คาร์สันปรากฏตัวต่อหน้าเขาพร้อมกับโคลและรายงานการทดสองทางพันธุกรรมของเซ็ตตี้น้อย “ท่านครับ รายงานแสดงผลว่าท่านและเจ้าของผมนี้เกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอนครับ”กระเป๋าปักในมือของโคลก็หล่นลงพื้นใบหน้าที่อบอุ่นและหล่อเหลาของเขาเผยให้เห็นถึงสัมผัสของความสิ้นหวัง จากนั้นเขาก็ดึงไพ่แห่งความตายสี่ใบจากกระเป๋าของเขาสายตาที่เหมือนกับอินทรีย์ของคาร์สันก็จับจ้อง “ท่านครับ พวกที่ถือไพ่แห่งความตายมักจะไม่รอดนอกเสียจาก-”สายตาของโคลจ้องไปที่ชื่อที่ถูกเขียนไพ่แห่งความตาย “พวกเขาจะต้องตายไม่ก็กลายเป็นสมาชิกของตระกูลยอร์ค”มีหนึ่งในนักฆ่าขององค์กรโลกาวินาศที่ครั้งหนึ่งได้ไว้ชีวิตคนที่มีชื่ออยู่บนไพ่แห่งความตายเนื่องด้วยความใจอ่อน ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเพราะเรื่องนั้นเพราะฉะนั้น ปู่ของเขาจึงตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ตราบใดที่มีชื่อของคนคนหนึ่งถูกลิสต์ลงบนไพ่แห่งความตายคนคนนั้นจะถูกจับและถูกสังหารถ้านักฆ่าหลงใหลในตัวพวกเขา จากนั้นจะมีเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขารอดชีวิต นั่นคือเปลี่ยนให้พวกเขาเป็นสมาชิกของโลกาวินาศโคลโยนไพ่แห่งความตายของแองเจลีน เจนสัน ร็อบบี้น้อย และเซ็ตตี้น้อยให้กับคาร์สัน พูดด
เซ็ตตี้น้อยไม่กลัวแบบนั้นอีกแล้ว“พวกเขาเป็นใครเหรอ ฟินน์?”“ดูพวกเขาใกล้ ๆ นะและทำให้มั่นใจว่า คุณจำหน้าของพวกเขาได้นะ เซ็ตตี้น้อย พวกนี้คืนคนที่ฆ่าคุณพ่อของคุณ” น้ำเสียงของฟินน์เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ความขุ่นเคืองและความเคียดแค้นต่อศัตรูเมื่อเซ็ตตี้น้อยได้ยินว่าพ่อของเธอตายแล้ว เธอก็ร้องไห้อย่างบีบหัวใจออกมา“คุณพ่อคะ คุณพ่อ!”เสียงของเด็กคนนั้นดูเด็กมาก ๆ แม้แต่พลังในการระบายความรู้สึกออกมาก็อ่อนแอเป็นอย่างมากถึงกระนั้น การร้องไห้ของเธอทำให้ฟินน์ปวดใจด้วยเหตุผลบางอย่าง“อย่าร้องนะ เซ็ตตี้น้อย ฟินน์จะแก้แค้นให้คุณพ่อเอง”เซ็ตตี้น้อยจ้องไปกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด “อื้ม”ฟินน์วิ่งออกจากคฤหาสน์เซเวียร์และเข้ามายังทางตันของสุดถนนที่ซึ่งกลุ่มของผู้คุมวิญญาณล้อมเขาไว้ในที่สุดฟินน์กอดเซ็ตตี้น้อยแน่นและถามเธอว่า “หนูกลัวไหม?”เซ็ตตี้น้อยได้เจอกับความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเริ่มจากความกลัวอย่างหนักไปยังการถูกครอบงำด้วยความเศร้าโศกและขุ่นเคือง เมื่อความโศกเศร้าและความขุ่นเคืองได้ขับไล่ความหวาดกลัวออกไปทั้งหมด เซ็ตตี้น้อยก็ไม่กลัวอีกต่อไป“ไม่” เธอส่ายหน้าฟินน์รู้ส
นักฆ่าคนนั้นเดินเข้าหาเซ็ตตี้น้อยที่ละก้าว ในตอนที่เขายืนมือออกไปยังเซ็ตตี้น้อย ฟินน์ได้รวบรวมพลังขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขากระโจนขึ้นบนอากาศ เขาใช้พลังทุก ๆ ออนซ์ที่เหลือเพื่อที่จะใช้ลูกเตะแบบกรรไกร กระแทกนักฆ่าคนนั้นลงพื้นอย่างรุนแรงน่าเสียดายที่ฟินน์ไม่สามารถลุกขึ้นได้อีกแล้ว“ฟินน์” เซ็ตตี้น้อยหมอบต่อหน้าฟินน์และร้องไห้อย่างบีบหัวใจออกมาฟินน์ลืมตาอย่างอ่อนแรง เมื่อเขาเห็นดวงตาที่ดำสนิทและเป็นประกายของเซ็ตตี้น้อยที่ท่วมท้นไปด้วยความหมดหนทาง ฟินน์ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของเธอ“เด็กดี ไม่ร้องนะ”“อดทนไว้นะ ฟินน์ หนูจะพาคุณไปที่โรงพยาบาล”เมื่อเซ็ตตี้น้อยเห็นรถพ่วงที่จอดอยู่ข้างห้องเก็บของ เธอจึงดึงฟินน์ขึ้นรถพ่วงด้วยแรงทั้งหมดของเธอ และมัดเชือกของรถเข็นที่ร่างผอมบางของเธอระยะทางไปยังโรงพยาบาลไม่ได้ไกลเลยอย่างไรก็ตาม แต่ละก้าวที่เซ็ตตี้น้อยเดินให้ความรู้สึกที่หนักแปลก ๆ บางครั้ง เธอจะก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งและถูกดึงกลับไปสองสามก้าวโชคยังดีที่เซ็ตตี้น้อยหัวแข็งและไม่ยอมแพ้ ในที่สุดเธอก็พาฟินน์ไปถึงยังโรงพยาบาลเมื่อวินิจฉัยจากการบาดเจ็บของฟินน์แล้ว ทางโรงพยาบาลได้ทำการตัดสินใจท
ปีเตอร์หวั่นเล็กน้อย “มันดีนะที่จะมั่นใจ แต่ในสถาบันเยาวชนในตำนาน นายจะลงเอยไม่สวยถ้ามั่นใจจนเกินไป ถ้านายเรียนไม่จบภายในแปดถึงสิบปีได้หลังจากที่ลงทะเบียนชั้นเรียนของวิค นายอาจจำเป็นต้องอยู่ในสถาบันเยาวชนในตำนานจนกระทั่งเธอแก่”เจนสันจ้องปีเตอร์ด้วยสายตาที่อาฆาตปีเตอร์ผงะเล็กน้อย “ทำไมนายถึงไม่สืบทอดความน่ารักและอ่อนโยนของคุณแม่ของนายบ้างเลยล่ะ เจ้าหนู? นายเหมือนกับพ่อมาก ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย”จากนั้น เขาก็ยิ้มอย่างอิ่มเอมใจและพูดว่า “ฉันเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับพ่อของนาย และความปรารถนาที่ใหญ่ที่สุดของฉันคือแต่งตัวให้ภูเขาน้ำแข็งยักษ์อย่างเขาเป็นผู้หญิง น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้เติมเต็มความฝันนั้น ในตอนนี้ ฉันก็ได้ฝึกฝนบนตัวลูกชายของเขาในที่สุด ฮ่าฮ่า”ดวงตาของเจนสันปรากฏร่องรอยของความเยือกเย็นที่น่าเกรงขามเมื่อปีเตอร์เห็นเช่นนี้ เสียงหัวเราะของเขาก็หยุดไปอย่างกะทันหันเขาแลบลิ้นและแหย่เจนสันว่า “นายเย็นชายิ่งกว่าพ่อของนายอีกนะ น่าเบื่อจัง”เมื่อเจนสันเวอร์ชั่นผู้หญิงไปยังสนามกีฬาพร้อมกับคนอื่น ๆ นักฆ่าขององค์กรโลกาวินาศจำเขาไม่ได้เลยและพาตัวเด็กที่ดูเย็นชาอีกคนไปโดยไร้เหตุผลโชคย
เจย์หัวเราะให้กับความรักที่กดขี่ของเขาที่มีต่อแองเจลีนด้วยอารมณ์ขันปกติของเขา‘แองเจลีน เซเวียร์ เธอรู้ไหมว่าฉันโชคดีมากแค่ไหนที่ได้เจอเธอ? ฉันได้ใช้โชคลาภสะสมของฉันทั้งหมดเพื่อเจอเธอ ตกหลุมรักเธอ และมีเธอ โชคของเจย์บี้ทั้งหมดถูกใช้ไปหมดแล้ว บางทีอาจะเป็นเพราะเจย์บี้ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยมากเกินไป ตอนนี้โชคของฉันได้หมดลงแล้ว มันถึงเวลาที่ฉันจะบอกลากับเธอเสียที…’น้ำตาไหลอาบแก้มของแองเจลีน เจย์เขียนความจริงโดยใช้น้ำเสียงที่ตลกขบขันและผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนว่าแองเจลีนจะสามารถเห็นความเศร้าและความสิ้นหวังบนใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเขาอีกโลกหนึ่งได้เจย์เขียนในสมุดโน๊ตว่า ‘ฉันทำแท้งลูกของเราในวันนี้ ฉันรู้ว่ามันต้องใจสลายเอามาก ๆ แต่แองเจลีน นี่เป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก เจย์บี้จะยอมให้เธอเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเรื่องนี้ได้ยังไง? ใช่ ลูกก็สำคัญกับฉัน แต่เขาเป็นแค่การสานต่อความรักของเรา’‘เขาไม่ใช่เธอ ในขณะที่แองเจลีน เซเวียร์คือคนเดียวที่ฉันรัก’‘ในตอนที่เธอได้รับรู้ว่าเด็กคนนั้นจากไปแล้ว เธอตะคอกใส่หน้าฉันและด่าทอฉันที่ทำตัวโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ในตอนที่ฉันเห็นเธอคลานหนีฉันไปด้วยร่างกายที่อ่อน
เขาต้องไม่เต็มใจจริงในตอนที่เขาจากไปใช่ไหม?“เงยหน้าขึ้น เกรย์สัน”เกรย์สันเงยหน้าขึ้นแองเจลีนพูดว่า “บอกฉันมา ความปรารถนาของเขาคืออะไร?”เกรย์สันพูดว่า “เขาอยากจะยึดครองกลุ่มใหญ่ต่าง ๆ และสร้างอาณาจักรแกรนด์ เอเซียที่ผูกขาด จากนั้นก็จะมองอาณาจักรแกรนด์ เอเซียให้กับคุณด้วยตัวเอง ต่อมาเขาเปลี่ยนใจเพราะบางอย่างที่คุณพูด ดังนั้นแผนจึงถูกระงับไว้ตั้งแต่นั้น ข้อมูลทั้งหมดที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อรวบรวมไว้ในตอนนี้ถูกเก็บไว้ในออฟฟิศของท่านประธาน เขาบอกว่ามันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณว่าต้องการให้เรื่องนี้เสร็จสิ้นหรือไม่”แองเจลีนสับสน “ทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจล่ะ?”เกรย์สันพูดว่า “คุณขอให้เขาสร้างกรรมดีเพื่อลูก ๆ เขาไม่สนใจเรื่องงมงายทางศักดินาตั้งแต่แรก แต่หลังจากที่ทำแท้งให้คุณ เขาจึงระงับแผนนี้ไว้และบอกว่าเขาจะทำความดีเพื่อเพิ่มกรรมดีให้กับคุณและลูก ๆ มากขึ้น”แองเจลีนพยักหน้า น้ำตาก็ไหลนองหน้าของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน โคลก็มายังโรงพยาบาลเกรย์สันมีสีหน้าที่ซ้อนเร้นเป็นพิเศษในตอนที่เขามองโคลอาจเป็นเพราะความสุภาพและมารยาทดี ทั้งเกรย์สันและโจเซฟินจึงออกไปข้างนอกอย่างไรก็ตาม เซย์
โคลหันหลังและจากไปแองเจลีนมองแผ่นหลังของโคลที่ยาว สูงและเด็ดเดี่ยว ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันทับซ้อนกับรูปร่างของเจย์ขณะที่เธอนึกถึงเขาตาที่ไร้ชีวิตชีวาและหมองคล้ำของแองเจลีนค่อย ๆ เพิ่มการโฟกัสขณะที่เกิดความสับสนในน้ำตาที่เป็นประกายระยิบระยับและชัดเจนเจย์บี้จากไปแล้ว และภารกิจในเมืองอิมพีเรียลของโคลก็สำเร็จโคลบอกเธอว่าเหตุผลที่เขามาที่เมืองอิมพีเรียลคือเพื่อตามหาคนที่หายไปเมื่อประมาณ 40 ถึง 50 ปีก่อน นั่นอาจจะใช่ป้าโคลอี้ไหม?ด้วยเหตุที่ว่านามสกุลของแม่ของเจย์บี้...คือยอร์คเหมือนกันใช่ไหม?เป็นไปได้ไหมว่านี่อาจจะเป็นความบังเอิญ หรือ…จู่ ๆ แองเจลีนก็พุ่งออจากเตียงและวิ่งออกไปข้างนอกเหมือนเธอเป็นบ้าที่ประตูห้องวอร์ด เกรย์สันบอกกับเธอว่า “เขาจากไปแล้วครับ นายหญิงเซเวียร์”แองเจลีนเดินงุ่มงามไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหนก่อนที่สายตาที่สงบของแองเจลีน ที่เหมือนกับพระแก่ ๆ ที่กำลังนั่งสมาธิจะเริ่มกับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเกรย์สันได้ยินเสียงเบา ๆ ของแองเจลีนพูดว่า “เตรียมมีดคม ๆ ให้ฉันสักเล่มที เกรย์สัน ยิ่งคมยิ่งดี”แม้ว่าเสียงของเธอจะเบา มันก็แบกรับความแหลมคมด้วยความตั้งใจที่จะทำลา
มอนสเตอร์เป็นเพียงตำนานในโลกใต้พิภพทั้งโลกใต้พิภพและการบังคับใช้กฏหมายทำให้เขากลัวมอนสเตอร์มีตัวตนที่เป็นปริศนา หลายปีมานี้ ผู้คนได้พยายามที่จะไขปริศนาตัวตนที่แท้จริงของมอนสเตอร์ แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ“มอนสเตอร์ถูกกล่าวขานไว้ว่าเจ้าเล่ห์เพทุบาย มันสามารถเข้าและออกด้วยการหลบหลีกอย่างแม่มดและพ่อมดทุก ๆ ครั้งที่มันที่มันออกทำภารกิจ ถ้าร็อบบี้น้อยอยู่กับมัน นี่คงจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา” คาร์สันกล่าวโคลพูดว่า “นั่นไม่ใช่ปัญหาเสมอไป เลือดโลกาวินาศไหลเวียนในสายเลือดของร็อบบี้น้อย มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเราด้วยซ้ำ”“แล้วเซ็ตตี้น้อยล่ะ?” สายตาของโคลมองไปที่ผู้คุมวิญญาณ 20 คนที่ล้มเหลวในภารกิจผู้คุมวิญญาณคนหนึ่งพูดว่า “เราประมาทศัตรูของเราครับ นายน้อย การเตรียมการของเราไม่เข้าใจเพียงพอในตอนที่ออกเดินทางขณะที่เราคิดว่าเราสามารถพาเซ็ตตี้น้อยกลับตัวเปล่าได้ เซ็ตตี้น้อยได้รับการปกป้องจากฟินน์ครับ คนที่มีทักษะที่ทรงพลังอย่างมาก เธอหลุดจากเงื้อมมือเราไปได้ในที่สุด ได้โปรดให้โอกาสเราอีกครั้งนะครับ นายน้อย”โคลพูดว่า “แกก็รู้กฏในโลกาวินาศดี เมื่องานหลักสำเร็จ เราต้องทำลายร่องรอยและถอย