"แต่นี่มันเป็นคำสั่งจากหัวหน้าแผนก ถ้าเธอไม่เต็มใจทำก็ยื่นใบลาออกไปสิ"
"พี่เพ็ญคะ พี่จะใช้ตำแหน่งกดดันลูกน้องแบบนี้ไม่ได้นะ" เธอจะตกงานตอนนี้ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก แทบจะเดือนชนเดือนอยู่แล้ว
"แล้วเขาจะมีหัวหน้าไว้ทำไม ถ้าลูกน้องจะไม่ทำตามคำสั่ง"
"ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ชมขอให้มันจบลงแค่นี้ได้ไหมคะ ส่วนเรื่องผลงาน"
"อะไรนะ! เธอยังคิดว่าฉันแอบเอาผลงานเธออยู่งั้นเหรอ"
"พี่ช่วยฟังฉันให้จบก่อนได้ไหม"
"พูดมาสิ"
"ทุกเรื่องฉันจะปล่อยผ่านไป ขอแค่พี่อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย"
"ฉันทำอะไรเธอ? เธอหาว่าฉันแกล้งเธองั้นเหรอ"
คนมันจะหาเรื่อง ก็วนกลับมาที่เดิมอยู่แล้ว ถ้าขอย้ายแผนกตอนนี้คงเกิดปัญหาแน่ เพราะคนอื่นคงคิดว่าเธอกับหัวหน้าไม่ลงรอยกัน แล้วแผนกไหนอยากจะรับเธอล่ะ
ชมจันทร์ก็เลยพยายามคิดหาวิธีอื่น ..ไม่นะเราอย่าคิดแบบนั้นสิ มีความคิดวูบหนึ่งขึ้นมาในหัว คือเธอคิดถึงคำพูดของชาคริต เรื่องที่บอกว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายของแม่
"เดี๋ยวฉันจะส่งรายละเอียดให้เธอดู ว่าต้องไปทำการตลาดที่จังหวัดไหน"
"ฉันไปไม่ได้ เพราะฉันมีคนต้องดูแลที่นี่"
"เธอมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยเหรอว่าจะไปหรือไม่ไป"
"พี่เพ็ญคะ.." เห็นสายตาเพ็ญพักตร์แล้ว ชมจันทร์ถึงกับพูดต่อไม่ได้ เพราะสายตานั้นจ้องแต่จะหาเรื่อง ถึงแม้เธอคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนก็คงไม่เห็นใจแน่ แล้วเราจะทำยังไง ต้องออกจากงานงั้นเหรอ
"ออกไปเคลียร์งานที่ทำอยู่ให้เสร็จ"
ชมจันทร์หันหลังแล้วเดินออกจากห้องหัวหน้ามา วุฒิการศึกษาที่มีอยู่จะไปสมัครบริษัทไหนได้ ถ้าบริษัทนี้ไม่เห็นในความสามารถพิเศษของเธอ เธอก็คงไม่ได้เข้าทำงานที่นี่
"มีอะไรหรือเปล่าชม" เพื่อนทั้งสองรีบเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าชมจันทร์ออกมาจากห้องนั้นแล้ว
"ฉันจะทำยังไงดี"
"ทำไมเหรอ"
"หัวหน้าจะให้ฉันออกไปทำการตลาด"
"อะไรนะ? มันไม่ใช่หน้าที่ของเราสักหน่อย"
"ก็คนมันจ้องจะหาเรื่องไงเธอไม่รู้หรือ" วิเวียร์กระซิบพูดกับอันนา
"ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ของเธอล่ะ"
"ฉันคงไปไม่ได้หรอก"
"แล้วมีหนทางอื่นไหม"
"มีสิ"
"ถ้างั้นก็เลือกอีกทางหนึ่งสิ"
"แล้วอีกทางคืออะไร" ทั้งอันนาและวิเวียร์ต่างก็เปลี่ยนกันถาม
"ลาออก"
เที่ยงวันเดียวกัน..
"ชม!"
อึบ! เพื่อนที่เดินตามหลังมาเรียกชมจันทร์ไว้ไม่ทัน เพราะเธอมัวแต่เดินเหม่อลอยจนชนเข้ากับใครบางคน
"คุณเป็นอะไรไหมคะ" อันนาและวิเวียร์จำได้ในทันทีว่าชมจันทร์ชนเข้ากับใครก็เลยรีบเข้าไปช่วย
"ขอโทษค่ะ" ชมจันทร์รีบกล่าวคำขอโทษก่อนที่จะหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงที่เธอชนจนตกลงพื้น ส่งให้กับเจ้าของ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็เดินไม่ดูเหมือนกัน"
"ดูไกลๆ ว่าสวยแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งสวย" วิเวียร์กระซิบพูดกับอันนา
"แล้วคุณเป็นอะไรไหมคะ" เธอคนที่ถูกชนถามชมจันทร์คืนบ้าง
"ฉันอึดถึกทนไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ พวกคุณจะไปทานข้าวเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ"
"มีอะไรเหรอเพลงพิณ" จังหวะที่ชมจันทร์กำลังจะเดินไปก็ได้ยินเสียงนี้ดังขึ้นมาก่อน
"ไม่มีอะไรค่ะ แล้วทำไมถึงลงมาช้าจังล่ะคะ"
"คุณน่าจะรอลงมาพร้อมผม"
"คุณ?" เพลงพิณแปลกใจ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยใช้สรรพนามว่าคุณกับเธอเลย
"ไปกันครับ" ว่าแล้วฝ่ายชายก็โอบเอวผู้หญิงคนที่ชมจันทร์ชน แล้วเดินผ่านหน้าของชมจันทร์กับเพื่อนๆ ไป
"แล้วนี่ฉันต้องอกหักวันละกี่ครั้งเนี่ย"
"ทำไมเธอต้องอกหักด้วย ไม่ได้เป็นแฟนกับเขาสักหน่อย"
"ก็เห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ทุกวัน มันต่างอะไรกับคนอกหักล่ะ"
"พวกเธอหมายความว่ายังไง?" ชมจันทร์รู้แล้วว่าคนสำคัญที่เขาพูดถึงเมื่อวานนี้คือใคร แต่ที่เธอไม่เข้าใจว่าเพื่อนๆ กำลังพูดอะไรกัน
"ฉันลืมเลยว่าเธอยังไม่รู้..ผู้ชายคนที่หล่อๆ เมื่อสักครู่ชื่อคุณทัพไท เป็นผู้บริหารคนใหม่ของบริษัทเรา"
แทนที่ชมจันทร์จะมองตามหลังเขาไป แต่เธอกลับยืนตัวแข็งทื่อ นี่เธอกำลังพบเจอกับอะไรอยู่
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่าชม" เพื่อนสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนก่อนมานั่งทานข้าวแล้ว ว่าชมจันทร์ดูเหม่อลอยผิดปกติ"พวกเธอพอจะรู้ไหมว่าบริษัทไหนเขารับสมัครพนักงาน""เธออย่าพูดแบบนั้นสิ พวกฉันใจหายนะ""ฉันคงต้องหางานอื่นไว้รองรับ""เธอมีแค่วุฒิมัธยมไม่ใช่เหรอ""ใช่ หรือฉันจะไปขอเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลดี" อย่างมากเธอก็ได้อยู่ใกล้แม่คอยดูแลท่าน"ไม่เอาอย่าทำแบบนั้นเลย""ใช่..ทุกปัญหามันต้องมีทางออกสิ""แต่ฉันหาทางออกไม่เจอ" อุตส่าห์ใจจดใจจ่อรอสิ้นปี เพราะผลงานที่เธอทำไว้ก็มีหลายชิ้น คงได้โบนัสกับเขาบ้าง แต่นี่ ดูชะตากรรมตัวเองแล้วคงอยู่บริษัทนี้ไม่ถึงสิ้นปีแน่"อร่อยไหมครับ" ขณะที่ทั้งสามทานข้าวและนั่งคุยกันอยู่ ชาคริตก็ได้เข้ามาร่วมโต๊ะด้วย"......" วิเวียร์และอันนามองมาที่ชมจันทร์แทบจะพร้อมกันส่วนชมจันทร์ตักข้าวใส่ปากแล้วเคี้ยวแบบไม่สนใจ"ผมซื้อของกินมาฝากด้วย" ว่าแล้วชาคริตก็วางถุงที่ซื้อมาลงตรงหน้าชมจันทร์ "คุณสองคนจะทานด้วยก็ได้นะครับ ผมซื้อมาเผื่อด้วย""ขอบคุณค่ะ แต่พวกเราใกล้จะอิ่มแล้ว" ตอนที่วิเวียร์พูดมองไปก็เห็นว่าเพ็ญพักตร์กับกลุ่มหัวหน้ามองมาเช่นกัน วิเวียร์ก็เลยสะกิดอันนาและชมจันทร์ดู"เธอ
"มีอะไรหรือเปล่าลูก" พอลูกสาวกลับเข้ามาก็เอาแต่นั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จา"คุณแม่ว่าอะไรนะคะ""แม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่าลูก""ไม่ผิดหรอกค่ะ แม่นอนพักผ่อนเยอะๆ นะคะ อีกสองวันคุณหมอก็จะเดินทางมาถึงแล้ว" หลังจากที่ชาคริตไป ชมจันทร์ก็เข้าไปพบคุณหมอ ถามเรื่องค่ารักษาและค่าห้องพักว่าเธอต้องจ่ายเท่าไรเรื่องค่ารักษาต้องรอให้อาจารย์หมอวินิจฉัยดูก่อน ส่วนค่าห้องพักก็ต้องดูว่าคนไข้จะอยู่นานเท่าไร แต่หลักๆ เตรียมเงินล้านไว้รอได้เลย"พ่อชาคริตก็เป็นคนดีนะลูก คนเราจะเห็นความดีของกันก็ตอนลำบากนี่แหละ""แม่นอนนะคะ" เธอไม่อยากได้ยินแม้แต่ชื่อของผู้ชายคนนั้น แต่เธอจะทำยังไงดีเช้าวันต่อมา.. เมื่อคืนชมจันทร์นอนห้องพิเศษกับแม่ มีทั้งโซฟาให้นอน แอร์เย็นๆ แต่ทำไมเธอถึงนอนไม่หลับหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกมาบริษัท พอมาถึง..กำลังใจก็ลดน้อยถอยลงไปอีก เพราะยังมีเรื่องที่ถูกย้ายให้ออกไปทำการตลาดต่างจังหวัด เงินรักษาแม่ก็ยังหาไม่ได้"ชม!!"เอี๊ยดดด~"ชมเธอเป็นอะไรไหม" วิเวียร์รีบเข้าไปดูเพื่อน"ฉันไม่เป็นอะไร" ชมจันทร์มองดูรถคันที่เกือบชนเธอ เจ้าของรถไม่แม้แต่จะลงมาดู"นี่มันรถของผู้บริหารคนใหม่ใช่ไหม?""เรา
"ฉันขอคุยอะไรกับคุณหน่อยได้ไหมคะ"ชายหนุ่มที่อยู่ในลิฟต์ด้วยกัน มองหน้าเธอโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ..แต่มันก็ดีมากแล้วสำหรับเธอที่เขายังมองหน้าอยู่"ฉันขอร้อง"ชมจันทร์ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร"คุณทัพไทคะ ฉันขอร้องนะคะ""จำชื่อฉันได้ด้วยเหรอ" ชายหนุ่มหันมามองเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากลิฟต์"จำได้สิคะ" ชมจันทร์ทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดแล้วเดินตามเขามาที่ห้องทำงาน"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ" เลขาที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบพูดหยุดเธอไว้ก่อน แต่ก็ไม่กล้าขวาง เพราะไม่แน่ใจว่าคุณทัพไทจะให้เธอตามเข้าไปด้วยไหมตำแหน่งประธานบริษัทยังคงเป็นของเทวินน้องเขยของเขาอยู่ ถึงแม้ทัพไทจะเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ตำแหน่งของเขายังไม่แน่ชัดสโนไวท์ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมพี่ชายถึงยอมตกลงมาบริหารงานที่นี่ให้ ที่จริงโครงการขยายกิจการมีมาได้สองปีแล้ว แต่เธอกับสามียังไม่กล้าวางมือจากที่นี่ เพราะถึงอย่างไรบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทที่คุณปู่ของเทวินสร้างขึ้นมาแต่พอทัพไทไม่พูดอะไร ชุติมาเลขาหน้าห้องจำเป็นต้องปล่อยให้ชมจันทร์เข้าไปพอเข้ามาในห้องทัพไทก็เดินไปยืนมองทอดสายตาออกไปนอกอาคารที่มีผนังเป็นกระจ
"ถ้าช่วยเธอแล้วฉันจะได้อะไร""คุณต้องการอะไรล่ะคะ" ในเมื่อเขาถามมาแบบนั้น แล้วเธอจะตอบยังไงล่ะ..นอกจาก ถามเขากลับว่าต้องการอะไรจากเธอ"ยังไม่ได้คิด" สายตาเขายังคงจ้องมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยากให้เธอเป็นคนเสนอมาเอง"คุณจะทำเป็นสัญญาขึ้นมา ก็ได้นะคะ ฉันจะทยอยใช้เงินคืนให้คุณ""ยืมไปเป็นก้อน แต่จะใช้ทีละบาทสองบาท?""คุณก็พูดมาสิคะว่าคุณต้องการแบบไหน" ตอนนี้เธอมองไม่เห็นทางไหนแล้วจริงๆ เขาจะดูถูกเธอแค่ไหนก็คงต้องทนเอาสายตาคมมองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำตัวของผู้หญิงจนคนที่ถูกมองรู้สึกอายสายตานั้น แต่เธอก็ยืนให้เขามองสำรวจเรือนร่างของเธอโดยไม่หลบไปไหน"ถ้าฉันบอกว่าต้องการตัวเธอล่ะ""ค่ะ""?" เป็นเขาเองที่แปลกใจ ทีแรกกลัวว่าจะถูกเธอตบหน้าด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะตอบตกลงง่ายดายแบบนี้"แต่ฉันคิดว่าตัวฉันคงมีค่ามากกว่าสองข้อนั้น ฉันขอเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง" คนเราเกิดมาต้องคิดว่าตัวเองมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว ถ้าเธอจะใช้มันแลกกับอะไรสักอย่างต้องให้มันคุ้มกว่านี้"ว่ามา""ไล่หัวหน้าแผนกที่ชื่อเพ็ญพักตร์ และชาคริตออก""ได้สิ"ทำไมเขาตอบตกลงง่ายจัง แต่ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเสียเ
"จริงเหรอ?""ได้ยินมาแว่วๆ แบบนั้น""ก็เห็นว่ากิจการไปได้สวย แล้วทำไมถึงมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งล่ะ""ก็เพราะไปได้สวยนั่นแหละ ตอนนี้ท่านประธานขยายกิจการ""อ๋อเป็นแบบนี้เองเหรอ หวังว่าผู้บริหารคนใหม่คงใจดีเหมือนคนเก่านะ""ใจดีหรือใจไม่ดีก็ยังไม่รู้หรอก แต่ความหล่อกินขาด""พูดเหมือนว่าเห็นหน้าท่านแล้วงั้นแหละ""ไม่เห็นก็รู้ น้องสาวสวยขนาดนั้นพี่ชายจะเหลือเหรอ""น้องสาว?""ก็พี่ชายของคุณสโนไวท์ไง""มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ แล้วงานจะส่งทันไหม ทำให้ต้องพูดทุกวัน" พอเสียงนี้ดังขึ้น คนที่กำลังคุยกันอยู่ต้องรีบแยกย้ายไปหางานของตัวเองอย่างไว"ชมจันทร์""คะ""ไปเอางานมาแก้ใหม่""แก้ใหม่งั้นเหรอคะ""งานชุ่ยๆ แบบนั้นจะไปเสนอผู้บริหารได้ยังไง""ใช้คำว่าชุ่ยเลยเหรอ""บ่นอะไร""แก้ก็แก้ค่ะ" ชมจันทร์ทำงานที่นี่มาก็เข้าปีที่สองแล้ว ถ้าเธอเรียนมหาวิทยาลัยจบคงได้ทำงานตำแหน่งที่สูงกว่านี้ แต่นี่ก็ถือว่าดีมากแล้วที่บริษัทใหญ่ขนาดนี้รับเธอเข้าทำงานสองชั่วโมงผ่านไป.."อะไรกัน ให้แก้งานแค่นี้ยังไม่เสร็จอีกเหรอ""แต่ชมคิดว่างานเก่าก็ดีแล้วนี่คะ" เธอนั่งมองงานโปรเจคที่ส่งหัวหน้าไป หาจุดที่ต้องแก้อยู่
"ดูเธอจะไม่มีอารมณ์ร่วมกับฉันเลยนะ" พอวิเวียร์พูดเรื่องที่ตัวเองได้ยินมาให้กับเพื่อนรับรู้ แต่เห็นว่าชมจันทร์ยังคงนั่งทำหน้าขรึมอยู่ "ตกลงมันมีอะไรกันแน่ บอกฉันได้หรือยัง" วิเวียร์หันไปถามอันนา เพราะถ้าถามชมจันทร์ก็คงจะยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี"ก็เรื่องนั้นแหละ ชมมันคิดว่าหัวหน้าเอาผลงานมันไปเอาหน้า""ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แบบหัวหน้าเหรอจะคิดงานเองได้""เธออย่าพูดแบบนั้นสิ ถึงยังไงพี่เพ็ญก็เป็นหัวหน้า""จับฉลากมาได้หรือเปล่าไม่รู้""พวกเธอช่วยอะไรฉันหน่อยสิ" ชมจันทร์คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ"พวกเธอแกล้งเข้าไปในห้องหัวหน้า แล้วก็ดู Project ที่หัวหน้าเสนอไป ขอดูแค่หัวข้อก็พอแล้ว""เธอจะบ้าเหรอ""แบบนี้คอขาดกันยกทีมเลยนะ"ชมจันทร์ไม่มีวันยอมแน่ ถ้าทำดีกับเธอสักนิดเธอคงพอหลับหูหลับตาปล่อยไปได้"ถ้างั้นคืนนี้เรารอให้หัวหน้ากลับก่อน แล้วค่อยขึ้นมาแอบดูดีไหม""แล้วถ้าข้างล่างเขาล็อกเราจะออกยังไงล่ะ""เออใช่ เดี๋ยวก็หาว่าขโมยของบริษัท งานเข้าหนักกว่าเก่าอีก" ทั้งสามเป็นเพื่อนที่เพิ่งมารู้จักกันตอนทำงาน มีอะไรก็คอยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันมาตลอดจนถึงเย็นวันนั้น.. ในเมื่อเธอหาวิธีเข้าไปดูโปร
"เดี๋ยวฉันมานะ" ขณะที่วิเวียร์กำลังจะส่งรูปให้เพื่อนดู ชมจันทร์เห็นว่าหัวหน้าเดินไปทางด้านหลังของบริษัทก็เลยจะตามไปดู"แล้วนั่นยัยชมจะไปไหน""คงไปเข้าห้องน้ำมั้ง แล้วไหนรูปที่จะให้ดู""ลืมเลย..นี่ไง" ว่าแล้ววีเวียร์ก็ส่งให้กับอันนาได้ดู"หึ..ไม่เหลือหรอก" พออันนาเห็นรูปผู้ชายในโทรศัพท์ของเพื่อน ก็รู้ได้ในทันทีว่าคงไม่เหลือ"อะไรไม่เหลือของเธอ""คงมีคนจองไปแล้วล่ะ ถ้าไม่มีแฟนก็คงมีเมียมีลูกไปแล้ว หล่อขนาดนี้""ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ ภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้มีใครเลย""พูดเหมือนว่าเธอจะมีสิทธิ์งั้นแหละ""เผื่อสวรรค์เห็นใจฉันบ้างไง""ตื่นได้แล้วมัวแต่ฝันอยู่ได้ แล้วนี่ยัยชมจะเข้างานทันไหมเนี่ย""เราตามไปดีไหมหรือว่าจะไปรอที่แผนก"หลังบริษัท.."คุณอย่าลืมสิว่าคุณมีครอบครัวแล้ว ส่วนผมก็อยากมีครอบครัวเป็นของผมเองบ้าง""ทีตอนนั้นไม่เห็นคุณพูดแบบนี้เลย เพราะมันใช่ไหม" ตอนนั้นที่เพ็ญพักตร์หมายถึง ก็คือตอนที่เพ็ญพักตร์พยายามผลักดันให้ฝ่ายชายได้มีหน้าที่ตำแหน่งที่สูงขึ้น"เราจบกันแค่นี้เถอะ ผมไม่อยากทำบาปไปมากกว่านี้ และอีกอย่างถ้าคนรู้เรื่องเรามีหวังตกงานกันแพ็คคู่แน่" เพราะบริษัทนี้ไม่สนับสนุนให้มีเรื
ชมจันทร์คิดว่าตัวเองมองผิดก็เลยขยี้ตาแล้วมองใหม่ พอแน่ใจแล้วว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นใคร มือเรียวเอื้อมไปกำลังจะเปิดประตูรถ แต่ถ้าลงไปตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการหนีเสือปะจระเข้เลย"คุณมาทำอะไรที่นี่" เธอหยุดอาการลุกลี้ลุกลนไว้ แล้วหันมาคุยกับเจ้าของรถ"คงไม่คิดว่าฉันตามเธอมาหรอกนะ""ฉันก็ถามอยู่นี่ไงว่าคุณมาทำอะไร""มาทำงาน""คุณทำงานบริษัทนี้เหมือนกันเหรอ?" ใบหน้างามหันขวับไปมองหน้าเจ้าของรถด้วยความตกใจ"ไม่คิดว่าเธออยากจะรู้เรื่องของฉันด้วย""คุณกำลังจะกลับแล้วใช่ไหม ฉันขอติดรถออกไปจากที่นี่ก่อนได้ไหม""คงไม่ได้หรอก เพราะฉันกำลังรอรับคนสำคัญอยู่""?" รอรับคนสำคัญงั้นเหรอ หรือว่าเขารอแฟน พอคิดได้เธอก็รีบเปิดประตู เพราะถ้าแฟนเขามาเห็นคงต้องมีปัญหากันแน่ชมจันทร์ลงจากรถก็รีบเดินตรงไปที่ป้ายรถเมล์โดยไม่มองว่าชาคริตจะตามมาไหม เพราะรถของเขายังคงจอดอยู่ที่เดิมอยู่ดีๆ ก็หาเรื่องใส่ตัว ทำไมต้องไปรับรู้เรื่องอะไรแบบนั้นด้วย แล้วทำไมต้องมาทำงานที่เดียวกับเราด้วย ฉันต้องตกใจเรื่องไหนก่อนดีเนี่ย มีแต่เรื่องประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อนรออยู่ไม่นานก็มีแท็กซี่ผ่านมา ชมจันทร์ก็เลยเรียกให้ไปส่งที่โรงพยาบาลพอ
"ถ้าช่วยเธอแล้วฉันจะได้อะไร""คุณต้องการอะไรล่ะคะ" ในเมื่อเขาถามมาแบบนั้น แล้วเธอจะตอบยังไงล่ะ..นอกจาก ถามเขากลับว่าต้องการอะไรจากเธอ"ยังไม่ได้คิด" สายตาเขายังคงจ้องมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยากให้เธอเป็นคนเสนอมาเอง"คุณจะทำเป็นสัญญาขึ้นมา ก็ได้นะคะ ฉันจะทยอยใช้เงินคืนให้คุณ""ยืมไปเป็นก้อน แต่จะใช้ทีละบาทสองบาท?""คุณก็พูดมาสิคะว่าคุณต้องการแบบไหน" ตอนนี้เธอมองไม่เห็นทางไหนแล้วจริงๆ เขาจะดูถูกเธอแค่ไหนก็คงต้องทนเอาสายตาคมมองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำตัวของผู้หญิงจนคนที่ถูกมองรู้สึกอายสายตานั้น แต่เธอก็ยืนให้เขามองสำรวจเรือนร่างของเธอโดยไม่หลบไปไหน"ถ้าฉันบอกว่าต้องการตัวเธอล่ะ""ค่ะ""?" เป็นเขาเองที่แปลกใจ ทีแรกกลัวว่าจะถูกเธอตบหน้าด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าจะตอบตกลงง่ายดายแบบนี้"แต่ฉันคิดว่าตัวฉันคงมีค่ามากกว่าสองข้อนั้น ฉันขอเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง" คนเราเกิดมาต้องคิดว่าตัวเองมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว ถ้าเธอจะใช้มันแลกกับอะไรสักอย่างต้องให้มันคุ้มกว่านี้"ว่ามา""ไล่หัวหน้าแผนกที่ชื่อเพ็ญพักตร์ และชาคริตออก""ได้สิ"ทำไมเขาตอบตกลงง่ายจัง แต่ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเสียเ
"ฉันขอคุยอะไรกับคุณหน่อยได้ไหมคะ"ชายหนุ่มที่อยู่ในลิฟต์ด้วยกัน มองหน้าเธอโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ..แต่มันก็ดีมากแล้วสำหรับเธอที่เขายังมองหน้าอยู่"ฉันขอร้อง"ชมจันทร์ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร"คุณทัพไทคะ ฉันขอร้องนะคะ""จำชื่อฉันได้ด้วยเหรอ" ชายหนุ่มหันมามองเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากลิฟต์"จำได้สิคะ" ชมจันทร์ทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดแล้วเดินตามเขามาที่ห้องทำงาน"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ" เลขาที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบพูดหยุดเธอไว้ก่อน แต่ก็ไม่กล้าขวาง เพราะไม่แน่ใจว่าคุณทัพไทจะให้เธอตามเข้าไปด้วยไหมตำแหน่งประธานบริษัทยังคงเป็นของเทวินน้องเขยของเขาอยู่ ถึงแม้ทัพไทจะเป็นผู้บริหารระดับสูง แต่ตำแหน่งของเขายังไม่แน่ชัดสโนไวท์ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมพี่ชายถึงยอมตกลงมาบริหารงานที่นี่ให้ ที่จริงโครงการขยายกิจการมีมาได้สองปีแล้ว แต่เธอกับสามียังไม่กล้าวางมือจากที่นี่ เพราะถึงอย่างไรบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทที่คุณปู่ของเทวินสร้างขึ้นมาแต่พอทัพไทไม่พูดอะไร ชุติมาเลขาหน้าห้องจำเป็นต้องปล่อยให้ชมจันทร์เข้าไปพอเข้ามาในห้องทัพไทก็เดินไปยืนมองทอดสายตาออกไปนอกอาคารที่มีผนังเป็นกระจ
"มีอะไรหรือเปล่าลูก" พอลูกสาวกลับเข้ามาก็เอาแต่นั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จา"คุณแม่ว่าอะไรนะคะ""แม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่าลูก""ไม่ผิดหรอกค่ะ แม่นอนพักผ่อนเยอะๆ นะคะ อีกสองวันคุณหมอก็จะเดินทางมาถึงแล้ว" หลังจากที่ชาคริตไป ชมจันทร์ก็เข้าไปพบคุณหมอ ถามเรื่องค่ารักษาและค่าห้องพักว่าเธอต้องจ่ายเท่าไรเรื่องค่ารักษาต้องรอให้อาจารย์หมอวินิจฉัยดูก่อน ส่วนค่าห้องพักก็ต้องดูว่าคนไข้จะอยู่นานเท่าไร แต่หลักๆ เตรียมเงินล้านไว้รอได้เลย"พ่อชาคริตก็เป็นคนดีนะลูก คนเราจะเห็นความดีของกันก็ตอนลำบากนี่แหละ""แม่นอนนะคะ" เธอไม่อยากได้ยินแม้แต่ชื่อของผู้ชายคนนั้น แต่เธอจะทำยังไงดีเช้าวันต่อมา.. เมื่อคืนชมจันทร์นอนห้องพิเศษกับแม่ มีทั้งโซฟาให้นอน แอร์เย็นๆ แต่ทำไมเธอถึงนอนไม่หลับหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกมาบริษัท พอมาถึง..กำลังใจก็ลดน้อยถอยลงไปอีก เพราะยังมีเรื่องที่ถูกย้ายให้ออกไปทำการตลาดต่างจังหวัด เงินรักษาแม่ก็ยังหาไม่ได้"ชม!!"เอี๊ยดดด~"ชมเธอเป็นอะไรไหม" วิเวียร์รีบเข้าไปดูเพื่อน"ฉันไม่เป็นอะไร" ชมจันทร์มองดูรถคันที่เกือบชนเธอ เจ้าของรถไม่แม้แต่จะลงมาดู"นี่มันรถของผู้บริหารคนใหม่ใช่ไหม?""เรา
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่าชม" เพื่อนสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนก่อนมานั่งทานข้าวแล้ว ว่าชมจันทร์ดูเหม่อลอยผิดปกติ"พวกเธอพอจะรู้ไหมว่าบริษัทไหนเขารับสมัครพนักงาน""เธออย่าพูดแบบนั้นสิ พวกฉันใจหายนะ""ฉันคงต้องหางานอื่นไว้รองรับ""เธอมีแค่วุฒิมัธยมไม่ใช่เหรอ""ใช่ หรือฉันจะไปขอเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลดี" อย่างมากเธอก็ได้อยู่ใกล้แม่คอยดูแลท่าน"ไม่เอาอย่าทำแบบนั้นเลย""ใช่..ทุกปัญหามันต้องมีทางออกสิ""แต่ฉันหาทางออกไม่เจอ" อุตส่าห์ใจจดใจจ่อรอสิ้นปี เพราะผลงานที่เธอทำไว้ก็มีหลายชิ้น คงได้โบนัสกับเขาบ้าง แต่นี่ ดูชะตากรรมตัวเองแล้วคงอยู่บริษัทนี้ไม่ถึงสิ้นปีแน่"อร่อยไหมครับ" ขณะที่ทั้งสามทานข้าวและนั่งคุยกันอยู่ ชาคริตก็ได้เข้ามาร่วมโต๊ะด้วย"......" วิเวียร์และอันนามองมาที่ชมจันทร์แทบจะพร้อมกันส่วนชมจันทร์ตักข้าวใส่ปากแล้วเคี้ยวแบบไม่สนใจ"ผมซื้อของกินมาฝากด้วย" ว่าแล้วชาคริตก็วางถุงที่ซื้อมาลงตรงหน้าชมจันทร์ "คุณสองคนจะทานด้วยก็ได้นะครับ ผมซื้อมาเผื่อด้วย""ขอบคุณค่ะ แต่พวกเราใกล้จะอิ่มแล้ว" ตอนที่วิเวียร์พูดมองไปก็เห็นว่าเพ็ญพักตร์กับกลุ่มหัวหน้ามองมาเช่นกัน วิเวียร์ก็เลยสะกิดอันนาและชมจันทร์ดู"เธอ
"แต่นี่มันเป็นคำสั่งจากหัวหน้าแผนก ถ้าเธอไม่เต็มใจทำก็ยื่นใบลาออกไปสิ""พี่เพ็ญคะ พี่จะใช้ตำแหน่งกดดันลูกน้องแบบนี้ไม่ได้นะ" เธอจะตกงานตอนนี้ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก แทบจะเดือนชนเดือนอยู่แล้ว"แล้วเขาจะมีหัวหน้าไว้ทำไม ถ้าลูกน้องจะไม่ทำตามคำสั่ง""ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ชมขอให้มันจบลงแค่นี้ได้ไหมคะ ส่วนเรื่องผลงาน""อะไรนะ! เธอยังคิดว่าฉันแอบเอาผลงานเธออยู่งั้นเหรอ""พี่ช่วยฟังฉันให้จบก่อนได้ไหม""พูดมาสิ""ทุกเรื่องฉันจะปล่อยผ่านไป ขอแค่พี่อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย""ฉันทำอะไรเธอ? เธอหาว่าฉันแกล้งเธองั้นเหรอ"คนมันจะหาเรื่อง ก็วนกลับมาที่เดิมอยู่แล้ว ถ้าขอย้ายแผนกตอนนี้คงเกิดปัญหาแน่ เพราะคนอื่นคงคิดว่าเธอกับหัวหน้าไม่ลงรอยกัน แล้วแผนกไหนอยากจะรับเธอล่ะชมจันทร์ก็เลยพยายามคิดหาวิธีอื่น ..ไม่นะเราอย่าคิดแบบนั้นสิ มีความคิดวูบหนึ่งขึ้นมาในหัว คือเธอคิดถึงคำพูดของชาคริต เรื่องที่บอกว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายของแม่"เดี๋ยวฉันจะส่งรายละเอียดให้เธอดู ว่าต้องไปทำการตลาดที่จังหวัดไหน""ฉันไปไม่ได้ เพราะฉันมีคนต้องดูแลที่นี่""เธอมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยเหรอว่าจะไปหรือไม่ไป""พี่เพ็ญคะ.." เห็นสา
ชมจันทร์คิดว่าตัวเองมองผิดก็เลยขยี้ตาแล้วมองใหม่ พอแน่ใจแล้วว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นใคร มือเรียวเอื้อมไปกำลังจะเปิดประตูรถ แต่ถ้าลงไปตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการหนีเสือปะจระเข้เลย"คุณมาทำอะไรที่นี่" เธอหยุดอาการลุกลี้ลุกลนไว้ แล้วหันมาคุยกับเจ้าของรถ"คงไม่คิดว่าฉันตามเธอมาหรอกนะ""ฉันก็ถามอยู่นี่ไงว่าคุณมาทำอะไร""มาทำงาน""คุณทำงานบริษัทนี้เหมือนกันเหรอ?" ใบหน้างามหันขวับไปมองหน้าเจ้าของรถด้วยความตกใจ"ไม่คิดว่าเธออยากจะรู้เรื่องของฉันด้วย""คุณกำลังจะกลับแล้วใช่ไหม ฉันขอติดรถออกไปจากที่นี่ก่อนได้ไหม""คงไม่ได้หรอก เพราะฉันกำลังรอรับคนสำคัญอยู่""?" รอรับคนสำคัญงั้นเหรอ หรือว่าเขารอแฟน พอคิดได้เธอก็รีบเปิดประตู เพราะถ้าแฟนเขามาเห็นคงต้องมีปัญหากันแน่ชมจันทร์ลงจากรถก็รีบเดินตรงไปที่ป้ายรถเมล์โดยไม่มองว่าชาคริตจะตามมาไหม เพราะรถของเขายังคงจอดอยู่ที่เดิมอยู่ดีๆ ก็หาเรื่องใส่ตัว ทำไมต้องไปรับรู้เรื่องอะไรแบบนั้นด้วย แล้วทำไมต้องมาทำงานที่เดียวกับเราด้วย ฉันต้องตกใจเรื่องไหนก่อนดีเนี่ย มีแต่เรื่องประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อนรออยู่ไม่นานก็มีแท็กซี่ผ่านมา ชมจันทร์ก็เลยเรียกให้ไปส่งที่โรงพยาบาลพอ
"เดี๋ยวฉันมานะ" ขณะที่วิเวียร์กำลังจะส่งรูปให้เพื่อนดู ชมจันทร์เห็นว่าหัวหน้าเดินไปทางด้านหลังของบริษัทก็เลยจะตามไปดู"แล้วนั่นยัยชมจะไปไหน""คงไปเข้าห้องน้ำมั้ง แล้วไหนรูปที่จะให้ดู""ลืมเลย..นี่ไง" ว่าแล้ววีเวียร์ก็ส่งให้กับอันนาได้ดู"หึ..ไม่เหลือหรอก" พออันนาเห็นรูปผู้ชายในโทรศัพท์ของเพื่อน ก็รู้ได้ในทันทีว่าคงไม่เหลือ"อะไรไม่เหลือของเธอ""คงมีคนจองไปแล้วล่ะ ถ้าไม่มีแฟนก็คงมีเมียมีลูกไปแล้ว หล่อขนาดนี้""ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ ภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้มีใครเลย""พูดเหมือนว่าเธอจะมีสิทธิ์งั้นแหละ""เผื่อสวรรค์เห็นใจฉันบ้างไง""ตื่นได้แล้วมัวแต่ฝันอยู่ได้ แล้วนี่ยัยชมจะเข้างานทันไหมเนี่ย""เราตามไปดีไหมหรือว่าจะไปรอที่แผนก"หลังบริษัท.."คุณอย่าลืมสิว่าคุณมีครอบครัวแล้ว ส่วนผมก็อยากมีครอบครัวเป็นของผมเองบ้าง""ทีตอนนั้นไม่เห็นคุณพูดแบบนี้เลย เพราะมันใช่ไหม" ตอนนั้นที่เพ็ญพักตร์หมายถึง ก็คือตอนที่เพ็ญพักตร์พยายามผลักดันให้ฝ่ายชายได้มีหน้าที่ตำแหน่งที่สูงขึ้น"เราจบกันแค่นี้เถอะ ผมไม่อยากทำบาปไปมากกว่านี้ และอีกอย่างถ้าคนรู้เรื่องเรามีหวังตกงานกันแพ็คคู่แน่" เพราะบริษัทนี้ไม่สนับสนุนให้มีเรื
"ดูเธอจะไม่มีอารมณ์ร่วมกับฉันเลยนะ" พอวิเวียร์พูดเรื่องที่ตัวเองได้ยินมาให้กับเพื่อนรับรู้ แต่เห็นว่าชมจันทร์ยังคงนั่งทำหน้าขรึมอยู่ "ตกลงมันมีอะไรกันแน่ บอกฉันได้หรือยัง" วิเวียร์หันไปถามอันนา เพราะถ้าถามชมจันทร์ก็คงจะยังไม่ได้คำตอบอยู่ดี"ก็เรื่องนั้นแหละ ชมมันคิดว่าหัวหน้าเอาผลงานมันไปเอาหน้า""ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แบบหัวหน้าเหรอจะคิดงานเองได้""เธออย่าพูดแบบนั้นสิ ถึงยังไงพี่เพ็ญก็เป็นหัวหน้า""จับฉลากมาได้หรือเปล่าไม่รู้""พวกเธอช่วยอะไรฉันหน่อยสิ" ชมจันทร์คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ"พวกเธอแกล้งเข้าไปในห้องหัวหน้า แล้วก็ดู Project ที่หัวหน้าเสนอไป ขอดูแค่หัวข้อก็พอแล้ว""เธอจะบ้าเหรอ""แบบนี้คอขาดกันยกทีมเลยนะ"ชมจันทร์ไม่มีวันยอมแน่ ถ้าทำดีกับเธอสักนิดเธอคงพอหลับหูหลับตาปล่อยไปได้"ถ้างั้นคืนนี้เรารอให้หัวหน้ากลับก่อน แล้วค่อยขึ้นมาแอบดูดีไหม""แล้วถ้าข้างล่างเขาล็อกเราจะออกยังไงล่ะ""เออใช่ เดี๋ยวก็หาว่าขโมยของบริษัท งานเข้าหนักกว่าเก่าอีก" ทั้งสามเป็นเพื่อนที่เพิ่งมารู้จักกันตอนทำงาน มีอะไรก็คอยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันมาตลอดจนถึงเย็นวันนั้น.. ในเมื่อเธอหาวิธีเข้าไปดูโปร
"จริงเหรอ?""ได้ยินมาแว่วๆ แบบนั้น""ก็เห็นว่ากิจการไปได้สวย แล้วทำไมถึงมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งล่ะ""ก็เพราะไปได้สวยนั่นแหละ ตอนนี้ท่านประธานขยายกิจการ""อ๋อเป็นแบบนี้เองเหรอ หวังว่าผู้บริหารคนใหม่คงใจดีเหมือนคนเก่านะ""ใจดีหรือใจไม่ดีก็ยังไม่รู้หรอก แต่ความหล่อกินขาด""พูดเหมือนว่าเห็นหน้าท่านแล้วงั้นแหละ""ไม่เห็นก็รู้ น้องสาวสวยขนาดนั้นพี่ชายจะเหลือเหรอ""น้องสาว?""ก็พี่ชายของคุณสโนไวท์ไง""มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ แล้วงานจะส่งทันไหม ทำให้ต้องพูดทุกวัน" พอเสียงนี้ดังขึ้น คนที่กำลังคุยกันอยู่ต้องรีบแยกย้ายไปหางานของตัวเองอย่างไว"ชมจันทร์""คะ""ไปเอางานมาแก้ใหม่""แก้ใหม่งั้นเหรอคะ""งานชุ่ยๆ แบบนั้นจะไปเสนอผู้บริหารได้ยังไง""ใช้คำว่าชุ่ยเลยเหรอ""บ่นอะไร""แก้ก็แก้ค่ะ" ชมจันทร์ทำงานที่นี่มาก็เข้าปีที่สองแล้ว ถ้าเธอเรียนมหาวิทยาลัยจบคงได้ทำงานตำแหน่งที่สูงกว่านี้ แต่นี่ก็ถือว่าดีมากแล้วที่บริษัทใหญ่ขนาดนี้รับเธอเข้าทำงานสองชั่วโมงผ่านไป.."อะไรกัน ให้แก้งานแค่นี้ยังไม่เสร็จอีกเหรอ""แต่ชมคิดว่างานเก่าก็ดีแล้วนี่คะ" เธอนั่งมองงานโปรเจคที่ส่งหัวหน้าไป หาจุดที่ต้องแก้อยู่