เพียงฤดีเข้าห้องพักแล้วหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดเครื่อง เพื่อต่อสัญญาณไวไฟให้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นมาเพื่อจะเขียนนิยาย ระหว่างรอหน้าจอพร้อมสำหรับทำงาน เธอก็หยิบสมุดบันทึกมาเขียนบัญชีรับจ่ายเงินในวันนี้ ก่อนจะแยกเงินสามสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเองออกจากเงินที่ขายได้วันนี้แล้วใส่ไว้ในซองเล็ก ๆ เสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้น เธอจึงรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นสายของนภาธร
“เป็นยังไงบ้างแก ไม่เปิดเครื่องเลย ฉันโทร. หาตั้งหลายรอบแล้ว”
“อ้อ แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากรับสายแม่กับพี่ท็อปเลยปิดเครื่องน่ะ”
“ฉันก็รู้ ว่าแต่ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“วันก่อนเผลอรับสายไปทีนึง แม่ก็ยังว่าฉันเห็นแก่ตัวทิ้งครอบครัว จะขอเงินเพิ่มทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ฉันก็จะไม่มีกินอยู่แล้ว ฉันก็เลยไม่รับสายอีก รอให้ถึงวันที่หนึ่งก่อนค่อยโอน ไม่อย่างนั้นก็คงใช้หมดก่อนสิ้นเดือนอีกแน่ ๆ แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาให้อีก กว่าเงินจะออกอีกทีก็วันที่ยี่สิบโน่น
พอดีแม็กซ์ดันบอกไปว่าฉันเอาเงินไปซื้อที่ดินหมดแล้ว ให้ช่วยประหยัด อย่ามาขอเงินฉันอีก เท่านั้นแหละ ก็ด่าฉันยกใหญ่พ
“แกได้เยอะเหรอ ถึงบอกว่าจะทำบ้านน่ะ”“ก็ไม่เยอะหรอก แค่ห้าหมื่นเอง คิดว่าทำแบบทรงง่าย ๆ ไม่ต้องหรูหรา ฉันดูคลิปในยูทูปแล้ว ว่าจะซื้อวัสดุมาแล้วยืมเครื่องมือช่างพี่คีรินไปทำเอง”“เฮ้ย บ้าแล้วยายฤดี แกเนี่ยนะ จะทำบ้านเอง”“ทำไมจะทำไม่ได้ แค่หลังเล็ก ๆ ฉันเห็นผู้หญิงในยูทูปตัวเท่า ๆ ฉันนี่แหละ เขายังทำบ้านเองกลางป่าได้เลย ทำไมฉันจะทำไม่ได้”“เฮ้ย นั่นมันคอนเทนต์ เขาจะสร้างเรื่องยังไงก็ได้ แกเชื่อได้ยังไง เขาแค่ทำท่าเหมือนทำเองตอนถ่ายคลิป แต่จ้างคนอื่นมาทำให้ก็ได้”“แล้วถ้าฉันไม่ลองทำเอง ฉันจะรู้ไหมล่ะว่าทำได้ มันต้องลองก่อนไง เนี่ยฉันดูในเพจบ้านทองกวาวมา เขาทำบ้านแบบที่ทำคนเดียวได้ ทำง่ายมาก”“เออ แกจะทำอะไรก็ทำ”“ว่าแต่ฉันขอไม้ไผ่ในสวนแกหน่อยได้ไหม จะเอาไปทำค้างผัก”“เอาไปเลยฉันยกให้ ตัดไปหมดทั้งกอเลยยิ่งดี รกจะตาย”“โอเค ขอบใจนะ ฉันต้องวางหูแล้วละ เดี๋ยวต้องไปทำกับข้าวให้พี่คีรินอีก คุยกับแกจนฉันไม่ได้เขียนนิยายเลยเนี่ย” เพียงฤดีว่าก่อนจะวางสายจากเพื่อน เลื่อนอ่านนิยายที่เขียนไว้ก่อนหน้า แล้วก็เปิดหน้าจอทิ้งไว้ก่อ
๗ย้ายห้อง เพียงฤดีรีบย้ายของออกจากห้อง หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ห้องนี้ดีหน่อยตรงที่มีเตียงนอนไม้ กับตู้เสื้อผ้าไม้แบบโบราณกับชั้นวางของ ทำให้เธอสามารถจัดข้าวของวางได้อย่างเป็นระเบียบขึ้นส่วนคีรินเดินออกไปจากบ้านตามช่างเลื่อยไม้เข้าไปในสวนตั้งแต่กินข้าวเสร็จ เสียงเลื่อยไม้และเสียงตะโกนโหวกเหวกยังดังแว่วมาตลอดเวลาใช้เวลาไม่นานนักก็จัดของในห้องนอนเสร็จ เพียงฤดีจึงเดินไปเก็บมะพร้าวใส่กระสอบลากกลับมาหนึ่งกระสอบ ซึ่งเป็นจำนวนหลายลูกทีเดียว เอามาวางไว้หน้าบ้าน แล้วเข้าไปเตรียมอาหารเที่ยงครอบฝาชีเอาไว้ให้เขาในครัวก่อนจะเข้าไปเอาซองเมล็ดพันธุ์ผักที่เธอซื้อมาตอนออกไปซื้อของกับคีรินคราวก่อน กับจอบขนาดเล็กและพร้าหนึ่งด้ามเดินไปยังที่ดินของตัวเอง เมื่อไปถึงเธอก็สำรวจพื้นที่ตามที่เพื่อนชี้บอกเอาไว้ ว่ามีหมุดเป็นเสาปูนทาสีแดงปักอยู่ที่ดินแปลงของเธออยู่ติดกับถนนลูกรังซึ่งเป็นทางผ่านไปยังที่ดินแปลงของคีริน ลักษณะเป็นพื้นที
ก่อนจะถือพร้าเดินไปยังกอไผ่ ไผ่ลำต้นค่อนข้างใหญ่ เธอใช้เวลาอยู่นานในการตัด แต่เมื่อมันล้มครืนลงมาเธอก็ถึงกับนั่งลงอย่างหมดแรงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้น ลากมันออกมาแล้วริดกิ่งออกจนเหลือแต่ลำต้นเธอต้องการจะทำให้มันสั้นกว่านี้ จึงใช้พร้าสับออกเป็นท่อนตามความยาวที่ต้องการ โดยคอยเลื่อนกล้องถ่ายวีดีโอไว้ทุกขั้นตอนที่เธอทำงานหญิงสาวปาดเหงื่อเป็นระยะ เพราะเป็นงานหนักที่เธอไม่คุ้นเคยเลย ทั้งที่คิดว่าที่นี่อากาศเย็น แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจนเหงื่อโทรมกายเลยทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอ จึงไม่ได้รู้สึกลำบากนัก เพราะเธอดูคลิปการเข้าป่าไปสร้างที่อยู่ของหญิงสาวคนหนึ่งในเวียดนาม รวมทั้งของผู้ชายอีกหลายคนที่ทำคลิปประเภทนี้ ทำให้พอจะรู้วิธีเอาตัวรอดในการใช้ชีวิตในป่า และรู้ว่าการสร้างอนาคตของตัวเองบนผืนดินที่ว่างเปล่านั้นต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงไรและตอนนี้เธอก็กำลังทำคลิปเช่นเดียวกับพวกเขาเพื่ออัปโหลดขึ้นยูทูป สร้างช่องของตัวเองไว้ให้ผู้คนได้ติดตามดู ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งในการหาเงินเข้ากระเป๋าเพียงฤดีตัดไม้ไผ่และผ่าไม้ไผ่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เธอขุดหลุมข้
หญิงสาวเดินไปเปิดประตูสีขาวที่เมื่อก่อนไม่เคยมี ด้านในเป็นห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีอ่างล้างหน้า โถแบบชักโครก และส่วนอาบน้ำฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ที่มีกระจกกั้น ภายในห้องน้ำปูกระเบื้องสีขาวดูสะอาดตา“โอ้โห ฤดีไม่เคยมีห้องนอนสวยแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”“ชอบไหมล่ะ” เธอพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง“ชอบก็ดีแล้ว จะได้อยู่ได้นาน ๆ ไม่ต้องงอแงรีบจะย้ายออกอีก ต่อไปเราก็ต้องช่วยเป็นลูกมือพี่รีโนเวทส่วนอื่นของบ้านด้วย โอเคไหม” หญิงสาวยิ้มกว้างพยักหน้ารับคำ“โอเคเลยค่ะ” ก่อนจะทำหน้าเสียดายอย่างที่สุดแล้วว่า“แต่เสียดายจังเลยค่ะ ฤดีมัวแต่ไปขายของ ไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ลงช่องเลย”คีรินยิ้มอ่อนโยนเอ่ยว่า“พี่ถ่ายไว้เยอะแยะเลย ส่งอีเมลมาให้พี่ เดี๋ยวพี่ส่งคลิปให้เราเอาไปตัด”เธอดีใจจนเผลอไปกอดแขนของเขา“ว้าว จริงหรือคะ ดีใจจัง ช่องมีคนติดตามเกือบร้อยคนแล้วนะคะพี่คีริน เดี๋ยวฤดีจะแยกลงเป็นตอน ๆ แล้วค่อยทำคลิปสรุปตั้งแต่ต้นจนจบอีกคลิป จะได้มีคลิปวางหลายคลิปหน่อย คนจะได้ติดตาม” เธอว่าก่อนจะปล่อยมือจากแขนเขาแล้วยิ้มเก้อ ๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ค่อยเ
๘ชลธรเวลาผ่านไปเดือนกว่าแล้วที่เขาและเธอมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ผลไม้ที่มีในสวนก็เริ่มหมดลง เพียงฤดีเริ่มออกเดินวนในสวนแต่เช้า ว่าเธอจะเอาอะไรไปขายได้อีกบ้าง เพราะช่วงที่ผ่านมาเธอโพสต์ขายผลไม้ทางอินเทอร์เน็ตด้วย ทำให้ผลไม้ขายออกได้ไวจนหมดเกลี้ยง เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเป็นผลไม้ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี จึงยิ่งมีคนสั่งซื้อจำนวนมาก จนต้องไปขอซื้อจากสวนของนิดและเล็กไปช่วยขายด้วย และที่นั่นก็หมดแล้วเช่นกันพอผลไม้หมด รายได้สามสิบเปอร์เซ็นต์ของเธอก็เริ่มขาดมือ หญิงสาวเดินเตร่ ๆ เข้าไปในสวนป่าของเขา เธอหยุดชะงักนิดนึง เมื่อก้มลงมองที่พื้นดิน แล้วเห็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆ เพิ่งงอกอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองว่ามันคือต้นอะไร แล้วก็ก้มลงมองพื้นดินอีกครั้ง เอาใบไม้มาเทียบกันก่อนจะยิ้มร่าเริงแล้วนั่งลงมองอย่างตื่นเต้น“ต้นกระถินเทพานี่ นี่ก็ต้นพะยอมงอกเยอะแยะไปหมดเลย ยางนาด้วย” เธอจำได้เพราะคีรินเคยบอกไว้ว่าชื่อต้นอะไรบ้าง“ไม้ป่าเศรษฐกิจ เหมือนที่โจน จันไดเคยบอกไว้เลย ว่าต้องกันพื้นที่ไว้ส่วน
“อ้าว น้องภายังไม่ได้บอกคุณพ่อหรือครับ ว่าขายที่ดินแปลงเล็กให้ฤดีแล้ว ฤดีถึงได้มาอยู่ที่นี่ไงครับ เห็นเขาบอกว่าเขาจะโทร. บอกคุณพ่อนี่ครับ แย่จังครับ นี่ก็พาเพื่อนมาทิ้งไว้ในบ้านร้าง บอกว่าให้อยู่บ้านผมไปก่อน โดยไม่ได้โทร. บอกผมสักคำ โชคดีนะครับที่ผมกลับมา ไม่งั้นป่านนี้ไม่รู้จะอยู่ยังไง หลังคาก็รั่ว ดีไม่ดีหลังคาอาจจะพังมาทับหัวไปแล้วก็ได้”คีรินรีบตอบทันที โบ้ยเรื่องไปหาน้องสาวบ้าง เพราะอย่างน้อยเรื่องจะได้พ้นตัวเขาไปก่อน ไม่งั้นอาจจะโดนกัณเทศน์จากผู้เป็นบิดาไปอีกยาว ส่วนน้องสาวอยู่ไกลคงไม่ได้รับรู้อะไร“อ้าว มันขายที่รึ ขายได้ยังไง ใครอนุญาต ตอนแบ่งให้ก็บอกแล้วว่าห้ามเอาไปขาย” ผู้เป็นบิดาทำเสียงขึงขัง“โธ่ คุณพ่อครับ ที่ดินเรามีตั้งเยอะแยะ แค่สองไร่เราแบ่งขายให้คนที่ไม่มีบ้างก็ได้ครับ ฤดีเขาไม่มีที่ทำกินครับ เขาอยากย้ายออกจากกรุงเทพฯ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ น้องภาคงสงสารเพื่อนน่ะครับ อย่าไปว่าน้องภาเลย เขาคงอยากมีเพื่อนมาอยู่ใกล้ ๆ กัน ถึงยอมขายให้ แถมฤดีก็เป็นเด็กดีนะครับคุณพ่อ ช่วยงานผมได้เยอะเลย” ชายหนุ่มรีบแก้ตัวแทนน้องสาว“เออ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ย
คีรินออกจากบ้านไปราวสามชั่วโมงได้แล้ว ส่วนเพียงฤดีก็ยังเพลิดเพลินอยู่กับการบรรจุดินใส่ถุงและปลูกพันธุ์ไม้ ในหัวก็คิดคำนวณไปด้วย ว่าจะขายต้นละเท่าไรดี ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อเปิดดูว่าคนอื่นขายราคาเท่าไร แล้วยิ้มแป้นเมื่อเห็นราคา“กระถินเทพาต้นสูงสามสิบเซนติเมตร ต้นละสิบบาท ก็ยังดี ขายทีนึงเป็นสิบเป็นร้อยต้นก็ได้กำไรบ้างละ ต้นพะยอม ต้นยี่สิบเซ็นต้นละสิบบาท หูย แต่พอสูงห้าสิบถึงร้อยเซ็น ต้นนึงเป็นร้อยเลยก็มี” หญิงสาวเปิดดูราคาที่ขายในเว็บชอปปิงออนไลน์ซึ่งมีบริการส่งทางไปรษณีย์ด้วย เห็นแล้วดวงตาก็แพรวพราวขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเห็นเงินกองอยู่ตรงหน้าก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงรถไม่คุ้นหู เธอเงยหน้าไปมองเห็นรถ SUV สีขาวขับเข้ามาจอดหน้าบ้านเพียงฤดีมองด้วยความประหลาดใจ ใจเธอสั่นเล็กน้อย เพราะคิดว่าบางทีอาจจะเป็นคนรักของคีรินที่มาหาที่นี่เพื่อเซอร์ไพรส์เขาก็เป็นได้ เพราะหากคีรินรู้ว่ามาคงจะไม่ออกไปข้างนอกเป็นแน่ แล้วเธอจะต้อนรับเขาแบบไหนทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ลงมาจากฝั่งคนขับรถ ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารแล้วเห
๙จะไม่ใจร้าย คีรินจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เด่นตระหง่านอยู่บนเนินเขา ซึ่งล้อมด้วยสวนทุเรียนกว้างใหญ่สุดหูสุดตา เพียงฤดีมองอย่างตื่นตะลึง เธอไม่คิดว่าบ้านของบิดาเขาจะใหญ่โตถึงขั้นนี้ แปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่กลับมาอยู่ที่นี่ ทำไมต้องไปทนอยู่บ้านที่ทิ้งร้างมานานจนหลังคารั่วผนังผุพังอยู่นานเป็นเดือนสองเดือน ตอนแรกที่เขาชวนมา เธอก็ปฏิเสธที่จะมาด้วย เพราะเกรงว่าจะทำให้มารดาของเขาไม่พอใจ ที่เธอมาโดยที่ท่านไม่ได้เอ่ยชวน แต่เขาก็คะยั้นคะยอจนยอมมาด้วย เธอเห็นชลธรเปิดประตูออกมาดู แล้วยิ้มด้วยความดีใจเพียงฤดียกมือไหว้ เขารับไหว้แล้วยิ้มให้ แต่ยังไม่ทันได้ทักทายเธอ เสียงของคีรินก็ดังขึ้นเสียก่อน “ว้าว บ้านเสร็จแล้วใหญ่โตเลยนะครับพี่ชล เห็นแต่ในรูปไม่คิดว่าของจริงจะหลังใหญ่ขนาดนี้” คีรินเอ่ยกับพี่ชายเมื่อเห็นชลธรเ
๑๔เจ้าของบ้าน คีรินขับรถออกจากที่ว่าการอำเภอ เขาหันมองเพียงฤดีที่ตอนนี้นั่งจ้องทะเบียนบ้านของตัวเองมาครู่ใหญ่แล้ว เปิดหน้าโน้นหน้านี้อ่านแล้วก็ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ เขาก็เอาแบบฟอร์มขออนุญาตสร้างบ้านที่เทศบาลตำบลออกให้ ไปให้ผู้ใหญ่บ้านออกเอกสารเซ็นรับรองให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบมาที่ว่าการอำเภอต่อเพราะพอผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ถ้าบ้านเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปภายนอกภายในบ้านและห้องน้ำพริ๊นต์ใส่กระดาษ แล้วไปออกเล่มทะเบียนบ้านที่อำเภอได้เลยไม่ต้องรอถึงสิบห้าวันก็ได้ เจ้าของบ้านสาวเห่อมาก รีบกลับมาถ่ายรูปแล้วจะปั่นจักรยานไปอำเภอเอง เขาจึงต้องขับรถมาส่ง“เป็นอะไรหรือเรา ดูแล้วดูอีก ดูไม่เสร็จสักที” เขาหันไปถาม“ฤดีดูให้แน่ใจว่าเป็นชื่อฤดีจริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวตอบ ตาก็มองชื่อเจ้าของบ้านที่อยู่ในสมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กนั้นราวกับว่ากำลังฝันไป“ก็เป็นชื่อเราสิ จะเป็นชื่อใครล่ะ หืม” เขายื่นมือมาลูบหัวคนที่นั่งข้าง ๆ ราวเดือ
คีรินขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วเดินไปยังกองพันธุ์ไม้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเพียงฤดีปลูกใส่ถุงดำไว้ แล้วตะโกนเรียก “มาสิ มาช่วยพี่ขน” “ขนไปไหนคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจ “ขนใส่รถไง เดี๋ยวจะพาไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” เขาว่า เพียงฤดีทำหน้างง แต่ก็ช่วยเขาขนขึ้นรถอย่างเต็มใจ “เอาพะยอมห้าสิบต้น กระถินเทพาร้อยห้าสิบก็แล้วกัน” คีรินบอก เพียงฤดีทำตามที่เขาบอกจนได้ครบจำนวน เขาก็เดินไปหยิบจอบและถุงมือใส่รถ เรียกให้หญิงสาวขึ้นรถแล้วขับเข้าไปในสวนป่า “พี่คีรินจะเอามาปลูกเหรอคะ&
หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน ด้านหน้าบ้านมีระเบียงกว้างราวสองเมตร ล้อมด้วยราวระเบียงไม้ ซึ่งเธอก็เดินเข้าออกอยู่ทุกวัน ตั้งแต่ช่างเริ่มสร้างเธอก็มาเฝ้าดูอยู่เรื่อย ๆ ตอนเย็นของทุกวันก็ต้องแวะมาดูว่าช่างทำเสร็จไปถึงไหนแล้ววันนี้ช่างเพิ่งจะทาสีย้อมไม้เสร็จแล้วเอานั่งร้านลง ทำให้บ้านสีสวยเด่นขึ้นมาก ช่างวีเป็นช่างไม้ฝีมือดีที่นิดแนะนำให้คีริน ตอนที่เขาไปหานิดเพื่อปรึกษาเรื่องหาคนตัดไม้และแปรรูปได้ และอยากได้ช่างที่ทำงานไม้อย่างที่เขาต้องการได้ นิดจึงได้แนะนำช่างวีมาให้ ซึ่งหลังจากที่สร้างบ้านไม้หลังนี้ให้เธอแล้ว ช่างวีก็จะต้องไปสร้างบ้านเล็ก ๆ อีกสี่ห้าหลัง เพื่อที่จะใช้เป็นที่พักนักท่องเที่ยวในไร่ของคีรินต่อหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน เธอเลื่อนประตูบ้านซึ่งเป็นกรอบไม้กรุกระจกสวยงาม ผนังบ้านในส่วนห้องโถงไม่ได้โชว์โครงไม้แต่ใช้แผ่นไม้ปิดผนังให้ดูเรียบร้อย เพื่อง่ายในการทำความสะอาดและดูสวยงาม ส่วนหน้าต่างเป็นกระจกแบบเดียวกับประตู ซึ่งคีรินเป็นคนพาเธอไปซื้อ โดยการวัดขนาดแล้วให้ช่างกระจกตัดให้ตามขนาดที่ต้องการ ซึ่งราคาถูกกว่าซื้อชุดหน้าต่างกระจกแบบสำเร็จ เขาทำให้เธอประหยัดเงินได้มาก
นภาธรเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูในกรุงเทพฯ หญิงสาวรีบหยิบสมาร์ตโฟนจากกระเป๋าราคาแพงเมื่อมีสายเรียกเข้า เธอคิดว่าคงเป็นสายจากคนที่นัดไว้ วันนี้เธอมีนัดในร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมดัง ด้วยมีรุ่นน้องที่รู้จักกันเป็นเซลล์ขายกระเป๋าอยู่ที่นี่ ซึ่งได้โทร. เรียกให้เธอเข้ามาดูกระเป๋าคอลเลกชันใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ไหน ๆ ก็ต้องเข้ามาแล้ว วันนี้เธอจึงรับนัดกับลูกค้าของเธอที่ร้านกาแฟชื่อดังที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วย จึงยังไม่ได้เข้าไปยังร้านขายกระเป๋า หญิงสาวผลักประตูกระจกเข้ามาในร้านกาแฟหรูซึ่งมีสาขาทั่วโลก ขณะที่ดูชื่อคนต้นสาย ก่อนจะย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อคนที่โทร. เข้ามา“ว่าไงคะพี่ชายสุดหล่อ นึกยังไงถึงโทร. มาหาเนี่ย ทุกทีไม่เห็นจะห่วงน้องนุ่ง วันก่อนก็ทำให้พ่อโทร. มาด่าหูแทบฉีก ไม่ช่วยกันเลย” เธอถามคนต้นสายกลับไป ขณะที่วางกระเป๋าถือลงที่เก้าอี้ว่างแล้วนั่งลงตาม“นั่นเราทำตัวเอง ทำเรื่องใหญ่ไม่บอกพ่อสักคำ ก็ควรโดนแล้ว พี่ช่วยแก้ตัวให้ตั้งเยอะแล้วนั่นน่ะ”“โห แก้ตัว แต่มีการบอกว่าน้องเอาเพื่อนไปทิ้งไว้ในบ้านร้างเนี่ยนะ บอกเลยนะว่าข้อหานี้น่ะ โดนด่
ใบหน้าของเขาก็อยู่ในตำแหน่งที่ดูดี เหมือนกับเขารู้ว่าต้องจับภาพมุมไหนให้เห็นภาพใบหน้าของเขาในมุมที่ดูดีที่สุด ท่าทางของเขาเหมือนนักแสดงมืออาชีพ ที่ดูแล้วเพลินตาไม่ติดขัด น้ำเสียงที่เขาแนะนำการทำงานเป็นขั้นตอนนั้น ดูเรียบ ๆ แต่นุ่มทุ้มน่าฟังมิน่าเล่าช่องของเขาถึงมียอดติดตามเร็วกว่าช่องไก่กาของเธออย่างมาก เพราะภาพสวยสะดุดตาและเพลิดเพลินในการรับชม แถมคนดูยังได้ความรู้เพิ่มอีกด้วย เพราะก่อนที่เขาจะเริ่มต้นทำอะไร เขาจะเอาภาพที่ออกแบบปริ๊นต์ลงกระดาษแล้ว นำมาถ่ายลงในวีดีโอให้เห็นก่อน ว่าเขามีการวัดขนาดพื้นที่หรือ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไม้แต่ละชิ้นนั้นขนาดเท่าไรก่อนจะเริ่มทำวัดขนาดการเข้ามุมเข้าฉากกี่องศา การลาดเอียงเท่าไร หรือต้องใช้เครื่องมือใดในการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพท์อย่างที่เห็นในคลิป ทุกอย่างเป็นขั้นตอนชัดเจน พร้อมบอกเทคนิคในการทำงานไปด้วยอย่างคนที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะ เป็นการแบ่งปันให้กับคนที่อยากนำกลับไปทำกับบ้านของตัวเองได้โดยไม่ต้องจ้างช่าง ก็ยิ่งทำให้มีผู้เข้ามาติดตามเป็นจำนวนมากตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าการเรียกค่าจ้างสามสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะแพงไปสักหน่อย เพ
๑๓ยกเสาเอก เพียงฤดีนั่งน้ำตาซึมอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา มองพระกำลังทำพิธีการยกเสาเอก ซึ่งตอนนี้ท่านกำลังพรมน้ำมนต์และโปรยทรายเสกลงไปที่หลุมเสาเอก พร้อมกับเจิมและปิดทองเสาเอกซึ่งผูกผ้าสามสี หน่อกล้วยและอ้อยเอาไว้ซึ่งคีรินช่วยจัดเตรียมของมงคลทั้งหลายสำหรับใช้ในการประกอบพิธีอย่างไม่บกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น หน่อกล้วย อ้อย ผ้าสามสี ไหนจะข้าวตอก ดอกไม้ แป้งหอม แผ่นทอง แผ่นนาก แผ่นเงินและเหรียญเงินสำหรับใส่ลงไปในหลุมเสาเอก และอื่น ๆ อีกหลายอย่างเธอไม่คิดว่าบ้านของเธอจะได้รับการทำพิธีอันเป็นมงคลเช่นนี้ แม้คีรินจะบอกว่าเป็นการทำพิธีเล็ก ๆ ทำเพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อความสบายใจสำหรับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ไม่ได้ใหญ่โตหรือจัดแบบเต็มพิธีเท่าไรนัก แต่สำหรับเธอกลับรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบมากทีเดียว ไม่คิดไม่ฝันว่าการเริ่มต้นมีบ้านหลังนี้จะเริ่มต้นอย่างดีงามเช่นนี้หลังจากพิธีเสร็จสิ้นลง คีรินขับรถไปส่งพระสงฆ์ที่นิมนต์มา ส่วนเธอยังคงยืนมองเสาเอกน้ำต
ภาพหญิงสาวร่างบอบบางตรงหน้าที่กำลังยืนหันหลัง ทำกับข้าวอยู่หน้าเตาทำให้คีรินอดไม่ได้ที่จะยืนมองอย่างอุ่นใจ วันนี้เธอใส่เดรสยาวที่เขาซื้อให้ รูปร่างของเธอบอบบางแต่สมส่วน ผิวพรรณขาวเนียนแม้ว่าจะทำงานตากแดดบ้างแต่ก็ไม่ได้ดำคล้ำลงแต่อย่างใด เธอรวบผมสูงแบบง่าย ๆ โชว์ลำคอระหง ท่าทางทำอาหารอย่างทะมัดทะแมงนั้นดึงดูดสายตา ดูออกว่าเธอคงทำมันมานานจนชำนาญ เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปยืนใกล้ ๆ แล้วชะโงกหน้าถามผ่านไหล่ของเธอว่า “ทำอะไรให้พี่กิน หืม” เสียงนุ่มทุ้มที่อยู่ด้านหลังทำให้เธอหันไปมองทันที และจมูกของเธอก็ปะทะกับใบหน้าของเขาที่ชะโงกลงมาพอดี “อุ๊ย!” เธอร้องเบา ๆ อย่างตกใจ แก้มแดงเรื่อขึ้นมาอย่างฉับพลัน ที่รู้ว่าเมื่อครู่นี้จมูกของเธอชนเข้าอย่างจังกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา ขณะที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังมองคนตรงหน้าด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม รอยยิ้ม
๑๒เริ่มต้นใหม่กับใครสักคน เพียงฤดีมองห้องครัวที่ตกแต่งใหม่เรียบร้อยแล้ว ดูทันสมัยสวยงาม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวครบครัน ตกแต่งโทนขาวสลับกับใช้ไม้ในการทำเครื่องครัวและชั้นวางต่าง ๆ ทั้งหมดส่วนท็อปของเคาน์เตอร์ปูด้วยไม้แผ่นใหญ่โดยไม่มีรอยต่อ ให้ลวดลายไม้ที่สวยงามสีน้ำตาลทองขัดเงาวาววับ รู้สึกถึงความอบอุ่นแต่หรูหรา มันเหมือนกับที่เธอเห็นในนิตยสารบ้านและสวนที่ชอบซื้อมาอ่าน “ชอบไหม ครัวแบบนี้” เสียงทุ้มถามอยู่ข้างหลัง “ชอบสิคะ ชอบมากเลยค่ะ สวยเหมือนในหนังสือเลยนะคะ มีเครื่องดูดควันด้วย มีชั้นวางของเยอะแยะไปหมด จะหยิบจะจับอะไรก็สะดวกไปหมดเลยค่ะ” เธอเลื่อนลิ้นชักและเปิดดูชั้นวางต่าง ๆ ที่เคาน์เตอร์แล้วหันมายิ้มกว้างอย่างสดใส เขาชอบรอยยิ้มซื่อ ๆ ที่ออกมาจากใจเช่นนี้เหลือเกิน&nbs
เพียงฤดีก้าวเท้าลงจากรถหลังจากที่เขาขับมาจอดที่หน้าบ้าน วันนี้ภายในบ้านเงียบสงบ เพราะเขาไม่อยู่บ้าน เลยไม่ได้ให้ช่างเข้ามาทำงาน เพียงฤดีกำลังจะเดินไปเปิดประตูบ้าน ส่วนเขาเอื้อมมือไปที่เบาะหลังรถแล้วหยิบถุงกระดาษสองถุงออกมาด้วยหญิงสาวไขกุญแจบ้านเข้าไปตามปกติ เธอกำลังจะเข้าห้องนอนของตัวเอง ทว่าได้ยินเสียงของคีรินเรียกไว้ จึงหันกลับไปมอง เขายื่นถุงกระดาษสองถุงให้กับเธอ แล้วเอ่ยว่า“พี่ซื้อให้เรา”“ซื้อให้ฤดี อะไรหรือคะ” หญิงสาวรับมาแล้วเปิดดูเห็นชุดที่เธอยืนมองอยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้า และยังมีชุดอื่นอีกสองสามชุด“ซื้อให้ทำไมเหรอคะ ฤดีบอกแล้วไงคะว่าทำงานสวนคงไม่ได้ใส่ชุดนี้ เสียดายเงินออกค่ะพี่คีริน ชุดนึงตั้งเป็นพัน”“แล้วเราชอบหรือเปล่าล่ะ ถ้าเราชอบพี่ก็ไม่เสียดายหรอก”“ชอบค่ะ ว่าแต่ฤดีติดหนี้พี่คีรินเยอะแยะไปหมดแล้วค่ะ จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ให้ล่ะคะ ไม้สร้างบ้านหลังนั้นก็ราคาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ฤดีทำงานทั้งปียังมีไม่พอซื้อเลยค่ะ นี่แค่สองเดือนพี่คีรินก็ให้ไม้ฤดีไปทำบ้านตั้ง