“ไม่ว่าใคร อย่าเข้ามา” เทมเพสสั่งอย่างเข้มงวด“ถึงเราจะไม่สามารถเอาชนะนายท่านได้ แต่เราสามารถเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้ เราเข้าไปจัดการกันเถอะ” จากนั้นมีคนมากกว่าสิบคนล้อมรอบเทมเพส“ไอ้พวกสวะ!” เทมเพสด่าสาปแช่งขณะที่เขาถอยหลังไปติดกำแพงโดยที่หมัดจากคนเหล่านั้นพุ่งเข้ามาใส่ตัวเขาในขณะที่เจย์ค่อย ๆ เดินเข้าไปข้างใน เขาเดินผ่านทางเดินที่ทำจากไม้กระดานและมองดูห้องต่าง ๆ ที่เรียงกันเป็นแถวไปเรื่อย ๆ หัวใจของเจย์เริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูกเขาผลักประตูบานหนึ่งที่ปิดอยู่ จากนั้นก็เห็นผู้หญิงรูปร่างผอมบางอยู่บนเตียง ก่อนที่เจย์จะมองไปที่เธอให้ชัดยิ่งขึ้น เธอกลับรีบซ่อนตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างรวดเร็วเจย์กลืนน้ำลายก่อนที่เขาจะย่ำฝีเท้าเดินไปที่ข้างเตียงเขาเห็นผมยาวสลวยโผล่ออกมาจากผ้าห่ม เขารู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเจย์กระแอมเสียงในลำคอ ก่อนที่เสียงที่ลึกล้ำและน่าดึงดูดจะก้องกังวานอยู่ในห้อง “ผมจะไม่ทำร้ายคุณ ได้โปรดออกมาเถอะ”ในไม่ช้า ผู้หญิงคนนั้นค่อย ๆ เอาหัวของเธอโผล่ออกมาจากผ้าห่ม เมื่อเจย์เห็นหน้าเธอ เขาถึงกับตกใจเวลาไม่ได้ลบล้างความงามดั่งวัยเยาว์ของเธอเลย แต่ใบหน้าของเธ
“หลบไปซะ” เจย์ตะคอกชายคนนั้นใช้มือกำเป็นกำปั้นพุ่งไปข้างหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งที่เป็นของเขา“อย่าทำร้ายเขา” แม่ของเจย์อ้อนวอนอย่างเจ็บปวดเจย์กล่าวว่า “ฉันกำลังพาเธอออกไปและจะไม่มีใครหยุดฉันได้” น้ำเสียงของเขาเผยให้เห็นออร่าที่โหดเหี้ยมและความตายในที่สุดเทมเพสก็กำจัดกลุ่มคนหลังค่อมและมายืนอยู่ตรงหน้าเจย์“ท่านประธานออกไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจะจัดการชำระล้างเอง” เทมเพสกล่าว“ตกลง” เจย์อุ้มแม่ของเขาไปที่ทางออกของถ้ำหญิงคนนั้นร้องตะโกนออกมาด้วยความสิ้นหวัง “ลูก อย่าทำร้ายเขาเลย”หลังของเจย์แข็งทื่อทันทีแม่ของเขาต้องการปกป้องชายคนนั้นจากส่วนลึกของหัวใจของเธอ บางทีอาจเป็นเพราะเธอมีความรู้สึกลึกอันซึ้งต่อผู้ชายคนนั้นและสิ่งนี้ทำให้เจย์รู้สึกรังเกียจตัวเองการเกิดมาของเขาอาจไม่ได้เกิดมาจากความรักเพราะผู้ชายที่แม่รักคือผู้ชายคนนี้ที่อยู่เคียงข้างเธอมาหลายปี“เทมเพส เราไปกันเถอะ” เจย์ตะโกนเรียกเมื่อเป็นอย่างนั้น เทมเพสรีบวิ่งไปหาเจย์และช่วยพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัย“อ๊ากก!”ชายที่อยู่ข้างหลังพวกเขาส่งเสียงทรมานเหมือนถูกบีบคั้นวิญญาณออกมา“จอ
แจ็คพยักหน้าราวกับว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เจย์กำลังจะทำแจ็คปล่อยเขาไปและได้เผชิญหน้ากับจอร์แดนที่ไล่ตามเจย์มาจนถึงสุดทางนี้เมื่อชายทั้งสองได้มาพบกัน สายตาของทั้งคู่ก็สงบนิ่งและการแสดงออกของพวกเขาก็นิ่งไปเช่นกัน“พี่ชาย” แจ็คเรียกเขาด้วยความเคารพ“อย่าเรียกฉันว่าพี่ชายของนาย ฉันพบแล้วว่านายเป็นคนในตระกูลอาเรสที่สกปรกที่สุด” ชายคนนั้นเย้ยหยันหลังจากพูดแจ็คหัวเราะคิกคัก “สิ่งที่นายเป็นอยู่ในวันนี้ เป็นเพียงเพราะสิ่งที่นายและแม่ของนายทำ นายไม่สามารถโทษใครได้เลย”“แม่กับฉันแค่ไม่อยากสมรู้ร่วมคิดกับคนทุจริตก็เท่านั้น” จอร์แดนกล่าว“นายควรเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง” สายตาของแจ็คที่เต็มไปด้วยการดู“ พี่ชาย ในตอนนั้น นายยังดูเป็นคนอ่อนเยาว์และมีพลังมาก แต่ตอนนี้นายเหลือแต่รูปลักษณ์ที่น่าเกลียดเหลือเกิน”“สิ่งที่นายพูดถึงมันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น คนอย่างนายก็แค่ดูสง่างามและมีเกียรติ มีแต่เพียงตัวนายเองเท่านั้นที่รู้ว่าภายในของนายมันเน่าเฟะแค่ไหน”เจย์หันกลับมามองทั้งสองคนด้วยสายตาครุ่นคิดแจ็คและจอร์แดนเหมือนจะสังเกตได้ว่าเจย์กำลังมองดูพวกเขาอยู่ ทั้งสองต่างปิดปากเงียบพร้อมกันโดยไม่พูด
เจย์รู้สึกสับสนอยู่ในใจเขารู้สึกถึงความอบอุ่นและความสบายใจที่แม่และจอร์แดนมีความรักซึ่งกันและกันอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงมันทำให้เขานึกถึงแองเจลีนและตัวเขาเอง ในช่วงชีวิตนี้เขาพร้อมที่จะรักเธอตลอดไปและตั้งใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปทั้งชีวิตเขามีความรักที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงและตลอดไปสำหรับแองเจลีนเช่นเดียวกับที่จอร์แดนมีต่อโคลอี้ในขณะนั้น เขาคิดว่านั่นจะเป็นความจริงที่ว่า บางทีเขาอาจเป็นลูกที่มาจากความรักของจอร์แดนและโคลอี้หรือเปล่า?เขาลุกขึ้นและค่อย ๆ เดินไปที่บันไดจอร์แดนที่ยังคงกอดผู้หญิงที่เขารักต่อไปในขณะที่เขากำลังจ้องมองเจย์อย่างไม่เต็มใจ เขาตะโกนใส่เจย์ “เจย์ อาเรส นายมันใจร้ายเหมือนเขา”เจย์เมินเฉยต่อจอร์แดนและก้มหน้าลงในขณะที่เขาถามแม่อย่างอ่อนโยนว่า “บอกผมหน่อยสิ คุณรักผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าผมไหม?”ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า บางทีสิ่งนี้อาจบีบคั้นหัวใจของเธอ น้ำตาของเธอจึงเริ่มไหลออกมา“เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันรักในชีวิต ลูกแม่ ได้โปรดอย่าทำให้เรื่องมันยากสำหรับเขามากไปกว่านี้เลย”เจย์แสดงความเจ็บปวดขณะที่เขาพยายามระงับมันไว้ในใจ “งั้นบอกมาผมสิ ว่าใครเป็นพ่อ
“ตลอดไป!”เขาหัวเราะด้วยความน่ารักของแองเจลีน“สามีที่รัก” แองเจลีนเรียกเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ“ภรรยาที่รัก” เขาตอบกลับดูสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้สิ มันเกิดอะไรขึ้น?เมื่อพวกเขาปีนเข้าไปในห้องใต้ดินลับนี้โดยบังเอิญและได้ยินความลับดังกล่าว พวกเขาได้รับรู้ถึงความผิดพลาดเหล่านั้นว่ามันจะต้องถูกชดใช้ในราคามหาศาลจอร์แดนทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความจำเสื่อมในขณะที่แองเจลีนเสียชีวิตโชคดีที่สวรรค์สงสารเขาและยอมให้แองเจลีนกลับมาเกิดใหม่ในร่างใหม่และมีโอกาสครั้งที่สองในชีวิตสิ่งที่โชคร้ายคือดูเหมือนว่าเขาจะหมดโชคแล้วแต่ในครั้งนี้ แองเจลีนไม่ได้หวนกลับมาหาเขาแล้ว...“แองเจลีน เธออยู่ที่ไหน?“ฉันคิดถึงเธอมากเหลือเกิน“ไหนเธอบอกว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันไง แต่เธอทิ้งฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมเธอถึงเป็นคนแบบนี้?”ร่างกายของเจย์ค่อย ๆ จมลงไปอยู่ใต้น้ำเมื่อเทมเพสรู้ว่าเจย์กำลังทำตัวแปลก ๆ เขากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางทุกอย่างแล้วรีบวิ่งไปหาเจย์ทันที“ท่านประธาน”เขาคว้าเจย์ขึ้นจากน้ำและกดหน้าอกก่อนที่เจย์จะพ่นน้ำออกมาเจย์สำลักถึงสองสามครั้งก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นช้า ๆ เพื่อดูท่าทางกังวลของเทมเพ
เมื่อชั้นของผ้าพันแผลถูกปลดออก ดวงตาของโรสที่ไม่ได้เห็นแสงแดดมาสักระยะหนึ่งก็ได้รับการต้อนรับด้วยแสงส่องเข้ามาอย่างรุนแรงโรสรู้สึกตกตะลึงอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยในกระจกเธอสวยราวกับนางฟ้าที่มายังโลกมนุษย์และดูน่าดึงดูด เธอดูสง่างาม แต่ก็ดูมีความขี้เล่นในตัวเธอปีเตอร์ถึงกับตกตะลึงเช่นกัน “ฉันคิดว่าเธอน่าจะเป็นประติมากรรมที่สวยงามมากที่สุด ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมีชีวิตชีวากับใบหน้านี้”โรสยิ้มสวย ‘แน่นอน นี่คือใบหน้าของฉันที่จะเริ่มต้นใหม่“ขอบคุณนะ ปีเตอร์! ฉันรักใบหน้านี้มาก!”ปีเตอร์พูดจากส่วนลึกของหัวใจว่า “โรส เธอเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกนี้แล้วจริง ๆ”การแสดงออกของโรสแข็งทื่อ เธอหันกลับมาและแก้ไขคำพูดกับปีเตอร์อย่างเคร่งขรึม “ปีเตอร์ โรส ลอยล์ ตายไปแล้ว เรียกฉันว่า แองเจลีน เซเวียร์ ต่อจากนี้ไป”ปีเตอร์ยืนกอดอกและพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้ว!”เข้าใจได้ว่าผู้หญิงหลายคนจะเปลี่ยนชื่อหลังจากทำศัลยกรรมตกแต่งเสมอ พวกเธอต้องการมีชื่อที่เหมาะสมกว่านี้เห็นได้ชัดว่า เขาเข้าใจแองเจลีนผิดแองเจลีนตกตะลึงเมื่อมองดูเงาสะท้อนในกระจก หลังจากแปดปีที่ผ่านมา วิญญาณแ
เจย์ได้จ้างหมอที่ดีที่สุดจากแกรนด์ เอเซีย ให้มารักษาแม่ของเขาและช่วยจอร์แดนฟื้นสุขภาพของเขาให้ดีขึ้นด้วยภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถันของจอร์แดน อาการแม่ของเจย์ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 กก. เป็น 38 กก.เมื่อสุขภาพของเธอดีขึ้น ความงามและความน่าดึงดูดของเธอก็เริ่มแสดงออกมาสำหรับจอร์แดน ตอนนี้เขาดูไม่ต่างจากคนทั่วไปแล้วหอท่าเรือหอมหวนได้บานสะพรั่งด้วยชีวิตใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นกับคนที่อยู่อาศัยของลานบ้านสวนอื่น ๆ ภายในพื้นที่นี้สามพี่น้อง แจ็ค, เจคอบและเจมส์ที่นั่งรถเข็น พวกเขากำลังมาเยี่ยมเยียนท่านปู่อาเรสด้วยกันแจ็คพูดถึงความกังวลของเขา “คุณพ่อครับ คุณพ่อรู้ไหมว่าตอนนี้เจย์กับจอร์แดนสนิทกันมากไปแล้ว? ผมกังวลว่าพวกเขาจะร่วมมือกันและนำอันตรายมาสู่พวกเราทุกคน สุดท้ายแล้ว มีความเป็นไปได้ที่พวกเขา…”ท่านปู่อาเรสจ้องไปที่แจ็คเมื่อเขาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านปู่อาเรสเข้าใจได้ถึงความเป็นไปได้ที่แจ็คจะไม่สามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้อีก“ตราบใดที่จอร์แดนและโคลอี้เชื่อฟังขณะที่อยู่ภายใน อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนและไม่สร้างความเสียหายใด ๆ เรา
ตายยากจริง ๆ พูดถึงก็มาไม่นานหลังจากนั้น ท่านปู่อาเรสได้พาเซร่า เซเวียร์มาที่หอท่าเรือหอมหวนเพื่อสะสางกับเจย์ด้วยรูปร่างการตั้งครรภ์ของเซร่านั้นแสดงให้เห็นชัดเจนสำหรับทุกคนและเมื่อเธอเห็นเจย์ เธอก็เข้ามาคุกเข่าลงต่อหน้าเขาอย่างน่าสมเพช“พี่เจย์คะ ฉันขอโทษ ฉันทนไม่ได้ที่จะไปทำแท้งลูกของเราและผู้ใหญ่ทุกคนที่นี่ก็รู้เรื่องของเราแล้ว” เสียงของเซร่าเริ่มเบาลง มันบ่งบอกถึงความรู้สึกผิดขณะที่เธอแสร้งทำเป็นอับอายเจย์มองดูท้องที่ตั้งครรภ์ของเธออย่างเย็นชาขณะที่สายตาสังหารกระหายเลือดเริ่มเต็มดวงตาของเขา “เซร่า เซเวียร์ ฉันคิดว่าเธอคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่จนกล้าพูดใส่ร้ายออกมาแบบนี้สินะ?”เซร่ารู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อเห็นการจ้องมองที่เฉียบแหลมของเจย์ที่จ้องผ่านเธอขณะที่ร่างกายของเธอค่อย ๆ หดตัวเล็กลง ทว่า เมื่อเธอนึกได้ว่าท่านปู่อาเรสยังคงยืนเคียงข้างเธออยู่ เธอรวบรวมความกล้าพูดอย่างไร้ยางอายออกมาว่า “พี่เจย์ ฉันรู้ว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณเลยและคุณก็ทำกับฉันเพื่อความสนุกเพียงเท่านั้น แต่เด็กน้อยเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าคุณรับไม่ได้ ก็ปล่อยให้ฉันคลอดลูกออกมาเถอะ แล้วฉันก็จะยอมจากไป คุณไม่ต้องกังวลก
คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
คาร์สันกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในถ้ำสิงโต เขาตอบไปด้วยเสียงสั่นเทา “พูดตามตรงนะครับคุณเซเวียร์ เรื่องโชคร้ายและการล่มสลายของตระกูลอาเรสเมื่อสามปีก่อน คุณเองก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องโดนจัดการด้วยเพราะว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา แต่ว่านายน้อยนั้นหลงรักคุณหัวปักหัวปำจนเขายอมสละนิ้วก้อยของตัวเองเพื่อช่วยคุณไว้”“ส่วนลูก ๆ ของคุณนั้น นายน้อยก็ตั้งใจว่าจะหักนิ้วตัวเองสามนิ้วเพื่อช่วยพวกเขาไว้ แต่ต้องขอบคุณที่คุณบอกความจริงมาในตอนท้าย เพราะว่าในตัวของนายน้อยและคุณหนูพวกนั้นมีสายเลือดของยอร์กไหลเวียนอยู่ ทำให้พวกเขาได้รับการถอดชื่อออกจากรายการสังหาร”“ตอนที่นายน้อยจากมา เขาไม่ได้พาใครกลับมากับเขาด้วย”แองเจลีนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาบอก“ถ้าเป็นแบบนั้น มีคนชื่อปีศาจอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กไหม?” แองเจลีนถามอีกครั้งคาร์สันพึมพำ “ปีศาจ” เขาส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่มีคนแบบนั้นในป้อมตระกูลยอร์กนะครับ คุณเซเวียร์”มือแองเจลีนที่ซุกอยู่ใต้แขนเสื้อสั่นเทา “ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมคาร์สัน?”คาร์สันสาบาน “ผมไม่มีความกล้าพอที่จะโกหกคุณหรอกครับคุณเซเวียร์ ใครจะรู้ว่าสักวันคุณอาจจะกลายเป็นนาย
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือดเจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านในเมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใดนักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่เขาคาดเดาเช่นนั้นทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขาเจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว
จู่ ๆ เซย์นก็ยกมือกุมหน้าผากและบอกว่า “ผมมึนหัว”จากนั้นเขาก็ทรุดลงตรงหน้าเจย์ดังตึงเจย์แหย่ว่า “ชาดีจริง ๆ ตาเฒ่า มันทำคนสลบได้เร็วมากจนผมแปลกใจเลย”ชายชรามองเจย์อย่างพิจารณา ชายหนุ่มคนนี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้ำชาแต่ว่ายังคงคุยกับตาเฒ่าต่อเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอที่คนกล้าเยาะเย้ยเขาอย่างไม่ร้อนรนในอาณาเขตของตระกูลยอร์กเช่นนี้ชายชราชื่นชมความใจเด็ดและกล้าหาญของเจย์“บุคลิกท่าทางของแกถูกใจฉันมากเจ้าหนุ่ม ฉันชื่นชม แกชื่ออะไร?”เจย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เบ็น”ชายชราถามอย่างงงงวย “ไม่มีนามสกุลเหรอ?”เจย์พยักหน้าและตอบอย่างไม่แยแส “มี”เขาพูดต่อ “ผมนามสกุลยอร์ก”ชายชรามองเจย์อย่างไม่พอใจ “หากว่าแกอยากจะหลอกฉัน อย่างน้อยก็ต้องทำให้มันถูกหน่อย”เจย์เทน้ำชาเย็นชืดทั้งหมดในกาออก จากนั้นก็เติมเองจากนั้นเขาก็ทำท่าเอาอกเอาใจชายชรา “ชาที่ผมชงนี้สดชื่นกว่าของคุณ อยากจะลองชิมสักถ้วยไหม?”ชายชราคว้าใบชามาเต็มกำ ก่อนหยิบส่วนหนึ่งใส่ในกาน้ำชาและบอกว่า “นี่ไง สมบูรณ์แบบแล้ว”เจย์ยกถ้วยชาขึ้นมา “โชคชะตานำพาเรามาพบกันตาเฒ่า ขอชนแก้วให้กับโชคชะตาอันน่าทึ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าโคลจะไม่เข้ามาขวางทาง แองเจลีนก็บอกกับคาร์สันอีกครั้ง “เข้ามาสิคาร์สัน เข้ามาคุยกันหน่อย”คาร์สันมองเจย์และเซย์นที่ตอนนี้เดินจากไปไกล หลังจากใจลอยไปชั่วครู่ เขาก็เดินตามแองเจลีนเข้าไปในบ้าน“โจเซฟิน ช่วยเอาชามาให้คาร์สันหน่อย”โจเซฟินใช้เวลาพักหนึ่งในการรินชาและส่งถ้วยให้คาร์สัน คาร์สันวางถ้วยชาลงบนโต๊ะและบอกว่า “คุณเก่งเรื่องหันเหความสนใจใช่ไหมครับ คุณเซเวียร์?”แองเจลีนไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรแม้ว่าคาร์สันจะมองแผนเธอออก เธอบอกว่า “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเพื่อนเก่าเท่านั้นคาร์สัน นายวัดหัวใจของคนที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวใจแสนทรามได้ยังไงกัน? ฉันเองก็คงไม่ได้คาดหวังกับคนกระจอกอย่างนายไว้สูงหรอก”คาร์สันทำปากง้ำ เขาคงลืมไหว้ขอความโชคดีก่อนออกจากบ้านมาเมื่อเช้าแน่ เพราะพอตื่นขึ้นมา เขาก็เจอแต่เรื่องแย่ ๆ และคำพูดทิ่มแทงของทั้งเบ็นและแองเจลีน“คุณเซเวียร์ ให้ผมบอกความจริงก็คือว่าในป่านั้นมีสัตว์ป่ามากมาย หากว่าไม่มีคนของผมนำทางไป บอดี้การ์ดของคุณก็อาจจะหาทางออกจากป่าไม่ได้เมื่อเข้าไปแล้ว”ในใจของแองเจลีนนั้นตื่นตระหนกไปวูบหนึ่ง แต่เมื่อเธอจำได้ว่าเจย์บี้มีแผนที่ของโคลอี้เป็นตั
เจ้าชั่วโคลนั่นส่งคนมาคอยเฝ้าที่นี่ไว้โดยทำทีว่ามาคอยเฝ้ายามที่สวนสายลมสดชื่นเจย์เริ่มคิดหาหนทางจะหนีออกไปจากสวนสายลมสดชื่นเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไปหาทะเบียนรายชื่อของผู้อาศัยในป้อมยอร์กแองเจลีนเรียกเขาเบา ๆ “เบ็น” เสียงเธอนั้นอ่อนโยนและแฝงความรักใคร่เจย์หันหลังมาและเดินเข้าไปหา“แองเจลีน”แองเจลีนจับสังเกตทิศทางจากเสียงและเดินเข้าไปหาเขาเจย์รีบเร่งฝีเท้าและคว้ามือเธอไว้พร้อมกระซิบว่า “จากที่ฉันเห็นตอนนี้ นายท่านยอร์กคงสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับนักฆ่าเมื่อคืนนี้ เขาส่งคนมาคอยเฝ้าล้อมสวนสายลมสดชื่นไว้แล้วเช้านี้”แองเจลีนวิเคราะห์สถานการณ์และบอกว่า “นายท่านยอร์กนั้นรับผิดชอบส่วนหน้าของป้อมตระกูลยอร์กแล้วเขาก็ไม่มีเวลามาเฝ้าป้อม 48 หรอก ดังนั้นโคลยังเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ทำไมเราไม่ล่อเขาไปที่อื่นล่ะ? ฉันจะหาวิธีดึงไว้ให้โคลไม่ว่างมาสนใจตอนที่คุณออกไปทำทีเป็นว่าหาสมุนไพรมาให้ฉัน…”เจย์บีบแก้มแดงปลั่งของแองเจลีนเบา ๆ “เธอนี่มันฉลาดขึ้นทุกวันเลยใช่ไหมเนี่ย?”แม้ในใจเขาจะเห็นว่าเธอเป็นเพียงแกะน้อยไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ในโลกนี้แองเจลีนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณสอนฉันมาดีนี่คะ”
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศวันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”โคลยังคงนิ่งเงียบ…สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทร
เด็กหนุ่มซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอร็อบบี้น้อยก็ทำแบบเดียวกันเวลาที่เขาทำอะไรผิดมา เขามักจะกอดเอวเธอแน่นที่สุดเท่าที่ทำได้และทำท่าเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ‘ผมผิดไปแล้วแม่จ๋า อย่าโกรธผมเลยนะ’ เขาจะพูดแบบนี้จากนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามโดยการฉีกเสื้อเธอออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า เธอยื่นแขนออกมานอกผ้าห่มแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นร้องถามเสียงงัวเงีย “เกิดอะไรขึ้นเหรอเบ็น?”พอเจย์ได้ยินเสียงแองเจลีน เขาก็เปิดประตูเข้ามาเมื่อได้เห็นหน้าอกและแขนของเธอยื่นออกมานอกผ้าห่อม เจย์ก็ปิดประตูอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นโคลก็ยังแอบเห็นภาพน่าตื่นตาภายในห้องอยู่ดีเจย์จ้องโคลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อโคลครุ่นคิดว่าหากแองเจลีนไม่ได้ตาบอด เมื่อกี้เธอจะต้องกรีดร้องออกมาเพราะความอับอายเป็นแน่โคลถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาเธอกันแน่?”“เธอร้องไห้มากจนตาบอด” เจย์ตอบห้วน ๆน้ำเสียงเขาแฝงโทสะและความรู้สึกโทษตัวเองโคลอี้งไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าเขาก็ฉายความรู้สึกผิดจังหวะนั้นพวกคอร์เวตต์ที่ค้นหาบริเวณบ้านก็เดินส่ายหน้าออกมา “เราไม่เจออะไรผิดปกติ”โคลสั่ง “ไปหาที่อื่นต่อ”เมื่อพวกคอร์เ