“แกได้เยอะเหรอ ถึงบอกว่าจะทำบ้านน่ะ”
“ก็ไม่เยอะหรอก แค่ห้าหมื่นเอง คิดว่าทำแบบทรงง่าย ๆ ไม่ต้องหรูหรา ฉันดูคลิปในยูทูปแล้ว ว่าจะซื้อวัสดุมาแล้วยืมเครื่องมือช่างพี่คีรินไปทำเอง”
“เฮ้ย บ้าแล้วยายฤดี แกเนี่ยนะ จะทำบ้านเอง”
“ทำไมจะทำไม่ได้ แค่หลังเล็ก ๆ ฉันเห็นผู้หญิงในยูทูปตัวเท่า ๆ ฉันนี่แหละ เขายังทำบ้านเองกลางป่าได้เลย ทำไมฉันจะทำไม่ได้”
“เฮ้ย นั่นมันคอนเทนต์ เขาจะสร้างเรื่องยังไงก็ได้ แกเชื่อได้ยังไง เขาแค่ทำท่าเหมือนทำเองตอนถ่ายคลิป แต่จ้างคนอื่นมาทำให้ก็ได้”
“แล้วถ้าฉันไม่ลองทำเอง ฉันจะรู้ไหมล่ะว่าทำได้ มันต้องลองก่อนไง เนี่ยฉันดูในเพจบ้านทองกวาวมา เขาทำบ้านแบบที่ทำคนเดียวได้ ทำง่ายมาก”
“เออ แกจะทำอะไรก็ทำ”
“ว่าแต่ฉันขอไม้ไผ่ในสวนแกหน่อยได้ไหม จะเอาไปทำค้างผัก”
“เอาไปเลยฉันยกให้ ตัดไปหมดทั้งกอเลยยิ่งดี รกจะตาย”
“โอเค ขอบใจนะ ฉันต้องวางหูแล้วละ เดี๋ยวต้องไปทำกับข้าวให้พี่คีรินอีก คุยกับแกจนฉันไม่ได้เขียนนิยายเลยเนี่ย” เพียงฤดีว่า
ก่อนจะวางสายจากเพื่อน เลื่อนอ่านนิยายที่เขียนไว้ก่อนหน้า แล้วก็เปิดหน้าจอทิ้งไว้ก่อ
๗ย้ายห้อง เพียงฤดีรีบย้ายของออกจากห้อง หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ห้องนี้ดีหน่อยตรงที่มีเตียงนอนไม้ กับตู้เสื้อผ้าไม้แบบโบราณกับชั้นวางของ ทำให้เธอสามารถจัดข้าวของวางได้อย่างเป็นระเบียบขึ้นส่วนคีรินเดินออกไปจากบ้านตามช่างเลื่อยไม้เข้าไปในสวนตั้งแต่กินข้าวเสร็จ เสียงเลื่อยไม้และเสียงตะโกนโหวกเหวกยังดังแว่วมาตลอดเวลาใช้เวลาไม่นานนักก็จัดของในห้องนอนเสร็จ เพียงฤดีจึงเดินไปเก็บมะพร้าวใส่กระสอบลากกลับมาหนึ่งกระสอบ ซึ่งเป็นจำนวนหลายลูกทีเดียว เอามาวางไว้หน้าบ้าน แล้วเข้าไปเตรียมอาหารเที่ยงครอบฝาชีเอาไว้ให้เขาในครัวก่อนจะเข้าไปเอาซองเมล็ดพันธุ์ผักที่เธอซื้อมาตอนออกไปซื้อของกับคีรินคราวก่อน กับจอบขนาดเล็กและพร้าหนึ่งด้ามเดินไปยังที่ดินของตัวเอง เมื่อไปถึงเธอก็สำรวจพื้นที่ตามที่เพื่อนชี้บอกเอาไว้ ว่ามีหมุดเป็นเสาปูนทาสีแดงปักอยู่ที่ดินแปลงของเธออยู่ติดกับถนนลูกรังซึ่งเป็นทางผ่านไปยังที่ดินแปลงของคีริน ลักษณะเป็นพื้นที
ก่อนจะถือพร้าเดินไปยังกอไผ่ ไผ่ลำต้นค่อนข้างใหญ่ เธอใช้เวลาอยู่นานในการตัด แต่เมื่อมันล้มครืนลงมาเธอก็ถึงกับนั่งลงอย่างหมดแรงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น ลากมันออกมาแล้วริดกิ่งออกจนเหลือแต่ลำต้นเธอต้องการจะทำให้มันสั้นกว่านี้ จึงใช้พร้าสับออกเป็นท่อนตามความยาวที่ต้องการ โดยคอยเลื่อนกล้องถ่ายวีดีโอไว้ทุกขั้นตอนที่เธอทำงานหญิงสาวปาดเหงื่อเป็นระยะ เพราะเป็นงานหนักที่เธอไม่คุ้นเคยเลย ทั้งที่คิดว่าที่นี่อากาศเย็น แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจนเหงื่อโทรมกายเลยทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอ จึงไม่ได้รู้สึกลำบากนัก เพราะเธอดูคลิปการเข้าป่าไปสร้างที่อยู่ของหญิงสาวคนหนึ่งในเวียดนาม รวมทั้งของผู้ชายอีกหลายคนที่ทำคลิปประเภทนี้ ทำให้พอจะรู้วิธีเอาตัวรอดในการใช้ชีวิตในป่า และรู้ว่าการสร้างอนาคตของตัวเองบนผืนดินที่ว่างเปล่านั้นต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงไรและตอนนี้เธอก็กำลังทำคลิปเช่นเดียวกับพวกเขาเพื่ออัปโหลดขึ้นยูทูป สร้างช่องของตัวเองไว้ให้ผู้คนได้ติดตามดู ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งในการหาเงินเข้ากระเป๋าเพียงฤดีตัดไม้ไผ่และผ่าไม้ไผ่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เธอขุดหลุมข้
หญิงสาวเดินไปเปิดประตูสีขาวที่เมื่อก่อนไม่เคยมี ด้านในเป็นห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีอ่างล้างหน้า โถแบบชักโครก และส่วนอาบน้ำฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ที่มีกระจกกั้น ภายในห้องน้ำปูกระเบื้องสีขาวดูสะอาดตา“โอ้โห ฤดีไม่เคยมีห้องนอนสวยแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”“ชอบไหมล่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง“ชอบก็ดีแล้ว จะได้อยู่ได้นาน ๆ ไม่ต้องงอแงรีบจะย้ายออกอีก ต่อไปเราก็ต้องช่วยเป็นลูกมือพี่รีโนเวทส่วนอื่นของบ้านด้วย โอเคไหม” หญิงสาวยิ้มกว้างพยักหน้ารับคำ“โอเคเลยค่ะ” ก่อนจะทำหน้าเสียดายอย่างที่สุดแล้วว่า“แต่เสียดายจังเลยค่ะ ฤดีมัวแต่ไปขายของ ไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ลงช่องเลย”คีรินยิ้มอ่อนโยนเอ่ยว่า“พี่ถ่ายไว้เยอะแยะเลย ส่งอีเมลมาให้พี่ เดี๋ยวพี่ส่งคลิปให้เราเอาไปตัด”เธอดีใจจนเผลอไปกอดแขนของเขา“ว้าว จริงหรือคะ ดีใจจัง ช่องมีคนติดตามเกือบร้อยคนแล้วนะคะพี่คีริน เดี๋ยวฤดีจะแยกลงเป็นตอน ๆ แล้วค่อยทำคลิปสรุปตั้งแต่ต้นจนจบอีกคลิป จะได้มีคลิปวางหลายคลิปหน่อย คนจะได้ติดตาม” เธอว่าก่อนจะปล่อยมือจากแขนเขาแล้วยิ้มเก้อ ๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ค่อยเ
๘ชลธรเวลาผ่านไปเดือนกว่าแล้วที่เขาและเธอมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ผลไม้ที่มีในสวนก็เริ่มหมดลง เพียงฤดีเริ่มออกเดินวนในสวนแต่เช้า ว่าเธอจะเอาอะไรไปขายได้อีกบ้าง เพราะช่วงที่ผ่านมาเธอโพสต์ขายผลไม้ทางอินเทอร์เน็ตด้วย ทำให้ผลไม้ขายออกได้ไวจนหมดเกลี้ยง เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเป็นผลไม้ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี จึงยิ่งมีคนสั่งซื้อจำนวนมาก จนต้องไปขอซื้อจากสวนของนิดและเล็กไปช่วยขายด้วย และที่นั่นก็หมดแล้วเช่นกันพอผลไม้หมด รายได้สามสิบเปอร์เซ็นต์ของเธอก็เริ่มขาดมือ หญิงสาวเดินเตร่ ๆ เข้าไปในสวนป่าของเขา เธอหยุดชะงักนิดนึง เมื่อก้มลงมองที่พื้นดิน แล้วเห็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆ เพิ่งงอกอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองว่ามันคือต้นอะไร แล้วก็ก้มลงมองพื้นดินอีกครั้ง เอาใบไม้มาเทียบกันก่อนจะยิ้มร่าเริงแล้วนั่งลงมองอย่างตื่นเต้น“ต้นกระถินเทพานี่ นี่ก็ต้นพะยอมงอกเยอะแยะไปหมดเลย ยางนาด้วย” เธอจำได้เพราะคีรินเคยบอกไว้ว่าชื่อต้นอะไรบ้าง“ไม้ป่าเศรษฐกิจ เหมือนที่โจน จันไดเคยบอกไว้เลย ว่าต้องกันพื้นที่ไว้ส่วน
“อ้าว น้องภายังไม่ได้บอกคุณพ่อหรือครับ ว่าขายที่ดินแปลงเล็กให้ฤดีแล้ว ฤดีถึงได้มาอยู่ที่นี่ไงครับ เห็นเขาบอกว่าเขาจะโทร. บอกคุณพ่อนี่ครับ แย่จังครับ นี่ก็พาเพื่อนมาทิ้งไว้ในบ้านร้าง บอกว่าให้อยู่บ้านผมไปก่อน โดยไม่ได้โทร. บอกผมสักคำ โชคดีนะครับที่ผมกลับมา ไม่งั้นป่านนี้ไม่รู้จะอยู่ยังไง หลังคาก็รั่ว ดีไม่ดีหลังคาอาจจะพังมาทับหัวไปแล้วก็ได้”คีรินรีบตอบทันที โบ้ยเรื่องไปหาน้องสาวบ้าง เพราะอย่างน้อยเรื่องจะได้พ้นตัวเขาไปก่อน ไม่งั้นอาจจะโดนกัณเทศน์จากผู้เป็นบิดาไปอีกยาว ส่วนน้องสาวอยู่ไกลคงไม่ได้รับรู้อะไร“อ้าว มันขายที่รึ ขายได้ยังไง ใครอนุญาต ตอนแบ่งให้ก็บอกแล้วว่าห้ามเอาไปขาย” ผู้เป็นบิดาทำเสียงขึงขัง“โธ่ คุณพ่อครับ ที่ดินเรามีตั้งเยอะแยะ แค่สองไร่เราแบ่งขายให้คนที่ไม่มีบ้างก็ได้ครับ ฤดีเขาไม่มีที่ทำกินครับ เขาอยากย้ายออกจากกรุงเทพฯ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ น้องภาคงสงสารเพื่อนน่ะครับ อย่าไปว่าน้องภาเลย เขาคงอยากมีเพื่อนมาอยู่ใกล้ ๆ กัน ถึงยอมขายให้ แถมฤดีก็เป็นเด็กดีนะครับคุณพ่อ ช่วยงานผมได้เยอะเลย” ชายหนุ่มรีบแก้ตัวแทนน้องสาว“เออ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ย
คีรินออกจากบ้านไปราวสามชั่วโมงได้แล้ว ส่วนเพียงฤดีก็ยังเพลิดเพลินอยู่กับการบรรจุดินใส่ถุงและปลูกพันธุ์ไม้ ในหัวก็คิดคำนวณไปด้วย ว่าจะขายต้นละเท่าไรดี ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อเปิดดูว่าคนอื่นขายราคาเท่าไร แล้วยิ้มแป้นเมื่อเห็นราคา“กระถินเทพาต้นสูงสามสิบเซนติเมตร ต้นละสิบบาท ก็ยังดี ขายทีนึงเป็นสิบเป็นร้อยต้นก็ได้กำไรบ้างละ ต้นพะยอม ต้นยี่สิบเซ็นต้นละสิบบาท หูย แต่พอสูงห้าสิบถึงร้อยเซ็น ต้นนึงเป็นร้อยเลยก็มี” หญิงสาวเปิดดูราคาที่ขายในเว็บชอปปิงออนไลน์ซึ่งมีบริการส่งทางไปรษณีย์ด้วย เห็นแล้วดวงตาก็แพรวพราวขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเห็นเงินกองอยู่ตรงหน้าก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงรถไม่คุ้นหู เธอเงยหน้าไปมองเห็นรถ SUV สีขาวขับเข้ามาจอดหน้าบ้านเพียงฤดีมองด้วยความประหลาดใจ ใจเธอสั่นเล็กน้อย เพราะคิดว่าบางทีอาจจะเป็นคนรักของคีรินที่มาหาที่นี่เพื่อเซอร์ไพรส์เขาก็เป็นได้ เพราะหากคีรินรู้ว่ามาคงจะไม่ออกไปข้างนอกเป็นแน่ แล้วเธอจะต้อนรับเขาแบบไหนทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ลงมาจากฝั่งคนขับรถ ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารแล้วเห
๙จะไม่ใจร้าย คีรินจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา ซึ่งล้อมด้วยสวนทุเรียนกว้างใหญ่สุดหูสุดตา เพียงฤดีมองอย่างตื่นตะลึง เธอไม่คิดว่าบ้านของบิดาเขาจะใหญ่โตถึงขั้นนี้ แปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่กลับมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องไปทนอยู่บ้านที่ทิ้งร้างมานานจนหลังคารั่วผนังผุพังอยู่นานเป็นเดือนสองเดือน ตอนแรกที่เขาชวนมา เธอก็ปฏิเสธที่จะมาด้วย เพราะเกรงว่าจะทำให้มารดาของเขาไม่พอใจ ที่เธอมาโดยที่ท่านไม่ได้เอ่ยชวน แต่เขาก็คะยั้นคะยอจนยอมมาด้วย เธอเห็นชลธรเปิดประตูออกมาดู แล้วยิ้มด้วยความดีใจเพียงฤดียกมือไหว้ เขารับไหว้แล้วยิ้มให้ แต่ยังไม่ทันได้ทักทายเธอ เสียงของคีรินก็ดังขึ้นเสียก่อน “ว้าว บ้านเสร็จแล้วใหญ่โตเลยนะครับพี่ชล เห็นแต่ในรูปไม่คิดว่าของจริงจะหลังใหญ่ขนาดนี้” คีรินเอ่ยกับพี่ชายเมื่อเห็นชลธรเ
สายชลนั่งห้อยขาอยู่บนแคร่ไม้ มือข้างหนึ่งก็ตำน้ำพริกที่อยู่ในครกหิน ซึ่งใช้ผ้าพับจนหนารองครกไว้ไม่ให้กระแทกเสียงดังนัก เป็นภาพจำที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน เขาไม่ได้กลับบ้านมาร่วมสามสี่ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดที่ผ่านมาก็ไม่ได้กลับมาอีกก่อนหน้านี้เขาพานิรามากราบท่าน แต่ตอนนั้นยังเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังเก่า ไม่ได้หลังใหญ่โตเช่นนี้ แต่ก็เป็นบ้านที่อาศัยอยู่ได้อย่างสบาย เพราะบิดาของตนก็ไม่ได้สร้างหลังเล็กนัก มีห้องพักส่วนตัวไว้ให้กับลูกทุกคนได้อยู่อย่างสะดวกสบายแต่เขาก็ไม่ได้นอนค้างที่บ้าน เพราะนิราอยากไปพักโรงแรมซึ่งมีความสะดวกสะบายมากกว่า เขาไม่อยากขัดใจให้ทะเลาะกัน จึงต้องพาเธอไปพักที่โรงแรมตามที่หญิงสาวต้องการคีรินเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างแคร่แล้วกอดเอวผู้เป็นมารดา“ทำอะไรอยู่ครับ คุณสายชล คิดถึงจัง”“อย่ามาอ้อร้อกับแม่ คิดถงคิดถึงอะไร กลับมาตั้งนานแล้วไม่ยอมมาหา” ผู้เป็นมารดาเอ่ยเสียงสะบัด มือก็ตำน้ำพริกทำเป็นไม่สนใจลูกชาย“โอ๊ย แม่อย่าโกรธเลยนะครับ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ มัวแต่คิดว่าซ่อมบ้านให้เสร็จ เลยเร่งทำงานจนลืมวันลืมคืน แป๊
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น
๒๑ปรับตัวเองง่ายกว่าเพียงฤดีอัดคลิปนิยายเสียงเสร็จก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยมารดาทำอาหารเย็น ปล่อยให้คีรินได้กลับไปทำงานของเขา ซึ่งช่วงเย็นเขาก็จะมากินข้าวที่บ้านของเธอ เนื่องจากมารดาจะทำกับข้าวไว้ให้ตั้งแต่หทัยรัตน์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คีรินก็ถือโอกาสไม่กินข้าวตอนเย็นที่บ้านตัวเองอีก จะหิ้วท้องไปนั่งรอกินข้าวที่บ้านของเธอทุกเย็นมีเพียงช่วงเช้าที่เธอจะมาทำอาหารเช้าให้เขาตามปกติ โดยทำเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย และเธอก็กินมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงร่วมกับเขา โดยที่มารดาของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ช่วงเย็นเธอจะกลับไปช่วยมารดาทำอาหารและรอเขาไปกินด้วยกันเมื่อไปถึงบ้านเธอเห็นนภดลกับมารดานั่งดูสมาร์ตโฟนแล้วคุยอะไรกันอยู่“ดูอะไรเหรอแม็กซ์” เพียงฤดีเดินเข้าไปถาม“ส่องเฟซบีอยู่ ทะเลาะกับพี่ท็อปแล้วโพสต์เฟซด่ากระจาย แถมกรีดข้อมือตัวเองด้วย สยองมาก”“แล้วพี่ท็อปเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็คงเหนื่อยหน่อยน่ะ เมื่อกี้ผมแค่โทร. ไปจะถามว่ามางานแต่งงานพ
เสียงดังที่อยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้าม ทำให้คีรินต้องเงี่ยหูแนบกับประตูแล้วย่นคิ้วเบา ๆ เมื่อมีเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนสองสามคนอยู่ในนั้น เขาจึงตัดสินใจเคาะประตู “ฤดี ฤดี” ไม่มีเสียงตอบ แต่เขาได้ยินเสียงเดินมาเปิดประตู “มีอะไรหรือคะพี่คีริน” หญิงสาวถาม “ฤดีเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ แล้วเมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน”“ไม่มีใครค่ะ ฤดีอยู่คนเดียว” เธอว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ กวาดตามองไปทั่วห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีข้าวของของเธอมากนัก เพราะขนกลับไปไว้ที่บ้านของตัวเองหมดแล้ว เขาเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่มีใคร ก่อนจะหันมาถาม “เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกันจริง ๆ นะ แล้วฤดีทำอะไรน่ะ” เขาเห็นไมค์โครโฟนตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานเลยเดินเข้ามาดู
นิรานั่งมองไลฟ์สดในเพจไร่คีรินที่เธอเห็นเอกภพเปิดดู แล้วลองมาเปิดดูเองบ้าง เห็นท่าทางมีความสุขของเขาแล้วเธอถึงกับน้ำตาปรี่ลงมา เขากำลังมีความสุข ธุรกิจใหม่ก็กำลังรุ่งเรืองในขณะที่เธอสูญเสียเขาไปแล้วส่วนกิตติกรหรือกอล์ฟผู้กำกับชื่อดังซึ่งเธอเอาเงินของคีรินไปฝากลงทุนกับเขา และหวังว่าเขาจะดูแลเธอต่อจากคีรินได้เป็นอย่างดีเพราะมีฐานะดีกว่า และสามารถส่งเสริมอาชีพของเธอได้ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ลำบากเพราะแม้คีรินจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็มีคดีความที่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ชื่อดัง จึงมีการฟ้องร้องของคู่กรณีคนอื่น ๆอีกทั้งเมื่อเธอมาลองคบกับดนุวัฒน์ไฮโซชื่อดัง ก็กลับกลายเป็นว่าคุณสมบัติของเธอไม่เพียงพอที่จะเป็นสะใภ้ผู้ดีเก่าในสายตามารดาของเขา ความหวังที่จะขึ้นไปอยู่บนที่สูงตกวูบลงมาทันใดตอนนี้มีเพียงบริษัทผลิตละครสั้นเล็ก ๆ ที่เธอขอให้คีรินลงทุนให้เท่านั้น ที่เป็นหลักให้กับชีวิต แต่พอเขาออกไป แฟนคลับของเขาก็ติดตามเขาไปด้วย จนตอนนี้ช่องของเธอมียอดวิวน้อยลงมาก รายได้ก็ลดน้อยลงตาม เอานักแสดงใหม่เข้ามาแทนเขา ก็เข้ากับทีมงานไ