สายชลนั่งห้อยขาอยู่บนแคร่ไม้ มือข้างหนึ่งก็ตำน้ำพริกที่อยู่ในครกหิน ซึ่งใช้ผ้าพับจนหนารองครกไว้ไม่ให้กระแทกเสียงดังนัก เป็นภาพจำที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน เขาไม่ได้กลับบ้านมาร่วมสามสี่ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดที่ผ่านมาก็ไม่ได้กลับมาอีก
ก่อนหน้านี้เขาพานิรามากราบท่าน แต่ตอนนั้นยังเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังเก่า ไม่ได้หลังใหญ่โตเช่นนี้ แต่ก็เป็นบ้านที่อาศัยอยู่ได้อย่างสบาย เพราะบิดาของตนก็ไม่ได้สร้างหลังเล็กนัก มีห้องพักส่วนตัวไว้ให้กับลูกทุกคนได้อยู่อย่างสะดวกสบาย
แต่เขาก็ไม่ได้นอนค้างที่บ้าน เพราะนิราอยากไปพักโรงแรมซึ่งมีความสะดวกสะบายมากกว่า เขาไม่อยากขัดใจให้ทะเลาะกัน จึงต้องพาเธอไปพักที่โรงแรมตามที่หญิงสาวต้องการ
คีรินเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างแคร่แล้วกอดเอวผู้เป็นมารดา
“ทำอะไรอยู่ครับ คุณสายชล คิดถึงจัง”
“อย่ามาอ้อร้อกับแม่ คิดถงคิดถึงอะไร กลับมาตั้งนานแล้วไม่ยอมมาหา” ผู้เป็นมารดาเอ่ยเสียงสะบัด มือก็ตำน้ำพริกทำเป็นไม่สนใจลูกชาย
“โอ๊ย แม่อย่าโกรธเลยนะครับ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ มัวแต่คิดว่าซ่อมบ้านให้เสร็จ เลยเร่งทำงานจนลืมวันลืมคืน แป๊
“เดี๋ยวฤดีช่วยค่ะ” เธอเดินไปยังโต๊ะที่วางหม้อไว้หลายใบ แล้วหยิบจานชามมาตักอาหารใส่“โอ้โห แม่ทำกับข้าวเป็นสิบอย่างเลย กินยังไงหมดครับแม่” คีรินเปิดหม้อแกงหลายใบกับอาหารที่ตักใส่จานไว้ก่อนแล้ว ผู้เป็นมารดามองค้อนก่อนว่า“ถ้าจะให้แม่หายโกรธก็ต้องกินให้หมดนั่นแหละ”“ผมจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังเลยครับ” คีรินกล่าวยิ้ม ๆ ก่อนจะช่วยตักแกงใส่ถาดจนเต็มแล้วบอกกับเพียงฤดีว่า“เราตักกับข้าวที่เหลือใส่ถ้วยไว้ให้ครบนะ เดี๋ยวพี่กลับมายก”“ค่ะ พี่คีริน แต่เดี๋ยวฤดียกไปเองก็ได้ค่ะ ถาดยังมีอีกใบ” หญิงสาวตอบ“ไม่เอา มันหนัก เดี๋ยวพี่กลับมายกเอง เราแค่ตักก็พอ” ว่าแล้วก็รีบยกถาดอาหารไปยังโต๊ะไม้กว้างใหญ่ริมระเบียงบ้าน ที่เขาเห็นก่อนจะเข้าไปในบ้านเมื่อสักครู่นี้ หยิบอาหารทั้งหมดออกจากถาดวางไว้บนโต๊ะขณะที่เห็นชลธรกับบิดากำลังยืนคุยกันอยู่ด้านนอก มือไม้ก็ชี้เข้าไปในสวนเหมือนวางแผนจะทำอะไรในสวนกันอยู่ ด้วยบ้านอยู่บนเนินสูงทำให้เห็นพื้นที่สวนโดยรอบทั้งหมดซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่า เขาจึงตะโกนเรียก“พ่อครับ พี่ชล กับข้าวเสร็จแล้วครับ” ทั้งสองเดินเข้ามา ส่วนเขาเด
“กินน้ำจิ้มด้วยสิ แม่ทำอร่อยมาก” เขาตักน้ำจิ้มราดใส่ขาหมูให้“นายตักขาหมูให้เขากิน ไม่กลัวว่าฤดีจะกลัวอ้วนเหรอ” ชลธรถาม“ฤดีชอบกินขาหมู เขาทำงานหนักทุกวัน กลัวแต่จะผอมสิไม่ว่า นี่ก็ดูผอมซูบลงตั้งเยอะ เอาแต่ทำงานกินข้าวเป็นแมวดมทุกวัน” คนเป็นน้องชายว่า“งั้นฤดีกินเยอะ ๆ นะ ฝีมือแม่พี่อร่อยทุกอย่าง ถ้าอยากกินอีกเมื่อไร ก็โทร. มาบอกได้เลย พี่จะไปรับมากินข้าวที่นี่” ชลธรว่า“ผมพามาเองก็ได้ พี่ชลไม่ต้องลำบากหรอก” คนเป็นน้องชายโพล่งออกมาอย่างลืมตัว“เอ่อ ผมหมายถึง ยังไงผมก็ต้องมากินข้าวกับแม่บ่อย ๆ อยู่แล้ว” คีรินรีบแก้ตัวเมื่อรู้ว่าเผลอพูดกันท่าพี่ชายออกไป“อ้อ งั้นเหรอ ก็ดีนะ ฤดีจะได้คุ้นเคยกับที่นี่เร็ว ๆ” ชลธรว่า“หนูฤดีนี่แกงจืดหน่อไม้หวานกับกระดูกหมูอ่อน แม่ตุ๋นมาตั้งแต่เช้าแล้ว นิ่มเชียว ลองกินสิจ๊ะ” สายชลเห็นบุตรชายแย่งกันเอาใจหญิงสาวแล้วก็กลัวว่าสาวน้อยจะอึดอัด เลยดึงตัวมาดูแลเสียเอง เพราะดูท่าแล้ว ลูกชายสองคนของเธอน่าจะถูกใจเพื่อนน้องสาว จนแทบจะแย่งกันเองอยู่แล้ว“ค่ะแม่ หน่อไม้หวานจริง ๆ ด้วยค่ะ น้ำซุปก็หอมหวาน กลมกล่อมมาก
๑๐อยากรวยเอง คีรินเงยหน้ามองบ้านชั้นบนที่เขารีโนเวทเสร็จแล้ว โดยใช้ไม้ที่มีในสวนเป็นส่วนใหญ่ในการปรับปรุงครั้งนี้ ตอนนี้มันดูสวยงามแปลกตาและทันสมัยขึ้นมาก แม้จะอยู่ภายใต้โครงสร้างเดิม แต่เขาต่อเติมส่วนที่จำเป็นต้องใช้งานไปอีกหลายจุด อย่างเช่นระเบียงด้านหน้าที่ต่อเติมออกมาอย่างกว้างขวางด้วยไม้พะยอม ซึ่งผ่านการอบและใช้น้ำยากันมอดกันปลวกอย่างดี ทำให้ทนทานต่อการใช้งานไปอีกนานหลายปี ด้านบนระเบียงมีชุดโซฟาและโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นรับลม และชมวิวทิวเขารอบบริเวณนี้ ไหนจะชั้นล่างที่ทุบผนังปูนขยายพื้นที่ไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นแล้วติดกระจก ส่วนด้านในชั้นบนเขาก็ตกแต่งห้องภายในโดยการใช้กระถินเทพาบุผนังให้มีความสวยงามขึ้น ไม่ได้โชว์โครงไม้จนดูไม่สบายตาเหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนของบิดามารด
ขณะที่คีรินซึ่งกำลังขับรถกลับบ้าน เขาหันไปมองหญิงสาวที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกรถมาครู่ใหญ่แล้ว จึงอดที่จะถามไม่ได้“เป็นอะไรหรือเราน่ะ หืม นั่งเงียบเชียว”“เอ่อ เปล่าค่ะ แค่อิจฉาพี่คีรินน่ะค่ะ ที่มีพ่อแม่ใจดี มีครอบครัวอบอุ่น เพราะมีครอบครัวแบบนี้สินะคะ พี่คีรินถึงได้เป็นคนใจดี” หญิงสาวตอบเสียงเบา น้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ปนความรู้สึกเงียบเหงาอยู่ในถ้อยคำ“เป็นคนใจดีมากมันก็ไม่ดีเท่าไรหรอกนะ มันถูกเอาเปรียบง่าย ยิ่งใจดีไม่ถูกคน เขาก็คิดว่าเราอ่อนแอ จ้องแต่จะเอาเปรียบเรา ไม่เกรงใจเรา ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำเพื่อเขา” พูดแล้วเขาก็อดนึกถึงตัวเองไม่ได้ ที่ใจดีและให้ความรักกับนิราไปอย่างมากมาย ให้ทุกอย่างกับเธอ ให้จนตัวเองไม่เหลืออะไรอาจจะเป็นเพราะบิดาของเขาให้ความรักความเอาใจใส่มารดาของเขามาตลอด ให้มารดาดูแลทุกอย่างที่เป็นทรัพย์สินของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเงินทองของมีค่าใด ท่านก็มอบให้อยู่ในการดูแลของมารดาท่านบอกว่าเงินทองให้เมียดูแลปลอดภัยกว่าเก็บไว้เอง ใครหยิบยืมก็อ้างได้ว่าอยู่กับเมีย และท่านทั้งสองก็รักกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มารดาของเขา
เพียงฤดียืนมองครัวนอกบ้านแสนน่ารักที่เพิ่งทำเสร็จ แล้วยิ้มอย่างมีความสุข เธอแอบดูแล้วว่าคีรินสร้างมันอย่างไร ถึงได้ออกมาสวยงามน่ารัก น่าใช้งาน มันไม่ยากเท่าไร เขาแค่ทำพื้นที่ให้เรียบ แล้วใช้อิฐแดงก่อขึ้นเป็นเคาน์เตอร์ เอาแผ่นโฟมมาทำแบบเพื่อหล่อเป็นช่องสำหรับทำเป็นเตาอบได้ด้วยแถมยังทำช่องเป็นเตาถ่านสำหรับปิ้งย่าง มีพื้นที่วางเตาไฟฟ้าได้ มีอ่างล้างจาน เขาฉาบเรียบแล้วปูแผ่นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ มีหลังคากันฝน ถ้าเธอมีแบบนี้ที่บ้านหลังน้อยบ้าง นภดลน้องชายของเธอต้องชอบมากแน่ ๆ เพราะขานั้นชอบกินของปิ้งย่าง คิดแล้วเธอก็อยากให้น้องชายมาอยู่ด้วยเร็ว ๆ เสียแล้วสิ เสียแต่ว่าตอนนี้ยังเรียนมหาวิทยาลัยเทอมสุดท้ายอยู่ แต่เชื่อว่าถ้าเรียนจบ นภดลน่าจะอยากมาอยู่กับเธอมากกว่าอยู่กับพี่ชายแค่คิดถึงน้องชายเสียงสมาร์ตโฟนก็ดังขึ้นและเป็นน้องชายของเธอที่โทร. เข้ามาพอดี วันนี้เธอลืมปิดสมาร์ตโฟน นภดลถึงได้ติดต่อมาได้“พี่ฤดีเหรอ โอ๊ย ได้ยินเสียงสักที ติดต่อพี่ยากจัง” นภดลโอดครวญมา“ทำไมแม็กซ์ ตังค์ที่โอนให้หมดอีกแล้วหรือไง”“แหม นั่นก็ด้วยแหละ แต่คิดถึงไม
เพียงฤดีคุยกับน้องชายเสร็จก็เดินไปยังที่ดินสองไร่กว่า ๆ ของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี คำนวณรายรับรายจ่ายแล้วก็ยังไม่สามารถจะเริ่มต้นซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างใด ๆ มาเริ่มทำบ้านในสวนของตัวเองได้เลยส่วนเดือนนี้ยอดขายนิยายก็ลดลงกว่าเดือนก่อน เพราะหากไม่มีเล่มใหม่วางขาย ยอดขายเล่มเก่าก็จะลดลงเรื่อย ๆหากช่วงปิดเทอมน้องชายทนอยู่บ้านเดียวกับแฟนพี่ชายไม่ไหว และต้องการมาหาเธอที่นี่ เธอจะเอาบ้านที่ไหนให้เขาพัก แถมบอกน้องชายไปแล้วด้วยว่าช่วงปิดเทอมจะสร้างบ้านเสร็จ เธอจะให้น้องอยู่บ้านเพื่อนตลอดช่วงปิดเทอมก็เกรงใจผู้ปกครองของเพื่อนที่ต้องไปรบกวนเขาหรือถ้าหากว่าคนรักของคีรินมาหาเขา เธอจะไปพักที่ไหนกัน ขืนเธออยู่ที่บ้านเขาต่อไป คนรักของเขาต้องไม่สบายใจแน่ ๆ เพราะทั้งชลธร และบิดามารดาของเขา ก็ถามย้ำเรื่องการแต่งงานระหว่างเขากับคนรักอยู่บ่อยครั้ง เธอจะอยู่บ้านเขาต่อไปก็น่าเกลียด อาจจะเป็นที่ครหาของคนอื่นก็ได้ เพราะคีรินไม่ใช่ผู้ชายโสด และเธอก็เป็นผู้หญิง ไม่ได้เป็นญาติกับเขาด้วยซ้ำหญิงสาวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมา แล้วเปิดแอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึก เธอเ
คีรินจอดรถบนถนนลูกรังซึ่งอยู่ด้านหน้าที่ดินแปลงที่น้องสาวขายให้กับเพียงฤดี เขาเห็นกอไผ่ท้ายสวนสั่นไหวด้วยแรงกระแทกของอะไรบางอย่าง จนอดนิ่งมองไม่ได้ กระทั่งเห็นว่ามันโค่นล้มลงมา“เฮ้ย ใครทำอะไรน่ะ” ชายหนุ่มพึมพำแล้วลงจากรถ เดินตรงไปยังกอไผ่ เห็นไม้ไผ่หลายต้นถูกลากมากองไว้ตรงที่โล่ง ก่อนจะเห็นเพียงฤดีลากไม้ไผ่อีกต้นหนึ่งออกมาจากกอไผ่“ทำอะไรน่ะ”“โอ๊ย” เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้หญิงสาวที่กำลังกระชากไม้ไผ่ถูลู่ถูกังออกมาถึงกับตกใจลื่นลงกระแทกกับพื้น จนชายหนุ่มต้องเข้ามาพยุง“เราเป็นอะไร ตัดไม้ไผ่ทำไมเยอะแยะ”“ก็ฤดีจะทำบ้านไงคะ” ตอบพลางก้มลงลากไม้ไผ่“ทำบ้าน! กับไม้ไผ่เนี่ยนะ”“ค่ะ ก็ฤดีเงินไม่พอที่จะทำบ้านไม้บ้านปูนนี่คะ เอาบ้านไม้ไผ่ไปก่อนก็ได้ค่ะ มีเงินแล้วค่อยสร้างบ้านดี ๆ ถ้าไม่เริ่มสร้างก็ไม่มีบ้านสักที”“โธ่เอ๋ย พี่ก็บอกแล้วไงว่าพี่จะช่วยสร้างให้ก็ไม่ยอมเชื่อ”“ฤดีเชื่อค่ะว่าพี่คีรินช่วยสร้างให้ได้ แต่จะช่วยยังไงคะ ฤดีมีเงินไม่พอจะไปซื้อวัสดุก่อสร้างหรอกค่ะ ฤดีเห็นตอนพี่คีรินไปซื้อมันแพงมากเลย ของนิดเดี
๑๑อิสระแล้ว คีรินขับรถพาเพียงฤดีไปซื้อวัสดุก่อสร้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการเริ่มต้นทำบ้าน ซึ่งเขามาคนเดียวได้ แต่อยากพาออกมาเปิดหูเปิดตา เพราะอยู่แต่ในไร่ในสวนมานาน อยากพาออกมาหาของกินของใช้แบบที่เธอชอบบ้าง เขาเห็นหญิงสาวกดดูคลิปในช่องยูทูปแล้วร้องเสียงดังออกมา “กรี๊ดดด พี่คีริน จอด ๆ จอดรถก่อน” ชายหนุ่มรีบเบรกรถอย่างเร็ว “หือ มีอะไร” เขาถามขณะที่ขับรถไปแอบข้างทาง “พี่คีรินดูสิคะ พี่คีรินดูอะไรนี่เร็ว” “ไหนพี่ขอดูซิ เกิดอะไรขึ้น ร้องซะเสียงดังพี่ตกใจหมด” เขายื่นมือไปขอสมาร์ตโฟนไปดู&
มือเรียวโอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นในตัวเขาทำให้เธอมีความสุขจนไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาอย่างไร เป็นความอบอุ่น อ่อนโยนลึกซึ้ง ที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงในหัวใจซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่จะมีใครสักคนให้เธอได้พึ่งพิงได้สักที ที่ผ่านมาเธอมีแต่ความโดดเดี่ยว เป็นหลักให้คนอื่นพึ่งพิงมาโดยตลอด“ดีใจจัง พรุ่งนี้พี่จะได้แนะนำได้ถูกสักทีว่าฤดีเป็นแฟนพี่ คิดมาตั้งหลายวันแล้วว่าจะบอกเพื่อนยังไงดีว่าพี่กับเราเป็นอะไรกัน”“ก็บอกว่าเป็นเพื่อนของน้องสาวก็ได้นี่คะ” เธอว่า“บอกแบบนั้น ไอ้พวกนั้นก็ได้มาจีบฤดีล่ะสิ ไม่เอาหรอกพี่หวง กะว่าถ้าวันนี้ฤดียังไม่ยอมเป็นแฟนพี่ พรุ่งนี้พี่ก็จะบอกเพื่อนอยู่ดีว่าพี่จีบฤดีอยู่ พวกนั้นจะได้ไม่ต้องมายุ่ง” เขาบอกแผนการของตัวเอง เพียงฤดียิ้มขบขัน“งั้นวันนี้ก็วางแผนเอาไว้แล้วสิคะ ที่มาทำเป็นขอให้ฤดีนวดให้เนี่ย”“ก็นิดหน่อย แค่วางแผนว่าทำยังไงให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันบ้าง จะได้มีโอกาสถาม นึกได้ว่ายังไม่ได้ปลูกต้นไม้คืนที่ตัดไปเลย ก็เลยได้แผนขุดหลุมให้ปวดหลัง แล้วให้มานวดหลังให้ เขาต้องใจอ่อนบ้างแหละ ได้ผลจริง ๆ ด้วย” ว่าพลางหอมแก้มน
๑๕ยอมเป็นแฟนพี่มั้ย เพียงฤดีทรุดนั่งฝั่งตรงข้ามของคีริน แล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหาร แม้เป็นอาหารเหลือจากมื้อเช้า แต่คีรินก็กินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง เขาบอกให้เธอไปนั่งรอ ส่วนเขาช่วยเก็บจานชามไปล้างให้อย่างเอาใจ แล้วไปนอนบนโซฟาให้เธอนวดหลังให้ “พี่คีรินไม่เปิดทีวีดูหรือคะ” เธอถาม เพราะปกติเขาจะนั่งดูทีวีอยู่ตรงนี้ ถ้านั่งปุ๊บก็จะหยิบรีโมทกดดูทีวีทันที แต่วันนี้กลับมานอนคว่ำหน้าให้เธอนวดอย่างเดียว “ไม่อ่ะ ไม่อยากดู อยากนอนนิ่ง ๆ ให้ฤดีนวดมากกว่า” หญิงสาวจึงได้ลงมือนวดให้เขา คนนอนให้นวดหลับตาพริ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อมือเล็ก ๆ กดลงบนแผ่นหลัง มันไม่ได้ทำให้เขาถึงกับหายปวดหลัง แต่มือเล็กที่จุ๊กจิ๊กอยู่บนแผ่นหลัง มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเขาแทบจะเคลิ้มหลับ กระทั่งหญิงสาวขยับตัว เขาจึงคิดว่าเธอคงจะนวด
๑๔เจ้าของบ้าน คีรินขับรถออกจากที่ว่าการอำเภอ เขาหันมองเพียงฤดีที่ตอนนี้นั่งจ้องทะเบียนบ้านของตัวเองมาครู่ใหญ่แล้ว เปิดหน้าโน้นหน้านี้อ่านแล้วก็ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ เขาก็เอาแบบฟอร์มขออนุญาตสร้างบ้านที่เทศบาลตำบลออกให้ ไปให้ผู้ใหญ่บ้านออกเอกสารเซ็นรับรองให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบมาที่ว่าการอำเภอต่อเพราะพอผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ถ้าบ้านเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปภายนอกภายในบ้านและห้องน้ำพริ๊นต์ใส่กระดาษ แล้วไปออกเล่มทะเบียนบ้านที่อำเภอได้เลยไม่ต้องรอถึงสิบห้าวันก็ได้ เจ้าของบ้านสาวเห่อมาก รีบกลับมาถ่ายรูปแล้วจะปั่นจักรยานไปอำเภอเอง เขาจึงต้องขับรถมาส่ง“เป็นอะไรหรือเรา ดูแล้วดูอีก ดูไม่เสร็จสักที” เขาหันไปถาม“ฤดีดูให้แน่ใจว่าเป็นชื่อฤดีจริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวตอบ ตาก็มองชื่อเจ้าของบ้านที่อยู่ในสมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กนั้นราวกับว่ากำลังฝันไป“ก็เป็นชื่อเราสิ จะเป็นชื่อใครล่ะ หืม” เขายื่นมือมาลูบหัวคนที่นั่งข้าง ๆ ราวเดือ
คีรินขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วเดินไปยังกองพันธุ์ไม้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเพียงฤดีปลูกใส่ถุงดำไว้ แล้วตะโกนเรียก “มาสิ มาช่วยพี่ขน” “ขนไปไหนคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจ “ขนใส่รถไง เดี๋ยวจะพาไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” เขาว่า เพียงฤดีทำหน้างง แต่ก็ช่วยเขาขนขึ้นรถอย่างเต็มใจ “เอาพะยอมห้าสิบต้น กระถินเทพาร้อยห้าสิบก็แล้วกัน” คีรินบอก เพียงฤดีทำตามที่เขาบอกจนได้ครบจำนวน เขาก็เดินไปหยิบจอบและถุงมือใส่รถ เรียกให้หญิงสาวขึ้นรถแล้วขับเข้าไปในสวนป่า “พี่คีรินจะเอามาปลูกเหรอคะ&
หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน ด้านหน้าบ้านมีระเบียงกว้างราวสองเมตร ล้อมด้วยราวระเบียงไม้ ซึ่งเธอก็เดินเข้าออกอยู่ทุกวัน ตั้งแต่ช่างเริ่มสร้างเธอก็มาเฝ้าดูอยู่เรื่อย ๆ ตอนเย็นของทุกวันก็ต้องแวะมาดูว่าช่างทำเสร็จไปถึงไหนแล้ววันนี้ช่างเพิ่งจะทาสีย้อมไม้เสร็จแล้วเอานั่งร้านลง ทำให้บ้านสีสวยเด่นขึ้นมาก ช่างวีเป็นช่างไม้ฝีมือดีที่นิดแนะนำให้คีริน ตอนที่เขาไปหานิดเพื่อปรึกษาเรื่องหาคนตัดไม้และแปรรูปได้ และอยากได้ช่างที่ทำงานไม้อย่างที่เขาต้องการได้ นิดจึงได้แนะนำช่างวีมาให้ ซึ่งหลังจากที่สร้างบ้านไม้หลังนี้ให้เธอแล้ว ช่างวีก็จะต้องไปสร้างบ้านเล็ก ๆ อีกสี่ห้าหลัง เพื่อที่จะใช้เป็นที่พักนักท่องเที่ยวในไร่ของคีรินต่อหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน เธอเลื่อนประตูบ้านซึ่งเป็นกรอบไม้กรุกระจกสวยงาม ผนังบ้านในส่วนห้องโถงไม่ได้โชว์โครงไม้แต่ใช้แผ่นไม้ปิดผนังให้ดูเรียบร้อย เพื่อง่ายในการทำความสะอาดและดูสวยงาม ส่วนหน้าต่างเป็นกระจกแบบเดียวกับประตู ซึ่งคีรินเป็นคนพาเธอไปซื้อ โดยการวัดขนาดแล้วให้ช่างกระจกตัดให้ตามขนาดที่ต้องการ ซึ่งราคาถูกกว่าซื้อชุดหน้าต่างกระจกแบบสำเร็จ เขาทำให้เธอประหยัดเงินได้มาก
นภาธรเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูในกรุงเทพฯ หญิงสาวรีบหยิบสมาร์ตโฟนจากกระเป๋าราคาแพงเมื่อมีสายเรียกเข้า เธอคิดว่าคงเป็นสายจากคนที่นัดไว้ วันนี้เธอมีนัดในร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมดัง ด้วยมีรุ่นน้องที่รู้จักกันเป็นเซลล์ขายกระเป๋าอยู่ที่นี่ ซึ่งได้โทร. เรียกให้เธอเข้ามาดูกระเป๋าคอลเลกชันใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ไหน ๆ ก็ต้องเข้ามาแล้ว วันนี้เธอจึงรับนัดกับลูกค้าของเธอที่ร้านกาแฟชื่อดังที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วย จึงยังไม่ได้เข้าไปยังร้านขายกระเป๋า หญิงสาวผลักประตูกระจกเข้ามาในร้านกาแฟหรูซึ่งมีสาขาทั่วโลก ขณะที่ดูชื่อคนต้นสาย ก่อนจะย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อคนที่โทร. เข้ามา“ว่าไงคะพี่ชายสุดหล่อ นึกยังไงถึงโทร. มาหาเนี่ย ทุกทีไม่เห็นจะห่วงน้องนุ่ง วันก่อนก็ทำให้พ่อโทร. มาด่าหูแทบฉีก ไม่ช่วยกันเลย” เธอถามคนต้นสายกลับไป ขณะที่วางกระเป๋าถือลงที่เก้าอี้ว่างแล้วนั่งลงตาม“นั่นเราทำตัวเอง ทำเรื่องใหญ่ไม่บอกพ่อสักคำ ก็ควรโดนแล้ว พี่ช่วยแก้ตัวให้ตั้งเยอะแล้วนั่นน่ะ”“โห แก้ตัว แต่มีการบอกว่าน้องเอาเพื่อนไปทิ้งไว้ในบ้านร้างเนี่ยนะ บอกเลยนะว่าข้อหานี้น่ะ โดนด่
ใบหน้าของเขาก็อยู่ในตำแหน่งที่ดูดี เหมือนกับเขารู้ว่าต้องจับภาพมุมไหนให้เห็นภาพใบหน้าของเขาในมุมที่ดูดีที่สุด ท่าทางของเขาเหมือนนักแสดงมืออาชีพ ที่ดูแล้วเพลินตาไม่ติดขัด น้ำเสียงที่เขาแนะนำการทำงานเป็นขั้นตอนนั้น ดูเรียบ ๆ แต่นุ่มทุ้มน่าฟังมิน่าเล่าช่องของเขาถึงมียอดติดตามเร็วกว่าช่องไก่กาของเธออย่างมาก เพราะภาพสวยสะดุดตาและเพลิดเพลินในการรับชม แถมคนดูยังได้ความรู้เพิ่มอีกด้วย เพราะก่อนที่เขาจะเริ่มต้นทำอะไร เขาจะเอาภาพที่ออกแบบปริ๊นต์ลงกระดาษแล้ว นำมาถ่ายลงในวีดีโอให้เห็นก่อน ว่าเขามีการวัดขนาดพื้นที่หรือ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไม้แต่ละชิ้นนั้นขนาดเท่าไรก่อนจะเริ่มทำวัดขนาดการเข้ามุมเข้าฉากกี่องศา การลาดเอียงเท่าไร หรือต้องใช้เครื่องมือใดในการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพท์อย่างที่เห็นในคลิป ทุกอย่างเป็นขั้นตอนชัดเจน พร้อมบอกเทคนิคในการทำงานไปด้วยอย่างคนที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะ เป็นการแบ่งปันให้กับคนที่อยากนำกลับไปทำกับบ้านของตัวเองได้โดยไม่ต้องจ้างช่าง ก็ยิ่งทำให้มีผู้เข้ามาติดตามเป็นจำนวนมากตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าการเรียกค่าจ้างสามสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะแพงไปสักหน่อย เพ
๑๓ยกเสาเอก เพียงฤดีนั่งน้ำตาซึมอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา มองพระกำลังทำพิธีการยกเสาเอก ซึ่งตอนนี้ท่านกำลังพรมน้ำมนต์และโปรยทรายเสกลงไปที่หลุมเสาเอก พร้อมกับเจิมและปิดทองเสาเอกซึ่งผูกผ้าสามสี หน่อกล้วยและอ้อยเอาไว้ซึ่งคีรินช่วยจัดเตรียมของมงคลทั้งหลายสำหรับใช้ในการประกอบพิธีอย่างไม่บกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น หน่อกล้วย อ้อย ผ้าสามสี ไหนจะข้าวตอก ดอกไม้ แป้งหอม แผ่นทอง แผ่นนาก แผ่นเงินและเหรียญเงินสำหรับใส่ลงไปในหลุมเสาเอก และอื่น ๆ อีกหลายอย่างเธอไม่คิดว่าบ้านของเธอจะได้รับการทำพิธีอันเป็นมงคลเช่นนี้ แม้คีรินจะบอกว่าเป็นการทำพิธีเล็ก ๆ ทำเพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อความสบายใจสำหรับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ไม่ได้ใหญ่โตหรือจัดแบบเต็มพิธีเท่าไรนัก แต่สำหรับเธอกลับรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบมากทีเดียว ไม่คิดไม่ฝันว่าการเริ่มต้นมีบ้านหลังนี้จะเริ่มต้นอย่างดีงามเช่นนี้หลังจากพิธีเสร็จสิ้นลง คีรินขับรถไปส่งพระสงฆ์ที่นิมนต์มา ส่วนเธอยังคงยืนมองเสาเอกน้ำต
ภาพหญิงสาวร่างบอบบางตรงหน้าที่กำลังยืนหันหลัง ทำกับข้าวอยู่หน้าเตาทำให้คีรินอดไม่ได้ที่จะยืนมองอย่างอุ่นใจ วันนี้เธอใส่เดรสยาวที่เขาซื้อให้ รูปร่างของเธอบอบบางแต่สมส่วน ผิวพรรณขาวเนียนแม้ว่าจะทำงานตากแดดบ้างแต่ก็ไม่ได้ดำคล้ำลงแต่อย่างใด เธอรวบผมสูงแบบง่าย ๆ โชว์ลำคอระหง ท่าทางทำอาหารอย่างทะมัดทะแมงนั้นดึงดูดสายตา ดูออกว่าเธอคงทำมันมานานจนชำนาญ เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปยืนใกล้ ๆ แล้วชะโงกหน้าถามผ่านไหล่ของเธอว่า “ทำอะไรให้พี่กิน หืม” เสียงนุ่มทุ้มที่อยู่ด้านหลังทำให้เธอหันไปมองทันที และจมูกของเธอก็ปะทะกับใบหน้าของเขาที่ชะโงกลงมาพอดี “อุ๊ย!” เธอร้องเบา ๆ อย่างตกใจ แก้มแดงเรื่อขึ้นมาอย่างฉับพลัน ที่รู้ว่าเมื่อครู่นี้จมูกของเธอชนเข้าอย่างจังกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา ขณะที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังมองคนตรงหน้าด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม รอยยิ้ม