เจย์เดือดดาล “แองเจลีนเธอมันหน้าด้านมาก”เขาเสียสติ เขาจับข้อมือลองเธอและลากเธอเข้าไปในห้องนอนห้องข้าง ๆ แองเจลีนงุนงง เขาอยู่บนรถเข็น เขามีออร่าที่รุนแรงมากเช่นนี้ได้อย่างไร?“ปล่อยฉันนะ” แองเจลีนดิ้นรนที่จะออกจากเงื้อมมือของเขา วินาทีต่อมา มือของของเธอถึงตรึงไว้บนเสาเตียงเจย์มองเธออย่างเดือดดาล “เด็กเลวนี่เป็นลูกของใคร?”แองเจลีนเห็นถึงความบ้าคลั่งในแววตาของเขา จู่ ๆ เธอก็หัวเราออกมาอย่างไร้กังวล “ท่านอาเรส อย่าบอกนะว่าคุณยังคงกังวงลเรื่องของฉัน ฉันควรทำไงดี? มีผู้ชายมากมายที่ฉันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเด็กคนนี้เป็นของลูกใคร”เจย์อยากจะบีบคอเธอให้ตาย อย่างไรก็ตาม เขาจำได้ว่าคอของเธออ่อนไหวมาก เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่เธอกำลังอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงเมื่อกี้ เขาก็ใจอ่อนเขาทำแบบนั้นกับเธอไม่ได้อีกแล้วเขาดึงมือกลับ “แองเจลีน เธอวอนเองนะ” เขากล่าวอย่างโกรธเคืองแองเจลีนหัวเราคิกคักอย่างเฉยเมย “ท่านอาเรส คุณคิดว่าเด็กคนนี้เป็นของคุณใช่ไหม? อย่าลืมสิว่า เราก็ทำแบบนั้นด้วยเหมือนกัน?”เจย์มองเธอด้วยสีหน้าเย็นชาแองเจลีนกำลังยิ้มอย่างสดใส อย่างไรก็ตาม หัวใจของเธอกำลังกระโจนออกจากปาก เธ
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว เธอมีลูกไม่ได้อีกแล้ว” เจย์เปิดโปงการแสดงของเธอแองเจลีนมองเขาด้วยความประหลาดใจ จู่ ๆ เธอก็นึกถึงตอนที่เธอถูกพ่อและลูกสาวคู่หูตระกูลเบลทำร้าย มดลูกของเธอได้รับความเสียหายและเธอสูญเสียศักยภาพที่จะมีลูก“งั้น… ทำไมฉันถึงอ้วกล่ะ?” แองเจลีนสับสนเจย์มองดูความจริงจังในสายจาของเธอ และรู้สึกได้ถึงหัวใจของเขาบีบคั้นผู้หญิงคนนี้ดูไม่เหมือนว่าเธอโกหกเขาส่งข้อความหาฟินน์ ‘พาหมอสูตินรีแพทย์มาเดี๋ยวนี้’แองเจลีนยังคงอาเจียน ตอนนี้ เธอกำลังนอนลงบนเตียงอย่างสิ้นหวัง หน้าของเธอดูบางและซีด ดูซีดเผือด“มันเป็นมะเร็งใช่ไหม?”“มะเร็งลำไส้?”“มะเร็งกระเพาะอาหาร?”เธอเริ่มคิดมาก“ไม่นะ ทำไมความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่ฉันมีเจนสันและลูก ๆ ล่ะ?”…เจย์ขมวดคิ้วก่อนที่จะหันหลังจากไปหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาพร้อมกับบ๊วยเปรี้ยวแพ็คหนึ่งเขาโดยมันให้กับเธอและพูดว่า “กินเท่าที่จะเป็น”เมื่อแองเจลีนเห็นบ๊วยเปรี้ยว ตาของเธอจึงเป็นประกายขึ้น“ขอบคุณ”เธอลุกขึ้นนั่งและเปิดห่อนั้น หลังจากนั้น เธอจึงเริ่มกินบ๊วยเจย์ดูขณะที่เธอกินบ๊วยนั่นคำต่อคำอย่างรวดเร็ว มีนัยของความ
แองเจลีนจงใจทำเสียงดังด้วยกุญแจมือ แต่หญิงแก่คนนั้นกลับไม่ได้ยินเธอ หล่อนกำลังตั้งสมาธิกับการตรวจชีพจนของเธอเท่านั้นแองเจลีนสรุปว่าหมอคนนี้ต้องเข้าข้างคนชั่วแน่ หล่อนเป็นหมอที่ไม่มีจรรยาบรรณหลังจากนั้น เธอเริ่มทำตัวหยาบคายกับหญิงแก่คนนั้น เธอจงใจทำให้สร้างความลำบากให้กับหล่อน“หมอ ปกติพวกเขาจะวัดชีพจรด้วยมือขวาไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงใช้มือซ้าย?”เธอไม่เข้าใจอะไรเลยเรื่องการแพทย์ เธอก็แค่เอะอะโวยวายหมอคนนั้นมองเธอและยิ้มอย่างมีเมตตา “สายตาของหญิงสาวคนนี้สดใสและมีพลังงานเต็มเปี่ยม เธอดูไม่เหมือนกับเธอป่วยทางจิตเลยนะ”แองเจลีนจ้องเจย์อย่างเดือดดาลใบหน้าของเจย์เป็นเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง หลังจากนั้น แองเจลีนจ้องไปที่ฟินที่กำลังยืนอยู่อีกด้านหนึ่งกลายเป็นว่าสองคนนี้โกหกหญิงแกคนนี้โดยบอกว่าเธอป่วยทางจิต ไม่แปลกใจที่หญิงแก่คนนั้นไม่ตอบสนองกับสถานการณ์ที่เธอเป็นอยู่หลังจากหญิงแกคนนั้นตรวจชีพจรของเธอ หล่อนมองไปที่แองเจลีนเหมือนกับที่คนคนหนึ่งมองดูความอ่อนแอและเปราะบาง หลังจากนั้น หล่อนลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเจย์“นายท่านอาเรส ไปคุยกันข้างนอกเถอะ”เจย์เห็นว่าหญิงแก่คนนั้นมีสีหน้าข
เช้าวันต่อมา แองเจลีนหลับจนกระทั่งถึงตอนเที่ยงก่อนที่จะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเตือนใจเธอในทันทีว่าเธอถูกเจย์ลักพาตัวมาอย่างไรก็ตาม กุญแจมือที่มือของเธอถูกปลดแล้ว แองเจลีนลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เจย์ปล่อยเธอเป็นอิสระแล้วใช่ไหม?เธอกระโดดออกจากเตียงและเดินออกประตูไปอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เดินเท้าเปล่าห้องนั่งเล่นด้านนอกห้องนอนนั้นว่างเปล่า แสงในห้องมืดมาก ดังนั้นแองเจลีนจึงไม่สามารถเห็นได้ว่าทางออกอยู่ที่ไหน เธอยืนด้วยความงุนงงกลางห้องนั่งเล่นในครั้งนี้ เธอได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากชั้นล่าง “พัสดุ!”หลังจากนั้น ฟินน์ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ “พระเจ้าช่วย! ท่านประธานจะเปิดร้านขายของใช้เด็กทารกหรือไง?”แองเจลีนรู้สึกราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า เธอท้องจริง ๆ ใช่ไหม? เจย์ซื้อผลิตภัณฑ์ของแม่และเด็กทารกให้เธอด้วยงั้นเหรอ?เธอส่ายหน้าและคร่ำครวญ ผู้ชายคนนี้คงจะไม่ใจดีแบบนั้น“เธอตื่นแล้ว” เสียงที่เยือกเย็นของเจย์ดังมาจากด้านหลังเธอแองเจลีนรู้สึกเหมือนเธอถูกจับติด เธอตัวสั่นและหันหลังมองไปที่เจย์ด้วยความรู้สึกผิด“ท่านอาเรส ฉันไปได้แล้วใช่ไหมตอนนี้?” เธอคิดตั้งแต่ที่เขาไ
เจย์เดินไปที่ตู้เย็นและหยิบห่อผงโปรไบโอติกให้เธอ เขาใส่มันลงในแก้วน้ำอุ่นและกลับไปหาเธอ“ดื่มนี่”แองเจลีนดื่มโปรไบโอติดและพูดเชิงขอโทษว่า “ฉันขอโทษนะ ท่านอาเรส มันยากที่คุณจะเข้าใจแต่ฉันก็ยังสร้างปัญหาให้กับคุณตั้งมากมาย”เจย์พูดไม่ออก เขาตอบกลับอย่างเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”แองเจลีนพูดด้วยความจริงใจมากยิ่งขึ้น “แขนขาของฉันทั้งสี่สบายดี แต่ฉันขอให้คนพิการคนหนึ่งมารับใช้ฉัน ฉันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง”เจย์ “...”“มือของฉันก็ปกติดี” เขากล่าวด้วยความคับข้องใจแองเจลีนได้ยินการกัดฟันของเขาก่อนที่ในที่สุดก็รู้ตัวว่าเธอได้พูดผิดไป “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันก็แค่พูดว่าขาของนายไม่ทำงาน”สีหน้าของเจย์เริ่มเย็นชาอะไรจะทำให้เจ็บปวดไปกว่าคนรักของชีวิตคุณกำลังเทเกลือลงบนแผล?แองเจลีนหุบปากและกัดลิ้นของเธอ เธอควรจะพูดอะไรผิดไปในตอนที่เธอรู้สึกประหม่าหลังจากมื้ออาหารเช้า คนรับใช้ก็เขามาทำความสะอาดโต๊ะแองเจลีนกินมากเกินไปและไม่อยากขยับตัวเจย์นั่งบนที่นั่งของเขาและมองดูเธออย่าเงียบ ๆ“เธอท้อง” เขาประกาศคิ้วของแองเจลีนบิดเบี้ยวว่าแล้วเชียว!เธอรู้สึกประหม่าเมื่อจู่ ๆ เจย์ก็อย
เจย์รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเมื่อเห็นสายตาของเธอจ้องเขม็งมาที่เขา แล้วเธอก็นั่งลงอย่างรู้สึกผิดเจย์ประกาศอย่างเด็ดเดี่ยว “ฉันตัดสินใจแล้ว”แล้วเขาก็เข็นรถเข็นออกไปแองเจลีนร้องออกมาอย่างโมโห “อ๊า!”เมื่อเวลาเธอได้ระบายความโมโหออกมาเช่นนี้ เธอตะเบ็งเสียงออกมาอย่างสุดเสียงและมันก็ทำให้เธอเจ็บคอ จากนั้นเธอก็รู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งเจย์เห็นเธอนำมือขึ้นมาปิดปาก แล้วรีบวิ่งผ่านเขาไปยังห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเธออาเจียนออกมาอย่างไม่หยุดเธออยู่ในนั้นนานพอสมควรเขาค่อย ๆ นั่งลงบนรถเข็น และเกิดความรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาการมองเห็นเธอทรมานเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกผิดที่ขอให้เธอคลอดเด็กคนนี้ออกมาเมื่อเวลาใกล้เที่ยง แองเจลีนก็สามารถพยุงร่างกายที่เหนื่อยล้าและผอมแห้งออกมาจากห้องน้ำได้สำเร็จ เธอปีนขึ้นไปยังบนเตียงอย่างอ่อนแรงและไร้ซึ่งความแข็งแรงเจย์ส่งแก้วน้ำมะนาวให้กับเธอ “เอานี่ไหม?”แองเจลีนล้มนอนลงบนเตียงและใบหน้าของเธอฟุบลงที่หมอน เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธอยกหัวขึ้นมาจากหมอนพร้อมกับส่ายมือ “เอาออกไป ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”“เธอต้องดื่มมัน” เสียงเขาฟังดูนุ่มนวล แต่ก็ดุดัน
แองเจลีนหยิบเชอร์รี่ขึ้นมา ระหว่างเธอกิน เธอก็บ่นพึมพำพรางน้ำตาคลอไปด้วย “โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว นายทำแบบนี้กับผู้หญิงท้องได้ยังไง”เจย์ถามเธอ “เธอไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรแบบนี้เมื่อตอนเธอท้องเจนกับเด็ก ๆ งั้นเหรอ”แองเจลีนตอบ “ตอนนั้นฉันต้องหนีจากการไล่ตามของนาย ฉันต้องนั่งขดตัวอยู่ในห้องเช่าและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามื้อต่อไปที่ฉันได้จะกินคือเมื่อไหร่ ตอนนั้นฉันวิตกกังวลมาก แล้วก็เป็นเพราะเรี่ยวแรงของฉันไม่คงที่ อาการแพ้ท้องของฉันเลยไม่ค่อยรุนแรงนัก”เจย์รู้สึกละอายใจที่ไม่อาจสามารถแสดงสีหน้าของเขาได้อย่างไรก็ตาม แองเจลีนรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นมาก “ตอนนั้นช่างต่างกับตอนนี้ที่ต้องถูกนายกักขังและบังคับให้กิน นายให้ความสำคัญกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และ ไม่สนใจสิ่งอื่นที่ใหญ่กว่า”เธอสำลักขึ้นขณะที่เธอพูดเจย์ “...”เห็นได้ชัดเจนว่าเธอคือคนเดียวในหัวใจเขา เขาบังคับให้เธอกินเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอผอมไปมากกว่านี้“ฉันจะออกไปข้างนอกบ่ายนี้ เธอบอกแม่บ้านก็แล้วกันว่าเธออยากกินอะไร อย่าอดล่ะ… ที่รัก” เขาเลียที่ริมฝีปาก คำพูดสุดท้ายนั้นเต็มไปด้วยความหมายมากมายแองเจลีนพยักหน้ารัว ๆ
“ผู้ที่เกษียณอายุพวกนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน?” เจย์ถามเกรย์สันตอบ “อยู่ที่บ้านไร่ในชานเมืองทางใต้ของเมืองนี้ครับ”“พาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”“ครับ”เกรย์สันขับรถพาเจย์และฟินน์ไปยังนอกเมือง ระหว่างทาง เจย์รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรง น้อยครั้งนักที่เขาจะมีความรู้สึกตึงเครียดเช่นนี้“เกรย์สัน เร็วหน่อย” เจย์เร่งเกรย์สันขับด้วยความเร็วสูงสุด เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นหลังจากนั้นไม่นาน หลังคากระเบื้องสีดำของบ้านไร่หลังนั้นก็ปรากฏขึ้นเมื่อรถโรลส์-รอยซ์ได้จอดลงที่หน้าบ้านไร่ ข้าวโพดสีทองที่เรียงเป็นแถวทำมุมกับใต้ชายคาของหลังคาบ้านก็สามารถมองเห็นได้จากมุมของพวกเขามีหญิงสาวใบหน้ากลม รูปร่างอวบและมีหน้าท้องยื่นออกมาเล็กน้อยคนหนึ่งกำลังเก็บข้าวโพดที่อยู่ปลายเท้าของเธอเจย์เห็นหญิงสาวมีครรภ์หน้าแดง และดวงตานกอินทรีของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อยหลังจากที่เกรย์สันและฟินน์ลงมาจากรถ เจย์ยังคงมองดูหญิงสาวคนนั้นอยู่ ดูเหมือนเขาจะจมอยู่ในห้วงความคิด“ท่านประธานอาเรส” ฟินน์เปิดประตูรถฝั่งเขาและเรียกอย่างเบา ๆเจย์ละสายตาออกมาและมอบหน้าที่แปลก ๆ ให้ “อีกสักครู่ ฉันต้องการให้นายช่วยฉันถามเธออย่างละเอียดว่าเ