“ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย?” แองเจลีนถามชายคนนั้นจ้องไปที่เธอ “ถ้าผมบอกคุณว่า จริง ๆ แล้วผมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ผมสามารถเป็นคนควบคุมได้ว่าคุณสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้หรือตายก็ได้และกระทั่งสามารถบดขยี้คุณให้ตายเหมือนมดด้วยซ้ำ คุณจะกลัวไหม?”แองเจลีนยื่นมือที่ไม่เป็นอันตรายของเธอออกไป ชายคนนั้นตกใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงมาอยู่เหนือเขา?ในท้ายที่สุดแล้ว เขายังช่วยให้เธอยืนขึ้นมาได้อีกแองเจลีนเงยหน้าขึ้นมองเขา คิ้วของเธอแสดงถึงความเศร้าและดวงตาของเธอก็ดูงดงาม พวกมันดูเหมือนบทกวีที่เข้าใจยาก โดยมีความหมายที่ลึกซึ้งและซ่อนเร้นความน่าดึงดูดใจกับผู้คนอยู่มากนัก“หากคุณมีอำนาจมากขนาดนั้น ได้โปรด ช่วยบดขยี้ฉันให้ตายเดี๋ยวนี้เลย” เธออ้อนวอน ความโศกเศร้าปรากฏได้ชัดในน้ำเสียงของเธอรอยยิ้มบนใบหน้าของชายคนนั้นหยุดนิ่ง ทันใดนั้น เขาจำได้ว่าเธอได้วิ่งกระโจนตัวเองเข้าหารถของเขาโดยไม่เกรงกลัวเมื่อแปดวันก่อน“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมลืมมันไปได้ ทั้ง ๆ ที่คุณเองนั่นแหละที่กำลังมองหาความตายอยู่แล้ว”แองเจลีนล้มตัวลงนอนบนเตียงโดยไม่สนใจเขาผู้ชายมักดูถูกผู้หญิงที่ไม่ชื่นชมชีวิตของพวกเธอเอง
เธอและเจย์รักกันอย่างสุดซึ้งในช่วงสองชีวิตที่แล้วของพวกเขา เธอเคยคิดว่าแม้ว่าโลกทั้งใบจะยอมแพ้เธอ แต่เจย์จะไม่ทำอย่างนั้นแต่สุดท้ายแล้ว เจย์เป็นคนที่ทำร้ายเธอมากที่สุดชายคนนั้นยิ้มเบา ๆ “ผมจะตัดสินใจเลือกวันที่ดีที่สุดให้เราได้จัดงานแต่งงานขึ้น”รอยยิ้มของเขาช่างอ่อนโยน แต่คำพูดของเขาแสดงให้เห็นถึงอำนาจของเขาเธอพูดไม่ออก แองเจลีนจ้องมาที่เขา เขาไม่เข้าใจภาษาคนหรือยังไง?“แต่งงานกับผมนะ แล้วผมจะดูแลคุณจากคนที่ทำร้ายคุณเอง” ชายคนนั้นจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอและพูดอย่างจริงจังแองเจลีนปฏิเสธเขาทันที “ฉันไม่ต้องการให้คุณมายุ่งเรื่องของฉัน”ไม่ว่าเจย์ อาเรสจะเป็นคนสารเลวขนาดไหน เธอก็อยากจะเป็นคนที่ดูแลเขาอยู่ดีผู้ชายคนนั้นดื้อรั้น “คุณจะเป็นภรรยาของผมทันทีที่คุณแต่งงานกับผม สิ่งเดียวที่ผมไม่สามารถให้คุณได้คือความรักที่คุณพูดถึง สำหรับส่วนที่เหลือ ผมทำให้คุณพอใจได้”ด้วยเหตุนี้ ชายคนนั้นจึงหันหลังและเดินจากไปแองเจลีน “...”ผู้ชายคนนี้มีชีวิตอยู่ด้วยการถือตัวเองสำคัญเป็นหลักสินะ?เขาคิดว่าเขาเป็นศูนย์กลางของโลกและทุกคนต้องหมุนรอบตัวเขาอย่างนั้นเหรอ?ในเวลาไม่นาน ซิมเมอร์ก็เข้า
แองเจลีนหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะนั้นได้ยินเสียงความโกลาหลจากข้างนอกแองเจลีนได้สะดุ้งตัวขึ้นมาทันที เธอดึงเข็มจากถุงน้ำเกลือออกจากแขน แล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินโซเซลงบันไดนี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกจากห้องนอน คฤหาสน์ได้รับการออกแบบเหมือนปราสาทในยุคกลาง ผนังที่สร้างจากหินอ่อนดูธรรมชาติอย่างงดงาม มีภาพวาดโบราณมากมายที่แกะสลักไว้ ผู้ที่มีความรู้ในสาขานี้จะรู้ว่ามีสัญลักษณ์พิเศษมากมายรวมอยู่ในที่นั่นคฤหาสน์นี้ดูเก่าแก่และลึกลับสำหรับแองเจลีนเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะจินตนาการว่าชายหนุ่มที่อายุน้อยและสง่าอย่างเขาจะมีรสนิยมที่ล้าสมัยอยู่ในอาคารเช่นนี้เมื่อเธอลงมาถึงชั้นล่าง เธอผลักประตูไปที่สวนหลังบ้าน ที่นั่น ตรงกลางคอกที่เลี้ยงสัตว์เล็ก ๆ เธอเห็นชายที่เหมือนผู้ไร้ความทุกข์กำลังต่อสู้กับฝูงไก่เขาไล่ตามไก่ที่วิ่งหนีเขา ขนมันกระจัดกระจายไปทั่วคอก ทำให้สุนัขที่อยู่ใกล้ ๆ เห่าด้วยความตื่นเต้นมันเป็นภาพที่ค่อนข้างตลกขบขันถึงกระนั้น เห็นได้ชัดว่าคนรับใช้ผู้ชายของนายท่านผู้สูงศักดิ์ไม่มีความรู้สึกอยากจะเข้าไปทำแบบนั้น พวกเขามองดูชายผู้นี้อย่างกังวลราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่อันตรา
ชายคนนั้นรู้สึกถูกดูหมิ่น “คุณเรียกผมว่าคนไร้ประโยชน์งั้นเหรอ?”ดวงตาของเขากลายเป็นศัตรูขึ้นมาทันทีแองเจลีนพยักหน้า “แล้วคุณดูไม่ใช่เหรอ?”สายตาของเธอพบกับกลุ่มคนรับใช้ผู้ชายของเขา “คุณยังมีคนรับใช้จำนวนมากเพื่อบริการตัวคุณอยู่ นั่นก็ถือว่าเป็นคนไร้ประโยชน์สำหรับคุณว่าไหม?”ชายคนนั้นตกใจแองเจลีนนำไก่เข้าไปข้างใน เตรียมไว้ตามขั้นตอนการทำต่อไป เธอมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวแล้วใส่ลงในหม้อต้มก่อนปรุงรสด้วยเครื่องเทศ จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อทำการรักษาบาดแผลของเธอต่อแม้ว่าเธอจะใช้แขนของเธอได้ดีในการแล่เนื้อไก่ แต่เธอก็ใช้กำลังทั้งหมดไปกับการใช้มีดเฉือนมัน สิ่งนี้ทำให้บาดแผลของเธอถูกเปิดออกและมีเลือดออกอีกครั้งในไม่ช้า กลิ่นหอมของซุปไก่ก็กระจายไปทั่วบ้านตอนที่ซิมเมอร์กำลังจะเสิร์ฟซุปให้แองเจลีน ชายคนนั้นพูดอย่างกะทันหันว่า “ให้ฉันลองชิมก่อน”เขาไม่เชื่อว่าสาวสวยคนนี้จะทำอาหารได้ซิมเมอร์ส่งซุปชามเล็ก ๆ ให้เขา เมื่อเขาชิมด้วยท่าทางอย่างสุภาพ กลิ่นหอมของซุปทำให้เขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย“ซุปไก่นี้อร่อยมาก” เขาพูดยกย่องสิ่งนี้ทำให้ความตั้งใจของเขาที่จะแต่งงานกับเธอแข็งแกร่
เธอต้องการที่จะลืมเกี่ยวกับ เจย์ อาเรสทุกครั้งที่เธอคิดถึงเขา หัวใจของเธอก็เจ็บปวดมากจนรู้สึกหายใจลำบากทุกครั้งโคลพูดเหมือนใช้อำนาจ “คุณเคยเกือบตายเพราะเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ถือว่าชีวิตของคุณได้กลับคืนมาแล้ว ซึ่งในตอนนี้ ชีวิตของคุณเป็นของผมเพราะผมเป็นคนช่วยชีวิตคุณ”แองเจลีนเริ่มชินกับนิสัยที่โคลแสดงออมาอย่างเอาแต่ใจ และนิสัยข่มขู่ ตอนแรกเธอเถียงกับเขา แต่ไม่นานนักเธอก็รู้แล้วว่าแม้ว่าเธอพูดจนเธอคอแห้ง เขาก็ยังจะทำตามสิ่งที่เขาพอใจอยู่ดีเธอเลยยอมปล่อยให้เขาพูดไปโคลกล่าวว่า “ผมจะพาคุณกลับบ้าน เมื่อผมทำเรื่องราวปัจจุบันนี้เสร็จเสียก่อน”แองเจลีนตกใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ทำเหมือนว่าเขากำลังจะลักพาตัวเธอไปเลยเธอยังคงดูอ่อนแอและนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้โทรศัพท์ของเธอได้หายไป เธอไม่มีเงินเหลือสักนิดเดียว เธอไม่รู้ว่าเธอจะแอบหนีไปได้อย่างไรถ้าชายคนนั้นจะพาเธอออกจากเมืองอิมพีเรียล เธอคงต้องพร้อมออกไปเมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเธอเปลี่ยนไป เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและเอื้อมมือไปขยี้ผมของเธอ “ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ผมจะไม่ลักพาตัวคุณ ผมจะทำให้คุณเป็นอิสระ”“ฉันอยากกลับบ้าน” แองเจลีนโพล่งออกมา“ก็ได้
“ฉันไม่ต้องการ” แองเจลีนไม่ต้องการให้เขาสะกดรอยตามเธอโคลตอบว่า “ถ้าคุณไม่ใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดระบบโทรศัพท์คอยติดตามคุณตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป นี่จะเป็นทางเลือกของคุณ”แองเจลีนนึกภาพของบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ชั้นล่างผุดขึ้นมาในจิตใจของเธอ ใบหน้าของพวกเขาดูแข็งทื่อและผิดธรรมชาติราวกับว่าพวกเขาฉีดโบท็อกซ์ทุกคนแองเจลีนยอมรับโทรศัพท์เครื่องนั้นทันที จริง ๆ แล้วเธอเลือกที่จะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปที่ไหนก็ได้ที่ที่เธอต้องการ แต่มันจะยากยิ่งกว่าที่เธอจะเลือกกำจัดบอร์ดี้การ์ดเหล่านั้นโคลรู้สึกยินดีที่เห็นเธอรับโทรศัพท์ไปจากนั้น เขาก็เริ่มถอดแจ็คเก็ตของเขาออก แองเจลีนสูดหายใจเข้าและพูดหยุดเขา “คุณกำลังจะทำอะไร?”โคลมองออกไปนอกหน้าต่าง “ก็มันเป็นช่วงกลางคืนแล้วหนิ ได้เวลานอนแล้ว”จากนั้น เขาก็นั่งลงบนเตียงด้วยความตกใจแองเจลีนตกลงไปจากเตียงทันที เธอตกตะลึงขณะที่นั่งอยู่บนพื้นและมองโคลแล้วเธอเริ่มตำหนิเขาว่า “เรายังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ! ไม่มีใครบอกว่าฉันจะต้องนอนกับคุณ”โคลคลายคอเสื้อออก เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่เซ็กซี่และน่าดึงดูด“คุณจะไม่สูญเสียอะไรจากการนอนก
ในวันรุ่งขึ้น แองเจลีนตื่นแต่เช้าหัวใจของเธอเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อเธอจำได้ว่าโคลได้สัญญาว่าจะส่งเธอกลับไปยังเมืองอิมพีเรียลในวันนี้เมื่อเธอครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับที่มาของความสุขของเธอในตอนนี้ แต่จู่ ๆ ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเจย์ที่อยู่ในเมืองอิมพีเรียลทำให้คิดขึ้นมาได้แองเจลีนรู้สึกเศร้าอีกครั้ง“เขาไม่ชอบเธอแล้ว เธอไม่ควรคิดถึงเขาอีกต่อไป จากวันนี้เป็นต้นไปเธอต้องลืมเขาให้ได้ แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็ตาม เธอต้องแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เธอไม่สามารถปล่อยให้เขาดูถูกเธอได้อีกแล้ว” เธอคุกเข่าอยู่ข้างรั้ว ใช้นิ้วจิ้มหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้าง ๆโคลเห็นที่เธอพึมพำกับตัวเธอเอง เมื่อเขาออกจากบ้าน เขาตั้งใจฟังมันอยู่นานก่อนที่เขารู้ว่าเธอกำลังบังคับใจตัวเองให้ขีดเส้นแบ่งระหว่างตัวเธอกับผู้ชายคนนั้น“แองเจลีน เราไปกันเถอะ” เขาเรียกพร้อมแสดงรอยยิ้มแองเจลีนก้มหน้าลงในขณะที่เธอเดินเข้าไปหาเขา“ทำไมล่ะ กลัวที่จะเจอเขาเหรอ?” เขากำลังจุดบุหรี่และพ่นควันออกมาหลายก้อนเขามีท่าทางสูบบุหรี่ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนชอบสูบบุหรี่มานานแล้วแองเจลีนเริ่มไอจากควันบุหรี่โคลร
แองเจลีนตกตะลึงโคลหัวเราะอย่างเขินอาย “คุณควรรู้ไว้ว่าผมเป็นพวกชอบคนที่สมบูรณ์แบบ ผมก็แค่กังวลว่าผมจะจูบคุณไม่ได้ถ้าผมรู้ว่าคุณมีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดบนร่างกายของคุณ”ใบหน้าของแองเจลีนเริ่มแดงเมื่อเธอเบี่ยงหน้าหนี มีท่าทางแสดงออกบนใบหน้าของเธอ เธอกล่าวว่า “คุณและฉันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”โคลถอนหายใจเมื่อมองดูระยะห่างระหว่างพวกเขา “มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมอยู่แล้ว คนอย่าง โคล ยอร์ก ที่จะหาผู้หญิงที่ผมจริงจังด้วย ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ชอบผมอยู่ดี”ใบหน้าของคนขับรถซีดทันที ขณะที่เขาเริ่มมีเหงื่อออกมามากเป็นครั้งคราว เขาได้แวบมองแองเจลีนผ่านกระจกมองหลัง ด้วยความกลัวแทนเธอผู้หญิงทุกคนที่ปฏิเสธนายท่านจะไม่ได้เจอเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับพวกเธออย่างแน่นอนแองเจลีนไม่รู้ตัวว่าเธอทำให้ใครขุ่นเคืองใจอยู่และเธอยังคงรู้สึกเขินอายโคลต่อไป “คุณส่งฉันทิ้งไว้ได้เลยนะเมื่อเราถึงเมืองอิมพีเรียลแล้ว ฉันคุ้นเคยกับสถานที่นี้ดีและจะไม่หลงทางอย่างแน่นอน”โคลจ้องไปที่เธอโดยไม่พูดอะไรมาก “คุณอยากไล่ผมไปขนาดนั้นเลยเหรอ?”แองเจลีนมองดูท่าทางที่ไม่พอใจ ซึ่งเขาทำเหมือนว่าถูกภรรยาทอดทิ้ง ความรู้สึกผิดชอบของเ