วันต่อมาเฌอรีนตื่นแต่เช้าลงไปหาสองแม่ลูกในครัวอีกบ้านหลังนึง เพราะไม่อยากนอนอยู่กับเขา ไม่อยากมองหน้าของเขา โกรธเรื่องเมื่อวานและสิ่งที่เขาทำเมื่อคืนไม่หายจริงๆ“นอนหลับสบายไหมคะคุณเฌอ”“สบายดีค่ะ” จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นก็เห็นทีว่าจะไม่ดีหรอก เพราะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอและเขาอยู่ในฐานะอะไรกัน“เมื่อคืนคุณสิงห์คงเมาน่าดู เพราะทางนี้นอนสลบอยู่หน้าประตูบ้าน”“แหะๆ ค่ะ เขย่าประตูเสียงดังลั่นเลย ฉันก็เลยต้องตื่นมาเปิดประตูน่ะค่ะ” เฌอรีนหัวเราะแห้ง“ตายจริง แบบนี้ก็คงนอนไม่หลับเลยสิคะ”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เขาเองก็เมาหลับเหมือนกัน”“อ๋อ นึกว่าคุณเฌอนอนไม่หลับซะแล้ว”“ก็หลับค่ะ แค่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเขา”“วันนี้คุณเฌอต้องตามคุณสิงห์ไปดูสินค้าสินะคะ ไม่ต้องมาช่วยหรอกค่ะ”“ไม่เป็นอะไรค่ะ เผลอๆ เขาคงไม่ให้ฉันตามไปหรอก”“อ้าว ไหนว่าเป็น...?”“ฉันติดตามมาดูแลเขาน่ะค่ะ ไม่ใช่พนักงานหรือเลขาของเขา”“ตายจริง ฉันขอโทษนะคะที่เข้าใจผิด” “ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”ฉันไม่รู้จะบอกกับคุณจันทร์ยังไงดีเหมือนกัน แต่ก็เป็นอย่างที่บอกแหละ ฉันไม่ใช่คนของเขาที่จะทำงานแล้วกินเงินเดือน สถานะที่ฉันเข้าใจตอนนี้ก็คือ ล
เวลาต่อจากนั้นหลังจากที่มาเฟียหนุ่มออกไปทำงานพร้อมกับลูกน้องแล้วเขาก็ปล่อยให้เธอนั้นอยู่ที่บ้านโดยที่ไม่มีคนของเขาเฝ้าดูแล เพราะมันไม่มีเรื่องอันตรายอะไร บวกกับมีจันทร์คอยอยู่เป็นเพื่อนจึงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ “คุณเฌอคะ ของว่างค่ะ”“ขอบคุณมากเลยนะคะ” “เมื่อเช้าที่ฉันจะถาม...” จู่ๆ จันทร์ก็เงียบไป ทำให้เฌอรีนหันมองด้วยความสงสัย ประจวบเหมาะกับที่เธอนึกขึ้นได้พอดี “นั่นสิคะ ฉันเองก็ลืมเลยเหมือนกัน คุณจันทร์จะถามอะไรเหรอคะ?”“คุณเฌอมีแฟนหรือเปล่าคะ?”“.....” เธอมองหน้าของเจ้าของคำถาม พร้อมกับยิ้มเจื่อนแก้เขินไป “ไม่มีค่ะ”“ขอโทษนะคะ ประจำเดือนมาประจำทุกเดือนไหมคะ”พอถูกถามถึงเรื่องนี้เฌอรีนก็ถึงกับหน้าชาไปหมดเลย เธอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อถึงอะไรอยู่ ไม่มีประจำเดือนก็เท่ากับว่า เธออาจจะกำลังท้องอยู่ก็ได้“แต่ฉันไม่อยากให้คุณเฌอคิดมากนะคะ แต่อยากให้ลองไปตรวจน่ะค่ะ โรคภายในของผู้หญิง เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามนะคะ”“ว่าไงนะคะ?” หญิงสาวหันไปพูด เธอขมวดคิ้วเพราะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตอนแรกก็คิดว่าจันทร์จะสงสัยว่าเธอกำลังท้องซะอีก“ตรวจร่างกายน่ะค่ะ”“ฉันคิดว่าคุณจันทร์จะบอกว่าฉันท้อ
หลังจากที่กลับจากบนเกาะ คุณสิงห์เขาก็ให้อิสระฉันมากขึ้น สามารถไปไหนมาไหนเองได้ แต่ต้องมีคนของเขานั้นติดตามไปด้วย มันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยล่ะนะ เพราะฉันไม่ต้องถูกขังให้อยู่แต่ในห้อง หรือถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่ในบ้านของเขาที่รอบๆ มันมีแต่ป่าตึก!“ออกรถค่ะ”“คุณเฌอจะไปที่ไหนครับ?”“โรงพยาบาลค่ะ แต่...เรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามรายงานเจ้านายคุณเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะหนี แล้วพวกคุณก็จะถูกเขาซ้อม”“ผมจำเป็น...”“คุณไม่พูด ฉันไม่หนี คุณก็ไม่ถูกลงโทษ ได้ประโยชน์นะคะคิดดีๆ”“อ่า...ครับ”อีกอย่างนึงเลยก็คือเวลาฉันจะออกไปข้างนอก คนขับรถจะต้องรายงานเขาตลอดว่าฉันออกไปไหน ทำอะไร ซื้อของนั่นนี่ อิสระที่สบายกายแต่รู้สึกอึดอัดใจแทน แต่มันก็ดีแหละ สำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับฉัน มันดีกว่าไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่นานนักคนขับรถก็พาฉันมาถึงโรงพยาบาล“แล้วจะให้บอกคุณสิงห์ว่ายังไงครับ?”“พาฉันออกมาดูบ้านหลังเก่าที่ถูกยึด แล้วเดี๋ยวฉันกลับมาจะให้พาไปอีกที่ เวลาบอกจะได้ตรงกัน”“ครับ”จะเล่นละครทั้งทีมันก็ต้องเอาให้เนียนสิจริงไหม ถ้าคนของเขาบอกอีกอย่าง ฉันพูดอีกอย่าง แบบนั้นคงได้ความแตกโดนจับได้ก่อนกันพอดีส
หลายวันผ่านไปเรื่องท้องเฌอรีนก็ยังไม่ได้บอกอะไรเขา เธอไม่พร้อมและก็ไม่คิดจะบอกอะไรเขาด้วย ในความคิดของเธอทุกอย่างจะต้องจบลงโดยที่เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่จะหาวิธีไหนมาบังหน้าได้เนี่ยสิ มันยากก็ตรงนี้แหละหมับ!มือหนาวางลงบนไหล่ของหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อตาลอยอยู่ เธอสะดุ้งเฮือกพร้อมกับหันไปมองเขาด้วยใบหน้าซีดเซียวราวกับคนไม่สบายหนัก“เป็นอะไรของเธอ จับแค่นี้ถึงกับต้องตกใจเลยหรือไง”“คุณมาเงียบๆ ฉันก็ตกใจสิคะ”“หึหึ...ขวัญอ่อนจริงนะเธอ”“.......”เฌอรีนมองหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา ไม่เข้าใจว่ามันน่าตลกนักหรือไงที่ทำให้เธอตกใจแล้วหัวเราะขึ้นมาได้โรคจิต! พวกที่ชอบมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น“ตกลงเธอเป็นอะไร เห็นนั่งเหม่อนานแล้ว”“เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”“สายของฉันรายงานว่า เธอชอบมานั่งเหม่อแบบนี้ทุกวัน กินข้าวก็อย่างกับแมวดม หน้าตาไม่ชื่นมื่น อย่างกับคนป่วย”“ไม่น่าถามนะคะ ฉันเจอเรื่องมาสารพัด มีแต่เรื่องแย่ๆ เข้ามาในชีวิต จะให้ยิ้มร่าเหมือนคนมีความสุขเหรอ”“ก็แค่พูดในมุมที่ว่ามันไม่ปกติ”“นี่แหละฉัน ปกติของฉัน คุณน่าจะชินแล้วนะ”เฌอรีนลุกขึ้นและกำลังจะเดินออ
พอมาถึงโรงพยาบาลเฌอรีนก็ถูกส่งเข้าไปในห้องผ่าตัดทันที เนื่องจากกระสุนฝังอยู่ในร่างกาย บวกกับเสียเลือดมากถ้าไม่รีบผ่าตัด และช่วยเหลือไม่ทัน นั่นมันอาจจะหมายถึงชีวิตของเธอเลย"คุณหมอคะ ผลตรวจเลือด....คนไข้กำลังตั้งครรภ์ค่ะ" พยาบาลคนนึงรีบเดินเข้ามาในห้องที่กำลังวุ่นวาย"ว่ายังไงนะ!""ชีพจรก็เต้นอ่อนลงแล้วค่ะคุณหมอ!""เตรียมผ่าตัดเลย ไม่ทันแล้วล่ะ"ด้วยอาชีพจรรยาบรรณที่จะต้องพยายามรักษาชีวิตคนไข้ของตัวเองไว้ให้ได้ ทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของคนไข้เอาไว้ และต้องทำการผ่าตัดเอากระสุนที่ฝังอยู่ในท้องออก ก็จำเป็นจะต้องเอาเด็กที่อยู่ในท้องออกเช่นกัน ทุกอย่างมันดูเสี่ยงไปหมด และคุณหมอก็มีทางเลือกอยู่ทางเดียว..ทางด้านนอกสิงห์ยังคงใจจดใจจ่อรออยู่ที่หน้าห้องที่เดิม เขายังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะได้รับคำตอบจากคุณหมอ จนกว่าเธอจะปลอดภัย เขารู้ดีว่าเธอก็แค่โชคร้ายโดนกระสุน เพราะคนที่ไอ้มือปืนนั่นต้องการปลิดชีวิตก็คือเขา แต่เธอดันโชคร้ายมารับกระสุนแทนตึก ตึก ตึก"นายครับ!" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามา"จับตัวมันได้หรือเปล่า?!""มันหนีไปได้ครับ แต่ทิ้งหลักฐานเอาไว้ ตอนนี้คนของเรากำลังตามล่ามันอยู่ อีกไม่เก
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เฌอรีนยังคงหลับนิ่งอยู่บนเตียง ทั้งที่ร่างกายของเธอนั้นดีขึ้นมากแล้วแท้ๆเป็นเพราะสภาพจิตใจงั้นเหรอ? เพราะเธออยากตาย ไม่อยากอยู่งั้นเหรอ เธอถึงไม่ยอมลืมตาขึ้นมารับรู้สิ่งต่างๆ แต่แล้วสิ่งที่เขาหวังและรอคอยมาโดยตลอดก็เป็นจริง เฌอรีนฟื้นขึ้นมา เธอลืมตาและมองหน้าของเขา! ทำเอาเขาที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นถึงกับตกใจ“เฌอรีน!”“อืม...”“เป็นไงบ้าง อยะ..อย่าเพิ่งขยับนะ รอหมอมาตรวจก่อน”“......” เธอยังไม่ได้พูดอะไร เพราะยังไม่มีแรงเลย จะอ้าปากพูดกับเขายังเสียงแหบไปหมด“เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”หลังจากนั้นคุณหมอก็เข้ามาตรวจอาการต่างๆ ทั้งบาดแผลที่เธอถูกยิงและเรื่องที่เธอนั้นต้องแท้งลูกเพราะเหตุการณ์นี้“เธอเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่า?” สิงห์เอ่ยถามคุณหมอที่เดินออกมาหลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จ“ครับ ร่างกายโดยรวมดีขึ้นมากเลย ส่วนเรื่องนั้นคุณสามีต้องพยายามค่อยๆ บอกเธอนะครับ เพราะมันรุนแรงมาก อาจจะกระทบจิตใจของคนเป็นแม่น่าดู เดี๋ยวหมอมาตรวจร่างกายพรุ่งนี้อีกทีนะครับ”“ครับ”อย่าว่าแต่เธอเลยที่รู้สึกไม่ดี เรื่องนี้มันก็กระทบจิตใจของเขาไม่ต่างก
หลังจากที่ฟื้นฉันก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกเกือบอาทิตย์ ความจริงคุณหมอให้ฉันกลับตั้งแต่ฟื้นสามวันแรกแล้วล่ะ แต่เขาให้ฉันอยู่ให้คุณหมอดูอาการก่อน กลัวแผลจะฉีก กลัวแผลจะติดเชื้อ นั่นนี่ๆ อะไรของเขาก็ไม่รู้ดูเรื่องมากไปหมดกลับมาบ้านของเขาคราวนี้ มันดูผิดตาไปหมดเลย จากที่ฉันรู้สึกว่าอยู่แล้วมันไม่มีชีวิตชีวา การตกแต่งก็ดูเฉยๆ ไม่ได้หน้ามองอะไรขนาดนั้น แต่ตอนนี้กลับมีดอกไม้มาประดับมากมาย จัดตกแต่งให้ดูหรูหราสวยชื่นตาไปหมด"มัวยืนมองอะไรอยู่ได้ ทำไมไม่เข้ามาสักทีล่ะ""......" ฉันถอนหายใจเบาๆ ถึงจะถูกจัดตกแต่งใหม่ทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นบ้านที่ใช้ขังฉันอยู่วันยังค่ำ ถึงจะทำให้มันดูดีขึ้นมา แต่มันก็ลบออกไปจากความทรงจำของฉันไม่ได้หรอก ความสวยงามมันก็อยู่ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นแหละ"เฌอรีน""ทำไมถึงตกแต่งใหม่ล่ะ?""ก็แค่อยากให้มันดูสดชื่นก็เท่านั้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบ ฉันให้คนยกออกไปทิ้งก็ได้""ช่างมันเถอะ จะเอาออกหรือเอาไว้มันก็ไม่ได้ต่างอะไรหรอก""......""ฉันอยากอยู่คนเดียว คุณไม่ต้องไปยุ่งล่ะ"ฉันพูดกับเขาแค่นั้นและเดินขึ้นบันไดไปทันที ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับ
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีขึ้น...มั้ง ไม่รู้ว่าจะใช้คำนี้ได้หรือเปล่า แต่ในความรู้สึกของเธอ หลายๆ อย่างในบ้านหลังนี้มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะเขาที่เป็นเจ้าของ เป็นผู้ชายที่มักจะคอยออกคำสั่งกับเธออยู่ตลอดแม่บ้านสองคนนั้นก็หายไป และคนที่เข้ามาใหม่ก็ดูจะเป็นแม่บ้านแบบที่ดูเหมือนเป็นแม่บ้านจริงๆ ไม่ใช่แม่บ้านที่แปลกๆ สองคนนั้นทุกๆ อย่างมันเหมือนจะเหมือนเดิม เขาก็ยังเป็นเขาอยู่วันยังค่ำ ส่วนฉันก็ยังเป็นฉันอยู่เหมือนเดิม แต่เราอยู่ด้วยกันโดยที่เราไม่มีสถานะที่ชัดเจน มันก็น่าอึดอัดไม่น้อยเลยเหมือนกันนะ ถ้าบอกว่าเป็นคนรักกัน เป็นคู่หมั้นกัน มันคงจะดูดีกว่านี้แหละ เรื่องหนี้สินของพ่อแม่ฉันเขาก็ไม่ได้พูดถึงนานแล้วด้วยเป๊าะ!"อื้อ! ตกใจหมด""นั่งเหม่ออีกแล้ว คิดถึงใครอยู่""เบื่อๆ ไม่ได้คิดถึงใครหรอก""งั้นเหรอ""......"บางครั้งก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเขาถึงต้องร้ายด้วย พอถึงตอนนี้แล้วเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เคยถามเหมือนกันนะ ว่าเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรฉัน ไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมาเลย มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นที่เป็นคำตอบให้กับฉัน"ถ้าเร
...ภายในห้องฉุกเฉิน “อะ โอย...” เสียงร้องแผ่วจากปากของหญิงสาว พร้อมกับใบหน้าที่เหยเกของเธอ มันบ่งบอกถึงความเจ็บร้าวที่แผลรอยเย็บซึ่งเกิดจากการผ่าตัดคลอดก่อนหน้านี้“เฌอรีน ฉันอยู่นี่นะ”“อืม..คุณสิงห์”“นอนนิ่งๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเดี๋ยวแผลปริ”“ลูกล่ะคะ?” เอ่ยถามเสียงแหบ“พยาบาลดูแลให้อยู่น่ะ น่าจะป้อนนมให้อยู่”“อืม...ลูกเราน่ารักมั้ยคะ?”“น่ารักสิ น่ารักมากๆ เลยด้วย”“.....” เฌอรีนได้แต่ยิ้มตอบรับ“นอนพักเถอะนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเลย เดี๋ยวเจ็บแผล”“ฉันนอนพอแล้วล่ะ นอนไม่หลับแล้ว” เธอตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกของเธอมากกว่า เขาทั้งสองต้องน่ารักมากๆ เลยล่ะ“แล้วน้องกันต์ล่ะคะ อยู่กับใคร?”“นมบอกว่าไม่ให้พามาโรงพยาบาล กลัวจะงอแงไม่เอาใคร เลยดูแลให้ก่อนน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะแกไม่ดื้อกับนมเลย”“ค่ะคุณสิงห์”ถึงจะมีลูกแฝดที่เป็นลูกแท้ๆ ในไส้ของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมเลยว่ายังมีลูกชายคนโตอีกคนนึง เขายังคือคนในครอบครัวที่สำคัญมากที่สุดอีกคนนึงเสมอ และก็ไม่ลืมว่าจะต้องดูแลเขาด้วยเช่นกัน แต่ในเวลานี้ต้องรักษาตัวเองให้หายก่อน....เวลาต่อมาก๊อกๆๆๆ“ขออนุญาตนะคะ พาน้องมาส่งค่ะ”เฌอรีนพยาย
...เก้าเดือนต่อมา โรงพยาบาลHH“ขั้นตอนแรกต้องตรวจร่างกายของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะครับ”“ฉันต้องตรวจอะไรบ้างคะ?”“คุณแม่ต้องตรวจอย่างละเอียดเลยนะครับ เพื่อป้องกันการผิดพลาด”“ค่ะคุณหมอ”ไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะเพิ่งเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย ยอมรับว่าแอบเกร็งไม่น้อยเหมือนกัน มันกลัวยังไงก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ชอบโรงพยาบาลอยู่แล้ว พอต้องมาห้องตรวจแคบๆ ฉันรู้สึกหวั่นไปหมดเลยพรึ่บ!!“คุณเฌอรีนคะ!”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงกลัวที่แคบ อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมา”“นั่งพักก่อนนะคะ รอผลตรวจก่อนนะคะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“ค่ะ”ให้ตายสินี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่เนี่ย อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมาซะงั้น เพราะกลัวเหรอ กดดันเหรอ รู้สึกร้อนหน้าร้อนตาไปหมด หัวใจก็เต้นเร็วกว่าเดิมมากพยาบาลพาฉันเดินออกมาจากห้องตรวจ มาเจอกับคุณสิงห์ พอเขาเห็นฉันเดินกุมหน้าออกมาก็รีบเข้ามาประคองทันที“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนั้น เจ็บเหรอ?”“เปล่าค่ะ แค่เวียนหัว”“คุณเฌอบอกว่ากลัวที่แคบน่ะค่ะ ก็เลยเวียนหัว นั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวผลตรวจก็เรียบร้อยแล้ว”“ครับ”“อืม...”“เป็นยังไงบ้าง”“ฉันตื่นเต้นน่ะ ครั้งแรกด้วยที่ทำแบบนี้ มันเลยกังวลไปหมด
หนึ่งปีต่อมานี่ก็ปีกว่าแล้วที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีความสุขกันมากๆ เลยด้วย เพราะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กการใช้ชีวิตมันเลยค่อนข้างอิสระ ได้ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็เงียบเหงาไม่น้อยเลยเหมือนกัน ระหว่างนี้ก็เลี้ยงหลาน (ลูกของเสือ+น้ำหนึ่ง) พลางๆ ไปก่อน แต่ก็อยากมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็คงจะมีความสุขปนความวุ่นวาย ดูน่าสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะนะพรึ่บ!"คุณสิงห์ตกใจหมดเลยค่ะ!" จู่ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความตกใจเธอสะดุ้งจนของในมือแทบจะหล่นลงพื้น"คิดถึงจัง" เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่าข้างหู"คิดถึงอะไรกัน ก็เจอกันอยู่ทุกวันนี่คะ""แค่วินาทีเดียวฉันก็คิดถึงแล้วล่ะเมียสุดที่รัก""เวอร์ละ อะไรมันจะขนาดนั้น""อืม จะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าผลักออกนะ ฉันอยากกอดแบบนี้นานๆ หน่อย""ว่าแต่วันนี้กลับเร็วกว่าปกตินะคะ""ก็คิดถึงเมียไงครับ เลยกลับเร็วกว่าปกติ""งั้นเหรอคะ นับวันนี่ปากหวานนะคะ""เหงาหรือเปล่า""ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หาอะไรทำเรื่อยเปื่อยก็หายเหงาแล้วค่ะ""เธอตัดสินใจได้หรือยัง เรื่องทำเด็กหลอดแก้วน่ะ ฉันจะได้ไปปรึกษาหมอเอาไว้""....." พอได้ยินอย่างนั้นเธ
กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากงานแต่งงาน “อึกอืม คุณสิงห์ คุณอย่าเพิ่งรีบ อ๊ะ...!!” เธอพยายามดันเขาออกไปเพราะมันรุนแรงจนเธอตั้งรับไม่ทันทั้งๆ ที่หลังแต่งงานก็มีเซ็กซ์กันอยู่ทุกวันทุกคืน แต่สำหรับเขาเท่าไหร่มันก็ไม่พอเลยจริงๆ นะ“เมียจ๋า อยากเอาแล้ว”“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณสิงห์อื้อ” ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วจริงๆ เขารุนแรงจนเธอตั้งตัวไม่ทันเลย“อืม ตัวหอมจังเลยเมียจ๋า”“คนบ้า อ๊ะอ๊า!!”เขาสูดดมตามตัวของเธอ แถมไม่วายขบเม้มตามลำคอขาวจนเธอสะดุ้งเพราะมันเจ็บแปล๊บไปอยู่ชั่วขณะไอ้คนบ้า ทำไมถึงได้ทำกันแบบนี้นะ ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บ!“อืม...”“อยะ อย่าทำแรง มันเจ็บนะคุณสิงห์”“แฮ่ก ขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย”มาเฟียหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า ก่อนที่เขานั้นจะค่อยๆ เล้าโลมเธออย่างนุ่มนวลและตั้งใจเอามากๆ มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของเธอไม่ยอมปล่อยเลย มันทั้งเสียว รู้สึกดี ทั้งร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านจนต้องจิกปลายเท้าลงกับเตียง“อึกอือ...”“จ๊วบ จ๊วบ อืม...นมโคตรหวานเลยครับ”“แฮ่ก! อย่าพูดสิคะ ฉันเขินนะ”“ก็มันอร่อยนี่นา หอมด้วย”ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกมาแบบนี้ แต่ท่าทางของเขามันทำเอาเธอเขินมากๆ สายตาข
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน สิงห์ดูแลเจ้าสาวของเขาเป็นอย่างดีมากๆ ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องรองเท้าของเธอ ที่กลัวว่าเธอนั้นจะเจ็บเพราะต้องใส่และอยู่ในงานแทบทั้งวัน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไร เพราะชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงไปแล้ว ถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ได้ใส่บ่อยนักแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะใส่ไม่ได้อีกแล้วเฌอรีนไม่มีครอบครัวที่ไหน หลังจากที่พ่อแม่เสียไปญาติผู้ใหญ่บางคนที่รู้ข่าวเรื่องพ่อแม่เธอก็พร้อมใจกันตัดขาดเธอเพราะไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องพวกนั้นแต่เธอก็ไม่ได้เสียใจมากนักหรอกถึงวันนี้เธอเลยได้แม่หยกผู้ดูแลมูลนิธิเด็กกำพร้าที่เธอทำงานอยู่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ งานแต่งนั้นถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆ ภายในบ้านของเขา คนร่วมงานก็ไม่ได้มีใครที่ไหนนอกจากคนในครอบครัว กินเลี้ยงกันแบบปาร์ตี้เล็กๆ แต่มีความสุขมาก และจดทะเบียนสมรสกันได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายสมดั่งใจ"เจ็บมากหรือเปล่า ตรงข้อตรงนี้มันแดงมากเลยนะ" มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงพร้อมกับจับเท้าของเธอนั้นพลิกดูอย่างระมัดระวัง เพราะต้องใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ตลอด มันจึงมีรอยแดงบริเวณรอบๆ เท้า ซึ่งมันคล้ายกับการถูกรองเท้ากัด"คงเป็น
บ้านของสิงห์ฉันได้มีโอกาสกลับมาที่บ้านของเขาอีกครั้ง นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้มา แต่อะไรๆ ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนเลย ห้องนอนที่ฉันเคยอยู่ ของบางอย่างที่ฉันเคยใช้งาน มันยังคงถูกดูแลทำความสะอาดให้เหมือนกับมีคนใช้อยู่ทุกวัน ไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดเดียวแต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เหมือนตั้งใจปรับให้มันดูโล่งกว่านี้"มีอะไรหรือเปล่า มองแปลกๆ นะ""แปลกสิคุณ ทำไมถึง...เปลี่ยนล่ะ คุณเคยบอกว่าหวงจะตาย"เขาเคยพูดกับฉันว่าเขาหวงทุกอย่างในบ้านหลังนี้ และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถ้าจะมีคนหยิบจับไปตามอำเภอใจ หรือเปลี่ยนที่วางของมันไปที่อื่น"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่ามันรกตาน่ะ ก็เลยให้แม่บ้านเอาออกไป""....."บางอย่างที่เขาเคยเอาวางไว้มันกลับกลายเป็นแจกันและมีดอกไม้หลากสีใส่เอาไว้อยู่ ที่ฉันรู้ว่ามันแปลกไป ก็เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะชอบดอกไม้หรือชอบสีสันอะไรสักเท่าไร"ฉันอยากให้เธอกลับมา""ฉันขอจัดการอะไรให้เสร็จก่อนนะ""บ้านหลังนี้ รอต้อนรับเธอกลับมาเสมอนะ""เฮ้อ..." ฉันถอนหายใจออกมา บ้านหลังนี้มันก็ไม่ได้แย่เลยนะหลังใหญ่น่าอยู่ ถึงมันจะไม่ได้อยู่โซนในตัวเมืองแต่มันก็เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ตอนมา
เวลาผ่านไปไวจนคิดว่าฝันไปหรือเปล่า สิงห์พาเฌอรีนมาที่บ้านของเขาตามที่เคยบอกเธอเอาไว้เมื่อไหร่ที่เธอพร้อมเขาจะพาเธอมารู้จักกับทุกคนที่บ้าน ทุกอย่างมันไม่ได้ผ่านไปแบบกระทันหันหรอก แต่เวลามันผ่านไปนานมากแล้วจริงๆ"บ้านหลังนี้ของคุณเหรอ?""อื้ม เป็นบ้านของพ่อแม่ แต่ฉันไม่ค่อยได้อยู่หรอก ส่วนใหญ่พี่ชายกับเมียเขาอยู่ แล้วก็แม่นมอยู่ด้วย""หลังใหญ่จังเลยคุณ""เข้ามาสิ ฉันจะแนะนำทุกคนให้รู้จัก"เธอเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเขา แล้วก็ได้เจอผู้หญิงมีอายุคนนึง กับผู้หญิงอีกคนนึงที่กำลังยืนอุ้มลูกอยู่"แม่นมครับ""คุณหนูสิงห์""???" เฌอรีนทำท่าทางตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หน้าตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เนี่ยนะที่เรียกว่าคุณหนู เรียกซะเพราะเลย สวนทางกับบุคลิกของเขามากๆ"นี่ครับแม่นม ผู้หญิงที่ผมเคยเล่าให้แม่นมฟัง""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะคุณเฌอ สวยสวยมากๆ เลย""ขะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ""ส่วนคนนั้น ชื่อน้ำหนึ่ง เป็นพี่สะใภ้ของฉันเอง แต่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอนะ""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ ตามสบายนะคะ หนึ่งขอตัวพาลูกนอนก่อน"เฌอรีนได้แต่ยืนเกร็งไปหมด เธอทำตัวไม่ถูก เพราะเพิ่งเคยมาทำอะไรแบบนี้เป็นคร
**วันและเวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ อะไรที่คิดว่ามันจะไม่ดี มันก็กลับดีไปหมดซะทุกอย่าง มันดีมากจริงๆ ในสิ่งที่เขาทำให้เธอและทุกคนในที่นี่ อย่างที่เขาว่าจะเอาชนะใจใครสักคนได้ ไม่ใช่แค่ทำดีกับคนๆ นั้นเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำดีกับคนรอบข้าง หรือคนที่คนนั้นเขารักด้วยเขาทำให้เธอได้เห็นว่าคนเรานั้นก็เปลี่ยนแปลงกันได้ อะไรที่เคยทำไม่ดีมันก็ไม่ได้แปลว่าปัจจุบันเขายังทำแบบนั้นอยู่มันขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หรือในทางที่แย่ลง"เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้หรือไงกัน?""เปล่าหรอก เมื่อก่อนตอนที่ออกมาซื้อของ ฉันได้แวะมาบ่อยๆ น่ะ ได้มาเดินเล่นแล้วมันก็สบายใจดี""อ่อ...ก็ดีนะ บรรยากาศดี""ฉันนึกว่าคุณจะถอดใจไปแล้วซะอีกนะ""ใครบอก ก็แค่หายไปจัดการเรื่องต่างๆ มา ฉันไม่ได้ถอดใจสักหน่อย""......" มันมีอยู่ช่วงนึงที่จู่ๆ เขาก็หายตัวไป หายไปแบบไม่ติดต่อกลับมา ร่วมเดือนเลยก็ว่าได้ จนเธอคิดไปแล้วว่าเขาคงถอดใจแล้วมั้ง เพราะเธอใจแข็งเอามากๆ เลย ในความคิดเขาคงคิดว่าเธอคงไม่มีวันให้อภัย"คิดถึงกันเหรอ?""เปล่า เห็นหายไป คนที่นี่เขาตามหามากกว่า""น่ารักกันจริง""......""เฌอรีน...""หืม?""ฉ
สองวันต่อมาครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> เบอร์แปลกฉันขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา มันแปลกที่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น แถมโทรมาจากต่างประเทศอีกต่างหาก ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่รับหรอก แต่พอนึกถึงใครบางคนเข้าก็ทำให้พอจะเดาออกว่าใครโทรมา"ฮัลโหล"( ทำไมรับช้าจัง ) ปลายสายพูดเชิงบ่น"เบอร์แปลกโทรมา ใครมันจะไปรู้ล่ะ"( ทำอะไรอยู่ จะนอนแล้วเหรอ? )"อืม กำลังจะนอนน่ะ ดึกแล้ว"( อยากนอนด้วยจัง ไม่มีเธอนอนด้วยแล้วมันนอนไม่หลับ )"อย่ามาเวอร์หน่อยเลยน่า มีอะไรถึงโทรมาล่ะ"( ก็คิดถึง )"....." ฉันเงียบไม่ได้ตอบกลับเขา บอกตรงๆ ก็เขินแหละ เดี๋ยวนี้นี่เก่งนักเรื่องปากหวาน รู้ว่าฉันแพ้อะไรก็ชอบทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าอยากเอาใจหรืออยากได้ตัวฉันกันแน่เขายังไว้ใจไม่ได้หรอกสำหรับฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ดีอะไรหรอกนะ แค่สิ่งที่เขาเคยทำมันยังทำให้ฉันรู้สึกระแวง กลัวว่าเขายังต้องการอะไรจากตัวฉันอยู่( ทำไมเงียบล่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า? )"เปล่าไม่ได้พูดผิดอะไร ฉันก็แค่ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไร"( เธอไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง )"ไม่หรอกสบายหูสบายตาดี ตอนคุณอยู่ก็ชอบเกะกะฉัน ใครมันจะไปคิดถึงกันล่ะ