สายๆ ของวันหนึ่ง เฌอรีนออกมาจากห้องนอนและเดินเล่นไปรอบๆ ตัวห้องด้านบน เพราะเป็นชั้นสองที่วนแบบวงกลมและมีห้องไม่กี่ห้องนัก แต่ด้านในกว้าง ซึ่งมีอยู่ห้องนึงที่เธอนั้นถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดว่าไม่ให้เข้าไปยุ่ง และเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือห้องอะไร ทำไมเขาถึงหวงนักหนา หรือว่ามันมีอะไรที่เขาไม่อยากให้เธอเห็นสิ่งผิดกฎหมายเหรอ หรือว่าอะไรที่มันมากกว่านั้น แบบว่าคงไม่ใช่เรื่องดีอะไรเขาถึงได้ไม่อยากให้เธอเอาไปเห็นแต่ถามว่าฟังไหม ก็ไม่ เพราะเธอพูดแล้วว่าจะทำทุกทางเพื่อท้าทายคนอย่างเขา ไม่ได้เกรงกลัว ตายเป็นตาย ถ้าเขากล้าทำเธอก็กล้าจะเอาชีวิตเข้าแลกแกร๊ก!หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง ก่อนปิดประตูเธอก็หันมองด้านนอกก่อนด้วยด้านในเป็นเหมือนห้องทำงานใหญ่ๆ มีโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือสูงๆ และมีหนังสือเรียงรายเต็มไปหมด มันก็ห้องทำงานธรรมดานี่นาไม่เห็นจะมีอะไรดูน่าปิดบังขนาดนั้นเลย ก็แค่ห้องทำงานธรรมดาๆ“เธอเข้ามาได้ยังไงเฌอรีน!” เสียงเข้มน่าสะพรึงดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ทำเอาเธอนั้นตกใจจนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“นะ ไหนว่าออกไป...”“ใครให้เธอเข้ามา?”“ไม่มี แค่อยากเข้ามา มีไรมั้ย”
หลังจากวันนั้นเขาก็หายไปอยู่หลายวัน ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ด้วยแหละ เพราะหายกันไปนานทั้งเจ้านายและลูกน้องคนสนิทเลย ที่บ้านนี้เลยเหลือกันอยู่แค่ไม่กี่คน แต่มันก็ดีนะ ดูเงียบสงบขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร โดยเฉพาะคนอย่างเขา เพราะเขามันน่ารำคาญสำหรับคนอย่างฉันมาก“คุณเฌอรีนจะขึ้นนอนแล้วเหรอคะ”“อืม ไม่ต้องขึ้นไปกวนฉันนะ ฉันอยากอยู่เงียบๆ”“ได้ค่ะ” คงกลัวว่าฉันจะหนีล่ะมั้งถึงชอบตามขึ้นไปอยู่ด้วย บางทีก็ไม่ชอบเพราะฉันต้องการความเป็นส่วนตัว อยากอยู่เงียบๆ แบบไม่ต้องมีใครอยู่ในสายตาไงกลับขึ้นมาบนห้องฉันก็นั่งเล่นอะไรเรื่อยเปื่อยตามประสา จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าดึกแค่ไหนแล้ว ฉันผล็อยหลับไป...*******“อือ...!!” เฌอรีนรู้สึกตัวและก็ต้องตกใจเพราะบางอย่างที่ทับอยู่บนตัวของเธอด้วยสัญชาตญาณของตัวเองมันทำให้เธอรู้ได้เลยว่านี่คือคน แต่ใครกันล่ะ? กำลังขึ้นคร่อมอยู่บนตัวของเธอด้วย เธอสัมผัสได้ว่าเขาตัวใหญ่ ร่างกำยำ หัวใจของเธอมันเต้นโครมๆ รุนแรงเอามากๆ ในใจของเธอมันได้แต่คิดว่าจะเอาตัวรอดจากตอนนี้ยังไงดีไม่รู้จะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหนแล้วโว้ย อย่างน้อยๆ เป็นผู้ชายก็ต้องมีจุดอ่อนเป็น
เผลอหลับไปไม่รู้เมื่อไหร่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบจะข้ามวันแล้ว และก็ตื่นมาในสภาพที่เหมือนอีเพิ้ง หมดสภาพไม่เหมือนคน ถึงจะมองไม่เห็นตัวเองตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามันคงไม่น่ามองแน่ๆ ผมเผ้าฟูฟ่องกระเซอะกระเซิงรุงรังมากแน่ๆ ล่ะเฌอรีนลุกออกจากเตียงด้วยอาการงัวเงีย เธอเดินเข้าห้องน้ำเพราะมองไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ไม่รู้ว่าหายไปไหนหรอก แต่ก็ไม่แปลกที่จะไม่เห็น เพราะมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตึก ตึก ตึก“ตื่นละเหรอ?”“เฮ้ย!!” หญิงสาวร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะเห็นเขาอยู่ในห้องน้ำก่อนแล้ว และภาพตอนนี้ก็ดูไม่น่ามองเท่าไหร่ด้วยสิ เขาแก้ผ้าแก้หมดเลย เห็นส่วนนั้นที่ห้อยโตงเตงและขนรำไรตรงท้องน้อยลงเป็นทางเรื่อยลงไป“ตกใจทำไม ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”“ตกใจเพราะเห็นคุณเนี่ยแหละ ไม่ได้ตกใจเพราะเห็นหนอนน้อยหรอก”“เธอว่าไงนะ!”“จะเสียงดังทำไม ฉันก็พูดชัดแล้วนี่ หนอนน้อย..” “ปากดีนักนะ เดี๋ยวก็โดนอีกรอบหรอก” มองตาขวางพร้อมกับถอนหายใจแรงใส่คนตรงหน้า“.....” เธอไม่ได้สนใจคำพูดของเขา ร่างบางเดินผ่านมาเฟียหนุ่มออกไป ทำอะไรต่อมิอะไรด้วยอาการที่ยังงัวเงียอยู่ จนกระทั่งดวงตาที่ปรือของเธอนั้น
ห้างสรรพสินค้าSK“ฉันจะไปคุยงาน จะซื้ออะไรก็ไปคนของฉันจะไปด้วย”“ไหนบอกไม่กลัวฉันหนี”“แล้วใครบอกว่ากลัว”“แล้วให้คนตามไปเพื่อ?” ฉันตอบกลับพร้อมกับมองไปที่เขาและลูกน้องที่ยืนหน้าเข้มไม่รู้จะแข่งกันตึงไปถึงไหน ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง เก๊กมาดกันจนน่าตบ“หรือเธอจะถือของเอง?”“ก็ยังไม่รู้จะซื้ออะไรนี่ แต่ฉันถือเองได้น่า ฉันไม่บ้าซื้อตู้เย็นแล้วแบกเองหรอก” ฉันเถียงกลับเพราะขี้เกียจคุยกับเขา นี่ขนาดบอกให้มาซื้อของได้ตามสบายนะเนี่ย อยากจะบ้า!“นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันต้องทำงานนะ เธอโดนดีแน่เฌอรีน ต่อล้อต่อเถียงเก่ง!”“ชิ! คิดว่ากลัวหรือไง”“นี่บัตร รูดได้ไม่จำกัด”“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะเสี่ย เฌอสัญญานะคะ ว่าจะรูดให้หมดเลย ไม่พอเดี๋ยวมาขอใหม่”ฉันทำท่ายั่วยวนอารมณ์ของเขา ก่อนที่จะจบด้วยสีหน้าตึงๆ เหมือนไม่ชอบหน้ากันจากนั้นก็เดินออกไป ****“ตามไปดูด้วย ตามห่างๆ ก็พอ”“ครับนาย”สองบอดีการ์ดหนุ่มเดินตามหลังไปห่างๆ ตามคำสั่งของเจ้านาย เพราะมีนัดคุยงานกับคนสนิทจึงไม่สามารถหลบหลีกเรื่องนี้ได้เลย ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือพยายามหลบหนีให้เขาต้องโมโหอีก ถึงเธอจะไม่มีแนวโน้มว่า
เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว จากวันผ่านมาเป็นเดือนๆ เธออยู่กับเขาจนแอบคิดไปแล้วว่า เธอคือส่วนนึงในครอบครัวของเขา ถึงมันจะสวนทางกับความจริงแต่เธอก็แค่แอบคิดก็เท่านั้นแหละเช้าวันหนึ่ง...อุ๊บ! แหวะ! แหวะ! แหวะ!อยู่ๆ เฌอรีนก็มีอาการที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เธออาเจียนหนักมากในตอนเช้า เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว แต่เดี๋ยวพออาบน้ำลงไปสูดอากาศตอนเช้าๆ อาการพวกนี้มันก็จะหายไปเองแต่ทว่าอาการมันหนักขึ้น จากที่มีแค่อาเจียนเธอก็เริ่มมีอาการเหม็นอาหาร บางอย่างเธอก็เหม็นจนกินไม่ลง เหม็นในความรู้สึกของเธอมันบอกไม่ถูกและในวันนี้เธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม อาเจียนในตอนเช้า ทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จก็ออกไปเดินเล่น และกลับมาเตรียมนั่งกินข้าวเหมือนทุกวัน“เป็นอะไรหน้าซีดๆ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้น “เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร”“งั้นไม่ได้ตาบอดนะ ที่จะมองอาการเธอไม่ออก”“ก็ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่เพลียๆ ต้องให้พูดมั้ยคะ ว่าเพราะอะไร?”“.....” เขาเงียบ ทำเป็นจิบกาแฟเหมือนตั้งใจจะเมินเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเธอไม่นานนักอาหารก็ถูกเอามาวางเสิร์ฟตรงหน้า เฌอรีนทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียนก่อนจะรีบลุกออกไปจากโต๊ะอาหาร ท่ามกลาง
ฟึ่บ...“อื้อ?” เฌอรีนลืมตาขึ้นมองด้วยความตกใจ ตกใจที่เห็นเขาตกใจที่จู่ๆ เขาก็เอามือเย็นๆ มานาบแก้ม“หลับอะไรของเธออยู่สภาพนี้”“ก็คนมันเผลอหลับ แล้วเข้ามาตอนไหนเนี่ย”“นานละ นานพอจะเห็นคนนอนเปลือยบนเตียงของฉัน”“ไอ้บ้า! ก็แค่ชุดมันเปิดขึ้น ไม่ได้แก้ผ้าสักหน่อย”“งั้นเหรอ ฉันจะเชื่อดีไหมนะ”“......” ทำท่าทางจะโกรธเขา แต่จะโกรธเพราะเขามาทำให้เธอตื่นมากกว่า ไอ้เรื่องเปลือยน่ะมันไม่ใช่เรื่องจริงเธอไม่โกรธหรอก“ตื่นได้ละ นอนอะไรทั้งวัน”“เรื่องของฉัน อย่ายุ่งน่า”“ข้าวก็กินไม่ตรงเวลา นี่ถ้าเป็นอะไรขึ้นก็ลำบากฉันอีก”“อือ หยุดพูดจะนอน”“เฌอรีน เธอนี่มัน...”“ไม่เบื่อบ้างเหรอ ทำตัวอย่างกับเป็นพ่อฉันเนี่ย ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ฉันเป็นอะไรฉันดูแลตัวเองได้”“.....”พอเธอตอบกลับมาอย่างนั้นเขาก็เงียบไม่ยอมพูดอะไรด้วยเลย นั่งกอดอกอารมณ์ขรึมอยู่อย่างนั้น“อือ นี่คุณ!”“อะไรของเธออีก?”“ถามหน่อยสิ คุณไม่มีบ้านอ่อ?”“ก็นี่ไงบ้าน เธอมองเป็นภูเขารึไง”“ฉันหมายถึงบ้าน...ที่มีครอบครัวน่ะ”“......” พอได้ยินอย่างนั้นเขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบกลับอะไรเธอ“ฉันถามอะไรผิดเหรอ หรือว่าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นอะไรนะ ฉันไม
ฉันนั่งเรืออยู่นานกว่าจะถึง ทั้งเวียนหัวคลื่นไส้ไม่รู้อาการบ้าอะไรเป็นไปหมดเลยฟึ่บ...“อึก...”“ไหวหรือเปล่า?”“จะอ้วกอ่ะ เวียนหัวคลื่นไส้ไงไม่รู้” ฉันพูดเสียงแหบๆ ณ ตอนนี้ไม่สนใจอะไรรอบข้างแล้วล่ะ มันมึนมันเวียนพาให้ขมุกขมัวไปหมดเลย ฉันไม่น่าตกลงมากับเขาตั้งแต่แรกเลย ดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ แย่ชะมัดเลย“สวัสดีค่ะคุณสิงห์ พาใครมาด้วยคะเนี่ย แฟนเหรอคะ”จบประโยคคำถามของผู้หญิงคนนั้นเขาก็มองหน้าของฉัน“เปล่าหรอก แค่คนติดตามน่ะ ฝากพาไปพักทีเธอเมาเรือนะ”“ได้ค่ะ”ฉันถูกผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าใครพาเดินออกไปจากกลุ่มคนมากมาย ก่อนจะพาฉันนั่งลงตรงที่อากาศโล่งๆ ลมพัดเย็นสบาย ผู้หญิงคนนั้นยื่นยาดมให้กับฉันโดยที่เราสองคนยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย“ช่วงนี้คลื่นแรง เรืออาจจะโคลงเคลงมากกว่าเดิมหน่อย นั่งเรือครั้งแรกเหรอคะ”“.....” ฉันมองแล้วพยักหน้าตอบ เพราะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังไม่อยากคุยกับใครเลยด้วย“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละค่ะ”“ว่าแต่คุณเป็นเจ้าของที่นี่เหรอคะ?”“เป็นภรรยาค่ะ เจ้าของคือสามีของฉัน”“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันชื่อเฌอรีนค่ะ เรียกเฌอก็พอค่ะ”“ค่ะคุณเฌอ”“ครั้งหน้าถ้ามีงานอีกฉันจะบอกเขาว่
“อ๊ะนี่คุณ!”“อืม ขอเอาหน่อย เงี่ยนว่ะ”ร่างหนาโถมตัวเข้ามาใส่เธอ ด้วยความที่เขาเมาไม่มีสติ เลยยั้งแรงของตัวเองไว้ไม่ได้“อื้อ คุณสิงห์ หยุดก่อนค่ะ คุณตัวหนักนะ” เธอพยายามจะผลักเขาออกไป แต่ก็ยากเพราะเขาทิ้งตัวลงมาให้เธอประคองเลย กลิ่นเหล้าหึ่งขนาดนี้ มันก็สมแล้วล่ะที่เขาจะไม่มีสติเอาซะเลย“อือ...ตัวหอมจัง”“อือคุณสิงห์...”เฌอรีนลากเขาขึ้นไปด้านบนอยากทุลักทุเล เพราะเขาทั้งตัวหนักและตัวใหญ่ ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอจะไปไหวได้ยังไงแต่ก็พาเขาขึ้นมาบนห้องจนได้นั่นแหละตุบ!“คราวหน้าถ้าเมาแล้วลำบากคนอื่นก็อย่าเมาอีกนะ เหนื่อยชะมัด!” เพราะตัวของเขาหนักมากๆ จนเธอนั่งบ่นเพราะกว่าจะแบกขึ้นมาถึงก็ใช้แรงไปไม่รู้เท่าไหร่ “อือ บ่นไรวะ!”“......” เฌอรีนถอนหายใจ ก่อนจะจับเขาถอดเสื้อออกเพราะเหม็นเสื้อที่มีกลิ่นเหล้า เธอไม่ชอบกลิ่นมันเท่าไหร่ แต่พอถอดเสื้อออกเท่านั้นแหละ เธอก็ได้เห็นรอยที่มันดูไม่น่ามองเท่าไหร่รอยลิปสติก?หมับ!!“อ๊ะ ฉันเจ็บนะคุณสิงห์”“มองอะไรอยู่ได้?” เขาจ้องหน้าเธอเหมือนกำลังเค้นเอาคำตอบ“เปล่าค่ะ อาบน้ำมั้ยคะ จะได้สร่างขึ้น”“อืม..อาบให้หน่อย อยากโดนถู”“......”เธอไม่ได้ปฏิเสธเ
...ภายในห้องฉุกเฉิน “อะ โอย...” เสียงร้องแผ่วจากปากของหญิงสาว พร้อมกับใบหน้าที่เหยเกของเธอ มันบ่งบอกถึงความเจ็บร้าวที่แผลรอยเย็บซึ่งเกิดจากการผ่าตัดคลอดก่อนหน้านี้“เฌอรีน ฉันอยู่นี่นะ”“อืม..คุณสิงห์”“นอนนิ่งๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเดี๋ยวแผลปริ”“ลูกล่ะคะ?” เอ่ยถามเสียงแหบ“พยาบาลดูแลให้อยู่น่ะ น่าจะป้อนนมให้อยู่”“อืม...ลูกเราน่ารักมั้ยคะ?”“น่ารักสิ น่ารักมากๆ เลยด้วย”“.....” เฌอรีนได้แต่ยิ้มตอบรับ“นอนพักเถอะนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเลย เดี๋ยวเจ็บแผล”“ฉันนอนพอแล้วล่ะ นอนไม่หลับแล้ว” เธอตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกของเธอมากกว่า เขาทั้งสองต้องน่ารักมากๆ เลยล่ะ“แล้วน้องกันต์ล่ะคะ อยู่กับใคร?”“นมบอกว่าไม่ให้พามาโรงพยาบาล กลัวจะงอแงไม่เอาใคร เลยดูแลให้ก่อนน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะแกไม่ดื้อกับนมเลย”“ค่ะคุณสิงห์”ถึงจะมีลูกแฝดที่เป็นลูกแท้ๆ ในไส้ของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมเลยว่ายังมีลูกชายคนโตอีกคนนึง เขายังคือคนในครอบครัวที่สำคัญมากที่สุดอีกคนนึงเสมอ และก็ไม่ลืมว่าจะต้องดูแลเขาด้วยเช่นกัน แต่ในเวลานี้ต้องรักษาตัวเองให้หายก่อน....เวลาต่อมาก๊อกๆๆๆ“ขออนุญาตนะคะ พาน้องมาส่งค่ะ”เฌอรีนพยาย
...เก้าเดือนต่อมา โรงพยาบาลHH“ขั้นตอนแรกต้องตรวจร่างกายของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะครับ”“ฉันต้องตรวจอะไรบ้างคะ?”“คุณแม่ต้องตรวจอย่างละเอียดเลยนะครับ เพื่อป้องกันการผิดพลาด”“ค่ะคุณหมอ”ไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะเพิ่งเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย ยอมรับว่าแอบเกร็งไม่น้อยเหมือนกัน มันกลัวยังไงก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ชอบโรงพยาบาลอยู่แล้ว พอต้องมาห้องตรวจแคบๆ ฉันรู้สึกหวั่นไปหมดเลยพรึ่บ!!“คุณเฌอรีนคะ!”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงกลัวที่แคบ อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมา”“นั่งพักก่อนนะคะ รอผลตรวจก่อนนะคะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“ค่ะ”ให้ตายสินี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่เนี่ย อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมาซะงั้น เพราะกลัวเหรอ กดดันเหรอ รู้สึกร้อนหน้าร้อนตาไปหมด หัวใจก็เต้นเร็วกว่าเดิมมากพยาบาลพาฉันเดินออกมาจากห้องตรวจ มาเจอกับคุณสิงห์ พอเขาเห็นฉันเดินกุมหน้าออกมาก็รีบเข้ามาประคองทันที“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนั้น เจ็บเหรอ?”“เปล่าค่ะ แค่เวียนหัว”“คุณเฌอบอกว่ากลัวที่แคบน่ะค่ะ ก็เลยเวียนหัว นั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวผลตรวจก็เรียบร้อยแล้ว”“ครับ”“อืม...”“เป็นยังไงบ้าง”“ฉันตื่นเต้นน่ะ ครั้งแรกด้วยที่ทำแบบนี้ มันเลยกังวลไปหมด
หนึ่งปีต่อมานี่ก็ปีกว่าแล้วที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีความสุขกันมากๆ เลยด้วย เพราะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กการใช้ชีวิตมันเลยค่อนข้างอิสระ ได้ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็เงียบเหงาไม่น้อยเลยเหมือนกัน ระหว่างนี้ก็เลี้ยงหลาน (ลูกของเสือ+น้ำหนึ่ง) พลางๆ ไปก่อน แต่ก็อยากมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็คงจะมีความสุขปนความวุ่นวาย ดูน่าสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะนะพรึ่บ!"คุณสิงห์ตกใจหมดเลยค่ะ!" จู่ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความตกใจเธอสะดุ้งจนของในมือแทบจะหล่นลงพื้น"คิดถึงจัง" เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่าข้างหู"คิดถึงอะไรกัน ก็เจอกันอยู่ทุกวันนี่คะ""แค่วินาทีเดียวฉันก็คิดถึงแล้วล่ะเมียสุดที่รัก""เวอร์ละ อะไรมันจะขนาดนั้น""อืม จะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าผลักออกนะ ฉันอยากกอดแบบนี้นานๆ หน่อย""ว่าแต่วันนี้กลับเร็วกว่าปกตินะคะ""ก็คิดถึงเมียไงครับ เลยกลับเร็วกว่าปกติ""งั้นเหรอคะ นับวันนี่ปากหวานนะคะ""เหงาหรือเปล่า""ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หาอะไรทำเรื่อยเปื่อยก็หายเหงาแล้วค่ะ""เธอตัดสินใจได้หรือยัง เรื่องทำเด็กหลอดแก้วน่ะ ฉันจะได้ไปปรึกษาหมอเอาไว้""....." พอได้ยินอย่างนั้นเธ
กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากงานแต่งงาน “อึกอืม คุณสิงห์ คุณอย่าเพิ่งรีบ อ๊ะ...!!” เธอพยายามดันเขาออกไปเพราะมันรุนแรงจนเธอตั้งรับไม่ทันทั้งๆ ที่หลังแต่งงานก็มีเซ็กซ์กันอยู่ทุกวันทุกคืน แต่สำหรับเขาเท่าไหร่มันก็ไม่พอเลยจริงๆ นะ“เมียจ๋า อยากเอาแล้ว”“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณสิงห์อื้อ” ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วจริงๆ เขารุนแรงจนเธอตั้งตัวไม่ทันเลย“อืม ตัวหอมจังเลยเมียจ๋า”“คนบ้า อ๊ะอ๊า!!”เขาสูดดมตามตัวของเธอ แถมไม่วายขบเม้มตามลำคอขาวจนเธอสะดุ้งเพราะมันเจ็บแปล๊บไปอยู่ชั่วขณะไอ้คนบ้า ทำไมถึงได้ทำกันแบบนี้นะ ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บ!“อืม...”“อยะ อย่าทำแรง มันเจ็บนะคุณสิงห์”“แฮ่ก ขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย”มาเฟียหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า ก่อนที่เขานั้นจะค่อยๆ เล้าโลมเธออย่างนุ่มนวลและตั้งใจเอามากๆ มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของเธอไม่ยอมปล่อยเลย มันทั้งเสียว รู้สึกดี ทั้งร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านจนต้องจิกปลายเท้าลงกับเตียง“อึกอือ...”“จ๊วบ จ๊วบ อืม...นมโคตรหวานเลยครับ”“แฮ่ก! อย่าพูดสิคะ ฉันเขินนะ”“ก็มันอร่อยนี่นา หอมด้วย”ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกมาแบบนี้ แต่ท่าทางของเขามันทำเอาเธอเขินมากๆ สายตาข
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน สิงห์ดูแลเจ้าสาวของเขาเป็นอย่างดีมากๆ ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องรองเท้าของเธอ ที่กลัวว่าเธอนั้นจะเจ็บเพราะต้องใส่และอยู่ในงานแทบทั้งวัน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไร เพราะชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงไปแล้ว ถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ได้ใส่บ่อยนักแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะใส่ไม่ได้อีกแล้วเฌอรีนไม่มีครอบครัวที่ไหน หลังจากที่พ่อแม่เสียไปญาติผู้ใหญ่บางคนที่รู้ข่าวเรื่องพ่อแม่เธอก็พร้อมใจกันตัดขาดเธอเพราะไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องพวกนั้นแต่เธอก็ไม่ได้เสียใจมากนักหรอกถึงวันนี้เธอเลยได้แม่หยกผู้ดูแลมูลนิธิเด็กกำพร้าที่เธอทำงานอยู่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ งานแต่งนั้นถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆ ภายในบ้านของเขา คนร่วมงานก็ไม่ได้มีใครที่ไหนนอกจากคนในครอบครัว กินเลี้ยงกันแบบปาร์ตี้เล็กๆ แต่มีความสุขมาก และจดทะเบียนสมรสกันได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายสมดั่งใจ"เจ็บมากหรือเปล่า ตรงข้อตรงนี้มันแดงมากเลยนะ" มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงพร้อมกับจับเท้าของเธอนั้นพลิกดูอย่างระมัดระวัง เพราะต้องใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ตลอด มันจึงมีรอยแดงบริเวณรอบๆ เท้า ซึ่งมันคล้ายกับการถูกรองเท้ากัด"คงเป็น
บ้านของสิงห์ฉันได้มีโอกาสกลับมาที่บ้านของเขาอีกครั้ง นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้มา แต่อะไรๆ ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนเลย ห้องนอนที่ฉันเคยอยู่ ของบางอย่างที่ฉันเคยใช้งาน มันยังคงถูกดูแลทำความสะอาดให้เหมือนกับมีคนใช้อยู่ทุกวัน ไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดเดียวแต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เหมือนตั้งใจปรับให้มันดูโล่งกว่านี้"มีอะไรหรือเปล่า มองแปลกๆ นะ""แปลกสิคุณ ทำไมถึง...เปลี่ยนล่ะ คุณเคยบอกว่าหวงจะตาย"เขาเคยพูดกับฉันว่าเขาหวงทุกอย่างในบ้านหลังนี้ และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถ้าจะมีคนหยิบจับไปตามอำเภอใจ หรือเปลี่ยนที่วางของมันไปที่อื่น"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่ามันรกตาน่ะ ก็เลยให้แม่บ้านเอาออกไป""....."บางอย่างที่เขาเคยเอาวางไว้มันกลับกลายเป็นแจกันและมีดอกไม้หลากสีใส่เอาไว้อยู่ ที่ฉันรู้ว่ามันแปลกไป ก็เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะชอบดอกไม้หรือชอบสีสันอะไรสักเท่าไร"ฉันอยากให้เธอกลับมา""ฉันขอจัดการอะไรให้เสร็จก่อนนะ""บ้านหลังนี้ รอต้อนรับเธอกลับมาเสมอนะ""เฮ้อ..." ฉันถอนหายใจออกมา บ้านหลังนี้มันก็ไม่ได้แย่เลยนะหลังใหญ่น่าอยู่ ถึงมันจะไม่ได้อยู่โซนในตัวเมืองแต่มันก็เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ตอนมา
เวลาผ่านไปไวจนคิดว่าฝันไปหรือเปล่า สิงห์พาเฌอรีนมาที่บ้านของเขาตามที่เคยบอกเธอเอาไว้เมื่อไหร่ที่เธอพร้อมเขาจะพาเธอมารู้จักกับทุกคนที่บ้าน ทุกอย่างมันไม่ได้ผ่านไปแบบกระทันหันหรอก แต่เวลามันผ่านไปนานมากแล้วจริงๆ"บ้านหลังนี้ของคุณเหรอ?""อื้ม เป็นบ้านของพ่อแม่ แต่ฉันไม่ค่อยได้อยู่หรอก ส่วนใหญ่พี่ชายกับเมียเขาอยู่ แล้วก็แม่นมอยู่ด้วย""หลังใหญ่จังเลยคุณ""เข้ามาสิ ฉันจะแนะนำทุกคนให้รู้จัก"เธอเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเขา แล้วก็ได้เจอผู้หญิงมีอายุคนนึง กับผู้หญิงอีกคนนึงที่กำลังยืนอุ้มลูกอยู่"แม่นมครับ""คุณหนูสิงห์""???" เฌอรีนทำท่าทางตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หน้าตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เนี่ยนะที่เรียกว่าคุณหนู เรียกซะเพราะเลย สวนทางกับบุคลิกของเขามากๆ"นี่ครับแม่นม ผู้หญิงที่ผมเคยเล่าให้แม่นมฟัง""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะคุณเฌอ สวยสวยมากๆ เลย""ขะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ""ส่วนคนนั้น ชื่อน้ำหนึ่ง เป็นพี่สะใภ้ของฉันเอง แต่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอนะ""สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ ตามสบายนะคะ หนึ่งขอตัวพาลูกนอนก่อน"เฌอรีนได้แต่ยืนเกร็งไปหมด เธอทำตัวไม่ถูก เพราะเพิ่งเคยมาทำอะไรแบบนี้เป็นคร
**วันและเวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ อะไรที่คิดว่ามันจะไม่ดี มันก็กลับดีไปหมดซะทุกอย่าง มันดีมากจริงๆ ในสิ่งที่เขาทำให้เธอและทุกคนในที่นี่ อย่างที่เขาว่าจะเอาชนะใจใครสักคนได้ ไม่ใช่แค่ทำดีกับคนๆ นั้นเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำดีกับคนรอบข้าง หรือคนที่คนนั้นเขารักด้วยเขาทำให้เธอได้เห็นว่าคนเรานั้นก็เปลี่ยนแปลงกันได้ อะไรที่เคยทำไม่ดีมันก็ไม่ได้แปลว่าปัจจุบันเขายังทำแบบนั้นอยู่มันขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หรือในทางที่แย่ลง"เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้หรือไงกัน?""เปล่าหรอก เมื่อก่อนตอนที่ออกมาซื้อของ ฉันได้แวะมาบ่อยๆ น่ะ ได้มาเดินเล่นแล้วมันก็สบายใจดี""อ่อ...ก็ดีนะ บรรยากาศดี""ฉันนึกว่าคุณจะถอดใจไปแล้วซะอีกนะ""ใครบอก ก็แค่หายไปจัดการเรื่องต่างๆ มา ฉันไม่ได้ถอดใจสักหน่อย""......" มันมีอยู่ช่วงนึงที่จู่ๆ เขาก็หายตัวไป หายไปแบบไม่ติดต่อกลับมา ร่วมเดือนเลยก็ว่าได้ จนเธอคิดไปแล้วว่าเขาคงถอดใจแล้วมั้ง เพราะเธอใจแข็งเอามากๆ เลย ในความคิดเขาคงคิดว่าเธอคงไม่มีวันให้อภัย"คิดถึงกันเหรอ?""เปล่า เห็นหายไป คนที่นี่เขาตามหามากกว่า""น่ารักกันจริง""......""เฌอรีน...""หืม?""ฉ
สองวันต่อมาครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> เบอร์แปลกฉันขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา มันแปลกที่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น แถมโทรมาจากต่างประเทศอีกต่างหาก ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่รับหรอก แต่พอนึกถึงใครบางคนเข้าก็ทำให้พอจะเดาออกว่าใครโทรมา"ฮัลโหล"( ทำไมรับช้าจัง ) ปลายสายพูดเชิงบ่น"เบอร์แปลกโทรมา ใครมันจะไปรู้ล่ะ"( ทำอะไรอยู่ จะนอนแล้วเหรอ? )"อืม กำลังจะนอนน่ะ ดึกแล้ว"( อยากนอนด้วยจัง ไม่มีเธอนอนด้วยแล้วมันนอนไม่หลับ )"อย่ามาเวอร์หน่อยเลยน่า มีอะไรถึงโทรมาล่ะ"( ก็คิดถึง )"....." ฉันเงียบไม่ได้ตอบกลับเขา บอกตรงๆ ก็เขินแหละ เดี๋ยวนี้นี่เก่งนักเรื่องปากหวาน รู้ว่าฉันแพ้อะไรก็ชอบทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าอยากเอาใจหรืออยากได้ตัวฉันกันแน่เขายังไว้ใจไม่ได้หรอกสำหรับฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ดีอะไรหรอกนะ แค่สิ่งที่เขาเคยทำมันยังทำให้ฉันรู้สึกระแวง กลัวว่าเขายังต้องการอะไรจากตัวฉันอยู่( ทำไมเงียบล่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า? )"เปล่าไม่ได้พูดผิดอะไร ฉันก็แค่ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไร"( เธอไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไง )"ไม่หรอกสบายหูสบายตาดี ตอนคุณอยู่ก็ชอบเกะกะฉัน ใครมันจะไปคิดถึงกันล่ะ