เซย์นมองออกไปที่ถนนไฮเวย์ กลังอย่างสุดขีด “โหย โยนฉันออกไปข้างนอกนั่นเหมือนจะฆ่าฉันชัด ๆ เจย์ ช่วยคิดวิธีที่อ่อนโยนกว่านี้หน่อยได้ไหม? ฉันขอร้อง”ฟินน์เปิดหน้าต่างและจับเซย์น…ลมกรรโชกแรงพัดเข้ามาในรถและเสียงกรีดร้องของเซย์นกำลังดังท่ามกลางสายลม…“เจย์ แกคิดวิธีที่เลวร้ายแบบนี้ได้ แกมันไม่ใช่คนแล้ว”ตึก!เซย์นถูกโยนไปยังข้ามทางด้วยเสียงดังตึก เขาปวดระบมไปทั่วร่างกายราวกับว่ากระดูกของเขากำลังแตกออกจากกัน“แม่งเอ๊ย!” เซย์นสบถ “เจย์ ใจแกทำด้วยเหล็กรึไงวะ?” เขาแช่งขณะที่หลั่งน้ำตาหัวใจของเจย์ทำมาจากเหล็กกล้า แต่มันมีไว้เพื่อปกป้องคนที่เขารักอย่างระมัดระวังรถโรลส์-รอยซ์ขับออกไปและยังเห็นมันได้จนกระทั่งมันหายไปที่สี่แยก เซย์นนั่งอยู่ข้างถนนบนไฮเวย์ รู้สึกหน้าแดงด้วยลมหนาว อดทนกับความเจ็บปวดที่แทบจะทำให้กระดูกทั่วร่างของเขาป่นปี้ เขาโบกรถที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยังเมืองนางแอ่นในที่สุด คนขับผู้ใจดีก็รับเขาขึ้นรถเมืองนางแอ่นแองเจลีนไม่รู้ว่าเธอเองหมดสติไปนานแค่ไหน เมื่อเธอตื่นขึ้น เธอก็นอนอยู่บนเตียงของเธอที่บ้านแล้วโคลนั่งอยู่หัวเตียง กำลังเช็ดเหงื่อเย็นจากหน้าผากของเธอ “คุณต
เมื่อเขาพูดถึงแม่ของเขา ก็ได้มีท่าทีของความเหงาโดดเดี่ยวบนใบหน้าที่หล่อเหลาและละเอียดอ่อนของโคลแองเจลีนจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่าเขาเป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ที่ซึ่งมีพี่น้องต่างแม่มากมายเกินกว่าจะนับได้ และเขามีความรู้สึกค่อนข้างแปลกประหลาดเกี่ยวกับโครงสร้างครอบครัวของเขา“แม่ของคุณไม่สนใจเลยเหรอที่พ่อของคุณอาละวาดไปทั่ว” แองเจลีนถาม บางทีอาจเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรือบางทีอาจเป็นเพราะความเป็นห่วงเป็นใยโคลในฐานะของเพื่อนรอยยิ้มอันอบอุ่นของโคลเริ่มขมขื่นเล็กน้อยเมื่อเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก“แม่ของผมคือคู่แท้แต่แรกของพ่อ เมื่อแม่แต่งงานกับพ่อ ผมคิดว่าพ่อของผมจะรักเดียวใจเดียว แต่พ่อก็เพียงชอบแม่แค่ผิวเผินและแอบคบหากับผู้หญิงสวย ๆ คนอื่น พอแม่รู้เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ พวกนั้น ผมโมโหมากจนเกือบกระโดดลงมาจากตึก พ่อของผมคุกเข่าขอร้องแม่เป็นเวลาสามวันสามคืนก่อนที่แม่จะให้ยกโทษให้พ่อ”“ผมคิดว่าพ่อของผมจะสำนึก แต่ต่อมา ผมก็รู้ว่าเขาทำตัวแย่ลงกว่าเดิม ทุกครั้งที่เขาเดินทางไปทำธุรกิจ เขามักจะพาผู้หญิงสวย ๆ กลับบ้านมาด้วยท้องที่โตเสมอ แล้วพอแม่ของโกรธ แม่ก็จะไปที่ห้องสวดมนต์ขอ
เมื่อนึกถึงงานยาก ๆ ที่เจย์มอบหมายให้เขาทำ เซย์นก็เริ่มสาปแช่งเขาอีกครั้ง “เจย์ อาเรส นายมันเป็นคนงี่เง่า!”แองเจลีนเดินมาเพื่อที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากมือของเชอร์ลี่ย์ แล้วร้องขอ “พี่สาว ให้ฉันดูแลเขาสักครั้งเถอะนะ ได้ไหม?”เธอรู้สึกละอายใจ เป็นเพราะเธอรักคนผิด เซย์นเลยต้องมาทนทุกข์ไปกับเธอด้วยเชอร์ลี่ย์ยืนขึ้นและยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอ เธอพูดอย่างเบา ๆ ว่า “แองเจลีนน้อย อย่าเศร้าไปเลยนะ พี่ชายของเธอยังคงมีแรงสาปแช่งคนอื่นอยู่ เพราะงั้นเขาน่าจะสบายดี”“โอเคค่ะ” แองเจลีนพยักหน้าเซย์นยกขาที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาขึ้น “พวกเธอดูให้ดี แบบนี้โอเคเหรอ? เจย์ทุบต่อยฉันอย่างแรงและโยนฉันผ่านหน้าต่างรถลงไปบนถนนทางหลวง ถ้าฉันไม่ใช่คนแข็งแรง ฉันคงจากไปและไปเจอกับลูซิเฟอร์แล้ว”แองเจลีนร้องไห้หนักขึ้นจนไหล่ของเธอเริ่มสั่นใบหน้าที่หล่อเหลาของโคลกลายเป็นสีหน้าที่ไร้อารมณ์และเรียบเฉยดวงตาของเซย์นจับจ้องไปที่โคล “ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาอยู่ในบ้านของฉันได้?”แองเจลีนตอบ “เขาเป็นเพื่อนของฉัน โคล ยอร์ก เป็นเรื่องโชคดีที่เขามาส่งฉันที่กลับบ้านวันนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงทำให้ตระกูลเซเวียร์ต้องอับอายแน่ ๆ
คุณท่านปู่เซเวียร์และจอร์จเดินลงมายังชั้นล่างและมองเห็นบาดแผลที่น่ากลัวของเซย์น จอร์จด่าว่าผู้ที่ทำร้ายอย่างโกรธจัด “เจย์ ฉันมองนายผิดไปจริง ๆ ฉันไม่นึกเลยว่านายจะเป็นคนโหดร้ายและโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้”คุณท่านเซเวียร์ไม่ได้พูดอะไร แต่มีความชื้นจาง ๆ ในดวงตาที่เหี่ยวเฉาของเขาจอร์จรู้เพียงแค่ว่าลูกชายของเขาถูกทุบตี สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ เจย์กำลังใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมนี้เพื่อปกป้องตระกูลเซเวียร์คนที่ทุกข์ทรมานจริง ๆ ก็คือ เจย์“พ่อครับ ผมไม่อยากทำงานกับเอมิเนนต์ ออเนอร์ อีกต่อไปแล้วครับ” เซย์นใช้ประโยชน์จากอาการบาดเจ็บของเขาเพื่อแสดงความคัดค้านต่อจอร์จเขาจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเจย์ได้จอร์จยังคงขวัญเสียกับอาการบาดเจ็บของลูกชายเมื่อสักครู่นี้ แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็หยิบไม้กวาดขึ้นเพื่อที่จะฟาดเขาเมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้สัจจะของลูกชายตัวเอง“แกพูดอะไรออกมา? เมื่อตอนนั้นฉันให้เงินแกเพื่อก่อตั้งเอมิเนนต์ ออเนอร์ แกขุกเข่าลงต่อหน้าฉันและได้ให้สัญญาแล้ว แกบอกว่าแกต้องการทำลายชื่อเสียงสุรุ่ยสุร่ายด้วยตัวเองและแกจะชุบชีวิตให้กับตระกูลเซเวียร์ แต่ตอนนี้แกกลับพูดออกมาได้อย่างดายว่าต้องการเลิกเนี่ยน
ในตอนนั้นเอง ตั๋วการแข่งขันก็ตกลงมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา เชอร์ลี่ย์หยิบมันขึ้นมาและส่งให้กับเซย์น เซย์นรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “มันไว้สำหรับร็อบบี้น้อยน่ะ”แองเจลีนคว้าตั๋วการแข่งขันมาและดูที่สติกเกอร์คำเชิญของการแข่งขันเทควันโดรุ่นเยาวชนระดับนานาชาติบนนั้น แล้วเธอก็ตกตะลึงเซย์นพูดต่อว่า “ไม่ต้องไปดูมันหรอก การแข่งขันที้รุนแรงแบบนี้ไม่เหมาะกับร็อบบี้น้อยหรอก”แองเจลีนตอบ “ทำไมจะไม่ล่ะ? ร็อบบี้น้อยชอบเทควันโดและเขาก็มีความสามารถทางด้านนี้ เราไม่อาจทำลายความสามารถที่พระเจ้ามอบให้เขาลงได้นะ”ความรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อยเกิดขึ้นในดวงตาของเซย์น ถ้าหากแองเจลีนเห็นด้วยที่จะให้ร็อบบี้น้อยเข้าร่วมการแข่งขัน แล้วแม่กับลูกจะต้องแยกจากกันเป็นเวลานานเซย์นคงทนไม่ได้แองเจลีนเก็บตั๋วเข้าไปในกระเป๋าของเธอและพูดว่า “เราจะให้ร็อบบี้น้อยตัดสินใจเรื่องนี้เอง”เซย์นยื่นมือออกไป จู่ ๆ เขาก็อยากจะฉีกตั๋วออกเป็นชิ้น ๆ“ร็อบบี้น้อยอยู่ที่ไหนเหรอ?”“โรงเรียน ใกล้จะเลิกแล้วล่ะ”ช่างตายยากเสียจริงและเขาก็ปรากฏตัวขึ้น“เฮ้” เสียงที่คับข้องใจของร็อบบี้น้อยก็ดังมาจากด้านนอ
ไม่รู้วันเวลาผ่านไปนานเพียงแค่ไหนแล้ว ความร้อนของกลางฤดูร้อนค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ ค่ำคืนที่คฤหาสน์บนภูเขาเริ่มเย็นลงเล็กน้อยโคลกำลังนอนอยู่ข้างนอกบนเก้าอี้เอนกาย มองขึ้นไปที่ดวงดาวเบื้องบนที่ส่องแสงระยิบระยับเหนือศีรษะของเขา ดวงตาของเขากำลังมองหาดวงจันทร์ที่สดใส“คาร์สัน นายจะบอกว่าฉันเป็นดาวหรือเป็นพระจันทร์เหรอ?” โคลหันไปมองคาร์สันที่อยู่ข้าง ๆ เขาด้วยสายตาที่สับสนคาร์สันมองขึ้นไปที่ดวงจันทร์ที่สว่างไสว มันช่างโดดเดี่ยว หนาวเหน็บ และสูงส่งมาก“นายน้อย คุณเป็นดวงดาวครับ”“ทำไมล่ะ?”“อย่างที่คุณท่านเคยกล่าวไว้ ในวันสุดท้ายของพวกเราทุกคนนั้นล้วนจะกลายเป็นดวงดาวหลังจากการตายไปของเรา เพื่อที่จะส่องสว่างทางข้างหน้าให้กับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นายน้อยครับ คุณคือดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดแล้วครับ” คาร์สันกล่าวอย่างจริงจัง“แล้วเจย์ อาเรสล่ะ? นายคิดว่าเขาเป็นอะไร?” โคลถามคาร์สันขมวดคิ้ว สงสัยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับนายน้อย จนทำให้เขาถามคำถามแปลก ๆ เหล่านี้“คนที่เย็นชาอย่าง เจย์ อาดเรส และคอยปฎิเสธคนรอบข้างคงจะมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดไป แน่นอนว่าเขาก็คือดวงจันทร์ครับ” คาร์สันก
สายตาของโคลตกไปอยู่ที่ธงในกระบะทราย มีธงสีแดงและสีขาว ‘อาเรส’ ถูกเขียนไว้บนธงสีแดง ในขณะที่ ‘ยอร์ก’ ถูกเขียนไว้บนธงสีขาว! “ดีแลน อาเรส คุณทำให้ป้าของฉันต้องอับอายและทำให้เธอตาย ฉันต้องการ 2,000 ชีวิตของตระกูลอาเรสเพื่อชดใช้สิ่งที่คุณไว้ทำกับเธอ” เมื่อสายตาของโคลจ้องมองไปยังลูกหลานของดีแลน อาเรส ดวงตาของเขาก็มืดม่นลงเล็กน้อยเมื่อครั้นไพ่แห่งความตายได้ถูกสร้างขึ้น ไม่มีหนทางไหนที่จะทำลายมันได้ ทันใดนั้น มือเรียวยาวซีดก็ยื่นออกมาและหยิบไพ่แห่งความตายของแองเจลีน เซเวียร์ และเจนสัน อาเรสออกมาพร้อมกันนั้นก็ยังคงมีของโรเบิร์ต ลอยล์และโรเซ็ต ลอยล์ ความแปลกใจผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของโคล “ทำไมนามสกุลของร็อบบี้น้อย และ เซ็ตตี้น้อยถึงเป็นนามสกุลนี้ล่ะ?”แล้วผู้คุมวิญญาณก็เดินออกมา เขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่มีด้านในเป็นสีขาว เขาก้มศีรษะลง เขาสวมหน้ากากเต็มหน้าแบบพิเศษที่เผยให้เห็นเฉพาะตาเท่านั้น ผู้คุมวิญญาณพูดด้วยความเคารพ “นายน้อย ไม่มีข้อสงสัยเลยเกี่ยวกับตัวตนของแองเจลีน เซเวียร์ครับ”“โอ้? พูดมาสิ”ด้วยการอำพรางเป็นพิเศษ จึงแทบจะจำเสียงของผู้คุมวิญญาณไม่ได้ “เมื่อแปดปี
ในค่ำคืนที่มืดมิดบนพื้นที่อันเงียบสงบ เงาดำมืดได้เคลื่อนเข้าใกล้อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนมาอย่างรุกล้ำบนยอดตึกของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เฝ้ามองดูรูปร่างของหมอกสีดำที่ลอยอยู่ไกล ๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย“แปลกจัง ทำไมหมอกหนาอย่างนี้นะ?” หลังจากที่พวกเขาพูดพึมพำกับตัวเองแล้ว กระสุนนัดหนึ่งก็พุ่งมาที่ชายคนหนึ่งด้านซ้ายของเขาในห้องโถง เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งเสียงร้องก่อนจะล้มลงกับพื้นเกือบในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหน่วยรักษาการณ์อื่น ๆ ของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนก็ตกอยู่ในกองเลือดอย่างเงียบ ๆเงาดำริบหรี่จู่ ๆ ก็แล่นพรวดเข้าไปในพื้นที่ด้วยพลังอันดุเดือดราวกับว่ามันคือรถสปอร์ตที่มีแรงม้าเพิ่มขึ้นฮาร์เปอร์ อาเรสเพิ่งกลับมาที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนตอนกลางดึกพร้อมกับเน็ตไอดอลที่อ่อนโยนและสวยพริ้งในอ้อมแขนของเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เข้ามาในวิสัยทัศน์ของพวกเขาคือทะเลเลือดที่น่าตกใจ "อ๊า!" ผู้หญิงคนนั้นส่งเสียงร้องอันน่าสลดใจก่อนจะวิ่งหนีไปพลางเอามือปิดหน้าฮาร์เปอร์ตกใจกลัวมากจนหมดสติไปในทันทีชายคนหนึ่งสวมชุดเอี๊ยมสีดำ ใ