เจตสุวีย์กลับมาที่รถก็เจอน้องสาวพูดขึ้นทันที“พี่โจหึงอายล่ะสิ แต่ไม่ต้องทำอะไรหรอก อยู่ไกลขนาดนั้นแถมเจอกันที่บาร์ สักพักก็หายไปเอง ยิ่งตอนนี้จะยุ่งเรื่องเรียนรู้งานที่บริษัทด้วย”เขายิ้มให้น้องสาวที่ไร้เดียงสา ก่อนจะขับรถออกจากคอนโดเพื่อไปส่งเธอที่บ้านก่อนจะไปที่บาร์ “จูนเชื่อเหรอว่าอายไปเชียงใหม่?”“หือ…คือยังไงพี่โจ?”จูนถึงกับถลึงตาหันมาจ้องพี่ชายที่สนใจมองแต่ถนน“เขาฉลาดนะ คุยได้ไม่นานแต่ทำให้อายเป็นฝ่ายไปหาเขาได้ พี่รู้เพราะรูปที่ถ่ายในสระว่ายน้ำนั่นไม่ใช่ที่เชียงใหม่ ถึงถ่ายไม่ติดคนแต่จำโรงแรมนั้นได้ พี่ไปพักหลายครั้งเวลาไปหาเพื่อนที่ซานดิเอโก้”“ห่ะ…แล้วอายจะโกหกทำไม?”“ยิ่งอายไม่บอกตามตรง ก็แสดงว่ากลัวพี่รู้น่ะสิ พี่บอกอายไปตรงๆว่าจะเดินหน้าสานสัมพันธ์อีกครั้ง แล้วที่ไม่รับสายเพราะอยู่กับเขานั่นแหละ”“แล้ว…ที่ไปส่งอายถึงห้อง พี่พูดเรื่องนี้มั้ยว่า…พี่รู้”“ก็ดูตกใจอยู่นะ แต่หน้าตาดื้อมาก พยายามทำเฉยไม่ยอมรับ ลึกๆคงช็อกนิดหน่อยที่โดนจับโกหกได้ เด็กน้อยที่ดื้อเงียบแบบนี้ค่อยเหมาะสมกับพี่หน่อย…ลูกคนเดียวกับพี่คนโตงั้นเหรอ มาดูสิว่าใครจะชนะ”ไอรดายังตกใจที่เขาจูบแบบกะทันหันแถมจ
ไอรดากลับมาถึงคอนโด ทำสิ่งต่างๆจนเสร็จก่อนจะมานั่งรอเวลาที่แมทธิวจะตื่นแล้วโทรหาเธอ จนเกือบสี่ทุ่มเขาก็วีดีโอคอลมาหา“ที่รัก ทำงานเหนื่อยมั้ย? คุยนานไม่ได้เดี๋ยวคุณนอนดึก”“ฉันเหนื่อยใจนิดหน่อย การคุยกับคุณทำให้รู้สึกดีขึ้น อยากให้คุณอยู่ตรงนี้จัง”สีหน้าเธอดูเหนื่อยจริงๆ เท่าที่เขาเห็นเธอนอนตะแคงคุดคู้บนเตียง“อยากระบายมั้ย? Sweetie”“แมทธิว…การที่คนเราจะแต่งงานกัน ต้องรักกันขนาดไหน? ถึงอยากอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต?”เขาแปลกใจคำถาม ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่ เธอไปทำงานแค่วันเดียวก็มีอะไรแปลกๆที่เขารู้สึกได้“สำหรับคนอื่นไม่รู้คิดยังไง ส่วนตัวผมเวลารักแล้วจะอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่รัก ถ้าแน่ใจในกันและกันก็แต่งงานเลย มีความปรารถนาดีให้ มีความสุขที่ได้ดูแลห่วงใย”“คุณคิดถึงเธอบ้างมั้ย?..”น้ำเสียงและหน้าตาที่ดูเศร้า ทำให้เขาเริ่มไม่เข้าใจ “เธอมารบกวนหรือติดต่อพูดอะไรกับคุณอีกหรือเปล่า?”ไอรดามองเขาผ่านกล้องนั้น แต่เงียบไม่ตอบ“ผมไม่คิดอะไรกับอดีตอีกแล้วก่อนเจอคุณด้วยซ้ำไป เรื่องที่พลาดไปหลังหย่าเพราะสับสนเหมือนทั้งรักทั้งเกลียดในตอนนั้น พอตัดแล้วตัดเลย ก็ไม่มีอะไรต่อกันอีก ย
แมทธิวส่งข้อความขอให้เธอโทรกลับทันทีที่ถึงคอนโด เพราะเขาเป็นห่วงเธอเอามากๆ ไอรดาที่อยู่ในห้องน้ำแล้วเห็นข้อความจึงโทรหาเขา“ไม่นานก็จะกลับแล้ว พรุ่งนี้มีนัดเจอลูกค้า ถึงคอนโดแล้วจะโทรหาอีกที ไม่ต้องห่วง ฉันดูแลตัวเองได้”“ไม่ให้ห่วงได้ยังไง? เขาพาคุณติดตัวไปไหนต่อไหน อยู่ทำงานด้วยกันทั้งวันไม่พอ กลางคืนยังพาคุณไปบาร์อีก”“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์”“แล้วคุณมายังไง เอารถมาเองหรือเปล่า?”ไอรดาสะอึกไปนิดหน่อย ก่อนจะตอบเสียงอ่อย“คนขับรถที่บ้านจูนมาส่งที่บาร์ แต่ตอนกลับ เขาน่าจะไปส่งน่ะ”แมทธิวเงียบ มีเสียงถอนหายใจดังของเขาลอดมาให้ได้ยิน “คุณไม่ไว้ใจฉัน…งั้นฉันกลับตอนนี้เลยก็ได้ จะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่ง”ได้ยินเธอตอบมาแบบนั้น ทำให้เขาเริ่มคิดได้ว่า อย่างน้อยเธอยังมีแก่ใจง้อเขา “ผม..เชื่อใจคุณ แต่ไม่ไว้ใจเขา คุณสนุกกับเพื่อนๆเถอะ ขอโทษที่ทำให้อึดอัด ผมจะรอคุณโทรกลับนะ”ไอรดาออกจากห้องน้ำก็เจอเจตสุวีย์ยืนรออยู่ “อีกสักชั่วโมง หนูขอกลับได้มั้ยคะพี่โจ เริ่มง่วงนิดหน่อย”แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบ กานต์วิภาก็เข้ามายกมือสวัสดีเสียก่อน ทำเอาไอรดารู้สึกคุ้นหน้า ในเสี้ยววินาทีก็นึกออกว่าเคยเจอที่ห้องน้ำที่น
เจตสุวีย์ต้องการให้เธอไม่ทันได้นึกถึงผู้ชายคนนั้น เขาลากเก้าอี้มาติวงานให้เธอตัวต่อตัว พร้อมกับอธิบายงานใหม่ที่พึ่งดีลได้มา“เพราะหนูไปนั่งด้วย ลูกค้ามัวมองน่าดู ไม่ต้องใช้พลังงานในการคุยมากก็เซ็นเลย”ไอรดาทำหน้าไม่เชื่อ ส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม“พี่โจความรู้เป๊ะมากนะคะ ตอบลูกค้าได้ครบ เสนอราคา ส่วนลดต่างๆ จนลูกค้ามองแล้วได้มากกว่าบริษัทอื่น หนูฟังแล้วยังแบบภูมิใจแทนหม่าม๊ากับคุณพ่อพี่เลย”จูนที่ฟังอยู่ถึงกับไอสำลักขึ้นมา“โอ้ย ชมกันเองเนอะ..นี่ยังนั่งอยู่อีกคนนะจ้ะ ชมทางนี้ด้วยสิ แหม” ทั้งสามคนหัวเราะแล้วนั่งคุยกันต่อเรื่องสัพเพเหระ โดยที่อีกฝั่งหนึ่งของโลกอย่างแมทธิวที่นั่งทำงานบนเตียง ดูเวลาที่นี่จะเที่ยงคืน ที่ไทยเกือบบ่ายสาม แต่เธอยังไม่อ่าน ไม่โทรกลับ และเขาเองก็ไม่กล้าโทรหาเธอ สี่โมงเย็น จูนก็ขอตัวแยกไป ส่วนเจตสุวีย์พาเธอไปกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านทองหล่อ ไม่ไกลจากคอนโดของไอรดามากนัก จนกระทั่งหกโมงเขาก็ขับรถส่งเธอกลับ“พี่ขอเดินขึ้นไปส่งหนูได้มั้ยคะ?”“เสียเวลาพี่โจเปล่าๆ รถติดถึงบ้านจะช้ากว่าเดิม พี่ควรจะได้พักผ่อนนะ”“ไม่เลยค่ะ พี่ทำงานสนุกมากวันนี้ ไม่รู้สึกเบื่อเลยเพร
ตีสามของวันนี้แล้วสินะที่เขาจะบินมาไทย ทำไมรู้สึกสับสนไปหมด..ไอรดาที่ตื่นไปทำงานตั้งแต่แปดโมง เธอมานั่งในห้องทำงานที่เจตสุวีย์และจูนยังไม่มาถึง แมทธิวที่ขยันส่งข้อความมาตามเวลา แต่เธอปฏิเสธที่จะโทรคุยกับเขา ให้ได้เพียงแค่แชทคุยเท่านั้น เกือบครึ่งวันที่เธอดูหมองๆ พูดน้อย เอาแต่สนใจเอกสาร จนเจตสุวีย์ต้องพยักหน้าให้น้องสาวของเขาเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมา“อาย..ไม่สบายมั้ยน่ะ ดูหน้าตาไม่ค่อยดีนะ”“อยู่ๆก็คิดถึงพ่อแม่ เวลารู้สึกเหนื่อยๆ แต่ฉันคงอ่อนแอไปเอง เดี๋ยวก็ดีขึ้น”“น้องอายอยากไปเชียงใหม่มั้ยคะ? เสาร์อาทิตย์นี้ พี่จะไปเป็นเพื่อน เผื่อกลับบ้านแล้วจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง”“ขอคิดดูก่อนค่ะพี่โจ ปกติไม่เคยกลับแค่วันสองวัน เกรงใจอยู่ ถ้าจะกลับทีเป็นอาทิตย์”“ถ้าหนูจะอยู่เป็นอาทิตย์ พี่ก็อยู่ด้วยได้นะคะ มีงานด่วนค่อยบินมา ผู้ช่วยพี่มีหลายคน”ไอรดาเงียบไม่ตอบ เพราะคนที่เธออยากอยู่ด้วยไม่ใช่เขา…ส่วนกานต์วิภาที่โทรหาแมทธิว ลองชวนให้อยู่ที่ขอนแก่นสักสองสามวัน โดยอ้างว่าอยากใช้เวลาสามคนพ่อแม่ลูกแบบเมื่อก่อน เหมือนตอนที่อยู่อเมริกา“วีวี่คิดถึงพี่แมทมากนะ ไหนๆเราก็กลับไปเคลียร์เรื่องคนที่ต้องเซ็น ก็อยู่ส
กานต์วิภาโอนอ่อนให้เขาแต่โดยดี เพราะหน้าตาที่หล่อ รูปร่างดี ผิวขาวเป็นหยวก แถมมีฐานะสูง แค่เขาทำท่าสนใจเธอก็รู้สึกดีแล้ว ยังไงอดีตสามีก็คงไม่ได้สนใจเธออีกต่อไป การได้เป็นผู้หญิงของเศรษฐีหนุ่มคือทางเลือกที่ดีกว่า ถ้ามีโชคมากพอ เอาใจเขาดีๆ อาจได้เป็นคนโปรดของเขา ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วเธอมองหน้าเขาที่ขย่มอยู่บนตัวเธอ หน้าตาเขาช่างหล่อน่ารัก ตัวหอมฟุ้ง ทำเอากานต์วิภาเคลิ้มเหมือนฝันไปแต่ระหว่างที่ทำนั้น เจตสุวีย์ไม่จูบปากเธอ ไม่สัมผัสส่วนใดๆ เขามองตาเธอแว็บเดียวก็จับเธอนอนคว่ำแล้วทำต่อ กานต์วิภาถึงกับอายที่เขาเหมือนไม่อยากเห็นหน้าเธอ ที่ทำก็เพื่อบำบัดความใคร่อย่างเดียวและยังมีสติพอที่จะไม่ปล่อยข้างในเพื่อกันพลาดเมื่อเจตสุวีย์อารมณ์สงบลง เขาผละจากเธอทันที แล้วใส่กางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องกระดาษชำระบนโต๊ะมาให้กานต์วิภาเช็ดต้นขาที่เลอะและใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย โดยเขายืนหันหลังมือสองข้างยันโต๊ะไว้เหมือนกำลังตั้งสติ“เอ่อ..หนูขึ้นมาสักพักแล้ว เดี๋ยวทุกคนจะสงสัย ขอตัวลงไปทำงานก่อนค่ะ” เขาไม่หันมาแต่ทำสัญญาณมือให้เธอออกไป “แล้วผมจะติดต่อไปเอง”กานต์วิภาไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา
มีเสียงเคาะประตูห้อง ขณะที่เจตสุวีย์โทรคุยธุระกับใครบางคนอยู่ “โจ..ม๊าขอคุยด้วยหน่อย”เจตสุวีย์มาเปิดประตู ก็เจอแม่ที่ทำหน้าเครียดใส่ “ปิดประตูด้วย”แม่ของเขาสั่งเสียงเข้ม พอเขาปิดประตูก็โดนดุทันที“ทำไมทำตัวแย่แบบนี้ จูนโทรมาเล่าว่าโจไปบุกรุกบ้านน้องอายตีหนึ่ง ถ้าจูนไปช้าอีกหน่อยจะเป็นยังไง? ต่อให้คบกันแต่ถ้าผู้หญิงไม่ยอม ก็คือการข่มขืนดีๆนี่เอง ถ้าน้องแจ้งความจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ม๊าไม่เคยสอนลูกให้เป็นคนแบบนี้ ถ้าจูนฟ้องป๊า โจโดนหนักแน่”“งั้นถ้าโจทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ โจอยากแต่งงานกับน้อง ป๊ากับม๊าพูดคุยทาบทามให้โจได้มั้ยครับ แต่โจจะลองคุยกับน้องก่อน”“พึ่งทำน้องร้องไห้ คงยังไม่หายโกรธแค่ข้ามคืน จูนเองโมโหน่าดูตอนโทรหาม๊า นี่ต้องอยู่ค้างเป็นเพื่อน เพราะจูนบอกน้องอายป่วยถึงกับต้องไปหาจิตแพทย์ ได้ยินแบบนี้ม๊ารู้สึกไม่ดีเลย โจทำอะไรกดดันน้องเกินไปก่อนหน้านี้ด้วยหรือเปล่า?” เขาตกใจที่ได้ยินแบบนี้ ถึงกับใจอยู่ไม่สุข“ตอนนี้จูนอยู่กับน้องอาย ผมขอโทรหาจูนก่อนครับม๊า”แม่ของเขาถอนหายใจด้วยหน้าที่บึ้งตึงแล้วหันหลังออกไป ทางด้านจูนพอเห็นพี่ชายโทรมาก็ค่อยๆลุกและออกจากห้องนอนเพื่อไปคุยข้าง
ที่สุวรรณภูมิ แมทธิวเจอกับกานต์วิภาครั้งแรกในรอบครึ่งปี หลังจากความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งจบลง เธอตื่นเต้นได้เพียงครู่เดียว ก็สังเกตว่าเขาใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายที่ไม่ใช่แหวนแต่งงานที่เคยใส่คู่กับเธอ ในขณะที่เธอยังใส่แหวนแต่งงานของเขาอยู่ แมทธิวเองก็เห็นแต่ไม่ใส่ใจ“พ่อของวีวี่ได้เจอลูกสาวของเขาหรือติดต่อมาบ้างมั้ย?”“พี่แมทก็รู้ว่าตั้งแต่หนูเลิกกับเขา เขาแค่โทรมาถามครั้งสองครั้ง พอแต่งงานกับพี่แมท เขาไม่ติดต่ออีกเลย พี่แมทเองก็ไม่สนใจไม่ใช่เหรอ”“หมายถึงหลังเราหย่ากันแล้ว”แมทธิวเริ่มเงียบ นั่งดูโทรศัพท์และส่งข้อความให้ไอรดาโดยไม่สนใจแม้แต่จะมองเธอ ทำเอากานต์วิภาต้องพลอยเงียบไปด้วย ไม่พูดอะไรกันต่ออีก ได้แค่นั่งรอเวลาเพื่อขึ้นเครื่องทางด้านบ้านกิตติโสภณ มื้อเช้าที่ทุกคนลงมาพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร เจตสุวีย์แปลกใจที่น้องสาวอยู่บ้าน“จูน..ไม่ได้อยู่กับน้องอายเหรอ? กลับมาตอนไหน?”ดีที่ว่ามื้อเช้านี้ไม่มีพ่ออยู่ด้วยเพราะว่าไปต่างประเทศ จูนมองหน้าแม่ ก่อนจะมองที่พี่ชาย แล้วคิดว่าจะตอบดีไหม“กลับมาตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว เพราะมีคนมาเปลี่ยนดูแลแทน”เจตสุวีย์ถึงกับวางช้อนที่กำลังจะตักเข้าปาก แม่ที่
แมทธิวกลับมาพร้อมกับข่าวดีที่จะทำให้ภรรยาของเขาได้สบายใจ จากที่เธอกังวลมาตลอดเก้าเดือนเต็ม เขายื่นโทรศัพท์ให้ไอรดาเพื่อให้แจ้งข่าวนี้ไปถึงคนที่เขาเกลียดที่สุด“ผมดูแลลูกเอง คุณพักก่อนเถอะ แล้วบอกพวกเขาซะ จะได้ขาดกันเสียที”ไอรดารับโทรศัพท์มาพร้อมกับยิ้มอย่างโล่งอก พลางเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อสูดอากาศที่สดชื่นเป็นพิเศษสายเข้าจากไอรดา ทำให้เจตสุวีย์ที่กำลังกินมื้อเย็นอย่างหดหู่กลับตื่นเต้นขึ้นมาจนต้องขอตัวจากโต๊ะอาหารขึ้นไปคุยที่ห้องส่วนตัวที่ชั้นสอง “พี่คิดถึงหนูมาก เฝ้ารอว่าหนูจะโทรกลับหรือส่งข้อความมาสักนิดก็ยังดี” “เปิดกล้องหน่อยดีมั้ยคะ เพราะมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาจจะได้คุยกัน” พื้นที่ใต้เท้าเขาเหมือนมันถล่มดูดกลืนร่างของเขาให้จมลงในธรณีนี่จะเป็นการคุยผ่านวีดีโอคอลครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเขาแบบนั้นสินะ..“พี่ขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป..ใจพี่เป็นของหนูไปแล้วตั้งแต่แรกที่ได้เจอเด็กสาวคนนั้นที่บ้านที่เชียงใหม่ สุดท้าย..พี่พยายามทำทุกอย่างให้หนูเป็นของพี่ แต่จริงๆแล้วพี่ต่างหากที่เป็นของหนู”ไอรดาเห็นเขาที่ดูหน้าตอบลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาเขาเศร้าหมองและใต้ตาคล้ำ ต่างกับหนุ่มเ
เจตสุวีย์อัพเดทเรื่องของไอรดาผ่านน้องสาวอยู่ตลอด ตอนนี้เธอตั้งครรภ์เข้าเดือนที่สอง แล้ว เขาเริ่มเข้าข้างโอกาสสุดท้ายของตัวเองว่าเด็กในท้องต้องเป็นลูกของเขา แต่ทว่าช่วงนี้ เขาเริ่มเจอปัญหาในโรงงานที่พึ่งจะก่อตั้งและลงทุนไปเยอะมาก เงินที่ขายหุ้นไปได้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของที่ลงทุนไปเท่านั้น เจตสุวีย์ได้ยินเรื่องการดีลและซื้อขายวัตถุดิบที่เหมือนกับที่เขาใช้ในโรงงานไปเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและแถบอาเซียน มีการวิ่งเสนอราคาให้ลูกค้าทั้งต่อหน้าและตัดราคาลับหลัง โดยบริษัทหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาสงสัยนั้นจะตรงกับที่เคยเห็นครอบครัวที่มากับไอรดาหรือไม่ เธอไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง? พวกเขาเป็นใครกันแน่? เขาสั่งให้เลขานุการไปหาข้อมูลจาก ชื่อและนามสกุลของหุ้นส่วนใหญ่คนใหม่ของไอรดา และแล้วเจตสุวีย์ก็ได้เห็นว่า สามีของผู้หญิงที่ชื่ออุษา คือ แพทริค แอรอน สมิธ ครอบครัวนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและมั่งคั่งระดับ Billionaire เบอร์ต้นของแคลิฟอร์เนีย ธุรกิจในมือของแพทริคมีมากกว่า 20 แบรนด์อยู่ในมือ หลายหลายธุรกิจทั้งขาวและเทา กระจายอยู่ในยุโรปและอเมริกา บริษัท Startup ในซิลิค
จูนมองหน้าพี่ชายด้วยความผิดหวังอย่างที่สุด ก่อนจะมองตามหลังเพื่อนสนิทที่เดินออกไป“พี่โจใช้คนตามพวกเขาเหรอ? ที่มันเข้าข่ายคุกคามนะ แล้วเรื่องบริษัท จูนพึ่งรู้ว่าพี่จะทิ้งบริษัทไป แล้วเอาแต่เงินทุนออกเพื่อเอาตัวรอด ป๊ายกให้พี่โจตอนไหน? ทำไมจูนไม่รู้เรื่อง? แล้วป๊ากับม๊ารู้หรือยังว่าพี่โจถอนหุ้นทิ้งอายเอาไว้คนเดียว”เจตสุวีย์เหลือบตามองน้องสาวจอมดื้อของตัวเองที่ตั้งคำถามรัวไปหมด พลางถอนหายใจ“ก็ไม่ได้อยากทำหรอก พี่เสนอทางเลือกให้ก็ไม่เอา ยังจะไปกับไอ้นั่นอีก”“พี่โจ..ฟังนะ พวกเขาจดทะเบียนสมรสที่อเมริกาไปแล้ว พี่อยากเป็นชู้รึไง? บ้าจริง ปล่อยเพื่อนจูนไปเถอะ พอได้แล้ว”“จดหลังจากเป็นเมียพี่แล้ว ไม่ตลกไปหน่อยเหรอ อยากประชดพี่เรื่องเมียเก่าไอ้นั่นมั้ง”“พวกเขารักกันจริงๆไม่ได้ประชดพี่ เชื่อจูนสิ”“ว่าแต่เราเถอะ อย่าให้พี่เห็นหน้ามันอีกแล้วกัน ผู้ชายมีตั้งเยอะตั้งแยะ”“นั่นสิพี่โจ ผู้หญิงก็มีตั้งเยอะตั้งแยะเหมือนกัน”เจตสุวีย์เมินใส่น้องสาวที่พูดประชดประชัน เขาสั่งเช็คบิลแทน แล้วให้ลูกน้องพาไปที่บาร์ของเขาต่อ ส่วนจูนนั้นแยกไปหาแฟนหนุ่มแทนเพราะสงสารที่โดนพี่ชายเธอไล่วันต่อมาไอรดากับแมทธิวไปท
ทั้งสี่คนเมื่อถึงที่บ้านที่เชียงใหม่ ป้ารินที่รออยู่ก็ยิ้มแป้น โดยที่เด็กน้อยรีบโผเข้าไปกอด“หนูกลับมาแล้วววว คุณป้าขา”ทำเอาคุณย่าของเธอทำหน้าสลดลงนิดหน่อย ส่วนแมทธิวอาสาเอากระเป๋าของทุกคนไปเก็บ “แมทธิว ให้คุณย่านอนกับวีวี่นะ ให้พวกเขาได้คุ้นเคยกันอีกหน่อยเพราะเวลามีไม่มาก”ไอรดารีบเอ่ยปากชวนคุณย่าคุยต่อที่ห้องรับแขก ส่วนป้ารินออกไปข้างนอกกับวีวี่ที่จับจักรยานสีชมพูไปปั่นรอบๆบ้าน “ท่าทางคุณย่าเสียใจนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าได้คลุกคลีหรือพบเจอกันบ่อยๆ เธอคงคุ้นเคยไปเอง แกยังเด็กรับอะไรได้ง่ายกว่าถ้าโตแล้ว”“เด็กวัยรุ่นมันไม่รู้จักโตกัน พอท้องมาก็รับผิดชอบไม่ไหว แต่งงานมัดมือกันไปหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิก ทางนู้นไม่ให้มาเจอจะเอาแต่เงิน ทางนี้ส่งเงินให้ก็ไม่ได้มาก ทุกคนก็ช่วยๆกันเพราะลูกชายก็เรียนอยู่ตอนนั้น มารู้อีกทีแม่เด็กตัดขาดบอกไม่ต้องยุ่งเพราะแต่งงานมีผัวใหม่จะไปได้ดิบได้ดีที่ต่างประเทศ”“เอ่อ…แฟนหนู คือ สามีเก่าของเธอเอง แต่เขารักหลานของคุณย่าเหมือนลูกแท้ๆ หนูไม่รู้จะทำไง เขารักใครหนูก็รักด้วย”คุณย่าถึงกับมึนในความสัมพันธ์แปลกๆที่ยุ่งเยิงไปหมด “เลิกกันนานหรือยังก่อนมาเจอหนูน่ะ”
ขณะอยู่ในรถหลังจากมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นลง และทั้งคู่กำลังไปโรงพยาบาลอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาไอรดา“ดี…คุณเป็นพ่อที่ดีมาก มันต้องแบบนี้สิ แล้ววันที่ไปน่ะ ซื้อของไปเยอะๆ เข้าใจมั้ย ให้ภรรยาเก่าประหลาดใจไปเลย เข้าใจหรือยัง? แล้วฉันจะไปรับที่บ้านคุณ ส่งโลเคชั่นทิ้งไว้ในไลน์ให้ฉันด้วยแล้วกัน”พอวางสาย ไอรดารีบโอนเงินไปห้าหมื่น แล้วส่งสลิปให้ปลายทางเพื่อยืนยันการโอน “พรุ่งนี้เราต้องบินแต่เช้านะ ไปขอนแก่น” แมทธิวที่ขับรถอยู่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก “เอ้า ไม่ต้องงง ขับรถดีๆ เดี๋ยวรถก็ชนหรอก”“ที่รัก แล้วคุณคุยกับใครเมื่อกี้? พอวางสายก็บอกไปขอนแก่น”“พ่อของยัยเด็กดื้อน่ะสิ ใช้เขาให้ไปเอาเด็กมา แกล้งบอกว่าบ้านนั้นอยากอยู่กับหลานบ้าง ตอนแรกภรรยาเก่าคุณก็อิดออด แต่ฉันวางแผนไว้แล้วว่า ให้เขาแกล้งเสนอจะเอาเงินให้กานต์วิภาไปสองหมื่น เธอเลยตกลงง่ายหน่อย ส่วนเขา..ฉันให้สามหมื่นไปใช้เล่นๆ” “เสียเงินอีกแล้วที่รัก ไม่ดีเลยแบบนี้”แมทธิวพูดเสียงอ่อยๆ เขาก็มีส่วนที่ทำให้เธอต้องเสียเงินติดสินบนคนพวกนี้“คุณจองตั๋วด้วยแล้วกัน เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า hubby”ไอรดาเอาศีรษะมาซบไหล่เขาอ้อนๆ แค่นี้เขาก็ลืมอะ
แมทธิวเฝ้าดูแลไอรดาให้กินยาจนหลับไป แล้วเอาโน้ตบุ๊คคู่ใจขึ้นมาทำงานบนเตียง เขาแอบปรึกษาพ่อแม่และอากงอาม่าถึงสิ่งที่ไอรดากำลังประสบปัญหาอยู่ในแชทกลุ่มครอบครัว ซึ่งทุกคนพร้อมจะเสี่ยงกับเขา แต่ไปๆมาๆ เขามองว่า มันต้องใช้เงินเยอะมากและทุกคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเชิงกล กราไฟต์ หรือมอเตอร์อะไรต่างๆ จนกระทั่งเขาได้พิมพ์ชื่อโรงงานนี้ในกูเกิ้ล ได้เห็นความสำเร็จมากมาย มีลูกค้าชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ก่อนจะเริ่มอ่านข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เขาเริ่มใช้ความรู้เกี่ยวกับการเป็น Developer ทำแผนงานขึ้นมาและสร้าง Presentation คร่าวๆ เพื่อเสนอให้ใครบางคนที่มีหัวธุรกิจ ร่ำรวยและกล้าได้กล้าเสียมากพอ เขากดส่งทั้งหมดพร้อมกับภาวนาให้คุณพ่อคุณแม่ของไอรดาได้ช่วยเขาอีกครั้ง เหมือนตอนที่เขาขอเพื่อจะได้รักเธอขอให้สำเร็จกับสิ่งที่ผมอยากกอบกู้มันขึ้นมาเพื่อช่วยเธอ..ได้โปรด..Kensington,London Englandแพทริคที่กำลังทานมื้อเย็นกับภรรยาและลูกสาว เห็นแจ้งเตือนมีเมลเข้ามาจากในโทรศัพท์ “ขนาดอยู่ไทย ดึกแล้วยังขยันทำงาน”อุษาที่กำลังอุ้มอลิชาเพื่อป้อนข้าวอยู่นั้น เธอแค่ฟังแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ แพทริคทำสีหน้าสนใจอะ
ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ไอรดาไม่อยู่ จูนถูกสั่งไม่ให้ต้องเข้ามาทำงาน เพราะพี่ชายของเธอสั่งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายใน ส่วนแฟนหนุ่มของเธอถูกบอกเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย ทำให้จูนโกรธมาก และส่งข้อความบอกไอรดาให้รู้ตัว“เกิดอะไร ทำไมเป็นแบบนี้จูน?”“ตั้งแต่เธอไม่อยู่ได้สามสี่วัน พี่โจสั่งให้ฉันไม่ต้องเข้าไปที่ออฟฟิศ แต่ให้ไปทำอีกบริษัทของพี่โจแทน ฉันก็ไม่คิดอะไร แล้วอีกวันพี่บิวถูกบอกเลิกจ้างหน้าตาเฉย พอฉันบอกป๊าเรื่องที่พี่โจบอกเลิกจ้างแบบไม่มีเหตุผล กลับกลายเป็นว่าป๊ารู้แล้วว่าฉันคบกับพี่บิว ทุกคนเห็นด้วยกับพี่โจกันหมด..ฉันคิดว่าจะหนีไปจากที่นี่”“บ้าเหรอจูน แล้วม๊าล่ะ? ไม่ว่ายังไงเลยเหรอ?”“หม่าม๊าเข้าใจ แต่ไม่มีแอคชั่นอะไรกับเรื่องพี่บิว ฉันรู้ว่าม๊าก็คิดแบบทุกคนนั่นแหละ คิดว่าพี่บิวจะมาหลอกคบฉัน บางที..ฉันก็อยากเป็นเธอนะ ก็แค่หนีไป ไม่มีใครให้ต้องแคร์”“ฉันจะกลับไปไม่กี่วันนี้ แต่อย่าพึ่งบอกใครนะ ขอไปดูอะไรให้แน่ใจเสียก่อน รอฉันก่อนจูน อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”เธอนั่งบนตักของแมทธิวเพื่อคุยโทรศัพท์กับจูนอยู่พักหนึ่ง สีหน้าและน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความวิตกกังวล ทำให้เขารับรู้ได้“มีอะไรหรื
ไอรดานอนตะแคงหันหลังให้แล้วร้องไห้เงียบๆ แมทธิวมีน้ำตาที่ไหลออกมา เขากำมือแน่น โกรธ เสียใจและแค้นที่ผู้ชายคนนั้นทำร้ายคนรักของเขา แมทธิวคว้าโทรศัพท์ออกไปนอกห้อง แล้วโทรหาภรรยาเก่าซึ่งที่ไทยคือ สี่ทุ่มครึ่ง“เขาใช้คุณให้มาบอกผม แล้วพูดอะไรอีก?”“นี่เขาก็โทรมาหลายรอบแล้ว มาถามแต่ว่าคุณติดต่อกลับมามั้ย เขาอยากรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน เพราะเขาติดต่อภรรยาของเขาไม่ได้ ฉันบอกว่าไม่รู้เพราะบอกคุณแล้วแต่คุณไม่ตอบกลับมา”“ภรรยาบ้าบออะไรกัน แค่นี้นะ”“พี่แมท..สุดท้ายพี่ก็เป็นชู้ภรรยาคนอื่น เหมือนที่เคยว่าหนูว่ามีชู้นั่นแหละ บาปกรรมตามทันไวดีนะ”“คุณรู้แก่ใจดี..กานต์วิภา หลักฐานเกี่ยวกับตัวคุณมีชัดเจนว่าเล่นชู้ลับหลังผม ที่ไม่ฟ้องหย่าก็เพราะสงสารลูก แต่สำหรับไอรดา ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอมีอะไรด้วย เพราะฉะนั้นคนที่อยากเป็นมือที่สามก็คือเขา ไม่ใช่ผม ก็บอกให้เขาระวังตัวให้ดีแล้วกัน จงรู้เอาไว้..พวกคุณนั่นแหละที่เหมาะสมกันดี ไม่แปลกที่คุณจะนอนกับคนแบบนั้นเพื่อผลประโยชน์แล้วยังขูดรีดผมตลอดเพื่อไม่ให้มีชีวิตใหม่”แมทธิวที่ไม่เคยต่อว่าเธอมาก่อน โกรธก็แค่เงียบ แม้แต่ตอนที่จับได้ว่าคุยกับคนอื่นจนถึงวันหย่าก็ไ
คำถามที่ไม่มีคำตอบให้นั้น ทำให้เจตสุวีย์รู้ว่าเขาได้เปรียบเธอ แต่เขาห่วงที่เธอไม่สบายแล้วต้องอยู่คนเดียวมากกว่า “หนูไปอยู่บ้านพี่อยู่กับจูนสักพักดีมั้ยคะ? มีแม่บ้านคอยดูแลด้วย” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ อดทนแค่คืนนี้ พรุ่งนี้เที่ยง คนรักของเธอก็จะมาแล้ว…“หนูกินอะไรเมื่อวาน? เหมือนคนไม่มีแรงเลย พี่พาไปกินอะไรเบาๆก่อนดีกว่า”“ฉันแค่อยากพัก”เจตสุวีย์ดึงเธอเข้ามากอดอย่างง่ายดาย เขาหยุดคิดถึงร่างกายนี้ไม่ได้อีกเลยตั้งแต่ได้ครอบครองเธอในคืนนั้น “พี่ไปส่งหนูดีกว่านะคะ”“พอเถอะ หยุดทำแบบนี้ ให้ฉันมีช่องว่างหายใจบ้างได้มั้ย?”เธอผลักเขา แล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานเพื่อเอากระเป๋าและกุญแจรถ จูนรีบถามเพื่อนรักในทันที “อาย..เกิดอะไรขึ้น?” ไอรดามองไปที่เจตสุวีย์ที่เดินตามเข้ามา “ถามเขาสิ ว่าทำอะไรลงไป? ฉันกลับก่อนนะ ขอไปพักหน่อย”“พี่โจ ทำไมน่ะ พี่ทำอะไรอายหรือเปล่า?”“น้องอายกับพี่มีอะไรกันคืนวันเสาร์…จนถึงเช้า แล้วสัญญาว่าจะเลิกกับพ่อม่ายนั่น” ไอรดาทำหน้าเครียด ก่อนจะโต้กลับ“คุณขืนใจฉันแล้วขู่จะบอกเขา บิดเบือนแบบนี้ได้ยังไง?”จูนตกใจกับทุกอย่าง และโกรธที่พี่ชายทำแบบนี้กับเพื่อนเธอได้ลงคอ“พี่โจ