ในขณะที่ริต้าเป๊ะเรื่องงานราวกับเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ปลายฝนเองก็ต้องพยายามให้หนักขึ้นเช่นกัน นั่นเพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกๆ คน เธออาศัยความตั้งใจ พยายามฝึกฝนเพื่อให้ตัวเองทำงานได้ง่ายขึ้น การถ่ายทำละครพีเรียดเรื่องแรกของเธอดำเนินไปในทุกๆ วัน แต่ยิ่งใกล้ปิดกล้องกลับมีข่าวให้ปลายฝนต้องเสียสมาธิอยู่บ่อยๆ และดูเหมือนไม่ใช่เธอคนเดียวที่ไม่ชอบใจข่าวนี้ “เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังขึ้น ไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงโยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ นั่นทำลายความเงียบสงบจนหญิงสาวหนึ่งเดียวที่นั่งอ่านบทอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนโยนซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น พี่ชายแท้ๆ ของเธอนั่นเอง ส่วนคนโยนเวลานี้ทิ้งน้ำหนักลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มเต็มแรง จนโซฟาเนื้อดีราคาเหยียบแสนยวบลงไปอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก สีหน้าและท่าทางก็บ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“เป็นอะไรพี่เหนือ” เสียงสดใสเอ่ยถามพี่ชายคนเดียว ต้นหนาวกลับเมินใส่ผู้เป็นน้อง แต่แค่ไม่นานก็ยอมเอ่ยตอบ “ลองอ่านข่าวพวกนั้นดูสิ” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยบอก ชื่อต้นหนาวแม่เป็นคนตั้งรวมไปถึงชื่อเล่นว่าเหนือก็ด้วย เพราะแม่ท้องพี่ชายเธอตอนไปเที่ยวภาคเหนือพอดี“ว้าว! ไม่อยากเชื่อว
ผลจากข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้ปลายฝนคิดอยากจะลาวงการอยู่บ่อยครั้ง แต่หากออกไปจากวงการบันเทิงแล้วเธอจะไปทำอาชีพอะไร ปลายฝนก็ยังมืดแปดด้านเช่นกัน ตอนนี้จึงทนทำงานเก็บเงินไว้ในบัญชีให้มากอีกสักหน่อย เพราะบ้านหลังนี้ก็ซื้อด้วยเงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของเธอ รถสองคันที่จอดอยู่หน้าบ้านนั่นก็ด้วย ถ้าเวลานี้พ่อกับแม่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็คงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่น้อย คิดแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นปลายฝนสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ นั่นเพราะชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์คือชื่อของคุณธิดา เลขาส่วนตัวของเจ้านายเธอนั่นเอง“สวัสดีค่ะพี่ธิดา”“สวัสดีค่ะน้องหมอก” น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายกลับมานั้นบ่งบอกถึงความเอ็นดูได้เป็นอย่างดี นั่นเพราะในฐานะเลขาส่วนตัวของเจ้านายใหญ่ ธิดาจึงได้พบปลายฝนบ่อยและนั่นทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของปลายฝนมากกว่าใครเช่นกัน หญิงสาวผู้ซึ่งรับบทร้ายในละครจนดังเปรี้ยงมาหลายต่อหลายเรื่อง แต่ใครเลยจะรู้ว่าชีวิตจริงของปลายฝนนั้นต่างกันคนละขั้วกับเรื่องงาน “นายเห็นข่าวนั่นแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะ”“อารมณ์นายเป็นยังไงบ้างคะพี่ธิดา” เพ
“อ้อ...พอดีฉันมากับพี่ชายนะคะ เขาชอบกินขนมพวกนี้” ปลายฝนแก้ต่างให้ตัวเอง พร้อมส่งยิ้มแห้งๆ ให้ชายตรงหน้า “แต่ถ้าให้ดี เหลือแซนวิชให้ผมสักชิ้นก็ได้นะครับ”“ได้ค่ะ” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มให้เขา จากนั้นก็เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อให้พนักงานที่เวลานี้เสียอาการมากกว่าเธอได้คิดเงิน แต่กว่าที่พนักงานหญิงคนดังกล่าวจะดึงสติกลับมาทำงานได้ก็ยืนสตั้นอยู่หลายนาที ผิดกับปลายฝนที่ยังคงไม่แสดงอาการใดๆ ราวกับไม่รับรู้ถึงความโด่งดังของคิมหันต์แม้แต่น้อย นั่นทำให้พระเอกหนุ่มเสียเซลฟ์ไปอยู่เหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะมีคนเฉยชาใส่เขาแบบนี้มาก่อน จนอยากจะถามออกไปว่าเธอรู้จักเขาไหม หรือเคยเห็นเขาผ่านทีวีบ้างหรือเปล่า“ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ”“ได้ครับได้” คิมหันต์เอ่ยตอบรับแฟนคลับ ที่พอรู้ว่าเขาอยู่ในร้านก็กรูกันเข้ามาขอถ่ายรูปและขอลายเซ็น ปลายฝนอาศัยจังหวะนั้นปลีกตัวออกไปหาพี่ชายที่นั่งอยู่อีกมุม ซึ่งเป็นมุมที่ไพรเวทของร้านจึงอยู่ไกลเสียหน่อย“พี่เหนือ”“ไปสั่งเค้กหรือไปเจอเสือมานั่น ทำไมหน้าตาตื่นเชียวน้องสาว” ต้นหนาวตกใจที่เห็นหน้าของปลายฝนดูตื่นตระหนกแบบนั้น “หมอกเจอพี่คิม”“พี่คิม คิมหันต์นะเหรอ” คราวนี้คนที
“พี่คิมรู้แล้วใช่ไหม ว่าละครฟอร์มยักษ์ของช่อง เราสองคนได้เป็นพระเอกนางเอก”“ทราบแล้วครับ”“เรื่องนี้มีคิวไปถ่ายกันถึงญี่ปุ่นด้วยนะคะ”“ครับ”“ริต้าอยากไปเร็วๆ จัง” ริต้ายิ้มกว้างให้ชายหนุ่ม กระทั่งสายตามองไปเห็นอิงอร แม่ของคิมหันต์เปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามา เธอจึงยกมือไหว้พร้อมเอ่ยทักทายเสียงสดใส พลอยทำให้อีกหลายคนที่ถูกนางเอกสาวเมินใส่ก่อนหน้านี้ออกอาการงุนงงไม่น้อย แต่ก็ได้แค่เจียมตัวว่าช่างแต่งหน้าทำผมแม่บ้านอย่างพวกเธอหรือจะสำคัญ “สวัสดีค่ะป้าอร”“สวัสดีจ้ะหนูริต้า” อิงอรที่วันนี้มาเป็นเพื่อนลูกชายทำงานส่งยิ้มให้ริต้า ที่เธอเอ็นดูเหมือนลูกคนหนึ่ง “ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว ป้าอรดูสวยขึ้นนะคะ” คำชมจากริต้าถึงกับทำให้อิงอรนั้นยิ้มกว้างออกมา “ปากหวาน ชมคนแก่ให้ตัวลอยแต่เช้า”“ริต้าพูดเรื่องจริง ใช่ไหมคะพี่ลูกน้ำ” ริต้าหันมาถามลูกคู่ ที่ดูจะเออออไปด้วยเสียทุกอย่าง “ใช่ค่ะ...คุณป้าอรสวยมากจริงๆ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใสขึ้นนะคะ”“คงต้องขอบคุณตาคิมเขา ที่ชอบสรรหาของบำรุงมาให้ป้ากินบ่อยๆ ไม่กินก็ตื้อให้ป้ากินอยู่นั่นแหละ” อิงอรโยนความดีความชอบให้ลูกชายรับแทน “ริต้าชอบจัง ผู้ชายที่ดูแล
“ก็เป็นอย่างที่ริต้าบอก ว่าเขาชอบแหวนน่ารักๆ พวกนี้ ผมเห็นก็เลยนึกถึงเลยซื้อมาฝาก เหมือนพี่ซื้อให้น้องทั่วไป ไม่มีอะไรครับ” ประโยคแรกๆ ของคิมหันต์ถึงกับทำให้ริต้ายิ้มกว้าง แต่ทันทีที่ได้ยินประโยคท้ายๆ รอยยิ้มของเธอก็ลดลงไปเล็กน้อย ความที่เธอเป็นนักแสดงมืออาชีพจึงไม่มีใครจับพิรุธได้ “แต่ถ้ามีอะไรก็รีบแจ้งพวกพี่ๆ นะคะ จะได้แสดงความยินดีกัน”“ค่ะ” ริต้าเอ่ยรับ จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้ามายุติการสัมภาษณ์ลง เธอกับคิมหันต์จึงถือโอกาสนั้นไหว้ขอบคุณทุกๆ คนแล้วกลับเข้าห้องพัก แม้จะไม่พอใจที่คิมหันต์พูดหักหน้าตัวเอง แต่ริต้าก็เก็บอาการไม่งอแงให้ชายหนุ่มได้เห็น นั่นเพราะเธอขอให้คิมหันต์ซื้อแหวนวงนี้ให้ต่างหาก ปล่อยให้เรื่องแหวนเลยตามเลยไม่ได้เอ่ยถึงอีก ซึ่งหลังจากอัดรายการเสร็จ แทนที่จะได้กลับไปพักผ่อน แต่คิมหันต์กลับต้องพาแม่ไปทานอาหารกับโสภาเพื่อนสนิท ซึ่งก็คือแม่ของริต้านั่นเอง กว่าจะได้แยกย้ายก็กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมง คิมหันต์กลับไปส่งแม่ที่บ้านจากนั้นเขาก็ตรงไปฟิตเนสทันที แต่ระหว่างที่กำลังเตรียมตัวก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็ใส่รายละเอียดสิ่งที่อยากรู้ลงไป
เช้าวันฟิตติ้งก็มาถึง ทุกอย่างดูรีบเร่งไปเสียหมดก็เพราะกว่าจะได้คิวพระนางเรื่องนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ นั่นเอง เช้านี้ริต้าก็ยังคงสวยในชุดเดรสจากห้องเสื้อชื่อดัง เธอแต่งตัวได้สวยสมเป็นนางเอกแถวหน้า ในขณะที่คิมหันต์นั้นมาด้วยลุคสบายๆ ไม่เป็นทางการ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาได้คงเพราะทั้งคู่มารถคันเดียวกัน แต่ก็มีคุณแม่ของทั้งสองนั่งมากันซีนด้วย นั่นก็เพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นข่าวเรื่องชู้สาวไปมากกว่านี้ แม้ลึกๆ แม่ๆ อยากให้ลูกๆ ของพวกเขาคบหากันใจจะขาด นั่นเพราะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นใครเหมาะเท่านี้อีกแล้ว“ทางนี้เลยค่ะน้องหมอก” หนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นปลายฝันเดินเข้ามาในสตูดิโอ ซึ่งวันนี้เธอเองก็แต่งตัวสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงเข้ารูป รองเท้าผ้าใบแต่กลับดูเฉี่ยวน่ามอง“สวัสดีค่ะ” ปลายฝนยกมือไหว้ทีมงานทุกคนก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้แต่แม่บ้าน เมื่อเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเธอก็มองเห็นริต้าก่อน ปลายฝนจึงยกมือไหว้แต่ริต้าที่นั่งไขว่ห้างให้ช่างแต่งหน้าอยู่กลับทำเพียงพยักหน้าให้กลับมา และคนถัดมาที่ปลายฝนเห็นคือคิมหันต์ เธอยกมือไหว้เขาเช่นกัน ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ยกมือรับไหว้ปลายฝนกลับมาเช่นเดียวกัน จากนั้นผู้จัดละค
“กรี๊ดดดด พี่เหนือๆ ตอนนี้มือหมอกเย็นไปหมดแล้วเนี่ย” ทันทีที่เสร็จงานแล้วเข้ามานั่งในรถบ้านส่วนตัวได้ ปลายฝนก็กรี๊ดออกมาอย่างสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป นั่นเพราะตลอดการฟิตติ้งวันนี้เธอเก็บอาการปลื้มและตื่นเต้นตอนได้ทำงานกับคิมหันต์ไว้อย่างถึงที่สุด“พี่ว่าแล้วเชียว ว่าเราต้องกรี๊ด” ต้นหนาวยิ้มออกมา เพราะถ้าเป็นเขาก็คงเสียอาการมากแน่ๆ ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับดาราในดวงใจขนาดนั้น “มันทั้งประหม่า ทั้งตื่นเต้น ทั้งเกรงใจ แล้วก็ฟิน” สีหน้าของปลายฝนพริ้มดูมีความสุขมากเวอร์ “นี่แค่วันฟิตติ้งเรายังเสียอาการ ถ้าวันถ่ายทำจริงไม่เป็นลมไปเลยหรือไง...หืม” “หมอกเก็บอาการได้ รับรองไม่ทำให้ทุกคนเสียงานหรอก อีกอย่างหมอกไม่อยากให้พี่คิมรู้ด้วยว่าหมอกปลื้มพี่เขามากกกกกก”“ให้มันจริง เพราะถ้าหลุดแล้วมีใครเห็น พี่ว่ามีคนเอาเรื่องนี้ไปเล่นข่าวอีกแน่”“เล่นไม่ขึ้นหรอก เพราะพี่คิมเขาเป็นคู่จิ้นกับพี่ริต้า”“นั่นสิ ว่าแต่คืนนี้อย่าเก็บเอาพระเอกในดวงใจไปนอนฝันถึงเชียวล่ะ”“ไม่ค่ะ...ไม่เหลือ” ปลายฝนยิ้มกริ่ม แม้ชีวิตจริงเธอทำได้แค่แอบปลื้มคิมหันต์ แต่ในฝันเธอมักจะมีเรื่องดีๆ ให้ยิ้ม เพราะเธอสามารถให้เขาเป็นอะไรก็ได้ต
“ยืนห่างๆ หน่อยนะคะ ริต้าไม่ชอบเบียดใคร” นี่คือเสียงของริต้าที่แว่วเข้าหูของคิมหันต์เข้า พระเอกหนุ่มจึงหันไปมองถึงได้เห็นว่าริต้ากำลังยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับของเธอ แต่กลับยืนห่างเป็นวาคงเพราะแฟนคลับกลุ่มนั้นตัวเปียกฝนกันมาก็เป็นได้ “ฮัดชิ้ว”“กรี๊ดดด นี่กล้าดียังไงมาจามใส่หน้าริต้าแบบนี้...อี๊” เอ่ยจบริต้าก็ผลักเด็กหญิงคนหนึ่งจนเซ ยังดีที่แม่ของเด็กคนนั้นรีบเข้ามารับตัวไว้ได้ทัน ก่อนจะเอ่ยขอโทษนางเอกสาวไป“ขอโทษด้วยค่ะ พอดีน้องไม่สบายนิดหน่อยน่ะค่ะ”“ไม่สบายก็น่าจะพักผ่อนอยู่บ้าน ถ้าเกิดริต้าติดเชื้อโรคขึ้นมาทำไง รับผิดชอบไหวเหรอ” ประโยคที่ดังขึ้น ทำเอาแฟนคลับหลายคนพากันอึ้งไปตามๆ กัน นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้จากนางเอกสาวลุคน่ารัก เฟรนลี่มาก่อน “แม่ต้องขอโทษแทนน้องอีกครั้งด้วยนะคะ อีกอย่างน้องก็ใส่แมสปิดปากไว้แล้ว”“แต่มันก็ยังสกปรก”“เกิดอะไรขึ้นคะ” ลูกน้ำที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาสอบถามทันที พอรู้เรื่องก็รีบแก้ต่างให้ริต้าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หารู้ไม่ว่าใจคนที่มันเสียไปแล้วการจะกู้คืนมานั้นมันยากและใช้เวลา จากแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานมาตลอดก็อาจถึงเวลาเลิกรา ทางใครทางมันริ
บทที่ 46“พี่คิม ไม่เอาแบบนั้นนะคะ เดี๋ยวคอหมอกเป็นรอย...อา...” น้ำเสียงกระเส่าของปลายฝนเอ่ยห้ามขึ้น นั่นเพราะเวลานี้คิมหันต์กำลังฝังจูบหนักๆ ตรงซอกคอของเธอพระเอกหนุ่มยอมถอนจูบออก แต่ไม่หยุดปลุกเร้าอารมณ์ของปลายฝนให้ลุกโชน เพราะจุดต่อไปที่เขาฝ้าจูบเฝ้าสัมผัสคือปากอิ่มและหน้าอกคู่สวยของเธอ ที่เวลานี้กำลังตั้งชันรับมือ“เข้าบ้านพี่กันเถอะ” เสียงกระเส่ากระซิบบอก นั่นเพราะวันนี้เขาอยู่บ้านคนเดียว“ไม่เอาค่ะ”“ชอบในรถเหรอครับ”“ขะ...ค่ะ” ปลายฝนเอ่ยรับอย่างไม่อิดออด ทั้งๆ ที่อายสายตาที่คิมหันต์ส่งมาจนร้อนผ่าวไปทั้งตัวแล้วก็ตาม“พี่ก็ชอบ” เอ่ยจบคิมหันต์ก็จูบปากอิ่มของปลายฝนอีกครั้ง พร้อมกับส่งลิ้นเข้าไปหยอกเย้ากับปลายลิ้นเล็กๆ ของเธออย่างช่ำชอง รวมทั้งบดเบียดร่างกายเข้าหา ในขณะที่มือข้างหนึ่งบีบคลึงหน้าอกของปลายฝนไปด้วย ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาใช้ปากแทน&ldqu
บทที่ 45“ขอบคุณค่ะ” ทั้งคิมหันต์และปลายฝนเอ่ยรับออกมา ก่อนจะยกมือไหว้ทุกๆ คนที่รับฟังและเข้าใจพวกเขา หลังจากเข้าพบผู้ใหญ่และปรึกษากันว่าควรทำยังไงสุดท้ายจึงมีการแถลงข่าวเกิดขึ้น โดยคิมหันต์อาสารับหน้าที่ตอบคำถามนักข่าวคนเดียว แม้คำถามแรกจะรุนแรงเจาะจงแบบไม่ถนอมน้ำใจคนฟัง แต่คิมหันต์ก็อาศัยความสุขุมค่อยๆ ตอบคำถามอย่างจริงใจ ค่อยๆ อธิบายว่าอะไรเป็นอะไร โดยแทบไม่พาดพิงริต้าเลยด้วยซ้ำรวมถึงขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเขาและขอโอกาสให้เขาได้รักกับปลายฝน เพราะเธอทำให้โลกใบนี้ของเขาสดใสขึ้น ส่วนริต้าคือพี่น้องที่เขาพร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือเธอเสมอหลังจบการสัมภาษณ์ ความจริงใจจากคิมหันต์ทำให้กระแสข่าวด้านลบที่เกิดขึ้นค่อยๆ เบาลงไป รวมถึงมีคนปล่อยคลิปของปลายฝน ที่แอบถ่ายไว้ว่าเธอนั้นเอาใจใส่แฟนคลับและทุกคนรอบข้างมากขนาดไหน บุคลิกจริงกับบทบาทในละครที่ได้รับแต่บทนางร้ายมันต่างกันคนละขั้ว พวกที่ชอบใส่ร้ายเธอก็กำลังถูกทนายส่วนตัวปลายฝนจัดการอย่างเงียบๆ บางคนกลัวติดคุกถึงกับวิ่งโร่มาขอโทษและส
บทที่ 44ริต้าทำตามที่แม่สั่งทุกอย่าง เพราะลึกๆ แล้วเธอก็อยากทำลายความรักของคิมหันต์และปลายฝนเช่นกัน ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดมาจากทางเธอแทบทั้งนั้น ที่ต้องการได้เขามาเป็นพ่อของลูกในท้อง ถ้าเธอจะพังก็ขอพ่วงคนอื่นให้พังไปด้วยสิเปิดฉากแถลงข่าวมาเธอก็นั่งร้องห่มร้องไห้ ก่อนจะแจ้งนักข่าวว่าตอนนี้ได้ยกเลิกการหมั้นหมายกับคิมหันต์แล้ว โดยมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งริต้าบอกเพียงอักษรย่อให้ทราบเท่านั้นว่าเป็นใคร“หมอกเหรอ ต้องใช่หมอกแน่ๆ”บรรดานักข่าวต่างหันมาซุบซิบกัน ซึ่งทุกอย่างมันมุ่งตรงไปที่ปลายฝน ริต้ายังใส่ไฟว่ามือที่สามคนนี้เป็นนางร้ายทั้งในจอและนอกจอ เธอเข้ามาเพื่อแย่งคิมหันต์จนทำให้ความรักครั้งนี้ของเธอล่มไม่เป็นท่า เธอเสียใจแต่ก็ต้องถอยหลังออกมา จะได้เจ็บให้น้อยที่สุดแต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดอีกลูก ด้วยการส่งรูปลับของคิมหันต์และปลายฝนให้นักข่าวทุกคนได้เห็น ว่าเธอมีหลักฐานแน่ชัดว่าทั้งคู่สวมเขาให้เธอ“หลังจากนี้ริต้าคงต้องขอพักงานใ
บทที่ 43“คิมพูดว่าอะไรนะ” โสภาเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ ริต้าเองก็ด้วย เธอตะคอกใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงใจ แม้จะมีมารดาของเขานั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยก็ตาม“นั่นนะสิค่ะ พี่คิมรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา”“ผมยังแต่งงานกับริต้าตอนนี้ไม่ได้จริงๆ ครับคุณป้า” คิมหันต์มองตรงมายังโสภา“ทำไมถึงยังไม่ได้”“ผมคิดว่าทุกอย่างมันเร็วเกินไป”“ช้าไปเสียด้วยซ้ำ รู้ไหมว่าตอนนี้ริต้าเสียหายมากแค่ไหนแล้ว ลูกสาวป้าเอาชื่อเสียงมาแลกเพื่อช่วยคิม แต่ดูสิ่งที่คิมตอบแทนมาสิ มันสมควรแล้วเหรอ”“ผมขอโทษครับ”“เธอสอนลูกยังไงอร ทำไมถึงร้ายกาจขนาดนี้ ฉันล่ะผิดหวังกับเธอจริงๆ อุตส่าห์เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน” โสภาสะบัดหน้าใส่อิงอร ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน“ฉันถืออคติปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน”&ldq
บทที่ 42อุปสรรคที่กำลังเข้ามา มันยิ่งทำให้คิมหันต์รักปลายฝนมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคิมหันต์ก็คงไม่ปล่อยเธอให้หลุดมือไปอย่างแน่นอนจูบหวานๆ ของทั้งสองคนเกิดขึ้นอยู่นานหลายนาที ก่อนที่จะหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน และคนที่กำลังก้าวเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่น“พี่เหนือ หายไปไหนมาทั้งวัน หมอกโทรไปก็ไม่รับ เป็นห่วงมากรู้ไหม” ทันทีที่เห็นพี่ชายกลับมาบ้าน ปลายฝนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วก็รีบถามขึ้นเป็นชุด“พี่ขอโทษนะหมอก พี่คิม” ต้นหนาวมองไปยังน้องสาวและคิมหันต์สลับกันอยู่แบบนี้ นั่นจริงทำให้ทั้งคู่สงสัยว่าต้นหนาวเป็นอะไร“อะไร จู่ๆ มาขอโทษหมอกทำไม”“นั่นสิเหนือ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” คิมหันต์เอ่ยถามขึ้นเช่นกัน“พี่ริต้าใช้รูปใบนั้นบังคับให้พี่คิมหมั้นด้วยใช่ไหมครับ” คำถามดังขึ้นจากต้นหนาว คิมหันต์เข้าใจได้ทันที ผิดกับปลายฝนที่ยังสับสนอยู่
บทที่ 41พอเห็นว่าในมือของต้นหนาวมีปืน อิริคที่กลัวตายถึงกับลงไปนั่งคุกเข่าวิงวอนขอชีวิตจากต้นหนาว ไม่เหลือเค้าความเท่ใดๆ อีกแล้ว จากนั้นก็สารภาพทุกอย่างว่าเขาถูกริต้าส่งมาเพื่อให้ล้วงความลับเกี่ยวกับคิมหันต์และปลายฝน ว่าทั้งสองคนมีอะไรในก่อไผ่หรือไม่ เพราะพยายามสืบทางอื่นแล้วไม่ได้ผลและคืนนั้นที่ชะอำ อิริคก็ได้หลักฐานเด็ดมากจากรูปในโทรศัพท์ของต้นหนาว โดยเขาอาศัยจังหวะที่ต้นหนาวหลับเพราะถูกวางยานอนหลับไปในแก้วแชมเปญ เอาโทรศัพท์ไปให้ร้านซ่อมปลดล็อคหน้าจอเพื่อค้นดูข้อมูล เมื่อได้สิ่งที่ต้องการมาแล้วก็รีบกลับมายังห้องพัก จงใจโยนโทรศัพท์ของต้นหนาวลงสระน้ำ เพื่อทำให้มันพังจะได้ส่งซ่อม“สารเลว” ต้นหนาวกัดฟันกรอดๆ ทั้งโกรธริต้า อิริคและตัวเอง ถ้าเขาไม่มัวแต่หลงว่านี่คือรักแท้ที่ฟ้าประทานให้คงมองเห็นว่าอะไรเป็นอะไร และไอ้รูปบ้าๆ นั่นก็น่าจะลบมันทิ้งไปเสียตั้งนานแล้ว“ผมขอโทษ”“เก็บคำขอโทษที่เปล่าประโยชน์ของคุณ ไปพูดกับยมทูตซะ” เวลานี้คำขอโทษจากอิริคมันช่างไร้ค่าสำหรับต้นหนาวเหลือเกิน“คุณจะฆ่าผมได้ล
บทที่ 40“มีไว้เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองน่ะค่ะ”“ดีแล้วจ้ะ...จริงสิพี่ยังไม่ได้ฟังคำยินดีจากหมอกเลยนี่นา อวยพรให้ความรักของพี่กับพี่คิมหน่อยสิ”“หมอกยินดีด้วยและขอให้พี่ริต้ากับพี่คิมรักกันไปนานๆ ค่ะ” เอ่ยจบปลายฝนก็ยิ้มให้ ราวกับนี่คือเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอ ยิ่งเห็นเธอยิ้มได้แบบนี้ริต้าก็ยิ่งไม่พอใจ“ขอบใจมากจ้ะ”“งั้นหมอกขอตัวก่อนนะคะ”“คนอย่างเธอไม่มีวันแย่งพี่คิมไปจากฉันได้หรอก” จังหวะที่ปลายฝนกำลังจะเดินผ่านริต้าไป นางเอกสาวก็เอ่ยขึ้นเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน“ค่ะ”“ฉันรักพี่คิมมานานและหากฉันไม่ได้เขามา คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้” เอ่ยจบริต้าก็ก้าวเดินไปโดยใช้หัวไหล่กระแทกเข้ากับหัวไหล่ของปลายฝนอย่างแรง จนทำให้เธอเซแต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะยังไม่ทันที่ปลายฝนจะได้เดินไปไหน นักข่าวมากมายก็กรูกันเข้ามารุมสัมภาษณ์เธอ โดยคนที่พามาก็ไม่ใช่ใครอื่น...ริต้านั่นเองที่สำคัญวันนี้ต้นหนาวไม่ได้มาทำงานด้วย เพราะมีเรื่องด่วนขอ
บทที่ 39ในขณะที่ปลายฝนเองก็กำลังทรมานเพราะความเจ็บที่มันพุ่งปรี๊ดขึ้นจนอยากร้องไห้ แต่เพราะรักทำให้ปลายฝนเลือกที่จะไม่เอ่ยคำว่าเจ็บออกไป ถึงอย่างนั้นคิมหันต์ก็รู้ว่าเขากำลังทำให้เธอเจ็บ รวมไปถึงรับรู้ด้วยว่าเขาคือคนแรกของเธอปลายฝนรับรู้การมีตัวตนของคิมหันต์ รับรู้ถึงสิ่งนั้นที่กำลังฝากฝังอยู่ในร่างกายของเธอ มันร้อนราวกับไฟ มันมีชีวิตเพราะกำลังเต้นตุบๆ จนเธอสัมผัสได้“พะ...พี่คิม” ใบหน้าของปลายฝนตอนนี้ช่างน่าสงสารแต่ก็น่ามองเพราะมันดูเซ็กซี่เหลือเกิน คิมหันต์ตัดสินใจหยุดการเคลื่อนไหวก่อนชั่วคราวทั้งๆ ที่เขาพึ่งส่งแกนกายรุกล้ำเข้าไปภายในร่างกายของปลายฝนแค่นิดเดียว นั่นก็เพื่อให้ปลายฝนเคยชินและลดอาการต่อต้าน แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งแย่ เพราะเมื่อเขาหยุดปลายฝนกลับเคลื่อนไหว“หมอกจ๋า...อา” คิมหันต์เอ่ยเรียกปลายฝน สีหน้าของชายหนุ่มเวลานี้บ่งบอกว่าเขาเองก็กำลังทรมาน ปลายฝนเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาเลย“อร๊ายยย” เธอกรีด
บทที่ 38อ้อมกอดของคิมหันต์ทำให้ปลายฝนอบอุ่นขึ้นได้มาก รวมไปถึงรสจูบหวานๆ แต่ทว่าช่างยั่วยวนที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้เองก็ด้วยเช่นกัน เพราะรักทำให้เธอเต็มใจให้เขาจูบและเต็มใจรับจูบจากเขา รวมไปถึงเต็มใจให้เขาได้กลืนกิน“ถ้าพี่เริ่ม พี่จะหยุดตัวเองไม่ได้” เสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาของคิมหันต์กระซิบบอกข้างหูของปลายฝน นั่นเพราะตอนนี้เขาต้องการเธอเหลือเกินปลายฝนประคองใบหน้าของชายหนุ่มไว้ด้วยมือเรียวทั้งสองข้าง มองตาเขาพร้อมกับสบตาเขาไปด้วย เพื่อให้คำตอบว่าเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้เขาหยุดอะไรทั้งนั้นคิมหันต์มอบจูบให้ปลายฝนอีกครั้ง แต่ยิ่งได้จูบได้สัมผัสร่างกายกันมากเท่าไหร่ อารมณ์ปรารถนาของทั้งคู่ก็พลุ่งพล่านราวกับลาวาภูเขาไฟอันร้อนระอุที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อแม้วัตถุประสงค์ที่ออกมาพบเพื่อถามความจริงจากคิมหันต์ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากันแน่ แต่เวลานี้ปลายฝนกลับไม่มีสติพอที่จะเอ่ยถาม“หมอก”