จนกระทั่งคนรับใช้จากซีคามอร์ แอนเน็กซ์ มาแจ้งว่า “นายท่านคะ คุณท่านแจ็คและคุณนายได้จัดหาคู่ให้คุณโจเซฟินและอีกฝ่ายหนึ่งได้มาถึงที่นี่แล้ว ดังนั้นคุณท่านแจ็คจึงขอให้นายท่านไปพบกับแขกหน่อยค่ะ”เจย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แจ็คและเขาทราบดีว่าความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูกเป็นเพียงการปกปิดเรื่องอื้อฉาวของตระกูลอาเรส การเรียกพ่อและลูกชายเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่ข้างนอก แต่แจ็คจะไม่แสดงสิ่งเหล่านี้เมื่ออยู่ภายในบ้านดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่แจ็คจะปล่อยให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์เว้นแต่จะเป็น——เจย์ดูเหมือนจะนึกขึ้นได้บางอย่างและร้องเรียก “สตอร์ม”สตอร์มก้าวไปข้างหน้าทันที “คิดอะไรอยู่เหรอครับ ท่านอาเรส?”เจย์จ้องมองท่าทีที่แสดงความเคารพของสตอร์มและถอนหายใจอยู่ในใจบางทีมีเพียงแองเจลีนเท่านั้นที่กล้าจะโวยวายต่อหน้าเขาแต่ทว่า ตอนนี้เขาได้ขับไล่เธอออกไปแล้ว“ไปซีคามอร์ แอนเน็กซ์กันเถอะ” เจย์สั่งออกมาอย่างเศร้า ๆ“ได้ครับ” สตอร์มตอบและเข็นรถเข็น มุ่งหน้าไปที่ซีคามอร์ แอนเน็กซ์ระหว่างทาง สตอร์มพูดไกล่เกลี่ยเรื่องแองเจลีนอย่างระมัดระวัง “ท่านอาเรส ไม่มี
แจ็คต้องรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นพ่อที่มีเมตตาต่อหน้าคนภายนอก ดังนั้นเขาจึงหยุดความเกลียดชังที่มีต่อเจย์ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนก็เริ่มถอนหายใจและอุทานออกมาดัง ๆ“ว้าว สวยจัง!”“เธอสวยกว่าดาราเสียอีก!”“ช่างงดงามเหลือเกิน!”…ในห้องรับแขก ฮิโรชิ ไททัส นายท่านของตระกูลไททัสได้ยืดคอออกไปมองที่ประตูทันทีเขาตื่นเต้นสุดฤทธิ์ ผู้หญิงคนนี้สวยขนาดไหนถึงทำให้คนข้างนอกร้องออกมาเสียงดังและเต็มไปด้วยคำชม?แจ็คและคุณนายมองหน้ากันด้วยความโล่งใจและยิ้มออกมา ดูเหมือนลูกสาวของพวกเขา โจเซฟิน ยังคงจำคำพูดของพวกเขาไว้ได้ และเธอต้องมาที่นี่หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเจย์จ้องมองไปที่ใบหน้าที่ร้ายกาจของฮิโรชิและแสงเย็นวาบผ่านดวงตาของเขาถ้าผู้ชายแบบนี้ต้องการจะแต่งงานกับโจเซฟิน เขาไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอนทายาทของตระกูลไททัสและยูมิ ไททัส พี่สาวของฮิโรชิแอบดึงแขนเสื้อน้องชายของเธออย่างลับ ๆ เธอเตือนเขาว่าอย่าแสดงท่าทีหยาบคายเช่นนี้อย่างไรก็ตาม เธอยังแอบมองเจย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นระยะๆ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประตู!จากนั้น พวกเขาเห็นโจเซฟินเดินเข้ามาอย่างสง่างาม พร้อมกับจับมือของแอ
เธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นอากาศเลยเหรอ?โจเซฟินและแองเจลีนปล่อยมือออกจากกันและโจเซฟินเดินไปหาพ่อแม่ของเธอขณะที่เธอทักทายพวกเขา “คุณพ่อ คุณแม่”เธอแต่งหน้าอย่างสง่างามดูสุภาพและงดงามราวกับว่าเธอสนใจในการนัดหาคู่ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนนี้เป็นพิเศษ แจ็คจับผิดเธอไม่ได้เลย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงทักทายเธอด้วยสีหน้ามืดมน “นั่งลงสิ”แองเจลีนยืนอยู่ตรงกลาของห้องโถงขณะที่เธอมองไปรอบ ๆ แล้วเธอก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย เธอเมินที่จะมองไปที่เจย์ในขณะเดียวกันที่เธอเดินไปหาฮิโรชิในที่สุดเจย์ตาแข็งทันทีแองเจลีนเข้าไปนั่งข้าง ๆ ฮิโรชิและยิ้มให้เขาอย่างมีเสน่ห์ “นายน้อยไททัสคะ คุณยังจำฉันได้ไหม?” เสียงของเธอเบากว่าปกติฮิโรชิรู้สึกตื่นเต้นกับการเริ่มพูดคุยของแองเจลีน เธอดูเป็นคนชัดเจนและดูปล่อยตัวปล่อยใจ“นั่นคือเธอจริง ๆ เหรอ แองเจลีน?”“ฉันเอง” ดวงตาของแองเจลีนดูสง่างามและมีเสน่ห์“คุณยังมีชีวิตอยู่? แต่คุณตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”“เรื่องมันยาว! ครั้งหน้าฉันจะพาคุณไปดื่ม นายน้อยไททัส แล้วเราค่อยคุยกัน” แองเจลีนยิ้ม“ได้เลย ตกลงตามนั้น”ทั้งสองโต้ตอบกันไปมาและรู้สึกได้ว่าพวกเขาสนิทสนมกันมานานแจ
ริมฝีปากบางของเจย์ขยับแยกออกเล็กน้อย เสียงข่มขู่ของเขาก็หลุดออกจากปาก “ฉันไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้”ทั้งแองเจลีนและโจเซฟินดูโล่งใจแจ็คระงับความโกรธที่อยู่ในใจของเขา “เจย์ นี่เป็นงานแต่งของน้องสาวนายนะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย”เจย์พูดกลับว่า “ใช่ครับ พ่อ การแต่งงานของโจเซฟินไม่เกี่ยวอะไรกับผม”เขาหันสายตาเหยี่ยวไปมองที่ยูมิ “ความรักเป็นเกมระหว่างคนสองคน เมื่อมีพ่อแม่และพี่น้องเข้ามายุ่งมากเกินไป ความรักก็จะสูญเสียรสชาติไปทันที”ทั้งแจ็คและยูมิแสดงท่าทีดูน่ากลัว เจย์ดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าพวกเขากำลังเสียสละการแต่งงานของคนที่พวกเขารักเพื่อหาผลกำไร“เจย์ น้องสาวของนายไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ นั่นเป็นเพราะนายตามใจเธอมากเกินไป จนกลายเป็นเด็กนิสัยแย่ที่สูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปวัน ๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันปล่อยให้โจเซฟินอยู่ภายใต้การดูแลของนายไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป นายจะทำลายอนาคตของเธอ” แจ็คเบี่ยงประเด็นด้วยคำพูดนี้อย่างว่องไวอย่างแรก เขาตะคอกเจย์โดยบอกว่าเจย์ไม่ได้สั่งสอนโจเซฟินอย่างดีจึงทำให้เธอทำอะไรเองไม่ได้อย่างที่สอง เขามีอำนาจที่จะตัดสินการแต่งงานของโจเ
“พระเจ้า ทำไมเธอถึงต้องให้ของเหล่านั้นเป็นที่ระบายความโกรธของเธอด้วยล่ะ?แองเจลีนเป็นคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้งตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เธออาจมีการศึกษาดี แต่ทันทีที่เธอทนทุกข์กับความคับข้องใจใด ๆ ก็ตามที่เกินระดับความอดทนของเธอ เธอก็จะอารมณ์ร้อนเช่นกันยกตัวอย่างในตอนนี้“ฉันมีเสื้อผ้าอยู่ในกระเป๋าเดินทางเยอะมาก ถ้าเธอชอบ เธอเอาไปได้หมดเลย โอ้ และก็ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมดที่มีมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ก็เป็นของเธอด้วย ถ้าเธอไม่ชอบก็เอาไปเผาทิ้งซะ” พวกของทั้งหมดนั่นเลย!”เธอโกรธเคือง “ฉันซื้อมันโดยใช้เงินของพี่ชายเธอ ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะแยกย้ายกัน เราไม่มีอะไรจะ...”“ไม่มีอะไรยังไง?” สตอร์มเลี้ยวรถเข็นเข้ามาจากทางแยกที่เข็นเจย์ รถเข็นหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอผมของแองเจลีนพริ้วไหวโดยไม่มีเครื่องประดับแม้แต่ชิ้นเดียว เธอดูสวยงามราวกับหยกที่ยังไม่ได้เจียระไน ราวกับว่าเธอถูกแกะสลักออกมาโดยธรรมชาติเมื่อเจย์สังเกตเห็นท่าทางไม่พอใจของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอบอกว่าเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเธอถูกซื้อโดยใช้เงินของเขา เขารู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจและสบายใจด้วยเหตุผลบางอย่างแองเจลีน
เจย์เล่นกับก้อนหินกลม ๆ ในมือ และจ้องไปที่แองเจลีนด้วยดวงตาที่เย็นชาและมืดมิดเขายังคงไม่พูดด้วยอย่างแรก แองเจลีนได้ยืดคอของเธอเพื่อมองลงไปที่เขา แต่ท้ายที่สุด เธอค่อย ๆ หดคอลง แม้แต่เสียงของเธอก็ลดลงเป็นฝุ่นผง“ทำไมนายไม่โยนมันกลับมาล่ะ ฉันจะไม่หลบด้วย”ดังนั้น เจย์จึงยกก้อนหินขึ้น แองเจลีนปิดตาลงเมื่อเธอเห็นว่าเขากำลังจะขว้างก้อนหินใส่เธอจริง ๆก้อนหินมีเสียงหวือผ่านหูของเธอไป แองเจลีนลืมตาขึ้นและมองเจย์ด้วยความสยดสยองเขาขว้างก้อนหินใส่เธอจริง ๆ เหรอเนี่ย?เขาไม่ได้กลัวที่จะทำร้ายเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะตอนนี้เขาอยู่บนรถเข็นอย่างนั้นใช่ไหม?แองเจลีนไม่พอใจเขา แววตาของเธอเมื่อจ้องมองเจย์ไม่เพียงแต่แสดงความไม่พอใจที่เธอมีต่อเขาก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่ยังมีร่องรอยของความเศร้าเสียใจอีกด้วยจากนั้นเธอก็เดินไปทางเขาทั้งน้ำตาเพียงเพื่อจะอ้อมผ่านรถเข็นเพื่อเดินต่อไปได้“พี่คะ!” โจเซฟินเดินไล่ตามเธอไปพร้อมกับตะโกนเรียกเธอทันทีที่เธอเรียกพี่ แองเจลีนก็เดือดขึ้นมาทันที เธอตะโกนออกมา “ฉันไม่ใช่พี่สาวของเธอ!”ใบหน้าที่ดุร้ายของเธอทำให้โจเซฟินตกตะลึง“พี่จะเถียงฉันทำไมในเมื่อพี่ชายข
แองเจลีนกล่าวว่า “ฉันจะไม่ยอมแพ้เว้นแต่ว่านายจะทำร้ายฉันให้ถึงตาย”เจย์มีสีหน้าซีดเผือด เขาก้มลงหยิบก้อนหินจากพื้นแล้วโยนไปที่เข่าของแองเจลีนแองเจลีนทรุดเข่าลงทันทีและเธอคุกเข่าลงกับพื้นด้วยเข่าข้างหนึ่ง จากนั้นสตอร์มเข้าไปมัดมือเธอไว้เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นแองเจลีนยกข้อมือขึ้นและกระทืบเท้า “หมายความว่ายังไง ท่านอาเรส? นายเกลียดฉัน ใช่ไหม ? ทำไมนายไม่ปล่อยให้ฉันไปจากนายให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะ?”สตอร์มเอามือดึงปลายกุญแจมืออีกข้างหนึ่ง “เราไปกันเถอะ นายหญิง”โจเซฟินพยายามอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่งในครั้งนี้ เธอบอกแองเจลีนว่า “เธอต้องดูแลตัวเองนะ แองเจลีน ฉันจะรอเธอนะ”แอนเจลีนถูกสตอร์มนำตัวกลับไปที่หอท่าเรือหอมหวนตอนนี้เด็ก ๆ กำลังรวมตัวกันที่โต๊ะเพื่อทานผลไม้กันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นสตอร์มและแองเจลีน เดินเข้ามา ดวงตาของพวกเจ้าตัวน้อยก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“เธอมาที่นี่อีกทำไม?” เซ็ตตี้น้อยถามอย่างโกรธจัด แก้มของเธอพองขึ้น“เธอไม่ยอมปล่อยเราไปสินะ” เซ็ตตี้น้อยกล่าวอย่างไม่พอใจสีหน้าของเจนสันยังคงเหมือนเดิมในขณะที่เขาทานผลไม้อย่างเงี
สตอร์มมองเจย์ด้วยสายตาแห่งความอ้อนวอน “นายท่านครับ นายหญิงเซเวียร์บอกว่าจะอดอาหารเพื่อประท้วง...”เจย์เลิกคิ้วขึ้นในท่าทางที่ยังดูหล่อเหลาของเขา ผู้หญิงคนนี้กำลังข่มขู่เขาอยู่หรือเปล่า?“งั้นก็ปล่อยให้เธออดอาหารไปก่อน”เจย์คิดว่าเป็นเพราะเขาตามใจเธอมากเกินไปในเมื่อก่อนนี้ที่เขาคอยให้กำลังใจและเขาดูแลเอาใจใส่เมื่อเธออารมณ์ร้อน เป็นผลทำให้เธอหนีจากไปโดยไม่บอกลาและถึงกับแอบไปทำศัลยกรรมโดยไม่มีการปรึกษาเรื่องสำคัญเช่นนี้กับเขาก่อนดูเหมือนว่าเขาจะทำผิดพลาด จากนี้ไปเขาจะเปลี่ยนไปใช้ระเบียบวินัยแบบอื่นแทน เขาจะเปลี่ยนจากการตามใจเป็นการเข้มงวดแทน บางทีอาจช่วยแก้ไขอารมณ์ร้อนของเธอได้เมื่อพูดอย่างนั้น เจย์ก็เข็นรถเข็นเข้าไปในห้องนอนของเขาแองเจลีนตะโกนอยู่นานแต่ไม่มีใครสนใจเธอด้วยความเหนื่อย เธอนอนบนเตียงเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ผมที่ยุ่งเหยิงของเธอปล่อยกระเซอะกระเซิง ทำให้เธอดูเหมือนผีบ้าเธอทำตามในสิ่งที่เธอพูดไว้ ไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรเลยทั้งวัน...เมื่อเจย์ได้เข้าไปหาเธอในวันรุ่งขึ้น เธอนอนอยู่บนเตียง ผมของเธอยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงราวกับผีบ้า เธอพูดอย่างอ่อนแรง “นายมาที่นี่เพื่อม