ผลจากข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้ปลายฝนคิดอยากจะลาวงการอยู่บ่อยครั้ง แต่หากออกไปจากวงการบันเทิงแล้วเธอจะไปทำอาชีพอะไร ปลายฝนก็ยังมืดแปดด้านเช่นกัน ตอนนี้จึงทนทำงานเก็บเงินไว้ในบัญชีให้มากอีกสักหน่อย เพราะบ้านหลังนี้ก็ซื้อด้วยเงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของเธอ รถสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้านนั่นก็ด้วย ถ้าเวลานี้พ่อกับแม่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็คงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่น้อย คิดแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นปลายฝนสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ นั่นเพราะชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์คือชื่อของคุณธิดา เลขาส่วนตัวของเจ้านายเธอนั่นเอง“สวัสดีค่ะพี่ธิดา”“สวัสดีค่ะน้องหมอก” น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายกลับมานั้นบ่งบอกถึงความเอ็นดูได้เป็นอย่างดี นั่นเพราะในฐานะเลขาส่วนตัวของเจ้านายใหญ่ ธิดาจึงได้พบปลายฝนบ่อยและนั่นทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของปลายฝนมากกว่าใครเช่นกัน หญิงสาวผู้ซึ่งรับบทร้ายในละครจนดังเปรี้ยงมาหลายต่อหลายเรื่อง แต่ใครเลยจะรู้ว่าชีวิตจริงของปลายฝนนั้นต่างกันคนละขั้วกับเรื่องงาน “นายเห็นข่าวนั่นแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะ”“อารมณ์นายเป็นยังไงบ้างคะพี่ธิดา” เพ
“อ้อ...พอดีฉันมากับพี่ชายนะคะ เขาชอบกินขนมพวกนี้” ปลายฝนแก้ต่างให้ตัวเอง พร้อมส่งยิ้มแห้งๆ ให้ชายตรงหน้า “แต่ถ้าให้ดี เหลือแซนวิชให้ผมสักชิ้นก็ได้นะครับ”“ได้ค่ะ” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มให้เขา จากนั้นก็เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อให้พนักงานที่เวลานี้เสียอาการมากกว่าเธอได้คิดเงิน แต่กว่าที่พนักงานหญิงคนดังกล่าวจะดึงสติกลับมาทำงานได้ก็ยืนสตั้นอยู่หลายนาที ผิดกับปลายฝนที่ยังคงไม่แสดงอาการใดๆ ราวกับไม่รับรู้ถึงความโด่งดังของคิมหันต์แม้แต่น้อย นั่นทำให้พระเอกหนุ่มเสียเซลฟ์ไปอยู่เหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะมีคนเฉยชาใส่เขาแบบนี้มาก่อน จนอยากจะถามออกไปว่าเธอรู้จักเขาไหม หรือเคยเห็นเขาผ่านทีวีบ้างหรือเปล่า“ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ครับได้” คิมหันต์เอ่ยตอบรับแฟนคลับ ที่พอรู้ว่าเขาอยู่ในร้านก็กรูกันเข้ามาขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น ปลายฝนอาศัยจังหวะนั้นปลีกตัวออกไปหาพี่ชายที่นั่งอยู่อีกมุม ซึ่งเป็นมุมที่ไพรเวทของร้านจึงอยู่ไกลเสียหน่อย“พี่เหนือ”“ไปสั่งเค้กหรือไปเจอเสือมานั่น ทำไมหน้าตาตื่นเชียวน้องสาว” ต้นหนาวตกใจที่เห็นหน้าของปลายฝนดูตื่นตระหนกแบบนั้น “หมอกเจอพี่คิม”“พี่คิม คิมหันต์นะเหรอ” คราวนี้คนที
“พี่คิมรู้แล้วใช่ไหม ว่าละครฟอร์มยักษ์ของช่อง เราสองคนได้เป็นพระเอกนางเอก”“ทราบแล้วครับ”“เรื่องนี้มีคิวไปถ่ายกันถึงญี่ปุ่นด้วยนะคะ”“ครับ”“ริต้าอยากไปเร็วๆ จัง” ริต้ายิ้มกว้างให้ชายหนุ่ม กระทั่งสายตามองไปเห็นอิงอร แม่ของคิมหันต์เปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามา เธอจึงยกมือไหว้พร้อมเอ่ยทักทายเสียงสดใส พลอยทำให้อีกหลายคนที่ถูกนางเอกสาวเมินใส่ก่อนหน้านี้ออกอาการงุนงงไม่น้อย แต่ก็ได้แค่เจียมตัวว่าช่างแต่งหน้าทำผมแม่บ้านอย่างพวกเธอหรือจะสำคัญ “สวัสดีค่ะป้าอร”“สวัสดีจ้ะหนูริต้า” อิงอรที่วันนี้มาเป็นเพื่อนลูกชายทำงานส่งยิ้มให้ริต้า ที่เธอเอ็นดูเหมือนลูกคนหนึ่ง “ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว ป้าอรดูสวยขึ้นนะคะ” คำชมจากริต้าถึงกับทำให้อิงอรนั้นยิ้มกว้างออกมา “ปากหวาน ชมคนแก่ให้ตัวลอยแต่เช้า”“ริต้าพูดเรื่องจริง ใช่ไหมคะพี่ลูกน้ำ” ริต้าหันมาถามลูกคู่ ที่ดูจะเออออไปด้วยเสียทุกอย่าง “ใช่ค่ะ...คุณป้าอรสวยมากจริงๆ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใสขึ้นนะคะ”“คงต้องขอบคุณตาคิมเขา ที่ชอบสรรหาของบำรุงมาให้ป้ากินบ่อยๆ ไม่กินก็ตื้อให้ป้ากินอยู่นั่นแหละ” อิงอรโยนความดีความชอบให้ลูกชายรับแทน “ริต้าชอบจัง ผู้ชายที่ดูแล
“ก็เป็นอย่างที่ริต้าบอก ว่าเขาชอบแหวนน่ารักๆ พวกนี้ ผมเห็นก็เลยนึกถึงเลยซื้อมาฝาก เหมือนพี่ซื้อให้น้องทั่วไป ไม่มีอะไรครับ” ประโยคแรกๆ ของคิมหันต์ถึงกับทำให้ริต้ายิ้มกว้าง แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคท้ายๆ รอยยิ้มของเธอก็ลดลงไปเล็กน้อย ความที่เธอเป็นนักแสดงมืออาชีพจึงไม่มีใครจับพิรุธได้ “แต่ถ้ามีอะไรก็รีบแจ้งพวกพี่ๆ นะคะ จะได้แสดงความยินดีกัน”“ค่ะ” ริต้าเอ่ยรับ จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้ามายุติการสัมภาษณ์ลง เธอกับคิมหันต์จึงถือโอกาสนั้นไหว้ขอบคุณทุกๆ คนแล้วกลับเข้าห้องพัก แม้จะไม่พอใจที่คิมหันต์พูดหักหน้าตัวเอง แต่ริต้าก็เก็บอาการไม่งอแงให้ชายหนุ่มได้เห็น นั่นเพราะเธอขอให้คิมหันต์ซื้อแหวนวงนี้ให้ต่างหาก ปล่อยให้เรื่องแหวนเลยตามเลยไม่ได้เอ่ยถึงอีก ซึ่งหลังจากอัดรายการเสร็จ แทนที่จะได้กลับไปพักผ่อน แต่คิมหันต์กลับต้องพาแม่ไปทานอาหารกับโสภาเพื่อนสนิท ซึ่งก็คือแม่ของริต้านั่นเอง กว่าจะได้แยกย้ายก็กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมง คิมหันต์กลับไปส่งแม่ที่บ้านจากนั้นเขาก็ตรงไปฟิตเนสทันที แต่ระหว่างที่กำลังเตรียมตัวก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็ใส่รายละเอียดสิ่งที่อยากรู้ลงไป
เช้าวันฟิตติ้งก็มาถึง ทุกอย่างดูรีบเร่งไปเสียหมดก็เพราะกว่าจะได้คิวพระนางเรื่องนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ นั่นเอง เช้านี้ริต้าก็ยังคงสวยในชุดเดรสจากห้องเสื้อชื่อดัง เธอแต่งตัวได้สวยสมเป็นนางเอกแถวหน้า ในขณะที่คิมหันต์นั้นมาด้วยลุคสบายๆ ไม่เป็นทางการ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาได้คงเพราะทั้งคู่มารถคันเดียวกัน แต่ก็มีคุณแม่ของทั้งสองนั่งมากันซีนด้วย นั่นก็เพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นข่าวเรื่องชู้สาวไปมากกว่านี้ แม้ลึกๆ แม่ๆ อยากให้ลูกๆ ของพวกเขาคบหากันใจจะขาด นั่นเพราะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นใครเหมาะเท่านี้อีกแล้ว“ทางนี้เลยค่ะน้องหมอก” หนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นปลายฝันเดินเข้ามาในสตูดิโอ ซึ่งวันนี้เธอเองก็แต่งตัวสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงเข้ารูป รองเท้าผ้าใบแต่กลับดูเฉี่ยวน่ามอง“สวัสดีค่ะ” ปลายฝนยกมือไหว้ทีมงานทุกคนก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้แต่แม่บ้าน เมื่อเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเธอก็มองเห็นริต้าก่อน ปลายฝนจึงยกมือไหว้แต่ริต้าที่นั่งไขว่ห้างให้ช่างแต่งหน้าอยู่กลับทำเพียงพยักหน้าให้กลับมา และคนถัดมาที่ปลายฝนเห็นคือคิมหันต์ เธอยกมือไหว้เขาเช่นกัน ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ยกมือรับไหว้ปลายฝนกลับมาเช่นเดียวกัน จากนั้นผู้จัดละค
“กรี๊ดดดด พี่เหนือๆ ตอนนี้มือหมอกเย็นไปหมดแล้วเนี่ย” ทันทีที่เสร็จงานแล้วเข้ามานั่งในรถบ้านส่วนตัวได้ ปลายฝนก็กรี๊ดออกมาอย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป นั่นเพราะตลอดการฟิตติ้งวันนี้เธอเก็บอาการปลื้มและตื่นเต้นตอนได้ทำงานกับคิมหันต์ไว้อย่างถึงที่สุด“พี่ว่าแล้วเชียว ว่าเราต้องกรี๊ด” ต้นหนาวยิ้มออกมา เพราะถ้าเป็นเขาก็คงเสียอาการมากแน่ๆ ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับดาราในดวงใจขนาดนั้น “มันทั้งประหม่า ทั้งตื่นเต้น ทั้งเกรงใจ แล้วก็ฟิน” สีหน้าของปลายฝนพริ้มดูมีความสุขมากเวอร์ “นี่แค่วันฟิตติ้งเรายังเสียอาการ ถ้าวันถ่ายทำจริงไม่เป็นลมไปเลยหรือไง...หืม” “หมอกเก็บอาการได้ รับรองไม่ทำให้ทุกคนเสียงานหรอก อีกอย่างหมอกไม่อยากให้พี่คิมรู้ด้วยว่าหมอกปลื้มพี่เขามากกกกกก”“ให้มันจริง เพราะถ้าหลุดแล้วมีใครเห็น พี่ว่ามีคนเอาเรื่องนี้ไปเล่นข่าวอีกแน่”“เล่นไม่ขึ้นหรอก เพราะพี่คิมเขาเป็นคู่จิ้นกับพี่ริต้า”“นั่นสิ ว่าแต่คืนนี้อย่าเก็บเอาพระเอกในดวงใจไปนอนฝันถึงเชียวล่ะ”“ไม่ค่ะ...ไม่เหลือ” ปลายฝนยิ้มกริ่ม แม้ชีวิตจริงเธอทำได้แค่แอบปลื้มคิมหันต์ แต่ในฝันเธอมักจะมีเรื่องดีๆ ให้ยิ้ม เพราะเธอสามารถให้เขาเป็นอะไรก็ได้ต
“ยืนห่างๆ หน่อยนะคะ ริต้าไม่ชอบเบียดใคร” นี่คือเสียงของริต้าที่แว่วเข้าหูของคิมหันต์เข้า พระเอกหนุ่มจึงหันไปมองถึงได้เห็นว่าริต้ากำลังยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับของเธอ แต่กลับยืนห่างเป็นวาคงเพราะแฟนคลับกลุ่มนั้นตัวเปียกฝนกันมาก็เป็นได้ “ฮัดชิ้ว”“กรี๊ดดด นี่กล้าดียังไงมาจามใส่หน้าริต้าแบบนี้...อี๊” เอ่ยจบริต้าก็ผลักเด็กหญิงคนหนึ่งจนเซ ยังดีที่แม่ของเด็กคนนั้นรีบเข้ามารับตัวไว้ได้ทัน ก่อนจะเอ่ยขอโทษนางเอกสาวไป“ขอโทษด้วยค่ะ พอดีน้องไม่สบายนิดหน่อยน่ะค่ะ”“ไม่สบายก็น่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน ถ้าเกิดริต้าติดเชื้อโรคขึ้นมาทำไง รับผิดชอบไหวเหรอ” ประโยคที่ดังขึ้น ทำเอาแฟนคลับหลายคนพากันอึ้งไปตามๆ กัน นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้จากนางเอกสาวลุคน่ารัก เฟรนลี่มาก่อน “แม่ต้องขอโทษแทนน้องอีกครั้งด้วยนะคะ อีกอย่างน้องก็ใส่แมสปิดปากไว้แล้ว”“แต่มันก็ยังสกปรก”“เกิดอะไรขึ้นคะ” ลูกน้ำที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาสอบถามทันที พอรู้เรื่องก็รีบแก้ต่างให้ริต้าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หารู้ไม่ว่าใจคนที่มันเสียไปแล้วการจะกู้คืนมานั้นมันยากและใช้เวลา จากแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานมาตลอดก็อาจถึงเวลาเลิกรา ทางใครทางมันริ
“ริต้า หยุดโวยวาย เกรงใจพี่แอนกับทุกคนบ้าง ลืมไปหรือไงว่าเรามาทำงานไม่ได้มาเที่ยว” คิมหันต์ที่ทนไม่ไหวเดินเข้ามาเอ็ดริต้า ที่วันนี้ทำตัวได้ไร้เหตุผลสิ้นดี “ก็ริต้าหนาว เหนื่อยแล้วก็หิวมากด้วย” แทนที่จะหยุดแต่ริต้ากลับยิ่งโวยวายเข้าไปใหญ่ จนพี่แอนผู้จัดต้องสั่งยกเลิกกอง เพราะถ่ายต่อไปก็คงไม่ได้เนื่องจากนางเอกของเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ การรับมือริต้าที่กองละครในเมืองไทยว่ายากแล้ว ยังต้องมารับนิสัยเหวี่ยงวีนถึงที่ญี่ปุ่นแบบนี้ ก็เล่นเอาถอดใจอยู่เหมือนกัน ส่วนริต้านั้นทันทีที่ได้ยินว่าเลิกกอง เธอก็ลุกขึ้นฉีกยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปทันที ลูกน้ำเลิ่กลั่กก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าข้าวของจากนั้นก็จ้ำอ้าวตามริต้าไปอีกคน “เฮ้อ! นี่คงเป็นเรื่องสุดท้ายของเราแล้วมั้งริต้า” ผู้จัดละครเอ่ยออกมาตามหลัง นั่นเพราะระอากับนิสัยและพฤติกรรมของริต้ามามากพอแล้วเช่นกัน แต่เพราะเกรงใจทำให้ปลายฝนเข้าไปสอบถามผู้จัดละคร ว่าพอจะมีฉากอะไรที่สามารถถ่ายเธอก่อนได้ไหม แต่พอเห็นร่างกายที่สั่นเทาด้วยความหนาว ปากก็เริ่มซีดของปลายฝนแล้ว ผู้จัดละครก็สั่งให้ถ่ายต่อไม่ลงเช่นกัน อีกคนไม่อยากทำงานแต่อีกคนกลับอยากทำ แถม
บทที่ 23ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องพักที่ดังขึ้นติดกันหลายครั้ง ทำให้คิมหันต์ที่นอนยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก เนื่องจากปลายฝนไม่ตอบรับไมตรีที่เขายื่นให้หยัดตัวลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปเปิดประตูจึงเห็นว่าเป็นต้นหนาว“หมอกอยู่กับพี่คิมหรือเปล่าครับ”“เปล่าครับ เราแยกกันได้สองสามชั่วโมแล้ว แต่พี่เห็นหมอกเดินตรงมาที่โรงแรมแล้วนี่นา”“แต่หมอกไม่ได้กลับมาที่ห้องครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน” ต้นหนาวเอ่ยด้วยความร้อนใจ นั่นเพราะเขาก็คิดว่าปลายฝนอาจอยู่กับคิมหันต์ จึงเดินมาถามเขา“แย่จริง ทางการเพิ่งออกประกาศว่าคืนนี้จะมีพายุหิมะด้วย” สีหน้าของคิมหันต์บ่งบอกว่าเขาเป็นห่วงปลายฝนมาก“เหนือคิดว่าหมอกคงกำลังหลงทางอีกแน่” คิ้วดกหนาของต้นหนาวขมวดเข้าหากัน เรื่องทิศเรื่องทางนี่ไว้ใจน้องสาวเขาไม่ได้เลยจริงๆ“เราจะไปตามหมอกกันที่ไหนดีครับพี่คิม”“ลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่นี่กันก่อน เสร็จแล้วเราค่อยออกไปตามหาหมอกกัน ถ้าหลงก็คงอาจอยู่ไม่ไกลจากที่นี่”“ครับๆ&
บทที่ 22“ครับ...ไหนๆ ก็อยู่ญี่ปุ่นแล้ว เลยอยากอยู่เที่ยวที่นี่อีกสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ”“อ๋อ...” ต้นหนาวร้องอ๋อเสียงยาว แม้ใจนั้นไม่อยากจะเชื่อเหตุผลที่พระเอกดังเอ่ยมาสักเท่าไหร่ก็ตาม“พี่คิมอยากไปเที่ยวที่เมืองไหนเหรอคะ” เสียงหวานของปลายฝนเอ่ยถามขึ้น“ยังไม่มีแผนเลยครับ”“อ้าว!” คนฟังสองพี่น้องถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน“เพราะพี่กะว่าจะขอติดสอยห้อยตามหมอกกับเหนือไป ไม่ทราบว่าจะรังเกียจไกด์ต่างถิ่นอย่างพี่ไหม” คิมหันต์เอ่ยบอกความต้องการไปตรงๆ“ไม่เลยครับ”“พี่เหนือ” ปลายฝนรั้งต้นแขนของพี่ชายไว้ นั่นเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะที่เธอกับคิมหันต์จะไปเที่ยวด้วยกัน ขืนมีใครเห็นคงได้เป็นข่าวอีกแน่นอน แต่ดูเหมือนต้นหนาวจะไม่สนใจท่าทางของน้องสาวเสียแล้ว“ดีเสียอีกได้พี่คิมเป็นไกด์ให้”&ldquo
บทที่ 21วันรุ่งขึ้น เป็นการถ่ายฉากสุดท้ายที่ญี่ปุ่นของริต้าและคิมหันต์ เพราะไม่ได้มีฉากต้องถ่ายทำให้วันนี้ปลายฝนและต้นหนาวพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คอยแต่ลูบแก้มตัวเองของน้องสาวที่มีมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ สร้างความสงสัยให้ต้นหนาวไม่น้อย จนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“มีความสุขอะไร ไหนเล่ามาสิ เอ้...หรือเพราะซีนนอกบทของพี่คิมเมื่อวาน”“พี่เหนือก็ อย่าแซวกันสิ” เวลานี้ปลายฝนเขินแม้กระทั่งพี่ชายของตัวเอง“อาการแบบนี้ต้องใช่แน่ๆ เล่ามาเลย มีอะไรกัน”“ไม่ได้มีอะไรกัน หมอกยังไม่ได้เสียจิ้น” ปลายฝนรีบแย้งพี่ชายด้วยประโยคทะลึ่งตึงตัง นั่นทำให้ต้นหนาวอยากดีดหน้าผากของผู้เป็นน้องเหลือเกิน“ทะลึ่ง พี่หมายถึงไปคุยอะไรกันมา”“ก็ทั่วไป แต่คือหมอกกำลังสับสน เป็นพี่เหนือพี่เหนือจะคิดยังไง”“ก็เล่ามาก่อนสิ พี่จะได้หาคำตอบให้&rdqu
บทที่ 20“จริงเหรอคะพี่แอน” ต้นหนาวที่นั่งฟังอยู่ถึงกับตาโต ส่วนปลายฝนนั้นยังไม่เก็ตจึงนั่งเงียบๆ“จริงสิ พี่พูดคำไหนคำนั้น นักแสดงนิสัยน่ารัก ฝีมือการแสดงก็ยอดเยี่ยมแบบหมอกต้องดันให้สุดตัว ไม่ดังเปรี้ยงก็ให้มันรู้ไป”“กราบขอบพระคุณมากครับพี่แอน ที่เอ็นดูหมอกจนอยากได้ไปเป็นนางเอก” ต้นหนาวยกมือไหว้ขอบคุณแอนที่เอ็นดูปลายฝนมากขนาดนี้“ถึงขั้นกราบกันเลยหรือเหนือ” ผู้จัดละครยิ้มออกมา นั่นเพราะชอบในนิสัยของทั้งคู่อยู่แล้ว“ครับพี่ ข่าวดีแบบนี้ไม่กราบไม่ได้จริงๆ” ต้นหนาวรีบรับ“หมอกจะได้เล่นเป็นนางเอกเหรอคะ” ปลายฝนที่จับต้นชนปลายได้แล้วถึงกับยิ้มกว้างออกมา“ใช่...หมอกเตรียมตัวไว้เลย พี่จะดันเราเอง”“แล้วผมจะได้เล่นเป็นพระเอกไหมครับพี่แอน” เสียงทุ้มของคิมหันต์ดังขึ้นอีกคน ปลายฝนที่นั่งประคบเย็นอยู่ถึงกับหันขวับไปมองเ
บทที่ 19“แต่ทำไมพี่ถึงมองว่าพี่คิมชวนหมอกไปเดทกันนะ”“พี่เขาไม่ได้ชอบหมอกสักหน่อย จะมาดงมาเดทด้วยทำไม”“ไม่แน่หรอก อาจจะแอบชอบอยู่ก็ได้” ต้นหนาวเอ่ยยิ้มๆ เพราะใครจะไปรู้ว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแต่ใช่ว่าจะไม่มีหวัง เพราะเขาก็เป็นผู้ชายย่อมมองอะไรออกสิ “เพ้อเจ้อแล้วพี่เหนือ”“แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งพี่คิมชวนหมอกไปเดทขึ้นมาจริงๆ หมอกจะทำยังไง”“ก็....ไปสิถามได้”“รีบตอบเชียวนะ”“รีบตอบเพราะมั่นใจว่ามันไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ”“อย่าเอาเรื่องของอนาคตมาเดาเล่นๆ น้องรัก” ต้นหนาวส่ายหน้าให้ “ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไปๆ หาอะไรกินกันเถอะ หมอกหิว”“ไปสิ” เอ่ยรับเสร็จ ต้นหนาวก็คว้าแขนน้องสาวขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ จากนั้นสองพี่น้องก็เดินออกไปหาของอร่อยๆ อุ่นๆ กินแก้หนาว ระหว่างนั่งกินอยู่นั้น จู่ๆ ต้นหนาวก็เอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้มีฉากตบกับริต้า” สีหน้าของต้นหนาวดูกังวลกับฉากนี้มากกว่าฉากที่ปลายฝนต้องเข้าฉากจูบกับคิมหันต์เสียอีก“ค่ะ” พอพูดถึงเรื่องนี้ปลายฝนก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที “ยัยนางเอกนิสัยเสียตอนซ้อมนี่ก็ตบหลอกอยู่หรอก แต่พอถ่ายจริงไม่ยั้งมือเชียว” นั่นเพราะต้นหนาวทำงานกับริต้ามาห
“จริงนะคะ” “ครับ...เหมาร้านให้เลยก็ได้อะ”“อัดเสียงทันไหมเนี่ย”“ไม่ทันครับ” คิมหันต์หัวเราะออกมา พลอยทำให้ปลายฝนหัวเราะตามไปด้วย นั่นทำให้บรรยากาศการถ่ายทำที่ค่อนข้างเครียดเปลี่ยนไปทันทีก่อนการถ่ายทำ ปลายฝนปลีกตัวไปทำสมาธิอยู่คนเดียว กระทั่งเธอพร้อมก็เดินออกมาเพื่อจะเข้าฉาก ซึ่งมันไม่มีอะไรยากสำหรับนักแสดงมากมืออาชีพ แต่สำหรับปลายฝนมันยากและยากยิ่งกว่าเพราะต้องถ่ายทำกับคิมหันต์ ในฉากเธอต้องใส่ชุดนอนเบาบางแล้วเดินไปปลุกปล้ำคิมหันต์ที่กำลังนอนอยู่ เพื่อปลุกชายหนุ่มให้ตื่นไปทำงาน แต่ทว่าสุดท้ายเขาก็จะคว้าเธอเข้าไปกอดและเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกัน จากนั้นเธอกับเขาก็จะทำตามที่ซักซ้อมกันมาคือส่งเสียงรวมถึงตีผ้าห่มให้มันเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ภายใน“น้องหมอกพร้อมแล้วค่ะพี่สันต์” ต้นหนาวรีบเข้ามาบอกผู้กำกับเมื่อน้องสาวบอกว่าพร้อมถ่ายแล้ว จากนั้นทุกคนก็เข้าที่รวมไปถึงคิมหันต์เองก็ด้วยพอเห็นปลายฝนเดินเข้ามา ผู้กำกับก็ส่งสัญญาณความพร้อม นับห้า สี่ สาม สอง หลังคำว่าแอคชั่นกล้องก็จับไปที่ปลายฝนทันทีร่างบอบบางสมส่วนของปลายฝนที่เวลานี้อยู่ในชุดแสนวาบหวิวเดินตรงไปยังเตียงกว้าง เธอเม้มริมฝีปาก
ผู้จัดและผู้กำกับละครต่างมองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างพร้อมเพรียง นั่นเพราะพวกเขาต่างรับรู้ถึงความลำบากใจที่เกิดขึ้น ส่วนคิมหันต์ที่รู้เรื่องนี้เข้าก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่ก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ทีมงานมากไปกว่าที่เป็นอยู่ การเพิ่มบทมันค่อนข้างละเอียด คนหนึ่งให้เพิ่มบท แต่ทว่าอีกคนกลับคิดสวนทางกัน นั่นเพราะปลายฝนอยากให้ตัดฉากจูบระหว่างเธอกับคิมหันต์ออกบ้าง เพราะคิดว่ามันมีเยอะเกินไป แต่ทว่ากลับไม่มีใครทำตามที่เธอขอ “สติ สติ” ปลายฝนบอกตัวเอง เธอพยายามตัดความสับสนและรู้สึกวาบหวามยามได้สบตากับคิมหันต์ออกไป เวลางานเธอตั้งใจทำจนสำเร็จ แต่เมื่อไหร่ที่อยู่นอกเหนือเวลางาน เขาก็มักจะทำให้เธอหวั่นไหวอยู่เสมอๆ และยิ่งหวั่นไหว เพราะได้ทำงานด้วยกัน แถมยังเดินทางมาถ่ายทำถึงญี่ปุ่นแบบนี้ ความลำบากจากอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เธอได้เห็นตัวตนของคิมหันต์ ว่าเขานั้นเป็นคนมีน้ำใจและคอยห่วงคนอื่นเสมอๆ เขาไม่ได้ดูหยิ่งและที่สำคัญเขาเป็นแค่คู่จิ้นในจอกับริต้าจริงๆ เพราะนอกจอคิมหันต์แทบไม่คุยกับริต้าด้วยซ้ำ ยิ่งหวนคิดถึงตอนที่เขาเข้าไปช่วยเธอตอนหลงทางไว้ ยิ่งทำให้เขาดูเท่ห์ขึ้นอีกหลาย
“อิจอะไร” เพราะสงสัยคำพูดของพี่ชาย ทำให้ปลายฝนเงยหน้าขึ้นมามอง “อิจฉาคนได้จูบกับพระเอกในดวงใจ” “บ้า! ก็แค่จูบในงานเถอะ” แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ใบหน้าสวยของปลายฝนก็ยังคงร้อนผ่าวไม่หยุด “แต่จูบนั่นก็ของจริงนะจ้ะ แล้วจูบแรกเป็นไง ไหนอธิบายความรู้สึกให้พี่ฟังหน่อยสิ” ต้นหนาวยิ้มกริ่มขณะรอฟัง นั่นเพราะแค่เห็นเธอก็ฟินแทนปลายฝนแล้ว “มันดีอ่ะ ดีมาก โอ้ยยยย เขิน” ใบหน้าของปลายฝนเวลานี้ยิ่งแดงก่ำเพราะความเขินอายที่มีล้นหัวใจเข้าไปอีก ดีหน่อยที่จบฉากจูบก็เลิกกอง ไม่อย่างนั้นเธอคงตำตัวลำบากกว่านี้แน่ “แต่หมอกเก่งมากนะที่เก็บอาการอยู่” “ก็เกือบแย่เอาเหมือนกัน นี่พี่เหนือลองจับดู” เอ่ยจบปลายฝนก็คว้ามือพี่ชายมาวางบนอกข้างซ้าย ตรงกับตำแหน่งของหัวใจที่ตอนนี้ยังเต้นไม่ได้จังหวะ “พักๆ เดี๋ยวหัวใจจะวายตายเอาเสียก่อน” “ค่ะ” ปลายฝนยิ้มกว้าง ก่อนจะซุกหน้ากับหมอนอีกครั้ง จากนั้นก็กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง ต้นหนาวส่ายหน้าให้น้องสาว แต่ก็อดชื่นชมในความเก่งของปลายฝนไม่ได้จริงๆ แบบนี้อนาคตในวงการบันเทิงต้องไกลมากแน่ๆ แต่ว่าปลายฝนเท่านั้นที่ใจเต้นแรง เพราะคิมหันต์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่ ฉา
แต่เพราะใช้มุมกล้องทำให้ฟิลลิ่งของคู่รักที่รักกันมาก ขนาดยอมแลกได้ด้วยชีวิตไม่สมจริงหรือเพราะปลายฝนยังคงใหม่กับฉากทำนองนี้ ทำให้ทุกอย่างดูแข็งทื่อไปเสียหมด จนทางผู้จัดและผู้กำกับต้องสั่งคัตเพื่อเริ่มถ่ายทำกันใหม่ เทคแรกไม่ผ่าน เทคสองสามสี่ก็ยังไม่ผ่าน นั่นยิ่งเพิ่มความกดดันให้ปลายฝนเข้าไปอีก เพราะเธอทำให้ทุกคนต้องลำบากท่ามกลางอากาศที่กำลังติดลบ ยิ่งดึกที่นี่ก็ยิ่งหนาวจนจับขั้วหัวใจ “คิมกับน้องหมอกคิดยังไง ถ้าเกิดว่าฉากนี้คงต้องให้ทั้งสองคนจูบกันจริงๆ” ผู้กำกับเอ่ยถามกับนักแสดงทั้งสองคนขึ้น นั่นทำเอาปลายฝนถึงกับอุทานออกมาพร้อมตาโตเป็นไข่ห่าน “เอ้!” “พี่ว่ามุมกล้องมันไม่โอเค” สีหน้าของผู้กำกับเต็มไปด้วยความกังวล นั่นเพราะรู้กฎของคิมหันต์ดีรวมถึงไม่อยากให้ปลายฝนรู้สึกอึดอัดไปด้วย “เอ่อ” ปลายฝนอ้ำๆ อึ้งๆ นั่นเพราะเธอเองก็เคยตั้งกฎไว้ ว่าจะไม่ยอมแสดงฉากจูบจริงกับใครทั้งนั้นเช่นกัน “ได้ไหมน้องหมอก เพราะถ้ายังถ่ายไม่ได้พี่ว่าเราแย่แน่” “เอ่อ...ดะ...ได้ค่ะ” น้ำเสียงสั่นๆ ของเธอเอ่ยรับ เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน อย่างน้อยถ้าถ่ายฉากนี้ผ่านทุกคนก็จะได้พักกันเสียที อีกอย่างที่ตอบรับไ