Home / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 383 กระตุ้นความอยากเอาชนะได้สำเร็จ

Share

บทที่ 383 กระตุ้นความอยากเอาชนะได้สำเร็จ

Author: โม่เชียนซาง
เขาอยากรู้ว่าฉินเซียงหรูดูผิดหรือไม่ คนคนนั้นใช่ท่านหญิงหมิงหยางจริงหรือเปล่า

แต่ทันทีที่เย่เทียนซูลุกขึ้น ก็ถูกฉินเซียงหรูขวางทางไว้

ฉินเซียงหรูส่ายหน้าเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้เขานั่งลง

เย่เทียนซูขมวดคิ้วถาม “เป็นอะไร?”

ฉินเซียงหรูจิบชาพลางพูดว่า “มุมตะวันออกเฉียงใต้ มุมตะวันตกเฉียงเหนือของชั้นสอง มุมตะวันตกเฉียงใต้ มุมตะวันออกเฉียงเหนือของชั้นสาม และมุมทั้งสี่ของชั้นสี่ ล้วนมีผู้มีฝีมืออยู่”

ผู้มีฝีมือ?

เย่เทียนซูและอวี๋เฟยเหยียนรีบเงยหน้าขึ้นมอง

ฉินเซียงหรูรีบพูด “อย่าจ้องมองพวกเขา นั่งอยู่ในห้องโถงชั้นหนึ่ง เจ้าไม่กินอะไร ไม่ฟังเพลงดูงิ้ว แต่กลับดูการวางกำลังของพวกเขา นี่เป็นการบอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่าพวกเรามีจุดประสงค์แอบแฝง”

เย่เทียนซูพยักหน้า “มีเหตุผล สถานเริงรมย์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมีผู้มีฝีมือมากมายขนาดนี้ หอวสันต์อนันตกาลแห่งนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่”

อวี๋เฟยเหยียนลดเสียงลง “จะเป็นเหมือนหอหงซิ่วของเจ้าหรือไม่ สถานเริงรมย์เป็นเพียงภาพลักษณ์ ภายนอก แต่จริง ๆ แล้วมีจุดประสงค์อื่น?”

เย่เทียนซูบอกไม่ได้ ทำได้เพียงส่ายหน้าเล็กน้อย แสดงว่าเขาไม่รู้

ฉินเซียงหรูวางถ้วยชาลง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 384 กลายเป็นเขาไปได้

    เย่เทียนซูเลิกคิ้ว “เชื่อข้าเถอะ คนยิ่งทำเรื่องชั่วเท่าไหร่ ยิ่งกลัวตายเท่านั้น!”อวี๋เฟยเหยียนก็อยากรู้อย่างมาก จึงถือไม้ขีดไฟไปยังร้านขายของชำที่อยู่ไม่ไกลนักเมื่อเย่เทียนซูเห็นดังนั้น ก็รีบกลับไปที่หอหงซิ่วเพื่อหาคนเมื่อเย่เทียนซูพาคนออกมา ร้านขายของชำก็ควันโขมงพอดีเย่เทียนซูรีบพาคนตะโกน “หนีเร็ว ไฟไหม้แล้ว ร้านชำไฟไหม้ ทุกคนหนีเร็ว!”ร้านค้าตามถนนเหล่านี้มักจะอยู่ติดกันเมื่อร้านหนึ่งไฟไหม้ มักจะลามไปยังร้านข้างเคียงตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ร้านอื่น ๆ ปิดร้านพักผ่อนกันหมดแล้วมีเพียงหอวสันต์อนันตกาลที่คึกคักเป็นพิเศษเมื่อได้ยินคนตะโกนว่าไฟไหม้ ลูกค้าข้างในก็สูดจมูกดมกลิ่นโดยไม่รู้ตัวเป็นอย่างที่คิด พวกเขาได้กลิ่นควันไฟลอยมาทุกคนตกใจในทันที รีบวิ่งออกไปข้างนอกผู้จัดการร้านหลงหยางเมื่อได้ยินเสียงตะโกนก็กังวล รีบสั่ง “พวกเจ้าออกไปดูว่าเกิดไฟไหม้ที่ไหน แล้วไปช่วยดับไฟเสีย ที่เหลือขึ้นไปแจ้งให้ทุกคนออกไปหลบภัย!”ข้าวของไหม้เป็นเรื่องเล็กหากมีคนตาย นั่นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่!หลงหยางยังแยกแยะเรื่องสำคัญออกลูกน้องของเขารีบทำตามคำสั่ง รีบขึ้นไปเคาะประตูในขณะเดียวก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 385 สามสิบเหมือนหมาป่า สี่สิบเหมือนเสือ

    ฉินเซียงหรูพยักหน้า “ไม่มีทางมองดูผิดแน่นอน ท่าทางของคนทั้งสอง...อืม...”“อืม? อืมหมายความว่าอะไร?” อวี๋เฟยเหยียนถามต่อเย่เทียนซูพูดแทรก “เจ้าโง่หรือ การกระทำของคนทั้งสองดูสนิทสนมกัน เห็นก็รู้ว่าคบชู้สู่ชาย ไร้ศีลธรรม ท่านหมอฉินเป็นคนดี จึงไม่อยากกล่าวให้กระดากปาก”“ใคร? ใครคบชู้สู่ชาย? ใครไม่มีศีลธรรม?” เยี่ยนเว่ยฉือวิ่งออกมาจากห้องโถงด้านหน้า มองทั้งสามคนอย่างสนใจ“เอ่อ...พี่สะใภ้ เหตุใดเจ้ายังไม่นอนอีก?” อวี๋เฟยเหยียนคิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือพักผ่อนแล้วก่อนที่เยี่ยนเว่ยฉือจะได้ตอบ ซ่างกวนซีก็เดินออกมาจากห้องโถงด้านหน้า “นางรู้ว่าพวกเจ้าไปที่หอวสันต์อนันตกาล เซ้าซี้ข้าไม่ยอมนอน ต้องรอพวกเจ้ากลับมาให้ได้!”เซ้าซี้?สายตาของทั้งสามคนมองไปมาระหว่างเยี่ยนเว่ยฉือและซ่างกวนซีจากนั้นก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างครุ่นคิดบางอย่างเยี่ยนเว่ยฉือไม่มีอารมณ์ไปสนใจความคิดซุบซิบนินทาของพวกเขา นางอยากรู้คำตอบอย่างยิ่ง“พูดมาสิ พวกท่านไปเห็นใครมา?”ฉินเซียงหรูยิ้ม “เห็นท่านหญิงหมิงหยาง และลู่อู๋จากศาลาจิ่วโยว”เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาอย่างตกตะลึง “พวกเขาสองคนไปทำอะไรที่หอวสันต์อนันตกาลกัน?”อวี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 386 ตีตรงที่เนื้อเยอะ ๆ

    ในห้องนั้น ชายชาตรีอีกสามคนเห็นภาพนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง หัวเราะเบา ๆเพราะสีหน้าจนปัญญาของซ่างกวนซีนั้นหายากยิ่งนักเมื่อเห็นซ่างกวนซีหน้าแดงด้วยความอายและไล่ตามเยี่ยนเว่ยฉืออีกครั้ง ฉินเซียงหรูจึงกล่าวอย่างมีไหวพริบว่า "โอ๊ย ข้าหิวเหลือเกิน ไปในครัวดูสักหน่อยว่ามีของว่างให้กินหรือไม่"เย่เทียนซูยังดึงอวี๋เฟยเหยียนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปด้วยกัน พลางพูดว่า "ไป ๆ ไปให้จางมามาทำบะหมี่ให้พวกเรากินสักชาม!"เมื่อในห้องเหลือเพียงสองสามีภรรยา ซ่างกวนซีก็ตวาดเสียงดังว่า "เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ!"เยี่ยนเว่ยฉือหยุดฝีเท้าลง ทำหน้าเศร้าสร้อยมองไปที่ซ่างกวนซี "ฝ่าบาท ท่านตีหัวข้าบ่อย ๆ ไม่ได้นะ มันจะทำให้ข้าโง่ ท่านดูคนอื่นตีเด็กสิ เขาจะเลือกตีตรงที่เนื้อเยอะ ๆ กันทั้งนั้น มีที่ไหนเอาแต่ตีหัวอย่างเดียวเล่า!"ตรงที่เนื้อเยอะ ๆ งั้นหรือ?สายตาของซ่างกวนซีเหลือบมองไปที่หน้าอกของเยี่ยนเว่ยฉืออย่างไม่รู้ตัวคิดดูแล้วก็ไม่เหมาะ จึงเลื่อนไปที่ก้นของนางแทนเยี่ยนเว่ยฉือเองก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสายตาของซ่างกวนซีที่มองมา นางก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที"ฝ่าบาท! ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 387 ไม่ฝึกวรยุทธ์ ไม่ฝึกทหาร เหลือแต่ความรัก

    เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือปรนนิบัติซ่างกวนซีจนเชื่อฟังอย่างดี ชายหนุ่มทั้งสามนอกลานเรือนก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจอวี๋เฟยเหยียนถอนหายใจ "ศิษย์พี่ใหญ่เมื่อก่อนไม่เคยนอนเร็วขนาดนี้ เขาแทบจะฝังตัวเองอยู่กับงานราชการ ทำงานทั้งวันทั้งคืน"เย่เทียนซูก็ถอนหายใจเช่นกัน "ศิษย์พี่ใหญ่เมื่อก่อนไม่ฝึกวรยุทธ์ก็ฝึกทหาร ตอนนี้...เหลือแต่ความรักแล้ว"ฉินเซียงหรูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "แบบนี้ก็ดีมิใช่หรือ? องค์รัชทายาทในอดีตประหนึ่งไม่ใช่คนจริง ๆ ราวกับนักพรตที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเขาดูเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อแล้ว"ทั้งสามคนมองหน้ากัน เย่เทียนซูเป็นคนแรกที่เอ่ยคำถามที่ทุกคนอยากรู้ "ศิษย์พี่ใหญ่กับแม่นางน้อยผู้นั้น...นอนด้วยกันหรือยัง?"อวี๋เฟยเหยียนทำเสียงจิ๊จ๊ะ "จุ๊ ๆ เจ้าโง่หรือ พวกเขานอนร่วมเตียงเดียวกันมาตั้งหลายวันแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ใช่หลิ่วเซี่ยฮุ่ย[footnoteRef:0] จะนั่งเฉย ๆ ไม่ทำอะไรได้อย่างไร" [0: หลิ่วเซี่ยฮุ่ย เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์จีนที่มีชื่อเสียงในด้านความซื่อสัตย์สุจริต แม้จะมีหญิงงามมานั่งบนตัก เขาก็ไม่ล่วงเกิน] เย่เทียนซูขมวดคิ้ว "จริงหรือ? เหตุใดข้าถึงรู้สึ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 388 พวกเจ้าคนโบราณนี่นะ!

    เยี่ยนเว่ยฉือให้คะแนนความสามารถทางการแพทย์ของฉินเซียงหรูเพิ่มขึ้นอีกเขาไม่ใช่เพียงหมอเทวดา แต่ยังเป็นหมอพิษด้วย!ฉินเซียงหรูยิ้มบาง ๆ "ข้าชอบศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพร ดังนั้นเมื่อได้พบก็จะเก็บติดตัวไว้บ้าง เพียงแต่ตำรับยาของแม่นางเยี่ยน ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ในนั้นใส่ยาพิษถึงสี่อย่าง เช่นนี้เพื่อสิ่งใดหรือ?"เยี่ยนเว่ยฉือยิ้มตาหยี "ท่านหมอฉิน เคยไปงานเต้นรำหรือไม่?""งานเต้นรำ? หมายความว่าอย่างไร?" ฉินเซียงหรูยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจเยี่ยนเว่ยฉือพูดอย่างลึกลับ "คืนนี้ไปที่หอวสันต์อนันตกาลเถอะ แล้วท่านจะได้เปิดหูเปิดตา ฮ่า ๆ!"เยี่ยนเว่ยฉือพูดจบก็กระโดดโลดเต้นจากไป ทิ้งให้ฉินเซียงหรูยืนส่ายหน้าหัวเราะเบา ๆ อย่างจนใจตลอดทั้งวัน เยี่ยนเว่ยฉือไม่ได้ก้าวเท้าออกจากเรือนรั่วชูไปแม้แต่ก้าวเดียวแม้แต่มื้อกลางวันและมื้อเย็น ซ่างกวนซีก็ยังไม่ได้เห็นนางหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกลับห้องพักผ่อนในที่สุดเยี่ยนเว่ยฉือก็วิ่งมาที่ห้องโถง นางเอ่ยปากว่า "ฝ่าบาท ฝ่าบาท พวกเราไปที่หอวสันต์อนันตกาลกันเถอะ"ซ่างกวนซีมองไปที่มือของนาง ไม่มีพันผ้าพันแผลแล้วเขาหันไปถามฉินเซียงหรู "นา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 389 อวี๋เฟยเยี่ยนจะไปเปิดหูเปิดตาที่ชั้นสี่

    หลังจากทุกคนนั่งลง อวี๋เฟยเยี่ยนก็หัวเราะ "ครั้งที่แล้วรีบไปหน่อย ลืมจ่ายค่าสุรา วันนี้ข้าขอจ่ายให้พร้อมกันไปเลย ข้าไม่ต้องการติดค้างเงินผู้ใด"หลงหยางยิ้มตอบ "คุณชายกล่าวเกินไปแล้ว พวกท่านมาอุดหนุนร้านของข้า ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว ครั้งที่แล้วเป็นเรื่องสุดวิสัย ไม่โทษคุณชายทั้งหลาย ถือว่าร้านเลี้ยงพวกท่านก็แล้วกัน คุณชายอย่าได้ใส่ใจ!"เย่เทียนซูหัวเราะเสียงดัง "ฮ่า ๆ ๆ เจ้านี่ช่างใจกว้างเสียจริง แต่วันนี้พวกเราไม่ได้มาเพียงร่ำสุราเท่านั้น"เย่เทียนซูชี้ไปที่ฉินเซียงหรู แล้วกล่าวต่อ "พวกเราสองคนจะไปที่ชั้นสอง สัมผัสความสุขของการหาเพื่อนรู้ใจที่ซ่อนอยู่ในความเงียบสงบ"เย่เทียนซูชี้ไปที่อวี๋เฟยเยี่ยน แล้วพูดว่า "ส่วนคุณชายท่านนี้จะไปที่ชั้นสี่ เพื่อสัมผัสกับบริการพิเศษของที่นี่"ชั้นสี่?นั่นไม่ใช่ที่ที่บุรุษปรนนิบัติบุรุษด้วยกันหรอกหรือ?อวี๋เฟยเยี่ยนเบิกตากว้าง กำลังจะโต้แย้ง ทว่าเย่เทียนซูรีบพูดว่า "ส่วนสองท่านนี้ แค่อยากหาที่เงียบ ๆ เพื่อสนทนา!"เย่เทียนซูลูบที่ติ่งหูของตนเอง ยิ้มอย่างมีความหมายหลงหยางเป็นคนแบบไหนกัน เขาต้อนรับแขกทุกวัน เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมากเขาเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 390 ห้องเตียงใหญ่ชวนตะลึง

    ยิ่งไปกว่านั้น ทางเดินยังมืดสนิท ไม่มีแม้แต่โคมไฟสักดวงซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือไว้แน่น ร่างกายของเขาแผ่กลิ่นอายระวังภัยออกมาหลงหยางเห็นดังนั้นจึงนำผ้าแพรยาวออกมา สองปลายยื่นให้กับซ่างกวนซีและเยี่ยนเว่ยฉือ แล้วอธิบายว่า "ท่านทั้งสองอย่าเข้าใจผิด แขกที่มาหาความสุขที่นี่ ล้วนเป็นคนมีหน้ามีตา ยิ่งมีฐานะสูงส่ง ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ดังนั้นเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของทุกท่าน การมองเห็นให้น้อยที่สุดจึงเป็นเรื่องดีที่สุด ท่านวางใจได้ เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว แสงไฟย่อมสว่างไสวแน่นอน!"ซ่างกวนซีตอบกลับอย่างเฉยเมย "ดี!"หลงหยางยิ้ม ดึงตรงกลางผ้าแพรยาว นำทางทั้งสองคนเข้าไปข้างในเยี่ยนเว่ยฉือพบว่า ในที่ที่มืดมิดเหมือนกัน หลงหยางกลับเดินได้อย่างราบรื่น เลี้ยวซ้ายขวาอย่างคล่องแคล่ว โดยไม่มีการสะดุดแม้แต่น้อยหลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หลงหยางก็หยุดฝีเท้าลงและเปิดประตูบานหนึ่งเยี่ยนเว่ยฉือและซ่างกวนซีก็ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งในห้องสว่างมาก...สว่างจนน่าตกตะลึง!ผ้าไหมสีแดง เก้าอี้หวาย แท่นร่วมรักกระดิ่ง แท่งหยก ห่วงขอบตาแพะเตียงใหญ่กว้างขวาง อ่างอาบน้ำคู่ และเทียน

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 391 เจ้ารู้มากเสียจริง

    เยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในทันทีให้ตายสิ ไม่เคยกินหมู ต้องไม่เคยเห็นหมูวิ่งด้วยหรือไร นางรู้แน่นอนอยู่แล้ว แต่จะอธิบายได้อย่างไรล่ะว่านางรู้มาจากไหน?"ไม่… ไม่รู้จัก! ข้าแค่รู้สึกว่า...รู้สึกว่าที่นี่มันไม่สะอาดน่ะ!" เยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าไป ไม่กล้ามองซ่างกวนซีเพราะรู้สึกผิดซ่างกวนซีเดินเข้าไปใกล้ ถามต่อ "อ้อ? อย่างนั้นหรือ? ไม่รู้จัก แล้วรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนี้ใช้ทำอะไร ไม่ได้มีไว้ดูเล่นหรือ?""ข้า… ข้าเดาเอาน่ะ!" เยี่ยนเว่ยฉือถอยหลังไปเรื่อย ๆซ่างกวนซียิ้มอย่างเย็นชา พุ่งเข้าไปประชิดตัวเยี่ยนเว่ยฉืออย่างไม่ทันตั้งตัว จับเอวของนางไว้เยี่ยนเว่ยฉือร้องอุทานอย่างตกใจ "ฝ่าบาท! ฝ่าบาทจะทำอะไร!""ไม่ทำอะไร!" ซ่างกวนซีใช้มือข้างหนึ่งจับเอวของเยี่ยนเว่ยฉือไว้ ไม่ให้นางหนีไป มืออีกข้างหยิบแท่งหยกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วพูดต่อ "ข้าดูของในห้องนี้แล้วรู้สึกแปลกใหม่มาก อยากจะหารือกับเจ้าสักหน่อย มา เรามาทายกันดูว่านี่ใช้ทำอะไร?"ซ่างกวนซีนำสิ่งของนั้นเข้าไปใกล้เยี่ยนเว่ยฉือ เยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า "ฝ่าบาท ท่าน… ท่านอย่าแตะต้องข

Pinakabagong kabanata

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status