เมิ่งหย่งชวนเดินมาช้อนอุ้มเสิ่นเยี่ยนฟางก่อนจะพาไปห้องอาบน้ำ เขาวางนางลงแล้วตนเองไปหิ้วน้ำร้อนมาผสมเอง เขาจับเสิ่นเยี่ยนฟางเปลื้องผ้าแล้วพานางลงอ่างไม้ ค่อยๆอาบน้ำให้นางอย่างเบามือเสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ สบตากับดวงตาสีน้ำหมึกเคลื่อนตัวเข้าหาเขาแนบริมฝีปากตนเองกับปากหยักได้รูป เมิ่งหย่งชวนรับจุมพตจากนางจูบดูดดื่มจนกระทั่งนางถอนออกเอ่ยกับเขาเสียงหวาน"ท่านพี่ข้าคิดถึงท่าน""เสี่ยวฟางพี่รักเจ้า"เมิ่งหย่งชวนจูบนางอีกครั้ง มือหนาไล้ผิวกายนวลเนียน จมูกโด่งไต่ลงมาตามลำคอระหงจนถึงเนินถัน ปลายถันสีดอกเหมยตั้งชันรอคอยให้เขาครอบครอง เมิ่งหย่งชวนกระซิบเสียงทุ้มต่ำ"คิดถึงเจ้านัก ห้าวันนี้ได้แต่คิดถึง"ริมฝีปากอ้างับปลายถันดูดดุนสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างไม่ให้น้อยหน้า เสิ่นเยี่ยนฟางแอ่นอกสล้างขึ้นหาให้เขาได้ดื่มถนัด"เด็กดี แช่น้ำนานเดี๋ยวจะป่วยเอาไปห้องนอนเราเถอะ กอดคอพี่ไว้นะ"เมิ่งหย่งชวนอุ้มภรรยามาในห้องก่อนจะวางบนเตียง ใช้ผ้าซับน้ำให้นางจนตัวแห้งสายตาที่มองนางมีแต่แววรักใครเสน่หา เมิ่งหย่งชวนก้มลงชิมผลท้อที่เย้ายวนสองลูกจนร่างบางบิดกายเร่าๆด้วยความเสียวซ่านรัญจวน เขาเลื่อนใบหน้าต่ำลงมา ดู
เด็กๆนอนต่อเพราะยังไม่สว่าง เมิ่งหย่งชวนที่นอนกอดเมียเอาไว้ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย"เสี่ยวฟาง เจ้าพักเถอะเรื่องหาเงินไม่ต้องแล้ว พี่ทำเองได้พี่มีเงินอยู่เพียงแต่ไม่อยากเอาออกมาเพราะบ้านใหญ่จะมาวุ่นวายกับพวกเจ้าตอนที่พี่ไม่อยู่""ท่านพี่...ข้าเอ่อ""มีเรื่องไม่สบายใจหรือ""เป็นเมิ่งอี้ วันนี้เขามาที่บ้านอยากมาช่วยจัดการเรื่องบัญชีแต่ข้าไม่ได้ให้เขามาวุ่นวาย เขาเรียกท่านปู่ไปข้ากังวลว่าพวกเขาจะมีแผนไม่ดีเจ้าค่ะ ได้ข่าวว่าเขาคบค้ากับพวกที่มีรสนิยมซื้อขายเด็กๆหน้าตาดีไปเพิ่มพลังหยาง ข้าเป็นห่วงลูกๆ ถึงมิใช่สายเลือดแต่ก็รับเลี้ยงไว้แล้ว อย่างไรพวกเขาเรียกเราว่าท่านพ่อกับท่านแม่""หืม...เรื่องที่เจ้าว่าจริงหรือ""ข้าเองก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง หากเมิ่งอี้ทำเรื่องซื้อขายคนจริงๆเขายังควรเป็นบัณฑิตหรือเจ้าคะ ท่านพี่ฟ้าสางแล้วเราพาลูกๆไปขึ้นทะเบียนราษดีไหมเจ้าคะ หากเขาอ้างสิทธิ์หรือเอาผู้ใดมาแอบอ้างว่าเป็นพ่อแม่เด็กข้ากังวลใจ อีกอย่างได้ข้าวว่ามีคนต้องการอาเล็กไปเป็นอนุ พวกเขาจ่ายเงินเมิ่งอี้มาแล้วถึงแปดร้อยตำลึงเจ้าค่ะ"เรื่องนี้เสี่ยวเย่าเพิ่งบอกกับนางเมื่อคืนตอนที่นางกล่อมเขานอน เมิ่งหย่ง
แม่เฒ่าเมิ่งกับสะใภ้ใหญ่ที่เห็นเมิ่งลู่เจินลงมือก็แหกปากร้องโวยวายออกมาจนชาวบ้านออกมาดู เมิ่งอี้อยากจะไปปิดปากมารดากับท่านย่าของเขาจริงๆ ร้องเรียกคนมาแล้วจะซื้อขายสำเร็จอย่างไรเล่า ชาวบ้านมาถึงก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น"นี่ๆๆเช้าขนาดนี้คนบ้านเจ้าไม่มีงานมีการทำกันหรือไงเกิดอะไรขึ้นอีกเล่า ถือว่าเป็นน้องหัวหน้าหมู่บ้าน ทำอะไรไม่เคยเกรงใจผู้อื่นเลยน่ารังเกียจนัก"เมิ่งหย่งซินเดินขึ้นหน้าเอ่ยกับหนึ่งในนั้น"พวกเขาเมิ่งซานกับเมิ่งอี้ คิดขายข้าเจ้าค่ะท่านปู่สาม""อั๊ยย่ะ อะไรนะซื้อขายคน จุ๊ๆๆเมิ่งซานเจ้าทำเรื่องเช่นนี้จริงหรือ""ข้าจะขายใครจะทำไม ทุกคนก็รู้ว่านางเป็นตัวกาลกิณี ไม่เช่นนั้นเมิ่งจื่อของข้าจะถูกคนทำร้ายหรือ"ชาวบ้านจำเหตุการณ์นี้ได้พวกเขาชี้หน้าสองพ่อลูกทันที"เฮ้อ...เมิ่งซานเจ้ากล่าววาจาเช่นนี้ไม่น่ารังเกียจไปหน่อยหรือ พวกเจ้าอยากขายน้องสาวกับหลานสะใภ้ เมิ่งจื่อเองก็เป็นคนพาพวกเขาไปดูตัวชี้เป้าสุดท้ายตัวเองกรรมตามสนองยังมีหน้ามาโทษคนอื่นอีก""ใช่ๆๆ ป้าหวังพูดถูกพวกเจ้ากรรมตามทันจะโทษใครกัน"ชาวบ้านเริ่มด่าทอเมิ่งซานและแม่เฒ่าเมิง ชายฉกรรจ์ไม่สนใจพวกเขามีหน้าที่แค่มาจับคนก็จับ เม
เมิ่งอี้ลนลานท่านแม่ทัพหรือเมิ่งหย่งชวนคือแม่ทัพหรือ เขารู้เพียงอารองส่งเมิ่งหย่งชวนไปเข้ากองทัพเพื่อให้เขาลืมความเสียใจเรื่องที่มารดาทิ้งไป แต่ตอนที่เขากลับมาก็เพื่อเข้าเรียนและสอบเท่านั้น จะเป็นแม่ทัพได้อย่างไร เมิ่งอี้ลืมตาที่บวมเพราะถูกตบมองหน้าคนด้านบนทันที เขาพยายามพูดออก"แม่ทัพ พี่ใหญ่ทะท่าน พวกเราไม่ๆกล้าอีกแล้ว""ไม่กล้าหรือ หึ นายกองหยวนเอาตัวคนมา"ไม่นานก็มีชายชราเดินเข้ามาเขาสะพายล่วมยาเมื่อมาถึงก็ประสานมือคารวะเมิ่งหย่งชวน"ข้าน้อยจ้าวอี้หานคารวะแม่ทัพเมิ่งขอรับ""อืม..ผลเป็นเช่นไร""เรียนท่านแม่ทัพ..ท่านผู้เฒ่าเมิ่งถูกตีอย่างแรงที่ศีรษะมิได้หกล้มตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใดขอรับ""เมิ่งอี้ เมิ่งซานเพียงเพื่อหลอกล่ออาหญิงของเจ้ามาหาถึงกับลงมือโหดเหี้ยมกับผู้อาวุโสของตน นายกองหยวนฟ่าเหลียงบังคับขืนใจสตรีชาวบ้านยึดทรัพย์เข้าท้องพระคลังโบยร้อยไม้ขังคุกหลวง ชายทั้งสี่คนให้ไปทำงานที่เหมืองเหล็ก ส่วนศพนั้นไปโยนทิ้งสุสานไร้ญาติ สองพ่อลูกสกุลเมิ่งโบยร้อยไม้ติดคุกห้าปี ลงโทษได้"เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งอี้กับเมิ่งซานก็ถูกโบยร้องครวญคราง แม่เฒ่าเมิ่งที่มาถึงก็ร้องไห้เข้ากอดบุตรชา
เสิ่นเยี่ยนฟางเดินมาหาเมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้คิดบัญชีค่าแรงอยู่ จางลี่กำลังนับเหรียญอีแปะร้อยเป็นพวงจ่ายค่าแรงตามรายชื่อที่เมิ่งลู่เจินคำนวณ เสิ่นเยี่ยนฟางนั่งลงก่อนจะคุยกับพวกเขา"อาเจิน...คืนนี้พี่จะพาขึ้นเขา อาลี่ อาจารย์หญิงจะพาอาเจินไปฝึกวิชาให้รู้จักการเอาตัวรอด เจ้าอยากไปดูไหม""เอาตัวรอดแบบใดขอรับอาจารย์หญิง""ตามไปก็รู้เอง เอาล่ะไปจ่ายค่าแรงได้แล้วอาเจิน อาลี่ ยามเซินจะขึ้นเขา"ทั้งคู่พยักหน้ารับปาก เสี่ยวเย่าคอยขานชื่อ จางลี่จ่ายเงิน เมิ่งลู่เจินขีดฆ่าคนที่รับเงินไปแล้ว ชาวบ้านต่างก็ชอบเด็กทั้งหกคน ช่างน่ารักเหลือเกิน เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังล้างข่ากับขิงที่เพิ่งขุดมาที่ลำธารก็เหลือบเห็นรองเท้าสีดำมีไม้อยู่ข้างๆคล้ายๆไม้เท้า นางจึงเลื่อนสายตาขึ้นไปก็เห็นชุดสีขาวพริ้วๆปลิวไปมา ก่อนจะเงยหน้าก็เจอคนคุ้นเคยที่มาหานางสองรอบแล้ว"ท่านตา..วันนี้จะมากล่าวหาอะไรบุตรชายบุตรสาวข้าอีกเจ้าคะ""เหอะๆๆๆ...ข้ากล่าวหาหรือนี่ เจ้านี่นะ จุ๊ๆๆช่างเสียดายเคยเป็นอดีตเทพบุปผา ชั่วดีกลับไม่แยกแยะบุตรชายกับบุตรสาวเจ้า ไปหาสอนชาวบ้านเรื่องสมุนไพรนั่น ตอนนี้หัวข้าโล้นหมดแล้ว""เอ๋ ท่านตา..ท่านเป็นเทพแห่ง
ทั้งหกคนรับคำมารดา เสิ่นเยี่ยนฟางสะพายตะกร้าพาทั้งสองคนขึ้นเขา นางสอนให้สังเกตทิศทางหากไม่มีเข็มทิศต้องดูอย่างไร สังเกตมูลของสัตว์ว่าใหม่หรือเก่า เจอมูลสัตว์เสิ่นเยี่ยนฟางใช้ไม้จิ้มก่อนจะดม"นี่เพิ่งใหม่ๆ น่าจะเป็นของสัตว์กินพืช เดินอีกหน่อยไม่เกินสองชั่วยามจะถึงด้านใน เราจะปักหลักที่นั่นคืนนี้ อาเจินที่นั่นเป็นดงหมาป่า พี่จะไม่ช่วยเว้นแต่เจ้าจะมีอันตรายที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตพี่จึงจะยื่นมือ จำไว้ห้ามใช้กำลังภายใน ""ขอรับพี่สะใภ้""อาจารย์หญิง เหตุใดต้องสู้กับพวกมันเล่าขอรับ""ดูอย่าห่างๆ หากเจ้าอยากเรียนวิชาวันหน้าข้าจะสอนให้ เดินไวๆเถอะถ้าแสงหมดแล้วพวกมันหากินก่อนเวลาจะไม่ดี"ทั้งสามคนเดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงบริเวณกลางป่าลึก อากาศเริ่มเย็นลง หมาป่าชอบอากาศเย็นชื้น เสิ่นเยี่ยนฟางจุดคบไฟที่เตรียมมา ผูกเปลไว้บนต้นไม้สูง จางลี่ไม่มีวรยุทธเขาปีนขึ้นต้นไม้อย่างทุลักทุเล เสิ่นเยี่ยนฟางเองก็ไม่มีวิชาตัวเบา แต่นางกินนอนในป่าแฝงตัวทำภารกิจนานปี ย่อมมีทักษะการพรางตัวจึงมีเพียงจางลี่คนเดียวที่อยู่ในเปลบนต้นไม้เมิ่งลู่เจินนั่งอยู่กับนาง ตะวันตกดินแล้วเสิ่นเยี่ยนฟางหาทิศที่อยู่ใต้ลม เสียงเห่าหอ
ไม่นานเมิ่งลู่เจินก็พานายพรานหวังมาถึง เมิ่งลู่เจินกับจางลี่ทำความเคารพอาจารย์ จางลี่ได้เรียนหนังสือกับหวงหย่งเนียน เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นว่าเขาไม่เกเรจึงลองให้เรียนดูสองวัน หวงหย่งเหนียนเดินมาบอกกับนางว่า"จางลี่หัวดีนัก เขาเก่งเรื่องคำนวณ การวางกลยุทธ์ส่วนเมิ่งลู่เจินเก่งหลายด้าน แต่ด้านการปกครองเมิ่งลู่เจินเรียนดีมากขอรับอาซ้อเมิ่ง""ถ้าเช่นนั้น การสอบครั้งนี้ให้พวกเขาลงสนามได้ไหมเจ้าคะ ข้าอยากให้เขาได้ลองเมื่อถึงเวลาที่ต้องสอบจริงจะได้ไม่ตื่นสนามมากเกินไป"เสิ่นเยี่ยนฟางจึงตกลงกับหวงหย่งเหนียนว่าจะให้น้องสามีกับลูกศิษย์ของนางไปสอบในอีกห้าวัน นายพรานเดินมาหานางถามไถ่ถึงเรื่องชำแหละหมาป่า"ภรรยาซิ่วไฉ ท่านอยากให้ข้าทำเช่นไรกับซากหมาป่าพวกนี้""ท่านลุงหวัง ข้าต้องการเพียงหนังของมันเพื่อไปทำเสื้อคลุมให้สามีข้า เพราะเขาถูกอากาศเย็นมากไม่ได้ ส่วนเนื้อหมาป่าหากชาวบ้านคนใดประสงค์จะรับข้ายินดีจ่ายแจก เก็บไว้ที่เรือนข้าเพียงสองตัวก็พอ"เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อย หวังฝูก็ลงมือชำแหละหมาป่าห้าสิบตัว เมิ่งลู่เจินทำแผลใส่ยาเรียบร้อยแล้ว โดยมีโจวหยางเป็นคนทำให้ ยาของเขานับว่าได้ผลดีเกินคาด เสิ่นเยี่
เสิ่นเยี่ยนฟางที่ได้ยินเสียงร้องของสตรีก็มาถึงเช่นกัน สามีนางหรือลวนลามผู้หญิงไม่น่าใช่นะ ถ้าผู้หญิงลวนลามเขาอันนี้น่าจะถูกต้อง ทุกคนมารวมกันประตูเรือนเปิดออก เมิ่งหย่งชวนอุ้มสตรีที่มีผ้าห่มคลุมกายเดินออกมา เมื่อมาถึงหน้าเรือนเขาก็ทิ้งนางลงกับพื้นไม่ไยดี จางเสี่ยวถิงเจ็บและจุกจนไม่สนใจว่าตนเองอยู่ในสภาพไหนลุกขึ้นชี้หน้าเมิ่งหย่งชวนทันที"ไอ้บ้านนอก ไอ้ชาวนาขาเปื้อนโคลน หึแค่บัณฑิตต่ำต้อยคิดว่าข้าสนใจเจ้าหรือ ข้าจะทำให้เจ้าถูกถอดออกจากบัณฑิตเข้าสอบไม่ได้อีกเลย เจ้ามันสมกับนางเมียบ้านป่าของเจ้านั่นแหละ ได้ข่าวว่าเป็นเพียงสตรีแพศยาที่ยั่วยวนกระทั่งอาเขยของตน อ๊าาอ่อยอ้า แค่กๆๆ"เมิ่งหย่งชวนคว้าลำคอจางเสี่ยวถิงจากนั้นออกแรงบีบทันที เขาไม่สนใจว่าหน้าเรือนจะมีคนกี่มากน้อย และนางเป็นบุตรสาวของจางหมิ่นหรือไม่ เมิ่งหย่งชวนเอ่ยออกมาทำเอาคนทั้งลานถึงกับพูดไม่ออกแม้กระทั่งจางหมิ่นเอง"สตรีเช่นเจ้าต่ำช้าเกินไป ไม่คู่ควรเอ่ยถึงภรรยาข้า อย่างเจ้าแค่เศษดินที่ติดรองเท้านางเจ้ายังไม่คู่ควร"เมิ่งหย่งชวนกำลังจะเหวี่ยงร่างบางออกไปก็มีเสียงหวานๆมาหยุดเขาเอาไว้"ท่านพี่..ปล่อยนางเถอะเจ้าค่ะ นางแค่
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ