ห้างสรรพสินค้าSK“ฉันจะไปคุยงาน จะซื้ออะไรก็ไปคนของฉันจะไปด้วย”“ไหนบอกไม่กลัวฉันหนี”“แล้วใครบอกว่ากลัว”“แล้วให้คนตามไปเพื่อ?” ฉันตอบกลับพร้อมกับมองไปที่เขาและลูกน้องที่ยืนหน้าเข้มไม่รู้จะแข่งกันตึงไปถึงไหน ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง เก๊กมาดกันจนน่าตบ“หรือเธอจะถือของเอง?”“ก็ยังไม่รู้จะซื้ออะไรนี่ แต่ฉันถือเองได้น่า ฉันไม่บ้าซื้อตู้เย็นแล้วแบกเองหรอก” ฉันเถียงกลับเพราะขี้เกียจคุยกับเขา นี่ขนาดบอกให้มาซื้อของได้ตามสบายนะเนี่ย อยากจะบ้า!“นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องทำงานนะ เธอโดนดีแน่เฌอรีน ต่อล้อต่อเถียงเก่ง!”“ชิ! คิดว่ากลัวหรือไง”“นี่บัตร รูดได้ไม่จำกัด”“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะเสี่ย เฌอสัญญานะคะ ว่าจะรูดให้หมดเลย ไม่พอเดี๋ยวมาขอใหม่”ฉันทำท่ายั่วยวนอารมณ์ของเขา ก่อนที่จะจบด้วยสีหน้าตึงๆ เหมือนไม่ชอบหน้ากันจากนั้นก็เดินออกไป ****“ตามไปดูด้วย ตามห่างๆ ก็พอ”“ครับนาย”สองบอดีการ์ดหนุ่มเดินตามหลังไปห่างๆ ตามคำสั่งของเจ้านาย เพราะมีนัดคุยงานกับคนสนิทจึงไม่สามารถหลบหลีกเรื่องนี้ได้เลย ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือพยายามหลบหนีให้เขาต้องโมโหอีก ถึงเธอจะไม่มีแนวโน้มว่า
เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว จากวันผ่านมาเป็นเดือนๆ เธออยู่กับเขาจนแอบคิดไปแล้วว่า เธอคือส่วนนึงในครอบครัวของเขา ถึงมันจะสวนทางกับความจริงแต่เธอก็แค่แอบคิดก็เท่านั้นแหละเช้าวันหนึ่ง...อุ๊บ! แหวะ! แหวะ! แหวะ!อยู่ๆ เฌอรีนก็มีอาการที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เธออาเจียนหนักมากในตอนเช้า เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว แต่เดี๋ยวพออาบน้ำลงไปสูดอากาศตอนเช้าๆ อาการพวกนี้มันก็จะหายไปเองแต่ทว่าอาการมันหนักขึ้น จากที่มีแค่อาเจียนเธอก็เริ่มมีอาการเหม็นอาหาร บางอย่างเธอก็เหม็นจนกินไม่ลง เหม็นในความรู้สึกของเธอมันบอกไม่ถูกและในวันนี้เธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม อาเจียนในตอนเช้า ทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จก็ออกไปเดินเล่น และกลับมาเตรียมนั่งกินข้าวเหมือนทุกวัน“เป็นอะไรหน้าซีดๆ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้น “เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร”“งั้นไม่ได้ตาบอดนะ ที่จะมองอาการเธอไม่ออก”“ก็ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่เพลียๆ ต้องให้พูดมั้ยคะ ว่าเพราะอะไร?”“.....” เขาเงียบ ทำเป็นจิบกาแฟเหมือนตั้งใจจะเมินเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเธอไม่นานนักอาหารก็ถูกเอามาวางเสิร์ฟตรงหน้า เฌอรีนทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียนก่อนจะรีบลุกออกไปจากโต๊ะอาหาร ท่ามกลาง
ฟึ่บ...“อื้อ?” เฌอรีนลืมตาขึ้นมองด้วยความตกใจ ตกใจที่เห็นเขาตกใจที่จู่ๆ เขาก็เอามือเย็นๆ มานาบแก้ม“หลับอะไรของเธออยู่สภาพนี้”“ก็คนมันเผลอหลับ แล้วเข้ามาตอนไหนเนี่ย”“นานละ นานพอจะเห็นคนนอนเปลือยบนเตียงของฉัน”“ไอ้บ้า! ก็แค่ชุดมันเปิดขึ้น ไม่ได้แก้ผ้าสักหน่อย”“งั้นเหรอ ฉันจะเชื่อดีไหมนะ”“......” ทำท่าทางจะโกรธเขา แต่จะโกรธเพราะเขามาทำให้เธอตื่นมากกว่า ไอ้เรื่องเปลือยน่ะมันไม่ใช่เรื่องจริงเธอไม่โกรธหรอก“ตื่นได้ละ นอนอะไรทั้งวัน”“เรื่องของฉัน อย่ายุ่งน่า”“ข้าวก็กินไม่ตรงเวลา นี่ถ้าเป็นอะไรขึ้นก็ลำบากฉันอีก”“อือ หยุดพูดจะนอน”“เฌอรีน เธอนี่มัน...”“ไม่เบื่อบ้างเหรอ ทำตัวอย่างกับเป็นพ่อฉันเนี่ย ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ฉันเป็นอะไรฉันดูแลตัวเองได้”“.....”พอเธอตอบกลับมาอย่างนั้นเขาก็เงียบไม่ยอมพูดอะไรด้วยเลย นั่งกอดอกอารมณ์ขรึมอยู่อย่างนั้น“อือ นี่คุณ!”“อะไรของเธออีก?”“ถามหน่อยสิ คุณไม่มีบ้านอ่อ?”“ก็นี่ไงบ้าน เธอมองเป็นภูเขารึไง”“ฉันหมายถึงบ้าน...ที่มีครอบครัวน่ะ”“......” พอได้ยินอย่างนั้นเขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบกลับอะไรเธอ“ฉันถามอะไรผิดเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นอะไรนะ ฉันไม
ฉันนั่งเรืออยู่นานกว่าจะถึง ทั้งเวียนหัวคลื่นไส้ไม่รู้อาการบ้าอะไรเป็นไปหมดเลยฟึ่บ...“อึก...”“ไหวหรือเปล่า?”“จะอ้วกอ่ะ เวียนหัวคลื่นไส้ไงไม่รู้” ฉันพูดเสียงแหบๆ ณ ตอนนี้ไม่สนใจอะไรรอบข้างแล้วล่ะ มันมึนมันเวียนพาให้ขมุกขมัวไปหมดเลย ฉันไม่น่าตกลงมากับเขาตั้งแต่แรกเลย ดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ แย่ชะมัดเลย“สวัสดีค่ะคุณสิงห์ พาใครมาด้วยคะเนี่ย แฟนเหรอคะ”จบประโยคคำถามของผู้หญิงคนนั้นเขาก็มองหน้าของฉัน“เปล่าหรอก แค่คนติดตามน่ะ ฝากพาไปพักทีเธอเมาเรือนะ”“ได้ค่ะ”ฉันถูกผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าใครพาเดินออกไปจากกลุ่มคนมากมาย ก่อนจะพาฉันนั่งลงตรงที่อากาศโล่งๆ ลมพัดเย็นสบาย ผู้หญิงคนนั้นยื่นยาดมให้กับฉันโดยที่เราสองคนยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย“ช่วงนี้คลื่นแรง เรืออาจจะโคลงเคลงมากกว่าเดิมหน่อย นั่งเรือครั้งแรกเหรอคะ”“.....” ฉันมองแล้วพยักหน้าตอบ เพราะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังไม่อยากคุยกับใครเลยด้วย“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละค่ะ”“ว่าแต่คุณเป็นเจ้าของที่นี่เหรอคะ?”“เป็นภรรยาค่ะ เจ้าของคือสามีของฉัน”“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันชื่อเฌอรีนค่ะ เรียกเฌอก็พอค่ะ”“ค่ะคุณเฌอ”“ครั้งหน้าถ้ามีงานอีกฉันจะบอกเขาว่
“อ๊ะนี่คุณ!”“อืม ขอเอาหน่อย เงี่ยนว่ะ”ร่างหนาโถมตัวเข้ามาใส่เธอ ด้วยความที่เขาเมาไม่มีสติ เลยยั้งแรงของตัวเองไว้ไม่ได้“อื้อ คุณสิงห์ หยุดก่อนค่ะ คุณตัวหนักนะ” เธอพยายามจะผลักเขาออกไป แต่ก็ยากเพราะเขาทิ้งตัวลงมาให้เธอประคองเลย กลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนี้ มันก็สมแล้วล่ะที่เขาจะไม่มีสติเอาซะเลย“อือ...ตัวหอมจัง”“อือคุณสิงห์...”เฌอรีนลากเขาขึ้นไปด้านบนอยากทุลักทุเล เพราะเขาทั้งตัวหนักและตัวใหญ่ ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอจะไปไหวได้ยังไงแต่ก็พาเขาขึ้นมาบนห้องจนได้นั่นแหละตุบ!“คราวหน้าถ้าเมาแล้วลำบากคนอื่นก็อย่าเมาอีกนะ เหนื่อยชะมัด!” เพราะตัวของเขาหนักมากๆ จนเธอนั่งบ่นเพราะกว่าจะแบกขึ้นมาถึงก็ใช้แรงไปไม่รู้เท่าไหร่ “อือ บ่นไรวะ!”“......” เฌอรีนถอนหายใจ ก่อนจะจับเขาถอดเสื้อออกเพราะเหม็นเสื้อที่มีกลิ่นเหล้า เธอไม่ชอบกลิ่นมันเท่าไหร่ แต่พอถอดเสื้อออกเท่านั้นแหละ เธอก็ได้เห็นรอยที่มันดูไม่น่ามองเท่าไหร่รอยลิปสติก?หมับ!!“อ๊ะ ฉันเจ็บนะคุณสิงห์”“มองอะไรอยู่ได้?” เขาจ้องหน้าเธอเหมือนกำลังเค้นเอาคำตอบ“เปล่าค่ะ อาบน้ำมั้ยคะ จะได้สร่างขึ้น”“อืม..อาบให้หน่อย อยากโดนถู”“......”เธอไม่ได้ปฏิเสธเ
วันต่อมาเฌอรีนตื่นแต่เช้าลงไปหาสองแม่ลูกในครัวอีกบ้านหลังนึง เพราะไม่อยากนอนอยู่กับเขา ไม่อยากมองหน้าของเขา โกรธเรื่องเมื่อวานและสิ่งที่เขาทำเมื่อคืนไม่หายจริงๆ“นอนหลับสบายไหมคะคุณเฌอ”“สบายดีค่ะ” จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นทีว่าจะไม่ดีหรอก เพราะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอและเขาอยู่ในฐานะอะไรกัน“เมื่อคืนคุณสิงห์คงเมาน่าดู เพราะทางนี้นอนสลบอยู่หน้าประตูบ้าน”“แหะๆ ค่ะ เขย่าประตูเสียงดังลั่นเลย ฉันก็เลยต้องตื่นมาเปิดประตูน่ะค่ะ” เฌอรีนหัวเราะแห้ง“ตายจริง แบบนี้ก็คงนอนไม่หลับเลยสิคะ”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เขาเองก็เมาหลับเหมือนกัน”“อ๋อ นึกว่าคุณเฌอนอนไม่หลับซะแล้ว”“ก็หลับค่ะ แค่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเขา”“วันนี้คุณเฌอต้องตามคุณสิงห์ไปดูสินค้าสินะคะ ไม่ต้องมาช่วยหรอกค่ะ”“ไม่เป็นอะไรค่ะ เผลอๆ เขาคงไม่ให้ฉันตามไปหรอก”“อ้าว ไหนว่าเป็น...?”“ฉันติดตามมาดูแลเขาน่ะค่ะ ไม่ใช่พนักงานหรือเลขาของเขา”“ตายจริง ฉันขอโทษนะคะที่เข้าใจผิด” “ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”ฉันไม่รู้จะบอกกับคุณจันทร์ยังไงดีเหมือนกัน แต่ก็เป็นอย่างที่บอกแหละ ฉันไม่ใช่คนของเขาที่จะทำงานแล้วกินเงินเดือน สถานะที่ฉันเข้าใจตอนนี้ก็คือ ล
เวลาต่อจากนั้นหลังจากที่มาเฟียหนุ่มออกไปทำงานพร้อมกับลูกน้องแล้วเขาก็ปล่อยให้เธอนั้นอยู่ที่บ้านโดยที่ไม่มีคนของเขาเฝ้าดูแล เพราะมันไม่มีเรื่องอันตรายอะไร บวกกับมีจันทร์คอยอยู่เป็นเพื่อนจึงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ “คุณเฌอคะ ของว่างค่ะ”“ขอบคุณมากเลยนะคะ” “เมื่อเช้าที่ฉันจะถาม...” จู่ๆ จันทร์ก็เงียบไป ทำให้เฌอรีนหันมองด้วยความสงสัย ประจวบเหมาะกับที่เธอนึกขึ้นได้พอดี “นั่นสิคะ ฉันเองก็ลืมเลยเหมือนกัน คุณจันทร์จะถามอะไรเหรอคะ?”“คุณเฌอมีแฟนหรือเปล่าคะ?”“.....” เธอมองหน้าของเจ้าของคำถาม พร้อมกับยิ้มเจื่อนแก้เขินไป “ไม่มีค่ะ”“ขอโทษนะคะ ประจำเดือนมาประจำทุกเดือนไหมคะ”พอถูกถามถึงเรื่องนี้เฌอรีนก็ถึงกับหน้าชาไปหมดเลย เธอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อถึงอะไรอยู่ ไม่มีประจำเดือนก็เท่ากับว่า เธออาจจะกำลังท้องอยู่ก็ได้“แต่ฉันไม่อยากให้คุณเฌอคิดมากนะคะ แต่อยากให้ลองไปตรวจน่ะค่ะ โรคภายในของผู้หญิง เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามนะคะ”“ว่าไงนะคะ?” หญิงสาวหันไปพูด เธอขมวดคิ้วเพราะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตอนแรกก็คิดว่าจันทร์จะสงสัยว่าเธอกำลังท้องซะอีก“ตรวจร่างกายน่ะค่ะ”“ฉันคิดว่าคุณจันทร์จะบอกว่าฉันท้อ
หลังจากที่กลับจากบนเกาะ คุณสิงห์เขาก็ให้อิสระฉันมากขึ้น สามารถไปไหนมาไหนเองได้ แต่ต้องมีคนของเขานั้นติดตามไปด้วย มันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยล่ะนะ เพราะฉันไม่ต้องถูกขังให้อยู่แต่ในห้อง หรือถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านของเขาที่รอบๆ มันมีแต่ป่าตึก!“ออกรถค่ะ”“คุณเฌอจะไปที่ไหนครับ?”“โรงพยาบาลค่ะ แต่...เรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามรายงานเจ้านายคุณเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะหนี แล้วพวกคุณก็จะถูกเขาซ้อม”“ผมจำเป็น...”“คุณไม่พูด ฉันไม่หนี คุณก็ไม่ถูกลงโทษ ได้ประโยชน์นะคะคิดดีๆ”“อ่า...ครับ”อีกอย่างนึงเลยก็คือเวลาฉันจะออกไปข้างนอก คนขับรถจะต้องรายงานเขาตลอดว่าฉันออกไปไหน ทำอะไร ซื้อของนั่นนี่ อิสระที่สบายกายแต่รู้สึกอึดอัดใจแทน แต่มันก็ดีแหละ สำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับฉัน มันดีกว่าไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่นานนักคนขับรถก็พาฉันมาถึงโรงพยาบาล“แล้วจะให้บอกคุณสิงห์ว่ายังไงครับ?”“พาฉันออกมาดูบ้านหลังเก่าที่ถูกยึด แล้วเดี๋ยวฉันกลับมาจะให้พาไปอีกที่ เวลาบอกจะได้ตรงกัน”“ครับ”จะเล่นละครทั้งทีมันก็ต้องเอาให้เนียนสิจริงไหม ถ้าคนของเขาบอกอีกอย่าง ฉันพูดอีกอย่าง แบบนั้นคงได้ความแตกโดนจับได้ก่อนกันพอดีส
หลังจากที่ฟื้นฉันก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกเกือบอาทิตย์ ความจริงคุณหมอให้ฉันกลับตั้งแต่ฟื้นสามวันแรกแล้วล่ะ แต่เขาให้ฉันอยู่ให้คุณหมอดูอาการก่อน กลัวแผลจะฉีก กลัวแผลจะติดเชื้อ นั่นนี่ๆ อะไรของเขาก็ไม่รู้ดูเรื่องมากไปหมดกลับมาบ้านของเขาคราวนี้ มันดูผิดตาไปหมดเลย จากที่ฉันรู้สึกว่าอยู่แล้วมันไม่มีชีวิตชีวา การตกแต่งก็ดูเฉยๆ ไม่ได้หน้ามองอะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้กลับมีดอกไม้มาประดับมากมาย จัดตกแต่งให้ดูหรูหราสวยชื่นตาไปหมด"มัวยืนมองอะไรอยู่ได้ ทำไมไม่เข้ามาสักทีล่ะ""......" ฉันถอนหายใจเบาๆ ถึงจะถูกจัดตกแต่งใหม่ทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นบ้านที่ใช้ขังฉันอยู่วันยังค่ำ ถึงจะทำให้มันดูดีขึ้นมา แต่มันก็ลบออกไปจากความทรงจำของฉันไม่ได้หรอก ความสวยงามมันก็อยู่ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นแหละ"เฌอรีน""ทำไมถึงตกแต่งใหม่ล่ะ?""ก็แค่อยากให้มันดูสดชื่นก็เท่านั้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบ ฉันให้คนยกออกไปทิ้งก็ได้""ช่างมันเถอะ จะเอาออกหรือเอาไว้มันก็ไม่ได้ต่างอะไรหรอก""......""ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณไม่ต้องไปยุ่งล่ะ"ฉันพูดกับเขาแค่นั้นและเดินขึ้นบันไดไปทันที ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับ
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เฌอรีนยังคงหลับนิ่งอยู่บนเตียง ทั้งที่ร่างกายของเธอนั้นดีขึ้นมากแล้วแท้ๆเป็นเพราะสภาพจิตใจงั้นเหรอ? เพราะเธออยากตาย ไม่อยากอยู่งั้นเหรอ เธอถึงไม่ยอมลืมตาขึ้นมารับรู้สิ่งต่างๆ แต่แล้วสิ่งที่เขาหวังและรอคอยมาโดยตลอดก็เป็นจริง เฌอรีนฟื้นขึ้นมา เธอลืมตาและมองหน้าของเขา! ทำเอาเขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นถึงกับตกใจ“เฌอรีน!”“อืม...”“เป็นไงบ้าง อยะ..อย่าเพิ่งขยับนะ รอหมอมาตรวจก่อน”“......” เธอยังไม่ได้พูดอะไร เพราะยังไม่มีแรงเลย จะอ้าปากพูดกับเขายังเสียงแหบไปหมด“เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”หลังจากนั้นคุณหมอก็เข้ามาตรวจอาการต่างๆ ทั้งบาดแผลที่เธอถูกยิงและเรื่องที่เธอนั้นต้องแท้งลูกเพราะเหตุการณ์นี้“เธอเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่า?” สิงห์เอ่ยถามคุณหมอที่เดินออกมาหลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จ“ครับ ร่างกายโดยรวมดีขึ้นมากเลย ส่วนเรื่องนั้นคุณสามีต้องพยายามค่อยๆ บอกเธอนะครับ เพราะมันรุนแรงมาก อาจจะกระทบจิตใจของคนเป็นแม่น่าดู เดี๋ยวหมอมาตรวจร่างกายพรุ่งนี้อีกทีนะครับ”“ครับ”อย่าว่าแต่เธอเลยที่รู้สึกไม่ดี เรื่องนี้มันก็กระทบจิตใจของเขาไม่ต่างก
พอมาถึงโรงพยาบาลเฌอรีนก็ถูกส่งเข้าไปในห้องผ่าตัดทันที เนื่องจากกระสุนฝังอยู่ในร่างกาย บวกกับเสียเลือดมากถ้าไม่รีบผ่าตัด และช่วยเหลือไม่ทัน นั่นมันอาจจะหมายถึงชีวิตของเธอเลย"คุณหมอคะ ผลตรวจเลือด....คนไข้กำลังตั้งครรภ์ค่ะ" พยาบาลคนนึงรีบเดินเข้ามาในห้องที่กำลังวุ่นวาย"ว่ายังไงนะ!""ชีพจรก็เต้นอ่อนลงแล้วค่ะคุณหมอ!""เตรียมผ่าตัดเลย ไม่ทันแล้วล่ะ"ด้วยอาชีพจรรยาบรรณที่จะต้องพยายามรักษาชีวิตคนไข้ของตัวเองไว้ให้ได้ ทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของคนไข้เอาไว้ และต้องทำการผ่าตัดเอากระสุนที่ฝังอยู่ในท้องออก ก็จำเป็นจะต้องเอาเด็กที่อยู่ในท้องออกเช่นกัน ทุกอย่างมันดูเสี่ยงไปหมด และคุณหมอก็มีทางเลือกอยู่ทางเดียว..ทางด้านนอกสิงห์ยังคงใจจดใจจ่อรออยู่ที่หน้าห้องที่เดิม เขายังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะได้รับคำตอบจากคุณหมอ จนกว่าเธอจะปลอดภัย เขารู้ดีว่าเธอก็แค่โชคร้ายโดนกระสุน เพราะคนที่ไอ้มือปืนนั่นต้องการปลิดชีวิตก็คือเขา แต่เธอดันโชคร้ายมารับกระสุนแทนตึก ตึก ตึก"นายครับ!" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามา"จับตัวมันได้หรือเปล่า?!""มันหนีไปได้ครับ แต่ทิ้งหลักฐานเอาไว้ ตอนนี้คนของเรากำลังตามล่ามันอยู่ อีกไม่เก
หลายวันผ่านไปเรื่องท้องเฌอรีนก็ยังไม่ได้บอกอะไรเขา เธอไม่พร้อมและก็ไม่คิดจะบอกอะไรเขาด้วย ในความคิดของเธอทุกอย่างจะต้องจบลงโดยที่เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่จะหาวิธีไหนมาบังหน้าได้เนี่ยสิ มันยากก็ตรงนี้แหละหมับ!มือหนาวางลงบนไหล่ของหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อตาลอยอยู่ เธอสะดุ้งเฮือกพร้อมกับหันไปมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียวราวกับคนไม่สบายหนัก“เป็นอะไรของเธอ จับแค่นี้ถึงกับต้องตกใจเลยหรือไง”“คุณมาเงียบๆ ฉันก็ตกใจสิคะ”“หึหึ...ขวัญอ่อนจริงนะเธอ”“.......”เฌอรีนมองหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา ไม่เข้าใจว่ามันน่าตลกนักหรือไงที่ทำให้เธอตกใจแล้วหัวเราะขึ้นมาได้โรคจิต! พวกที่ชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น“ตกลงเธอเป็นอะไร เห็นนั่งเหม่อนานแล้ว”“เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”“สายของฉันรายงานว่า เธอชอบมานั่งเหม่อแบบนี้ทุกวัน กินข้าวก็อย่างกับแมวดม หน้าตาไม่ชื่นมื่น อย่างกับคนป่วย”“ไม่น่าถามนะคะ ฉันเจอเรื่องมาสารพัด มีแต่เรื่องแย่ๆ เข้ามาในชีวิต จะให้ยิ้มร่าเหมือนคนมีความสุขเหรอ”“ก็แค่พูดในมุมที่ว่ามันไม่ปกติ”“นี่แหละฉัน ปกติของฉัน คุณน่าจะชินแล้วนะ”เฌอรีนลุกขึ้นและกำลังจะเดินออ
หลังจากที่กลับจากบนเกาะ คุณสิงห์เขาก็ให้อิสระฉันมากขึ้น สามารถไปไหนมาไหนเองได้ แต่ต้องมีคนของเขานั้นติดตามไปด้วย มันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยล่ะนะ เพราะฉันไม่ต้องถูกขังให้อยู่แต่ในห้อง หรือถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านของเขาที่รอบๆ มันมีแต่ป่าตึก!“ออกรถค่ะ”“คุณเฌอจะไปที่ไหนครับ?”“โรงพยาบาลค่ะ แต่...เรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามรายงานเจ้านายคุณเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะหนี แล้วพวกคุณก็จะถูกเขาซ้อม”“ผมจำเป็น...”“คุณไม่พูด ฉันไม่หนี คุณก็ไม่ถูกลงโทษ ได้ประโยชน์นะคะคิดดีๆ”“อ่า...ครับ”อีกอย่างนึงเลยก็คือเวลาฉันจะออกไปข้างนอก คนขับรถจะต้องรายงานเขาตลอดว่าฉันออกไปไหน ทำอะไร ซื้อของนั่นนี่ อิสระที่สบายกายแต่รู้สึกอึดอัดใจแทน แต่มันก็ดีแหละ สำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับฉัน มันดีกว่าไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่นานนักคนขับรถก็พาฉันมาถึงโรงพยาบาล“แล้วจะให้บอกคุณสิงห์ว่ายังไงครับ?”“พาฉันออกมาดูบ้านหลังเก่าที่ถูกยึด แล้วเดี๋ยวฉันกลับมาจะให้พาไปอีกที่ เวลาบอกจะได้ตรงกัน”“ครับ”จะเล่นละครทั้งทีมันก็ต้องเอาให้เนียนสิจริงไหม ถ้าคนของเขาบอกอีกอย่าง ฉันพูดอีกอย่าง แบบนั้นคงได้ความแตกโดนจับได้ก่อนกันพอดีส
เวลาต่อจากนั้นหลังจากที่มาเฟียหนุ่มออกไปทำงานพร้อมกับลูกน้องแล้วเขาก็ปล่อยให้เธอนั้นอยู่ที่บ้านโดยที่ไม่มีคนของเขาเฝ้าดูแล เพราะมันไม่มีเรื่องอันตรายอะไร บวกกับมีจันทร์คอยอยู่เป็นเพื่อนจึงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ “คุณเฌอคะ ของว่างค่ะ”“ขอบคุณมากเลยนะคะ” “เมื่อเช้าที่ฉันจะถาม...” จู่ๆ จันทร์ก็เงียบไป ทำให้เฌอรีนหันมองด้วยความสงสัย ประจวบเหมาะกับที่เธอนึกขึ้นได้พอดี “นั่นสิคะ ฉันเองก็ลืมเลยเหมือนกัน คุณจันทร์จะถามอะไรเหรอคะ?”“คุณเฌอมีแฟนหรือเปล่าคะ?”“.....” เธอมองหน้าของเจ้าของคำถาม พร้อมกับยิ้มเจื่อนแก้เขินไป “ไม่มีค่ะ”“ขอโทษนะคะ ประจำเดือนมาประจำทุกเดือนไหมคะ”พอถูกถามถึงเรื่องนี้เฌอรีนก็ถึงกับหน้าชาไปหมดเลย เธอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อถึงอะไรอยู่ ไม่มีประจำเดือนก็เท่ากับว่า เธออาจจะกำลังท้องอยู่ก็ได้“แต่ฉันไม่อยากให้คุณเฌอคิดมากนะคะ แต่อยากให้ลองไปตรวจน่ะค่ะ โรคภายในของผู้หญิง เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามนะคะ”“ว่าไงนะคะ?” หญิงสาวหันไปพูด เธอขมวดคิ้วเพราะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตอนแรกก็คิดว่าจันทร์จะสงสัยว่าเธอกำลังท้องซะอีก“ตรวจร่างกายน่ะค่ะ”“ฉันคิดว่าคุณจันทร์จะบอกว่าฉันท้อ
วันต่อมาเฌอรีนตื่นแต่เช้าลงไปหาสองแม่ลูกในครัวอีกบ้านหลังนึง เพราะไม่อยากนอนอยู่กับเขา ไม่อยากมองหน้าของเขา โกรธเรื่องเมื่อวานและสิ่งที่เขาทำเมื่อคืนไม่หายจริงๆ“นอนหลับสบายไหมคะคุณเฌอ”“สบายดีค่ะ” จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นทีว่าจะไม่ดีหรอก เพราะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอและเขาอยู่ในฐานะอะไรกัน“เมื่อคืนคุณสิงห์คงเมาน่าดู เพราะทางนี้นอนสลบอยู่หน้าประตูบ้าน”“แหะๆ ค่ะ เขย่าประตูเสียงดังลั่นเลย ฉันก็เลยต้องตื่นมาเปิดประตูน่ะค่ะ” เฌอรีนหัวเราะแห้ง“ตายจริง แบบนี้ก็คงนอนไม่หลับเลยสิคะ”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เขาเองก็เมาหลับเหมือนกัน”“อ๋อ นึกว่าคุณเฌอนอนไม่หลับซะแล้ว”“ก็หลับค่ะ แค่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเขา”“วันนี้คุณเฌอต้องตามคุณสิงห์ไปดูสินค้าสินะคะ ไม่ต้องมาช่วยหรอกค่ะ”“ไม่เป็นอะไรค่ะ เผลอๆ เขาคงไม่ให้ฉันตามไปหรอก”“อ้าว ไหนว่าเป็น...?”“ฉันติดตามมาดูแลเขาน่ะค่ะ ไม่ใช่พนักงานหรือเลขาของเขา”“ตายจริง ฉันขอโทษนะคะที่เข้าใจผิด” “ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”ฉันไม่รู้จะบอกกับคุณจันทร์ยังไงดีเหมือนกัน แต่ก็เป็นอย่างที่บอกแหละ ฉันไม่ใช่คนของเขาที่จะทำงานแล้วกินเงินเดือน สถานะที่ฉันเข้าใจตอนนี้ก็คือ ล
“อ๊ะนี่คุณ!”“อืม ขอเอาหน่อย เงี่ยนว่ะ”ร่างหนาโถมตัวเข้ามาใส่เธอ ด้วยความที่เขาเมาไม่มีสติ เลยยั้งแรงของตัวเองไว้ไม่ได้“อื้อ คุณสิงห์ หยุดก่อนค่ะ คุณตัวหนักนะ” เธอพยายามจะผลักเขาออกไป แต่ก็ยากเพราะเขาทิ้งตัวลงมาให้เธอประคองเลย กลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนี้ มันก็สมแล้วล่ะที่เขาจะไม่มีสติเอาซะเลย“อือ...ตัวหอมจัง”“อือคุณสิงห์...”เฌอรีนลากเขาขึ้นไปด้านบนอยากทุลักทุเล เพราะเขาทั้งตัวหนักและตัวใหญ่ ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอจะไปไหวได้ยังไงแต่ก็พาเขาขึ้นมาบนห้องจนได้นั่นแหละตุบ!“คราวหน้าถ้าเมาแล้วลำบากคนอื่นก็อย่าเมาอีกนะ เหนื่อยชะมัด!” เพราะตัวของเขาหนักมากๆ จนเธอนั่งบ่นเพราะกว่าจะแบกขึ้นมาถึงก็ใช้แรงไปไม่รู้เท่าไหร่ “อือ บ่นไรวะ!”“......” เฌอรีนถอนหายใจ ก่อนจะจับเขาถอดเสื้อออกเพราะเหม็นเสื้อที่มีกลิ่นเหล้า เธอไม่ชอบกลิ่นมันเท่าไหร่ แต่พอถอดเสื้อออกเท่านั้นแหละ เธอก็ได้เห็นรอยที่มันดูไม่น่ามองเท่าไหร่รอยลิปสติก?หมับ!!“อ๊ะ ฉันเจ็บนะคุณสิงห์”“มองอะไรอยู่ได้?” เขาจ้องหน้าเธอเหมือนกำลังเค้นเอาคำตอบ“เปล่าค่ะ อาบน้ำมั้ยคะ จะได้สร่างขึ้น”“อืม..อาบให้หน่อย อยากโดนถู”“......”เธอไม่ได้ปฏิเสธเ
ฉันนั่งเรืออยู่นานกว่าจะถึง ทั้งเวียนหัวคลื่นไส้ไม่รู้อาการบ้าอะไรเป็นไปหมดเลยฟึ่บ...“อึก...”“ไหวหรือเปล่า?”“จะอ้วกอ่ะ เวียนหัวคลื่นไส้ไงไม่รู้” ฉันพูดเสียงแหบๆ ณ ตอนนี้ไม่สนใจอะไรรอบข้างแล้วล่ะ มันมึนมันเวียนพาให้ขมุกขมัวไปหมดเลย ฉันไม่น่าตกลงมากับเขาตั้งแต่แรกเลย ดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ แย่ชะมัดเลย“สวัสดีค่ะคุณสิงห์ พาใครมาด้วยคะเนี่ย แฟนเหรอคะ”จบประโยคคำถามของผู้หญิงคนนั้นเขาก็มองหน้าของฉัน“เปล่าหรอก แค่คนติดตามน่ะ ฝากพาไปพักทีเธอเมาเรือนะ”“ได้ค่ะ”ฉันถูกผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าใครพาเดินออกไปจากกลุ่มคนมากมาย ก่อนจะพาฉันนั่งลงตรงที่อากาศโล่งๆ ลมพัดเย็นสบาย ผู้หญิงคนนั้นยื่นยาดมให้กับฉันโดยที่เราสองคนยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย“ช่วงนี้คลื่นแรง เรืออาจจะโคลงเคลงมากกว่าเดิมหน่อย นั่งเรือครั้งแรกเหรอคะ”“.....” ฉันมองแล้วพยักหน้าตอบ เพราะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังไม่อยากคุยกับใครเลยด้วย“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละค่ะ”“ว่าแต่คุณเป็นเจ้าของที่นี่เหรอคะ?”“เป็นภรรยาค่ะ เจ้าของคือสามีของฉัน”“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันชื่อเฌอรีนค่ะ เรียกเฌอก็พอค่ะ”“ค่ะคุณเฌอ”“ครั้งหน้าถ้ามีงานอีกฉันจะบอกเขาว่