุมมายื่นส่งให้ฟาหยางแต่เขากลับตวัดเสื้อคลุมห่มให้หวงหลาน“ไปเถิดแล้วพบกันใหม่”หวงหลานสาวเท้าจากไป ไป๋อี้ชิงก้าวขาเข้ามาพอดี“องค์ชาย บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ฟาหยางส่ายหน้าไปมา“ทำเอาเจ้าหมดสนุกไปทีเดียวข้าก็คงต้องกลับเสียแล้วน้ำเย็นเหลือเกิน ฮัดเช่ย”ส่งเสียงจามดังๆ“ องค์ชายถนอมพระวรกาย กงฉานท่านพาองค์ชายกลับตำหนักเสียเถิด”ไป๋อี้ชิง แสดงสีหน้าห่วงใยฟาหยางอย่างที่สุด ฟาหยางยิ้มบางๆ ก้าวขานำหน้ากงฉานออกไปทันที“ส่งคนที่ชำนาญการดำน้ำ งมหินสีขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้คนมากแค่ไหน”“องค์ชายของสิ่
วังหลวง“องค์ชาย คุณหนูหลงถานไป๋อี้ชิง ส่งชาแก้ไอเย็นมาให้องค์ชาย”สาวใช้ย่อกายลง ตรงหน้าฟาหยางที่ก้าวขาออกมาหน้าตำหนัก“อืม ฝากเจ้าขอบคุณ คุณหนูเจ้า”“คุณหนูยังบอกอีกว่าวันนี้หากองค์ชายว่างเว้น คุณหนูเชิญองค์ชายชมดอกเหมยดื่มชา ที่บ้านตระกูลหลงถาน”ยิ้มอ่อนโยน“ข้ารับคำเชิญ ยามบ่ายข้าจะถึงที่นั่น”สาวใช้จากไป กงฉานสาวเท้าเข้ามา“องค์ชายรองพบหินสี อันนั้นแล้ว” แบมือส่งหินสีฟ้าใสให้กับ ฟาหยาง“ไปหานางกัน อืม เจ้าถือชาแก้ไอเย็นไปให้นางด้วย” กงฉานเหลือบตามองห่อชาบนโต๊ะหยิบมาถือก้าวเดินตาม ฟาหยางไปทันที“องค์ชาย ชานี่ หาดื่มได้ยากยิ่ง”“แล้วอย่างไรเล่า”“ราคาค่อนข้างสูง”“เจ้าเลยคิดว่าคนอย่างนางต่ำต้อยไม่ควรดื่มชาราคาแพงนี่ อย่างนั้นหรือ”“กงฉานไม่ได้หมายความเช่นนั้นแต่เกรงว่าเพียงแค่นางเห็นห่อชานางก็ จะต้องปฏิเสธเพราะนางไม่รับ สิ่งของที่มีค่างวด องค์ชายก็น่าจะรู้ดี"“เปลี่ยบนห่อมันเสียดีไหมเจ้าว่านางจะยอมรับมันไหม”กงฉานยิ้มในความหลักแหลมของ ฟาหยาง“องค์ชายทุ่มเทเพียงนี้นางจะต้องรับมันไว้อย่างแน่นอน”ปลอบใจทั้งๆ ที่รู้ดีว่าหวงหลานตัดเยื่อใย ฟาหยางทุกอย่าง"เช่นนั้นจัดการเปลี่ยนห่อใหม่เสียอืม เ
“ไม่ปล่อย หากตะบะแตกเจ้าก็จะไม่ได้พบข้า อีกนานทีเดียวเพราะข้าต้องไปบำเพ็ญเพียร ถึงสามปีมนุษย์”หวงหลินรีบปล่อยอ้อมกอด“ไม่เอา หวงหลินยอมแล้วท่านเทพไม่อยู่หวงหลินจะแกล้งใครเล่า”มือใหญ่รวบเอวบางมาหนีบไว้ที่เอว“หากยังเล็กเหมือนเมื่อก่อนข้าจะตีก้นเสียให้เข็ด”หวงหลินดิ้น“ท่านเทพ หวงหลินโตแล้วนะ”หอบเอาร่างบางขึ้นฟาดบนบ่า“โตแล้วก็ตีได้”“ไม่เอา ปล่อยนะปล่อยเลย”ทุบแผ่นหลังกว้าง หมิงเหยียนชือเฉินวางร่างบางลงกับพื้น ร่างเล็กโงนเงน“โอ๊ะๆๆๆ โอ๊ย”หมิงเหยียนชือเฉินคว้าไว้กลัวว่าอีกคนจะล้มแต่กลับกลายได้ยินเสียงหัวเราะใสใสก่อนที่จะถูกดึงให้ล้มลงไปพร้อมกัน“ใครกันสอนนิสัยเจ้าเล่ห์กับเจ้าหวงหลานไม่ได้มีนิสัยเช่นเจ้าหรือว่าจะเป็น…”จ้องตากลมใสที่อมยิ้มอย่างไม่ทุกร้อนทั้งๆ ที่หมิงเหยียนชือเฉินกับรู้สึกว่าใจทำไมสั่นๆ“ข้าคงได้นิสัยของท่านเทพมาอย่างแน่นอน”ยิ้มมุมปาก“เหอะ หากเป็นของข้าจะต้องอ่อนหวานงดงามปานดอกมู่หลาน มิใช่ปลิ้นปล้อนเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นนิสัยของบิดาเจ้า”หวงหลินเลิกคิ้วสูง“ท่านเทพ ใครกันคือบิดาข้า”แววตาจริงจัง หมิงเหยียนชือเฉินถอนหายใจดึงมือบางให้ลุกขึ้น“เจ้าไปถามหวงหลานมารดาจอมปากแข็งใจ
ไป๋อี้ชิงในอาภรณ์บ่งบอกฐานะฮองเฮา กับฟาหยางฮ่องเต้ที่ใบหน้าแต่งแต้มด้วยหนวดบนริมฝีปาก ใบหน้าคมเข้มแต่ทว่าแววตาเศร้าโศก กงฉานยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลนัก“ลูกแม่เจ้ามาแล้ว”ไป๋อี้ชิงโอบกอดร่างสูงน้ำตาปริ่มขอบตา“เสด็จแม่ลูกมาแล้ว และจะไม่จากไปไหนอีกต่อจากนี้”“ไท่จือใช้เวลาเพียงไม่นานสำเร็จวิชาด้านการปกครอง ครั้งนี้ควรตั้งใจเรียนรู้ด้านการปกครองกับฝ่าบาท”กงฉานพูดขึ้นยิ้มๆ“จวิ้นหวังเองก็มากความสามารถ กลับมาครั้งนี้จวิ้นหวังขออยู่ต่อ แต่ข้ารั้งให้เขากลับมาด้วย จะได้อย่างไรให้ข้ากลับมาเพียงลำพัง”“ฟาหยินจวิ้นหวัง มีหน้าที่อารักขาไท่จือ เจ้าเช่นไรกล้าเอ่ยปากให้ไท่จือเดินทางเพียงลำพัง”ไป๋อี้ชิงถามเสียงเข้ม“ทูลฮองเฮา ข้าน้อยเดิมตั้งใจจะศึกษาวิชาดาบต่อจากอาจารย์แต่ไท่จือเร่งเดินทางไปนิดหากรออีกไม่เกินสามเดือน จวิ้นหวังคงไม่เอ่ยปากแบบนั้น”“อืมจวิ้นหวัง ใฝ่ดีตั้งใจศึกษาศาสตร์ต่างๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้ จะโทษก็โทษเจ้าฮองเฮาที่คิดถึงลูกมากไป เพิ่งสำเร็จการปกครองก็เรียกเขากลับ ธรรมดาบุรุษจะต้องมีวิชาดาบหรือเพลงกระบี่ติดตัว”ไป๋อี้ชิงยิ้มลูบหลังไหล่ให้กับฟาหลาง“กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว หว่างระหว่างทางมีเหตุ
หมิงเหยียนซือเฉินปรากฏกายตรงหน้า“ปิดคนอื่นได้ เบี่ยงเบนลิขิตฟ้าได้แต่หลอกนางหนูนี่ไม่ได้ หวงหลินเจ้าเห็นชัดไหมว่าด้ายชะตารักของมารดาเจ้าผูกติดกับใครกัน คน คนนั้นคือ….”“ท่านเทพหยุดคำพูดของท่านเสีย ข้าไม่อยากให้หวงหลิน ได้ยินมัน”หมิงเหยียนซือเฉินยิ้ม ยียวน“ข้าบอกเจ้าแล้วฝืนบัญชาสวรรค์มักจะพบกับความทุกข์ตรมทวีคูณ”“ท่านเทพข้าขอร้อง”“ท่านแม่กับท่านเทพพูดถึงเรื่องใดกัน หวงหลินไม่เข้าใจ”หวงหลานย่อกายลงข้างๆ หวงหลินน้อย“หวงหลินของแม่ เอาไว้เจ้าโตกว่านี้เรื่องบางทีเจ้าอาจเข้าใจ”หวงหลินดึงมือ หวงหลานยังร้านขายผลซานซาเชื่อม“ท่านแม่กินผลซานซาเชื่อมกัน”ยังคงแวะเวียนที่เดิม ในเมื่อหลายปีมานี่ ด้ายสัมพันธ์รักใคร่ถูกตัดให้ขาดสะบั้นลงไป ฟาหยางเองก็หายไปจากชีวิต แม้จะได้ยินเรื่องที่เขาปกครองแคว้นด้วยความร่มเย็นมีรัชทายาทสืบเชื้อสายมังกร มีฮองเฮาที่เคียงข้างทว่าใจหวงหลินก็ไม่เคยสั่นไหวจนกระทั่ง หวงหลินสามารถมองเห็นด้ายแดงอีกครั้ง“มาสิเจ้าตัวน้อยข้าอุ้มเจ้าหรือจะปีนขึ้นมาบนหลังข้า”หวงหลินกระโดดขึ้นไปบนแผ่นหลังใหญ่ของหมิงเหยียนชือเฉินทันทีหวงหลานส่ายหน้าไปมาสิบสองปีผ่านไป“มาสิเจ้าตัวน้อยจะให้ข้
หวงหลานยิ้มเศร้าๆ กัดผลซานซาเชื่อมเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องกินและควรจะกินสามปีผ่านไปทุกอย่างล่วงผ่าน กาลเวลาหมุนไป ฤดูกาลหมุนเวียนทุกอย่างกำลังจะเดินหน้าต่อไปตามครรลองของมัน“ท่านแม่ ทำไม ด้ายสีแดงของท่านแม่ถูกได้โยงใยกับท่านลุงคนนั้นเล่า”มือน้อยในอุ้งมือของหวงหลานกระตุกมือหวงหลานเบาๆ หวงหลาน หยุดก้าวเดินในทันที ไล่สายตาไปยังเส้นสด้ายสีแดงบางเบาแทบจะมองไม่เห็นทว่าหวงหลินกลับมองเห็นมัน คำถามเกิดขึ้นในใจทำไมด้ายโยงใยความรักที่หวงหลานตัดมันเองกับมือถึงได้โยงใยได้เหมือนเดิมอีก หรือเป็นเพราะว่าหวงหลานไม่อาจขัดบัญชาสวรรค์ได้จริงๆพลุส่องสว่าง บนท้องฟ้าหันมองข้างๆตาสบตาเมื่อร่างสูงคุ้นตายืนมองแสงไฟจากพลุเช่นกัน หวงหลานรีบดึงมือลูกสาวตัวน้อยออกจากตรงนั้นไปทันทีอีกคนหันมา มองเห็นเพียงแผ่นหลังคุ้นเคยเช่นกัน“หวงหลาน”เปร่งเสียงออกมาเบาๆ ราวกระซิบ วิ่งตามร่างบางที่จูงมือเล็กจากไป แต่กับถูกชนถูกดันจากผู้คนมากมายที่มาชมพุล ในค่ำคืนขึ้นปีใหม่“ท่านแม่ ท่านแม่ยังไม่ตอบคำถามข้าทำไม ด้ายสีแดงของท่านกับท่านลุงผู้นั้น…”อุ้มร่างกระจ้อยไว้ในอ้อมแขนพูดยิ้มๆ“บางทีด้ายที่ผูกก็แค่ให้ผ่านมาพานพบ หาได้ให้ครอ
ปีหนึ่งผ่านไปเขาไม่เพียงแค่ ไม่พูดจาหยอกล้อกับไป๋อี้ชิง แม้จะไม่ละเลยแต่ไม่เคยใส่ใจแม้จะไม่เย็นชาแต่ไม่เคยเอาใจ อยากได้อะไรไม่เคยขัด แต่ไม่เคยบอกว่าจะให้หากไม่ขอ ไป๋อี้ชิงรู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องใด แม้จะส่งคนตามหาตัวหวงหลานอีกกี่ครั้งก็ไม่มีพบพานนางอีกเลย ไป๋อี้ชิงจึงทำได้เพียง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมันก็เท่านั้นงานเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นแล้ว ผู้คนต่างตั้งตารอคอยการแต่งตั้งฮ่องเต้ ไม่เว้นแม้แต่หวงหลานที่รอคอยวันนี้เช่นกัน สิ่งที่ฟาหยางหวังไว้สำเร็จลงแล้ว นับว่าหวงหลานลงแรงไปไม่เสียเปล่า มาลาสีทองในตำแหน่งฮ่องเต้ถูกสวมลงบนศีรษะของฟาหยางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังกึกก้อง ร่างสูงก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์มังกร ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย“เหอผิงฟาหยางฮ่องเต้ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”ฟาหนานเป็นคนกล่าวคำถวายพระพร ขุนนางน้อยใหญ่ต่างเปล่งเสียงพร้อมกัน ดังแซ่ซ้อง ไป๋อี้ชิง ยืนเด่นเคียงข้างฟาหยาง รอยยิ้มสุขสมปรากฏที่ใบหน้างาม กงฉานก้มหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายรู้ดีว่าฟาหยางไม่มีความสุขเท่าที่ควรเสื้อคลุมมังกรถูกสวมลงบนร่างสูง ท่าทีสง่างามอย่างที่สุดไป๋อี้ชิง เขย่งเท้าขึ้นจุมพิตท
“พี่ใหญ่ใบหน้านั้นติดอยู่ในใจข้า”“เสียดายที่ข้าไม่เห็นมันหญิงนางนั้นคงติดตราตรึงใจเจ้ายิ่งนักใช่หรือไม่หรือว่าจะเป็นไท่จือเฟย”“พี่ใหญ่นางมีตัวตนแค่เพียงในใจ หาได้มีอยู่จริงไม่”“หากไท่จือจะทำให้นางมีอยู่จริงล้วนไม่ยาก จะสถาปนาขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วมีสิ่งใดที่อยากได้ ล้วนต้องได้”ยิ้มเศร้าๆ“พี่ใหญ่ท่านเตรียมงานคงเหนื่อยหนัก”“ไม่เท่าไหร่ ข้าเต็มยิ่งพลุแสงสีปีนี้ล้วนงดงาม ข้าหวังว่าเจ้าจะชื่นชอบมัน”“ข้าชอบทุกอย่างที่พี่ใหญ่ตั้งใจทำ”“ฟาหยาง ปีหนึ่งผ่านไปเจ้า หมดอาลัยตายอยาก ไม่แม้แต่จะร่วมประชุมขุนนางเข้าไปในท้องพระโรงแค่เพียง ต้องเข้าข้าอยากเตือนฟาหยางเรื่องราวในอดีตเก็บงำไว้เสียเดินหน้าต่อไป ทุกเรื่องล้วนมีทางออก ฟาหลางกำลังน่าชังเขาจะรู้สึกอย่างไรหากเจ้าไม่คิดจะยืนหยัดเพื่อเขา“ข้ายังรักษาคำมั่นกับคนผู้หนึ่งว่าจะดูแลปกป้องไป๋อี้ชิงข้าทำตามสัญญาแล้วไม่เคยผิดต่อนาง พี่ใหญ่ในยามนี้จิตใจข้าห่อเหี่ยว”“เอาอย่างนี้พรุ่งนี้รับตำแหน่งฮ่องเต้เรียบร้อย ข้าดูแลเรื่องโปรยเหรียญเงินแทนเจ้าส่วนเจ้าอยากออกไปข้างนอกหาความสำราญ ข้าก็ไม่ขัด”ฟาหยางคิดถึง สะพานไม้อันนั้นเขายังคงยืนนิ่งที่นั่นเมื่อมีโอก
“ทะทะไท่จือ”หมิงยู๋พยายามจะพูดบางอย่าง“หมิงยู๋เจ้าจะพูดอะไร” ฟาหยางทรุดกายลงพยุงหมิงยู่ให้ลุกขึ้น“หมิงยู๋มาที่นี่เพื่อเตือนแม่นางหวงหลานให้หนีไปเสีย”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ไป๋อี้ชิงไป๋อี้ชิงอย่างนั้นหรือนางต้องการสังหารหวงหลานอย่างนั้นหรือ”หมิงยู๋กระอักเลือดสดๆ ออกมา“ไท่จือ ข้าน้อยมาเพื่อทดแทนบุญคุณแม่นางหวงหลาน ที่ทำให้ข้าน้อยได้เคียงคู่กับฮูหยินของข้าน้อย และบางอย่างไม่อาจพูดออกมา เพราะฮูหยินตกอยู่ในอันตราย”“ข้ารับรองเจ้าพูดข้าจะปกป้องฮูหยินของเจ้าเอง”หมิงยู่ยิ้มเศร้าๆ หายใจรวยริน“ไท่จือ เรื่องพระครรภ์ของไท่จือเฟยคะความจริง..ฉึก”ลูกดอกพุ่งเข้าเสียบที่อกด้านซ้ายของหมิงยู๋ที่ตาเบิกโพลงสิ้นลมหายใจในทันที สวรรค์ไม่อนุญาตให้ได้รับรู้กงฉานทะยานออกไปด้านนอก ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่มือธนูฟาหยางส่ายหน้าถอนใจยาวหลิวเหยียน ก้าวขาเข้ามาในกระท่อมน้อย“พวกท่านมาทำไมที่นี่ หวงหลาน หวงหลานกับหวงหลินเล่า”หันหน้าหันหลังวิ่งเข้าออกห้องนู่นห้องนี้เหมือนที่ฟาหยางเคยทำ“พวกเจ้า ทำให้หวงหลานต้องพบกับความยุ่งยากอีกแล้ว พวกเจ้ามาทำไมที่นี่บอกมานางอยู่ไหน”“ท่านน้า พวกเรามานางก็ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้กงฉานกำล
“ฝ่าบาท นักเวทหญิงคนนั้น นางบัดนี้ให้กำเนิดบุตรี”เหอผิงฉีปิงขมวดคิ้ว“มาบอกเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน”“ฝ่าบาทบุตตรีของนางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่จือ”เหอผิงฉีปิง ลุกขึ้นจากแท่นนั่ง“ส่งนางและลูกไปให้พ้นจากแคว้นนี้ เสียอย่าให้ไท่จือรู้เรื่องนี้”“ฝ่าบาทแต่นั่น เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่จือ”“ข้าสั่งให้นางหายไป หรือว่าเจ้าอยากให้หลงถานสั่งให้สังหารนางเสีย”“น้อมบัญชาฝ่าบาท”“เดี๋ยว มอบเงินนี่ให้นางแล้วให้นางเร้นกายหายไปเสียในทันที ไม่เช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่าเรารู้มีหรือหลงถานพ่อลูกจะไม่รู้ เมื่อถึงเวลานั้นเกรงว่า จะไม่อาจช่วยนางได้”คนสนิท ประสานมือจากไป เหอผิงฉีปิงถอนหายใจยาวตำหนักบูรพา“บัดซบ”ฝ่ามือบางของ ไป๋อี้ชิงฟาดลงบนใบหน้าของหมิงยู๋“ไท่จือเฟยโปรดประทานอภัยด้วย หมิงยู๋ทำดีที่สุดแล้ว”“ข้าให้เจ้ากลับไ’xที่นั่นฆ่านางกับลูกเสีย”หมิงยู๋ตะลึงจังงัง“ฆ่านางเสียหรือจะปล่อยให้ทุกอย่างรู้ไปถึงหูไท่จือ เมื่อนั้นก็ไม่อาจหลีกหนีความผิดไปได้ ทั้งเจ้าและข้าจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่อาจคาดเดา”“แต่..ไท่จือเฟย”“จะยอมตายเพื่อนางหรือไร ให้เจ้าเลือกเอาหรือว่าจะรักษาชีวิตฮูหยินของเจ้ากับเลือดเนื้อเชื้อไขข
“โอ๋โอ๋โอ๋ ฟาหลางตัวน้อยอย่าร้องโยเย” ฟาหยางเห่กล่อมร่างกระจ้อยในอ้อมแขน ไป๋อี้ชิงนอนมองภาพนั้นดวงหัวใจเปี่ยมสุข“โอะโอะ ดูสิไป๋อี้ชิง เจ้าตัวน้อยยิ้มให้ข้าด้วย”“ไท่จือลูกเพิ่งอายุได้สามวันเช่นไรจึงยิ้มได้”“น่า... ข้าเห็นได้ชัดว่าเขายิ้มให้ข้า”“องค์ชายใหญ่ ฟาหนานเสด็จๆๆๆๆ ”“ไท่จือวันๆ ไม่ไปไหน คลุกอยู่แต่ในตำหนักเห็นได้ชัดว่าเป็นบิดาที่ดีเสียจริง”พูดยิ้มๆ“พี่ใหญ่ท่านมีเรื่องเร่งด่วนใด ความจริงให้ใครแจ้งข้าข้าจะเร่ง ไปพบ”“แค่แวะเวียนมาดูหน้าหลานและอยากมาดื่มชาที่ตำหนักบูรพา เบื่อชารสเดิมๆ ที่ตำหนักเฉียนเปียนเหลือทนแล้ว”ฟาหยางส่งร่างกระจ้อยให้กับฟาหนาน“หืมมม หล่อเหลาเหมือนเจ้าไม่ผิดอีกทั้งยังมีแววตา น่าเอ็นดูเหมือนใครกันนะ เหมือนข้าเคยเห็นสายตานี้”ไป๋อี้ชิงหุบยิ้ม“ เหมือนไท่จือเฟย แววตาของเขาเหมือนไป๋อี้ชิงที่สุด”ฟาหยางรีบพูดขึ้น“น่าจะจริง ไปเถอะข้าอยากดื่มชาเต็มทนแล้ว”ฟาหนานเดินนำฟาหยางออกไปด้านนอกศาลาริมน้ำ“พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านต้องมีเรื่องเร่งด่วน”“ไท่จือ ยาที่ไท่จือส่งมอบให้ข้าโดยแสร้งว่าถูกวางยา แล้วเกิดอาการปวดท้องเหมือนทุกคนข้างกายใต้เท้าหลงถานกับไท่จือเฟยบัดนี้ข้าลอง