หลังจากวางสาย ใบหน้าที่สง่างามและมีเสน่ห์ของเจย์ก็ปกคลุมไปด้วยเมฆหนาทึบในทันทีแองเจลีนกำลังแสดงอาการหมดหนทางที่จะสวมบทบาทเมื่ออยู่ภายใต้การปราบปรามของคนอื่นในครอบครัวเซเวียร์ทว่า เขาไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใด ๆ กับเธอได้เลยเขาควรจะทำอยังไงดี?หลังจากเงียบไปนาน…“ฟินน์”ฟินน์ตอบและเดินเข้าไป “ครับ ท่านประธานอาเรส”เจย์พูดว่า “เราได้คฤหาสน์ในถนนแอปเปิ้ลแล้วหรือยัง?”“เราได้ดำเนินการตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว ผมยังจ้างคนไปทำความสะอาดและดูแลเรื่องอนามัยในระหว่างวันแล้ว เราทิ้งเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ ทั้งหมดและซื้อใหม่เรียบร้อยแล้วครับ คุณต้องการย้ายเข้าไปโดยเร็วที่สุดเลยไหมครับ ท่านประธานอาเรส?” ฟินน์กล่าวถามเจย์มองเขาอย่างพอใจ “ดีมาก เราจะย้ายเข้าไปคืนนี้เลย”ฟินน์ถึงกับอึ้ง เขาเดาได้ว่าท่านประธานอาเรสตั้งใจจะซื้อคฤหาสน์ของครอบครัวเซเวียร์ แต่ไม่คิดว่าเขาจะย้ายเข้าไปเร็ว ๆ นี้“ตกลงครับ ผมจะไปเอารถ”ในเมืองนางแอ่นเมื่อระหว่างการเสิร์ฟอาหารค่ำ แอนก็จ้องมองอย่างตะลึงกับอาหารโฮมเมดแสนอร่อย“เธอทำเองทั้งหมดนี้จริง ๆ เหรอ?” แอนถามอย่างไม่เชื่อเซ็ตตี้น้อยพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “แน่น
แอนหัวเราะอย่างเขินอาย “เธอรู้ใช่ไหมว่าน้าเซร่าบาดเจ็บอยู่? มันยากสำหรับหล่อนที่จะทำอะไรได้เต็มที่”เซ็ตตี้น้อยอุทานด้วยความไม่พอใจ “หลังจากทุกอย่างที่คุณพูดมา คุณกับน้าเซร่าก็แค่อยากจะขอทานอาหารด้วยใช่ไหม หืม? ให้หนูเตือนคุณนะ อาหารของแม่หนูมีราคาแพงมาก พ่อต้องจ่ายทองให้แม่ 81 ปอนด์หลังจากทานข้าวเลยล่ะหลังจากที่ได้ทานเกี๊ยวซ่าฝีมือที่แม่ทำ”เซ็ตตี้น้อยยังจำเรื่องราว ‘มื้อเดียวเพื่อทองมูลค่าหลักพัน’ ของแม่และพ่อได้แอนตกใจมากจนเกือบลื่นล้มกับพื้น “ทองคำ 81 ปอนด์เหรอ?”เธอจะยอมจ่ายค่าอาหารแพง ๆ แบบนี้ได้อย่างไร?หลังจากสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง แอนก็พูดว่า “ไร้สาระ ทำไมพ่อของเธอต้องจ่ายค่าอาหารที่แม่เธอทำด้วย?”เซ็ตตี้น้อยกำลังจะเล่าเรื่อง 'มื้ออาหารที่ดีงาม' ให้แอนฟัง แต่เมื่อร็อบบี้น้อยพูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า “พ่อบอกว่าแม่คือสุดที่รักของเขา เงินทั้งหมดที่เขาหามาได้เป็นของแม่ ด้วยตัวตนที่แม่มี เธอเลือกที่จะดูถูกคุณเพราะความซื่อสัตย์สำคัญกว่าเงินสำหรับเธอ ถึงอย่างนั้น คุณยายแอนได้ละเมิดกฎและพยายามจะทานอาหารของแม่ฟรี ๆ คุณคิดว่าคุณจะชดใช้ได้หรือเปล่าครับ?”แอนกลืนน้ำลาย ทำไมเธอถึงรู้ส
เขาคิดอย่างนั้น เมื่อเจย์มาที่คฤหาสน์หุบเขาเพื่อช่วยชีวิตเธอในวันนั้น เขาพาคนไปด้วย ช่างกล้าหาญและเฉลียวฉลาดแค่ไหน ขณะนั่งในรถเข็น เจย์ยังสามารถจัดการคนของเขาได้จนถึงขั้นที่พวกเขามองข้ามการถูกทารุณกรรมไปเลย และยังทำสำเร็จในการพาแองเจลีนไปจากเขาในท้ายที่สุดผู้ชายที่มีความสามารถและมีเสน่ห์อย่างเขาทำให้ผู้หญิงพอใจมากที่สุด แองเจลีนต้องตะลึงกับท่าทีอันสูงส่งของเขาแน่ ๆสิ่งที่เธอเห็นในวันนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา!ถ้าโคลยอมถอยออกไป วิหารแห่งฮาเดสจะเป็นสถานที่ที่เจย์กับบอร์ดี้การ์ดของเขาเข้าไปแทนโคลทันที เขาจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่พบโอกาสที่จะจากไปตามกฎของครอบครัว เขาไม่ควรเปิดเผยตัวตนก่อนที่เขากับแองเจลีนจะแต่งงานกันนั่นคือเหตุผลที่แองเจลีนดูถูกเขา“แองเจลีน เธอไม่ควรมองดูแค่ผิวเผินนะ นอกจากคนที่ดูเท่ขึ้นเล็กน้อย มีเสน่ห์มากขึ้น และมีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่นกว่าผมเล็กน้อยนั่น เจย์ก็ไม่สามารถเอาชนะผมในด้านอื่น ๆ ได้…”สายตาที่รังเกียจของแองเจลีนจ้องมาที่เขาเมื่อโคลตระหนักได้ว่าเขาทำให้ภาพลักษณ์อันยอดเยี่ยมของเจย์ดูโดดเด่นขึ้นได้สำเร็จ เขาจึงแก้ไขตนเองอย่างรวดเร็ว “แต่สำหรับก้อนน้ำ
เมื่อแอนได้เข้าใจกับความจริงนั้น ในที่สุด เธอก็ปล่อยวางและกลับมาสงบสติอีกครั้ง“ถ้าคุณไม่มีเงิน ยอร์ก คุณก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมารักษาเกียรติอยู่แบบนี้ นี่จะเป็นการแต่งงานครั้งที่สองของนายหญิงตระกูลเซเวียร์แล้วนะ ดังนั้นเราจะไม่ตั้งมาตรฐานสูงขนาดนั้น เราสามารถเจรจาและเสนอให้นายมีส่วนลดสินสอดทองหมั้นได้นะ”คำพูดของเธอไม่เพียงแต่ทำให้แองเจลีนเสื่อมเสีย แต่เธอยังโจมตีโคลด้วยวาจาอีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตอนนี้แอนได้ระบายความโกรธของเธอออกมาแล้ว เธอรู้สึกมีความสุขมากโคลโกรธมาก จนปีนประตูลวดลายแกะสลักนี้แล้วกระโดดไปที่ลานบ้าน “ใครบอกว่าไม่มีเงินในบัตรใบนี้?”โคลคว้ากบัตรจากมือของแองเจลีน แล้วยื่นมือออกมาถามว่า “โทรศัพท์ของคุณอยู่ที่ไหน?”แองเจลีนเบือนหน้าหนี ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือแอนก้าวไปข้างหน้าและยื่นโทรศัพท์มือถือให้โคล “นี่ใช้ของฉันสิ” เธอดูเหมือนผู้บริจาคให้ทานแก่ขอทานโคลแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “คุณกำลังขอให้ผมโอนเงินในบัตรไปยังโทรศัพท์ของคุณเหรอ?”แอนซึ่งทำตัวราวกับเป็นผู้มีพระคุณในตอนแรก ถูกโคลโจมตีอย่างรุนแรงในประโยคเดียวกันและกลายเป็นสิ่งของที่มอบให
“ผมขอพูดตรง ๆ นะ นายท่านเซเวียร์ แองเจลีนเป็นผู้หญิงที่ โคล ยอร์ก ชอบ และผมจะพาเธอออกจากเมืองนางแอ่นไปทันที เมื่อผมได้จัดการเรื่องของผมเสร็จแล้ว ก่อนหน้านั้น ผมต้องการให้คุณแน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ผมจะทำให้แน่ใจว่าไม่มีสมาชิกในครอบครัวเซเวียร์คนไหนที่ตายอย่างเป็นธรรมชาติแน่ ๆ ” โคลกัดฟันพูด พร้อมน้ำเสียงอันไพเราะของเขาได้ปกคลุมไปด้วยร่องรอยของความเยือกเย็น น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดูโกรธหรือบูดบึ้ง ทว่ามันสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวราวกับว่าปีศาจมาที่นี่เพื่อเรียกร้องเอาชีวิตของใครบางคน“แน่นอนว่า ถ้าคุณปฏิบัติต่อแองเจลีนของผมอย่างอ่อนโยน ผมจะไม่ปฏิบัติต่อครอบครัวเซเวียร์อย่างไม่ยุติธรรม ชื่อเสียงหรือโชคลาภ ผมก็จะมอบให้คุณทั้งหมด”จอร์จไม่รู้ว่าโคลเป็นใคร แต่เมื่อเห็นความจองหองของเขา เขาจึงตัดสินใจไม่ยั่วยุโคลอีก “คุณยอร์ก เข้ามาดื่มชาก่อนสิ”เขาเริ่มรู้สึกต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคลแองเจลีนจ้องไปที่โคลอย่างแรงและขู่เขาอย่างไร้เสียง ‘หากก้าวเข้ามาในบ้านแล้วคุณจะได้เห็นดี!’โคลลังเลใจ “ขอบคุณ คุณท่านเซเวียร์สำหรับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ว
“ทำไมเขาถึงอุ้มฉันไว้ในตอนที่ออกมาล่ะ?” แองเจลีนระงับความตื่นเต้นของเธอและแสร้งทำเป็นถามอย่างใจเย็นโคลนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น และยังคงมีความกลัวอยู่ในใจของเขา “วันนั้นคุณหมดสติไปและเลือดก็ไหลออกที่หัวของคุณ ทุกคนคิดว่าคุณตายแล้วแน่ ๆ เมื่อโจเซฟินอุ้มคุณขึ้นหลังและพาคุณลงไปข้างล่าง คุณก็มีเลือดเต็มไปหมด เจย์รับคุณมาไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที ผมคิดว่าเขาจะให้การรักษาฉุกเฉินแก่คุณ แต่เขากลับรีบวิ่งไปพร้อมกับคุณในอ้อมแขนของเขาแทน"“แองเจลีน ผมผวามากในวันนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่สามารถตอบสนองเพื่อช่วยคุณได้ทันที หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมเสียใจอย่างมาก ทำไมผมถึงยอมมอบผู้หญิงที่รักของผมให้ผู้ชายคนอื่นแบบนั้นด้วย?”แองเจลีนพึมพำ “ฉันไม่โทษคุณหรอก คุณเป็นคนตาขาว”โคลไม่เห็นด้วย เขาต้องการที่จะแข่งขันกับเจย์ในทุกด้าน “แองเจลีน ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โประหลาดใจ เจย์ก็มึนงงเมื่อเห็นหน้าคุณเช่นกัน เมื่อเขาสบตาคุณ ดวงตาของเขา… กระเจิดกระเจิง ฮึ่ม ใจเสาะกว่าผมอีก.. .”เขายังคงพูดจาโผงผางเพื่อพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเจย์ทว่า แองเจลีนกำลังตัวสั่นอย่างมากเจย์ใจร้ายกับเธอจริง ๆ เหรอ? ตอนนี้เธอไม่ค
เจย์มองกล่องไม้เก่า ๆ จ้องมองไปที่รหัสล็อคที่ดูประณีต รหัสล็อคใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งมาก มันดูติดตั้งไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ดังนั้นจึงอาจมีความลับที่น่าตกใจซ่อนอยู่ภายใน“เปิดสิ”ฟินน์ถอดรหัสล็อคอย่างง่ายดายและเปิดกล่องไม้โดยไม่ทำให้เสียหายของที่วางอยู่ข้างในนั้นเป็นลูกกุญแจสีทองที่มีตัวอักษรสามตัว ‘ความมั่งคั่ง’ ‘เกียรติยศ’ และ ‘สันติภาพ’ สลักอยู่ นอกจากนี้ยังมีตัวอักษรเล็ก ๆ สลักอยู่ด้านหลังตัวกุญแจ ซึ่งเขียนว่า: 9 กันยายน ** ปีสลักไว้ข้างหน้าเป็นที่ตั้งและชื่อ : เมืองอิมพีเรียล เกรซ เบล มีอักขระขนาดเล็กอีกสองบรรทัดที่เขียนในแนวตั้ง: คุณพ่อ, สแตนลีย์ เบล, คุณแม่, แอนเดรีย คริสโตเฟอร์ความประหลาดใจเล็ดลอดออกมาจากดวงตาของฟินน์!“บอกมาสิ ความลับที่ซ่อนอยู่ข้างในคืออะไร?” เจย์ถามพลางมองฟินน์ที่ดูเหมือนจะจมอยู่ในห้วงความคิดฟินน์ยื่นล็อคกุญแจทองให้เจย์อย่างระมัดระวังและอุทานว่า “ท่านประธานอาเรส มันเป็นความจริงที่นายหญิงรองของตระกูลเซเวียร์ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของแอนและจอร์จ”เมื่อเจย์มองเห็นล็อคกุญแจเด็ก ก็มีร่องรอยการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “และตอนนี้ฉันสงสัยแล้ว
ท่านประธานอาเรสนึกถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขา ทั้งคู่น่าสงสารที่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ทันทีที่พวกเขากลับมาพบกับลูกชายของพวกเขาเพียงไม่นานไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะเกินความเจ็บปวดเช่นนี้ได้อีกแล้วณ เมืองอิมพีเรียล ในคฤหาสน์หุบเขาเมื่อเสือไม่อยู่ ลิงจะประกาศตนเป็นกษัตริย์คาร์สันกำลังจัดปาร์ตี้แชมเปญกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ไม่น่าไว้วางใจ“นายน้อยออกไปเดทกับนายหญิงเซเวียร์ในคืนนี้ นายคิดว่าเขาจะได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นไหม?” คาร์สันพูดและหัวเราะ พร้อมดื่มแชมเปญเข้าไปทันทีที่ยกแก้วขึ้นประตูถูกผลักเปิดอย่างกะทันหันคาร์สันยืนหันหลังให้ประตูอยู่ และเขายังคงพูดต่อไปอย่างเพลิดเพลิน “เมื่อนายน้อยและนายหญิงเซเวียร์ ทั้งคู่ได้แต่งงานกันสำเร็จ จะมีคนเข้ามาตั้งระเบียบกับนายน้อยในอนาคต ในส่วนของนายหญิงเซเวียร์จะเป็นแม่เสือโคร่ง ฉันก็จะไม่เรียกตัวเองว่าคาร์สันเลยคอยดูถ้านายน้อยไม่ถูกลงโทษทุกวัน”คนอื่น ๆ ทำหน้านิ่งและกลัวที่จะพูดอะไรสักคำออกมา พวกเขาก้มหน้าและดื่มแชมเปญเหมือนกำลังดื่มน้ำเปล่า“พูดอะไรหน่อยเถอะ พวกนายน่ะ” คาร์สันรู้สึกสับสน “ทำไมพวกนายไม่ตอบไม่พูดล่ะ?”ทันใดนั้น ก็มีมือท
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ