Home / โรแมนติก / ลิขิตกามเทพ-อาริตา / 2 ผมอยากอยู่คนเดียว

Share

2 ผมอยากอยู่คนเดียว

last update Last Updated: 2025-04-06 15:52:23

“เฮ้ย...” เสียงนั้นไม่เบานัก เมื่อออกแรงดึงเพื่อนหนุ่มออกมาจากที่นั่งในตอนหลัง “ลงมาก่อนซิวะ จะมานั่งหลบมุมในรถไม่ได้ มาถึงที่แล้วต้องเอาให้เต็มคราบ...”

คนถูกดึงทำหน้ายู่ยี่ ลงมาจากรถอย่างไม่สู้จะเต็มใจสักเท่าไร ยิ่งมองกวาดตาเห็นผู้คนคลาคล่ำรวมไปถึงรถยนต์ที่จอดกันเป็นตับก็ยิ่งเบ้ปาก ทำท่าเอือมๆ

“คนมากไป”

“เออซิวะ” อีกฝ่ายตอบเสียงหนักๆ “นี่มันเธคชื่อดังของกรุงเทพฯ คนมันก็ต้องเยอะหน่อย...นายจะหาที่ไหนวะที่ไม่มีคนเลย ไม่ใช่ป่าช้านี่หว่า”

พินิจนัยเงยหน้ามองดูป้ายชื่อบอกสถานที่ที่กะพริบตามแสงไฟวิบๆ วับๆ มองดูผู้คนที่แต่งตัวหลากสไตล์์ ก่อนจะก้มลงมองตัวเองที่เพียงแต่สวมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมๆ กับกางเกงทรงหลวม รองเท้าแตะธรรมดาๆ เพื่อนเขาเหมือนจะอ่านใจเขาออก มองตามก่อนจะบอกว่า

“สไตล์ง่ายๆ ยังงี้ก็ได้วะ ไม่แปลก...หน้าตานายก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ รับรองว่าอย่างมากเด็กในโน้นก็จะเรียกนายว่าพี่ ไม่ถึงกับเรียกลุงหรือเรียกอาให้แสลงใจ”

“ท่าทางนายจะเชี่ยว ชำนาญ...”

“คนชอบกินไก่...ก็ต้องเสาะหาไก่กินให้ถูกที่ ไก่ที่นี่ไม่แพง รับประกันว่าปลอดโรค แถมยังเป็นไก่ประเภทชอบโก่งคอขันเจื้อยแจ้ว...”

“ไก่ตัวเมียที่ไหนวะโก่งคอขัน” พินิจนัยเอ่ยขัด “ไม่ยักรู้ว่าที่ชอบมานี่ ชอบมาหิ้วไก่ตัวผู้ไปเชือด”

“พูดผิดหน่อยก็รีบทับถมกันเชียว...รสนิยมข้าน่ะ ไม่นิยมไก่ตัวผู้โว้ย เดี๋ยวเดือยชนกันมันยุ่ง ข้าหมายความว่าไก่แถวนี้เสียงดีโว้ย ลูกคอดี...เอาไปร้องกล่อมตอนกลางคืนยิ่งแจ๋ว”

“สักวันจะเจอดี”

“จะเจออาไร้”

“เรื่องบาปกรรมก็ยังมีนะ เที่ยวเก็บไก่ไปเชือด อย่าทำเป็นคนสมัยใหม่ให้มากนัก”

“ทำไงได้วะ ถือมีดอยู่ในมือให้เห็นๆ ต้มน้ำจนเดือดไว้อีกหม้อ ไก่พวกนี้รู้ทั้งรู้ก็ยังโดดตีปีกพั่บๆ เข้ามาชนมีด โดดลงหม้อ ไก่รุ่นขบเผาะกันทั้งนั้น เนื้องี้ทั้งแน่นทั้งหวาน แล้วก็ขาวด้วยว่ะ ไม่ใช่พวกไก่ดำ...นานๆ ทีถึงจะลากไก่ดำกลับไปกิน...รสนิยมไก่ดำนี่ไม่ค่อยจะถูกปากข้า”

ภูษิตดึงเพื่อนเอาไว้อย่างแรง กลัวพินิจนัยจะสะบัดกลับไปรอในรถเสียมากกว่า

“ที่นี่ไม่มีรายการเข้าฟรี แต่มีพวกไม่อยากจะจ่ายเงินรอเข้าฟรี เดี๋ยวคอยดูนะ เรามากันสองคน ยังหนุ่มแน่น หน้าตาก็พอไปวัดไปวาไหว เดี๋ยวจะได้เห็นว่าสมัยนี้หนุ่มยืนเฉยๆ สาวมันก็แล่นเข้ามาหา เชิญชวนให้ซึ่งๆ หน้า...อย่าทำให้เรื่องแตกเสียก่อนล่ะ ยืนเฉยๆ เอาไว้ ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

พินิจนัยมองดูเด็กหญิง...เขาไม่อยากใช้คำว่าเด็กสาวด้วยซ้ำ

กับแม่คนที่กระโดดใส่ภูษิต ไม่ว่าหล่อนจะบรรจงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าประหลาดๆ

ตกแต่งผม และหน้าตาจนดูเป็นสาว แต่หล่อนก็ยังเด็ก ดูจากกิริยาและวิธีพูดจาก็ทำให้เขาปลงสังเวช ระวังตัวเองไม่ให้มีสาวคนไหนโดดเข้าใส่เขาได้ ยอมรับว่ากลัวๆ

“ถึงสิบห้าไหม”

เขากระซิบถามภูษิต เมื่อแม่คนนั้นหันไปวี๊ดว้ายกับเพื่อนที่เข้ามาในนี้ก่อนหน้านั้นด้วยวิธีการหา ‘เจ้ามือ’ แบบเดียวกัน คือโดดเกาะผู้ชายสักคน โดยไม่คำนึงว่า จะแปลกหน้าหรือไม่

“ขอดูบัตรซะก่อนนะ ข้อหาผู้เยาว์ มันเจ็บปวดและเสื่อมเสียด้วย”

“ถามก็บอกว่าเกินทั้งนั้น บ่งบัตรก็อย่าไปหาซะให้ยากเลย...ตำรวจเขาก็รู้ ไม่อยากมาเอาเรื่องให้ยุ่งยาก เอ็งกลัวอะไร”

“กลัวจะยุ่ง”

พินิจนัยระแวดระวังตัวเองเป็นอันมาก เมื่อเด็กหญิงคนนั้นกลับมาพร้อมกับเพื่อนหญิงวัยเดียวกัน แต่งตัวสไตล์เดียวกันเพื่อแนะนำให้รู้จัก

กับเขา พินิจนัยได้แต่ส่ายหัวดิกบอกเรียบๆ ว่า

“ผมอยากอยู่คนเดียว”

เด็กหญิงผมซอยสั้น แต่กลางศีรษะมีเส้นผมตั้งเด่เป็นแนวตรง ปากเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่หมับๆ เอียงคอมองดูเขามองอย่างจริงจัง มองไล่ตั้งแต่หัวเขาไปถึงเท้าแล้วมองไล่กลับมาใหม่ ก่อนจะพูดใส่หน้าเขา

“เป็นตุ๊ดเหรอ พี่ เห็นผู้หญิงยังกะเห็นหนอนแน่ะ”

เขายังคงเงียบ ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย แล้วอาการนิ่งเงียบกับดวงหน้าเฉยเมยของเขาก็ทำให้เสียงยั่วแหย่เงียบหายไปได้ในที่สุด

“เพื่อนพี่น่ะหน้าตาหล่อดีออก แต่ดูตาซิ...ขวางยังกะหมาบ้าแน่ะ”

เขาได้ยินเหมือนกัน แต่ปล่อยผ่านไปเสียเฉยๆ ไม่ได้ยินว่าภูษิตจะมีคำตอบให้กับคำพูดนั่นอย่างไรบ้าง และเมื่อภูษิตโอบประคองแม่สาวเนื้ออ่อนนั่นออกไปเต้นยึ่กๆ ยั่กๆ บนฟลอร์ที่ผู้คนคลาคล่ำ แสงไฟหลากสี

วิบวับที่ชวนให้บาดตา เขาก็นั่งอยู่คนเดียว จิบเหล้าไปพลางๆ นี่หากถ้า

ไม่ติดว่าภูษิตเป็นเพื่อนสนิท และนานๆ ได้พบกันสักหน เขาก็คงไม่มานั่งดื่มอยู่ที่นี่แน่ มันเสียทั้งประสาทตากับแสงไฟ เสียประสาทหู เสียงเพลงที่เร่าร้อนแผดก้อง ยิ่งมองดูผู้คนในเสื้อผ้าแบบแปลกๆ เขาก็ยิ่งปลงมากขึ้น แต่ยังบอกไม่ได้ว่าปลงคนพวกนั้นหรือปลงกับสารรูปของตัวเองกันแน่

“ข้าจะไปห้องน้ำ”

เขาบอกเมื่อภูษิตหัวเราะริกระรื่นราวกับอีสาวๆ ใจแตก กลับเข้ามามีดวงหน้าเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ และแม่สาวน้อยที่ภูษิตพากลับเข้ามาด้วย ก็ไม่ยักจะใช่แม่สาวคนเดิม เพราะเปลี่ยนหน้ามาใหม่อีก

“เดี๋ยวมา...” พินิจนัยเดินหัวซุนไปข้างหน้า หลังจากดื่มมาจากที่บ้านของภูษิตแล้ว เขาก็ยังมาดื่มต่ออีก รู้สึกเหมือนหัวจะโตเท่ากระพ้อม โตกว่าตัว แล้วพื้นมันก็โคลงเคลง

“ยังกะหลงมาอยู่ในโลกบ้าๆ” เขาพึมพำ เซซังเข้าไปในห้องน้ำ จัดการกับธุระของตัวเองจนเรียบร้อย พอออกมานอกห้อง กำลังตั้งลำก็โดนเข้าโครมใหญ่ จนเซไปติดกับผนัง

“โทษที...”

เสียงผู้หญิง น้ำเสียงไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ บอกให้รู้ว่าแก่ดีกรีแล้วพอประมาณ พินิจนัยสลัดศีรษะแรงๆ เบิ่งตาดูหล่อน แล้วก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง หน้าขาวซีดจนแทบจะไม่มีสีเลือด หล่อนทำท่าเหมือนจะโก่งคออาเจียนออกมาตรงนี้

“เฮ่ย...” เขาร้องลั่น คว้าข้อมือหล่อนหมับ แล้วลากหล่อนเข้ามาในห้องน้ำ จับหล่อนไปที่อ่าง โดยลืมสนิทว่าเขาลากหล่อนเข้ามาในห้องน้ำชาย “อีหนู เอาแล้วไงเมาแล้วก็คายแก้ว...” มือใหญ่แบบมือผู้ชายหากแต่ทุกนิ้วยาวเรียวสวยลูบหลังหล่อนเบาๆ “เหล้าน่ะ หนู กินแล้วก็อ๊วก แล้วเดี๋ยวก็ออกไปกินใหม่...หนูเอ๊ย...”

“ฉันไม่ใช่หนู” หล่อนขึ้นเสียงแว้ด เงยหน้าขึ้นน้ำเสียงออกจะ

เกรี้ยวๆ “ฉันโตแล้ว”

พินิจนัยนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ

“เอ้อ...ก็ได้ โตแล้ว เป็นสาวแล้ว คุณผู้หญิง ผมทราบครับ ตอนนี้

คุณผู้หญิงมอมแมมสกปรกยังกะลูกหมาแน่ะ ล้างหน้าล้างปากซะก่อน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   3 ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู

    “แม่กานยังไม่กลับมาเลย”หญิงวัยห้าสิบแปด ร่างท้วมตัดผมสั้น ใบหน้าค่อนข้างดุนั้นมีวี่แววบอกว่า เมื่อสาวจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งทีเดียว เอ่ยบ่นอย่างเคืองๆ“ดูซิ ดูเวลาซะก่อน เข้าไปตั้งจะเที่ยงคืนแล้ว ยังไม่เห็นหัว...หายไปไหน ไม่โทร. มาบอกกล่าวกันก่อน ชักจะเอาใหญ่แล้ว”นางหันหน้าไปทางประตูบ้าน และเลยไปยังรั้วที่เห็นอยู่ไกลๆ พ้นจากแนวไม้ที่ปลูกทึบจนให้ความร่มรื่นแก่ตัวบ้านเป็นอันมาก“กานมันเอาใหญ่มาตั้งแต่ทำงานได้แล้วล่ะค่ะ แม่” พรรณทิพา ลูกสาวคนใหญ่วัยสามสิบเป็นคนตอบ หล่อนเป็นสาวสวยยังประคับประคองความโสดเอาไว้ได้มั่นคง และมีความคิดไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกานพลูญาติผู้น้องผู้ด้อยกว่าสักเท่าไหร่ “นี่คงจะดอดไปพร่ำพลอดรักกับนายภาดากระมังคะ”“แม่ก็เตือนมันแล้วนะว่าอย่าทำอะไรแบบนั้น” แล้วนางก็ถอนใจ “ที่สั่งสอนเอาไว้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้นะ กลัวอย่างเดียว...ว่าจะเหมือนแม่มัน...”นางหมายถึงน้องสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากอุ้มท้องกลับมาบ้านหาพ่อเป็นตัวตนให้ลูกไม่ได้ แล้วพอคลอดกานพลูได้ไม่นาน สติสัมปชัญญะที่ค่อนข้างจะบอบบางอยู่แล้วก็สับสน เมื่อตอนกานพลูอายุได้ห้าขวบ แม่ของหล่อนก็ยังอยู่ในวัยสา

    Last Updated : 2025-04-06
  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   4 ไก่ที่หิ้วติดมือมา

    “กานหายไป...” บุตราพึมพำ หล่อนกวาดตามองหาเพื่อนเสียทั่ว หลังจากลงทุนไปควานหาในห้องน้ำหญิงทุกแห่งในนี้ แต่ไม่มีแม้เงาของกานพลู หล่อนหายเงียบไปเลย “หายไปไหนนะ” ผู้คนก็มากมายจนบุตราไม่แน่ใจว่าจะตามหาตัวกานพลูพบได้ง่ายๆ หรือไม่ “ดูซิ จนเข้าไปจะตีสองแล้ว”หล่อนมองดูเวลาแล้วก็ยิ่งกระวนกระวายใจ ก่อนไปห้องน้ำ กานพลูแก่ดีกรีไปแล้วไม่ใช่น้อยๆ เลย“เพื่อนคุณโตแล้วนะ บุต...”“โตแต่ตัวกับอายุหรอก เขาเคยมาแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน...แล้วก็เมาแอ๋ไปแล้ว”หล่อนหยิบกระเป๋าถือใบเล็กๆ ของกานพลูมาถือเอาไว้ เปิดดูในนั้นก็พบว่าอยู่ครบ นอกเสียจากกระเป๋าใส่เศษเงินใบเล็กๆ ที่กานพลูนิยมติดตัวไว้ในกระโปรง รองเท้าส้นสูงที่ใส่มาทำงานก็ยังอยู่ในรถ ที่ติดไปกับกานพลูก็คือรองเท้าแตะสานเตี้ยๆ ที่บุตราเอาใส่ไว้ในรถเท่านั้น แล้วกานพลูหายไปแห่งหนใดกันในสถานที่นี้“ถ้าพลัดหลงกับเรา บุตว่ากานพลูต้องแย่แน่ๆ จะกลับบ้านได้ยังไง”ประภัทรแทบจะสำลักเหล้าทีเดียวเมื่อได้ยินแบบนั้น“เพื่อนคุณน่ะโตแล้วนะ หลงทางกลับบ้านไม่ถูกก็อายเด็กสิบสี่สิบห้ามันแย่เลย”“คุณไม่รู้อะไร เอาละ...บุตจะลองลุกเดินๆ หากานเขาอีกสักรอบ ถ้าไม่เจอ...ก็เห็นจะต้อง

    Last Updated : 2025-04-06
  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   5 ไปนอนกะผู้ชายมาใช่ไหม

    เสียงเคาะประตูรัวๆ อยู่ด้านนอกเมื่อเขายังอาบน้ำซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำ กว่าเขาจะมาเปิดประตูห้องออกรับ ภูษิตมีดวงหน้างอง้ำเพราะรอนานเกินไปสิ่งแรกที่ภูษิตทำเมื่อก้าวเข้ามาในห้องก็คือกวาดตามองเหมือนจะหาใครสักคน ครั้นไม่พบก็บุ้ยใบ้ไปในห้องน้ำ“อยู่ในนั้นหรือไงวะ”“ใคร...”“เอ๊ ยังมาถาม ก็อีสาวเมื่อคืน ไปไหนแล้ว...”พินิจนัยเดินไปหน้ากระจก ผมเปียกน้ำลู่แนบกับรูปศีรษะรูปทุยสวยเขาใช้ผ้าผืนเล็กที่เป็นของส่วนตัวโปะหัวขยี้แรงๆ ตอบหน้าตาเฉย“ไปแล้ว อย่าถามต่อนะว่าไปไหน ไม่รู้เหมือนกัน”“เท่าไหร่วะ”“อะไร เท่าไหร่”ภูษิตทำเสียงจิ๊กจั๊กอยู่ในคำ“เอ็งนี่มันชอบแกล้งโง่ซะเรื่อย ระวังเหอะ มันจะโง่เอาจริงๆ ของข้ามันเรียกคนละสามร้อย...แล้วรับปากว่าจะมาหาอีก เมื่อคืนน่ะนะ...มันสวยงามพิลึก...ไม่อยากให้ถึงเช้าเลย เด็กเดี๋ยวนี้มันเก่งจริงๆ นับถือว่าฝีมือมันดี นี่ขนาดพวกมือสมัครเล่นหรอกนะของเอ็งล่ะ พอสลัดชุดเชยๆ นั่นออก อีบรรเลงได้ถึงใจไหม”“ข้าว่าอีหนูของข้ามีแววว่าจะเข้าวงออเคสตร้าได้นะ เสียงก็ขนาดนักร้องอาชีพ แก้วหูยังร้าวอยู่เลย”“ถ้าเสียงดี ลำคอก็ต้องดี หมายความว่า...”ภูษิตตาลุก ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ทำตามี

    Last Updated : 2025-04-06
  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   1 ฉันคงจะเข็ดผู้ชายไปอีกนาน

    “ภาดากับลูกสาวเจ้านายนี่เหมาะสมกันดีจริงๆ นะ”เสียงนั้นอยู่ห่างเพียงแค่ประตูห้องน้ำกั้นเอาไว้เท่านั้นเอง กานพลูก็ได้ยินประโยคนั้นชัดก้องเข้าไปในหู อยากจะคิดว่าเป็นเรื่องของคนอื่นที่หล่อนไม่รู้จัก แต่ในออฟฟิศนี้มีผู้ชายกี่คนกันเล่าที่ชื่อ ‘ภาดา’ก็มีเพียงภาดาคนเดียวเท่านั้น ภาดาที่หล่อนรักจับใจหล่อนเสร็จธุระในห้องน้ำแล้ว รวบรวมกำลังใจให้เปิดประตูออกมายืนอยู่ตรงทางเดินแคบๆ ที่เป็นทางเดินระหว่างประตูห้องน้ำกับเคาน์เตอร์ยาวๆ ที่ฝังอ่างล้างหน้าไว้เป็นระยะๆ สามอ่างด้วยกันผู้หญิงสองคนที่ยืนล้างมือตรงเคาน์เตอร์นั้น คุ้นหน้าคุ้นตากับกานพลูดี แต่ไม่เคยพูดกันมาก่อนแล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ไปด้วยกันทั้งสองคนเมื่อเห็นกานพลู ก็คนในออฟฟิศส่วนมากจะรับรู้กันว่าผู้หญิงที่เดินไปไหนมาไหนกับภาดามีแต่กานพลูนี่คนเดียวเท่านั้น แม้จะไม่มีการยืนยันเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันอีกนั่นแหละว่ากานพลูกับเขาจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ หลังจากสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้วหล่อนล้างมือเช็ดจนแห้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ แข้งขาไม่สั่นมือไม่สั่น แต่กานพลูรู้ดีว่าหน้าของหล่อนปราศจากสีเลือดและใจก็เต้นรัวถี่อยู่ในอก อยากจะแล่นไปหาเขา

    Last Updated : 2025-04-06

Latest chapter

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   5 ไปนอนกะผู้ชายมาใช่ไหม

    เสียงเคาะประตูรัวๆ อยู่ด้านนอกเมื่อเขายังอาบน้ำซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำ กว่าเขาจะมาเปิดประตูห้องออกรับ ภูษิตมีดวงหน้างอง้ำเพราะรอนานเกินไปสิ่งแรกที่ภูษิตทำเมื่อก้าวเข้ามาในห้องก็คือกวาดตามองเหมือนจะหาใครสักคน ครั้นไม่พบก็บุ้ยใบ้ไปในห้องน้ำ“อยู่ในนั้นหรือไงวะ”“ใคร...”“เอ๊ ยังมาถาม ก็อีสาวเมื่อคืน ไปไหนแล้ว...”พินิจนัยเดินไปหน้ากระจก ผมเปียกน้ำลู่แนบกับรูปศีรษะรูปทุยสวยเขาใช้ผ้าผืนเล็กที่เป็นของส่วนตัวโปะหัวขยี้แรงๆ ตอบหน้าตาเฉย“ไปแล้ว อย่าถามต่อนะว่าไปไหน ไม่รู้เหมือนกัน”“เท่าไหร่วะ”“อะไร เท่าไหร่”ภูษิตทำเสียงจิ๊กจั๊กอยู่ในคำ“เอ็งนี่มันชอบแกล้งโง่ซะเรื่อย ระวังเหอะ มันจะโง่เอาจริงๆ ของข้ามันเรียกคนละสามร้อย...แล้วรับปากว่าจะมาหาอีก เมื่อคืนน่ะนะ...มันสวยงามพิลึก...ไม่อยากให้ถึงเช้าเลย เด็กเดี๋ยวนี้มันเก่งจริงๆ นับถือว่าฝีมือมันดี นี่ขนาดพวกมือสมัครเล่นหรอกนะของเอ็งล่ะ พอสลัดชุดเชยๆ นั่นออก อีบรรเลงได้ถึงใจไหม”“ข้าว่าอีหนูของข้ามีแววว่าจะเข้าวงออเคสตร้าได้นะ เสียงก็ขนาดนักร้องอาชีพ แก้วหูยังร้าวอยู่เลย”“ถ้าเสียงดี ลำคอก็ต้องดี หมายความว่า...”ภูษิตตาลุก ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ทำตามี

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   4 ไก่ที่หิ้วติดมือมา

    “กานหายไป...” บุตราพึมพำ หล่อนกวาดตามองหาเพื่อนเสียทั่ว หลังจากลงทุนไปควานหาในห้องน้ำหญิงทุกแห่งในนี้ แต่ไม่มีแม้เงาของกานพลู หล่อนหายเงียบไปเลย “หายไปไหนนะ” ผู้คนก็มากมายจนบุตราไม่แน่ใจว่าจะตามหาตัวกานพลูพบได้ง่ายๆ หรือไม่ “ดูซิ จนเข้าไปจะตีสองแล้ว”หล่อนมองดูเวลาแล้วก็ยิ่งกระวนกระวายใจ ก่อนไปห้องน้ำ กานพลูแก่ดีกรีไปแล้วไม่ใช่น้อยๆ เลย“เพื่อนคุณโตแล้วนะ บุต...”“โตแต่ตัวกับอายุหรอก เขาเคยมาแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน...แล้วก็เมาแอ๋ไปแล้ว”หล่อนหยิบกระเป๋าถือใบเล็กๆ ของกานพลูมาถือเอาไว้ เปิดดูในนั้นก็พบว่าอยู่ครบ นอกเสียจากกระเป๋าใส่เศษเงินใบเล็กๆ ที่กานพลูนิยมติดตัวไว้ในกระโปรง รองเท้าส้นสูงที่ใส่มาทำงานก็ยังอยู่ในรถ ที่ติดไปกับกานพลูก็คือรองเท้าแตะสานเตี้ยๆ ที่บุตราเอาใส่ไว้ในรถเท่านั้น แล้วกานพลูหายไปแห่งหนใดกันในสถานที่นี้“ถ้าพลัดหลงกับเรา บุตว่ากานพลูต้องแย่แน่ๆ จะกลับบ้านได้ยังไง”ประภัทรแทบจะสำลักเหล้าทีเดียวเมื่อได้ยินแบบนั้น“เพื่อนคุณน่ะโตแล้วนะ หลงทางกลับบ้านไม่ถูกก็อายเด็กสิบสี่สิบห้ามันแย่เลย”“คุณไม่รู้อะไร เอาละ...บุตจะลองลุกเดินๆ หากานเขาอีกสักรอบ ถ้าไม่เจอ...ก็เห็นจะต้อง

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   3 ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู

    “แม่กานยังไม่กลับมาเลย”หญิงวัยห้าสิบแปด ร่างท้วมตัดผมสั้น ใบหน้าค่อนข้างดุนั้นมีวี่แววบอกว่า เมื่อสาวจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งทีเดียว เอ่ยบ่นอย่างเคืองๆ“ดูซิ ดูเวลาซะก่อน เข้าไปตั้งจะเที่ยงคืนแล้ว ยังไม่เห็นหัว...หายไปไหน ไม่โทร. มาบอกกล่าวกันก่อน ชักจะเอาใหญ่แล้ว”นางหันหน้าไปทางประตูบ้าน และเลยไปยังรั้วที่เห็นอยู่ไกลๆ พ้นจากแนวไม้ที่ปลูกทึบจนให้ความร่มรื่นแก่ตัวบ้านเป็นอันมาก“กานมันเอาใหญ่มาตั้งแต่ทำงานได้แล้วล่ะค่ะ แม่” พรรณทิพา ลูกสาวคนใหญ่วัยสามสิบเป็นคนตอบ หล่อนเป็นสาวสวยยังประคับประคองความโสดเอาไว้ได้มั่นคง และมีความคิดไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกานพลูญาติผู้น้องผู้ด้อยกว่าสักเท่าไหร่ “นี่คงจะดอดไปพร่ำพลอดรักกับนายภาดากระมังคะ”“แม่ก็เตือนมันแล้วนะว่าอย่าทำอะไรแบบนั้น” แล้วนางก็ถอนใจ “ที่สั่งสอนเอาไว้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้นะ กลัวอย่างเดียว...ว่าจะเหมือนแม่มัน...”นางหมายถึงน้องสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากอุ้มท้องกลับมาบ้านหาพ่อเป็นตัวตนให้ลูกไม่ได้ แล้วพอคลอดกานพลูได้ไม่นาน สติสัมปชัญญะที่ค่อนข้างจะบอบบางอยู่แล้วก็สับสน เมื่อตอนกานพลูอายุได้ห้าขวบ แม่ของหล่อนก็ยังอยู่ในวัยสา

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   2 ผมอยากอยู่คนเดียว

    “เฮ้ย...” เสียงนั้นไม่เบานัก เมื่อออกแรงดึงเพื่อนหนุ่มออกมาจากที่นั่งในตอนหลัง “ลงมาก่อนซิวะ จะมานั่งหลบมุมในรถไม่ได้ มาถึงที่แล้วต้องเอาให้เต็มคราบ...”คนถูกดึงทำหน้ายู่ยี่ ลงมาจากรถอย่างไม่สู้จะเต็มใจสักเท่าไร ยิ่งมองกวาดตาเห็นผู้คนคลาคล่ำรวมไปถึงรถยนต์ที่จอดกันเป็นตับก็ยิ่งเบ้ปาก ทำท่าเอือมๆ“คนมากไป”“เออซิวะ” อีกฝ่ายตอบเสียงหนักๆ “นี่มันเธคชื่อดังของกรุงเทพฯ คนมันก็ต้องเยอะหน่อย...นายจะหาที่ไหนวะที่ไม่มีคนเลย ไม่ใช่ป่าช้านี่หว่า”พินิจนัยเงยหน้ามองดูป้ายชื่อบอกสถานที่ที่กะพริบตามแสงไฟวิบๆ วับๆ มองดูผู้คนที่แต่งตัวหลากสไตล์์ ก่อนจะก้มลงมองตัวเองที่เพียงแต่สวมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมๆ กับกางเกงทรงหลวม รองเท้าแตะธรรมดาๆ เพื่อนเขาเหมือนจะอ่านใจเขาออก มองตามก่อนจะบอกว่า“สไตล์ง่ายๆ ยังงี้ก็ได้วะ ไม่แปลก...หน้าตานายก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ รับรองว่าอย่างมากเด็กในโน้นก็จะเรียกนายว่าพี่ ไม่ถึงกับเรียกลุงหรือเรียกอาให้แสลงใจ”“ท่าทางนายจะเชี่ยว ชำนาญ...”“คนชอบกินไก่...ก็ต้องเสาะหาไก่กินให้ถูกที่ ไก่ที่นี่ไม่แพง รับประกันว่าปลอดโรค แถมยังเป็นไก่ประเภทชอบโก่งคอขันเจื้อยแจ้ว...”“ไก่ตัวเมียที่ไหนวะโก่ง

  • ลิขิตกามเทพ-อาริตา   1 ฉันคงจะเข็ดผู้ชายไปอีกนาน

    “ภาดากับลูกสาวเจ้านายนี่เหมาะสมกันดีจริงๆ นะ”เสียงนั้นอยู่ห่างเพียงแค่ประตูห้องน้ำกั้นเอาไว้เท่านั้นเอง กานพลูก็ได้ยินประโยคนั้นชัดก้องเข้าไปในหู อยากจะคิดว่าเป็นเรื่องของคนอื่นที่หล่อนไม่รู้จัก แต่ในออฟฟิศนี้มีผู้ชายกี่คนกันเล่าที่ชื่อ ‘ภาดา’ก็มีเพียงภาดาคนเดียวเท่านั้น ภาดาที่หล่อนรักจับใจหล่อนเสร็จธุระในห้องน้ำแล้ว รวบรวมกำลังใจให้เปิดประตูออกมายืนอยู่ตรงทางเดินแคบๆ ที่เป็นทางเดินระหว่างประตูห้องน้ำกับเคาน์เตอร์ยาวๆ ที่ฝังอ่างล้างหน้าไว้เป็นระยะๆ สามอ่างด้วยกันผู้หญิงสองคนที่ยืนล้างมือตรงเคาน์เตอร์นั้น คุ้นหน้าคุ้นตากับกานพลูดี แต่ไม่เคยพูดกันมาก่อนแล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ไปด้วยกันทั้งสองคนเมื่อเห็นกานพลู ก็คนในออฟฟิศส่วนมากจะรับรู้กันว่าผู้หญิงที่เดินไปไหนมาไหนกับภาดามีแต่กานพลูนี่คนเดียวเท่านั้น แม้จะไม่มีการยืนยันเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันอีกนั่นแหละว่ากานพลูกับเขาจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ หลังจากสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้วหล่อนล้างมือเช็ดจนแห้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ แข้งขาไม่สั่นมือไม่สั่น แต่กานพลูรู้ดีว่าหน้าของหล่อนปราศจากสีเลือดและใจก็เต้นรัวถี่อยู่ในอก อยากจะแล่นไปหาเขา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status