เมืองนางแอ่นหลังจากที่โรสมอบข้อตกลงระหว่างอาเรสและเซเวียร์ ฟิล์ม ให้กับจอร์จ เซเวียร์ เขาก็ชำเลืองมองรายละเอียดเอกสารข้อตกลงอย่างรวดเร็วและรู้สึกประหลาดใจ“สำหรับการลงทุนของบริษัท อาเรส หากประสบความสำเร็จ ผลกำไรจะแบ่งกันคนละครึ่ง หากล้มเหลว พวกเขาจะต้องแบกรับความสูญเสียทั้งหมด เจย์ อาเรสไม่เคยทำธุรกิจที่ขาดทุน แต่เขามั่นใจว่าจะเป็นคนใจกว้างเป็นพิเศษให้สำหรับบริษัท เซเวียร์ เหรอเนี่ย”โรสตอบว่า “ผลกำไรของอาเรส ฟิล์มมีความหมายเพียงเล็กน้อยสำหรับพวกเขา นอกจากนี้ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้สัญญาฉบับนี้มา มันไม่ใช่ความคิดของเขาที่จะใจกว้างขนาดนี้หรอก”จอร์จหยิบหนังสือพิมพ์จากลิ้นชักแล้วโยนให้โรส สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “นี่เป็นความจริงหรือเปล่า?”โรสมองไปที่ภาพ ‘แต่งงาน’ ในหนังสือพิมพ์ของเจย์และเธอ ด้านล่างนี้เป็นคำบรรยายเกี่ยวกับเรื่องราวความรักอันลึกลับของพวกเขา“คุณพ่อคะ งานแต่งงานเป็นเรื่องจริง แต่ความรักเป็นของปลอม เราทั้งคู่ก็หวังจะเอาในสิ่งที่เราต้องการกัน ฉันต้องการสัญญา ส่วนเขาต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชนจากเหตุการณ์ไฟไหม้ของครอบครัวอาเรส สถานการณ์นั้นสมบูรณ์แบบ
กลับกลายเป็นว่าการที่เขาใจอ่อนกับเธอทำให้ความหายนะตามมาเสมอ“ให้อภัยฉันเถอะนะ!”“ถ้าฉันให้อภัยเธอตอนนี้ เธอจะไม่ทำอีกในครั้งต่อไปใช่ไหม?” เขาขมวดคิ้วโรสยกมือขึ้นทันทีและสาบานว่า “ฉันขอสาบานกับนายเลย ท่านอาเรส ฉันจะไม่ทำเรื่องยุ่ง ๆ ให้กับนายอีกแล้ว”“นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก”“ฉัน… ฉันจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว”สีหน้าของเจย์ดูไม่สบายใจเธอกัดฟันพูดว่า “ถ้าหากฉันวิ่งหนีอีก นายหักขาและดึงเส้นเอ็นของฉันได้เลย...”เจย์พูดไม่ออก “ ... ”เมื่อเห็นว่าเขาแสดงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงหยุดนิ่งเหมือนเดิม เธอก็เกือบจะตะโกนว่า “แล้วนายต้องการอะไรจากฉัน?”เขาโยนกุญแจมือคู่หนึ่งให้เธอและมองไปที่เธอด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะพูดว่า ‘เธอควรคิดเอาเอง’เธอเห็นว่าความยาวของโซ่เกลียวยาวไม่เกินหกฟุตห้านิ้ว และปลายทั้งสองข้างมีกำไลล็อคที่แน่นมากปลายด้านหนึ่งสวมเข้ากับข้อมือของเจย์ และอีกด้านหนึ่งถูกตรึงไว้กับเธอ...แค่คิดก็สร้างความอับอายให้กับโรสแล้วฉันไม่ใส่ได้ไหม ท่านอาเรส?”เจย์นิ่งเงียบ“นี่มันใช้สำหรับเจ้าของที่มีสัตว์เลี้ยงตัวน้อย!”“ก็ใช่ไง” เจย์พยักหน้าเธอตกตะลึง ‘ผู้ชายคนนี้ตระหนักถึงจุดประสงค์
โรสรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด เมื่อสังเกตเห็นได้ว่าเด็ก ๆ ไม่อยู่ “เจนส์และลูก ๆ อยู่ที่ไหน?”“พวกเขาจะอยู่กับปู่ย่าสักพักน่ะ” เจย์ตอบอย่างสบาย ๆเธอตกใจมากกับเรื่องนี้ เธอจึงถามว่า “ทำไมล่ะ?”“เราควรมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อสานความสัมพันธ์ของเรากันนะ”โรส “...”‘นายต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อสานความสัมพันธ์หรือนายต้องการให้มันควบคุมการกระทำทั้งหมดของฉันกันเเน่?’จากนั้น เจย์ก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกต่อหน้าเธอ“ฉันจะไปอาบน้ำ” เขาพูด พร้อมบอกเธอโรสตอบด้วยความงุนงงว่า “นายไม่ต้องรายงานเรื่องนั้นกับฉันก็ได้”เจย์ยกแขนเสื้อขึ้น “เธอแน่ใจหรือไม่ว่าเธอจะไม่ถอดเสื้อผ้าด้วย?”เมื่อดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น เธอพูดว่า “นายถอดกุญแจมือของเราออกไปสักพักได้ไหม?”“ไม่ได้” เขาลากเธอเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่พูดอะไรอีกโรสยืนอยู่หลังมุมประตูโดยหันหลังให้เขาเกือบจะในทันที เจย์ก็ดึงโซ่เพื่อลากโรสมาหาเขาเมื่อเธอเห็นร่างที่เหมือนหุ่นจำลองของเขา โรสก็หลับตาลงด้วยความเขินอายเจย์พูดว่า “การซื่อสัตย์และเปิดเผยซึ่งกันและกันเป็นขั้นตอนแรกสำหรับสามีภรรยาที่จะอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง”จากนั้น เขาก็เอื้อมมือดึงเ
โรสกลืนน้ำลายกับความเข้าใจผิดแบบนี้…แย่ยิ่งกว่าเสียงดนตรีของบูเรดรีส์อีก“โจเซฟิน เธอต้องเชื่อฉัน ฉันไม่ได้คบกับเซย์น และฉันสามารถสาบานกับเธอว่าแม้ว่าผู้ชายทุกคนในโลกจะสูญพันธุ์และเหลือเพียงเซย์นเท่านั้น ฉันก็ไม่คบกับเขาหรอกนะ”“ฉันยังเชื่อใจเธอได้อยู่ไหม?”โรสกลัวที่สุดว่าเธอจะเข้าใจผิด ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายคือโจเซฟิน คนที่เธอมีความรักอย่างลึกซึ้ง เธอสาบานทันทีว่า “โจเซฟิน ฉันสาบานเลยว่า เซย์นและฉันไม่ใช่คนที่คู่กันอย่างแท้จริง ถ้าฉันแย่งแฟนของเธอไป ขอให้ฉันถูกฟ้าผ่าและตายไปได้เลย”เจย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคว้าโทรศัพท์ของเธอมา จากนั้น เขาก็พูดว่า “โจเซฟิน อาเรส สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับโรสเลย ฉันเป็นคนขอให้เซย์นเลิกกับเธอเอง!”“ทำไมนายถึงทำอย่างนั้น เจย์?”“เพราะเซย์นไม่ได้รักเธอไง”โจเซฟินครุ่นกับคิดคำพูดของเขาสักครู่...สิ่งที่ไม่คาดคิดจากนั้น เธอตะโกนออกมา อย่างควบคุมไม่ได้ “คนที่เขารักคือโรส ใช่ไหม?”“โรสเป็นพี่สะใภ้ของเธอ”โจเซฟินตกใจกับน้ำเสียงที่ดุดันของเจย์ และเธอต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นสติกลับมาใหม่ได้โรสสะดุ้งจากคำพูดของเขาและคว้าโทรศัพท์คืน เธอพูดกับโจเซฟินว่า “อ
โจเซฟินขับรถพาโรสตรงไปที่บาร์แห่งหนึ่ง เธอจองห้องส่วนตัวเป็นห้องวีไอพีและทั้งสองคนคุยกันอยู่นาน“มาพูดถึงเรื่องนี้กัน เกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเซย์น?” โจเซฟินถามด้วยความกระตุ้นความสนใจโรสไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน...โจเซฟินพูดต่อว่า “พวกคุณสองคนเจอกันได้อย่างไร?”โรสเว้นส่วนที่เกี่ยวกับโชคชะตาและชีวิตก่อนหน้านี้แล้วพูดไปว่า “ตอนที่ฉันกลับมาครั้งแรก ฉันไม่มีเงินสดติดตัว ดังนั้นฉันจึงหางานในออนไลน์และมองหางานตั้งแต่นั้นมา เซย์นเป็นคนเดียวที่เสนอให้ฉันเข้าไปทำงานด้วย”“ดังนั้น เธอเลยรู้สึกขอบคุณเขา มันกลายเป็นความกตัญญูที่ค่อย ๆ ผลิบานเป็นความรักใช่ไหม?” โจเซฟินเริ่มรู้สึกยั่วอารมณ์โรสตอบว่า “โจซี่ วันก่อนที่เธอเห็นฉันอยู่ในอ้อมแขนของเขา มันเป็นอุบัติเหตุอย่างแท้จริง เซย์นเป็นคนที่วางแผนเรื่องทั้งหมด เขาต้องการให้ท่านอาเรสเห็นว่าเราสนิทสนมกันและจงใจพยายามทำให้ท่านอาเรสและฉันลำบากใจกัน”“ทำไมเขาถึงอยากใส่ร้ายเธอ?”โรสหยิบนามบัตรจากกระเป๋าและยื่นให้โจเซฟิน “ฉันคิดว่าอาจเป็นเพราะเหตุนี้”โจเซฟินมองไปที่นามบัตร และดวงตาของเธอก็ขยายออกด้วยความตกใจ “ประธานบริหารของ บริษัท เซเวียร์งั้
เจย์เดินไปนั่งข้าง ๆ เธอ สายตาของเขาจ้องมองไปที่ประตูห้องฉุกเฉินเมื่อโจเซฟีนเห็นเจย์ น้ำตาของเธอที่คล้ายกับเม็ดถั่วก็เริ่มกลิ้งลงมาบนใบหน้าของเธอ “พี่ใหญ่ โรสมีอาการพิษสุราและกำลังหมดสติอยู่ ฉันควรทำยังไงดี?”เจย์สะดุ้งจนเส้นประสาททุกส่วนในร่างกายเกร็งขึ้น เขาพูดตะกุกตะกักในขณะที่พูดว่า “…เธอ…ดื่ม… ไปมากขนาดไหน?”เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในสภาพตกใจโจเซฟีนตอบว่า “เห็นได้ชัดเลยว่าครั้งนี้ฉันเป็นคนอกหัก แต่เธอดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าที่ฉันดื่มเสียอีก ฉันมีพิษสุราเพียงเล็กน้อย แต่อาการของเธอรุนแรงมาก หมอบอกว่าเธออยู่ในภาวะอันตราย เพราะความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจผิดปกติ…”ทุกคำที่ออกจากปากของโจเซฟีนเป็นเหมือนใบมีดคมกริบที่แทงร่างกายของเจย์ซ้ำแล้วซ้ำอีกหลังจากนั้นไม่นาน หมอก็ออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากมีใครก็ตามที่ผู้ป่วยต้องการพบเป็นพิเศษ คุณควรเรียกพวกเขามาให้เธอพูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย”หมอจากไปเมื่อเขาแจ้งอาการร่างกายของเจย์เริ่มสั่นสะท้านอย่างสุด ๆ เขาเริ่ม
โรสถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้นวีไอพีอย่างรวดเร็วเซย์นและเจย์อยู่ในห้องพักฟื้น เพื่อรอให้โรสตื่นขึ้นมาทันใดนั้น เซย์นก็พูดว่า “น้องสาวของผมไม่ได้มีนิสัยชอบดื่มอย่างหนัก ถ้าเธอดื่ม มันหมายความว่าเธอมีจิตใจที่กำลังรู้สึกไม่ดีกับบางอย่างก็เท่านั้น”เจย์ตอบว่า “ฉันรู้”เขารู้สึกไม่พอใจต่อเจย์ แต่เขาไม่กล้าพูดออกไป “หลังจากที่เธอย้ายถิ่นฐาน เหตุผลเดียวที่เธอไม่บอกนายคงจะเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมานั่นก็คือคุณไม่ได้ให้ความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจเธอ คุณได้เคยคิดไตร่ตรองดูแล้วหรือยังกับเรื่องพวกนี้ ท่านอาเรส?”เจย์ชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ฉันไม่ได้บอกว่าฉันรู้เรื่องความลับนี้ใช่ไหมล่ะ?”ชายอีกคนพูดไม่ออก“ทำไมคุณไม่บอกเธอ?” เซย์นถาม“เพราะฉันหวังว่าวันหนึ่งเธอจะเริ่มเปิดใจกับฉันและบอกความลับนี้กับฉันด้วยตัวเธอเองไงล่ะ”“แล้วมันแตกต่างกันตรงไหน?” เซย์นดูค่อนข้างมึนงง“ในตอนที่เธอกลับมาครั้งแรก ฉันปฏิบัติกับเธอแย่มากเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอ บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เธอไม่เต็มใจที่จะเปิดใจกับฉัน”คำใบ้ของความเศร้าโศกปรากฏบนใบหน้าของเขา “เธอต้องหวังว่าเธอจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในใจฉัน
“ใช่สิ และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นและได้ยินข่าวร้ายของ เอมิเนนท์ ออเนอร์ ที่ใกล้จะล้มละลาย บางทีเธออาจจะลากร่างที่ผอมบางและบอบบางของเธอไปทุกที่เพื่อช่วยนายทำธุรกิจบางอย่าง”เซย์นดูเหมือนใจคอไม่ค่อยดี“ถ้านายต้องการสิ่งที่ดีสำหรับเธอ นายควรมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในฐานะผู้ดูแลปัจจุบันของบริษัท เซเวียร์ เพื่อให้เธอกังวลน้อยลง”เซย์นยืนขึ้นอย่างกะทันหันและยกนิ้วให้เจย์ “คุณยอดเยี่ยมมาก ท่านอาเรส ผมจะไปแล้ว! ฝากดูแลน้องสาวของผมด้วย”เจย์โบกมือให้เขา “ยังพอมีเวลาที่จะไปที่นั่นอยู่ แต่ฉันจะไม่ออกไปส่งนายนะ”หลังจากเสียงของเซย์นจางหายไป ห้องพักผู้ป่วยก็เงียบสงัดลงเจย์ฟังเสียงหายใจของโรสอย่างตั้งใจไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน การได้ยินเสียงหายใจของเธอลึกขึ้นทำให้เขารู้สึกสบายใจเป็นพิเศษในตอนเที่ยง หมอมาตรวจเลือดของโรสและบอกเจย์ว่า “ตอนนี้อาการของผู้ป่วยคงที่ขึ้นมาก ดังนั้นเธอจึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วตามอาการของเธอและห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลของเราก็แออัดมาก”ดังนั้น เจย์จึงจัดการขั้นตอนดำเนินเรื่องออกจากโรงพยาบาลของโรสเมื่อเขากลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย เขาได้ยินพยาบาลหลายคนกระซิบกร