แองเจลีนรู้สึกโกรธจัด “ฉันไม่ตกลงที่จะเป็นเมียเก็บของนาย ช่างเถอะ นี่มันเป็นการดูถูกกันเกินไป”เธอโมโหมากจนเธอสบถออกมาเจย์จ้องมองใบหน้าที่เศร้าสลดของเธอ เขารู้ดีว่าการทำเช่นนี้จะทำร้ายคุณค่าในตัวของเธอแต่อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำได้เพียงใช้สัญญาความสัมพันธ์นี้เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการและเพื่อให้ความปลอดภัยกับเธอเท่านั้น“เธอไม่ต้องการเงินเหรอ?” เขาพูดอย่างหลอกล่อเธอตอบอย่างขุ่นเคืองว่า “ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ยังไงก็ตาม ตระกูลเซเวียร์ก็ใกล้จะล้มละลายแล้ว ยังจะมีอะไรที่เลวร้ายไปมากกว่านี้อีกล่ะ?”รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของเจย์“เธอไม่ได้เป็นคนพูดว่าเธอจะนอนกับผู้ชายหลากหน้าหลายตาเมื่อวันก่อนเหรอ? แล้วทำไมไม่เอาอีกสักคนล่ะ?” เขาพูดอย่างทีเล่นทีจริงแองเจลีนกัดฟันและจ้องมาที่เขาอย่างเดือดดาล สายตาของเธอดุดันมากราวกับว่าเธอต้องการจะกินเขาเข้าไป“ตัวเลือกคู่นอนของฉันก็ขึ้นอยู่กับคนนั้น ๆ ด้วย”จากนั้นเธอก็กวาดสายตามองเจย์ด้วยความเหยียดหยามและแสดงท่าทีเมินเฉยอย่างจงใจ “ชายแก่อย่างนายที่มีขาไม่สมประกอบไม่ถูกชะตาฉันหรอก”เจย์ “...”ชายแก่… เขาแก่ขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?“หลังจากเซ็
เจย์กำลังปิดบังอะไรเธอหรือเปล่านะ?เธอไม่เคยเห็นเขาตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน! ยิ่งไปกว่านั้น ฟินน์ที่ซึ่งปกติจะเป็นคนสงบนิ่ง ก็ตกใจมากจนเดินตรง ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นกันนะ?เจย์ฟังคำบอกเล่าของฟินน์ด้วยท่าทางเย็นชาขณะอยู่บนรถโรลส์-รอยซ์“คนของเราได้กำลังเฝ้าดูบ้านไร่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาเห็นเฮลิคอปเตอร์ 12 ลำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอย่างกะทันหัน เฮลิคอปเตอร์ถูกเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด และบินโฉบไปมาประมาณสิบนาทีก่อนจากไปครับ”“ในตอนนั้น คนของเราสังเกตเห็นว่ามันผิดปกติ เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปในบ้านไร่ พวกเขาพบว่าครอบครัวนั้นได้หายตัวไปแล้วครับ”ฟินน์หยุดพูดไปสักพัก “ท่านประธานอาเรส คนของเราพบตัวอักษรสีแดงสองตัว ‘DF’ ที่ประตูครับ”เจย์ชะงักไปเล็กน้อย “DF?”ความตกใจสุดขีดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาโดยทันที “ตายสี่!”สีหน้าของฟินน์เปลี่ยนไป “ครอบครัวนั้น รวมทั้งเด็กในท้องของหญิงสาวตั้งครรภ์คนนั้น มีกันสี่คนพอดี”“คนของเราอยู่ที่ไหน?” เจย์ถามเสียงเข้มฟินน์พูดอย่างหวาดหวั่นว่า “คนของเราถอยออกไปแล้วหลังจากที่ภายในบ้านว่างเปล่าครับ”ใบหน้าที่หล่อเหลาของเจย์เปลี
ท่าทีของเจย์นั้นเคร่งขรึม คนพวกนี้ต้องเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จึงจะสามารถประดิษฐ์อาวุธอันชาญฉลาดที่ถูกซ่อนเอาไว้เช่นนี้ได้หลังจากออกมาจากบ้านไร่ เจย์ก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวล“ฟินน์ ไปที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน” เจย์มีความรู้สึกไม่ดีว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กับใกล้กับอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน“ครับ” ฟินน์ตอบรับรถโรลส์-รอยซ์ก็ได้มาถึงที่ชาโตว์ เดอ เซลีนของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนภายในเวลาไม่นานถัดจากสวนกลางภายในปราสาท คุณท่านปู่อาเรสกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนหลังหลับตาพักผ่อนอยู่“คุณท่านปู่อาเรส นายน้อยอาเรสอยู่ที่นี่แล้วครับ” การ์ดส่วนตัวของเขาเดินมาเบื้องหน้าเขาและพูดด้วยความเคารพคุณท่านปู่อาเรสก็ลืมตานกอินทรีคู่นี้ของเขาที่ล้อมรอบด้วยอากาศเย็นขึ้นทันที“ทำไมเขาถึงกลับมาในเวลาแบบนี้?” คุณท่านปู่อาเรสโกรธ“คุณท่านปู่อาเรส ท่านจะตัดขาดนายน้อยอาเรสตลอดไปจริงเหรอครับ?”ดวงตาของคุณท่านปู่อาเรสเต็มไปด้วยความลังเลใจ“คุณท่านปู่อาเรสรักเพียงแค่นาสน้อยอาเรส แต่ผมเกรงว่านายน้อยอาเรสจะยังเกลียดคุณอยู่ในตอนนี้น่ะครับ” การ์ดส่วนตัวของเขากล่าว“ไม่เป็นไรหรอก
เจย์พูดอย่างนอบน้อมว่า “ผมไม่รู้อะไรเยอะนักหรอก แต่ผมรู้ทั้งหมดเท่าที่ผมควรจะรู้”เจย์เว้นช่วงไปครู่หนึ่ง “ผมรู้ว่าตระกูลอาเรสได้ทำให้เจ้าแห่งสงครามโกรธเคืองในสงครามโลกครั้งนั้น แม่ทัพสูงสุดของกองบัญชาการโลกาวินาศ ซึ่งมีนามสกุลว่า ยอร์กขาหายตัวไปหลังสงครามโลก แต่ไม่นานหลังจากนั้น องค์กรลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นไปทั่วโลก องค์กรพวกนั้นสามารถถูกเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งความตาย พวกเขาสร้างปัญหาไปทั่วโลก และการสังหารหมู่ก็คือรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์สะดุดตาของพวกเขาพวกเขาเป็นกลุ่มคนเชี่ยวชาญที่เดินผ่านยามค่ำคืนที่มืดมิด! พวกเขาเป็นปีศาจที่แสนจะน่ากลัวและสยองขวัญ! เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ทุกประเทศต้องการจะเปิดโปงที่อยู่อาศัยของพวกเขา แต่ไม่มีใครเคยทำสำเร็จเลย”คุณท่านปู่อาเรสพูดอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อนายรู้ทุกอย่างแล้ว นายกลับมาทำไม?”เจย์ถอนหายใจยาวและพูดอย่างเศร้า ๆ “ช่วงนี้ผมกำลังคิดว่า คุณปู่ได้เทความรู้สึกแบบไหนให้กับผมกันแน่?“คุณปู่ได้ฝึกผมให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลอาเรสที่ดีที่สุด แต่ก็จงใจส่งคนมาตัดแข้งตัดขาของผมและกีดกันผมที่มีฐานะเป็นผู้มีอำนาจในองค์กรอาเรสเวลาผมอยู่ในสถานการณ์วิกฤตอย
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เจย์ก็เรียกฟินน์ให้เข้ามา“อีกไม่นาน เมืองอิมพีเรียลจะกลายเป็นสนามรบสำหรับตระกูลอาเรสกับองค์กรลึกลับนั้น” เจย์พูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมใบหน้าที่รูปงามของฟินน์ก็มีรอยยิ้ม ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้“ท่านประธานอาเรส มันต้องมีทางครับ!”เจย์พูดว่า “พวกเราได้ฟาดฟันกับพวกเขาแล้ว และภูตผีของพวกเราก็พ่ายแพ้อย่างยับเยิน ฟินน์ นายอย่าได้เชื่อในเรื่องโชคนักเลย”“ครับ ท่านประธานอาเรส”“ฉันอยากให้พวกนายพาเด็ก ๆ และออกจากเมืองอิมพีเรียลไปซะ”ฟินน์พูดอย่างกังวลว่า “ภรรยาของคุณจะไม่สงสัยเหรอครับถ้าพาเด็ก ๆ ออกไปในเวลาแบบนี้?”เจย์เคาะนิ้วของเขาลงบนโต๊ะทำงานในขณะที่ท่าทางของเขาดูมั่นใจ “เด็กสามคนจะถูกส่งไปทีละคน และไปคนละที่กัน เจนสันเป็นคนอ่อนไหวเกินไป เขาต้องไปก่อนเป็นคนแรก ฉันคิดเหตุผลที่จะให้เขาไปออกแล้ว จากนี้ไป เด็กสามคนนี้จะได้รับการดูแลจากทีมภูตผี”มีน้ำตาเอ่อปรากฏขึ้นในดวงตาของเจย์ “เจนสันเป็นคนเงียบขรึม ให้เทมเพสที่เป็นคนร่าเริงดูแลเขา ร็อบบี้น้อยเป็นคนไร้เดียงสา ดังนั้นให้สตอร์มที่มีประสบการณ์ในโลกนี้สอนเขาสักหน่อย แล้วก็สำหรับเซ็ตตี้น้อย ฉันเกรงว่าฉันจะต้องรบกวนนาย
ดวงตาคล้ายกวางคู่นั้นกระพริบปริบ ๆ มันใสราวกับฤดูใบไม้ผลิที่ไร้ฝุ่น“นี่เธอยั่วยวนฉันเหรอ?”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแต่กระนั้นเอง แองเจลีนก็เหยียดแขนไปคล้องคอของเขาและลูบใบหน้าที่เย็นกว่าประติมากรรมน้ำแข็งของเขาอย่างไม่เกรงกลัว “ท่านอาเรส มองฉันสิ”เธอหันใบหน้าที่เย็นชาและหล่อเหลาของเขามาที่เธอ สายตาของเจย์ตกไปที่ต้นคอของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และลูกกระเดือกที่เย้ายวนของเขาก็กระเพื่อมนี่มันก็เป็นแค่การกวนประสาท!“ออกไป” เขาสั่งแองเจลีนอึ้งไปเล็กน้อย ความผิดหวังฉายออกมาผ่านดวงตาของเธอ แต่มันก็หายวับไป แล้วเธอก็กลับมาแสดงท่าทีเย่อหยิ่งของเธอ “ท่านอาเรส นายไม่ได้อยากให้ฉันเป็นคนรักของนายหรอกเหรอ? ห้าพันล้านสำหรับเงินเดือนหนึ่งเดือน… นายคงไม่อยากจะแพ้นักหรอกใช่ไหม?”เจย์เงียบจริง ๆ แล้วเขาต้องการเธอแทบบ้าอย่างไม่ต้องสนใจสิ่งใด แต่เขากลัวว่าเธอจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้ในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คงไม่ได้ฉลาดนักเมื่อเขาถูกกระตุ้นและพร้อมที่จะเปิดเผยความรักของเขาออกมา“ไม่จำเป็น” เขาระงับความต้องการของร่างกายของเขาอย่างหมดท่า“ท่าอาเรส พวกเราตระกูลเซเวียร์เป็นนักธุรกิจที่ซื่อตรง
“เมื่อนายเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ฉันหวังว่าฉันจะสามารถเป็นต้นฝ้ายที่ยืนเคียงข้างนาย ฉันต้องการเป็นกำลังของนาย คอยสนับสนุนนายอย่างกล้าหาญเมื่อนายเผชิญกับบททดสอบต่าง ๆ และยังคงมอบไหล่ให้นายได้เอนพิงแทนที่จะกลายเป็นตัวภาระ ฉันอยากให้นายคิดเสมอว่านายจะปกป้องฉันในที่ที่ปลอดภัยได้ยังไง”“นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม? ไม่ว่าจะขมขื่นหรือหวานชื่น ฉันแค่อยากจะแบ่งเบาภาระกับคนที่ฉันรัก”...เจย์จ้องมองไปที่แองเจลีนอย่างว่างเปล่า จู่ ๆ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เขาวางไว้ในมือก็เติบโตขึ้นอย่างไม่คาดคิดเธอกลายเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบ แข็งแกร่ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ และไม่เกรงกลัวความทุกข์ทรมานลำคอของเขาติดขัดและเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานานแองเจลีนพูดอีกครั้งว่า “ถ้านายมีปัญหาอะไรแต่ไม่เต็มใจที่จะเล่าให้ฉันฟัง ฉันจะรู้สึกว่านายไม่เชื่อใจฉันมากพอ หรือไม่ก็ฉันไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นภรรยาของนายได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันก็เลือกที่จะทิ้งนายไปนะ”หลังจากหยุดไปพักหนึ่ง ดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีแดงก่ำ แต่ละคำและแต่ละประโยคนั้นล้วนมีพลัง “ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดที่ต้องทิ้งนายไป แต่ฉันจะทิ้งนายและไม่มีวันให้โอกา
ในอดีต เธอคงจะพูดแค่ว่าที่เธออารมณ์เสียเป็นเพราะเขาตามใจเธอ อารมณ์เสียนี่กลายเป็นเรื่องปกติในตอนนี้แล้วงั้นเหรอ?เธอจะทิ้งอดีตของพวกเขาจริง ๆ ใช่ไหม?ฟินนขึ้นมายังชั้นบนและพูดว่า “ท่านประธานอาเรส รถพร้อมแล้วครับ”เจย์พยักหน้า “ไปกันเถอะ”แองเจลีน เซเวียร์กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ท่านอาเรส ได้โปรดหยุดเถอะ”เธอปฏิเสธที่จะให้เขาไปส่งเธอเจย์จ้องเธออย่างชั่วร้าย “เธอจะเอาแบบนี้ใช่ไหม?”แองเจลีนกล่าว “ฉันจะจำสัญญาของฉันกับท่านอาเรส ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ท่านอาเรสต้องการอะไรในเรื่องนั้น ฉันจะพร้อม แต่ในเวลาอื่น ๆ ฉันหวังว่าเราจะมีเวลาส่วนตัวบ้าง!”“แองเจลีน เซเวียร์”จู่ ๆ เจย์ก็พูดอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่มีอะไรจะสารภาพ สิ่งที่เรียกว่าความยากลำบากที่พูดไม่ได้พวกนั้นก็เป็นแค่การคาดเดาของเธอ และ-”ปากบาง ๆ ของเจย์ก็ยกขึ้น และหลังจากที่ได้พูดและทำไปหมดแล้ว เขาจึงพูดคำพูดที่โหดร้ายที่ซ่อนอยู่ในใจของเขาออกมา“วิธีที่เธอทดสอบความรักของเราเมื่อคืนก่อนมันหยาบคาย เธอต้องรู้ว่าผู้ชายแตกต่างจากผู้หญิงนะ ผู้ชายสามารถแยกเซ็กส์ออกจากความรักได้ แต่ผู้หญิงไม่ พูดให้ตรงคือ เธอแยกไม่ได้”ดูเหมือนว่าเขากำ