“เอ่อ ฤดีไม่มีถุงใส่ค่ะ ลืมไปเลยว่าต้องซื้อถุงด้วย” เธอว่า เพราะมัวแต่ตื่นเต้นว่าจะได้ขายเงาะก็เลยรีบไปเก็บมาขายอย่างเดียว ลืมคิดไปว่าต้องเตรียมอะไรบ้างในการขาย“ไม่เป็นไร ๆ น้าเล็กเขาซื้อถุงติดบ้านไว้เยอะ เดี๋ยวน้าไปเอาให้สักแพ็ค” ว่าแล้วนิดก็เดินเข้าไปหยิบถุงพลาสติกหูหิ้วมาแพ็คนึงส่งให้ พร้อมกับเครื่องชั่ง เพราะรู้ว่าเธอคงไม่ได้เตรียมอะไรมา“นี่ถุงกับตาชั่ง น้าเอามาให้เลย เดี๋ยวทำช่อชั่งไว้เลยนะ ลูกค้ามาเยอะแล้วจะทำไม่ทัน เดี๋ยวน้าต้องไปดูหน่อยว่าคนงานเตรียมแพเสร็จหรือยัง นักท่องเที่ยวก็ใกล้จะมาแล้ว” นิดว่า คีรินยกมือไหว้พลางว่า“ขอบคุณครับน้านิด ยังไงก็ฝากช่วยดูแม่ค้าด้วยนะครับ ท่าทางจะมือใหม่มาก ๆ ด้วย พอดีผมให้น้าใหญ่ตัดไม้อยู่ ต้องรีบกลับไปดู”“ไปเถอะคีริน ไม่ต้องห่วงหรอก เราก็ญาติ ๆ กัน มีอะไรก็ช่วย ๆ กัน น้าไปดูทางโน้นแป๊บเดียว เดี๋ยวจะมาช่วยดู ส่วนน้าเล็กน่ะเขายุ่ง ๆ เรื่องทำกับข้าวอยู่ สักพักก็คงออกมาละ” นิดว่าพลางยกมือรับไหว้คีรินที่กำลังลากลับ“อยู่ได้นะเราน่ะ” เขาหันไปถามแม่ค้าสาว“ได้ค่ะ พี่คีรินกลับได้เลยค่ะ”“งั้นนี่เบ
เป็นเวลาสามวันแล้วที่เพียงฤดีย้ายมาอยู่ห้องคุณปู่คุณย่าของเขา ตอนเช้าเธอจะรีบตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปรดน้ำผัก ก่อนจะกลับมาทำอาหารเช้า แล้วรีบไปเก็บผลไม้ในสวนเพื่อไปขายที่บ้านของนิดกับเล็กในวันที่มีนักท่องเที่ยวมาล่องแพ โดยที่คีรินขับรถไปส่ง แล้วเธอจะเดินกลับมาเองตอนช่วงเที่ยง ๆ เพราะเขาตัดหญ้าตรงทางเดินไว้ให้แล้ว แต่ก็ย้ำเสมอว่าถ้าไม่อยากกลับเอง ก็ให้โทร. บอก เขาจะขับรถมารับส่วนคีรินตอนเช้าถึงบ่ายแก่ ๆ เขาจะอยู่ในแปลงสวนป่า คอยดูช่างเลื่อยไม้ให้ได้จำนวนตามที่ต้องการ และตัดหญ้าในสวนผลไม้ไปบ้าง ก่อนจะกลับมาราวสี่ถึงห้าโมงเย็นเพื่อปรับปรุงห้องนอนให้เพียงฤดีหญิงสาวคอยส่งไม้บ้างส่งตะปูบ้าง ส่งน็อตหรือสว่านให้บ้าง ขณะที่เขาขึ้นไปทำฝ้าเพดานให้เธอ ตอนนี้ฝ้าเพดานของเธอปูด้วยไม้มีความละเอียดประณีต ผนังห้องฝั่งหนึ่งก็บุไม้ทั้งผนัง เขาถอดหลอดไฟนีออนแบบหลอดยาวออก บอกว่าจะเปลี่ยนไฟให้ใหม่“เราจะถ่ายรูปทำไม หืม ถ่ายตั้งแต่ทำวันแรกแล้ว จะถ่ายทุกวันเลยเหรอ” เขาถามเมื่อเห็นว่าเธอถ่ายวีดีโอตอนที่เขาทำงานอยู่เรื่อย ๆ“ก็ฤดีอยากเก็บไว้ดูตอนมันเสร็จแล้วนี่คะ แ
เพียงฤดีทำอาหารเสร็จก็ตั้งโต๊ะที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเขากั้นส่วนของห้องโถงที่ติดกับครัว ทำเป็นห้องรับประทานอาหารและทุบห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งออกไป เพื่อเปิดผนังแล้วกั้นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้เห็นส่วนของวิวด้านนอก ทำให้บ้านโล่งโปร่งขึ้น ซึ่งตอนนี้เธอเอาดอกไม้ไปปลูกไว้และแขวนดอกเพ็ททูเนียไว้บนราวแขวนที่คีรินทำไว้ให้ ห่างจากหน้าต่างกระจกไประยะหนึ่ง โดยตั้งม้านั่งที่ประดิษฐ์จากเศษไม้ซึ่งเหลือจากการทำบ้านไว้ใกล้ ๆ เธอเดินออกไปที่ห้องโถงก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟาสีครามสไตล์โมเดิร์น ที่เพิ่งสั่งซื้อเข้ามาเพื่อตกแต่งห้องโถงหลังจากปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างเสร็จ ภายในห้องโถงตกแต่งเป็นสีครามเข้มโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนในสวนทั้งหมด ทำให้ดูตัดกับพื้นผนังสีเข้ม ให้ความรู้สึกสงบและเรียบหรู ตรงทางเข้าห้องโถงที่เคยเป็นประตูไม้ทึบแสงกับหน้าต่างไม้อีกสองบาน ตอนนี้ทั้งผนังกลายเป็นกระจกทั้งบาน ติดม่านผ้าเนื้อดีสีครามอ่อน บ้านหลังนี้สวยจนเธอไม่คิดเลยว่า ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงบ้านร้างที่ดูน่ากลัว&nbs
เพียงฤดีเข้าห้องพักแล้วหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดเครื่อง เพื่อต่อสัญญาณไวไฟให้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นมาเพื่อจะเขียนนิยาย ระหว่างรอหน้าจอพร้อมสำหรับทำงาน เธอก็หยิบสมุดบันทึกมาเขียนบัญชีรับจ่ายเงินในวันนี้ ก่อนจะแยกเงินสามสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเองออกจากเงินที่ขายได้วันนี้แล้วใส่ไว้ในซองเล็ก ๆ เสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้น เธอจึงรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นสายของนภาธร“เป็นยังไงบ้างแก ไม่เปิดเครื่องเลย ฉันโทร. หาตั้งหลายรอบแล้ว”“อ้อ แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากรับสายแม่กับพี่ท็อปเลยปิดเครื่องน่ะ”“ฉันก็รู้ ว่าแต่ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”“วันก่อนเผลอรับสายไปทีนึง แม่ก็ยังว่าฉันเห็นแก่ตัวทิ้งครอบครัว จะขอเงินเพิ่มทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ฉันก็จะไม่มีกินอยู่แล้ว ฉันก็เลยไม่รับสายอีก รอให้ถึงวันที่หนึ่งก่อนค่อยโอน ไม่อย่างนั้นก็คงใช้หมดก่อนสิ้นเดือนอีกแน่ ๆ แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาให้อีก กว่าเงินจะออกอีกทีก็วันที่ยี่สิบโน่นพอดีแม็กซ์ดันบอกไปว่าฉันเอาเงินไปซื้อที่ดินหมดแล้ว ให้ช่วยประหยัด อย่ามาขอเงินฉันอีก เท่านั้นแหละ ก็ด่าฉันยกใหญ่พ
“แกได้เยอะเหรอ ถึงบอกว่าจะทำบ้านน่ะ”“ก็ไม่เยอะหรอก แค่ห้าหมื่นเอง คิดว่าทำแบบทรงง่าย ๆ ไม่ต้องหรูหรา ฉันดูคลิปในยูทูปแล้ว ว่าจะซื้อวัสดุมาแล้วยืมเครื่องมือช่างพี่คีรินไปทำเอง”“เฮ้ย บ้าแล้วยายฤดี แกเนี่ยนะ จะทำบ้านเอง”“ทำไมจะทำไม่ได้ แค่หลังเล็ก ๆ ฉันเห็นผู้หญิงในยูทูปตัวเท่า ๆ ฉันนี่แหละ เขายังทำบ้านเองกลางป่าได้เลย ทำไมฉันจะทำไม่ได้”“เฮ้ย นั่นมันคอนเทนต์ เขาจะสร้างเรื่องยังไงก็ได้ แกเชื่อได้ยังไง เขาแค่ทำท่าเหมือนทำเองตอนถ่ายคลิป แต่จ้างคนอื่นมาทำให้ก็ได้”“แล้วถ้าฉันไม่ลองทำเอง ฉันจะรู้ไหมล่ะว่าทำได้ มันต้องลองก่อนไง เนี่ยฉันดูในเพจบ้านทองกวาวมา เขาทำบ้านแบบที่ทำคนเดียวได้ ทำง่ายมาก”“เออ แกจะทำอะไรก็ทำ”“ว่าแต่ฉันขอไม้ไผ่ในสวนแกหน่อยได้ไหม จะเอาไปทำค้างผัก”“เอาไปเลยฉันยกให้ ตัดไปหมดทั้งกอเลยยิ่งดี รกจะตาย”“โอเค ขอบใจนะ ฉันต้องวางหูแล้วละ เดี๋ยวต้องไปทำกับข้าวให้พี่คีรินอีก คุยกับแกจนฉันไม่ได้เขียนนิยายเลยเนี่ย” เพียงฤดีว่าก่อนจะวางสายจากเพื่อน เลื่อนอ่านนิยายที่เขียนไว้ก่อนหน้า แล้วก็เปิดหน้าจอทิ้งไว้ก่อ
๗ย้ายห้อง เพียงฤดีรีบย้ายของออกจากห้อง หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ห้องนี้ดีหน่อยตรงที่มีเตียงนอนไม้ กับตู้เสื้อผ้าไม้แบบโบราณกับชั้นวางของ ทำให้เธอสามารถจัดข้าวของวางได้อย่างเป็นระเบียบขึ้นส่วนคีรินเดินออกไปจากบ้านตามช่างเลื่อยไม้เข้าไปในสวนตั้งแต่กินข้าวเสร็จ เสียงเลื่อยไม้และเสียงตะโกนโหวกเหวกยังดังแว่วมาตลอดเวลาใช้เวลาไม่นานนักก็จัดของในห้องนอนเสร็จ เพียงฤดีจึงเดินไปเก็บมะพร้าวใส่กระสอบลากกลับมาหนึ่งกระสอบ ซึ่งเป็นจำนวนหลายลูกทีเดียว เอามาวางไว้หน้าบ้าน แล้วเข้าไปเตรียมอาหารเที่ยงครอบฝาชีเอาไว้ให้เขาในครัวก่อนจะเข้าไปเอาซองเมล็ดพันธุ์ผักที่เธอซื้อมาตอนออกไปซื้อของกับคีรินคราวก่อน กับจอบขนาดเล็กและพร้าหนึ่งด้ามเดินไปยังที่ดินของตัวเอง เมื่อไปถึงเธอก็สำรวจพื้นที่ตามที่เพื่อนชี้บอกเอาไว้ ว่ามีหมุดเป็นเสาปูนทาสีแดงปักอยู่ที่ดินแปลงของเธออยู่ติดกับถนนลูกรังซึ่งเป็นทางผ่านไปยังที่ดินแปลงของคีริน ลักษณะเป็นพื้นที
ก่อนจะถือพร้าเดินไปยังกอไผ่ ไผ่ลำต้นค่อนข้างใหญ่ เธอใช้เวลาอยู่นานในการตัด แต่เมื่อมันล้มครืนลงมาเธอก็ถึงกับนั่งลงอย่างหมดแรงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น ลากมันออกมาแล้วริดกิ่งออกจนเหลือแต่ลำต้นเธอต้องการจะทำให้มันสั้นกว่านี้ จึงใช้พร้าสับออกเป็นท่อนตามความยาวที่ต้องการ โดยคอยเลื่อนกล้องถ่ายวีดีโอไว้ทุกขั้นตอนที่เธอทำงานหญิงสาวปาดเหงื่อเป็นระยะ เพราะเป็นงานหนักที่เธอไม่คุ้นเคยเลย ทั้งที่คิดว่าที่นี่อากาศเย็น แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจนเหงื่อโทรมกายเลยทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอ จึงไม่ได้รู้สึกลำบากนัก เพราะเธอดูคลิปการเข้าป่าไปสร้างที่อยู่ของหญิงสาวคนหนึ่งในเวียดนาม รวมทั้งของผู้ชายอีกหลายคนที่ทำคลิปประเภทนี้ ทำให้พอจะรู้วิธีเอาตัวรอดในการใช้ชีวิตในป่า และรู้ว่าการสร้างอนาคตของตัวเองบนผืนดินที่ว่างเปล่านั้นต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงไรและตอนนี้เธอก็กำลังทำคลิปเช่นเดียวกับพวกเขาเพื่ออัปโหลดขึ้นยูทูป สร้างช่องของตัวเองไว้ให้ผู้คนได้ติดตามดู ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งในการหาเงินเข้ากระเป๋าเพียงฤดีตัดไม้ไผ่และผ่าไม้ไผ่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เธอขุดหลุมข้
หญิงสาวเดินไปเปิดประตูสีขาวที่เมื่อก่อนไม่เคยมี ด้านในเป็นห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีอ่างล้างหน้า โถแบบชักโครก และส่วนอาบน้ำฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ที่มีกระจกกั้น ภายในห้องน้ำปูกระเบื้องสีขาวดูสะอาดตา“โอ้โห ฤดีไม่เคยมีห้องนอนสวยแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”“ชอบไหมล่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง“ชอบก็ดีแล้ว จะได้อยู่ได้นาน ๆ ไม่ต้องงอแงรีบจะย้ายออกอีก ต่อไปเราก็ต้องช่วยเป็นลูกมือพี่รีโนเวทส่วนอื่นของบ้านด้วย โอเคไหม” หญิงสาวยิ้มกว้างพยักหน้ารับคำ“โอเคเลยค่ะ” ก่อนจะทำหน้าเสียดายอย่างที่สุดแล้วว่า“แต่เสียดายจังเลยค่ะ ฤดีมัวแต่ไปขายของ ไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ลงช่องเลย”คีรินยิ้มอ่อนโยนเอ่ยว่า“พี่ถ่ายไว้เยอะแยะเลย ส่งอีเมลมาให้พี่ เดี๋ยวพี่ส่งคลิปให้เราเอาไปตัด”เธอดีใจจนเผลอไปกอดแขนของเขา“ว้าว จริงหรือคะ ดีใจจัง ช่องมีคนติดตามเกือบร้อยคนแล้วนะคะพี่คีริน เดี๋ยวฤดีจะแยกลงเป็นตอน ๆ แล้วค่อยทำคลิปสรุปตั้งแต่ต้นจนจบอีกคลิป จะได้มีคลิปวางหลายคลิปหน่อย คนจะได้ติดตาม” เธอว่าก่อนจะปล่อยมือจากแขนเขาแล้วยิ้มเก้อ ๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ค่อยเ
“กูก็ห้าหมื่นแล้วกัน แหะ ๆ แอบเมียมาลงทุน ขืนเอาเงินออกจากบัญชีทีละเยอะเดี๋ยวเมียด่า” ณัฐพลว่า“ผมก็สักห้าหมื่นเท่าบุ๋มแล้วกันพี่ พอดีกำลังจะจัดงานแต่ง รถก็ต้องผ่อน ต้องใช้เงินเยอะ กลัวพลาด” นับหนึ่งยิ้มเก้อ ๆ“แล้วมึงล่ะไอ้เป้ มีสองร้อยก็ลงสองร้อยได้ อ้ำอึ้งอะไรอยู่ สองร้อยมึงได้ตั้งยี่สิบหุ้นนะมึง หุ้นละสิบบาท” ณัฐพลหันไปยังปรัชญา“แหมพี่ จะเร่งทำไม ผมคำนวณอยู่”“คำนวณอะไร กลัวไม่มีค่าเหล้าหรือไง”“ผมจริงจังมากพี่เรื่องนี้ ผมลงแสนห้าแล้วกันจะได้ครบ” ปรัชญาว่า“เฮ้ย มึงเอาเงินจากไหนมาตั้งแสนห้าวะ” ณัฐพลตาโต“ยืมเงินพอร์ตเกษียณมานิดหน่อยน่ะพี่ เดี๋ยวค่อยหาเงินไปคืน แต่งานนี้ผมตั้งใจจริง ๆ นะพี่ จะอยู่ช่วยพี่คีทำงานที่นี่เลย สองแรงช่วยกันเราต้องรอดใช่ไหมพี่ บอกตรง ๆ ผมไม่อยากอยู่เคว้งคว้างแบบไม่มีงานทำ เลยเอาเงินมาลงทุนทำกับพี่คีดีกว่า โอกาสรอดมีสูงกว่าทำคนเดียว” ปรัชญาว่า“พอร์ตเกษียณอะไรของมึงวะ” ณัฐพลถามอึ้ง ๆ“อ้าว ก็ผมเก็บเงินใส่บัญชีไว้ใช้ตอนแก่เป็นพอร์ตเกษียณไง บางส่วนก็เอาไปลงทุนหุ้นบ้างไรบ้าง บางส่วนก็เก็บไ
๑๖หุ้นส่วน ในห้องประชุมบรรยากาศการประชุมมีความจริงจัง ไม่ใช่การพูดคุยสนุกสนานเหมือนกับวันแรกที่มาถึง เพียงฤดีเห็นการทำงานของทุกคน ที่พูดคุยเรื่องงานที่คีรินเพิ่งจะรับมา โดยที่คีรินมีการแจกจ่ายงานให้แต่ละคนรับผิดชอบไปตามความถนัดของตน “เอาเป็นว่างานที่ผมรับมาก็ไม่ได้ยากเกินไปใช่ไหมครับ อันนี้ผมออกแบบไว้ตามนี้ รบกวนพี่เทพกับพี่ณัฐคำนวณโครงสร้างและต้นทุนต่าง ๆ ให้ผมหน่อยนะครับ” “เอาเถอะ อาคารหอประชุมขนาดนี้ พี่ทำมาหลายอาคารแล้ว เดี๋ยวพี่ดูให้ ขอบใจนะที่ส่งงานให้พี่ เดี๋ยวเรื่องสัญญาก็ร่างส่งมาแล้วกัน ตอนนี้บริษัทพี่เริ่มอยู่ตัวแล้ว ถึงเล็ก ๆ แต่ทีมงานคุณภาพแน่นอน” เทพดนัยเอ่ยอย่างมั่นใจ&nb
เขาเริ่มเข้าทำงานที่เดียวกับเทพดนัยตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ทำงานไปได้สองปีก็เริ่มเรียนปริญญาโทไปด้วย จนกระทั่งเรียนจบ ก็ได้เทพดนัยคอยช่วยเหลือเรื่องงานมาตลอดเมื่อเทพดนัยซึ่งทำงานมานานจนเงินเดือนสูง เริ่มถูกบีบจากผู้บริหารชุดใหม่ จนทนไหมไหวต้องลาออกจากงาน ไปเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน ส่วนเขากับทีมก็เริ่มระส่ำระสาย จากเคยทำงานร่วมกันมา ก็โดนปรับเปลี่ยนแยกย้ายกันไปหมดตอนนี้บางคนลาออกแล้วไปรับงานฟรีแลนซ์ บางคนก็ยังทำงานบริษัทเดิม และกำลังจะหาทางไปที่อื่น ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน พอเขาเรียกให้มาคุยกัน ทุกคนต่างก็รีบมาหาทันทีคีรินส่งทุกคนเข้าห้องพักแล้วจึงลงไปข้างล่าง เห็นเพียงฤดีกำลังขนของที่เธอเก็บล้างเรียบร้อยแล้วเข้ามาเก็บในบ้าน“อ้าว ยังไม่เข้านอนอีก เดี๋ยวพี่เก็บเองก็ได้ ดึกแล้วนะ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฤดีช่วยเก็บให้เสร็จเลยดีกว่า จะได้ไม่วางเกะกะไว้ข้างนอก เรามีแขกมาบ้านด้วย ทิ้งไว้ก็ดูไม่สะอาดตา” หญิงสาวว่า“มันหนักนะ เดี๋ยวพี่ถือเอง ของข้างนอกยังมีอีกไหม” เขาดึงถาดที่หญิงสาวใส่จานชามที่ล้างเสร็จแล้วมาถือไว้เอง“ยังต้องเก็บกวาดขวดเบ
“โอ๊ย พี่อย่าเพิ่งโมโห หิวล่ะสิที่ตาลายเนี่ย ได้เบียร์เย็น ๆ สักแก้วคงจะหายตาลายนะพี่ เดี๋ยวไปนั่งตรงโน้นก่อนแล้วกัน ผมจัดที่นั่งอย่างดีพร้อมเบียร์เย็น ๆ ไว้รอรับพี่แล้ว” ว่าแล้วก็ชวนทุกคนไปนั่งตรงโซนครัวเอาท์ดอร์ที่เขาจัดโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมแล้วซึ่งเขาเพิ่งต่อเติมส่วนที่เป็นที่นั่งเพิ่มจากเดิม มีการมุงหลังคาต่อออกไปจากครัวเดิมที่มีเพียงพื้นที่ครัวไม่มีที่นั่ง แต่ตอนนี้เทพื้นปูนปูกระเบื้องต่อไปเป็นสถานที่ที่สามารถบรรจุคนได้ราวสิบห้าถึงยี่สิบคนทีเดียวเขาบอกว่าเผื่อคนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ หรือนักท่องเที่ยวได้มาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ซึ่งคราวนี้ก็ได้ใช้งานแล้ว ส่วนเมื่อก่อนมีเพียงแต่เขาและเพียงฤดีเท่านั้นที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันที่นี่เป็นบางวันเสียงทักทายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองแบบผู้ชายนั้น ทำให้เพียงฤดีที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ อดยิ้มอย่างขบขันไม่ได้ เธอเพิ่งเห็นความสัมพันธ์และการทักทายกันแบบเพื่อนร่วมงานของคีริน และเพิ่งรู้ว่าเพื่อนร่วมงานทุกคนเรียกเขาสั้น ๆ ว่า ‘คี’ เธอรีบเดินเข้าไปในบ้าน นำน้ำเข้ามาเสิร์ฟทุกคน โดยมีชายหนุ่มที่ชื่อเป้กุลีกุจอลุกขึ้นไปช่วย พอเสิร์ฟน้ำเ
เพียงฤดีจัดเตรียมอาหารและข้าวของหลายอย่างไว้ต้อนรับเพื่อน ๆ ของคีรินที่กำลังจะเดินทางมา เขาพาเธอไปซื้ออาหารทะเลจำนวนมากตั้งแต่เช้า ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และปลา จนแทบจะขนขึ้นรถไม่หมดเขาบอกว่าเพื่อน ๆ ทั้งหมดจะมาร่วมงานเป็นทีมเดียวกับเขา คราวนี้จะมาประชุมจัดตั้งบริษัทด้วยกันเป็นครั้งแรก เป็นเพื่อนร่วมงานทีมเดียวกันตั้งแต่อยู่บริษัทเดียวกัน แต่ละคนร่วมงานกันมานานห้าถึงสิบปี รู้ใจกันดี แต่ต่างก็แยกย้ายลาออกจากที่ทำงานเดิมไปรับงานฟรีแลนซ์อย่างที่เขาทำอยู่ บ้างก็ทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเปิดบริษัทและต้องการคนร่วมทีม ทุกคนจึงจะมาร่วมลงทุนด้วยเพราะตอนนี้เทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัย ไม่จำเป็นต้องไปทำงานในออฟฟิศทุกวันเหมือนอย่างแต่ก่อน ทุกคนทำงานเชื่อมโยงกันได้ทางโลกออนไลน์ แม้เขาจะอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ มากก็ไม่ใช่ปัญหาในการทำงานร่วมกัน รถยนต์หรูห้าคันกำลังขับเข้ามาที่หน้าบ้าน คีรินยิ้มร่าด้วยท่าทางดีใจ วางมือจากการช่วยเพียงฤดีเตรียมของอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวเอาท์ดอร์หน้าบ้าน แล้วออกไปต้อนรับ&nb
มือเรียวโอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นในตัวเขาทำให้เธอมีความสุขจนไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาอย่างไร เป็นความอบอุ่น อ่อนโยนลึกซึ้ง ที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงในหัวใจซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่จะมีใครสักคนให้เธอได้พึ่งพิงได้สักที ที่ผ่านมาเธอมีแต่ความโดดเดี่ยว เป็นหลักให้คนอื่นพึ่งพิงมาโดยตลอด“ดีใจจัง พรุ่งนี้พี่จะได้แนะนำได้ถูกสักทีว่าฤดีเป็นแฟนพี่ คิดมาตั้งหลายวันแล้วว่าจะบอกเพื่อนยังไงดีว่าพี่กับเราเป็นอะไรกัน”“ก็บอกว่าเป็นเพื่อนของน้องสาวก็ได้นี่คะ” เธอว่า“บอกแบบนั้น ไอ้พวกนั้นก็ได้มาจีบฤดีล่ะสิ ไม่เอาหรอกพี่หวง กะว่าถ้าวันนี้ฤดียังไม่ยอมเป็นแฟนพี่ พรุ่งนี้พี่ก็จะบอกเพื่อนอยู่ดีว่าพี่จีบฤดีอยู่ พวกนั้นจะได้ไม่ต้องมายุ่ง” เขาบอกแผนการของตัวเอง เพียงฤดียิ้มขบขัน“งั้นวันนี้ก็วางแผนเอาไว้แล้วสิคะ ที่มาทำเป็นขอให้ฤดีนวดให้เนี่ย”“ก็นิดหน่อย แค่วางแผนว่าทำยังไงให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันบ้าง จะได้มีโอกาสถาม นึกได้ว่ายังไม่ได้ปลูกต้นไม้คืนที่ตัดไปเลย ก็เลยได้แผนขุดหลุมให้ปวดหลัง แล้วให้มานวดหลังให้ เขาต้องใจอ่อนบ้างแหละ ได้ผลจริง ๆ ด้วย” ว่าพลางหอมแก้มน
๑๕ยอมเป็นแฟนพี่มั้ย เพียงฤดีทรุดนั่งฝั่งตรงข้ามของคีริน แล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหาร แม้เป็นอาหารเหลือจากมื้อเช้า แต่คีรินก็กินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง เขาบอกให้เธอไปนั่งรอ ส่วนเขาช่วยเก็บจานชามไปล้างให้อย่างเอาใจ แล้วไปนอนบนโซฟาให้เธอนวดหลังให้ “พี่คีรินไม่เปิดทีวีดูหรือคะ” เธอถาม เพราะปกติเขาจะนั่งดูทีวีอยู่ตรงนี้ ถ้านั่งปุ๊บก็จะหยิบรีโมทกดดูทีวีทันที แต่วันนี้กลับมานอนคว่ำหน้าให้เธอนวดอย่างเดียว “ไม่อ่ะ ไม่อยากดู อยากนอนนิ่ง ๆ ให้ฤดีนวดมากกว่า” หญิงสาวจึงได้ลงมือนวดให้เขา คนนอนให้นวดหลับตาพริ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อมือเล็ก ๆ กดลงบนแผ่นหลัง มันไม่ได้ทำให้เขาถึงกับหายปวดหลัง แต่มือเล็กที่จุ๊กจิ๊กอยู่บนแผ่นหลัง มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเขาแทบจะเคลิ้มหลับ กระทั่งหญิงสาวขยับตัว เขาจึงคิดว่าเธอคงจะนวด
๑๔เจ้าของบ้าน คีรินขับรถออกจากที่ว่าการอำเภอ เขาหันมองเพียงฤดีที่ตอนนี้นั่งจ้องทะเบียนบ้านของตัวเองมาครู่ใหญ่แล้ว เปิดหน้าโน้นหน้านี้อ่านแล้วก็ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ เขาก็เอาแบบฟอร์มขออนุญาตสร้างบ้านที่เทศบาลตำบลออกให้ ไปให้ผู้ใหญ่บ้านออกเอกสารเซ็นรับรองให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบมาที่ว่าการอำเภอต่อเพราะพอผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ถ้าบ้านเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปภายนอกภายในบ้านและห้องน้ำพริ๊นต์ใส่กระดาษ แล้วไปออกเล่มทะเบียนบ้านที่อำเภอได้เลยไม่ต้องรอถึงสิบห้าวันก็ได้ เจ้าของบ้านสาวเห่อมาก รีบกลับมาถ่ายรูปแล้วจะปั่นจักรยานไปอำเภอเอง เขาจึงต้องขับรถมาส่ง“เป็นอะไรหรือเรา ดูแล้วดูอีก ดูไม่เสร็จสักที” เขาหันไปถาม“ฤดีดูให้แน่ใจว่าเป็นชื่อฤดีจริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวตอบ ตาก็มองชื่อเจ้าของบ้านที่อยู่ในสมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กนั้นราวกับว่ากำลังฝันไป“ก็เป็นชื่อเราสิ จะเป็นชื่อใครล่ะ หืม” เขายื่นมือมาลูบหัวคนที่นั่งข้าง ๆ ราวเดือ
คีรินขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วเดินไปยังกองพันธุ์ไม้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเพียงฤดีปลูกใส่ถุงดำไว้ แล้วตะโกนเรียก “มาสิ มาช่วยพี่ขน” “ขนไปไหนคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจ “ขนใส่รถไง เดี๋ยวจะพาไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” เขาว่า เพียงฤดีทำหน้างง แต่ก็ช่วยเขาขนขึ้นรถอย่างเต็มใจ “เอาพะยอมห้าสิบต้น กระถินเทพาร้อยห้าสิบก็แล้วกัน” คีรินบอก เพียงฤดีทำตามที่เขาบอกจนได้ครบจำนวน เขาก็เดินไปหยิบจอบและถุงมือใส่รถ เรียกให้หญิงสาวขึ้นรถแล้วขับเข้าไปในสวนป่า “พี่คีรินจะเอามาปลูกเหรอคะ&