เธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นอากาศเลยเหรอ?โจเซฟินและแองเจลีนปล่อยมือออกจากกันและโจเซฟินเดินไปหาพ่อแม่ของเธอขณะที่เธอทักทายพวกเขา “คุณพ่อ คุณแม่”เธอแต่งหน้าอย่างสง่างามดูสุภาพและงดงามราวกับว่าเธอสนใจในการนัดหาคู่ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนนี้เป็นพิเศษ แจ็คจับผิดเธอไม่ได้เลย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงทักทายเธอด้วยสีหน้ามืดมน “นั่งลงสิ”แองเจลีนยืนอยู่ตรงกลาของห้องโถงขณะที่เธอมองไปรอบ ๆ แล้วเธอก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย เธอเมินที่จะมองไปที่เจย์ในขณะเดียวกันที่เธอเดินไปหาฮิโรชิในที่สุดเจย์ตาแข็งทันทีแองเจลีนเข้าไปนั่งข้าง ๆ ฮิโรชิและยิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ “นายน้อยไททัสคะ คุณยังจำฉันได้ไหม?” เสียงของเธอเบากว่าปกติฮิโรชิรู้สึกตื่นเต้นกับการเริ่มพูดคุยของแองเจลีน เธอดูเป็นคนชัดเจนและดูปล่อยตัวปล่อยใจ“นั่นคือเธอจริง ๆ เหรอ แองเจลีน?”“ฉันเอง” ดวงตาของแองเจลีนดูสง่างามและมีเสน่ห์“คุณยังมีชีวิตอยู่? แต่คุณตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”“เรื่องมันยาว! ครั้งหน้าฉันจะพาคุณไปดื่ม นายน้อยไททัส แล้วเราค่อยคุยกัน” แองเจลีนยิ้ม“ได้เลย ตกลงตามนั้น”ทั้งสองโต้ตอบกันไปมาและรู้สึกได้ว่าพวกเขาสนิทสนมกันมานานแจ
ริมฝีปากบางของเจย์ขยับแยกออกเล็กน้อย เสียงข่มขู่ของเขาก็หลุดออกจากปาก “ฉันไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้”ทั้งแองเจลีนและโจเซฟินดูโล่งใจแจ็คระงับความโกรธที่อยู่ในใจของเขา “เจย์ นี่เป็นงานแต่งของน้องสาวนายนะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย”เจย์พูดกลับว่า “ใช่ครับ พ่อ การแต่งงานของโจเซฟินไม่เกี่ยวอะไรกับผม”เขาหันสายตาเหยี่ยวไปมองที่ยูมิ “ความรักเป็นเกมระหว่างคนสองคน เมื่อมีพ่อแม่และพี่น้องเข้ามายุ่งมากเกินไป ความรักก็จะสูญเสียรสชาติไปทันที”ทั้งแจ็คและยูมิแสดงท่าทีดูน่ากลัว เจย์ดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าพวกเขากำลังเสียสละการแต่งงานของคนที่พวกเขารักเพื่อหาผลกำไร“เจย์ น้องสาวของนายไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ นั่นเป็นเพราะนายตามใจเธอมากเกินไป จนกลายเป็นเด็กนิสัยแย่ที่สูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปวัน ๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันปล่อยให้โจเซฟินอยู่ภายใต้การดูแลของนายไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป นายจะทำลายอนาคตของเธอ” แจ็คเบี่ยงประเด็นด้วยคำพูดนี้อย่างว่องไวอย่างแรก เขาตะคอกเจย์โดยบอกว่าเจย์ไม่ได้สั่งสอนโจเซฟินอย่างดีจึงทำให้เธอทำอะไรเองไม่ได้อย่างที่สอง เขามีอำนาจที่จะตัดสินการแต่งงานของโจเ
“พระเจ้า ทำไมเธอถึงต้องให้ของเหล่านั้นเป็นที่ระบายความโกรธของเธอด้วยล่ะ?แองเจลีนเป็นคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้งตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เธออาจมีการศึกษาดี แต่ทันทีที่เธอทนทุกข์กับความคับข้องใจใด ๆ ก็ตามที่เกินระดับความอดทนของเธอ เธอก็จะอารมณ์ร้อนเช่นกันยกตัวอย่างในตอนนี้“ฉันมีเสื้อผ้าอยู่ในกระเป๋าเดินทางเยอะมาก ถ้าเธอชอบ เธอเอาไปได้หมดเลย โอ้ และก็ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมดที่มีมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ก็เป็นของเธอด้วย ถ้าเธอไม่ชอบก็เอาไปเผาทิ้งซะ” พวกของทั้งหมดนั่นเลย!”เธอโกรธเคือง “ฉันซื้อมันโดยใช้เงินของพี่ชายเธอ ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะแยกย้ายกัน เราไม่มีอะไรจะ...”“ไม่มีอะไรยังไง?” สตอร์มเลี้ยวรถเข็นเข้ามาจากทางแยกที่เข็นเจย์ รถเข็นหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอผมของแองเจลีนพริ้วไหวโดยไม่มีเครื่องประดับแม้แต่ชิ้นเดียว เธอดูสวยงามราวกับหยกที่ยังไม่ได้เจียระไน ราวกับว่าเธอถูกแกะสลักออกมาโดยธรรมชาติเมื่อเจย์สังเกตเห็นท่าทางไม่พอใจของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอบอกว่าเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเธอถูกซื้อโดยใช้เงินของเขา เขารู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจและสบายใจด้วยเหตุผลบางอย่างแองเจลีน
เจย์เล่นกับก้อนหินกลม ๆ ในมือ และจ้องไปที่แองเจลีนด้วยดวงตาที่เย็นชาและมืดมิดเขายังคงไม่พูดด้วยอย่างแรก แองเจลีนได้ยืดคอของเธอเพื่อมองลงไปที่เขา แต่ท้ายที่สุด เธอค่อย ๆ หดคอลง แม้แต่เสียงของเธอก็ลดลงเป็นฝุ่นผง“ทำไมนายไม่โยนมันกลับมาล่ะ ฉันจะไม่หลบด้วย”ดังนั้น เจย์จึงยกก้อนหินขึ้น แองเจลีนปิดตาลงเมื่อเธอเห็นว่าเขากำลังจะขว้างก้อนหินใส่เธอจริง ๆก้อนหินมีเสียงหวือผ่านหูของเธอไป แองเจลีนลืมตาขึ้นและมองเจย์ด้วยความสยดสยองเขาขว้างก้อนหินใส่เธอจริง ๆ เหรอเนี่ย?เขาไม่ได้กลัวที่จะทำร้ายเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะตอนนี้เขาอยู่บนรถเข็นอย่างนั้นใช่ไหม?แองเจลีนไม่พอใจเขา แววตาของเธอเมื่อจ้องมองเจย์ไม่เพียงแต่แสดงความไม่พอใจที่เธอมีต่อเขาก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่ยังมีร่องรอยของความเศร้าเสียใจอีกด้วยจากนั้นเธอก็เดินไปทางเขาทั้งน้ำตาเพียงเพื่อจะอ้อมผ่านรถเข็นเพื่อเดินต่อไปได้“พี่คะ!” โจเซฟินเดินไล่ตามเธอไปพร้อมกับตะโกนเรียกเธอทันทีที่เธอเรียกพี่ แองเจลีนก็เดือดขึ้นมาทันที เธอตะโกนออกมา “ฉันไม่ใช่พี่สาวของเธอ!”ใบหน้าที่ดุร้ายของเธอทำให้โจเซฟินตกตะลึง“พี่จะเถียงฉันทำไมในเมื่อพี่ชายข
แองเจลีนกล่าวว่า “ฉันจะไม่ยอมแพ้เว้นแต่ว่านายจะทำร้ายฉันให้ถึงตาย”เจย์มีสีหน้าซีดเผือด เขาก้มลงหยิบก้อนหินจากพื้นแล้วโยนไปที่เข่าของแองเจลีนแองเจลีนทรุดเข่าลงทันทีและเธอคุกเข่าลงกับพื้นด้วยเข่าข้างหนึ่ง จากนั้นสตอร์มเข้าไปมัดมือเธอไว้เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นแองเจลีนยกข้อมือขึ้นและกระทืบเท้า “หมายความว่ายังไง ท่านอาเรส? นายเกลียดฉัน ใช่ไหม ? ทำไมนายไม่ปล่อยให้ฉันไปจากนายให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะ?”สตอร์มเอามือดึงปลายกุญแจมืออีกข้างหนึ่ง “เราไปกันเถอะ นายหญิง”โจเซฟินพยายามอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่งในครั้งนี้ เธอบอกแองเจลีนว่า “เธอต้องดูแลตัวเองนะ แองเจลีน ฉันจะรอเธอนะ”แอนเจลีนถูกสตอร์มนำตัวกลับไปที่หอท่าเรือหอมหวนตอนนี้เด็ก ๆ กำลังรวมตัวกันที่โต๊ะเพื่อทานผลไม้กันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นสตอร์มและแองเจลีน เดินเข้ามา ดวงตาของพวกเจ้าตัวน้อยก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“เธอมาที่นี่อีกทำไม?” เซ็ตตี้น้อยถามอย่างโกรธจัด แก้มของเธอพองขึ้น“เธอไม่ยอมปล่อยเราไปสินะ” เซ็ตตี้น้อยกล่าวอย่างไม่พอใจสีหน้าของเจนสันยังคงเหมือนเดิมในขณะที่เขาทานผลไม้อย่างเงี
สตอร์มมองเจย์ด้วยสายตาแห่งความอ้อนวอน “นายท่านครับ นายหญิงเซเวียร์บอกว่าจะอดอาหารเพื่อประท้วง...”เจย์เลิกคิ้วขึ้นในท่าทางที่ยังดูหล่อเหลาของเขา ผู้หญิงคนนี้กำลังข่มขู่เขาอยู่หรือเปล่า?“งั้นก็ปล่อยให้เธออดอาหารไปก่อน”เจย์คิดว่าเป็นเพราะเขาตามใจเธอมากเกินไปในเมื่อก่อนนี้ที่เขาคอยให้กำลังใจและเขาดูแลเอาใจใส่เมื่อเธออารมณ์ร้อน เป็นผลทำให้เธอหนีจากไปโดยไม่บอกลาและถึงกับแอบไปทำศัลยกรรมโดยไม่มีการปรึกษาเรื่องสำคัญเช่นนี้กับเขาก่อนดูเหมือนว่าเขาจะทำผิดพลาด จากนี้ไปเขาจะเปลี่ยนไปใช้ระเบียบวินัยแบบอื่นแทน เขาจะเปลี่ยนจากการตามใจเป็นการเข้มงวดแทน บางทีอาจช่วยแก้ไขอารมณ์ร้อนของเธอได้เมื่อพูดอย่างนั้น เจย์ก็เข็นรถเข็นเข้าไปในห้องนอนของเขาแองเจลีนตะโกนอยู่นานแต่ไม่มีใครสนใจเธอด้วยความเหนื่อย เธอนอนบนเตียงเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ผมที่ยุ่งเหยิงของเธอปล่อยกระเซอะกระเซิง ทำให้เธอดูเหมือนผีบ้าเธอทำตามในสิ่งที่เธอพูดไว้ ไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรเลยทั้งวัน...เมื่อเจย์ได้เข้าไปหาเธอในวันรุ่งขึ้น เธอนอนอยู่บนเตียง ผมของเธอยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงราวกับผีบ้า เธอพูดอย่างอ่อนแรง “นายมาที่นี่เพื่อม
เจย์หยุดชะงักเธอได้ค้นพบความลับเกี่ยวกับทะเบียนสมรสเหรอ?“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงเลือกไปทำศัลยกรรมใช่ไหม?”เขาโกรธมากและต้องการลงโทษเธออย่างรุนแรงที่จากไปโดยไม่บอกลา อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาก็หมดความกล้าที่จะตำหนิเธอไปเลยเธอทำเพียงเพราะเธอห่วงใยเขาถึงอย่างนั้น…ตอนที่เธอเป็นคนดูแลเขาอยู่ ทำไมเธอถึงไปเดทกับผู้ชายแปลกหน้าได้?“คืนนั้น ผู้ชายที่เธอไปเดทด้วยคือใครกัน?” เจย์ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ฉันบอกนายไม่ได้หรอก” แองเจลีนจำข้อตกลงที่เธอมีกับปีเตอร์ได้ เธอไม่อยากเป็นคนที่ผิดสัญญาหัวใจของเจย์ ซึ่งเพิ่งได้บรรเทาความเจ็บปวด กลับถูกโยนลงไปในทะเลแห่งความสงสัยอีกครั้ง เขารู้สึกกระสับกระส่ายและวิตกกังวล“แองเจลีน เซเวียร์ ทำไมเธอถึงกลับมา?” เจย์กำลังจะเสียสติไปแล้วผู้หญิงคนนี้ที่มุ่งหน้ามาหาเขาในขณะที่ไปเจ้าชู้กับผู้ชายคนอื่น นี่เป็นวิธีที่เกินขอบเขตทางศีลธรรมของเขาจริง ๆแองเจลีนตัดสินใจปล่อยวางทุกอย่างและควบคุมอารมณ์ของเธอ มันเหนื่อยเกินกว่าจะนึกถึงเขาอีกต่อไปแล้วเธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงช้า ๆ ผมของเธอเรียงยาวบนเสื้อคลุมสีดำของเธอราวกับน้ำตก นัยน์ตาส
“คิดว่าจะออกไปได้หลังจากมีอะไรกันเสร็จแล้วงั้นเหรอ?” มุมปากของเจย์ขดขึ้นในขณะที่เขามองไปยังผู้หญิงที่โค้งคำนับอย่างสุภาพและยอมรับความผิดพลาดของเธอหลังจากที่ทำผิดไปแองเจลีนเงยหน้าขึ้นพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้านายเต็มใจที่จะยอมให้ฉันรับผิดชอบ ฉันก็จะดูแลนายได้เหมือนกัน”เจย์จ้องมองไปที่ชุดของเธอ “เธอใช้บัตรของฉันเพื่อจ่ายค่าชุดนี้ ใช่ไหม?”แองเจลีนหน้าแดงทันทีเธอเพิ่งพูดอย่างไม่เห็นแก่ตัวว่าเธอจะดูแลเขา แต่ความเป็นจริงก็ตบหน้าเธออย่างรุนแรง สุดท้ายคือคนที่ถูกดูแลอยู่ก็เป็นเธอ“ทำความสะอาดสถานที่นี่ซะ” เจย์พูดอย่างโกรธเคืองขณะที่มองไปรอบ ๆ ตัวเขาแองเจลีนพยักหน้าอย่างจนตรอก “ได้สิ”เมื่อเธอทำความสะอาดเสร็จแล้ว เจย์บอกว่า “พาฉันกลับไปที่ห้องของฉันหน่อย ฉันอยากอาบน้ำ”แองเจลีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งตัวให้เขา แล้วเข็นเขากลับไปที่ห้องและช่วยเขาอาบน้ำ“เธออยากอาบน้ำด้วยไหม?” เขาถามทันทีแองเจลีนกำลังจะขอร้องให้เขาปล่อยเธอให้ได้ใช้ห้องน้ำอยู่พอดี เธอไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามนี้โดยไม่จำเป็นต้องบอกก่อน เธอดีใจมากจนไม่สามารถหยุดพยักหน้าได้เลย“ขอบคุณนะ ท่านอาเรส