Beranda / รักโบราณ / ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท / บทที่ 290 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

Share

บทที่ 290 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

Penulis: โม่เชียนซาง
ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือที่ยิ้มแย้ม

รู้สึกว่านางคงไม่ได้คิดเรียบง่ายเช่นนั้น

ดูเผิน ๆ แล้ว นางเพียงต้องการผงดินนี้เพื่อระลึกถึงมารดาผู้ล่วงลับ

ทว่าดวงตาคู่โตที่แสนฉลาด กลับเผยความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกมา

เช่นเดียวกับเวลานี้

นางกำลังใช้เล่ห์กลกับเขา

จงใจเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังอย่างละเอียด ไม่ใช่เพราะต้องการให้เขาสงสัยเรื่องราวในอดีต และสนใจผงดินดำนี้หรอกหรือ?

ชัดเจนว่าต้องการใช้เขาเพื่อสืบคดี แต่กลับไม่ยอมเอ่ยคำ “ขอร้อง”

กลับจูงใจ ล่อลวง หลอกล่อ และดึงดูดให้เขาสนใจ

เด็กสาวที่ดูโง่งม แท้จริงแล้วกลับเจ้าเล่ห์เพทุบาย มีจิตใจล้ำลึก

“หึ!” ซ่างกวนซีหัวเราะเบา ๆ ในเสียงหัวเราะมีคำเยาะเย้ยที่เยี่ยนเว่ยฉือฟังไม่ออก และ...ความยินดี?

ใช่แล้ว เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าซ่างกวนซีซึ่งยิ้มอย่างเย็นชา แต่ดูยิ้มอย่างมีความสุข?

แน่นอนว่าซ่างกวนซีมีความสุข เยี่ยนเว่ยฉือมีปัญญาใช้เล่ห์กลกับเขา แสดงว่านางฉลาดมากพอ

ใครบ้างจะไม่ชอบชายาผู้เฉลียวฉลาด?

ซ่างกวนซีเก็บของ กล่าวสั่ง “เก็บของให้เรียบร้อย ให้นางกำนัลเข้ามาแต่งตัวให้เจ้า ประเดี๋ยวตามข้าเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยง”

เยี่ยนเว่ยฉือนึกขึ้นได้ วันนี้ฮ่องเต
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 291 ท่านหญิงอิ๋นตั้ง?

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของนางทำให้ซ่างกวนซีหันมามอง “หัวเราะอะไร?”เยี่ยนเว่ยฉือส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ข้ากำลังคิดว่าเหตุใดนางจึงได้ชื่อว่าท่านหญิงอิ๋นตั้ง? นางยังไม่ได้ออกเรือนไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงอิ๋นตั้ง? อีกทั้งอิ๋นตั้งก็ไม่ใช่คำเรียกที่ดี[footnoteRef:0]!” [0: อิ๋นตั้ง แปลว่าตัณหา ออกเสียงคล้ายกับอิ๋นตาง ] ซ่างกวนซีเอามือกุมขมับอย่างจนใจ“ไม่ใช่อิ๋นตั้ง แต่เป็นอิ๋นตาง! ‘ปิ่นปักดวงใจ ต่างหูประดับดาว’ อิ๋นตางหมายถึงต่างหูเงิน เปรียบเสมือนขั้นตอนสุดท้ายที่แต่งแต้มความงามของสตรี นี่เป็นชื่อพระราชทานจากเสด็จพ่อ เพื่อสรรเสริญหานอวี่เฟยว่าเป็นวีรสตรี เป็นบุคคลที่โดดเด่น! เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”ซ่างกวนซียกมือเคาะหน้าผากของเยี่ยนเว่ยฉือ“โอ๊ย! ฝ่าบาท... ไม่รู้ก็ยังถูกตีหรือ?” เยี่ยนเว่ยฉือลูบหน้าผาก รู้สึกอายอยู่บ้างซ่างกวนซีมองนางด้วยหางตา “ไม่รู้ไม่ถูกตี แต่พูดจาเหลวไหลจึงต้องถูกตี เเจ้าลองดูสิว่าขุนนางทั้งราชสำนักนี่มีสักกี่คนที่อยากจะจับผิดจวนรัชทายาท แต่หาเรื่องไม่ได้ เจ้ายังจะส่งพวกเขาไปจ่อหน้าประตูจวนอีกหรือ?”“โอ้… ทราบแล้ว!” เยี่ยนเว่ยฉือแม้จะปากไม่มีหูรูด แต่ก็เชื่อฟัง ยอมรับผิดท

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 292 ขนมพอสมน้ำยา

    ซ่างกวนซีและอวี๋เฟยเหยียนหันไปมองซ่างกวนจิ่นพร้อมกัน พบว่าเครื่องแต่งกายของเขาไม่เหมาะสมกับฤดูกาลนี้จริง ๆซ่างกวนซีขมวดคิ้วกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาในเมืองหลวงจะไม่ราบรื่นนัก คงถูกเจ้ารองและเจ้าสี่รังแกแน่”อวี๋เฟยเหยียนกล่าวด้วยความรู้สึกสะท้อนใจว่า “โชคดีที่ฝ่าบาททรงมีพระปรีชาญาณส่งศิษย์พี่ใหญ่ไปประจำการที่เขตเฟิงหลิง มิฉะนั้น บัดนี้ศิษย์พี่ใหญ่คงต้องใช้ชีวิตเยี่ยงองค์ชายสาม ทั้งหวาดหวั่นและขัดสน”ซ่างกวนซีหัวเราะอย่างขมขื่นว่า “หากข้าไม่จากไป คงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ได้หรอก แล้วจะถูกใครังแกได้อย่างไร”ถ้อยคำนี้ทำให้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยเยี่ยนเว่ยฉือกัดขนมในมืออย่างแรงราวกับว่ากัดเนื้อซ่างกวนหลีได้ขณะที่ทั้งสามกำลังพูดถึงซ่างกวนหลี ซ่างกวนหลีก็เดินเข้ามาพร้อมกับซ่างกวนเจวี๋ยและข้างกายซ่างกวนหลีก็มีเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดย่างสิบสองปีอยู่ด้วยเยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความสงสัยว่า “เด็กหญิงคนนั้นเป็นใคร”อวี๋เฟยเหยียนรีบกล่าวว่า “นั่นคือองค์หญิงเหวินหลิง พระธิดาของฮองเฮา เจ้าต้องอยู่ห่าง ๆ นางไว้นะ”เยี่ยนเว่ยฉือกะพริบตาถามว่า “เหตุใดหรือ?”อวี๋เฟยเหยียนบ่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 293 เด็กต้องอบรม

    “เจ้าพูดอะไรบ้า ๆ องค์รัชทายาทเขา...” อวี๋เฟยเหยียนกำลังจะพูดเพื่อแก้ต่างให้ซ่างกวนซี แต่ถูกเยี่ยนเว่ยฉือจับแขนไว้เยี่ยนเว่ยฉือแทรกขึ้นว่า “องค์ชายรอง มีคำกล่าวว่าต้นไม้เล็กต้องตัด เด็กต้องได้รับการอบรม องค์หญิงเหวินหลิงเห็นหม่อมฉัน หนึ่งไม่คำนับ สองไม่ทักทาย แม้แต่คำว่าพี่สะใภ้ก็ไม่เรียก องค์รัชทายาทตำหนินางสักสองคำมีอะไรไม่ควรหรือ? หากอยู่ในบ้าน จะทำอะไรน่าอายก็ช่าง วันนี้มีคณะทูตจากต่างแคว้นมาเยือน นางยังไม่รู้จักมารยาท เหมือนไม่ได้รับการอบรม ใช้ความหยาบช้าเป็นข้ออ้างว่าไร้เดียงสา นี่ไม่ใช่การทำให้แคว้นเราเสียหน้าหรอกหรือ?”พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือหันไปมององค์หญิงเหวินหลิง กล่าวเสียงเย็นว่า “องค์หญิงของบ้างเมืองเราควรมีความรอบคอบ รู้จักการถ่อมตน เข้าใจมารยาท เคารพผู้ใหญ่ ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง เย่อหยิ่ง พูดจาหยาบคายประหนึ่งผู้ไร้การศึกษาเช่นนี้!”องค์หญิงเหวินหลิงไม่เคยถูกใครด่าแบบนี้มาก่อน ถึงกับอึ้งไปเลย!เพราะนางยังเด็ก จึงไม่อาจระงับอารมณ์ไว้ได้!“เจ้า! เจ้าด่าใคร เจ้าด่าใครว่าไร้การศึกษา ใครก็ได้ ใครก็ได้ ตบปากนางให้ข้า!”เยี่ยนเว่ยฉือหัวเราะ หันไปมองผู้คนรอบข้างว่า “ทุกคนเห็นแ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 294 พบคนด่าคน พบผีด่าผี

    การกระทำเช่นนี้ ทำให้ทุกคนตะลึงงันในทันทีแม้แต่อวี๋เฟยเหยียนผู้มักทำตามอำเภอใจก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างเขาเข้าไปใกล้ซ่างกวนซี พึมพำว่า “เอ่อ... นี่ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?”ซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย เป็นเชิงบอกให้เขาอย่ายุ่งซ่างกวนหลีเอื้อมมือไปพยุงน้องสาวของตนขึ้นซ่างกวนเจวี๋ยที่อยู่ไม่ไกลก็วิ่งมาดูซ่างกวนเจวี๋ยขมวดคิ้ว “เยี่ยนเว่ยฉือ เจ้าทำเกินไปแล้ว นางเป็นเพียงเด็ก เจ้าจะถือสาหาความกับนางด้วยเหตุใด?”เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวเสียงเย็นชา “เคารพผู้ใหญ่ถนอมเด็ก คำว่าเคารพอยู่ข้างหน้า นางไม่ได้เคารพองค์รัชทายาทและหม่อมฉันแม้แต่น้อย หม่อมฉันสั่งสอนนางบ้าง ไม่ใช่การถือสาหาความ แต่เป็นการสั่งสอน!”กล่าวจบ เยี่ยนเว่ยฉือมองไปยังองค์หญิงเหวินหลิงที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร กล่าวต่อ “เอาล่ะ ขอโทษองค์รัชทายาทเสีย แล้วเรื่องวันนี้จะจบลงเพียงเท่านี้!”“อะไรกัน? ยังต้องขอโทษอีกหรือ?” ซ่างกวนหลีทำสีหน้าเหลือเชื่อ“ไม่เช่นนั้นเล่า ใส่ร้ายป้ายสี ว่าร้ายพี่ชาย ไม่ต้องขอโทษหรือ?”“แต่เจ้าก็ตีนางแล้วนี่!” ซ่างกวนหลีไม่ยอมเยี่ยนเว่ยฉือผายมือออก “หม่อมฉันตีนางก็เพื่อให้นางขอโทษอย่างไรเล่า!”ก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 295 เจ้ากล้าวางยาพิษงั้นหรือ

    ต่อมาไม่ลืมที่จะสั่งนางกำนัลข้างกายว่า “ไปเร็ว เปลี่ยนโต๊ะอาหารนี้ให้ข้า”นางกำนัลไม่กล้าขัดคำสั่งพระชายาองค์รัชทายาท รีบเปลี่ยนภาชนะและเครื่องใช้บนโต๊ะของเยี่ยนเว่ยฉือและซ่างกวนซีเป็นชุดใหม่ทุกคนจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉือ เห็นว่านางไม่ก้าวร้าวอีกแล้ว นั่งลงอย่างสงบ ต่างคิดว่าเรื่องนี้คงจบลงด้วยดีแต่ขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องวุ่นวายนี้จะจบลงแล้ว องค์หญิงเหวินหลิงก็ร้องออกมาว่า “กรี๊ด! คัน คันจัง!”ทุกคนหันไปมอง เห็นว่าใบหน้าขององค์หญิงเหวินหลิงมีผื่นแดงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนางเกา ผื่นแดงก็กลายเป็นตุ่มแดง ๆ ราวกับถูกยุงกัดเต็มใบหน้า“เกิดอะไรขึ้น? เหวินหลิง เหวินหลิง? เป็นอะไรไป?” ซ่างกวนหลีดูวิตกกังวลมากองค์หญิงเหวินหลิงใช้มือเกาหน้า เพียงไม่กี่ครั้ง ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยแดง บางแห่งถึงกับถลอกซ่างกวนหลีเห็นดังนั้นจึงรีบกล่าวว่า “ห้ามเกา ห้ามเกาเด็ดขาด จะเสียโฉมนะ ไปเถอะ ไปตามหมอหลวงมา เร็วเข้า”ขณะที่กำลังตามหมอหลวง ซ่างกวนซี อวี๋เฟยเหยียนและฉินเซียงหรู ต่างหันไปมองเยี่ยนเว่ยฉือแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับสงบนิ่ง จิบชาอย่างใจเย็น“อืม... ชาหอมจัง หอมจริง ๆ! ฝ่าบาท ไม่ลองชิมดูบ้างหรือ?”

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 296 ช่างบังเอิญเสียนี่กระไร

    เริ่มตรวจสอบจากฝ่ายในงั้นหรือ?ฮองเฮาดูแลกิจการทั้งปวงในพระราชวังหลังงานเลี้ยงรับเสด็จก็ย่อมต้องเป็นฮองเฮาที่จัดเตรียม หากเริ่มตรวจสอบจากฝ่ายใน ก็เท่ากับเริ่มตรวจสอบจากฮองเฮามิใช่หรือ?เยี่ยนเว่ยฉือเอียงกายเล็กน้อย มองข้ามร่างของซ่างกวนหลีไปยังองค์หญิงเหวินหลิงที่ยังคงเกาใบหน้าไม่หยุดอยู่ด้านหลังเขานางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “องค์หญิงมีบุญหนักหนา เพิ่งจะติเตียนว่าองค์รัชทายาทของเรางดงามล่มเมืองได้ไม่ทันไร สวรรค์ก็หาทางประทานใบหน้าอัปลักษณ์ให้นาง เพื่อมิให้ต้องถูกความงามฉุดรั้ง หากวันหน้ายังมีผู้ใดชื่นชอบนาง ผู้นั้นก็คงต้องหลงใหลในจิตวิญญาณอันน่าสนใจของนางเป็นแน่ นางก็ไม่ต้องหวาดหวั่นว่าผู้อื่นจะครหาเรื่องใช้โฉมงามล่อลวงใครอีกต่อไป”เยี่ยนเว่ยฉือไม่ไม่กล่าวเช่นนั้นก็แล้วไป แต่นางยิ่งกล่าว ซ่างกวนหลีก็ยิ่งมั่นใจว่านางเป็นผู้ลงมือกระทำในขณะนั้นเอง หมอหลวงตู้จากสำนักหมอหลวงก็มาถึงหมอหลวงตู้รีบเข้าไปตรวจชีพจรแก่องค์หญิงเหวินหลิง แต่เมื่อตรวจไปได้ครู่หนึ่ง คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นซ่างกวนหลีถามอย่างร้อนใจ “ตกลงเป็นอย่างไรกันแน่ ถูกพิษหรือไม่ ท่านรีบว่ามา!”“ถูก...ถูกพิษหรื

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 297 ไม่อาจมองเพียงรูปกายภายนอก

    เยี่ยนเว่ยฉือยกยิ้มเยาะ “ถูกแล้ว ๆ คนผู้นั้นก็เพียงกล่าววาจาเท็จ เช่นเดียวกับที่องค์หญิงเหวินหลิงเพิ่งตรัสออกมา ทุกท่านโปรดอย่าได้เชื่อถือ!”อวี๋เฟยเหยียนเม้มริมฝีปากแอบหัวเราะ กระซิบเสียงเบา “ศิษย์พี่ใหญ่ วิชาหนามยอกเอาหนามบ่งของพี่สะใภ้ ใช่ได้เชี่ยวชาญยิ่งนัก”ซ่างกวนซีก็รู้สึกว่าเยี่ยนเว่ยฉือมีปฏิภาณไหวพริบที่ว่องไวยิ่งนักส่วนฉินเซียงหรูที่อยู่ด้านข้าง กลับใคร่รู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือได้กระทำสิ่งใดแก่องค์หญิงเหวินหลิงกันแน่เหตุใดหมอหลวงจากสำนักหมอหลวงจึงไม่อาจมองเห็นสิ่งผิดปกติ?เป็นเพราะวิชาแพทย์ของหมอหลวงผู้นั้นไม่สูงส่งเพียงพอหรือ?เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ หากวิชาแพทย์ไม่สูงส่ง แล้วจะมาเป็นหมอหลวงได้อย่างไรดังนั้น ใช่ว่าวิชาแพทย์ของหมอหลวงไม่สูงส่ง แต่เป็นเพราะวิชาพิษของเยี่ยนเว่ยฉือเหนือชั้นเกินไปหมอหลวงตู้ร้อนรนจนเหงื่อโทรมกาย เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้คังอู่กำลังจะเสด็จพร้อมด้วยเหล่าสนมมาเข้าร่วมงานเลี้ยง เขานึกขึ้นได้จึงกล่าวว่า “หรือว่า จะนำตัวไปที่สำนักหมอหลวงก่อนดีพ่ะย่ะค่ะ?”“นำไปสำนักหมอหลวงด้วยเหตุใด เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? รีบส่งองค์หญิงกลับวังหลังเร็วเข้า!” อ๋องจ่างซิ่นที่

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 298 ควักลูกนัยน์ตานางเสีย

    การทะเลาะเบาะแว้งของสองพ่อลูกนั้นส่งเสียงดังอยู่บ้าง ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยรอบในทันทีเยี่ยนเว่ยฉือมองดูพวกเขาทั้งสองด้วยความสงสัย จากนั้นจึงถามว่า “ฝ่าบาท ดูเหมือนอ๋องจ่างซิ่นจะเกรงกลัวบุตรสาวของตนเองนะ?”ซ่างกวนซีตอบว่า “มิใช่เกรงกลัว แต่หวงแหน อ๋องจ่างซิ่นอายุเกินครึ่งศตวรรษแล้ว มีทั้งภรรยาและอนุภรรยามากมาย แต่กลับมีบุตรสาวเพียงคนเดียว เขาย่อมรักประดุจดวงใจ”เยี่ยนเว่ยฉือพยักหน้า “เป็นเช่นนี้นี่เอง รูปโฉมของท่านหญิงอิ่นตางนั้นดูซื่อๆ แต่แววตาของนางกลับดูหยาบคายยิ่งนัก เอาแต่จ้องมองท่านอยู่ร่ำไป หึ! เหมือนสุนัขป่าที่เห็นซาลาเปาเนื้อ”ซ่างกวนซีจนปัญญา “พูดจาเหลวไหล ข้าจะเป็นซาลาเปาได้อย่างไร?”เยี่ยนเว่ยฉือโผเข้ากอดแขนของซ่างกวนซี พลางยิ้มหวาน “ฝ่าบาทมิใช่ซาลาเปา แต่คือดวงใจของข้า ผู้ใดบังอาจหมายปององค์รัชทายาทของข้า ข้าจะควักลูกนัยน์ตาผู้นั้นเสีย!”ฝ่าบาท…ของ…ข้า?ซ่างกวนซีเม้มริมฝีปาก ในใจรู้สึกยินดีอยู่บ้าง แต่ภายนอกกลับแสร้งทำเป็นสงวนท่าที“พอแล้ว อย่าได้พูดจาเหลวไหล!” ซ่างกวนซีดึงแขนของตนเองกลับ ยกมือขึ้นลูบผมของเยี่ยนเว่ยฉือเบา ๆท่าทางที่แสดงความเอ็นดูนั้นทำให้

Bab terbaru

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 424 จะทำต่อหรือไม่?

    ซ่างกวนซีจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉืออย่างแน่วแน่ เห็นหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะความตื่นเต้น และเห็นว่านางหน้าแดงจนถึงลำคอเพราะความเขินอายเขารู้สึกได้ถึงร่างกายของนางที่สั่นเล็กน้อย และดูเหมือนจะได้กลิ่นหอมที่เย้ายวนจากร่างของนางประตูแห่งร่างกาย เชิญเขาเข้าไปเป็นแขกเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่?ซ่างกวนซีกำมือแน่น อดไม่ได้ที่จะถามตามความต้องการของเยี่ยนเว่ยฉือ "เช่นนั้น... ข้าต้องเคาะประตูอย่างไร?"เยี่ยนเว่ยฉือเงยหน้ามองซ่างกวนซี ดวงตาเผยความขุ่นเคืองเล็กน้อยนี่ต้องให้นางสอนด้วยหรือ?ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้านี้ที่ใต้เตียงในหอวสันต์อนันตกาล เขา... เขาก็ทำได้ดีนี่นาเยี่ยนเว่ยฉือเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ถูกซ่างกวนซีจับคางไว้ซ่างกวนซีจับใบหน้าของนางให้หันกลับมาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็โน้มตัวลง จุมพิตลงไปเยี่ยนเว่ยฉือเบิกตากว้าง ขนตายาวสั่นระริก ราวกับหัวใจของนางที่เต้นรัวอย่างไม่เป็นส่ำหลังจากจูบอย่างแผ่วเบา ซ่างกวนซีก็เงยหน้าขึ้น มองนางอย่างอ่อนโยน "เช่นนี้หรือ?"ฟืด…เยี่ยนเว่ยฉือสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายแทบจะละลายสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นเดี

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 423 ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ แล้วปากเล่า?

    แม้ว่าท่าทางของซ่างกวนซีจะดูดุร้ายแต่เยี่ยนเว่ยฉือกลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเพราะสิ่งที่นางกังวลก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลยซ่างกวนซีไม่ได้ระแวงนาง ไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นปีศาจ และไม่ได้โลภอยากได้กำไลข้อมือของนางเขาแค่กังวลว่านางจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น เพราะของล้ำค่าอาจนำมาซึ่งภัยพิบัติถึงชีวิตเยี่ยนเว่ยฉือมองซ่างกวนซีนิ่งๆ แล้วก็ยิ้มออกมา “ฝ่าบาท ท่านช่างดีเหลือเกินเพคะ!”ซ่างกวนซีชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วเบือนหน้าหนี “พูดจาดี ๆ ก็ไม่ได้ผล ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าใช้ก็คือไม่อนุญาต!”เยี่ยนเว่ยฉือปีนขึ้นไปหาซ่างกวนซีทันที เข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ใช้ต่อหน้าคนอื่น ใช้เฉพาะต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น”การเข้าใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้ซ่างกวนซีเอนหลังโดยไม่รู้ตัว เกือบจะหงายตกจากเตียงเยี่ยนเว่ยฉือเห็นท่าทางลนลานของเขา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คิดในใจว่า ‘ข้ายังนึกว่าเขาเก่งกาจ ที่แท้ก็แค่เสือกระดาษ ฮึ รู้จักแต่ขู่ข้า!’เยี่ยนเว่ยฉือผูกเชือกที่กระโปรงไปด้วย มองเขาอย่างขี้เล่นไปด้วยซ่างกวนซีถูกสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้าหยอกนั้นมองจนรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อยเขาจึงก

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 422 เผยความในใจกันเถอะ

    ซ่างกวนซีซ่างกวนซียื่นมือออกไป ลูบคลำกำไลนั้นเบาๆ แล้วถามต่อ "เจ้าหมายความว่า เจ้าสามารถเก็บของทุกอย่างไว้ในกำไลนี้ได้?"เยี่ยนเว่ยฉือเบะปาก พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ฝ่าบาท ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าจะค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟัง ดีหรือไม่?"ซ่างกวนซีลังเลเล็กน้อย "ปล่อยเจ้าแล้ว เจ้าก็จะพูดจาเหลวไหลอีก!"เยี่ยนเว่ยฉือพองแก้ม "ถ้าข้าพูดโกหก ท่านก็มัดข้าอีกครั้งสิ พูดด้วยท่าทางเช่นนี้... มันน่าอายเกินไป"เยี่ยนเว่ยฉือไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าร่างกายของนางจะหลุดออกมาจากเสื้อตัวในแม้ว่าจะเคยนอนเตียงเดียวกับซ่างกวนซีหลายครั้งแล้ว แต่ในความทรงจำของนาง นางก็สวมเสื้อผ้าครบถ้วน ไม่เคย... ไม่เคยเปิดเผยเรือนร่างต่อเขาซ่างกวนซีเห็นท่าทางน่าสงสารของนางก็อดใจอ่อนไม่ได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็แก้สายรัดเอวที่ข้อมือของเยี่ยนเว่ยฉือออกเยี่ยนเว่ยฉือได้รับอิสระก็รีบดึงสาบเสื้อเข้าหากัน แล้วหลบไปที่มุมเตียงซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแค่นเสียงเด็กสาวคนนี้ ตอนหลับก็ถอดเสื้อผ้าตัวเอง โผเข้าหาอ้อมกอดเขาตอนตื่นกลับระแวดระวัง ป้องกันตัวราวกับจะผลักไสคนให้ออกไปให้ไกลไม่รู้จริง ๆ ว่านางคิดอะไรอ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status