“ก็เป็นอย่างที่ริต้าบอก ว่าเขาชอบแหวนน่ารักๆ พวกนี้ ผมเห็นก็เลยนึกถึงเลยซื้อมาฝาก เหมือนพี่ซื้อให้น้องทั่วไป ไม่มีอะไรครับ” ประโยคแรกๆ ของคิมหันต์ถึงกับทำให้ริต้ายิ้มกว้าง แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคท้ายๆ รอยยิ้มของเธอก็ลดลงไปเล็กน้อย ความที่เธอเป็นนักแสดงมืออาชีพจึงไม่มีใครจับพิรุธได้ “แต่ถ้ามีอะไรก็รีบแจ้งพวกพี่ๆ นะคะ จะได้แสดงความยินดีกัน”“ค่ะ” ริต้าเอ่ยรับ จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้ามายุติการสัมภาษณ์ลง เธอกับคิมหันต์จึงถือโอกาสนั้นไหว้ขอบคุณทุกๆ คนแล้วกลับเข้าห้องพัก แม้จะไม่พอใจที่คิมหันต์พูดหักหน้าตัวเอง แต่ริต้าก็เก็บอาการไม่งอแงให้ชายหนุ่มได้เห็น นั่นเพราะเธอขอให้คิมหันต์ซื้อแหวนวงนี้ให้ต่างหาก ปล่อยให้เรื่องแหวนเลยตามเลยไม่ได้เอ่ยถึงอีก ซึ่งหลังจากอัดรายการเสร็จ แทนที่จะได้กลับไปพักผ่อน แต่คิมหันต์กลับต้องพาแม่ไปทานอาหารกับโสภาเพื่อนสนิท ซึ่งก็คือแม่ของริต้านั่นเอง กว่าจะได้แยกย้ายก็กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมง คิมหันต์กลับไปส่งแม่ที่บ้านจากนั้นเขาก็ตรงไปฟิตเนสทันที แต่ระหว่างที่กำลังเตรียมตัวก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็ใส่รายละเอียดสิ่งที่อยากรู้ลงไป
เช้าวันฟิตติ้งก็มาถึง ทุกอย่างดูรีบเร่งไปเสียหมดก็เพราะกว่าจะได้คิวพระนางเรื่องนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ นั่นเอง เช้านี้ริต้าก็ยังคงสวยในชุดเดรสจากห้องเสื้อชื่อดัง เธอแต่งตัวได้สวยสมเป็นนางเอกแถวหน้า ในขณะที่คิมหันต์นั้นมาด้วยลุคสบายๆ ไม่เป็นทางการ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาได้คงเพราะทั้งคู่มารถคันเดียวกัน แต่ก็มีคุณแม่ของทั้งสองนั่งมากันซีนด้วย นั่นก็เพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นข่าวเรื่องชู้สาวไปมากกว่านี้ แม้ลึกๆ แม่ๆ อยากให้ลูกๆ ของพวกเขาคบหากันใจจะขาด นั่นเพราะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นใครเหมาะเท่านี้อีกแล้ว“ทางนี้เลยค่ะน้องหมอก” หนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นปลายฝันเดินเข้ามาในสตูดิโอ ซึ่งวันนี้เธอเองก็แต่งตัวสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงเข้ารูป รองเท้าผ้าใบแต่กลับดูเฉี่ยวน่ามอง“สวัสดีค่ะ” ปลายฝนยกมือไหว้ทีมงานทุกคนก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้แต่แม่บ้าน เมื่อเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเธอก็มองเห็นริต้าก่อน ปลายฝนจึงยกมือไหว้แต่ริต้าที่นั่งไขว่ห้างให้ช่างแต่งหน้าอยู่กลับทำเพียงพยักหน้าให้กลับมา และคนถัดมาที่ปลายฝนเห็นคือคิมหันต์ เธอยกมือไหว้เขาเช่นกัน ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ยกมือรับไหว้ปลายฝนกลับมาเช่นเดียวกัน จากนั้นผู้จัดละค
“กรี๊ดดดด พี่เหนือๆ ตอนนี้มือหมอกเย็นไปหมดแล้วเนี่ย” ทันทีที่เสร็จงานแล้วเข้ามานั่งในรถบ้านส่วนตัวได้ ปลายฝนก็กรี๊ดออกมาอย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป นั่นเพราะตลอดการฟิตติ้งวันนี้เธอเก็บอาการปลื้มและตื่นเต้นตอนได้ทำงานกับคิมหันต์ไว้อย่างถึงที่สุด“พี่ว่าแล้วเชียว ว่าเราต้องกรี๊ด” ต้นหนาวยิ้มออกมา เพราะถ้าเป็นเขาก็คงเสียอาการมากแน่ๆ ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับดาราในดวงใจขนาดนั้น “มันทั้งประหม่า ทั้งตื่นเต้น ทั้งเกรงใจ แล้วก็ฟิน” สีหน้าของปลายฝนพริ้มดูมีความสุขมากเวอร์ “นี่แค่วันฟิตติ้งเรายังเสียอาการ ถ้าวันถ่ายทำจริงไม่เป็นลมไปเลยหรือไง...หืม” “หมอกเก็บอาการได้ รับรองไม่ทำให้ทุกคนเสียงานหรอก อีกอย่างหมอกไม่อยากให้พี่คิมรู้ด้วยว่าหมอกปลื้มพี่เขามากกกกกก”“ให้มันจริง เพราะถ้าหลุดแล้วมีใครเห็น พี่ว่ามีคนเอาเรื่องนี้ไปเล่นข่าวอีกแน่”“เล่นไม่ขึ้นหรอก เพราะพี่คิมเขาเป็นคู่จิ้นกับพี่ริต้า”“นั่นสิ ว่าแต่คืนนี้อย่าเก็บเอาพระเอกในดวงใจไปนอนฝันถึงเชียวล่ะ”“ไม่ค่ะ...ไม่เหลือ” ปลายฝนยิ้มกริ่ม แม้ชีวิตจริงเธอทำได้แค่แอบปลื้มคิมหันต์ แต่ในฝันเธอมักจะมีเรื่องดีๆ ให้ยิ้ม เพราะเธอสามารถให้เขาเป็นอะไรก็ได้ต
“ยืนห่างๆ หน่อยนะคะ ริต้าไม่ชอบเบียดใคร” นี่คือเสียงของริต้าที่แว่วเข้าหูของคิมหันต์เข้า พระเอกหนุ่มจึงหันไปมองถึงได้เห็นว่าริต้ากำลังยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับของเธอ แต่กลับยืนห่างเป็นวาคงเพราะแฟนคลับกลุ่มนั้นตัวเปียกฝนกันมาก็เป็นได้ “ฮัดชิ้ว”“กรี๊ดดด นี่กล้าดียังไงมาจามใส่หน้าริต้าแบบนี้...อี๊” เอ่ยจบริต้าก็ผลักเด็กหญิงคนหนึ่งจนเซ ยังดีที่แม่ของเด็กคนนั้นรีบเข้ามารับตัวไว้ได้ทัน ก่อนจะเอ่ยขอโทษนางเอกสาวไป“ขอโทษด้วยค่ะ พอดีน้องไม่สบายนิดหน่อยน่ะค่ะ”“ไม่สบายก็น่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน ถ้าเกิดริต้าติดเชื้อโรคขึ้นมาทำไง รับผิดชอบไหวเหรอ” ประโยคที่ดังขึ้น ทำเอาแฟนคลับหลายคนพากันอึ้งไปตามๆ กัน นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้จากนางเอกสาวลุคน่ารัก เฟรนลี่มาก่อน “แม่ต้องขอโทษแทนน้องอีกครั้งด้วยนะคะ อีกอย่างน้องก็ใส่แมสปิดปากไว้แล้ว”“แต่มันก็ยังสกปรก”“เกิดอะไรขึ้นคะ” ลูกน้ำที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาสอบถามทันที พอรู้เรื่องก็รีบแก้ต่างให้ริต้าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หารู้ไม่ว่าใจคนที่มันเสียไปแล้วการจะกู้คืนมานั้นมันยากและใช้เวลา จากแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานมาตลอดก็อาจถึงเวลาเลิกรา ทางใครทางมันริ
“ริต้า หยุดโวยวาย เกรงใจพี่แอนกับทุกคนบ้าง ลืมไปหรือไงว่าเรามาทำงานไม่ได้มาเที่ยว” คิมหันต์ที่ทนไม่ไหวเดินเข้ามาเอ็ดริต้า ที่วันนี้ทำตัวได้ไร้เหตุผลสิ้นดี “ก็ริต้าหนาว เหนื่อยแล้วก็หิวมากด้วย” แทนที่จะหยุดแต่ริต้ากลับยิ่งโวยวายเข้าไปใหญ่ จนพี่แอนผู้จัดต้องสั่งยกเลิกกอง เพราะถ่ายต่อไปก็คงไม่ได้เนื่องจากนางเอกของเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ การรับมือริต้าที่กองละครในเมืองไทยว่ายากแล้ว ยังต้องมารับนิสัยเหวี่ยงวีนถึงที่ญี่ปุ่นแบบนี้ ก็เล่นเอาถอดใจอยู่เหมือนกัน ส่วนริต้านั้นทันทีที่ได้ยินว่าเลิกกอง เธอก็ลุกขึ้นฉีกยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปทันที ลูกน้ำเลิ่กลั่กก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าข้าวของจากนั้นก็จ้ำอ้าวตามริต้าไปอีกคน “เฮ้อ! นี่คงเป็นเรื่องสุดท้ายของเราแล้วมั้งริต้า” ผู้จัดละครเอ่ยออกมาตามหลัง นั่นเพราะระอากับนิสัยและพฤติกรรมของริต้ามามากพอแล้วเช่นกัน แต่เพราะเกรงใจทำให้ปลายฝนเข้าไปสอบถามผู้จัดละคร ว่าพอจะมีฉากอะไรที่สามารถถ่ายเธอก่อนได้ไหม แต่พอเห็นร่างกายที่สั่นเทาด้วยความหนาว ปากก็เริ่มซีดของปลายฝนแล้ว ผู้จัดละครก็สั่งให้ถ่ายต่อไม่ลงเช่นกัน อีกคนไม่อยากทำงานแต่อีกคนกลับอยากทำ แถม
“ไว้ค่อยกลับไปลดที่เมืองไทย” “หวังว่าเทรนเนอร์จะไม่ดุเสียก่อน” “นั่นสิ พี่ก็ยังเสียวๆ อยู่เหมือนกัน เพราะเทรนเนอร์พี่ดุมาก หิมะตกหนักแล้ว พี่ว่าเรากลับโรงแรมกันดีกว่า” นั่นเพราะจู่ๆ หิมะก็ตกหนักขึ้นมา ขืนยังอยู่ข้างนอกกันแบบนี้ เดี๋ยวจะแย่เอา “พี่คิมกลับก่อนได้เลยค่ะ หมอกขอนั่งรอพี่เหนือตรงนี้อีกหน่อย พอดีพี่ชายหมอกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ” “งั้นพี่นั่งเป็นเพื่อน” คำตอบของคิมหันต์ทำเอาปลายฝนปลื้ม ที่พระเอกในดวงใจจะอยู่รอต้นหนาวเป็นเพื่อน แต่ถึงจะปลื้มสักแค่ไหนเธอก็แสดงออกไม่ได้ “ขอบคุณค่ะ แต่หิมะตกหนักแล้วนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ” “ค่ะ” ปลายฝนเอ่ยขอบคุณแล้วยิ้มให้เขาเหมือนปกติ โดยคิมหันต์เองก็คอยสังเกตท่าทางของเธออยู่เช่นกัน ว่าจะเสียอาการหรือแสดงสีหน้าท่าทางอะไรเป็นพิเศษกับเขาบ้างไหม แต่ผลที่ได้คือทุกอย่างยังปกติดี “พี่เหนือมานู่นแล้วค่ะ” เสียงที่ดังขึ้นช่วยดึงสติของคิมหันต์ให้กลับคืนมาเช่นกัน นั่นเพราะเขามัวแต่คิดหาเหตุผลว่าเพราะอะไรปลายฝนถึงไม่แสดงออกว่าเธอปลื้มเขาบ้าง “ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ เมื่อต้นหนาวมาถึงทั้งสามก็กลับโรงแรมด้วยวิธีการนั่งรถไฟใต้ดิน แต่เพราะเป็นชั่วโม
“พี่คิมยังไม่กลับมาอีกเหรอพี่ลูกน้ำ” น้ำเสียงตึงๆ ไม่สบอารมณ์ของริต้าเอ่ยถามขึ้น เพราะเธอให้ลูกน้ำไปเคาะห้องพักคิมหันต์หลายครั้ง แต่เขากลับไม่อยู่ โทรศัพท์ไปหาก็ไม่ยอมรับสายอีก “ยังจ้ะ” “ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่กลับมาอีกนะ” “เอ้! หรือว่าพี่คิมจะไปกับสาวญี่ปุ่น” “ไม่มีทาง ริต้ารู้นิสัยของพี่คิมดีว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร” เอ่ยจบริต้าก็มองลูกน้ำตาขวาง ที่พูดจาไม่เข้าหูให้ได้ยิน “ค่ะๆ” ลูกน้ำแอบมองบนใส่นางเอกดัง นั่นเพราะใช่ว่าเธอจะรับนิสัยของริต้าได้หมดทุกอย่าง ความหยิ่ง ความจองหองอวดดีที่มีในตอนนี้ก็เพราะความโด่งดังมากกว่า ที่สำคัญริต้าทำเงินให้เธอมากโข อดทนกับอาการเหวี่ยงวีนเพื่อเก็บเงินให้ได้สักก้อน จากนั้นเธอเองก็คงบ้ายบายเหมือนกัน “ต้องมีคนทำให้พี่คิมกลับดึกแน่ๆ” “เท่าที่พี่รู้ทีมงานกองถ่ายก็กลับกันมาหมดแล้ว จะมีก็แค่...” “หมอกกับเหนือใช่ไหมคะ” ริต้าเองก็รู้ว่าสองพี่น้องนั่นยังไม่กลับมา “ใช่ค่ะ ดีไม่ดีสามคนนั้นอาจไปด้วยกันก็ได้นะคะ” “ยายหมอก แกกล้าตีสนิทพี่คิมของฉันอย่างนั้นเหรอ” “โอ้ย! ตีสนิทไปก็คนละชั้น พี่คิมไม่สนใจยัยเด็กใจแตกที่มีแต่ข่าวฉาวไม่เลิกราแบบนั้นหรอกคะน้องริต้า”
เมื่อเริ่มรู้ใจตัวเองแบบนี้ คิมหันต์ก็พยายามทำตัวใกล้ชิดกับเธออย่างแนบเนียน ด้วยการชวนปลายฝนมาต่อบท โดยเฉพาะบทที่ต้องแสดงออกถึงความรักที่ตัวละครทั้งสองตัวมีให้กัน “ทำไมเราต้องเขินสายตาเธอด้วยวะ” คิมหันต์เอ่ยถามตัวเอง นั่นเพราะจู่ๆ เขาก็รู้สึกแบบนี้จริงๆ เขาเขินปลายฝนทั้งๆ ที่มันก็แค่การแสดงเท่านั้นเอง อีกอย่างเธอยังดูชิลล์ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นฝ่ายขัดเขินเขามากกว่า ก่อนที่คิมหันต์จะค่อยๆ ทีเล่นทีจริงถามเรื่องส่วนตัวเธอบ้าง แต่ดูเหมือนปลายฝนจะระวังตัวอยู่ไม่น้อย นั่นเพราะเธอดูเกร็งๆ ตอนคุยกับเขาบอกไม่ถูก ริต้ามองทั้งคู่ด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นว่าพวกเขาสนิทกันกว่าแต่ก่อนก็ยิ่งหงุดหงิด ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเพื่อให้คิมหันต์ไปต่อบทกับเธอ นั่นเพราะฉากต่อไปคือฉากสำคัญของเรื่อง แม้จะเคยเข้าฉากแบบนี้กับคิมหันต์มาแล้วจนรู้ใจกันดีก็เถอะ “พี่เหนือ มียาดมไหม ขอหน่อย” ปลายฝนแบมือขอยาดมจากพี่ชาย “มีๆ ว่าแต่เป็นอะไรถึงกับต้องขอยาดมพี่” “จะเป็นลม นี่แค่ต่อบทฉากธรรมดายังไม่ถึงฉากจูบ ฉากบนเตียง หมอกยังเขินเขามากขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าเย็นนี้มีฉากจูบกัน หมอกจะเป็นยังไงบ้าง” “ถ่ายจริงเขาใช้มุมกล้องน้
บทที่ 23ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องพักที่ดังขึ้นติดกันหลายครั้ง ทำให้คิมหันต์ที่นอนยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก เนื่องจากปลายฝนไม่ตอบรับไมตรีที่เขายื่นให้หยัดตัวลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปเปิดประตูจึงเห็นว่าเป็นต้นหนาว“หมอกอยู่กับพี่คิมหรือเปล่าครับ”“เปล่าครับ เราแยกกันได้สองสามชั่วโมแล้ว แต่พี่เห็นหมอกเดินตรงมาที่โรงแรมแล้วนี่นา”“แต่หมอกไม่ได้กลับมาที่ห้องครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน” ต้นหนาวเอ่ยด้วยความร้อนใจ นั่นเพราะเขาก็คิดว่าปลายฝนอาจอยู่กับคิมหันต์ จึงเดินมาถามเขา“แย่จริง ทางการเพิ่งออกประกาศว่าคืนนี้จะมีพายุหิมะด้วย” สีหน้าของคิมหันต์บ่งบอกว่าเขาเป็นห่วงปลายฝนมาก“เหนือคิดว่าหมอกคงกำลังหลงทางอีกแน่” คิ้วดกหนาของต้นหนาวขมวดเข้าหากัน เรื่องทิศเรื่องทางนี่ไว้ใจน้องสาวเขาไม่ได้เลยจริงๆ“เราจะไปตามหมอกกันที่ไหนดีครับพี่คิม”“ลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่นี่กันก่อน เสร็จแล้วเราค่อยออกไปตามหาหมอกกัน ถ้าหลงก็คงอาจอยู่ไม่ไกลจากที่นี่”“ครับๆ&
บทที่ 22“ครับ...ไหนๆ ก็อยู่ญี่ปุ่นแล้ว เลยอยากอยู่เที่ยวที่นี่อีกสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ”“อ๋อ...” ต้นหนาวร้องอ๋อเสียงยาว แม้ใจนั้นไม่อยากจะเชื่อเหตุผลที่พระเอกดังเอ่ยมาสักเท่าไหร่ก็ตาม“พี่คิมอยากไปเที่ยวที่เมืองไหนเหรอคะ” เสียงหวานของปลายฝนเอ่ยถามขึ้น“ยังไม่มีแผนเลยครับ”“อ้าว!” คนฟังสองพี่น้องถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน“เพราะพี่กะว่าจะขอติดสอยห้อยตามหมอกกับเหนือไป ไม่ทราบว่าจะรังเกียจไกด์ต่างถิ่นอย่างพี่ไหม” คิมหันต์เอ่ยบอกความต้องการไปตรงๆ“ไม่เลยครับ”“พี่เหนือ” ปลายฝนรั้งต้นแขนของพี่ชายไว้ นั่นเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะที่เธอกับคิมหันต์จะไปเที่ยวด้วยกัน ขืนมีใครเห็นคงได้เป็นข่าวอีกแน่นอน แต่ดูเหมือนต้นหนาวจะไม่สนใจท่าทางของน้องสาวเสียแล้ว“ดีเสียอีกได้พี่คิมเป็นไกด์ให้”&ldquo
บทที่ 21วันรุ่งขึ้น เป็นการถ่ายฉากสุดท้ายที่ญี่ปุ่นของริต้าและคิมหันต์ เพราะไม่ได้มีฉากต้องถ่ายทำให้วันนี้ปลายฝนและต้นหนาวพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คอยแต่ลูบแก้มตัวเองของน้องสาวที่มีมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ สร้างความสงสัยให้ต้นหนาวไม่น้อย จนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“มีความสุขอะไร ไหนเล่ามาสิ เอ้...หรือเพราะซีนนอกบทของพี่คิมเมื่อวาน”“พี่เหนือก็ อย่าแซวกันสิ” เวลานี้ปลายฝนเขินแม้กระทั่งพี่ชายของตัวเอง“อาการแบบนี้ต้องใช่แน่ๆ เล่ามาเลย มีอะไรกัน”“ไม่ได้มีอะไรกัน หมอกยังไม่ได้เสียจิ้น” ปลายฝนรีบแย้งพี่ชายด้วยประโยคทะลึ่งตึงตัง นั่นทำให้ต้นหนาวอยากดีดหน้าผากของผู้เป็นน้องเหลือเกิน“ทะลึ่ง พี่หมายถึงไปคุยอะไรกันมา”“ก็ทั่วไป แต่คือหมอกกำลังสับสน เป็นพี่เหนือพี่เหนือจะคิดยังไง”“ก็เล่ามาก่อนสิ พี่จะได้หาคำตอบให้&rdqu
บทที่ 20“จริงเหรอคะพี่แอน” ต้นหนาวที่นั่งฟังอยู่ถึงกับตาโต ส่วนปลายฝนนั้นยังไม่เก็ตจึงนั่งเงียบๆ“จริงสิ พี่พูดคำไหนคำนั้น นักแสดงนิสัยน่ารัก ฝีมือการแสดงก็ยอดเยี่ยมแบบหมอกต้องดันให้สุดตัว ไม่ดังเปรี้ยงก็ให้มันรู้ไป”“กราบขอบพระคุณมากครับพี่แอน ที่เอ็นดูหมอกจนอยากได้ไปเป็นนางเอก” ต้นหนาวยกมือไหว้ขอบคุณแอนที่เอ็นดูปลายฝนมากขนาดนี้“ถึงขั้นกราบกันเลยหรือเหนือ” ผู้จัดละครยิ้มออกมา นั่นเพราะชอบในนิสัยของทั้งคู่อยู่แล้ว“ครับพี่ ข่าวดีแบบนี้ไม่กราบไม่ได้จริงๆ” ต้นหนาวรีบรับ“หมอกจะได้เล่นเป็นนางเอกเหรอคะ” ปลายฝนที่จับต้นชนปลายได้แล้วถึงกับยิ้มกว้างออกมา“ใช่...หมอกเตรียมตัวไว้เลย พี่จะดันเราเอง”“แล้วผมจะได้เล่นเป็นพระเอกไหมครับพี่แอน” เสียงทุ้มของคิมหันต์ดังขึ้นอีกคน ปลายฝนที่นั่งประคบเย็นอยู่ถึงกับหันขวับไปมองเ
บทที่ 19“แต่ทำไมพี่ถึงมองว่าพี่คิมชวนหมอกไปเดทกันนะ”“พี่เขาไม่ได้ชอบหมอกสักหน่อย จะมาดงมาเดทด้วยทำไม”“ไม่แน่หรอก อาจจะแอบชอบอยู่ก็ได้” ต้นหนาวเอ่ยยิ้มๆ เพราะใครจะไปรู้ว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแต่ใช่ว่าจะไม่มีหวัง เพราะเขาก็เป็นผู้ชายย่อมมองอะไรออกสิ “เพ้อเจ้อแล้วพี่เหนือ”“แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งพี่คิมชวนหมอกไปเดทขึ้นมาจริงๆ หมอกจะทำยังไง”“ก็....ไปสิถามได้”“รีบตอบเชียวนะ”“รีบตอบเพราะมั่นใจว่ามันไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ”“อย่าเอาเรื่องของอนาคตมาเดาเล่นๆ น้องรัก” ต้นหนาวส่ายหน้าให้ “ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไปๆ หาอะไรกินกันเถอะ หมอกหิว”“ไปสิ” เอ่ยรับเสร็จ ต้นหนาวก็คว้าแขนน้องสาวขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ จากนั้นสองพี่น้องก็เดินออกไปหาของอร่อยๆ อุ่นๆ กินแก้หนาว ระหว่างนั่งกินอยู่นั้น จู่ๆ ต้นหนาวก็เอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้มีฉากตบกับริต้า” สีหน้าของต้นหนาวดูกังวลกับฉากนี้มากกว่าฉากที่ปลายฝนต้องเข้าฉากจูบกับคิมหันต์เสียอีก“ค่ะ” พอพูดถึงเรื่องนี้ปลายฝนก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที “ยัยนางเอกนิสัยเสียตอนซ้อมนี่ก็ตบหลอกอยู่หรอก แต่พอถ่ายจริงไม่ยั้งมือเชียว” นั่นเพราะต้นหนาวทำงานกับริต้ามาห
“จริงนะคะ” “ครับ...เหมาร้านให้เลยก็ได้อะ”“อัดเสียงทันไหมเนี่ย”“ไม่ทันครับ” คิมหันต์หัวเราะออกมา พลอยทำให้ปลายฝนหัวเราะตามไปด้วย นั่นทำให้บรรยากาศการถ่ายทำที่ค่อนข้างเครียดเปลี่ยนไปทันทีก่อนการถ่ายทำ ปลายฝนปลีกตัวไปทำสมาธิอยู่คนเดียว กระทั่งเธอพร้อมก็เดินออกมาเพื่อจะเข้าฉาก ซึ่งมันไม่มีอะไรยากสำหรับนักแสดงมากมืออาชีพ แต่สำหรับปลายฝนมันยากและยากยิ่งกว่าเพราะต้องถ่ายทำกับคิมหันต์ ในฉากเธอต้องใส่ชุดนอนเบาบางแล้วเดินไปปลุกปล้ำคิมหันต์ที่กำลังนอนอยู่ เพื่อปลุกชายหนุ่มให้ตื่นไปทำงาน แต่ทว่าสุดท้ายเขาก็จะคว้าเธอเข้าไปกอดและเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกัน จากนั้นเธอกับเขาก็จะทำตามที่ซักซ้อมกันมาคือส่งเสียงรวมถึงตีผ้าห่มให้มันเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ภายใน“น้องหมอกพร้อมแล้วค่ะพี่สันต์” ต้นหนาวรีบเข้ามาบอกผู้กำกับเมื่อน้องสาวบอกว่าพร้อมถ่ายแล้ว จากนั้นทุกคนก็เข้าที่รวมไปถึงคิมหันต์เองก็ด้วยพอเห็นปลายฝนเดินเข้ามา ผู้กำกับก็ส่งสัญญาณความพร้อม นับห้า สี่ สาม สอง หลังคำว่าแอคชั่นกล้องก็จับไปที่ปลายฝนทันทีร่างบอบบางสมส่วนของปลายฝนที่เวลานี้อยู่ในชุดแสนวาบหวิวเดินตรงไปยังเตียงกว้าง เธอเม้มริมฝีปาก
ผู้จัดและผู้กำกับละครต่างมองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างพร้อมเพรียง นั่นเพราะพวกเขาต่างรับรู้ถึงความลำบากใจที่เกิดขึ้น ส่วนคิมหันต์ที่รู้เรื่องนี้เข้าก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่ก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ทีมงานมากไปกว่าที่เป็นอยู่ การเพิ่มบทมันค่อนข้างละเอียด คนหนึ่งให้เพิ่มบท แต่ทว่าอีกคนกลับคิดสวนทางกัน นั่นเพราะปลายฝนอยากให้ตัดฉากจูบระหว่างเธอกับคิมหันต์ออกบ้าง เพราะคิดว่ามันมีเยอะเกินไป แต่ทว่ากลับไม่มีใครทำตามที่เธอขอ “สติ สติ” ปลายฝนบอกตัวเอง เธอพยายามตัดความสับสนและรู้สึกวาบหวามยามได้สบตากับคิมหันต์ออกไป เวลางานเธอตั้งใจทำจนสำเร็จ แต่เมื่อไหร่ที่อยู่นอกเหนือเวลางาน เขาก็มักจะทำให้เธอหวั่นไหวอยู่เสมอๆ และยิ่งหวั่นไหว เพราะได้ทำงานด้วยกัน แถมยังเดินทางมาถ่ายทำถึงญี่ปุ่นแบบนี้ ความลำบากจากอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เธอได้เห็นตัวตนของคิมหันต์ ว่าเขานั้นเป็นคนมีน้ำใจและคอยห่วงคนอื่นเสมอๆ เขาไม่ได้ดูหยิ่งและที่สำคัญเขาเป็นแค่คู่จิ้นในจอกับริต้าจริงๆ เพราะนอกจอคิมหันต์แทบไม่คุยกับริต้าด้วยซ้ำ ยิ่งหวนคิดถึงตอนที่เขาเข้าไปช่วยเธอตอนหลงทางไว้ ยิ่งทำให้เขาดูเท่ห์ขึ้นอีกหลาย
“อิจอะไร” เพราะสงสัยคำพูดของพี่ชาย ทำให้ปลายฝนเงยหน้าขึ้นมามอง “อิจฉาคนได้จูบกับพระเอกในดวงใจ” “บ้า! ก็แค่จูบในงานเถอะ” แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ใบหน้าสวยของปลายฝนก็ยังคงร้อนผ่าวไม่หยุด “แต่จูบนั่นก็ของจริงนะจ้ะ แล้วจูบแรกเป็นไง ไหนอธิบายความรู้สึกให้พี่ฟังหน่อยสิ” ต้นหนาวยิ้มกริ่มขณะรอฟัง นั่นเพราะแค่เห็นเธอก็ฟินแทนปลายฝนแล้ว “มันดีอ่ะ ดีมาก โอ้ยยยย เขิน” ใบหน้าของปลายฝนเวลานี้ยิ่งแดงก่ำเพราะความเขินอายที่มีล้นหัวใจเข้าไปอีก ดีหน่อยที่จบฉากจูบก็เลิกกอง ไม่อย่างนั้นเธอคงตำตัวลำบากกว่านี้แน่ “แต่หมอกเก่งมากนะที่เก็บอาการอยู่” “ก็เกือบแย่เอาเหมือนกัน นี่พี่เหนือลองจับดู” เอ่ยจบปลายฝนก็คว้ามือพี่ชายมาวางบนอกข้างซ้าย ตรงกับตำแหน่งของหัวใจที่ตอนนี้ยังเต้นไม่ได้จังหวะ “พักๆ เดี๋ยวหัวใจจะวายตายเอาเสียก่อน” “ค่ะ” ปลายฝนยิ้มกว้าง ก่อนจะซุกหน้ากับหมอนอีกครั้ง จากนั้นก็กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง ต้นหนาวส่ายหน้าให้น้องสาว แต่ก็อดชื่นชมในความเก่งของปลายฝนไม่ได้จริงๆ แบบนี้อนาคตในวงการบันเทิงต้องไกลมากแน่ๆ แต่ว่าปลายฝนเท่านั้นที่ใจเต้นแรง เพราะคิมหันต์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่ ฉา
แต่เพราะใช้มุมกล้องทำให้ฟิลลิ่งของคู่รักที่รักกันมาก ขนาดยอมแลกได้ด้วยชีวิตไม่สมจริงหรือเพราะปลายฝนยังคงใหม่กับฉากทำนองนี้ ทำให้ทุกอย่างดูแข็งทื่อไปเสียหมด จนทางผู้จัดและผู้กำกับต้องสั่งคัตเพื่อเริ่มถ่ายทำกันใหม่ เทคแรกไม่ผ่าน เทคสองสามสี่ก็ยังไม่ผ่าน นั่นยิ่งเพิ่มความกดดันให้ปลายฝนเข้าไปอีก เพราะเธอทำให้ทุกคนต้องลำบากท่ามกลางอากาศที่กำลังติดลบ ยิ่งดึกที่นี่ก็ยิ่งหนาวจนจับขั้วหัวใจ “คิมกับน้องหมอกคิดยังไง ถ้าเกิดว่าฉากนี้คงต้องให้ทั้งสองคนจูบกันจริงๆ” ผู้กำกับเอ่ยถามกับนักแสดงทั้งสองคนขึ้น นั่นทำเอาปลายฝนถึงกับอุทานออกมาพร้อมตาโตเป็นไข่ห่าน “เอ้!” “พี่ว่ามุมกล้องมันไม่โอเค” สีหน้าของผู้กำกับเต็มไปด้วยความกังวล นั่นเพราะรู้กฎของคิมหันต์ดีรวมถึงไม่อยากให้ปลายฝนรู้สึกอึดอัดไปด้วย “เอ่อ” ปลายฝนอ้ำๆ อึ้งๆ นั่นเพราะเธอเองก็เคยตั้งกฎไว้ ว่าจะไม่ยอมแสดงฉากจูบจริงกับใครทั้งนั้นเช่นกัน “ได้ไหมน้องหมอก เพราะถ้ายังถ่ายไม่ได้พี่ว่าเราแย่แน่” “เอ่อ...ดะ...ได้ค่ะ” น้ำเสียงสั่นๆ ของเธอเอ่ยรับ เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน อย่างน้อยถ้าถ่ายฉากนี้ผ่านทุกคนก็จะได้พักกันเสียที อีกอย่างที่ตอบรับไ