บรรดาชาวประมงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ“ครั้งหนึ่งฉันได้ยินมาว่าเมื่อเรามีประกันสังคม เราจะถือว่าเป็นประชาชนของเมือง เราจะซื้อบ้านที่นี่ก็ได้เหมือนกัน”การกระโดดทั้งหมดนั้นทำให้ห้องพนักงานสั่นสะเทือนนอย่างรุนแรงแองเจลีนรู้สึกเวียนหัวและความโกรธของเธอก็มาด้วยเหตุนั้น “เกรย์สัน ตึกนี้เป็นการก่อสร้างที่ห่วยแตกอีกหลังหนึ่งใช่ไหม? ทำไมมันถึงสั่นสะเทือนมากในตอนที่พวกเขากระโดดล่ะ?”เกรย์สันสิ้นหนทางทันใดนั้น เจย์คว้าทอมมี่และวิ่งออกไปข้างนอกในขณะที่ตะโกนว่า “แผ่นดินไหว! วิ่ง!”แองเจลีนจ้องเขม็งไปที่เขาเจย์จะคว้าตัวชาวบ้านแบบสุ่มและหนีไปแต่ก็ฉุกคิดพาเธอไปด้วย ความน่าผิดหวังนั่น… มากเกินไปที่แองเจลีนจะรับมือได้เกรย์สันดึงแองเจลีนที่ตะลึงงันเข้าสู่อ้อมแขนของเขาและรีบพาเธอออกไปข้างนอกหลังจากนั้นไม่นาน ที่พักชั่วคราวก็ถล่มลงมาเป็นโรงหลอมแผ่นดินไหวก็สงบลงอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ไม่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหรือตึกอื่น ๆ พลังทลายแองเจลีนมองไปที่ซาก ตาของเธอเปล่งความโกรธที่รุนแรง สายตาของเธอมองตรงไปยังเจย์ราวกับว่าเธอกำลังจะฆ่าเขาเจย์ตัวสั่น ทำไมนางมารร้ายนั่นถึงมองเขาแบบนั้น?มันเหม
โจเซฟินมึนงง “ฉันคิดว่าพวกพี่จะมีความสุขหลังจากที่ได้กลับมาเจอกันซะอีก ใครจะรู้ว่าจะมีปัญหามากมายใช่ไหม? พี่ชายของฉันไม่มีความรู้สึกต่อพี่จริง ๆ”แองเจลีนท้อแท้ “ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อ่อนโยน ไม่สวย และไม่เป็นผู้หญิงพอ แต่ฉันก็ดูแลเขาดีมาก มันทดแทนสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้รึไง?โจเซฟินมองเธอด้วยความไม่อยากเชื่อจากนั้นเธอก็พูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “มันต้องเป็นเจ้าบ้าเซย์นแน่ ๆ เขาจะเรียกพี่ว่ายัยเสือโคร่งทุกวันใช่ไหม? เขาล้างสมองพี่รึเปล่า? พี่แองเจลีน พี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด อ่อนโยนที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดสำหรับฉัน”แองเจลีนแค่เชื่อเธอไม่ได้โจเซฟินไม่สบายใจ “นับตั้งแต่พี่กลายเป็นประธานของแกรนด์ เอเซีย เธอก็เริ่มใช้น้ำมันน้ำผึ้งมาส์กความสวยอันเป็นธรรมชาติของพี่ ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันบรรดาผู้ชายพวกนั้นจากการจ้องเธอมากเกินไป ถ้าเธอไม่หยาบคาบมากพอ ผู้ชายพวกนั้นก็จะเล่นหน้าเล่นตาเธอ ที่เธอทำและเสียสละไปก็เพื่อปกป้องกองทุนของพี่ชายฉัน ยังไงก็ตาม ลึก ๆ แล้ว ฉันก็รู้ว่าเธอคือที่แองเจลีนที่อ่อนหวาน สวย และซื่อสัตย์”ในตอนนั้น น้ำตาของแองเจลีนก็ไหลอย่างอิสระ “เวลาล่วงเลยไป ฉันคิดว่าฉันจะลืมว่าฉันดู
แองเจลีนสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเธอจึงรีบพุ่งไปข้างหน้า “พี่เบน”เจย์มองแองเจลีนที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เขาอ่อนแอมากจนพูดหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือไม่ได้แองเจลีนดูผื่นที่หน้าของเขาและพูดว่า “ร่างการของนายแพ้แอลกอฮอล์และมันกำลังเป็นหนักขึ้น”เจย์ประหลาดใจ นางมารร้ายแน่ใจได้อย่างไรว่าเขามีอาการแบบไหน?เธอไม่เหมือนกับพวกชาวประมงที่สงสัยและตั้งคำถามกับชีวิตส่วนตัวของเขา เขาขอบคุณสำหรับเรื่องนั้นอย่างน่าประหลาดใจเธอแบกเขาขึ้นหลังและรีบไปยังลานจอดรถหลังจากที่พวกเขามาถึงแกรนด์ เอเซีย เจย์ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินในทันทีแองเจลีนนั่งอยู่ข้างนอกห้องด้วยความกังวลตลอดทั้งคืนวันต่อมา อาการของเจย์ก็คงที่และเขาแอดมิทอยู่ในห้องผู้ป่วยปกติแองเจลีนจัดการเอกสารข้อมูลและชาร์ตของเขา นั่งอยู่ตรงหน้าเขา เธออ่านออกเสียงว่า “แพทย์ได้ทำการตรวจนาย และผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นว่าพี่มีโรคกระเพาะกัดกร่อน ดังนั้น นายควรจะมียาติดตัวตลอด ยังไงก็ตาม ในบรรดายารักษาโรคกระเพาะ นายแพ้ยาโมทิเลี่ยม เพราะงั้น นายจะใช้ยานั่นไม่ได้ แล้วก็ นายมีอาการแพ้แอลกอฮอล์อย่างรุนแรง เพราะงั้น นายก็จะแตะสิ่งนั้นไม
แองเจลีนรีบปิดไมค์ของโทรศัพท์และมองเจย์อย่างรู้สึกผิดสายตาของเจย์มีร่องรอยของการเยาะเย้ยแองเจลีนรู้ว่าเรื่องโกหกของเธอถูกเปิดโปง ดังนั้นเธอจึงไม่ปิดมันต่อไป“ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” เธอพูดใส่โทรศัพท์เจย์โบกมือให้กับเธออย่างสง่างามและทั้งหมดที่เขาพูดกับเธอก็คือ “คุณออกไปจากนี้ตอนนี้ก็ได้นะ”แองเจลีนมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด “เฮ้ ฉันช่วยนายเมื่อคืนนี้ นายไม่มีอะไรจะพูดกับฉันหน่อยเหรอ?”เจย์เงยหน้าและแววตาสีดำและทรงเสน่ห์เบิกกว้างยิ่งกว่าท้องฟ้ายามราตรี ไม่มีใครรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา“ถ้าคุณอยู่ให้ห่างจากผม ที่จริงแล้ว ผมจะขอบคุณยิ่งกว่า” เขาบ่นแองเจลีนโกรธ “สารเลวเอ๊ย! ไม่มีสำนึกเลยรึไง? ถ้าฉันไม่ช่วยนายไว้ ศพของนายน่าจะนอนตากแดดให้ทุกคนได้เห็นไปแล้ว”เจย์ย้อนว่า “มันก็ดีกว่าที่ปล่อยให้คนคิดว่าผมกำลังถูกคุณกักตัวไว้”ในความเป็นจริง เธอทำให้เขาวุ่นวายมากโดยการเข้าไปใกล้เขาเขาเป็นชายที่ภูมิใจที่ให้ความสำคัญของชื่อเสียงตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด เขาจะยอมให้ตัวเองถูกผู้หญิงร่ำรวยขังเอาไว้ได้อย่างไร?เจย์สังเกตเห็นว่าแองเจลีนเงียบไป เขาคิดว่าเธอกำลังคิดเรื่องการกระทำและไตร่ตรอง
เจย์คิดกับตัวเอง ‘นางมารร้ายนั่นกำลังจะมีช่วงเวลาที่ลำบากในการระงับความโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้’พยาบาลคนนั้นยืนข้าง ๆ นิ่งและมีสติ “ท่านประธานของเราเก่งในจัดการเรื่องแบบนี้ พวกชายพวกนี้ก็แค่ทำตัวอวดดีลับหลังเธอ รอก่อนเถอะ เมื่อท่านประธานขึ้นไปบนเวที พวกเขาจะเงียบเหมือนป่าช้าเลยล่ะ”เจย์ส่งสายตามไม่เชื่อไปยังพยาบาลคนนั้นนางมารร้ายนั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าทอมบอยที่ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป คนอย่างเธอก็ทำได้แค่เอาอกเอาใจสาว ๆ ที่อ่อนโยนผู้ชายสติดีคนไหนจะชอบทอมบอยไร้ยางอายแบบเธอกันล่ะ?หน้าจอใกล้ ๆ แท่นโพเดี่ยมค่อย ๆ ปล่อยลงมาและบนนั้นมีระเบียบวาระการประชุม หัวข้อ ‘การอภิปรายสถานะของแกรนด์ เอเซีย: การรับสมัครอัจฉริยะจากทั่วทุกมุมโลก!’เมื่อเจย์มองไปที่คำบนหน้าจอ การประดิษฐ์อักษรช่างแข็งแรง เฉียบคมและมั่นใจ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “เขียนได้ดีนะนั่นน่ะ”พยาบาลคนนั้นหัวเราะคิกคัก “ท่านประธานของเราเขียนด้วยตัวเองค่ะ”เจย์อัศจรรย์ใจเขารู้สึกว่าการประดิษฐ์อักษรสะท้อนถึงนักศิลปะใครสักคนจะตัดสินคนคนหนึ่งได้ผ่านลายมือของพวกเขาลายมือแบบนี้ควรจะมาจากชายที่ทรงเสน่ห์และยึดมั่
“ตระกูลเบลล์แห่งแกรนด์ เอเซีย รายได้ของคุณลดลง 13.74 เปอร์เซ็นเมื่อเทียบกับปีก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกคุณทั้งหมดก็ลงนรกไปได้เลย” คำพูดของแองเจลีนทิ่มแทงคนเหล่านั้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัททุกคนในที่นี้ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากของพวกเขาแองเจลีนยืนอยู่บนโพเดียม สวมชุดสีแดงสดใส เสื้อเชิ๊ตสีขาวลายลูกไม้ของเธอซุกอยู่ในกางเกงทรงหลวม สูทของเธอคลุมไหล่อย่างสะเปะสะปะ แขนของเธอเท้าสะเอวในขณะที่ผมของเธอพริ้วไสวในอากาศ ผิวสีแทน ตาดำสนิทและลิปสติกสีม่วงเน้นย้ำความโดดเดืนของเธอในห้องประชุมใบหน้าของเจย์บูดบึ้งเมื่อเห็นเธอบนหน้าจอสำหรับเขาแล้ว พวกผู้หญิงควรจะอ่อนแอและถ่อมตัว ความงามของพวกเขามีเพื่อให้ความบอบบางถูกเก็บไว้ในตัวของพวกเธอ เหมือนกับมาริลินแองเจลีนคือตัวประหลาดโดยธรรมชาติ เปล่งออร่าออกมาอย่างนั้นขณะที่เจย์ครุ่นคิดหนัก โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันคือข้อความเขาดูที่หน้าจอ เมื่อเห็นว่ามาริลินได้ส่งข้อความให้เขา มันเป็นคำสามคำ ‘กลับมาเร็ว’เจย์โทรหาเธอในทันที เมื่อมาริลินรับสาย เธอกำลังสะอึกสะอื้น “เทมเพส...เทมเพสทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”เจย์เสียงเข้มและเคร่งขรึ
หลังจากที่เจย์กินอาหารเสร็จ แองเจลีนก็โยนเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและถ้วยลงถังขยะ จากนั้นเธอก็นั่งตรงหน้าเขา สายตาของเธอค่อนข้างเพ้อฝันราวกับว่าเธอกำลังจ้องสัตว์เลี้ยงของตัวเอง“ระบบการย่อยอาหารของนายไม่ได้สุขภาพดีขนาดนั้น เพราะงั้นนายต้องจำไว้ด้วยว่าต้องกินข้าวตรงเวลา อย่ากินตามใจตัวเอง” เธอบ่นเจย์จ้องเธอด้วยท่าทีที่ไม่พอใจมันอาจจะเป็นเพราะเขาห่วงเรื่องของเทมเพส ดังนั้น แม้แต่การขมวดคิ้วของเขาก็บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดจู่ ๆ แองเจลีนก็เอื้อมสัมผัสคิ้วของเขา เธอกล่าวอย่างอ่อนโยน “นายมีบางอย่างในใจใช่ไหม?เจย์ตอบกลับอย่างปากร้าย “ถ้าคุณอยู่ให้ห่างจากผม ผมก็จะไม่มีอะไรในใจ”แองเจลีน “...”“ถ้ามีเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับตัวฉัน ฉันจะพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้ดีขึ้น” เธอกล่าวพลางกัดฟันและฝืนยิ้มออกมาเจย์เกลียดท่าทีที่เสแสร้งและอ่อนหวานของเธอ“งั้นคุณก็กลับไปในท้องแม่และเกิดใหม่สิ” เขากล่าวอย่างโหดร้ายแองเจลีนเดือดดาล เธอยกแขนขึ้น…“นายวอนเอง ใช่ไหม” เธอกัดฟันด้วยความโกรธเจย์มองที่มือของเธอ คิดว่าไม่มีทางหนีจากตบที่เขากำลงจะโดนได้ เขาไม่คิดว่าแองเจลีนจะไม่ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น ในที่ส
เจย์พูดว่า “ผมไม่มีเงินในตอนนี้ แต่ผมจะหาวิธีชำระค่ารักษา”แองเจลีนแทบจะหัวเราะใส่เขาชายคนนี้จะไม่มีเงินได้อย่างไรในเมื่อทั้งแกรนด์ เอเซียเป็นของเขา?“ถ้านายไม่มีเงิน บางทีนายจ่ายด้วตัวของนายก็ได้นะ” เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมันยากที่เจย์จะเริ่มพูดให้ถูกใจเธอ และในตอนนี้ทั้งหมดมันได้หลอมละลายไปในทันทีเขาจ้องเธอด้วยความแค้น…แองเจลีนรีบข่มตัวเองไว้เธอคิดว่าเธอควรจะเอ่ยเรื่องนั้นกับตัวเองดีกว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งเจย์ได้ความทรงจำกลับมา? แน่นอนว่า เขาจะมีความแค้น พิเคราะห์จากนิสัยของเขาในตอนเย็น เสียงไซเรนของรถพยาบาลก็เสียงดังผ่านอากาศ ไซเรนยังคงดังต่อเนื่องในขณะที่จอดอยู่หน้าทางเข้าของโรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียเจย์ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความวิตกกังวลมาริลินบอกกับเขาว่าอาการของเทมเพสแย่มากเทมเพสคือสำคัญสำหรับเขามากคนที่เต็มใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเขาถือว่าเป็นครอบครัวสำหรับเจย์แองเจลีนเดินเข้าไปหาเจย์ วางมือบนไหล่ของเขาในขณะที่ปลอบและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา”เจย์ทำได้แค่จ้องเธออย่างเหม่อลอย เมื่อเธอพูดเช่นนั้น
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ