พอผู้หญิงคนนั้นบอกมันก็เหมือนเป็นการชี้นำทางให้ฉันคิดที่จะหนีออกจากที่นี่ จากที่ตอนแรกนั้นคิดจะถอดใจไปแล้ว สัญญาเลยว่าถ้าหนีไปได้ฉันจะหนีจากผู้ชายคนนี้ให้พ้นไปเลย เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าจะโดนคิลเมื่อไหร่
นี่ฉันคงคิดผิดไปสินะที่เอาตัวเองมาประมูลแบบนี้ แต่ก็ไม่คิดด้วยแหละ ว่าคนที่ประมูลฉันจะเป็นเขา
"เดี๋ยวตอนบ่ายๆ ฉันจะขึ้นมาเก็บจานนะคะ อยากได้อะไรเพิ่มไหม?"
"ของใช้ส่วนตัวค่ะ สำหรับผู้หญิงคุณน่าจะรู้"
"ค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ?"
"มะ ไม่มีค่ะ"
ของที่ฉันอยากได้จริงๆ ต่อให้เอ่ยปากขอเขาไปก็คงไม่ได้หรอก เพราะดูเหมือนว่าของไม่ได้อยู่ที่เธอแต่อยู่ที่เขาคนนั้นต่างหาก
"งั้นฉันไปก่อนนะคะ"
"ค่ะ"
เราสนทนากันอยู่ไม่กี่ประโยค ถึงผู้หญิงคนนี้จะดีกว่าคนก่อนหน้านั้น แต่การสนทนาก็ยังเย็นชาอยู่เหมือนเดิม สายตาก็ดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ ดูแข็งๆ ไร้อารมณ์
.
.
เวลาต่อมา
ฉันลงมาที่ด้านล่างตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก ชื่ออะไรก็ไม่รู้สิไม่ทันได้ถาม ประตูด้านหลังที่จะออกไปข้างนอกได้ไม่มีคนอยู่จริงๆ ไม่มีใครเฝ้าด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเป็นประตูหลังบ้านก็ไม่รู้นะ
ด้านนอกเป็นป่าล้อมรอบ บ้านของเขาเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวที่ตั้งอยู่กลางป่า และมันก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบ้านหรูอยู่กลางป่าแบบนี้ด้วย เขาเป็นพวกที่ไม่ชอบเข้าสังคมขนาดนั้นเลยหรือไงกัน
พอได้ออกมาเห็นจริงๆ แล้ว ฉันทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหน แล้วต้องเดินไปทางไหนที่จะสามารถรอดพ้นได้ ขืนเดินดุ่มๆ เข้าป่าไปมีหวังได้หลงป่าอดตายกันพอดี แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากที่อยู่ตอนนี้เลยนี่นา
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ~
ปัง!!
"เฮือก!!" ขณะที่กำลังก้าวเดิน ฉันก็ต้องชะงักเพราะเสียงปืน และกิ่งไม้ที่อยู่ห่างจากตัวฉันไปไม่ไกลก็หักลง ซึ่งมันก็เดาได้ไม่ยากว่าถูกอะไร ขาของฉันมันแข็งไปหมด หัวใจเต้นตุบตับระส่ำชนิดที่ว่าไม่เคยเจอมาก่อน ใครกันที่ยิงฉัน ไม่กล้าหันกลับไปมองเลยเพราะนัดต่อไปมันอาจจะเป็นฉันก็ได้
"คิดเอาไว้ไม่มีผิดจริงๆ เลยนะเธอเนี่ย"
"!!!" เสียงของผู้ชายคนนั้นนี่ ไหนว่ากลับมาตอนเย็นไง นี่มันยังไม่พ้นเที่ยงเลยนะ
"ฉันแค่ให้คนของฉันบอกว่าประตูหลังมีทางออกไม่มีใครเฝ้า เธอก็คิดจะหนีแล้วเหรอ?"
"อึก..."
ฉันไม่ได้คิดเลยฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะสงสารฉันซะอีก ร้ายกว่าที่คิดนะเนี่ยนึกว่าจะสงสารผู้หญิงด้วยกัน
"อยู่ที่นี่มีข้าวกิน กับหนีเข้าป่าแล้วอดตาย เธอเองก็ไม่น่าโง่นะ ทำไมถึงเลือกวิธีนี้?"
"ฉะ ฉัน..."
"คิดว่าฉันจะโง่ไม่รู้ทันผู้หญิงอย่างเธอหรือไง"
"......"
"ฉันคงใจดีกับเธอมากไปสินะ คนอย่างเธอคงต้องเจอไม้แข็งจริงๆ"
ฟึ่บ!
"เฮือก!!" เขายกปืนขึ้นจ่อหน้าของฉัน คราวนี้มันอยู่ตรงกับหน้าของฉันพอดีเลย อีกอย่างระยะนี้ลั่นไกโดนฉันอย่างจังเลยล่ะ แต่ถ้าไม่โดนเขาอาจยิงปืนไม่แม่นกระบอกปืนก็คงมีปัญหาแหละ
"อย่าคิดว่าฉันไม่กล้ายิง อยู่ในป่าแบบนี้ยิงเธอตายไป ฉันก็เอาศพเธอโยนเข้าป่าก็สิ้นเรื่องแล้ว"
"คุณทำแบบนี้ทำไม"
"เธอน่าจะไปถามพ่อกับแม่เธอมากกว่านะ ว่าทำแบบนี้ทำไม เพราะถ้าไม่ทำเธอก็คงไม่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้หรอก"
"......"
"ฉันให้เธอเลือก ว่าเธอจะก้าวออกมา หรือจะให้ฉันลั่นไกเอากระสุนฝังสมองเธอ"
ฉันมองหน้าเขาอย่างไร้ทางเลือก ก่อนจะไล่สายตามองคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขา รวมถึงผู้หญิงสองคนนั้นด้วย สำหรับฉันพวกเขาใจร้ายมากๆ ไม่เห็นใจผู้หญิงด้วยกันเลย คิดแต่จะทำตามคำสั่งของเจ้านาย
"อยากยิงก็ยิง" ฉันพูดอย่างเด็ดขาด จ้องหน้าของเขานิ่งและน้ำตามันก็ไหลออกมา ฉันเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมากๆ ฉันรู้จักตัวเองดี ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันตายไปสักคนคงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรอก อีกอย่างเขาจะได้ไม่ต้องหาเรื่องไปทำอะไรแบบนี้กับใครอีก
"ท้าฉันเองนะ"
ปัง!!~
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับสติของฉันที่ดับวูบลงไป ไม่รู้สึกตัวอะไรอีกเลย
.
.
เวลาต่อมา..
"เฮือก!!"
"ฟื้นแล้วเหรอ?"
พอได้ยินเสียงเขาฉันก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะหันมองไปรอบๆ ตัวเอง ฉันกลับมาอยู่ในห้องเดิม บนเตียงเดิมที่ฉันนอนกับเขาเมื่อคืน
"ฉันยังไม่ตายหรอกเหรอ?" ฉันพึมพำกับตัวเอง
"ฉันอุตส่าห์ประมูลเธอไปตั้งสิบล้านนะ ให้ฉันได้ใช้งานเธอให้คุ้มค่าหน่อยสิ ฉันไม่อยากเสียเงินแล้วได้เอาเธอแค่ครั้งเดียว"
"ทำไมถึงไม่ฆ่าฉันล่ะ?"
"คำตอบของฉัน พูดไปก่อนหน้านี้แล้วนะ"
"....."
"เธอนี่มันหัวอ่อน ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมดเลยสินะ"
"พูดอะไรของคุณ"
"จะบอกอะไรให้ โลกนี้มันโหดร้ายกว่าที่เธอคิดอีก ลูกคุณหนูที่ถูกพ่อแม่ประคบประหงมอย่างกับไข่ในหินอย่างเธอ คงยังไม่เคยเจอเรื่องแย่ๆ สินะ"
"ใครบอกว่าไม่เคยเจอ ฉันก็กำลังเจออยู่นี่ไง!"
"เฮอะๆ ดี! กล้าต่อปากต่อคำแบบนี้แหละฉันชอบ"
"......"
"ฉันแค่จะบอกเธอว่า ไม่มีใครไว้ใจได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย"
"ทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไรจากฉัน ถ้านอกจากเซ็กซ์แล้ว"
"แล้วเธอมีค่าอะไรให้ฉันบ้างล่ะ นอกจากเรื่องบนเตียง กับซิงที่เพิ่งจะเสียให้ฉันไป เธอก็แค่ของเล่นที่ฉันยังอยากเก็บไว้เล่นอีกก็เท่านั้น"
"แล้วทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี่?"
"เพราะมันเป็นที่สำหรับเธอไงล่ะ ห่างไกลผู้คน คิดจะหนีเธอก็ไปไม่รอดหรอก ต่อให้คนของฉันหรือฉันตามไม่เจอ เธอก็ไปไม่รอดอยู่ดี"
ครืก!
"?!" ขอขยับตัวและขยับขาฉันก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่มันหนักอึ้งอยู่ตรงข้อเท้า สายตาของฉันมันโฟกัสไปตรงนั้นมันคือ โซ่ ที่มันไม่ได้เส้นใหญ่อะไร แต่ต่อให้จะไม่ได้เส้นใหญ่ ฉันก็ไม่มีความสามารถจะเอามันออกไปจากตัวได้หรอก
"นั่นเป็นบทลงโทษ ที่เธอคิดจะหนีฉัน"
"คิดจะขังกันเหรอ ไม่กลัวโดนตำรวจจับหรือไง ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวน่ะ!"
"แล้วเธอคิดว่าตำรวจจะทำอะไรฉันได้ไหมล่ะ"
"!!!"
"คิดว่าฉันอยู่มาได้ถึงตอนนี้ เป็นเพราะฉันทำธุรกิจสีขาวจริงๆ งั้นเหรอ ถ้าพ่อแม่ของเธอยังไม่ตาย ฉันก็คงจะให้เธอไปถามพ่อแม่ของเธอ พวกเขาคงให้คำตอบได้ ว่าฉันทำงานอะไร"
"คนเลวสินะ"
"ถ้าฉันจะเลว พ่อแม่เธอก็คงไม่ต่างกัน เผลอๆ คงเลวมากกว่า ถึงขั้นโดนจับแล้วชิ่งหนีตายอย่างนั้น"
"หยุดพูดนะ ฉันไม่อยากฟัง!" ฉันเอามือปิดหูตัวเองเพราะไม่อยากฟัง อีกทั้งมันยังเจ็บปวดจนบอกไม่ถูก เจ็บตรงขั้วหัวใจแบบบอกไม่ถูก มันอัดอั้นอึดอัดทรมาน
"ถ้าไม่พูดก็ได้ แต่ถึงยังไงมันก็คือความจริง ที่เธอควรรับรู้!"
เฌอรีนถูกขังไว้ในห้องนอนและถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน ข้อเท้าก็ถูกโซ่เส้นเล็กๆ นั้นคล้องเอาไว้ด้วย ข้าวปลาอาหารก็จะมีคนคอยเอามาให้ อึดอัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่อยากอยู่แบบนี้แต่พูดไปมันก็เท่านั้นแหละ เพราะเธอเองที่เชื่อใจคนแปลกหน้าคิดว่าเขาจะเห็นใจ สุดท้ายก็เลยมาเป็นแบบนี้ต่อจากนี้เธอจะไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว ต่อให้คนนั้นจะดีมากแค่ไหนก็ตามก๊อกๆๆ แกร๊ก..."???" ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ฉันได้แต่มองนิ่งๆ เพราะคนที่เข้ามาคือคนที่เป็นแม่บ้าน"ทำไมไม่กินข้าวตอนเช้าคะ?""ฉันไม่หิว" ฉันตอบกลับแบบไม่มองหน้าเลยสักนิด ไม่อยากพูดอะไรกับใครเลย"ไม่หิวก็ต้องกินนะคะ""อย่ามายุ่งกับฉัน" เอ่ยออกไปตัดความน่ารำคาญ ฉันอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่อยากให้มีใครอยู่ด้วยทั้งนั้น"ตามใจค่ะ ฉันช่วยคุณไม่ได้นะคะ""....." ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไร ช่วยเหรอ พูดออกมาได้นะ เป็นคนล่อให้ฉันตกอยู่ในกับดักนี้แท้ๆ ยังจะกล้าพูดอีกนะ ไม่ต้องพูดอะไรเลยดีกว่าซะอีก..เวลาต่อมาแกร๊ก!!".....""ทำไมไม่กินข้าว?""ไม่อยากกิน""จะอดข้าวประท้วงเรียกร้องความสนใจหรือไง""ฉันไม่โง่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ""ก็นั่นน่ะสิ เด็กจบนอกมีการศึกษาแท้ๆ จะทำอะไ
ไม่รู้ว่าเซ็กซ์มันยาวนานไปแค่ไหน เธอหลับไปเพราะหมดแรงมาก ข้าวก็ไม่ได้กิน วันทั้งวันก็จิบแค่น้ำแก้หิวเท่านั้น ประชดเหรอ? ไม่เลยสักนิด ทำไมต้องประชดด้วยล่ะ คนอย่างเขามีค่าให้เธอต้องประชดด้วยหรือไง เธอคิดแค่ว่าคนอย่างเธอตายไปมันก็จบแล้วตอนแรกก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างมันจะจบลงด้วยดี เพราะเธอเองก็แสดงความรับผิดชอบ ไม่ได้หนีอะไร ตอนนี้เพิ่งรู้แล้วว่า ความรับผิดชอบมันใช้ไม่ได้กับคนอย่างเขา..ฟึ่บ~'อะไรกัน ที่นี่ที่ไหน?' ฉันพูดกับตัวเอง พูดอยู่ในใจพร้อมกับมองรอบๆ ไม่รู้ว่าตัวเองหลุดมาอยู่ที่ไหน รอบตัวของฉันมันเต็มไปด้วยป่า บ้านของเขาเหรอ ป่าที่อยู่รอบๆ บ้านตรงที่ฉันกำลังจะวิ่งหนีมา อย่าบอกนะว่าฉันหนีมาได้ หรือว่าฉันตายไปแล้ววิญญาณก็เลยหลุดล่องลอยออกไปเร่ร่อนถ้าไม่อย่างนั้นมันก็คงจะเป็นความฝัน แต่ก็เป็นความฝันที่เหมือนจริงมากๆ เหมือนจริงจนฉันรู้สึกได้ถึงความเย็นรอบๆ ตัว บรรยากาศที่หนาวเหน็บ ฉันรู้สึกถึงมันจริงๆ และความหนาวเหน็บที่อยู่รอบๆ ตัวมันทำให้ฉันไม่สามารถยืนนิ่งอยู่ได้ ฉันต้องเดินออกไปจากตรงนี้"เฌอรีนดา..." เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ฉันต้องชะงัก ฉันจำเสียงนี้ได้ดี เสียงหวาน
เวลาผ่านไปเพราะหนีออกไปไหนไม่ได้เธอเลยต้องทำใจยอมรับ ต่อจะให้พยายามหาทางหนีแต่เธอก็แค่ผู้หญิงตัวคนเดียวมันจะไปทำอะไรได้ นอกจากรอเวลาให้มันมีช่องโหว่อยู่จริงๆ เพราะเธอสัญญากับตัวเองตลอดว่า ตราบใดที่มีโอกาสเธอจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไป เธอจะหนีไปจากเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ปึก!"อะไรคะ?""ยาคุมไง เห็นวันนั้นบอกอยากได้""....." ของสิ่งนั้นน่ะเหรอ เธอขอไปตั้งนานแล้ว ถ้าเธอจะท้องมันคงหลุดไปตั้งนานแล้วล่ะ"ทำไมมองงั้น ไม่พอใจอะไรอีก?""ฉันขอคุณไปตั้งนานแล้ว แต่คุณเพิ่งจะเอามาให้ฉัน คุณไม่รู้หรือไงว่าการกินยาคุมมันต้องกินแบบไหนเวลาไหน""ถ้างั้นก็ช่างมัน เอาไว้กินวันอื่นหลังจากที่เอากันเสร็จ""......" เธอไม่ได้พูดอะไรกับเขา ไม่อยากพูดไม่อยากคุย แม้แต่หน้าของเขาเธอยังไม่อยากมองเลยด้วยซ้ำ"ดูเรียบร้อยขึ้นเยอะเลยนะ""แค่เอายาคุมมาให้ เสร็จแล้วก็ออกไปสิคะ""อย่าปีกกล้าขาแข็งให้มันมากนัก การที่ฉันยอมเธอ มันไม่ได้แปลว่าเธอจะทำอะไรก็ได้" เขาพูดเสียงแข็งใส่"เอาสิ ที่ฉันทำแบบนี้ ก็เพราะรอให้คุณมาฆ่าอยู่นี่ไง ทำไมถึงยังไม่ทำสักทีล่ะ?""เฌอรีน!"".......""เธอนี่ท้าทายฉันไม่เว้นแต่ละวันเลยนะ"มือหนาจ
เวลาผ่านไปอีกไม่รู้เท่าไหร่ รู้แต่ว่าฉันยังอยู่ที่เดิม ถึงจะได้ของใช้ส่วนตัวกลับคืนมาฉันก็ใช้งานอะไรไม่ได้เพราะโทรศัพท์ถูกตัดสัญญาณไปแล้ว และมันก็น่าจะเป็นฝีมือของเขาที่กลัวว่าฉันจะติดต่อหาใครสักคนด้านนอก สุดท้ายแล้วต่อให้ฉันจะได้โทรศัพท์คืนกลับมาแต่มันก็เท่านั้นแหละ เพราะมันใช้งานอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่เขาเป็นคนย้ำเองว่าฉันไม่เหลือใครแล้ว แต่กลับกลัวว่าฉันจะติดต่อไปหาคนอื่น ดูย้อนแย้งดีเหมือนกันนะ“พอฉันอนุญาตให้ออกข้างนอกได้เข้าหน่อยก็เอายกใหญ่เลยนะ”“พูดอะไรมากเรื่อง จะให้ฉันอยู่แต่ห้องหรือไง สมอง!”“เฌอรีน! ปากเธอนี่มันดีเหลือเกินนะ”“แล้วไง ใครบอกให้มาหาเรื่องฉันก่อนล่ะ คิดว่าฉันจะยอมหรือไง”ฉันเถียงเขากลับ ก็ฉันเดินมาของฉันดีๆ แต่กลับเจอเขาพูดแบบนี้ใส่ อีลูกคุณหนูไม่เคยยอมใครแบบฉันจะยอมได้ยังไงด่ามาก็สวนกลับ กับคนอื่นฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาเคารพกันยังไง แต่ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่นี่ แล้วทำไมฉันต้องพูดดีด้วยล่ะ ไม่อาละวาดใส่ก็ดีแค่ไหนแล้ว รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปสินะ“จะไปไหน?”“เดินเล่น ทำไมกลัวฉันหนีเหรอ?”“กลัวเธอจะไปผูกคอตายมากกว่า อย่างที่บอก ไม่อยากให้ใครตายที่บ้าน ก
สายๆ ของวันหนึ่ง เฌอรีนออกมาจากห้องนอนและเดินเล่นไปรอบๆ ตัวห้องด้านบน เพราะเป็นชั้นสองที่วนแบบวงกลมและมีห้องไม่กี่ห้องนัก แต่ด้านในกว้าง ซึ่งมีอยู่ห้องนึงที่เธอนั้นถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดว่าไม่ให้เข้าไปยุ่ง และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือห้องอะไร ทำไมเขาถึงหวงนักหนา หรือว่ามันมีอะไรที่เขาไม่อยากให้เธอเห็นสิ่งผิดกฎหมายเหรอ หรือว่าอะไรที่มันมากกว่านั้น แบบว่าคงไม่ใช่เรื่องดีอะไรเขาถึงได้ไม่อยากให้เธอเอาไปเห็นแต่ถามว่าฟังไหม ก็ไม่ เพราะเธอพูดแล้วว่าจะทำทุกทางเพื่อท้าทายคนอย่างเขา ไม่ได้เกรงกลัว ตายเป็นตาย ถ้าเขากล้าทำเธอก็กล้าจะเอาชีวิตเข้าแลกแกร๊ก!หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง ก่อนปิดประตูเธอก็หันมองด้านนอกก่อนด้วยด้านในเป็นเหมือนห้องทำงานใหญ่ๆ มีโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือสูงๆ และมีหนังสือเรียงรายเต็มไปหมด มันก็ห้องทำงานธรรมดานี่นาไม่เห็นจะมีอะไรดูน่าปิดบังขนาดนั้นเลย ก็แค่ห้องทำงานธรรมดาๆ“เธอเข้ามาได้ยังไงเฌอรีน!” เสียงเข้มน่าสะพรึงดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ทำเอาเธอนั้นตกใจจนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“นะ ไหนว่าออกไป...”“ใครให้เธอเข้ามา?”“ไม่มี แค่อยากเข้ามา มีไรมั้ย”
หลังจากวันนั้นเขาก็หายไปอยู่หลายวัน ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ด้วยแหละ เพราะหายกันไปนานทั้งเจ้านายและลูกน้องคนสนิทเลย ที่บ้านนี้เลยเหลือกันอยู่แค่ไม่กี่คน แต่มันก็ดีนะ ดูเงียบสงบขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร โดยเฉพาะคนอย่างเขา เพราะเขามันน่ารำคาญสำหรับคนอย่างฉันมาก“คุณเฌอรีนจะขึ้นนอนแล้วเหรอคะ”“อืม ไม่ต้องขึ้นไปกวนฉันนะ ฉันอยากอยู่เงียบๆ”“ได้ค่ะ” คงกลัวว่าฉันจะหนีล่ะมั้งถึงชอบตามขึ้นไปอยู่ด้วย บางทีก็ไม่ชอบเพราะฉันต้องการความเป็นส่วนตัว อยากอยู่เงียบๆ แบบไม่ต้องมีใครอยู่ในสายตาไงกลับขึ้นมาบนห้องฉันก็นั่งเล่นอะไรเรื่อยเปื่อยตามประสา จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าดึกแค่ไหนแล้ว ฉันผล็อยหลับไป...*******“อือ...!!” เฌอรีนรู้สึกตัวและก็ต้องตกใจเพราะบางอย่างที่ทับอยู่บนตัวของเธอด้วยสัญชาตญาณของตัวเองมันทำให้เธอรู้ได้เลยว่านี่คือคน แต่ใครกันล่ะ? กำลังขึ้นคร่อมอยู่บนตัวของเธอด้วย เธอสัมผัสได้ว่าเขาตัวใหญ่ ร่างกำยำ หัวใจของเธอมันเต้นโครมๆ รุนแรงเอามากๆ ในใจของเธอมันได้แต่คิดว่าจะเอาตัวรอดจากตอนนี้ยังไงดีไม่รู้จะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหนแล้วโว้ย อย่างน้อยๆ เป็นผู้ชายก็ต้องมีจุดอ่อนเป็น
เผลอหลับไปไม่รู้เมื่อไหร่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบจะข้ามวันแล้ว และก็ตื่นมาในสภาพที่เหมือนอีเพิ้ง หมดสภาพไม่เหมือนคน ถึงจะมองไม่เห็นตัวเองตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามันคงไม่น่ามองแน่ๆ ผมเผ้าฟูฟ่องกระเซอะกระเซิงรุงรังมากแน่ๆ ล่ะเฌอรีนลุกออกจากเตียงด้วยอาการงัวเงีย เธอเดินเข้าห้องน้ำเพราะมองไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ไม่รู้ว่าหายไปไหนหรอก แต่ก็ไม่แปลกที่จะไม่เห็น เพราะมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตึก ตึก ตึก“ตื่นละเหรอ?”“เฮ้ย!!” หญิงสาวร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะเห็นเขาอยู่ในห้องน้ำก่อนแล้ว และภาพตอนนี้ก็ดูไม่น่ามองเท่าไหร่ด้วยสิ เขาแก้ผ้าแก้หมดเลย เห็นส่วนนั้นที่ห้อยโตงเตงและขนรำไรตรงท้องน้อยลงเป็นทางเรื่อยลงไป“ตกใจทำไม ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”“ตกใจเพราะเห็นคุณเนี่ยแหละ ไม่ได้ตกใจเพราะเห็นหนอนน้อยหรอก”“เธอว่าไงนะ!”“จะเสียงดังทำไม ฉันก็พูดชัดแล้วนี่ หนอนน้อย..” “ปากดีนักนะ เดี๋ยวก็โดนอีกรอบหรอก” มองตาขวางพร้อมกับถอนหายใจแรงใส่คนตรงหน้า“.....” เธอไม่ได้สนใจคำพูดของเขา ร่างบางเดินผ่านมาเฟียหนุ่มออกไป ทำอะไรต่อมิอะไรด้วยอาการที่ยังงัวเงียอยู่ จนกระทั่งดวงตาที่ปรือของเธอนั้น
ห้างสรรพสินค้าSK“ฉันจะไปคุยงาน จะซื้ออะไรก็ไปคนของฉันจะไปด้วย”“ไหนบอกไม่กลัวฉันหนี”“แล้วใครบอกว่ากลัว”“แล้วให้คนตามไปเพื่อ?” ฉันตอบกลับพร้อมกับมองไปที่เขาและลูกน้องที่ยืนหน้าเข้มไม่รู้จะแข่งกันตึงไปถึงไหน ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง เก๊กมาดกันจนน่าตบ“หรือเธอจะถือของเอง?”“ก็ยังไม่รู้จะซื้ออะไรนี่ แต่ฉันถือเองได้น่า ฉันไม่บ้าซื้อตู้เย็นแล้วแบกเองหรอก” ฉันเถียงกลับเพราะขี้เกียจคุยกับเขา นี่ขนาดบอกให้มาซื้อของได้ตามสบายนะเนี่ย อยากจะบ้า!“นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องทำงานนะ เธอโดนดีแน่เฌอรีน ต่อล้อต่อเถียงเก่ง!”“ชิ! คิดว่ากลัวหรือไง”“นี่บัตร รูดได้ไม่จำกัด”“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะเสี่ย เฌอสัญญานะคะ ว่าจะรูดให้หมดเลย ไม่พอเดี๋ยวมาขอใหม่”ฉันทำท่ายั่วยวนอารมณ์ของเขา ก่อนที่จะจบด้วยสีหน้าตึงๆ เหมือนไม่ชอบหน้ากันจากนั้นก็เดินออกไป ****“ตามไปดูด้วย ตามห่างๆ ก็พอ”“ครับนาย”สองบอดีการ์ดหนุ่มเดินตามหลังไปห่างๆ ตามคำสั่งของเจ้านาย เพราะมีนัดคุยงานกับคนสนิทจึงไม่สามารถหลบหลีกเรื่องนี้ได้เลย ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือพยายามหลบหนีให้เขาต้องโมโหอีก ถึงเธอจะไม่มีแนวโน้มว่า
...ภายในห้องฉุกเฉิน “อะ โอย...” เสียงร้องแผ่วจากปากของหญิงสาว พร้อมกับใบหน้าที่เหยเกของเธอ มันบ่งบอกถึงความเจ็บร้าวที่แผลรอยเย็บซึ่งเกิดจากการผ่าตัดคลอดก่อนหน้านี้“เฌอรีน ฉันอยู่นี่นะ”“อืม..คุณสิงห์”“นอนนิ่งๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเดี๋ยวแผลปริ”“ลูกล่ะคะ?” เอ่ยถามเสียงแหบ“พยาบาลดูแลให้อยู่น่ะ น่าจะป้อนนมให้อยู่”“อืม...ลูกเราน่ารักมั้ยคะ?”“น่ารักสิ น่ารักมากๆ เลยด้วย”“.....” เฌอรีนได้แต่ยิ้มตอบรับ“นอนพักเถอะนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเลย เดี๋ยวเจ็บแผล”“ฉันนอนพอแล้วล่ะ นอนไม่หลับแล้ว” เธอตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกของเธอมากกว่า เขาทั้งสองต้องน่ารักมากๆ เลยล่ะ“แล้วน้องกันต์ล่ะคะ อยู่กับใคร?”“นมบอกว่าไม่ให้พามาโรงพยาบาล กลัวจะงอแงไม่เอาใคร เลยดูแลให้ก่อนน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะแกไม่ดื้อกับนมเลย”“ค่ะคุณสิงห์”ถึงจะมีลูกแฝดที่เป็นลูกแท้ๆ ในไส้ของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมเลยว่ายังมีลูกชายคนโตอีกคนนึง เขายังคือคนในครอบครัวที่สำคัญมากที่สุดอีกคนนึงเสมอ และก็ไม่ลืมว่าจะต้องดูแลเขาด้วยเช่นกัน แต่ในเวลานี้ต้องรักษาตัวเองให้หายก่อน....เวลาต่อมาก๊อกๆๆๆ“ขออนุญาตนะคะ พาน้องมาส่งค่ะ”เฌอรีนพยาย
...เก้าเดือนต่อมา โรงพยาบาลHH“ขั้นตอนแรกต้องตรวจร่างกายของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะครับ”“ฉันต้องตรวจอะไรบ้างคะ?”“คุณแม่ต้องตรวจอย่างละเอียดเลยนะครับ เพื่อป้องกันการผิดพลาด”“ค่ะคุณหมอ”ไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะเพิ่งเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย ยอมรับว่าแอบเกร็งไม่น้อยเหมือนกัน มันกลัวยังไงก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ชอบโรงพยาบาลอยู่แล้ว พอต้องมาห้องตรวจแคบๆ ฉันรู้สึกหวั่นไปหมดเลยพรึ่บ!!“คุณเฌอรีนคะ!”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงกลัวที่แคบ อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมา”“นั่งพักก่อนนะคะ รอผลตรวจก่อนนะคะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“ค่ะ”ให้ตายสินี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่เนี่ย อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมาซะงั้น เพราะกลัวเหรอ กดดันเหรอ รู้สึกร้อนหน้าร้อนตาไปหมด หัวใจก็เต้นเร็วกว่าเดิมมากพยาบาลพาฉันเดินออกมาจากห้องตรวจ มาเจอกับคุณสิงห์ พอเขาเห็นฉันเดินกุมหน้าออกมาก็รีบเข้ามาประคองทันที“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนั้น เจ็บเหรอ?”“เปล่าค่ะ แค่เวียนหัว”“คุณเฌอบอกว่ากลัวที่แคบน่ะค่ะ ก็เลยเวียนหัว นั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวผลตรวจก็เรียบร้อยแล้ว”“ครับ”“อืม...”“เป็นยังไงบ้าง”“ฉันตื่นเต้นน่ะ ครั้งแรกด้วยที่ทำแบบนี้ มันเลยกังวลไปหมด
หนึ่งปีต่อมานี่ก็ปีกว่าแล้วที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีความสุขกันมากๆ เลยด้วย เพราะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กการใช้ชีวิตมันเลยค่อนข้างอิสระ ได้ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็เงียบเหงาไม่น้อยเลยเหมือนกัน ระหว่างนี้ก็เลี้ยงหลาน (ลูกของเสือ+น้ำหนึ่ง) พลางๆ ไปก่อน แต่ก็อยากมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็คงจะมีความสุขปนความวุ่นวาย ดูน่าสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะนะพรึ่บ!"คุณสิงห์ตกใจหมดเลยค่ะ!" จู่ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความตกใจเธอสะดุ้งจนของในมือแทบจะหล่นลงพื้น"คิดถึงจัง" เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่าข้างหู"คิดถึงอะไรกัน ก็เจอกันอยู่ทุกวันนี่คะ""แค่วินาทีเดียวฉันก็คิดถึงแล้วล่ะเมียสุดที่รัก""เวอร์ละ อะไรมันจะขนาดนั้น""อืม จะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าผลักออกนะ ฉันอยากกอดแบบนี้นานๆ หน่อย""ว่าแต่วันนี้กลับเร็วกว่าปกตินะคะ""ก็คิดถึงเมียไงครับ เลยกลับเร็วกว่าปกติ""งั้นเหรอคะ นับวันนี่ปากหวานนะคะ""เหงาหรือเปล่า""ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หาอะไรทำเรื่อยเปื่อยก็หายเหงาแล้วค่ะ""เธอตัดสินใจได้หรือยัง เรื่องทำเด็กหลอดแก้วน่ะ ฉันจะได้ไปปรึกษาหมอเอาไว้""....." พอได้ยินอย่างนั้นเธ
กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากงานแต่งงาน “อึกอืม คุณสิงห์ คุณอย่าเพิ่งรีบ อ๊ะ...!!” เธอพยายามดันเขาออกไปเพราะมันรุนแรงจนเธอตั้งรับไม่ทันทั้งๆ ที่หลังแต่งงานก็มีเซ็กซ์กันอยู่ทุกวันทุกคืน แต่สำหรับเขาเท่าไหร่มันก็ไม่พอเลยจริงๆ นะ“เมียจ๋า อยากเอาแล้ว”“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณสิงห์อื้อ” ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วจริงๆ เขารุนแรงจนเธอตั้งตัวไม่ทันเลย“อืม ตัวหอมจังเลยเมียจ๋า”“คนบ้า อ๊ะอ๊า!!”เขาสูดดมตามตัวของเธอ แถมไม่วายขบเม้มตามลำคอขาวจนเธอสะดุ้งเพราะมันเจ็บแปล๊บไปอยู่ชั่วขณะไอ้คนบ้า ทำไมถึงได้ทำกันแบบนี้นะ ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บ!“อืม...”“อยะ อย่าทำแรง มันเจ็บนะคุณสิงห์”“แฮ่ก ขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย”มาเฟียหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า ก่อนที่เขานั้นจะค่อยๆ เล้าโลมเธออย่างนุ่มนวลและตั้งใจเอามากๆ มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของเธอไม่ยอมปล่อยเลย มันทั้งเสียว รู้สึกดี ทั้งร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านจนต้องจิกปลายเท้าลงกับเตียง“อึกอือ...”“จ๊วบ จ๊วบ อืม...นมโคตรหวานเลยครับ”“แฮ่ก! อย่าพูดสิคะ ฉันเขินนะ”“ก็มันอร่อยนี่นา หอมด้วย”ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกมาแบบนี้ แต่ท่าทางของเขามันทำเอาเธอเขินมากๆ สายตาข
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน สิงห์ดูแลเจ้าสาวของเขาเป็นอย่างดีมากๆ ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องรองเท้าของเธอ ที่กลัวว่าเธอนั้นจะเจ็บเพราะต้องใส่และอยู่ในงานแทบทั้งวัน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไร เพราะชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงไปแล้ว ถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ได้ใส่บ่อยนักแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะใส่ไม่ได้อีกแล้วเฌอรีนไม่มีครอบครัวที่ไหน หลังจากที่พ่อแม่เสียไปญาติผู้ใหญ่บางคนที่รู้ข่าวเรื่องพ่อแม่เธอก็พร้อมใจกันตัดขาดเธอเพราะไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องพวกนั้นแต่เธอก็ไม่ได้เสียใจมากนักหรอกถึงวันนี้เธอเลยได้แม่หยกผู้ดูแลมูลนิธิเด็กกำพร้าที่เธอทำงานอยู่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ งานแต่งนั้นถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆ ภายในบ้านของเขา คนร่วมงานก็ไม่ได้มีใครที่ไหนนอกจากคนในครอบครัว กินเลี้ยงกันแบบปาร์ตี้เล็กๆ แต่มีความสุขมาก และจดทะเบียนสมรสกันได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายสมดั่งใจ"เจ็บมากหรือเปล่า ตรงข้อตรงนี้มันแดงมากเลยนะ" มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงพร้อมกับจับเท้าของเธอนั้นพลิกดูอย่างระมัดระวัง เพราะต้องใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ตลอด มันจึงมีรอยแดงบริเวณรอบๆ เท้า ซึ่งมันคล้ายกับการถูกรองเท้ากัด"คงเป็น
บ้านของสิงห์ฉันได้มีโอกาสกลับมาที่บ้านของเขาอีกครั้ง นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้มา แต่อะไรๆ ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนเลย ห้องนอนที่ฉันเคยอยู่ ของบางอย่างที่ฉันเคยใช้งาน มันยังคงถูกดูแลทำความสะอาดให้เหมือนกับมีคนใช้อยู่ทุกวัน ไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดเดียวแต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เหมือนตั้งใจปรับให้มันดูโล่งกว่านี้"มีอะไรหรือเปล่า มองแปลกๆ นะ""แปลกสิคุณ ทำไมถึง...เปลี่ยนล่ะ คุณเคยบอกว่าหวงจะตาย"เขาเคยพูดกับฉันว่าเขาหวงทุกอย่างในบ้านหลังนี้ และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถ้าจะมีคนหยิบจับไปตามอำเภอใจ หรือเปลี่ยนที่วางของมันไปที่อื่น"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่ามันรกตาน่ะ ก็เลยให้แม่บ้านเอาออกไป""....."บางอย่างที่เขาเคยเอาวางไว้มันกลับกลายเป็นแจกันและมีดอกไม้หลากสีใส่เอาไว้อยู่ ที่ฉันรู้ว่ามันแปลกไป ก็เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะชอบดอกไม้หรือชอบสีสันอะไรสักเท่าไร"ฉันอยากให้เธอกลับมา""ฉันขอจัดการอะไรให้เสร็จก่อนนะ""บ้านหลังนี้ รอต้อนรับเธอกลับมาเสมอนะ""เฮ้อ..." ฉันถอนหายใจออกมา บ้านหลังนี้มันก็ไม่ได้แย่เลยนะหลังใหญ่น่าอยู่ ถึงมันจะไม่ได้อยู่โซนในตัวเมืองแต่มันก็เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ตอนมา
เวลาผ่านไปไวจนคิดว่าฝันไปหรือเปล่า สิงห์พาเฌอรีนมาที่บ้านของเขาตามที่เคยบอกเธอเอาไว้เมื่อไหร่ที่เธอพร้อมเขาจะพาเธอมารู้จักกับทุกคนที่บ้าน ทุกอย่างมันไม่ได้ผ่านไปแบบกระทันหันหรอก แต่เวลามันผ่านไปนานมากแล้วจริงๆ"บ้านหลังนี้ของคุณเหรอ?""อื้ม เป็นบ้านของพ่อแม่ แต่ฉันไม่ค่อยได้อยู่หรอก ส่วนใหญ่พี่ชายกับเมียเขาอยู่ แล้วก็แม่นมอยู่ด้วย""หลังใหญ่จังเลยคุณ""เข้ามาสิ ฉันจะแนะนำทุกคนให้รู้จัก"เธอเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเขา แล้วก็ได้เจอผู้หญิงมีอายุคนนึง กับผู้หญิงอีกคนนึงที่กำลังยืนอุ้มลูกอยู่"แม่นมครับ""คุณหนูสิงห์""???" เฌอรีนทำท่าทางตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หน้าตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เนี่ยนะที่เรียกว่าคุณหนู เรียกซะเพราะเลย สวนทางกับบุคลิกของเขามากๆ"นี่ครับแม่นม ผู้หญิงที่ผมเคยเล่าให้แม่นมฟัง""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะคุณเฌอ สวยสวยมากๆ เลย""ขะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ""ส่วนคนนั้น ชื่อน้ำหนึ่ง เป็นพี่สะใภ้ของฉันเอง แต่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอนะ""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ ตามสบายนะคะ หนึ่งขอตัวพาลูกนอนก่อน"เฌอรีนได้แต่ยืนเกร็งไปหมด เธอทำตัวไม่ถูก เพราะเพิ่งเคยมาทำอะไรแบบนี้เป็นคร
**วันและเวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ อะไรที่คิดว่ามันจะไม่ดี มันก็กลับดีไปหมดซะทุกอย่าง มันดีมากจริงๆ ในสิ่งที่เขาทำให้เธอและทุกคนในที่นี่ อย่างที่เขาว่าจะเอาชนะใจใครสักคนได้ ไม่ใช่แค่ทำดีกับคนๆ นั้นเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำดีกับคนรอบข้าง หรือคนที่คนนั้นเขารักด้วยเขาทำให้เธอได้เห็นว่าคนเรานั้นก็เปลี่ยนแปลงกันได้ อะไรที่เคยทำไม่ดีมันก็ไม่ได้แปลว่าปัจจุบันเขายังทำแบบนั้นอยู่มันขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หรือในทางที่แย่ลง"เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้หรือไงกัน?""เปล่าหรอก เมื่อก่อนตอนที่ออกมาซื้อของ ฉันได้แวะมาบ่อยๆ น่ะ ได้มาเดินเล่นแล้วมันก็สบายใจดี""อ่อ...ก็ดีนะ บรรยากาศดี""ฉันนึกว่าคุณจะถอดใจไปแล้วซะอีกนะ""ใครบอก ก็แค่หายไปจัดการเรื่องต่างๆ มา ฉันไม่ได้ถอดใจสักหน่อย""......" มันมีอยู่ช่วงนึงที่จู่ๆ เขาก็หายตัวไป หายไปแบบไม่ติดต่อกลับมา ร่วมเดือนเลยก็ว่าได้ จนเธอคิดไปแล้วว่าเขาคงถอดใจแล้วมั้ง เพราะเธอใจแข็งเอามากๆ เลย ในความคิดเขาคงคิดว่าเธอคงไม่มีวันให้อภัย"คิดถึงกันเหรอ?""เปล่า เห็นหายไป คนที่นี่เขาตามหามากกว่า""น่ารักกันจริง""......""เฌอรีน...""หืม?""ฉ
สองวันต่อมาครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> เบอร์แปลกฉันขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา มันแปลกที่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น แถมโทรมาจากต่างประเทศอีกต่างหาก ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่รับหรอก แต่พอนึกถึงใครบางคนเข้าก็ทำให้พอจะเดาออกว่าใครโทรมา"ฮัลโหล"( ทำไมรับช้าจัง ) ปลายสายพูดเชิงบ่น"เบอร์แปลกโทรมา ใครมันจะไปรู้ล่ะ"( ทำอะไรอยู่ จะนอนแล้วเหรอ? )"อืม กำลังจะนอนน่ะ ดึกแล้ว"( อยากนอนด้วยจัง ไม่มีเธอนอนด้วยแล้วมันนอนไม่หลับ )"อย่ามาเวอร์หน่อยเลยน่า มีอะไรถึงโทรมาล่ะ"( ก็คิดถึง )"....." ฉันเงียบไม่ได้ตอบกลับเขา บอกตรงๆ ก็เขินแหละ เดี๋ยวนี้นี่เก่งนักเรื่องปากหวาน รู้ว่าฉันแพ้อะไรก็ชอบทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าอยากเอาใจหรืออยากได้ตัวฉันกันแน่เขายังไว้ใจไม่ได้หรอกสำหรับฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ดีอะไรหรอกนะ แค่สิ่งที่เขาเคยทำมันยังทำให้ฉันรู้สึกระแวง กลัวว่าเขายังต้องการอะไรจากตัวฉันอยู่( ทำไมเงียบล่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า? )"เปล่าไม่ได้พูดผิดอะไร ฉันก็แค่ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไร"( เธอไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง )"ไม่หรอกสบายหูสบายตาดี ตอนคุณอยู่ก็ชอบเกะกะฉัน ใครมันจะไปคิดถึงกันล่ะ