ดูเหมือนความทรงจำของหญิงชราจะฟื้นคืนกลับมาเป็นบางฉากที่น่ากลัว ความหวาดกลัวฉายออกมาจากดวงตาของเธอและทั้งร่างของเธอก็สั่นสะท้านอย่างสุดขีด “คุณโคลอี้...ฆ่าคุณท่านหญิง”ร่างกายของเจย์สั่นสะท้านหากเขาไม่ได้ยินเองกับหู เขาไม่มีทางเชื่อว่าแม่ที่แสนสวยและอ่อนโยนของเขาจะ...ทำร้ายคุณย่าที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนอย่างเหี้ยมโหดได้หญิงชราค่อย ๆ เผยเรื่องราวที่น่าตกใจเป็นช่วง ๆ “เพราะความโกรธ คุณท่านปู่ต้องการฆ่าคุณโคลอี้ แต่ทว่าคุณโคลอี้… เธอเป็นนางปีศาจร้ายที่กลับชาติมาเกิดโดยแท้ ฉันเกรงว่าเธออาจจะทำร้ายคุณท่านปู่ ฉันก็เลยวางยาเธอ… แต่ฉันหยิบยาผิด…”“ฉันขอโทษจริง ๆ นายน้อย ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง…”โนอาห์เห็นแม่ของเขาสั่นไปทั้งตัวและเขาก็รีบเข้าไปห้ามเจย์ “คุณผู้ชาย ผมขอร้องล่ะครับ อย่าถามอะไรแม่ผมอีกเลย ร่างกายของเธอก็แย่มากอยู่แล้ว คุณไว้ชีวิตเธอได้ไหมครับ?”เจย์จ้องมองไปยังหญิงชราที่แห้งผอมและพยักหน้า “ได้สิ”เขาเกือบจะคาดเดาเรื่องราวต่าง ๆ ที่เหลือได้หมดแล้วความสัมพันธ์เพียงข้ามคืนของคุณปู่กับคุณย่าของเขากลับกลายเป็นว่าไม่ใช่สิ่งที่คุณปู่ของเขาปรารถนานอกจากนี้ แม่ของเขายังฆ่าคุ
“แผนการขายของเธอคือการขายให้กับคนทำงานที่เดือดร้อนงั้นเหรอ?”แองเจลีน “...”“แผนนี้ไม่ใช่ว่าควรเป็นตัวอย่างสำหรับเราให้เห็นว่าใครคือผู้ที่มีอำนาจเหนือความเป็นความตายขององค์กรเซเวียร์หรอกเหรอ?” เจย์ถามราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่แองเจลีนถึงกับพูดไม่ออกเจย์มองเธออย่างนิ่งเฉย เมื่อเห็นเธอขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด เขาก็ตระหนักอีกครั้งได้ว่าความต้องการที่จะชนะของเขานั้นมากเกินไปดังนั้นเขาจึงถูกกระตุกด้วยความสำนึกผิดและเปลี่ยนบทสนทนาทันที “ฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังหาทางออกไปจากที่นี่เมื่อตอนกลางวันเหรอ?”เขาเองก็กลัวว่าเธอจะเบื่อเกินไปเช่นกันแองเจลีนต้องการหนีออกไปเมื่อตอนกลางวัน แต่เธอได้เปลี่ยนความคิดแล้ว เหตุผลเดียวที่เธอต้องการออกไปจากที่นี่เป็นเพราะเธอต้องการไปส่งเสริมสินค้าขององค์การเซเวียร์เท่านั้นแทนที่จะวิ่งไปรอบ ๆ และร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันจะเป็นการดีกว่าถ้าเธอจะตอบแทนผู้สนับสนุนทางการเงินอยู่ที่นี่… เธอจะตามตื๊อเจย์ด้วยการแนะนำสินค้าขององค์กรเซเวียร์อย่างกระตือรือร้นทุกวัน เมื่อเขาเริ่มเบื่อหน่ายเธอ เขาจะได้ปล่อยเธอไปหรือไม่ก็ยอมรับข้อเสนอทางการขายของเธอนี่เป็น
เจย์มองใบหน้าที่แสนหงุดหงิดของเธอ เขาหยิบสมุดจดนั้นกลับมาและมองมันอย่างละเอียดเอ่อ แม้ว่าเขาจะคิดว่าปริมาณนี้มากไปหน่อย อย่างไรก็ตาม คนที่รูปร่างสูงใหญ่เช่นเขาเองก็ไม่สามารถกินอาหารปริมาณขนาดนี้ได้ แองเจลีนพูดอย่างฉุนเฉียว “ยังไงก็เถอะ ฉันจะไม่กินเยอะขนาดนี้”เธอแสดงท่าทางสลดใจและสิ้นหวังเมื่อเจย์ได้เห็น เขาทำได้เพียงแค่ประนีประนอม “กินข้าวเช้าก่อน”แองเจลีนมองดูนมถั่วเหลืองในมือ “ฉันอยากกินนมถั่วเหลือง”“ฉันดื่มไปแล้ว” เขาตอบ“ก่อนหน้านี้เราไม่ได้จูบกันมาหลายครั้งแล้วหรอกเหรอ? ฉันไม่ถือสาหรอก” แองเจลีนกล่าวเจย์ “...”เจย์ดันแก้วนมถั่วเหลืองให้เธอ ในขณะที่แองเจลีนก็ส่งแก้วนมแพะให้กับเขาแองเจลีนมัวแต่คิดถึงการนำเสนอแผนงานให้กับเขา เพราะเช่นนี้ เธอจึงได้ดื่มนมถั่วเหลืองหมดอย่างรวดเร็วภายในอึกเดียว แล้วเธอก็พูดอย่างจริงใจกับเจย์ว่า “ท่านอาเรส ฉันสามารถนำเสนอแผนงานให้กับนายตอนนี้ได้เลยไหม?”เจย์เหลือบมองสเต็กที่ยังไม่ได้แตะบนจานของเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง“เราจะคุยกันหลังมื้อเช้า”แองเจลีนโกรธอย่างมากจากนั้นเธอก็ตักสเต็กเข้าปาก แต่ก่อนที่เธอจะตักทุกอย่างเสร็จ เจย์ก็กินเสร็จ
สายตาของเจย์ตกไปอยู่ที่เวลาของงานบนการ์ดเชิญและเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าฉันต้องปล่อยเธอไป”ฟินน์พูดต่อ “ท่านประธานอาเรสครับ ผมได้ยินข่าวลือมาว่าตระกูลไททัสจะใช้งานแต่งงานนี้เพื่อที่ตั้งใจจะทำให้ตระกูลเซเวียร์ต้องอับอาย และทำให้ตระกูลเซเวียร์สูญเสียความน่าเชื่อถือของผู้คนไป ถ้าหากว่าแผนการของตระกูลไททัสสำเร็จ สถานการณ์ของตระกูลเซเวียร์จะยิ่งแย่ลงไปอีกนะครับ”เจย์วางการ์ดเชิญลงบนฝ่ามือของเขาและขยำมันจนแน่น ริมฝีปากบางของเขาเย้ยหยันอย่างชั่วร้าย “โยเซมิตี ไททัส คิดว่าเขาสามารถจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และเลิศหรูให้กับลูกสาวของตัวเองได้ เพราะตระกูลของเขาเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ เขาคิดว่าในเมื่อตอนนี้ตระกูลเซเวียร์ขัดสน ตระกูลนั้นก็ทำได้เพียงรอรับความเมตตาจากเขาเท่านั้น ถ้าหากเขาต้องการให้ตระกูลเซเวียร์เป็นจุดสนใจละก็ เขาต้องมาถามฉันว่าอนุญาตหรือเปล่า”ฟินน์คาดเดาได้ว่าท่านประธานอาเรสจะไม่ยอมนิ่งเฉยกับเรื่องนี้อย่างแน่นอนเจย์พูดต่อว่า “แองเจลีนอยู่ภายใต้การรับผิดชอบขององค์กรเซเวียร์และได้เกี่ยวพันกับองค์กรนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม ฉันจะปล่อยให้องค์กรไททัสที่ต่ำทรามมาฉีกหน้าเธอ
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของแองเจลีนก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงในทันที เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดว่า ตระกูลไททัสจะต้องจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และเลิศหรูเพื่อลูกสาวของพวกเขาอย่างแน่ แต่พวกเรา ตระกูลเซเวียร์… แม้กระทั่งตอนนี้ เรายังต้องประหยัดกับอาหารทั้งสามมื้อของเรา ฉันเกรงว่างานแต่งงานนี้จะกระจอกงอกง่อยมากจนทำให้คนหัวเราะเยาะพวกเราน่ะสิ แล้วเมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนก็จะรู้ว่าองค์กรเซเวียร์ไม่มีกำลังซื้อภายในประเทศเลย แล้วใครจะกล้าทำธุรกิจกับพวกเราล่ะ”เจย์พูดอย่างเหน็บแนมว่า “น้องชายของเธอดูเหมือนเด็กน้อยตั้งแต่เขายังเด็ก มันไม่คุ้มค่าหรอกที่ตระกูลเซเวียร์ทุ่มงบเพื่องานแต่งงานของเขา นอกจากนี้ ยูมิ ไททัสก็เป็นสาวแก่แล้ว เธอควรจะเป็นคนออกเอง”แองเจลีน “...”เธอพูดอย่างโมโห “หมายความว่ายังไง? คุณกำลังบอกว่าน้องชายของฉันถูกเก็บไปเป็นคนรักของสาวแก่ที่แสนจะร่ำรวยงั้นเหรอ?แล้วเธอก็ละล่ำละลักจากการที่สูญเสียความมั่นใจไป “แม้ว่าจะเป็นความจริง แค่เพียงเพราะเขาไร้ยางอาย ไม่ได้หมายความว่าตระกูลเซเวียร์จะไร้ยางอายนะ!”เจย์ตอบ “โอเค ถ้าเธอไม่ต้องการให้น้องชายของเธอหลายเป็นตัวตลก เธอจะเตรียมงานแต่งงานนี้ให้เข
แองเจลีนรู้สึกโกรธจัด “ฉันไม่ตกลงที่จะเป็นเมียเก็บของนาย ช่างเถอะ นี่มันเป็นการดูถูกกันเกินไป”เธอโมโหมากจนเธอสบถออกมาเจย์จ้องมองใบหน้าที่เศร้าสลดของเธอ เขารู้ดีว่าการทำเช่นนี้จะทำร้ายคุณค่าในตัวของเธอแต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำได้เพียงใช้สัญญาความสัมพันธ์นี้เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการและเพื่อให้ความปลอดภัยกับเธอเท่านั้น“เธอไม่ต้องการเงินเหรอ?” เขาพูดอย่างหลอกล่อเธอตอบอย่างขุ่นเคืองว่า “ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ยังไงก็ตาม ตระกูลเซเวียร์ก็ใกล้จะล้มละลายแล้ว ยังจะมีอะไรที่เลวร้ายไปมากกว่านี้อีกล่ะ?”รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของเจย์“เธอไม่ได้เป็นคนพูดว่าเธอจะนอนกับผู้ชายหลากหน้าหลายตาเมื่อวันก่อนเหรอ? แล้วทำไมไม่เอาอีกสักคนล่ะ?” เขาพูดอย่างทีเล่นทีจริงแองเจลีนกัดฟันและจ้องมาที่เขาอย่างเดือดดาล สายตาของเธอดุดันมากราวกับว่าเธอต้องการจะกินเขาเข้าไป“ตัวเลือกคู่นอนของฉันก็ขึ้นอยู่กับคนนั้น ๆ ด้วย”จากนั้นเธอก็กวาดสายตามองเจย์ด้วยความเหยียดหยามและแสดงท่าทีเมินเฉยอย่างจงใจ “ชายแก่อย่างนายที่มีขาไม่สมประกอบไม่ถูกชะตาฉันหรอก”เจย์ “...”ชายแก่… เขาแก่ขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?“หลังจากเซ็
เจย์กำลังปิดบังอะไรเธอหรือเปล่านะ?เธอไม่เคยเห็นเขาตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน! ยิ่งไปกว่านั้น ฟินน์ที่ซึ่งปกติจะเป็นคนสงบนิ่ง ก็ตกใจมากจนเดินตรง ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นกันนะ?เจย์ฟังคำบอกเล่าของฟินน์ด้วยท่าทางเย็นชาขณะอยู่บนรถโรลส์-รอยซ์“คนของเราได้กำลังเฝ้าดูบ้านไร่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาเห็นเฮลิคอปเตอร์ 12 ลำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน เฮลิคอปเตอร์ถูกเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด และบินโฉบไปมาประมาณสิบนาทีก่อนจากไปครับ”“ในตอนนั้น คนของเราสังเกตเห็นว่ามันผิดปกติ เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปในบ้านไร่ พวกเขาพบว่าครอบครัวนั้นได้หายตัวไปแล้วครับ”ฟินน์หยุดพูดไปสักพัก “ท่านประธานอาเรส คนของเราพบตัวอักษรสีแดงสองตัว ‘DF’ ที่ประตูครับ”เจย์ชะงักไปเล็กน้อย “DF?”ความตกใจสุดขีดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาโดยทันที “ตายสี่!”สีหน้าของฟินน์เปลี่ยนไป “ครอบครัวนั้น รวมทั้งเด็กในท้องของหญิงสาวตั้งครรภ์คนนั้น มีกันสี่คนพอดี”“คนของเราอยู่ที่ไหน?” เจย์ถามเสียงเข้มฟินน์พูดอย่างหวาดหวั่นว่า “คนของเราถอยออกไปแล้วหลังจากที่ภายในบ้านว่างเปล่าครับ”ใบหน้าที่หล่อเหลาของเจย์เปลี
ท่าทีของเจย์นั้นเคร่งขรึม คนพวกนี้ต้องเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จึงจะสามารถประดิษฐ์อาวุธอันชาญฉลาดที่ถูกซ่อนเอาไว้เช่นนี้ได้หลังจากออกมาจากบ้านไร่ เจย์ก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวล“ฟินน์ ไปที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน” เจย์มีความรู้สึกไม่ดีว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กับใกล้กับอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน“ครับ” ฟินน์ตอบรับรถโรลส์-รอยซ์ก็ได้มาถึงที่ชาโตว์ เดอ เซลีนของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนภายในเวลาไม่นานถัดจากสวนกลางภายในปราสาท คุณท่านปู่อาเรสกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังหลับตาพักผ่อนอยู่“คุณท่านปู่อาเรส นายน้อยอาเรสอยู่ที่นี่แล้วครับ” การ์ดส่วนตัวของเขาเดินมาเบื้องหน้าเขาและพูดด้วยความเคารพคุณท่านปู่อาเรสก็ลืมตานกอินทรีคู่นี้ของเขาที่ล้อมรอบด้วยอากาศเย็นขึ้นทันที“ทำไมเขาถึงกลับมาในเวลาแบบนี้?” คุณท่านปู่อาเรสโกรธ“คุณท่านปู่อาเรส ท่านจะตัดขาดนายน้อยอาเรสตลอดไปจริงเหรอครับ?”ดวงตาของคุณท่านปู่อาเรสเต็มไปด้วยความลังเลใจ“คุณท่านปู่อาเรสรักเพียงแค่นาสน้อยอาเรส แต่ผมเกรงว่านายน้อยอาเรสจะยังเกลียดคุณอยู่ในตอนนี้น่ะครับ” การ์ดส่วนตัวของเขากล่าว“ไม่เป็นไรหรอก